กระทู้ใหม่ครับ #สรุปรายการทั้งหมด หน้าที่ 4

รายการที่ 34






เหรียญพระเหนือพรหม เนื้อกะไหล่ทอง ปีพ.ศ.2555

#พระพรหมปัญโญหลวงปู่ดู่ ครบรอบ 108 ปี คณะศิษย์หลวงปู่ดู่สร้างถวาย

#ผ่านพิธีเหรียญเปิดโลก 3 และเข้ากรรมฐานพิธีเหรียญรุ่นแรก 7 วัน

#อธิษฐานจิตโดย
-หลวงพ่อลำใย สัญญโม วัดสะแก จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
- หลวงพ่อวิชัย วฑฺฒโน วัดแม่สะลาบ อ.สารภี จ.เชียงใหม่
ฯลฯ...

= 350 Baht

 

Shaj - 9/6/2567 EMS : ED 4892 4991 0 TH ขอบพระคุณครับ
อริส (Line) - 9/6/2567 EMS : ED 4892 4990 6 TH ขอบพระคุณครับ

 

รายการที่ 35








ผ้ายันต์พุทธเกษตร ผืนสีขาว ปีพ.ศ.2558
หลวงพ่อกัสสปมุนี เถราจาริย์ วัดปิปผลิวนาราม จังหวัดระยอง

#มีประทับตราวัด และ หมายเลขกำกับ (เลข 245)

#จัดสร้างเพียงสีละ 300 ผืนเท่านั้น (สีแดง/ขาว/เหลือง)

#วันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2558 หลวงปู่บุญส่ง ฐิตสาโร วัดสันติวนาราม จังหวัดจันทบุรี ได้เมตตาอธิฐานจิตเดี่ยวให้ก่อนวันพิธีพุทธาภิเษก และ หลวงปู่สุทัศน์ วัดกระโจมทอง จังหวัดนนทบุรี เป็นองค์อธิฐานในช่วงบ่าย

#พิธีพุทธาภิเษกวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ.2558 ณ อุโบสถ วัดปิปผลิวนาราม อ.บ้านค่าย จ.ระยอง
1.หลวงพ่อสิน ภัททาจาโร วัดละหารใหญ่ จังหวัดระยอง
2.หลวงพ่อพิเชฐ สีลสุทโธ วัดโคกหม้อ จังหวัดลพบุรี
3.หลวงพ่อวิโมกข์ เมธิโน วัดปิปผลิวนาราม จังหวัดระยอง
4.ครูบากฤษดา สุเมโธ วัดป่ายาง (สันพระเจ้าแดง) จังหวัดลำพูน

#“ความสำเร็จไม่ใช่เรื่องที่จะได้มันมาโดยง่าย”
ในชีวิตของหลวงพ่อกัสสปมุนี ท่านได้อนุโลมให้สร้างวัตถุมงคลเพื่อเป็นอนุสติน้อมนำคนที่ยังต้องการสิ่งยึดมั่นทางจิตใจ
สิ่งที่น่าสังเกตุคือ “ตัวยันต์” ที่ท่านได้นำมาไว้ด้านหลังขององค์พระ จะว่าไปแล้ว ตัวยันต์ดังกล่าวถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหลวงพ่อเลยครับ พบเห็นที่ไหนไม่ผิดฝาผิดตัวแน่นอน จากความรู้ส่วนตัวที่ได้สะสมมาพบว่าในรูปแบบของตัวยันต์ดูอย่างไรก็ไม่อาจเข้าใจได้ครับ เมื่อสอบถามจากบรรดาลูกศิษย์จึงทราบว่าตัวยันต์ดังกล่าวหลวงพ่อท่านได้ จากนิมิตในขณะที่ท่านนั่งสมาธิ คุณสมบัติทราบเพียงแต่ว่า “ครอบจักรวาล”

พระยันต์นี้ชื่อว่า “พุทธเกษตร”
พุทธะ หมายถึง ผู้รู้
เกษตร เป็นภาษาสันสกฤต แปลว่า ที่อยู่ ที่ตั้ง

ชะรอยหรือว่านี่คือ “ปริศนาธรรม” ด้วยเหตุผลที่ว่าจักรวาลนี้ไม่ว่ามันจะกว้างใหญ่แค่ไหน มันก็ยังมีที่ตั้งของมัน แน่นอนครับเมื่อมีที่ตั้ง มันก็ต้องดำรงอยู่ และดับไปในที่สุด เพียงแต่คนที่จะทราบก็คือ “พุทธะ” เท่านั้น

= 449 Baht

 

รายการที่ 36








ตะกรุดใบลาน 100 ปี หลวงปู่มี เขมธัมโม วัดมารวิชัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

#ตะกรุดโทนใบลาน 100 ปี ของ หลวงปู่มี วัดมารวิชัย จัดสร้างปี พ.ศ.2540 ความยาวประมาณ 3.5 นิ้ว จัดสร้างจากคัมภีร์ใบลานเก่าแก่อายุเป็น 100 ปี นำมาหุ้มทับบนแกนทองแดง แล้วปิดทองลงถักเชือกสามปล้องแล้วเคลือบด้วยวานิช

= 999 Baht

 

ขอจองครับ

 

ขอจองครับ

 

รับทราบการจองรวม 2 รายการครับ ขอบคุณครับ

 

พื้นทราย - 14/6/2567 EMS : ED 4727 5555 4 TH ขอบพระคุณครับ

 

รายการที่ 37








เหรียญนาคเกี้ยว ๗ เหลี่ยม ๓ รู พ่อท่านผอม ถาวโร

#มีโค๊ดและหมายเลขกำกับ (เลข ๒๘๙)

#เหรียญนาคเกี้ยว ๗ เหลี่ยม ๓ รู เป็นเหรียญที่ถูกจัดสร้าง เพื่อป้องกันภัย แก้ไขดวง และส่งเสริมดวงชะตาให้รุ่งโรจน์ รวมไปถึงสามารถอาราธนาทำน้ำมนต์ พ่อท่านผอม ถาวโร ได้เมตตาปลุกเสกเมื่อ วันที่ ๒๖ กันยายน ๒๕๖๓

= 1500 Baht

 

รายการที่ 38




สมเด็จปรกโพธิ์ เนื้อผงมวลสาร หลังรูปภาพ
หลวงพ่อเจริญ วฑฺฒโน วัดตาลานใต้ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

#เลี่ยมกรอบกันน้ำสวยพร้อมบูชา

#หากกล่าวถึง หลวงพ่อเจริญ วัดตาลานใต้ เกจิอาจารย์แห่งทุ่งผักไห่ อยุธยา ท่านมียอดวิชา ทางด้านเมตตา มหานิยม วิชาอันเอกอุ ยันต์นะหน้าทองใหญ่ หรือ นะหน้าพระ ใช้ลงด้วยน้ำมันจันทน์ปลุกเสกหรือน้ำมันงาเสก ใช้ทางมหานิยมชั้นยอดเป็นเสน่ห์ต่อผู้พบเห็น

หลวงพ่อเจริญ มีนามเดิม เจริญ ศีลขันธ์ เกิดเมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2443 ที่หมู่ 9 ต.ตาลาน อ.ผักไห่จ.พระนครศรีอยุธยา ในวัยเยาว์ศึกษาหนังสือไทยอยู่ในสำนักพระอาจารย์ง้วน วัดตาลานเหนือ อ.ผักไห่ อายุ 14 ปี ย้ายไปอยู่สำนักพระอาจารย์ครุฑ วัดย่านอ่างทอง ศึกษาหนังสือขอมและเรียนสูตรสนธิ-นาม อยู่ 6 ปี มีความรู้อ่านเขียนหนังสือขอม ก่อนลาออกไปช่วยบิดามารดาประกอบอาชีพทางค้าขาย

อุปสมบทที่วัดตาลานใต้ เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 2465 มีพระครูสุทธาจารวัตร (อ่ำ) วัดตึกคชหิรัญ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอธิการกอน วัดตาลานใต้ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายา ” วัฑฒโน “เมื่ออุปสมบทแล้ว ก็เพียรพยายามหาความรู้จากครูบาอาจารย์ต่างๆ ตั้งแต่พระอธิการ พระครูอุปัชฌาย์ ไปจนถึง หลวงปู่เพิ่ม วัดโคกทอง (สหายของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค) ซึ่งเป็นเกจิดัง อยู่ละแวกใกล้เคียงกัน

นอกจากนี้ ยังเคยได้รับใช้ใกล้ชิดกับ สมเด็จพระสังฆราช (อยู่ ญาโณทยมหาเถร) วัดสระเกศ กทม. และมีความสนิทสนมเป็นสหธรรมิกกับ สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เสงี่ยม) วัดสุทัศน์ หลวงพ่อเจริญ ท่านเป็นสหายธรรม กับหลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง ในสมัยที่ทั้ง 2 รูป ยังมีชีวิตอยู่จะเดินทางมาหากันบ่อยๆ บางทีหลวงพ่อเจริญ ก็จะมาเดินจงกรมที่วัดโคกทอง บางทีก็มานั่งคุยกับหลวงพ่อเชิญ

เคล็ดวิชาสุดยอดวิชาด้านเมตตานี้เป็นวิชาที่หลวงพ่อเจริญ ท่านสำเร็จและถนัดมาก ท่านจะใช้ยันต์นี้ ใส่ในวัตถุมงคลของท่าน แทบจะทุกชนิด วัตถุมงคลของท่านก็ถือว่าเป็นของดีที่ ราคายังไม่แพง ยังพอหาได้ (ยันต์นี้หากมีไว้ ห้ามวางในที่ต่ำ ห้ามเดินทับเหยียบย่ำ) หลวงพ่อเจริญได้มรณะภาพอย่างสงบ เมื่อปี 2533 แต่สังขารของท่านไม่เน่าเปื่อย ในปี 45 ได้มีการฌาปนกิจร่างของท่าน ตามประเพณี รวมเก็บสังขารท่านไว้นานถึง 12 ปี

= 1250 Baht

 

รายการที่ 39



พระกริ่งนารายณ์เปิดโลก รุ่นรวยเปิดโลก รุ่นแรก ปีพ.ศ.2543
หลวงปู่เหมือน ฐานุตตโม วัดบ้านคลองทรายใต้ จังหวัดสระแก้ว

#เนื้อโลหะแก่ทอง สร้างเพียง 999 องค์

#มีโค๊ดและหมายเลขกำกับ (เลขสวย 14)

#หลวงปู่เหมือน อายุยืน ๕ แผ่นดิน ๑๐๔ ปี รุ่นแรกรุ่นเดียวของท่าน

#หลวงปู่เหมือน ฐานุตตโม อายุ ๑๐๔ ปี วัดบ้านคลองทรายใต้ ตำบลหนองตะเคียนบอน อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว รุ่นรวยเปิดโลก หลวงปู่เหมือน เป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุยืน ๕ แผ่นดิน (๑๐๕ ปี) ธุดงค์ทั่วประเทศ ในสมัยหนุ่ม ท่านอยู่ทางภาคอีสาน ธุดงค์ไปพร้อมกับหลวงปู่โส / หลวงปู่ผาง ไปทั่วประเทศ ศึกษาพระธรรม วิปัสสนากรรมฐานกับพระอาจารย์สายพระอาจารย์ มั่น ภูริทัตโต จนธุดงค์ถึงที่ตั้งวัดคลองทรายใต้ในปัจจุบัน ท่านจึงปักหลักจำพรรษาที่วัดนี้เป็นต้นมา จวบจนถึงท่านมรณภาพปัจจุบันสรีระท่านไม่เน่าเปื่อย

<<<<< ข้อมูลเพิ่มเติม "คลิกที่นี่ครับ" >>>>>

= 2500 Baht

 

รายการที่ 40




พระศรีอริยเมตไตร หลวงปู่ทองทิพย์ พุทธปัญโญ
วัดป่าสีดาพระรามลักษณ์รัตนโคตร จังหวัดหนองคาย

#หลวงปู่ดำริให้สร้างเมื่อปีพ.ศ.2538 พระธวัชชัย ชาครธฺมโม (พระอาจารย์นิล) เป็นผู้สร้างและรวบรวมมวลสาร หลวงปู่ทองทิพย์ อธิษฐานจิต

= 599 Baht

 

รายการที่ 41









พระกริ่งชินบัญชร 86 เนื้อโลหะผสมชนวน
หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน จังหวัดเลย

#ตอกโค๊ด 2 จุด และหมายเลขกำกับ (เลข ๓๓๕)

#สร้างเพียง 500 องค์เท่านั้น

#ใต้ฐานอุดผงมวลสารนาๆชนิด ฯลฯ...
- อุดเม็ดพระกริ่งธรรมจารี (หลวงปู่พิศดู)
- ข้าวบิณฑ์
- สายสิญจน์
- จีวร

= 1250 Baht

 

รายการที่ 42




ธนบัตรแบงค์ 20 บาท #มีรอยจารชัดเจน
หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ สุสานทุ่งมน จังหวัดสุรินทร์

<<<<< ข้อมูลเพิ่มเติม "คลิกที่นี่ครับ" >>>>>

= 1199 Baht

 

รายการที่ 43




ชุดรูปองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง จังหวัดจันทบุรี

- รูปองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตอก 1 โค๊ด
- เหรียญขวัญถุง 50 สตางค์ ตอก 2 โค๊ด
- ล็อกเก็ตพระพุทธเมตตาอินเดีย ตอก 1 โค๊ด

รวม 3 รายการ (ครบชุด)

#พระรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตอกโค๊ด ปั๊มยันต์พระอุปคุต ติดจีวร หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง จังหวัดจันทบุรี

พระรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิตหลายปี รูปชุดนี้อยู่ในย่ามหลวงปู่ตลอดเวลาตราบจนมรณภาพ รูปตอกโค๊ตวัด ด้านหลังติดจีวรของหลวงปู่ และปั๊มตรายันต์พระอุปคุต

โดยเฉพาะพระรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้า องค์นี้อยู่กับหลวงปู่ตั้งแต่เริ่มแรกที่อัดมา มีจำนวนทั้งหมด 50 ใบ หลวงปู่เก็บไว้ในย่ามข้างองค์ท่านตลอดเวลา ตราบจนเคลื่อนจิตเข้าอนุปาทิเสสนิพพาน ทางวัดจึงได้ทำการตอกโค๊ต ยันต์กลม เอาไว้ด้านหน้า และปั๊มตรายันต์พระอุปคุตไว้ด้านหลังเป็นสัญลักษณ์ และปิดจีวรของหลวงปู่พิศดูทุกใบ ใครได้ไว้บูชานับเป็นมหามงคลยิ่งครับ..

#เหรียญขวัญถุง 50 สตางค์ ตอก 2 โค๊ด อธิษฐานยาวนาน 3 ปี หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง จังหวัดจันทบุรี

#ล็อกเก็ตพระพุทธเมตตาอินเดีย หลวงปู่พิศดู ธมฺมจารี วัดเทพธารทอง จังหวัดจันทบุรี

ล็อกเก็ตชุดนี้ (หลวงปู่พิศดูอธิษฐานจิต ตั้งแต่ ปี 2550) หลวงปู่เป็นผู้บูชามาจากพุทธคยา ประเทศอินเดีย ตั้งแต่วันแรกที่ท่านไปเยือนสังเวชนียสถาน ที่เมืองพุทธคยา และท่านได้เริ่มสวดมนต์อธิษฐานจิตตั้งแต่วันแรกที่พุทธคยา และเมื่อท่านได้เดินทางไปนมัสการสังเวชนียสถานในที่ใดๆก็จะนำพระชุดนี้ไปอธิษฐานด้วยเสมอ ทุกวัน จนกระทั่งกลับมาที่วัดเทพธารทองก็ยังนำพระชุดนี้มาเก็บไว้ที่ห้องและสวดมนต์ทุกวัน รวมระยะเวลาหลายเดือนกว่าจะเริ่มแจก (พระที่แจกไปก่อนจะไม่มีโค๊ตตอก)

#จำนวนพระที่หลวงปู่อธิษฐานจิตไว้ มีร่วมๆพันองค์ แต่ด้วยเก็บไว้ในที่อับชื้น ล็อกเก็ตจึงชำรุดไปกว่าครึ่ง (ล็อกเก็ตที่ชำรุด ได้เอาไปบรรจุกรุ) เหลือล็อกเก็ต ที่สมบูรณ์จริงๆ ประมาณ 500 กว่าองค์

- ล็อกเก็ตที่หลวงปู่ แจกไปก่อนหน้านั้น (จะไม่มีโค๊ต) เพราะเช่าบูชา มาจากประเทศอินเดีย (มีขายตามสังเวชนียสถานทั่วไป)

- ต่อมา ล็อกเก็ตที่เหลือตกค้างในกุฏิ ทางวัดได้นำมาตอกโค๊ต "อิ" (ย่อมาจาก อิ ติปิโสห้องพุทธคุณ)

- ตอกไว้ที่ หูล็อกเก็ต เพื่อเป็นสัญลักษณ์ว่า เป็นล็อกเก็ตที่หลวงปู่ ได้อธิษฐานจิตไว้ (ถ้าพบเจอล็อกเก็ตแบบนี้ที่อื่น ต้องดูโค๊ตที่หูเหรียญเป็นหลัก จึงจะมั่นใจได้ว่าเป็นชุดที่หลวงปู่พิศดูเสก)
...................................

#พระพุทธเมตตา... เป็นพระพุทธรูป ในวัดพระมหาโพธิ์ ใกล้กับต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่ตรัสรู้ของพระโคตมพุทธเจ้า ในตำบลพุทธคยา รัฐพิหาร ประเทศอินเดีย ในปัจจุบัน(หรือแคว้นมคธ ชมพูทวีป ในสมัยพุทธกาล) พระพุทธเมตตา องค์นี้ เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยปาละ และ สร้างในสมัยนั้น ด้วยหินแกรนิตสีดำ มีอายุกว่า 1,400 ปี...แต่ไม่ปรากฏว่าสร้างเมื่อใด

เครดิตข้อมูล : คุณสิรภพ

<<<<< ข้อมูลเพิ่มเติม "คลิกที่นี่ครับ" >>>>>

= 2500 Baht

 

รายการที่ 44





เหรียญพระพรหมสี่หน้า พิมพ์รัศมี รุ่นที่ระฤกแจกแม่ครัว ปีพ.ศ.2555

เนื้อตะกั่ว กรรมการ (พิเศษ) ตอกโค๊ดยันต์โต๊ะกัง 9 จุด สร้างน้อยมาก

พระธรรมสิงหบุราจารย์ (หลวงพ่อจรัญ ฐิตธัมโม) วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี

#จัดสร้างโดย คุณสมประสงค์ (ขุนทอง ในธรรมนิยายและเป็นหลานแท้ๆของหลวงพ่อจรัญ) ท่านเป็นหัวหน้าแม่ครัว วัดอัมพวัน สร้างขึ้นในปี 2555 รุ่นนี้จึงชื่อว่ารุ่น แจกแม่ครัว

= 999 Baht

 

รายการที่ 45




เหรียญพระพุทธมิ่งเมืองทักษิณ พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช
เสด็จพระราชดำเนินเททอง จังหวัดนครศรีธรรมราช ปีพ.ศ.2522

#เกจิสายใต้ปลุกเสก โดยมี พล.ต.ต. ขุนพันธ์รักษ์ราชเดช เป็นเจ้าพิธี
และมีพระเกจิอาจารย์ร่วมกันปลุกเสกหลายท่าน อาทิเช่น
พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง
พ่อท่านแก่น วัดทุ่งหล่อ
หลวงปู่จันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ( สายนี้เหนียวสุดๆ เจ้าของพระกริ่งเหล็กไหลอันเลื่องชื่อ)
เป็นเหรียญทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า เนื้อทองแดง
ด้านหน้ารูปพระเจดีย์วัดบรมธาตุ
ด้านหลังพระพุทธมิ่งเมืองทักษิณ

#เหรียญดี พิธีดี เกจิสุดยอดของแดนใต้มาร่วมกันปลุกเสก อีกหลายท่าน เหรียญนี้มีประสบการณ์ที่เล่าขานกันพอสมควร พระดีพิธีใหญ่
รายนามพระเกจิอาจารย์ที่ร่วมปลุกเสก
1.พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย จ.สงขลา
2.พ่อท่านแสง วัดคลองน้ำเจ็ด จ.ตรัง
3.พ่อท่านเมือง วัดท่าแหน ลำปาง
4.หลวงปู่นาค วัดระฆัง กทม.
5.พ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก จ.พัทลุง
6.พระอาจารย์ทิม วัดช้างให้ จ.ปัตตานี
7.หลวงพ่อดำ วัดตุยง จ.ปัตตานี
8.พระอาจารย์นำ วัดดอนศาลา จ.พัทลุง
9.พ่อท่านเขียว วัดหลงบล
10.ฆราวาสสายเขาอ้อ ท่านขุนพันธุ์ฯ อาจารย์ชุม ไชยคีรี ฯลฯ

#สร้างจากชนวนวัตถุมงคลเก่าๆและตะกรุดของเกจิอาจารย์จำนวนมาก และต่อมายังเข้าปลุกเสกอีกหลายวาระ ในพิธีเททอง ขณะกำลังหลอมโลหะวัตถุดิบ ว่ากันว่าแผ่นยันต์ของพระอาจารย์ทิม วัดช้างให้, พ่อท่านเส้ง วัดแหลมทราย และของอาจารย์นำ วัดดอนศาลา หลอมไม่ละลาย ทำให้ต้องตักแผ่นขึ้นมาใหม่ทำพิธีอีกจึงหลอมได้สำเร็จ

= 350 Baht

 

รายการที่ 46





พระเขี้ยวแก้วศรีบุญจันทร์ เนื้อแร่กายสิทธิ์
หลวงปู่บุญจันทร์ จารุวัณโณ วัดศรีมังคลาราม จังหวัดศรีสะเกษ

#พระเขี้ยวแก้วศรีบุญจันทร์ หลวงปู่บุญจันทร์ จารุวัณโณ วัดศรีมังคลาราม อ.กันทรารมย์ จ.ศรีสะเกษ มงคลวัตถุชุดนี้ จัดสร้างในนามคณะศิษย์จันทบุรี(กลุ่มปิดทองหลังพระ) เพื่อบูชาคุณหลวงปู่บุญจันทร์ เนื่องในปีมหามงคลอายุ 99 ปี พ.ศ.2559 โดยคณะผู้จัดสร้างได้รับการอนุญาตจากองค์หลวงปู่ให้จัดสร้างพระชุดนี้ขึ้นมา เพื่อการกุศล และเพื่อแจกจ่ายมอบให้แก่ผู้เคารพศรัทธาในองค์หลวงปู่บุญจันทร์ โดยได้นำฟันแท้ๆของท่านที่หลุดออกมา นำมาถอดพิมพ์เป็นต้นแบบของวัตถุงคลชุดนี้

ส่วนฟันซี่ดังกล่าวนี้ทางคณะศิษย์จะนำไปประดิษฐานในพระเจดีย์ที่ จ.จันทบุรีในโอกาสต่อไป...
รูปแบบของการจัดสร้างพระเขี้ยวแก้วนี้ ได้ใช้ฟันของหลวงปู่บุญจันทร์มาเป็นต้นแบบ และปั้นพระชัยองค์เล็กๆติดเอาไว้ที่ฟัน แล้วจึงเอาไปถอดพิมพ์ และเทหล่อเป็นองค์พระขึ้นมาโดยสมบูรณ์

พระเขี้ยวแก้วชุดนี้ ได้จัดสร้างออกมาทั้งหมด 2 เนื้อด้วยกัน คือเนื้อชนวน และเนื้อแร่กายสิทธิ์ โดยการรวมรวมชนวนศักดิ์สิทธิ์จากทั่วสารทิศแบบ 100%

#เนื้อแร่กายสิทธิ์ สร้างเพียง 300 องค์เท่านั้น
เนื้อแร่กายสิทธิ์ เป็นการนำเอาแร่ต่างๆหลายชนิดที่มีคุณในตัว มาผสมเข้าสูตรเล่นแร่แปรธาตุ ผสมแผ่นจารจากหลวงปู่บุญจันทร์ และเทออกมาได้เนื้อลักษณะแบบนี้ โดยด้านในเนื้อพระจะมีความแข็งมาก แต่เนื้อด้านนอกจะมีความอ่อนคล้ายเนื้อชิน สีของเนื้อในจะออกขาวอมเหลือง และสีเนื้อนอกจะออกสีเทาดำ และมีความอ่อน-แข็งต่างกันอีกด้วย จึงกล่าวได้ว่าเป็นเนื้อสูตรพิเศษที่ได้จากการผสมเล่นแร่แปรธาตุ อ่อนนอก-แข็งใน หรือแยกธาตุ หยิน-หยาง รวมไว้ในองค์เดียวกัน

พระเนื้อแร่นี้ทำได้ยากมาก เสี่ยงต่อการเสียหายเยอะพอสมควร จึงได้พระที่สมบูรณ์ออกมาน้อยมาก.. (เนื้อแร่กายสิทธิ์ เนื้อในจะแข็งมาก จึงไม่ได้เจาะรูเพื่อบรรจุมวลสาร และไม่สามารถตอกโค๊ดกำกับได้)

และด้วยเหตุแห่งชื่อ พระเขี้ยวแก้วศรีบุญจันทร์ นี้ก็เนื่องมาจาก พระชุดนี้มีรูปแบบเป็นรูปฟัน และหลวงปู่ท่านได้อธิษฐานให้เป็นพระเขี้ยวแก้ว(พระพุทธเจ้า) และตั้งองค์พระซ้อนเอาไว้ภายในอีกสัมทับหนึ่ง จึงเรียก **พระเขี้ยวแก้ว

** ศรี มาจากตัวย่อของจังหวัด ศรีสะเกษ และอีกประการหนึ่งตามพจนานุกรมหมายถึง แสง , สิริมงคล ความรุ่งเรือง ความสว่างสุกใส ความงามความเจริญ

** บุญจันทร์ คือนามของหลวงปู่

พระชุดนี้หลวงปู่บุญจันทร์ได้อธิษฐานจิตให้ที่วัดโดยท่านให้วางไว้ข้างๆหมอนหนุนของท่าน เป็นเวลาตลอด 1 คืน 1 วัน และยังได้ทำการอธิษฐานจิตให้อีกหลายวาระ รวมแล้ว 5 วาระ นับเป็นวัตถุมงคลชุดสุดท้ายที่ท่านตั้งใจอธิษฐานไว้ให้อย่างดีที่สุด

และคณะผู้สร้างยังได้นำพระชุดนี้เข้าพิธีพุทธาภิเษกพระกริ่งเทียนตี้ ของวัดสันพระเจ้าแดง เมื่อปี 2559 อีกด้วย พิธีสุดท้าย พิธีทำบุญครบอายุ 100 ปี 1 ศตวรรษ ของหลวงปู่บุญจันทร์ วัดศรีมังคลาราม เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2560

= 699 Baht

 

รายการที่ 47






แมลงภู่คำ เนื้อไม้แกะ (ด้านในบรรจุปรอท)

#แมลงภู่คำ หรือที่ชาวล้านนาและชาวไทยใหญ่เรียกขานกันว่า"แมลงบู๊"มีถิ่นกำเนิดมาจากทางพม่าและทางไทยใหญ่และเข้ามาสู่ดินแดนล้านนา แมลงภู่เป็นเครื่องรางที่เรืองอิทธิฤทธิ์ กษัตริย์พม่า คหบดี จนถึงสามัญชน มีติดตัวกันแทบทุกคน แมงภู่คำ ทางวิชาสายพม่านับถือมากว่า เป็นสัตว์คู่บารมีของ บายินนอง หรือบุเรงนองเป็นเจ้า บัลลังก์ที่บุเรงนองนั่งว่าราชการทั้งสองข้างจะแกะสลัก รูปแมงภู่คำ เฝ้าระวังรักษาอยู่ เป็นบัลลังค์ที่ พ่อครูโป๊ะโป๊ะอ่อง สร้างและบรรจุแมงภู่คำ 8 คู่ หากบุเรงนอง จะไปรบที่ใดจะนั่งบัญชาการ ณ บัลลังก์นี้ จนชนะทั่วทั้งสิบทิศ จึงถือได้ว่าเป็นสัตว์คู่บารมี ที่ช่วยบุเรงนองรักษาเมืองพม่าไว้ ทางพม่ามีตำนานบันทึกเรื่องราว เกี่ยวกับแมงภู่คำอย่างละเอียดว่า เป็นแมลงมงคลศักดิ์สิทธิ์ ได้รับรัศมีทิพย์โอภาส แห่งพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ในครั้งที่ตรัสรู้บรรลุธรรมวิเศษแล้ว แมงภู่คำพากันบินไปยังป่าหิมพานต์ นำเอาดอกกาสลองทิพย์มารองรัตนบัลลังก์ ถวายเป็นพุทธบูชา พระพุทธองค์จึงได้ตรัสเปล่งพุทธวาจาประสิทธิ์พร แก่แมงภู่นั้นว่า “เป็นสัตว์ที่ประเสริฐกว่าแมลงมีปีกทั้งหลาย” การสร้างแมลงภู่นั้นจะมีการสร้างจากไม้และงา (ไม้สำหรับทหาร และ สามัญชน ทั่วไป ส่วนเนื้องาสร้างน้อย สำหรับชั้นแม่ทัพ นายกอง คหบดีขึ้นไป ) ไม้จะดุมล้อเกวียน,ไม้แดง,ไม้งิ้วดำ ถ้าเป็นเนื้องาจะใช้งากำจัด(งาช้างตกมันหักคาต้นไม้มาแกะเพื่อเพิ่มผลทางมหาเสนห์ ถ้าเป็นเนื้องานั้นจะต้องแช่ด้วยน้ำว่านก่อน แมลงภู่คำ " ถือได้ว่าเป็น...สุดวิชาสายเครื่องรางของขลัง เครื่องรางมหาเสน่ห์ ของชนเผ่าไตใหญ่ (ไทยใหญ่) และม่าน(พม่า) โดยเครื่องรางชนิดนี้ มีถิ่นกำเนิดจากประเทศพม่า รัฐไทยใหญ่ และเข้ามาทางล้านนา เป็นเครื่องรางที่ตั้งแต่ระดับพระมหากษัตริย์ของพม่า (มีความเชื่อถือสืบต่อกันมาว่า แมลงภู่คำปรากฏพบ...บนเสลี่ยงของพระเจ้าบุเรงนองด้วย) จนถึงระดับสามัญชนคนธรรมดา ต้องมีติดตัวไว้กันแทบทุกคน " แมลงภู่คำ " เป็นเครื่องรางอย่างหนึ่งของสายเหนือ เป็นงานแกะเนื้อไม้รูปตัวแมลงภู่ โดยไม้ที่ใช้นั้น ต้องทำมาจากไม้ดุมล้อเกวียนโบราณ ซึ่งเป็นไม้ประดู่แดงเท่านั้น เรียกปรอทบรรจุไว้ให้อยู่ข้างใน โดยที่ใช้คำว่าเรียกปรอทเข้า เพราะหารูเจาะที่ใช้บรรจุปรอทเข้าไม่เจอ จึงเชื่อกันว่า ใช้วิชาอาคมเรียกปรอทเข้าไปแทน หรือบางแห่งก็เชื่อถือกันว่า ผู้มีวิชาอาคมที่ปลุกเสกแมลงภู่คำได้นั้น จะทำการปลุกเสกจนแมลงภู่ที่แกะขึ้นมานั้นมีชีวิต และบินไปกินปรอทได้เอง มีสรรพคุณบันทึกไว้ดังนี้...
1.เด่นทางเมตตามหานิยม เมตตามหาเสน่ห์ คนรักคนหลง
2.อยู่ดีมีโชค มีเงินมีทอง ซื้อง่ายขายคล่อง
3.ป้องกันภยันตรายทั้งปวงได้วิเศษนัก
4.ดับอวิชา การทำร้ายด้วยคุณไสยมนต์ดำทั้งปวง
5.ป้องกันโจรภัยได้
6.ปกป้องคุ้มครองกันภัย ที่จะกระทำต่อเด็กเล็ก
7.เดินทางใกล้ - ไกล กันภูตผีและผู้คิดร้าย เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา

#คาถาแมงภู่คำ

โอมพระยาแมงภู่คำ งามเหลือล้นปอตา
ในโลก๋าโลกใต้ เงินคำได้ไหลนอง
ตั้งข้าวของกูปองเหลือล้น ฮื้อปากั๋นค้นขนมามนุษาโลกหล้าจุมปู

ปากั๋นหุ๋ม ไฝ่รักเล็งดูต๋นตั๋วกู พระยาแมงภู่คำ
กั๊นกูสวาดมนต์กำใด ไผ๋อยู่ไหนก็บ่ได้ฮื้อก๋ายเกิดเป็นหง้าวไบ้

มาก้มหัวขาบไหว้นบยำกู
โอมพระยาแมงภู่คำ
บินสะสู่อยู่บนเวหน คนทั้งหลายต่างร่ำลือต๋นกูแต้เนอ
ต่างปากั๋นพร่ำเพ้อไฝ่หากู ทั้งหมู่เจ้าพระยาไพร่ฟ้า
ทั้งเสนากล้าอำมาต ทั้งหมู่ประชาราษฎร์ชาวเมือง
ต่างนันเนืองแซ่ซ้อน รักขิ่งข้อนหากู ปากั๋นมาจมจูอยู่ใกล้
มาเป็นข้าใช้ต๋นกู ติดกูพระยาแมงภู่คำ แต้เนอ มาเนอ เออรักอมสวาหุมติ๊ด

#วิธีการบูชา

ผู้ใดมีแมงภู่คำไว้บูชาแล้วให้ตั้งแยกบูชาออกมาจากหิ้งพระหรือนำบูชาติดตัวไปในที่ต่างๆโดยมีฝอยวิธีการใช้พระยาแมงภู่คำดังนี้

1.หากสร้างบ้านใหม่ให้เอาแมงภู่ห่อผ้าขาวผ้าแดงขึ้นวางบนยอกหัวเสาในทิศทั้งสี่และบูชาด้วยดอกไม้ขาวบอกกล่าวพระยาแมงภู่ว่า”วันนี้ได้สร้างบ้านใหม่ขอยกเอาพระยาแมงภู่ขึ้นเป็นอารักษ์บ้านสิ่งใดที่จะเป็นภัยแก่ครอบครัวทั้งที่มองเห็นและมองไม่เห็นขอพระยาแมงภู่คำได้ป้องกันด้วยและสิ่งใดที่ดีที่เป็นมงคลของจงนำพามาสู่บ้านเรือนนี้ด้วยเทอญ” แล้วให้หมั่นสวดบูชาถวายดอกไม้ขาว ทุกๆวันขึ้น 15 ค่ำนั้นเทอญจักมีแต่ความจำเริญวุฒิทุกประการแล

2.หากว่าจะไปค้าไปขายเดินท่าเดินทางต่างถิ่นต่างแดนให้บูชาพระยาแมงภู่ด้วยของหอม(เช่นน้ำอบน้ำปรุง)ให้ สวดคาถา 7 รอบ แล้วอธิษฐานว่า “ข้าฯไปไหนขอพระยาแมงภู่คำตัวกล้านี้ ไปด้วยไปช่วยค้าไปช่วยขายไปค้าได้เงินเดินทางก็ให้ได้ทองนะพ่อนะ” ว่า 3 จบ แล้วออกเดินทางเถิดจัดมีแต่คนนำโชคลาภมาให้เป็นที่รักของคนทั้งหลายแล

3.หากมีร้านค้าให้ตั้งพานบูชาเอาแมงภู่คำใส่ลงไว้ให้บูชาด้วยดอกไม้ขาว และถวายน้ำผึ้งแท้ สัก 1 แก้วเล็กๆวางบนพานแล้วให้ว่าคาถาบูชา วันละ 9 จบเวลาเปิดร้าน แล้วว่า“วันนี้ข้าฯขอเลี้ยงพระยาแมงภู่คำตัวกล้า อันสถิตอยู่ที่นี้ด้วยน้ำผึ้งอันหอมหวานเมื่อพ่ออิ่มแล้วก็ช่วยข้าฯให้มั่งมีพาเอาเงินเอาทองมาสู่ตัวข้าฯด้วยเทอญ”แล้วจึงเอาแมงภู่ลงแช่น้ำ สวดคาถาบูชา 1 จบแล้วเอาน้ำนั้นประพรมของที่ขายนั้นเทอญจักขายสิ่งใดก็ขายดี(ควรเปลี่ยนน้ำผึ้งทุกวัน)

4.หากจักเดินทางเข้าป่าให้สาธยายพระมนต์ 3 จบแล้วเขย่าแมงภู่คำ แล้วบอกว่า “ไข้ป่าอย่ามี ผีอย่าใกล้ตัวข้าฯ สวาหะ สวาหายยะ” เดินทางไปเถิดภัยไม่มีไข้ป่าก็ไม่เป็นแล

5.หากจักให้เป็นมหาเสน่ห์แก่หญิงหรือชายใดให้ใส่ชื่อผู้นั้นลงไปเมื่อสวดคาถา ในท่อนท้ายคือ....ให้.....อี/ไอ้(ชื่อเขา)....มาเป็นข้าใช้ต๋นกู ติดกูพระยาแมงภู่คำ แต้เนอ มาเนอเออ.....อี/ไอ้(ชื่อเขา).....รัก กูอมสวาหุมติ๊ดๆ.....แล้วเข้าไปหาเถิดท่านไม่เมตตารักไคร่อยู่ไม่ได้เลยแล.

6.หากจักให้พระยาแมงภู่รักษาอารักษ์ในอาณาเขตใดให้เอาพระยาแมงภู่ลงใส่ในขันน้ำแล้วสวดคาถาบูชา 3 จบ แล้วว่า “น้ำนี้ตกบนแผ่นดินใดขอพ่อเจ้าพระแมงภู่คำผู้เป็นใหญ่จงรักษาอาณาเขตแดนนั้นเทอญสัตว์ร้ายอย่าเข้าได้ คนร้ายอย่าเข้าได้ ภัยร้ายมนต์ดำท่านทำมาอย่าเข้าได้กันเน่อพ่อกัน ต่อยตีแตกพ่ายทุกประการนะพ่อนะ สัพพะชัยยะนะกันนะ สวาหะเถ๊ก” แล้วเอาน้ำมนต์นั้นพรมให้ทั่วบริเวณที่ต้องการให้พระยาแมงภู่รักษาจะอยู่เย็นเป็นสุขยิ่งแลภัยใดๆมิสามารถกล้ำกลายได้เลย

7.หากอยากให้เป็นมหาอำนาจ ให้สวดคาถาบูชา 7 จบแล้วให้หลับตามโนภาพว่ามีพระยาแมงภู่คำบินขนาบข้างทั้งสอง แล้ว ฮำเสียง ” ฮึงๆๆ” เหมือนเสียงแมงบิน สัก 3 ครั้ง (จะมีอาการขนพองสยองเกล้า)แล้วอธิษฐานว่า “ข้าไปไหนขอพระยาแมงภู่คำไปด้วย ขอพ่อมาเป็นเดชเดชะแก่ข้าฯนี้ด้วยเทอญ” จึงไปเถิดจักจำเริญด้วยเดชเดชะ มีฤทธี ท้าวพระยาเมตตารักใคร่ผู้คนร่ำลือสรรเสริญเรานักแล

8.หากจักให้เป็นมหานิยมแก่ฝูงชนาชนทั้งหลายให้พกพระยาแมงภู่นี้ติดตัว แล้วให้สวดคาถาบูชา 3 จบ แล้วให้เป่าลงที่มือทั้งสองแล้วเอาลูบหน้า 3 ครั้งเถิด(ลูบขึ้นเท่านั้น)จักเกิดเป็นราศีแก่ผู้บูชานั้นแล (ได้ลองมาแล้วเข้าไปอยู่ในคนหมู่มากเราจะเด่นกว่าคนอื่นเสมอดีมากๆและยังเป็นที่รักแก่ผู้ใหญ่ด้วย)

9.หากโดนลมเพลมพัดให้เอาพระยาแมงภู่ลงใส่ขันน้ำอาราธนาบุชาครุบาอาจารย์และพระยาแมงภู่คำได้ทำน้ำนี้เป้นน้ำมนต์เอารดเอาอาบเอากินเถิดจักหายได้แล

= 499 Baht

 

.