ให้บูชาวัตถุมงคลประจำปี ๒๕๖๘

รายการที่ ๑๘๘
ให้บูชาเป็นชุด จำนวน 3 ชิ้น (ชุดป้องกันภัย ป้องกันขโมย ป้องกันบุคคล ป้องกันโรค ครบในชุดนี้ครับ)
รายการที่ 1 ธงเขียวท่านปู่พระอินทร์ ของ วัดบ้านห้วยน้ำขาว กาญจนบุรี ผืนเล็ก ขนาด 31 x 15 x 35 เซนติเมตร
ข้อมูลรุ่นนี้มีดังนี้
พระอาจารย์เล่าว่า “งานพุทธาภิเษกที่วัดบ้านห้วยน้ำขาว เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคมที่ผ่านมา นอกจากครูบาอาจารย์ที่มาสงเคราะห์ตามปกติแล้ว ก็มีระดับท่านอาจารย์ปู่ ก็คือหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอมาด้วย อาตมาเองดีใจมากเพราะว่าโดยปกติแล้วลืมหลวงปู่สุ่น เป็นเหลนศิษย์ที่น่าเตะมาก..ปู่ทวดทั้งองค์ลืมได้ !
เพราะว่าตอนกราบอาราธนาบารมีพระ ก็จะไล่จากสมเด็จพระพุฒาจารย์โต วัดระฆัง หลวงปู่เนียม วัดน้อย หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค หลวงพ่อฤๅษี วัดท่าซุง ก็คือมาตามลำดับสายครูบาอาจารย์ แต่ลืมหลวงปู่สุ่น วัดบางปลาหมอ ที่เป็นครูบาอาจารย์ของหลวงปู่ปานไป ท่านมาสงเคราะห์เตือนว่างานของท่านอย่าลืมไปด้วย
ความจริงท่านไม่ต้องเตือนอาตมาก็เต็มใจไปอยู่แล้ว คราวนี้ด้วยความที่ท่านเมตตามา ก็เลยขอท่านสงเคราะห์เรื่องของวัตถุมงคลที่ ดร.พระครูโรจน์ท่านทำเอาไว้เป็นคันรถ"
เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนตุลาคม ๒๕๖๓
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร. วัดท่าขนุน

พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา เมตตาบอกเป็นรูปพระอินทร์ทรงช้างที่เก่าแก่มากๆ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๖
หลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ได้จัดสร้างครั้งแรกเมื่อปี 12 ท่านกล่าวถึงผ้ายันต์เขียวผ้ายันต์แดงนี้ไว้ว่า ทำขึ้นเพื่อความปลอดภัยในชีวิตของทหารที่เข้าสงครามโดยเฉพาะ แต่ไม่รับรองในด้านคงกระพันชาตรี ท่านเจ้าของยันต์รับรองว่าจะไม่ตายโหง ถ้าเคราะห์ร้ายจริง ๆ จะยอมให้แค่เสียเลือดแต่กระดูกจะไม่หัก ถ้าถึงที่ตาย จะให้กลับมาตายที่บ้าน ท่านผู้รับไปจะต้องใช้ในเมื่อความจำเป็นบังคับเท่านั้น เช่น ต้องรบเพื่อป้องกันประเทศชาติ หรือป้องกันทรัพย์สมบัติ และชีวิตเมื่อถูกรุกราน ถ้านำไปใช้ในทางที่ผิดกฎหมาย ผ้ายันต์นี้จะไม่ให้ผลแด่ท่านเลย
ผ้ายันต์สีเขียว (ธงพระอินทร์) จะช่วยคุ้มครองหมู่คณะที่ร่วมปฏิบัติงานร่วมกัน ถ้าเขาเหล่านั้นต้องการให้คุ้มครอง
อาราธนา การอาราธนาขอให้ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย และครูอาจารย์ทั้งหลายสืบ ๆ กันมา จนถึงหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค และท่านเจ้าของธงเป็นที่สุด แล้วให้อธิษฐานตามที่ตนปราถนา (หมายถึงการคุ้มครอง) ไม่ใช่ขอหวย เมื่ออธิษฐานแล้วให้ปลุกด้วยคาถาปลุกของคนทั่วไปของหลวงพ่อปาน ว่าดังต่อไปนี้
คาถาปลุก
“อิทธิฤทธิ์ พุทธะนิมิตตัง ขอเดชะเดชัง ขอเดชเดชะ จงมาเป็นที่พึ่งแก่ มะอะอุนี้ด้วยเถิด”

รายการที่ 2 ผ้ายันต์กันขโมย ของ พระอาจารย์เอ บ้านสุมโน ขนาด 7x7 นิ้วครับ
ข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้
ผ้ายันต์กันขโมย
ช่วงประมาณปลายปี ๖๓ หลวงพ่อเอเคยปรารภว่าต่อจากนี้บรรดาโจรขโมยผู้ร้ายจะมีมากขึ้นให้ระมัดระวังกันให้ดี ซึ่งมีลูกศิษย์หลายคนที่เจอประสบการณ์โดนขโมยทรัพย์สินเงินทอง จึงมา
กราบขอความเมตตาหลวงพ่อเอ จัดสร้างวัตถุมงคลที่ป้องกันด้านนี้โดยเฉพาะ และเมื่อไม่นานมานี้หลวงพ่อเอได้รับคำเตือนลงมาว่า จากนี้ให้ระวังขโมยให้ดีๆ โจรขโมยจะมาก เหตุนี้จึงทำให้หลวงพ่อเอตัดสินใจจัดสร้างผ้ายันต์ชุดนี้ให้แทนไม้กันขโมยที่มีเงื่อนไขเยอะกว่า และในที่สุด เวลาอันสมควรก็มาถึง หลวงพ่อเอก็ได้รับคำสั่งให้จัดทำผ้ายันต์กันขโมยออกให้ลูกศิษย์ได้บูชากัน
ผ้ายันต์กันขโมยชุดนี้หลวงพ่อเอได้อธิษฐานจิตเสกปลุกเองอยู่ ๒ วาระ ๆละ ๑ ชั่วโมงพอดี จากนั้นได้กราบอาราธนานิมนต์พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิลังการ์มาอธิษฐานจิตเสก ที่บ้านสุมโนเมื่อพระอาจารย์บ๊ะจับผ้ายันต์ท่านก็บอกว่า “ดีนี่ ใช้ได้เเล้ว...ผมไม่ได้มีวิชาทางสายนี้ เเต่เดี๋ยวผมเติมวิชาสายของหลวงพ่อเดิมลงไปให้ ผมจะเพิ่มผู้พิทักษ์ทั้ง ๔ ลงไปให้ “
และล่าสุดผ้ายันต์กันขโมยชุดนี้หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน ได้เมตตาอธิษฐานจิตเสกปิดท้ายให้ที่วัดท่ามะขาม เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๖๔ ที่ผ่านมา ทำให้ผ้ายันต์กันขโมย มีอานุภาพครบถ้วนสมบูรณ์ บริบูรณ์ สามารถออกให้บูชาได้เเล้ว ผ้ายันต์กันขโมยนี้หลวงพ่อเอบอกว่าถ้าติดบ้านก็ป้องกันบ้าน ติดที่รถก็ป้องกันรถ พกติดตัวก็จะป้องกันทรัพย์สินของเราเอง
ผ่านพิธีพุทธาภิเษกอธิษฐานจิตเสก ๓ วาระ
๑.หลวงพ่อเออธิษฐานจิตเสกที่บ้านสุมโน
๒.พระอาจารย์บ๊ะอธิษฐานจิตเสกที่บ้านสุมโน
๓.หลวงพ่อเล็กพุทธาภิเษกที่วัดท่ามะขาม
จะต้องมีตรายางบ้านสุมโนประทับด้วยตรับ

รายการสุดท้าย ผ้ายันต์อโรคยา ของพระอาจารย์เอ บ้านสุมโน
ข้อมูลรุ่นนี้มีดังนี้
จากเหรียญอโรคยาอันเลื่องชื่อสู่ “ผ้ายันต์อโรคยา”
ตั้งแต่หลวงพ่อเอได้จัดสร้างเหรียญอโรคยาขึ้นเมื่อปี ๒๕๖๓ จนป่านนี้ ยังมีผู้ถามเพื่อขอบูชาเหรียญนี้เป็นจำนวนมาก ทั้งๆที่หมดไปนานแล้ว อาจเพราะความสวยงามลงตัวของเหรียญ ที่สำคัญที่สุด คืออานุภาพด้านต่างๆ ที่ก่อให้เกิดประสบการณ์อย่างมากมายจนบรรยายไม่ถูก ซึ่งหลวงพ่อเอได้พยายามขออนุญาตเบื้องบนเพื่อสร้างใหม่มาโดยตลอด แต่ไม่เคยสำเร็จ
จนมาถึงตอนนี้ ท่านอนุญาตแล้ว แต่ต้องทำออกมาในรูปแบบของผ้ายันต์แทน หลวงพ่อท่านจึงรีบดำเนินการจัดสร้างขึ้น โดยมีลักษณะทุกอย่างคล้ายกับเหรียญอโรคยาเดิม เพียงแต่นำภาพพระไภษัชยคุรุ พร้อมกับยันต์โสฬสอริยทรัพย์ ที่อยู่หลังเหรียญอโรคยาแต่เดิม ย้ายมาไว้ด้วยกัน รูปแบบนี้จะใกล้เคียงกับของจริงที่ประดิษฐานอยู่หน้าอโรคยาศาลาอันยิ่งใหญ่ ในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช
ซึ่งทางเข้าด้านหน้าของอโรคยาศาลา จะมีพระไภษัชยคุรุนั่งทับยันต์โสฬสอริยทรัพย์ไว้ ทุกคนที่ไปที่นั่นเพื่อรักษาตัว ก็มักจะหยุดสักการะกราบไหว้ขอพร โดยเฉพาะเรื่องโรคภัยไข้เจ็บเสียก่อน พร้อมกับหย่อนเงินบริจาคด้วยความเต็มใจ ส่วนใหญ่มักจะสมหวัง ดังนั้น การได้กราบไหว้บูชาพระไภษัชยคุรุ ที่ทรงประทับพร้อมอยู่บนยันต์โสฬสอริยทรัพย์นั้น จึงถือเป็นมงคลแห่งความปลอดภัย หายโรค มีโชคลาภมาจากทุกทิศทุกทางนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้อโรคยาศาลาในสมัยนั้นมีความยิ่งใหญ่ แม้มีคนมารักษามากมายมหาศาลเพียงใด อโรคยาศาลาก็ยังดำเนินการอยู่ได้อย่างสบาย ไม่เดือดร้อนเลย...หลวงพ่อเอท่านจึงนำเคล็ดตรงนี้มาใส่ไว้ให้ที่เหรียญ และต่อยอดมาถึง “ผ้ายันต์อโรคยา” นี้เช่นกัน
ไม่เพียงเท่านั้น หลวงพ่อท่านยังนำคาถาฉุดเงินล้านที่ท่านชำนาญมาก ล้อมยันต์โสฬสอริยทรัพย์ไว้อีกชั้นหนึ่ง เพื่อความคล่องตัวที่ยิ่งขึ้นไป อีกทั้งยันต์เพชรหลีก รวมถึงยันต์สุมโนที่ผูกไว้สำหรับเกียรติยศชื่อเสียงลาภผลเงินทอง จะได้เหมาะกับยุคสมัยที่พวกเรากำลังเผชิญอยู่
ไม่แปลกเลย ที่คุณสมบัติเหล่านี้ได้ส่งอิทธิพลให้เหรียญอโรคยาเป็นที่รู้จัก และมีคนตามหาจนถึงทุกวันนี้ ซึ่งอิทธิพลเหล่านี้ได้ถูกส่งต่อมาถึง ผ้ายันต์อโรคยานี้แล้ว นับเป็นโอกาสอันดีที่ทุกคนจะได้บูชาของดีไว้ใช้

มีเพียงชุดเดียว ให้บูชา 1000 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๑๘๙
รายการฝาก
ให้บูชาเหรียญเสริมปัญญาเนื้อทองแดง ของ พระอาจารย์เล็ก วัดท่าขนุน ใส่ซองเดิมพร้อมกล่อง
พุทธาภิเษก ในวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๗ ในวันเสาร์ห้า ขึ้นห้าค่ำ เดือนห้า หรือที่เรียกว่าตรีวัน ฤกษ์นี้ 60 ปีจะมีครั้งหนึ่ง
สำหรับข้อมูลมีดังนี้
เหรียญเสริมปัญญาเนื้อทองแดง มีคาถาดังนี้
ปัญญาเสฏฐัง ปัญญาพะลัง
ปัญญาปาสาทิโก ปัญโญภาโส
ปัญญาปัชโชโต ปัญญาระตะนัง
ภูริปัญโญ มหาญาณัง สัมปะฏิจฉามิ
เด่นด้านปัญญาเหมาะกับผู้ที่เล่าเรียน หรือปฏิบัติในสมาธิ แถมยังป้องกันเรื่องภาวะสงครามอืกด้วยครับ
พระอาจารย์เล็กได้พูดไว้ในเสียงธรรมแห่งวัดท่าขนุน วันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๗ ไว้ว่า
วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๓ เมษายน พุทธศักราช ๒๕๖๗ ตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปี ๕ (ปีมะโรง) ถือว่าเป็นวันเสาร์ ๕ ตรีวัน ที่มีความแรงความขลังเป็นที่สุด
เนื่องเพราะว่าโดยปกติวันเสาร์ ๕ ตามหลักไสยศาสตร์ ก็ถือว่าเป็นวันแรงสุด ๆ อยู่แล้ว ถ้าหากว่าเป็นวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ก็แรงขึ้นไปอีกเท่าตัวหนึ่ง เขาเรียกกันว่ากระทิงวัน แต่ถ้าเป็นวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ ปีที่ ๕ (ปีมะโรง) ก็เท่ากับแรงคูณสาม เรียกว่า วันเสาร์ ๕ ตรีวัน ซึ่งวันนี้แทบทุกวัดที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ก็จะจัดสร้างวัตถุมงคลด้วยกันทั้งนั้น
ส่วนในขณะที่ทำการบวงสรวงพุทธาภิเษกนั้น เห็นรัศมีของพระพุ่งลงมาเป็นลำใหญ่ ครอบทั่วทั้งบริเวณมณฑลพิธี โดยเฉพาะตรงบริเวณกองวัตถุมงคล ลักษณะเหมือนเสาทองคำขนาดมหึมา แพรวพราวสวยงามมากเป็นพิเศษครั้นสงสัยว่าไม่เคยเห็นในลักษณะนี้มาก่อน พระท่านก็อธิบายให้ทราบว่า เนื่องจากว่ากระผม/อาตมภาพสร้างเหรียญเสริมปัญญา เพื่อช่วยในด้านการภาวนา เพิ่มความจำแก่ผู้นำไปใช้ สร้างเหรียญเสาร์ ๕ ตรีวัน เพื่อป้องกันอันตรายต่าง ๆ จากภาวะสงครามที่เกิดขึ้น แล้วในขณะเดียวกัน ในภาวะที่เศรษฐกิจค่อนข้างจะฝืดเช่นนี้ ก็จำเป็นที่จะต้องมีเรื่องของลาภผลด้วย เมื่อเอาหลายเรื่องมารวมกัน กระแสจึงออกมาอย่างที่เห็น
กระผม/อาตมภาพดูแล้วก็สบายใจ โดยเฉพาะในด้านการป้องกัน เพราะว่าลำแสงที่ลงมานั้น หนาแน่นประหนึ่งเกราะทองคำ ที่จะป้องกันอันตรายจากอาวุธทุกประเภทได้
แต่ว่าที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ มีบรรดาญาติโยมหลายต่อหลายท่านด้วยกันไม่รู้ว่าเวลานั้นเป็นเวลาที่ดีที่สุด ที่เราจะขอบารมีพระสงเคราะห์เราเป็นการเฉพาะ จึงมัวแต่ไปถ่ายรูปบ้าง ไปไลฟ์สดบ้าง ซึ่งนอกจากจะได้ประโยชน์แค่การค้าขายวัตถุมงคลให้แก่ลูกค้าตัวเองแล้ว อย่างอื่นก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย เพราะว่าถ้าเราไม่ได้เปิดใจรับ บารมีของพระก็ไม่สามารถที่จะอนุเคราะห์สงเคราะห์ต่อเราได้
ล่าสุดพระอาจารย์เล็กได้กล่าวในเสียงธรรมเมื่อวันอังคารที่ ๔ มิถุนยน ๒๕๖๗ ไว้ว่า (ผมขอนำบางช่วงบางตอนเฉพาะที่ท่านกล่าวถึงเหรียญเสริมปัญญา มาให้อ่าน)
หรือถ้าหมดท่าขึ้นมาก็เหรียญเสริมปัญญาก็ได้ เพราะว่าช่วงนี้เท่าที่เขาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง บางอย่างกระผม/อาตมภาพก็ "น้ำตาจิไหล" เหมือนกัน

"หมอหนุ่ม" ที่ช่วยดูแลในเรื่องของอาการกระดูกทับเส้นประสาทของกระผม/อาตมภาพเล่าให้ฟังว่า มีคนไข้เป็นเด็กวัยรุ่น จะเข้าเรียนชั้นมัธยมปีที่ ๔ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยด้วยโควต้านักกีฬา แต่ถึงจะเป็นโควต้านักกีฬาก็ต้องสอบเข้า ไม่รู้ว่าจะหันไปพึ่งใคร ก็เลยหันไปถามหมอหนุ่มว่า "อา..มีของดีอะไรที่จะช่วยผมได้บ้างไหม ?" "หมอหนุ่ม" ก็เลยให้เหรียญเสริมปัญญาไป บอกคาถาให้ไปภาวนา เจ้าเด็กนั่นน่าจะไม่มีที่พึ่งอะไรแล้วจริง ๆ ก็เลยว่าเสียเต็มที่เลย

เขาบอกว่าวันสอบเหมือนมีใครกางคำตอบทับอยู่หน้ากระดาษ หน้าที่ของเขาก็คือลอกให้ทันเท่านั้น อีกไม่กี่วัน ทั้งแม่ทั้งลูกเอากระเช้ามากราบขอบพระคุณ"หมอหนุ่ม" ที่ช่วย "หมอหนุ่ม" บอกว่าเป็นเหรียญของหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหมอเลย..!

ส่วนอีกรายหนึ่งตั้งใจจะสอบ ก.พ. สอบมาหลายปีแล้วไม่ติดเสียที ไปหาลูกศิษย์สายวัดท่าขนุนท่านหนึ่ง ก็ได้เหรียญเสริมปัญญาพร้อมกับคาถาไป ไอ้เวรนั่นดันจำคาถาไม่ได้..! แต่ก็อาศัยนึกถึงเหรียญอย่างเดียว แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาลุยข้อสอบไป ปรากฏว่า "ฟลุค" หรือเปล่าไม่รู้ ? สอบได้เหมือนกัน..!
ให้บูชาเหรียญละ 550 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๑๙๐
ให้บูชาหุ่นพยนต์ ของพระอาจารย์นิล อาศรมศรีชัยรัตนโคตร
ข้อมูลมีดังนี้
หลังจากเปิดตัว "หุ่นพยนต์" ผู้พิทักษ์ ของอาศรมศรีชัยรัตนโคตร ผมได้รับคำถามจากหลาย ๆ ท่านซึ่งเมื่อสรุปประเด็นแล้ว หลัก ๆ จะถามว่าหุ่นพยนต์คืออะไร ทําหน้าที่อย่างไร เหมือนหุ่นยนต์ Robot ไหม เป็นไสยศาสตร์หรือไม่ เป็นต้น
ผมคิดว่างานของครูบาอาจารย์ในระดับนี้ มีความเชื่อมโยงกันอย่างอัศจรรย์ โดยผมได้รวบรวมคำถามต่าง ๆ เพื่อจะกราบเรียนถามพระอาจารย์ แต่ยังไม่ทันได้สื่อสารกับท่าน คำตอบก็กระจ่างโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อเล็ก ได้เมตตาเล่าในกระทู้ เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายนนี้ ว่าในย่ามส่วนองค์ของท่าน มีวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังอยู่หลายรายการ และหนึ่งในนั้นคือ หุ่นพยนต์ ของท่านอาจารย์ลอย โพธิ์เงิน
จากข้อมูลที่ผมจะค้นต่อ ทำให้ทราบถึงตำนานการสร้างหุ่นพยนต์ว่ามีมาแต่ครั้งพุทธกาล โดยมีบันทึกไว้ว่าพระมหากัสสปเถระได้อธิษฐานใช้อภิญญาฤทธิ์ ก่อนท่านจะละสังขาร เสกหุ่นพยนต์ให้เฝ้าสถูปเพื่ออภิบาลพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ จนกระทั่งอีก ๒๐๐ ปีต่อมา พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ใช้กองทหารนับแสนคน เพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุออกมาบรรจุในพระมหาเจดีย์ แต่กองทหารเหล่านั้นไม่สามารถเข้าไปในสถูปได้ เพราะพ่ายแพ้ต่อหุ่นพยนต์ที่เฝ้ารักษาอยู่ จนร้อนถึงท่านปู่พระอินทร์ ต้องแปลงกายลงมาแผลงศร เพื่อคลายเวทมนต์ของหุ่นพยนต์เหล่านั้น
จากการที่ผมมีโอกาสได้รับใช้งานของครูบาอาจารย์ผมยอมรับว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่อธิบายให้เข้าใจได้ยาก และบางเรื่องอาจเป็นเหมือนนิยาย แต่ผมเชื่อโดยไม่มีข้อสงสัย มีหลายเรื่องราวที่ผมได้รับฟังจากพระอาจารย์นิล เกี่ยวกับหลวงปู่ครูบาอาจารย์ของท่าน ที่มีอภิญญาฤทธิ์ในระดับสูง แต่เล่าต่อเป็นสาธารณะไม่ได้ มีสิ่งหนึ่งที่พระอาจารย์นิลเคยกล่าวไว้คือ "วิชาต้องแก้ด้วยวิชา" เพราะบางเหตุบางปัจจัย พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จะเป็นมงคลของสูง ที่เป็นร่มใหญ่คุ้มครองเรา แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องมีเครื่องมือใกล้ตัวในการใช้ประโยชน์เช่นกัน ดังนั้นคำว่า "สรรพวิชา" จึงเป็นความเมตตาของ พ่อแม่ครูบาอาจารย์เพื่อสงเคราะห์ อนุเคราะห์ จากรุ่นต่อรุ่น แต่ทั้งนี้ท่านกำกับไว้เสมอว่า "โดยไม่เกินวิสัยแห่งกรรม"
หุ่นพยนต์ ของอาศรมศรีชัยรัตนโคตร ซึ่งพระอาจารย์นิลเมตตาเล่าว่า ครูบาอาจารย์ของท่านองค์หนึ่ง คือหลวงปู่สุภา กันตสีโล พระอริยสงฆ์ ๕ แผ่นดิน ได้สร้างหุ่นพยนต์เป็นจระเข้และแมงมุม ซึ่งทำหน้าที่ต่างกัน คือ จระเข้เฝ้าทรัพย์ และแมงมุมเรียกทรัพย์ มีผลเป็นที่ประจักษ์ แก่ผู้ครอบครองในหลากหลายมิติมากมาย จระเข้หุ่นพยนต์ของหลวงปู่สุภา จะถูกเสกและสั่งได้ว่าจะให้ทำหน้าที่แค่ไหน อย่างไร จะให้พูดรุกรานถึงแก่ชีวิต หรือเพียงบาดเจ็บ สามารถกำกับได้ตามคำสั่ง แต่เนื่องจากยุคนี้ พระอาจารย์พิจารณาว่า ภยันตรายมีอยู่รอบด้าน ทั้งอุบัติเหตุ เภทภัยจากธรรมชาติและผู้คน รวมทั้งคุณไสยด้านมืด ดังนั้นสำหรับบุคคลผู้มีศีล มีธรรม และไม่เกินวิสัยแห่งกรรมแล้ว ควรจะได้มีองครักษ์ ที่พกพาติดตัวไปได้ จึงเป็นที่มาของรูปแบบหุ่นพยนต์มิติใหม่ ดังที่ปรากฏ และขอเพิ่มเติมว่า วิชาการสร้างหุ่นพยนต์ มิใช่ไสยศาสตร์ด้านมืด แต่เป็นหนึ่งในสรรพวิชาเรื่องธาตุ และไม่ได้เป็นการเรียกวิญญาณมาอยู่ในหุ่นพยนต์ แต่เป็นการใช้วิชาและคาถาเฉพาะ ในการตั้งธาตุ หนุนธาตุ ปรับธาตุ ใส่รูปใส่นามและใส่วิญญาณธาตุ เพื่อให้ทำหน้าที่ตามสั่งการ
สำหรับหุ่นพยนต์รุ่นนี้เป็นงานขึ้นหุ่นแต่ละตนต้องทำด้วยมือครับ พระอาจารย์นิลท่านจะใช้เวลาในการทำงานพอสมควร เพราะนอกจากการขึ้นหุ่นเป็นรูปเป็นร่างแล้วยังต้องมีการบรรจุพระคาถา และมีงานซีลกันน้ำด้วย ซึ่งผมเองทราบกิตติศัพท์ของพระอาจารย์นิลมาโดยตลอด ว่างานของท่านแต่ละชิ้นงานละเอียดละออเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่างานใหญ่หรืองานเล็กท่านไม่เคยปล่อยผ่าน QC ของท่านเป็นที่ประจักษ์ ตั้งแต่ครั้งสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง สร้างพระขรรค์โสฬสรุ่น ๘๔ พรรษา ซึ่งเป็นโครงการของหลวงพ่อเล็ก จนกระทั่งปัจจุบันคือการนำสร้างวิหารทาน ณ อาศรมศรีชัยรัตนโคตร
ให้บูชา 600 (ราคาวัด 500) จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
ปล.หุ่นพยนต์สีส้มนะครับสูงประมาณ 2 นิ้ว

 

รายการที่ ๑๙๑
ให้บูชาหุ่นพยนต์ ของพระอาจารย์นิล อาศรมศรีชัยรัตนโคตร
ข้อมูลมีดังนี้
หลังจากเปิดตัว "หุ่นพยนต์" ผู้พิทักษ์ ของอาศรมศรีชัยรัตนโคตร ผมได้รับคำถามจากหลาย ๆ ท่านซึ่งเมื่อสรุปประเด็นแล้ว หลัก ๆ จะถามว่าหุ่นพยนต์คืออะไร ทําหน้าที่อย่างไร เหมือนหุ่นยนต์ Robot ไหม เป็นไสยศาสตร์หรือไม่ เป็นต้น
ผมคิดว่างานของครูบาอาจารย์ในระดับนี้ มีความเชื่อมโยงกันอย่างอัศจรรย์ โดยผมได้รวบรวมคำถามต่าง ๆ เพื่อจะกราบเรียนถามพระอาจารย์ แต่ยังไม่ทันได้สื่อสารกับท่าน คำตอบก็กระจ่างโดยพระเดชพระคุณหลวงพ่อเล็ก ได้เมตตาเล่าในกระทู้ เก็บตกบ้านเติมบุญ ต้นเดือนเมษายนนี้ ว่าในย่ามส่วนองค์ของท่าน มีวัตถุมงคลและเครื่องรางของขลังอยู่หลายรายการ และหนึ่งในนั้นคือ หุ่นพยนต์ ของท่านอาจารย์ลอย โพธิ์เงิน
จากข้อมูลที่ผมจะค้นต่อ ทำให้ทราบถึงตำนานการสร้างหุ่นพยนต์ว่ามีมาแต่ครั้งพุทธกาล โดยมีบันทึกไว้ว่าพระมหากัสสปเถระได้อธิษฐานใช้อภิญญาฤทธิ์ ก่อนท่านจะละสังขาร เสกหุ่นพยนต์ให้เฝ้าสถูปเพื่ออภิบาลพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธองค์ จนกระทั่งอีก ๒๐๐ ปีต่อมา พระเจ้าอโศกมหาราช ได้ใช้กองทหารนับแสนคน เพื่ออัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุออกมาบรรจุในพระมหาเจดีย์ แต่กองทหารเหล่านั้นไม่สามารถเข้าไปในสถูปได้ เพราะพ่ายแพ้ต่อหุ่นพยนต์ที่เฝ้ารักษาอยู่ จนร้อนถึงท่านปู่พระอินทร์ ต้องแปลงกายลงมาแผลงศร เพื่อคลายเวทมนต์ของหุ่นพยนต์เหล่านั้น
จากการที่ผมมีโอกาสได้รับใช้งานของครูบาอาจารย์ผมยอมรับว่ามีบางสิ่งบางอย่างที่อธิบายให้เข้าใจได้ยาก และบางเรื่องอาจเป็นเหมือนนิยาย แต่ผมเชื่อโดยไม่มีข้อสงสัย มีหลายเรื่องราวที่ผมได้รับฟังจากพระอาจารย์นิล เกี่ยวกับหลวงปู่ครูบาอาจารย์ของท่าน ที่มีอภิญญาฤทธิ์ในระดับสูง แต่เล่าต่อเป็นสาธารณะไม่ได้ มีสิ่งหนึ่งที่พระอาจารย์นิลเคยกล่าวไว้คือ "วิชาต้องแก้ด้วยวิชา" เพราะบางเหตุบางปัจจัย พุทธคุณ ธรรมคุณ สังฆคุณ จะเป็นมงคลของสูง ที่เป็นร่มใหญ่คุ้มครองเรา แต่ในขณะเดียวกัน เราต้องมีเครื่องมือใกล้ตัวในการใช้ประโยชน์เช่นกัน ดังนั้นคำว่า "สรรพวิชา" จึงเป็นความเมตตาของ พ่อแม่ครูบาอาจารย์เพื่อสงเคราะห์ อนุเคราะห์ จากรุ่นต่อรุ่น แต่ทั้งนี้ท่านกำกับไว้เสมอว่า "โดยไม่เกินวิสัยแห่งกรรม"
หุ่นพยนต์ ของอาศรมศรีชัยรัตนโคตร ซึ่งพระอาจารย์นิลเมตตาเล่าว่า ครูบาอาจารย์ของท่านองค์หนึ่ง คือหลวงปู่สุภา กันตสีโล พระอริยสงฆ์ ๕ แผ่นดิน ได้สร้างหุ่นพยนต์เป็นจระเข้และแมงมุม ซึ่งทำหน้าที่ต่างกัน คือ จระเข้เฝ้าทรัพย์ และแมงมุมเรียกทรัพย์ มีผลเป็นที่ประจักษ์ แก่ผู้ครอบครองในหลากหลายมิติมากมาย จระเข้หุ่นพยนต์ของหลวงปู่สุภา จะถูกเสกและสั่งได้ว่าจะให้ทำหน้าที่แค่ไหน อย่างไร จะให้พูดรุกรานถึงแก่ชีวิต หรือเพียงบาดเจ็บ สามารถกำกับได้ตามคำสั่ง แต่เนื่องจากยุคนี้ พระอาจารย์พิจารณาว่า ภยันตรายมีอยู่รอบด้าน ทั้งอุบัติเหตุ เภทภัยจากธรรมชาติและผู้คน รวมทั้งคุณไสยด้านมืด ดังนั้นสำหรับบุคคลผู้มีศีล มีธรรม และไม่เกินวิสัยแห่งกรรมแล้ว ควรจะได้มีองครักษ์ ที่พกพาติดตัวไปได้ จึงเป็นที่มาของรูปแบบหุ่นพยนต์มิติใหม่ ดังที่ปรากฏ และขอเพิ่มเติมว่า วิชาการสร้างหุ่นพยนต์ มิใช่ไสยศาสตร์ด้านมืด แต่เป็นหนึ่งในสรรพวิชาเรื่องธาตุ และไม่ได้เป็นการเรียกวิญญาณมาอยู่ในหุ่นพยนต์ แต่เป็นการใช้วิชาและคาถาเฉพาะ ในการตั้งธาตุ หนุนธาตุ ปรับธาตุ ใส่รูปใส่นามและใส่วิญญาณธาตุ เพื่อให้ทำหน้าที่ตามสั่งการ
สำหรับหุ่นพยนต์รุ่นนี้เป็นงานขึ้นหุ่นแต่ละตนต้องทำด้วยมือครับ พระอาจารย์นิลท่านจะใช้เวลาในการทำงานพอสมควร เพราะนอกจากการขึ้นหุ่นเป็นรูปเป็นร่างแล้วยังต้องมีการบรรจุพระคาถา และมีงานซีลกันน้ำด้วย ซึ่งผมเองทราบกิตติศัพท์ของพระอาจารย์นิลมาโดยตลอด ว่างานของท่านแต่ละชิ้นงานละเอียดละออเป็นอย่างยิ่ง ไม่ว่างานใหญ่หรืองานเล็กท่านไม่เคยปล่อยผ่าน QC ของท่านเป็นที่ประจักษ์ ตั้งแต่ครั้งสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง สร้างพระขรรค์โสฬสรุ่น ๘๔ พรรษา ซึ่งเป็นโครงการของหลวงพ่อเล็ก จนกระทั่งปัจจุบันคือการนำสร้างวิหารทาน ณ อาศรมศรีชัยรัตนโคตร
ให้บูชา 600 (ราคาวัด 500) จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ
ปล.หุ่นพยนต์สีชมพูนะครับสูงประมาณ 2 นิ้ว

 

แจ้งขอจองแล้วในpm เมื่อ 09.11น.ครับ

 

รับทราบครับ ขอบพระคุณมากครับ

 

รายการที่ ๑๙๒
ให้บูชาพระแม่ธรณีปางยืน ลอยองค์ ฐานอุดมวลสารศักดิ์สิทธิ์ ของพระอาจารย์นิล อาศรมศรีชัยรัตนโคตร สกลนคร
ข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้
พระแม่ธรณีเทพแห่งปฐพี
พระแม่ธรณีปางมหาปราบชัยศรี (ปางยืน) เนื้อบรอนซ์นอก บรรจุมวลสารศักดิ์สิทธิ์ใต้ฐาน จัดสร้างโดยพระครูวินัยธรธวัชชัย ชาครธัมโม ที่ระฤกเจ้าภาพกฐินสามัคคี ที่พักสงฆ์อาศรมศรีชัยรัตนโคตร
พุทธาภิเษก ๓ วาระ
ครั้งที่ 1 วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๘
พิธีเทวาภิเษก ณ ลานพระแม่ธรณี ท้องสนามหลวง
ครั้งที่ 2 วันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๘
พิธีพุทธาภิเษก ณ วัดชมภูเวก จ.นนทบุรี
และครั้งที่ 3 วันที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๖๘
พิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร จ. สกลนคร โดยพระคณาจารย์ ได้แก่
1 พระครูวิลาศกาญจนธรรม ,ดร. (หลวงพ่อเล็ก) วัดท่าขนุน
2 พระครูธวัชชัย ชาครธัมโม (หลวงพ่อนิล) อาศรมศรีชัยรัตนโคตร
3 พระอาจารย์ศิริชัย ชยธมฺโม (พระอาจารย์บ๊ะ) วัดโพธิ์ลังกา
4 พระอาจารย์เอกลักษณ์ ปญฺญาคโม วัดพุทธพรหมยาน

ข้อมูลเกี่ยวกับพระแม่ธรณีและดำริการจัดสร้าง
พระแม่ธรณี หรือเทพธิดาประจำแผ่นดิน, เจ้าแม่แห่งแผ่นดิน
พระศรีวสุนธรา หรือที่เรียกขานกันในนาม “พระแม่ธรณี หรือ พระแม่ธรณีบีบมวยผม” เป็นที่เคารพนับถือว่าเป็นเทพแห่งพื้นแผ่นดิน มีปรากฏในตำนานทั้งศาสนาพราหมณ์, ฮินดู และพุทธศาสนา โดยเชื่อว่า "แผ่นดิน" เป็นจุดก่อเกิดสรรพสิ่งทั้งปวงในโลก จึงเปรียบเสมือน "มารดา" ผู้หล่อเลี้ยงโลก และยกย่องเป็นเทพีผู้ค้ำจุนโลก และสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์
พระแม่ธรณี ยังปรากฏความสำคัญในพุทธประวัติ กล่าวคือ … ในคืนที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสรู้ พญามารวัสดีและกองทัพมารเข้ารบกวนโดยอ้างเอาบัลลังก์เป็นของตน พระพุทธองค์ทรงเปล่งวาจาอ้างเอา “ธรณี” เป็นพยาน จากนั้นมีเสียงดังกัมปนาท แผ่นดินสั่นสะเทือนเลื่อนลั่น พระแม่ธรณีต้องปรากฏกายเป็นพยานเอก แสดงการบิดน้ำจากมวยผมเพื่อแสดงให้เห็นถึงกุศลที่พระพุทธองค์กระทำมาตั้งแต่อดีตชาติ จนน้ำที่กรวดลงบนพื้นแล้วแม่ธรณีรับไว้นั้นมากถึงขั้นเป็นมหาสมุทร พัดเอาเหล่าพญามารกระจัดกระจายหายไป… ต้นเหตุนี้ทำให้เกิด ‘พระพุทธรูปในปางมารวิชัย’ ขึ้นในกาลต่อมา
ขณะที่ทั่วโลกกำลังเเผชิญหน้ากับภัยพิบัติมากมาย รวมถึงภาวะสงครามที่กำลังคุกกรุ่น พระอาจารย์นิลท่านได้จัดสร้างพระแม่ธรณีขึ้นเป็นวาระพิเศษ เพื่อปกปัก คุ้มครอง ป้องกัน รักษาบ้านและแผ่นดิน ภายในบรรจุมวลสารหายาก
ขนาดที่จัดสร้างจะมี ขนาดห้อยคอ 1' นิ้ว ขนาดบูชามี 2' ขนาด 5 นิ้วและ 9 นิ้ว

คาถาบูชาพระแม่ธรณี

(นะโม ๓ จบ)
ตัสสา เกษีสะโต ยะถาคงคา โสตัง ปะวัตตันติ มาระเสนา ปฏิฐาตุง อาสักโกณโต ปะลายิงสุ ปะระมิตานุภาเวนะ มาระเสนา ปะราชิตา ทิโสทิสัง ปะลายันติ วิทังเสนติ อะเสสะโต

ให้บูชา 600 (ราคาวัด 499) จัดส่ง 50 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๑๙๓
ให้บูชาผ้ายันต์ธงมหาลาภ สีแดง(แรงฤทธิ์)พร้อมซองเดิม
ข้อมูลสำหรับรุ่นนี้มีดังนี้
สำหรับธงนี้จัดสร้างขึ้นเป็นกรณีพิเศษของท่านพระครูวิลาศกาญจนธรรม ดร. เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน และเข้าพิธีเสกเดี่ยวที่วัดท่าขนุน ครับ วันเสกพระอาทิตย์ทรงกลดด้วยครับ

ถาม : เรื่องความมั่นใจ ในวัตถุมงคลนี่ว่ากันไม่ได้เลยนะครับ เชื่อแล้วเชื่อเลย ?
ตอบ : พวกเรื่องประสบการณ์วัตถุมงคล ส่วนใหญ่พอคนเขาพบอย่างไหนมาโดยตรง ก็เกิดความศรัทธาเลื่อมใสมาก
ถาม : ล่าสุดนี่ชัดเจนเลย ที่หลวงพ่อเคยสอนตอนที่บวช ทำเป็นธงมหาลาภผืนครูไว้สำหรับค้าขาย ให้น้องเอาไปใช้ รุ่นพี่ของเขายืมธงนี้ไปใช้อีกที อาราธนาพกติดตัวชิ้นเดียวไปประมูลงานแข่งกับเขา ปรากฏว่าชนะการประมูล ได้มาสองพันกว่าล้าน ทีนี้เลยโดนยึดธงไปเลย เงินก็ไม่แบ่งให้ด้วย ?
ตอบ : ธงยึดไปไม่เป็นไร แต่ควรที่จะแบ่งเงินเราบ้าง...(หัวเราะ)
ถาม : กราบขออนุญาตนำไปทำให้พระอาจารย์นิลออกเป็นกฐินของอาศรมฯ ปีนี้ เข้าพุทธาภิเษกสิ้นเดือนพร้อมกับของมูลนิธินะครับ ?
ตอบ : มั่นใจนะว่าทำทัน ? ถ้าทันก็เอาเลย จะได้มีเงินล้านกันทุกคน
จากเก็บตกบ้านเติมบุญ

ให้บูชา 400 จัดส่ง 40 จองได้สามวันครับ

 

รายการที่ ๑๙๔
ให้บูชาผ้ายันต์ปลาอานนท์ ของ วัดบ้านห้วยน้ำขาว (รุ่นแรก) ขนาด 8x11.5 นิ้ว โดยประมาณ
ข้อมูลของรุ่นนี้มีดังนี้
ฤกษ์ในการพุทธาภิเษก-เทวาภิเษกวัตถุมงคลในเดือนตุลาคม ๒๕๖๑ หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน พระอาจารย์เอกลักษณ์ วัดพุทธพรหมยาน พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา และครูบาอาจารย์อีกหลายองค์ ร่วมนั่งอธิฐานจิต ณ วัดบ้านห้วยน้ำขาว จ.กาญจนบุรี อานุภาพ พลิกชะตา หนุนดวง ***พระอาจารย์บ๊ะเมตตาเล่าให้ฟังว่า แค่มึงพกก็พลิกชีวิตให้ดีขึ้นทันที โดยไม่ต้องอธิฐานอะไร(หลวงพ่อเล็กท่านไปหาพระอาจารย์บ๊ะเพื่อให้ช่วยรักษาโรค*** ..พลิกชะตา หนุนดวง.. ตำนานปลาอานนท์ ปลาอานนท์มีอายุมายาวนาน เกือบหนึ่งอสงไขย์ (200 ล้านปี)อันโบราณกาล มีเรื่องเล่าขานกันว่า ปลาอานน"หรือ"ปลาอานนท์" นี่เป็นปลาที่เกิดขึ้นตั้งแต่สมัยสร้างโลกใหม่ๆ เป็นปลาที่มีภาระหนักมาก เพราะจะต้องแบกน้ำหนักของโลกไว้" ปลาอานน มีร่างกายใหญ่โตโอฬารมากมาย เหลือคณา เล่ากันว่าหากวัดความยาวของปลาอานนท์ นี้นับได้เป็นพันๆ โยชน์ ปลา อานน นิ่งสงบ และแบกโลกไว้ แต่อยู่มาก็อาจจะเกิดความเมื่อยขบ ก็เลยพลิกตัวบ้าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบทที่ได้แบกโลกไว้ก็เลยทำให้เกิดแผ่นดินไหว ภัยพิบัติเหนือผิวโลก ลมฟ้าแปรปรวน นี่แหละคือสาเหตุที่ทำให้เกิดแผ่นดินไหว ปลา หิมพานต์ มีปลาใหญ่ 7ตัว ชื่อตามลำดับไหล่ ติรณะ ติมิงคละ ตรปิงคละ อานนท์ นิรยะ อัชฌนาโรหะ และ มหาติมิ ปลาอานนท์ ชื่อลำดับที่ 4 ตัวใหญ่มาก หนุนชมพูทวีป เวลาแผ่นดินไหว ผู้ใหญ่เคยเล่าว่าปลาอานนท์กระดิกตัว 7 ปลาผู้ยิ่งใหญ่ ตัวเล็กที่สุด ยาว 75 โยชน์ ตัวใหญ่ ยาวถึง 5 พันโยชน์ เวลากระดิกหาง ทะเลก็จะปั่นป่วนตีฟอง ดังหม้อแกงเดือดไกลไปตั้ง 800 โยชน์ ที่น่าแปลกใจ จินตนาการโบราณ มีปลาใหญ่หนุนโลกอยู่ 7ตัว วันนี้ วิชาธรณีวิทยาพบว่า แผ่นดินที่เราอยู่บนเปลือกโลกต่อกันเป็นทอดๆ 8 แผ่น ลอยอยู่บนก๊าซที่เป็นของเหลว ใกล้เคียงกับปลาอานนท์ที่หนุนโลกอยู่ จึงใช้เคล็ดนี้ในการหนุนดวง พลิกชะตา

ให้บูชาองค์ละ 500 จัดส่ง 40 จองได้สามวัน
++วิชาปลาอานนท์พลิกดวงชะตาเป็นวิชาเอกวิชาหนึ่ง ของ หลวงพ่อใจ วัดพระยาญาติ สมุทรสงคราม ปลาอานนท์ที่ออกวัดพระยาญาติบูชากันเป็นพัน ๆ ใช้รุ่นนี้แทนได้ครับ เพราะยันต์ด้านหลังตัวปลา หลวงพ่อใจเมตตาเขียนยันต์ออกแบบให้โดยตรงครับ
พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกาท่านยังแนะนำให้ผู้ที่ดวงไม่ดีพกเลยครับ ท่านว่าแค่พกเฉยๆก็ดีขึ้นแล้ว

 

รายการที่ ๑๙๕
รายการฝาก
ให้บูชาเรือใบมหาลาภเรียกทรัพย์ ของ หลวงปู่ม่วง วัดยางงาม จ.ราชบุรี สูงจากฐานถึงยอดธง 23 นิ้ว ความยาว 16 นิ้ว ความกว้างของตัวเรือ 3 นิ้ว หลวงปู่ม่วงท่านจารอักขระยันต์ตลอดลำเรือ เป็นวัตถุมงคลอีกอย่างของหลวงปู่ม่วง วัดยางงาม ที่ไม่ค่อยได้พบเจอและการจัดสร้างน้อยมาก และเป็นที่ต้องการของพ่อค้าที่เป็นลูกศิษย์ของท่านมาก
หลวงปู่ม่วง วัดยางงามท่านเป็นสหธรรมิกกับหลวงปู่หยอด วัดแก้วเจริญ ซึ่งมีพระอาจารย์องค์เดียวกันคือ หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ ที่สำคัญท่านมรณภาพแล้วสรีระไม่เน่าเปื่อย ที่ใบหน้าของท่านเหมือนมีพระธาตุขึ้นด้วยนะครับ พระอาจารย์บ๊ะ วัดโพธิ์ลังกา ท่านบอกว่า ถ้าเป็นปู่ม่วงท่านเก็บหมด โคตรดีเลย

เรือใบ หรือเรือสำเภานั้น คนจีนที่ค้าขายหรือต้องการโชคลาภให้ความนิยมเป็นอย่างมากเพราะ คนจีนที่เชื่อเรื่องฮวงจุ้ยนั้นเชื่อกันว่าเรือใบจะทำให้การเสริมฮวงจุ้ยเรื่องการเงิน ทำให้ค้าขายคล่อง ไม่ติดขัด เรือสำเภาจีนจำลองเป็นของมงคลที่ใช้เสริมฮวงจุ้ยเรื่องการค้าขาย เสริมให้ธุรกิจราบรื่น และทำให้การเงินราบรื่น ไม่ติดขัดอะไร ซึ่งส่วนมากแล้วร้านค้าหรือบริษัททุกที่มักจะมีเรื่อสำเภาไว้ตั้งโชว์ เพื่อใช้เสริมพลังฺฮวงจ้ยให้กับธุรกิจของตัวเอง หรือแม้กระทั่งบ้านก็ยังนิยมนำเรือสำเภาจีนไปตั้งไว้เพื่อให้เสริมพลังฮวงจุ้ยเรื่องการเงิน ยิ่งถ้าได้เรือสำเภาที่ผ่านการปลุกเสกหรือทำพิธีแล้วยิ่งดีเข้าไปใหญ่ การตั้งเรือสำเภาจีนนั้น จะต้องให้เรือสำเภาหันหน้าเข้าสู่ด้านใน เพื่อเป็นเสมือนสัญลักษณ์ของการค้าขายที่นำเงินนำทองเข้าสู่ด้านในร้านค้า หรือสำนักงาน ห้ามหันหัวเรือออกสู่ประตูหรือหันออกด้านนอกโดยเด็ดขาด เพราะนั้นจะกลายเป็นความหมายให้กำไรและการค้าขายไหลออกไปด้านนอกจนหมดสิ้น
ในบ้านพักสำนักงานของ พ่อค้าชาวจีน เจ้าของธุรกิจร้านค้า เศษรฐี มหาเศษรฐี ผู้หลักผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจวาสนาชาวไทยเชื้อสายจีนและผู้รู้เรื่องฮวงจุ้ย เรามักจะพบเห็น เรือสำเภา วางไว้ด้วยเป็น ตำแหน่งเสริมมงคล “ผู้ที่มีเรือไว้ในครอบครอง ชีวิตจะประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรือง และอุดมสมบูรณ์ด้วยความมั่งคั่ง”

รายการนี้เป็นรายการฝากครับ

เจ้าของฝากมาที่ 5000 จัดส่ง 200 จองได้สามวันครับ