ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

มีหลาย ๆ ท่านที่อ่านแล้วเกิดความสับสนสงสัยถามกันเข้ามามากที่อีเมลล์ผู้เขียนว่าเด็กคนนี้เป็นลูกใคร พบได้ที่ไหน ขออนุญาตตอบเป็นกระทู้ใหม่ ณ ที่นี้เลยก็แล้วกันนะคะ เพราะท่านที่อีเมลล์ถามมาคงไม่ได้ย้อนกลับไปอ่านกระทู้เก่าซ้ำ ขอเรียนทุกท่านค่ะว่าเด็กคนนี้เป็นลูกสาวของดิฉัน (ศศิริยะ)ผู้เขียนเองค่ะ) จริง ๆ แล้วน้องเขาไม่ได้รับดูใครเป็นอาชีพนอกจากคนใกล้ชิด แต่เนื่องจากมีเสียงเรียกร้องผ่านเมลล์มาจำนวนมากที่กำลังมีความทุกข์อยากเจอน้องเขา ดิฉันก็เลยลองถามเขาดูให้แล้ว ไม่แน่ค่ะน้องเขาอาจให้พบเป็นการเฉพาะกิจสำหรับท่านที่อ่านจากเวปนี้ในตอนปิดเทอมนี้เท่านั้นก็ได้ค่ะ แต่ช่วงนี้จนถึงสิ้นเดือนน้องเขาคงยังไม่สามารถพบใครได้ เนื่องจากขณะนี้กำลังสอบปลายภาคเรียนอยู่จนถึงสิ้นเดือน พ.ค จะปิดเทอมมีเวลาก็ช่วงเดือน มิ.ย.จนถึง ก.ค. ค่ะ ( น้องเขาเรียนโรงเรียนนานาชาติค่ะเลยปิดเปิดเทอมไม่เหมือนโรงเรียนไทย) อย่างไรแล้วจะพยายามติดต่อกลับทุก ๆ ท่านที่ติดต่อเข้ามาให้ครบนะคะ รบกวนรอสักนิดนะคะ ขอบคุณมากค่ะ (ท่านใดอยากทักทายหรือสนทนาธรรมกันรบกวนฝากข้อความและอีเมลล์ของท่านไว้ที่กระทู้นี้ก่อนชั่วคราวนะคะ แล้วจะพยายามเข้ามาดูบ่อย ๆ และจะติดต่อกลับไปค่ะ .....ขอบคุณทุกๆท่านมากค่ะที่ให้ความสนใจในบทความของผู้เขียน

. ...........ศศิริยะ.................

**********************************************
<!-- / message -->

 

แรงบุญแรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง (เรื่องจริงที่เกิดขึ้น)

แรงบุญแรงกรรม.....ใครว่าไม่มีจริง (เรื่องจริง)
<o></o>
คงมีหลายๆท่านที่อาจจะยังคงจำชื่อผู้เขียนได้จากบทความที่ผ่านตามาบ้างแล้ว


เรื่อง นรก..ใครว่าไม่มีจริง

วันนี้ได้มีโอกาสแวะเวียนมาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงให้ทุกท่านได้อ่านกันอีกครั้ง
เป็นเรื่องเกี่ยวกับกรรม ซึ่งเป็นเรื่องจริง มีตัวบุคคลจริงทุกเรื่องราว

ซึ่งผู้เขียนต้องขออนุญาตบุคคลที่เกี่ยวข้องในเรื่องผ่านบทความนี้เพื่อขอนำมาเผยแพร่เป็นอุทาหรณ์ให้กับท่านผู้อ่านทุกท่าน
<o></o>
เรื่องของกรรมในอดีตชาติ ปัจจุบันชาติ หลาย ๆ ท่านอาจคิดว่าไม่น่าส่งผลอะไรมากมายกับชีวิต ที่ทุกวันนี้คนเราต้องประสบชะตากรรมปัญหาหลากหลาย อาจมาจากสาเหตุสิ่งแวดล้อมของชีวิต ณ ขณะนั้น ก็อาจเป็นได้


แต่วันนี้ผู้เขียนเชื่อว่าหลังจากที่ทุกท่านอ่านบทความนี้ อาจต้องเปลี่ยนมุมมองของชีวิตใหม่ดังเช่นผู้เขียนในวันนี้เช่นกัน

<o></o>
ผู้เขียนมีลูกสาวหนึ่งคนอายุ 13 ปี

ลูกสาวคนนี้แหละที่ทำให้มุมมองของชีวิตผู้เขียนต้องเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง เพราะเธอเป็นเด็กที่มีอภิญญา สามารถล่วงรู้ทุกสิ่งทุกอย่างได้ตั้งแต่อายุ 7 ปี

ไม่ว่าเรื่องราวในอดีตชาติ ปัจจุบัน และสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งเธอยังไม่เคยพูดอะไรในสิ่งที่ผ่านมาหรือล่วงหน้าผิดแม้แต่ครั้งเดียว

จนเป็นที่ยอมรับในหมู่นักปฎิบัติมากหน้าหลายตาและบุคคลอื่น ๆ ที่มีโอกาสได้รู้จักเธอ ไม่ว่าเรื่องราวของชีวิตของแต่ละคน
เรื่องการเมืองทั้ง ๆ ที่ไม่เคยรู้เรื่องราวข่าวสาร แม้เรื่องภัยพิบัติก็ยังไม่เคยพลาดจนเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่นักปฏิบัติ


ที่สำคัญเธอสามารถรู้ต้นเหตุแห่งกรรมของคนที่กำลังทุกข์ในเรื่องราวนั้น ๆ ว่าเกิดจากกรรมในอดีตชาติใดส่งผล และสามารถบอกวิธีแก้ไขขออโหสิแห่งกรรมนั้นสำเร็จมาอย่างงดงามมากหน้าหลายตา


ผู้เขียนขอยกบางเรื่องราวของบางท่านที่ลูกสาวผู้เขียนได้มีโอกาสช่วยเหลือมาเล่าสู่กันฟังเพื่อเป็นอุทาหรณ์สอนใจ เพราะถ้าทุกเรื่องราวคงไม่ไหว


ผู้เขียนได้มีโอกาสรู้จักกับครอบครัวๆหนึ่ง ซึ่งเขารู้จักผ่านคนที่รู้จักผู้เขียนมาอีกที

เขาไปได้ยินเรื่องราวของลูกสาวผู้เขียนเข้าจึงอยากขอพบ เพราะกำลังมีเรื่องเดือดร้อน

เมื่อมีโอกาสเจอกัน ลูกสาวของผู้เขียนก็ได้เห็นกรรมที่กำลังส่งผลให้ชายคนนี้และครอบครัวกำลังเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย ซึ่งเขาก็ยอมรับว่าใช่ เธอเห็นอดีตชาติของชายท่านนี้กำลังจุดไฟเผาบ้านของคน ๆ หนึ่งอยู่ ซึ่งเขาจองกรรมส่งผลมา ณ ปัจจุบันชาติ ทำให้ครอบครัวต้องมีอันเดือดร้อนเรื่องที่อยู่อาศัย ธนาคารกำลังฟ้องจะยึดและต้องการให้ชำระทั้งต้นและดอกเบี้ย ซึ่งเขาไม่สามารถและยื้อกันมาเป็นปี ๆ


แล้ว สุดท้ายเขาบอกว่าเขาเชื่อว่าสิ่งที่ลูกสาวผู้เขียนพูดนั้นต้องจริงแน่นอน เพราะชาตินี้เขาก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าทำไมเวลาเจอรังมดรังผึ้งอะไรก็แล้วแต่ เขาจะชอบจุดไฟเผาทั้ง ๆ ที่ไม่ได้มีเจตนาร้ายกับสัตว์เลย วันนั้นเลยทำให้เขาเข้าใจคำว่าจิตดวงเดิม ที่ชอบทำในสิ่งที่เคยกระทำมาในอดีตภพได้อย่างกระจ่าง

ลูกสาวของผู้เขียนเองก็ถามเจ้ากรรมนายเวรของชายท่านนี้ว่าต้องการให้เขาชดใช้อย่างไรจึงจะยอมอโหสิกรรมซึ่งกัน เพราะบัดนี้เขาสำนึกในกรรมนั้น ๆ แล้ว เมื่อได้รับทราบวิธีมา ชายท่านนั้นก็ตั้งใจไปทำตามที่ลูกสาวผู้เขียนบอก หลังจากทำเสร็จตามวันเวลาที่กำหนด สิ่งเหลือเชื่อก็บังเกิดขึ้น ชายท่านนั้นเล่าให้ฟังว่าก่อนไปทำตามที่บอกธนาคารยังตามจะยึดให้ได้


พอหลังจากครบวันที่ไปทำ เขาตัดสินใจไปศาล และเซ็นชื่อยกบ้านให้ธนาคารยึด เพราะนึกถึงคำพูดที่ลูกสาวผู้เขียนได้พูดกับเขา แต่แล้วแรงบุญที่ทำการขออโหสิส่งผลให้เขาอย่างเหลือเชื่อ

เพราะวันรุ่งขึ้น ธนาคารตามไปที่บ้านบอกขอยกบ้านคืนให้ ไม่ขอยึดอีกแล้ว เงินต้นมีเท่าไหร่ จะจ่ายเท่าไหร่ก็ได้ไม่ว่า ดอกเบี้ยยังไม่ต้องจ่ายแล้ว


เขาบอกกับทุกคนว่า เขาเชื่อแล้วว่าแรงกรรมและแรงบุญมีจริง จะขอปฏิบัติแต่ในสิ่งที่ดีต่อไป สาธุ


<o></o>
มนุษย์เรามักจะคิดเสมอว่าสร้างกรรมแล้ว ตายไปก็สูญ
จากเรื่องราวนี้คงแสดงให้เห็นแล้วว่า แรงกรรมมีจริง ไม่ว่าเราท่านทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องได้รับการชดใช้ในกรรมนั้น ๆ ไม่ขาดไม่เกิน เพียงแต่จะชาติใดภพใดเท่านั้น หากยังไม่สามารถรู้และทราบวิธีขออโหสิซึ่งกันและกัน ก็ยังคงต้องเวียนว่ายตายเกิดชดใช้กรรมกันไปเรื่อย ๆ แล้วก็คิดว่าเป็นเหตุบังเอิญโชคไม่ดีของชีวิตแค่นั้น



วันนี้ผู้เขียนเองได้ทราบกรรมของหลาย ๆ ท่าน ได้เห็นผลด้วยตัวเองแล้วคงต้องใช้ชีวิตอย่างสำรวมมากขึ้น เพราะเราไม่อาจรู้ได้เลยว่าวันใดกรรมตัวใดที่เราสร้างจะส่งผลทุกข์เวทนาให้กับชีวิต

<o></o>
อีกรายที่อยากจะนำมาเป็นบทเรียนกฎแห่งกรรม เป็นคุณแม่ของคนที่ผู้เขียนเองก็ไม่เคยรู้จักอีกนั่นแล


ลูกสาวเขานำภาพคุณแม่ของเขามาให้ลูกสาวผู้เขียนดู
บอกกำลังป่วยอยู่เพียงแค่นั้น

เธอเห็นอดีตกรรมของคนในรูปทันทีว่าเคยเกิดเป็นนักเลงระดับหัวหน้าเชียว

เขาเห็นภาพกำลังนำลูกน้องหกเจ็ดคนเอาไม้ท่อนใหญ่กำลังกระหน่ำฟาดไปที่ขาบริเวณใกล้หัวเข่าของชายคนหนึ่งอยู่
ทำร้ายจนชายคนนั้นหมดสติขาดใจตาย

ทันทีที่เธอทำมือจับบริเวณขาที่ไปตีเจ้ากรรมนายเวร ลูกสาวเธอก็บอกว่าเธอเชื่อแล้วว่าแม่เธอต้องเคยเป็นและทำอย่างที่ลูกสาวผู้เขียนพูด

เพราะขณะนี้คุณแม่ของเธอบาดเจ็บที่บริเวณที่บอกอย่างไม่มีสาเหตุ อยู่ ๆ เนื้อถูกกินลึกลงๆเรื่อย ๆ และรอบบริเวณก็ปวดบวม แพทย์หาสาเหตุไม่พบว่าเพราะเชื้ออะไรเนื้อจึงถูกกินลึกลงไปเรื่อย ๆ และอยู่ ๆ ไม่ได้เป็นอัมพฤกอัมพาต เส้นเลือดไม่แตกไม่ตีบ

แต่อยู่ ๆ นิ่งไปเฉย ๆ ขยับเขยื้อนตัวช่วยตัวเองไม่ได้ต้องนอนให้คนดูแลเหมือนคนอัมพาตมาปีกว่าแล้ว แพทย์ก็ไม่สามารถรักษาให้ดีขึ้นได้


เขาบอกด้วยจิตสำนึกที่ดีว่าเมื่อคุณแม่เขาเคยทำกรรมในอดีตมาแบบนี้ก็สาสมแล้วกับความทุกข์ทรมานในชาตินี้ซึ่งก็ไม่ได้มีอะไรมากเกินกว่าที่ชายคนนั้นได้รับในอดีตชาติเลย

ตอนแรกที่ลูกสาวผู้เขียนคุยอยู่เขาว่าเจ้ากรรมนายเวรจะไม่ยอมอโหสิไม่ยอมให้แก้ไขกรรมชดใช้ ต้องอ้อนวอนกันอยู่พอสมควรจนเจ้ากรรมนายเวรยอมบอกวิธีแก้ไขกรรมมา คงเห็นลูกสาวเขาก็สำนึกด้วยจิตที่ดีด้วยกระมัง


รายนี้กรรมหนักหน่อย เขาให้ไปทำตามที่บอกสามเดือน

เขาเล่าให้ผู้เขียนฟังว่าเมื่อเขากลับไปเล่าให้คุณแม่เขาฟังทั้งคู่มีจิตสำนึกที่ดีรีบทำตาม บอกยอมชดใช้ทุกอย่างขอเพียงให้จบกรรมกันในชาตินี้ก็พอใจแล้ว


ผลเมื่อเขาตั้งใจปฏิบัติตามในสิ่งที่เจ้ากรรมนายเวรขอได้เพียงสองอาทิตย์ อยู่ ๆ คุณแม่ของเขาลุกขึ้นมานั่งได้เองโดยไม่ต้องมีคนช่วยจับ เขาบอกทุกคนในครอบครัวตื่นเต้นดีใจมากร้องไห้กันทั้งบ้าน


เพราะไม่คิดว่าจะมีโอกาสนี้แล้ว แค่ให้คุณแม่เขาดีขึ้นไม่นอนเจ็บปวดทรมานอีกก็พอใจแล้ว เมื่อผลปาฎิหาริย์เกิดขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์


เขาว่าทุกคนก็ยิ่งพากเพียรปฏิบัติตามคำบอกของลูกสาวผู้เขียนต่อ ผลพอพาคุณแม่ไปล้างแผลเปิดแผลออกมา เนื้อที่เมื่อก่อนเจอลูกสาวผู้เขียนยังไม่มีวี่แววจะหายจากการถูกกัดลึกลงด้วยซ้ำ กลับเติมเต็มขึ้นมาอย่างเหลือเชื่อจนแพทย์ก็ยังงุนงง ครบเดือน


เขาโทรมาขอบคุณลูกสาวผู้เขียนด้วยเสียงดีใจจนพูดไม่ถูก เขาบอกอยู่ ๆ คุณแม่เขาลุกขึ้นมายืนเองได้แล้ว เขาบอกเขาจะโทรมาบอกน้องว่าสิ่งที่น้องบอกให้ทำสามเดือน เขาไม่ทำแล้วสามเดือน แต่คุณแม่ของเขาจะตั้งใจปฏิบัติต่อไปตลอดชีวิต สาธุ
<o></o>
เพราะรู้แล้วว่าเวรกรรมมีจริง บาปบุญก็มีจริง ทำกรรมใดไว้ก็ได้รับแบบนั้นไม่มีขาดไม่มีเกิน



และเรื่องสุดท้ายที่ผู้เขียนจะขอหยิบยกมาให้ได้ทราบกันเป็นคนในครอบครัวของผู้เขียนเอง


เป็นคุณป้าของลูกสาวผู้เขียนเอง อยู่ ๆ เกิดปวดท้องลำไส้ทะลุ ต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนที่โรงพยาบาลเอกชนมีชื่อแห่งหนึ่งหัวถนนคอนแวนต์ สุดท้ายกลายเป็นเนื้อร้ายหรือเรียกมะเร็งนั่นเอง ต้องตัดลำไส้ทิ้งถึงสามเมตร ชิ้นเนื้อร้ายใหญ่พอ ๆ กับลูกมะพร้าวย่อม ๆ ทีเดียว หลังจากออกจากโรงพยาบาลผ่านไปสามเดือนแผลที่ผ่าต้องไปโรงพยาบาลล้างแผลทุกวันไม่มีทีท่าว่าจะสมานปิด ซึ่งยาวจากใต้หน้าอกไปจนถึงสะดือ


สุดท้ายคุณป้าบอกหลานว่ายังไม่อยากตายจะทำไงดี

หลานเลยบอกเขาเห็นเจ้ากรรมนายเวรคุณป้าเป็นไก่ตัวหนึ่งนะ เห็นภพนั้นป้าเป็นผู้ชายยืนอยู่หน้าโต๊ะตัวหนึ่งมีไก่ตัวหนึ่งวางอยู่ มีชามเลือดเล็ก ๆ ไม่รู้ว่าคุณป้าทำอะไรอาชีพอะไร แต่ภาพที่เห็นคือกำลังควักไส้ของมันออกมาตัดทิ้ง แล้วยัดอะไรไม่รู้กลับไปในท้องไก่เย็บปิดเหมือนเดิม


โอ้อนิจจา บาดแผลที่คุณป้าโดนผ่าและลำไส้ที่ถูกตัดทิ้งไปไม่ได้ต่างกับการผ่าท้องไก่เลย


ทั้ง ๆ ที่ลูกสาวผู้เขียนไม่เคยเปิดดูแผลคุณป้าเธอด้วยซ้ำ ไม่ทราบด้วยว่าถูกตัดไส้ออกไปสามเมตร


เธอบอกเขาจะยอมอโหสิให้นะแต่ต้องทำในสิ่งที่เขาต้องการชดใช้ แล้วครบวันเขาจะยอมอโหสิให้ ป้าจะหายนะ แต่ถ้าไม่ทำ เขาจะทำให้เป็นหนักขึ้นด้วยแรงกรรมให้ถึงกับชีวิต


วันที่เริ่มปฏิบัติตามคำบอกของหลานเขาให้ใส่เสื้อผ้าขาวด้วย แพทย์ที่โรงพยาบาลก็เกิดความสงสัยว่าทำไมต้องใส่เสื้อผ้าสีขาวทุกวัน


พี่สาวผู้เขียนจึงเล่าให้คุณหมอฟัง ด้วยท่าทีทีแรกเริ่มคงไม่ค่อยเชื่อเรื่องราวแบบนี้เนื่องจากแพทย์ก็ต้องเป็นวิทยาศาสตร์

อันดับแรก คุณหมอก็หัวเราะแบบคนอารมณ์ดี แล้วบอกเอ๊า เรามาร่วมพิสูจน์กัน และแล้ววันเวลาผ่านไปสามอาทิตย์แห่งการปฏิบัติชดใช้กรรม อยู่ ๆ แผลที่ไม่มีแววสมานกันมากว่าสามเดือนกลับค่อย ๆ สมานขึ้น


คุณหมอเริ่มแปลกใจ และอดทนรอดูผล สุดท้ายคุณหมอบอกว่า คาดตามหลักวิทยาศาสตร์การแพทย์คิดว่าน่าจะปิดสนิทต้นหรือกลางเดือนหรือภายในเดือนเมษานะ พร้อมถามวันที่ครบกำหนดตามที่พี่สาวผู้เขียนเล่าให้ฟังแต่แรก ว่าเมื่อไหร่พี่สาวผู้เขียนก็บอกครบพอดีก็วันที่ 18 มีนา


สรุปคุณหมอบอกมารอดูกันว่าจะเป็นอย่างไร สุดท้ายวันที่ 17 มีนา แผลยังเปิดไม่สมานกันอยู่ยาวพอควร ซึ่งอาจต้องใช้เวลาตามที่คุณหมอคาดคะเน แต่พอวันที่ 18 มีนาซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดตามที่ลูกสาวผู้เขียนบอกพอดี

เช้าคุณหมอเปิดแผลออกมา ปาฎิหาริย์เกิด แผลปิดสนิททุกอนู อย่างไม่น่าเป็นไปได้


จนคุณหมอบอกผมไม่รู้จะใช้คำว่าอะไรนอกจากอัศจรรย์เหลือเกิน ผมอยากเจอหลานคุณคนนี้เหลือเกิน


ไม่เพียงแค่นั้น ปกติ ทุกรายหลังตัดมะเร็งเดือนสองเดือนอาจเกิดเชื้อขึ้น ต้องเคโม ซึ่งก็ไม่ได้รองรับว่าจะหายจากมะเร็ง

แต่วันนั้นก่อนเริ่มปฎิบัติตามคำขอจากเจ้ากรรมนายเวร คุณป้าเธอก็กลัวตายกลัวซีทีสแกนแล้วเจอเชื้อร้ายอีก


เลยถามหลานจะทำอย่างไรดี เธอว่าพญานาคราชผู้เป็นใหญ่ที่เมืองบาดาลแห่งหนึ่งส่งกระแสบอกเธอมาว่าให้คุณป้ารีบทำตามที่ไก่ตัวนั้นขอ แล้วกินยาอะไรเป็นน้ำสีเหลือง ๆ ที่ป้ากินอยู่ให้เพิ่มเป็นสี่เท่าต่อวันแล้วป้าจะหายจะไม่ตาย ซึ่งขณะที่เธอพูดเธอก็ไม่เคยรู้เลยว่าคุณป้าทานยาอะไรเพราะไปโรงเรียนทุกวัน

พอคุณป้าได้ยินถึงกับสะดุ้งเพราะผู้เขียนให้เขาทานยาสมุนไพรตัวหนึ่งที่ทราบมาจากครูบาอาจารย์ชนิดหนึ่งซึ่งเขานำไปผสมน้ำมีสีเหลืองจริง ๆ


แต่ผู้เขียนให้เขาทานคงน้อยเกินไป ลูกสาวจึงบอกท่านให้เพิ่มเป็นสี่เท่า ตอนแรกเท่าเดียวก็แทบไม่อยากทานเพราะกลิ่นสมุนไพรตัวนั้นคงไม่ถูกรสชาติ กว่าจะทานได้เป็นชั่วโมง พอหลานพูดถูกความกลัวตายถึงกับรีบซดอย่างง่ายดาย พร้อมบอกคุณหมอที่โรงพยาบาลด้วยว่าขอยังไม่เคโม ขอทดลองตัวนี้ก่อนตามที่หลานบอก


คุณหมอก็ขอร่วมท้าพิสูจน์

สองเดือนถัดมา เข้ารับการซีทีสแกน ผล คุณหมอจับมือดีใจแสดงความยินดีกับพี่สาวผู้เขียนเป็นการใหญ่ด้วยความตื่นเต้นดีใจ เพราะตรวจหาเชื้อมะเร็งไม่เจอแม้เซลล์เดียว หายจากโรคมะเร็งได้ด้วย


ปาฏิหาริย์แห่งบุญ ปาฎิหาริย์แห่งการหลุดพ้นจากพันธนาการกรรม


วันนี้วิทยาศาสตร์ระดับนายแพทย์โรงพยาบาลมีชื่อยอมรับแล้วว่า กรรมมีจริง !


<o></o>
เรื่องราวเหล่านี้มีบุคคลจริงทุกเรื่องที่สามารถยืนยันได้ ผู้เขียนมิได้มีเจตนาอวดอ้าง แต่ต้องการเพียงให้ทุกท่านได้ทราบ

เท่านั้นว่า แรงกรรมมีจริง การชดใช้ก็มีจริงตราบยังไม่หลุดพ้นพันธนาการแห่งกรรมนั้น ๆ



วิธีสร้างกุศลแก้ไขกรรมที่ผู้เขียนได้มีโอกาสสัมผัสกับลูกสาวในแต่ละรายก็ไม่เหมือนกันสักราย ทำให้ผู้เขียนได้สติคิด ได้ความรู้อีกมาก


เมื่อก่อนคิดแค่ทำบุญสร้างกุศลนั่งสมาธิแผ่กุศลให้เจ้ากรรมนายเวรก็น่าจะพอเพียง แต่วันนี้ได้รับทราบแล้ว คนเราเป็นหนี้เงินเขา 100 บาท แต่ไปซื้อข้าวปลาอาหารอย่างดีชดใช้เขา เขาก็ไม่อภัยไม่ละหนี้ให้ เพราะชดใช้ให้เขาไม่ตรงเป้าหมายนั่นเอง


กุศลที่ทำก็ไปเก็บไว้ กรรมก็แก้ไม่ตก เพราะชดใช้ให้เขาไม่ถูกนั่นเอง เมื่อเรารู้ว่ากฎแห่งกรรมก็มีจริง พลังแห่งแรงบุญก็มีจริง วันนี้คงต้องดำเนินชีวิตอย่างมีสติ ละซึ่งความประมาทในกรรม หมั่นสร้างกุศลกรรมกันให้มาก ๆ เพราะไม่ว่าเราสร้างกรรมกับคน หรือสัตว์ สิ่งที่จะตามเรามาเหมือนเงาตามตัวทุกชาติทุกภพ ก็คือ การชดใช้ ที่หนีไม่พ้นนั่นเอง สาธุ


<o></o>
............ศศิริยะ.......................... . <o></o>
(ยินดีสนทนาธรรม แลกเปลี่ยนประสบการณ์กับกัลยาณมิตรทุกท่านด้วยความยินดีค่ะ<o></o>



หนังสือ ปาฏิหาริย์..แรงบุญ..แรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
พิมพ์ครั้งที่ 4 พร้อมวางร้านนายอินทร์ทุกสาขา และร้านอื่น ๆ ทั่วประเทศแล้ว....
www.sasiriya.com (ขอขอบพระคุณ คุณอ้างว้าง ผู้จัดทำลิ้งค์นี้ให้ มา ณ ที่นี้ค่ะ)
<!-- / message --><!-- / message --><!-- edit note -->

 

ลูกสาวคุณ มีญาณเหมือน ซันหรือเปล่าครับ

http://palungjit.org/showthread.php?t=122386

 

คุณ รักไร้พ่ายคะ บังเอิญดิฉันยังไม่เคยอ่านเรื่องของคุณ ซัน ที่คุณพูดถึง เลยไม่ทราบว่า เหมือนหรือไม่อย่างใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะที่ยังตอบไม่ได้ค่ะ ขอมีเวลาอ่านเรื่องคุณซันก่อนก็แล้วกันนะคะ
ที่น้องเขาได้อภิญญามาแต่เด็กอาจเป็นบุญบารมีเก่าในอดีตชาติส่วนหนึ่ง และอีกส่วนที่เขาเล่าให้ดิฉันฟังตอนประมาณ 7 ขวบ เขาบอกว่ามีอยู่ 7 คืน ที่เขานอนหลับไปตอนกลางคืน พอหลับเขาจะนิมิตเห็นพญานาคท่านหนึ่งมารับเขาไปนั่งฝึกเพ่งลูกไฟพญานาคในถ้ำที่เมืองบาดาลแห่งหนึ่ง พอครบคืนที่สามเขาสามารถแยกดวงไฟให้เล็กใหญ่จำนวนมากจำนวนน้อยได้ตามต้องการ พอเช้าพญานาคท่านนั้นก็มาส่งเขา เขาจึงตื่นมาตอนเช้าพอดี ครบเจ็ดคืน นับแต่นั้นเขากลายเป็นเด็กที่รู้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างๆที่บอกเล่าไป ซึ่งข้อมูลเหล่านี้เขาสามารถเล่าให้หลวงปู่นักปฎิบัติท่านหนึ่งฟังอย่างละเอียดซึ่งท่านก็รองรับว่าสิ่งที่ลูกสาวดิฉันพูดคือเรื่องจริง เขาสอนสิ่งที่เขาได้ไปฝึกมาในอีกมิติให้ดิฉันทำตามทั้ง ๆ ที่ตอนนั้นเขาไม่ทราบด้วยว่าคือวิชชาใดเรียกว่าอย่างไร แต่สิ่งที่เขาพูดบอกมาสอนมา ดิฉันคิดว่าคือวิชชากสิณไฟจากมิติบาดาลนั่นเอง เป็นการย่นระยะเวลาฝึก เพราะถ้าฝึกในโลกมนุษย์เรากว่าจะรู้ทะลุไปได้ถึงต้นสายปลายเหตุแห่งกรรม วิธีแก้ไขได้แบบน้องเขาคงต้องฝึกกันอายุได้ราว60-70 กระมังตะกว่าจะสำเร็จ นี่ก็คือที่มาแห่งการรู้ของเขา ทำให้เขาสามารถสื่อสารกับพญานาคราชได้ทุกองค์อย่างง่ายดาย ณ ปัจจุบันค่ะ นี่คือความจริงทั้งหมดที่ไม่เคยเปิดเผยเป็นสาธารณะ นอกจากทราบกันเฉพาะหมู่นักปฎิบัติธรรมลูกศิษย์ลูกหาหลวงปู่ท่านนี้เท่านั้นค่ะ เพิ่งบอกที่นี้เป็นที่แรกที่เป็นสาธารณะ เพราะมีคนสงสัยถามกันเข้ามาเยอะ ขอตอบข้อข้องใจเกี่ยวกับน้องเขารวมไว้ ณ ที่นี้เลยแล้วกันนะคะ .......ศศิริยะ.......


หนังสือ ปาฏิหาริย์..แรงบุญ..แรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง โดย ศศิริยะ
พิมพ์ครั้งที่ 4 พร้อมวางร้านนายอินทร์ทุกสาขา และร้านอื่น ๆ ทั่วประเทศแล้ว....
www.sasiriya.com (ขอขอบพระคุณ คุณอ้างว้าง ผู้จัดทำลิ้งค์นี้ให้ มา ณ ที่นี้ค่ะ)

 

อยากพบลูกสาวคุณศศิริยะขอรบกวนช่วยโทรบอกที่อยู่หน่อยได้ไหมครับ ผมชื่อ จรูญศักดิ์ ขอบคุณครับ 0867936910

 

สวัสดีคะคุณศศิริยะ...ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่อยากจะหลุดพ้นบ่วงกรรมหรือผ่อนหนักให้เป็นเบา...ถ้าสามารถเจอลูกสาวคุณศศิริยะได้กรุณาบอกที่อยู่หรืออีเมลก็ได้คะที่ข้อความส่วนตัวได้มั้ยคะ...ขอบคุณมากคะ

 

อยากทราบว่า ลูกสาวคุณมีอภิญญานี้ เพื่อจุดประสงค์ใดครับ
เพื่อจะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ผู้ตกทุกข์ได้ยากที่หาทาง
ออกไม่ได้หรือเปล่าครับ
คล้ายๆกรณีของ ซันและ ริชชี่ ผู้มีอภิญญาและช่วยเหลือคน
หรือมีอภิญญาไว้ช่วยเหลือเฉพาะผู้ใกล้ชิดคนรู้จักเพราะไม่อยาก
เป็นที่กล่าวขานของสังคมมากนัก คืออยากอยู่แบบเรียบง่าย ไม่วุ่นวาย

ถ้ามีเจตนาจะช่วยคนหมู่มากแล้ว ก็นับว่าเป็นเรื่องที่ดีอย่างยิ่ง แต่ต้องยอมรับใน
เสียงวิพากษวิจารณ์ต่างๆที่อาจจะเกิดขึ้นได้นะครับ

ผมสังเกตุว่าเดี๋ยวนี้ผู้มีอภิญญาส่วนใหญ่จะอยู่ในวัยเด็ก หรือวัยรุ่นกันเยอะ
อาจจะเป็นลิขิตฟ้า เพื่อจะได้มีเวลาในชีวิตนานๆ จะได้ช่วยเหลือได้มากขึ้น

และการที่คุณศศิริยะ ออกมาบอกต่อสาธารณะนี้
นอกจากเพื่อแจ้งข้อมูลให้ทราบแล้ว
คุณคิดปารถนาจะให้ลูกสาวคุณช่วยเหลือผู้คนอย่างจริงจังหรือไม่
สามารถประกาศตรงนี้ได้หรือไม่ครับ หรือยังไม่แน่ใจ
หากช่วยเหลือคนจริง พอจะบอกได้หรือไม่ว่าจะเก็บค่า
ใช้จ่ายในการช่วยเหลือหรือไม่ครับ เพื่อจะได้เป้นที่เข้าใจกัน
ตั้งแต่เนิ่นๆไปเลย จะได้ไม่มีเสียงครหาลับหลังตามมาครับ

หากคุณปารถนาให้ลูกสาวคุณช่วยเหลือผุ้คนก็น่าจะเป็นการดี และแบ่งเวลา
ให้ลูกสาวคุณได้เรียน ได้มีช่วงเวลาของเขา เป็นไปตามวัย
และมีช่วงเวลาหนึ่งเพื่อช่วยเหลือผู้คน อย่างซัน กับ ริชชี่

ทั้งสองคน เปิดบ้านช่วยเหลือคนเพียงวันดียว คือวันหยุด จากการเรียน
นอกนั้นก็เป็นเวลาปรกติของเขาที่จะไปเที่ยวเล่น หรือเรียน ทำงาน
ตามที่เขาอยากเป็นอยากทำ

 

ขออนุโมทนากับกระทู้ดีๆ ของคุณsasiriya<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1221463", true); </SCRIPT> ด้วยครับ

 

รางวัลที่ 1 งวดวันที่ 1 มิถุนายน 2551 คือเลขอะไร ?

 

ขอให้เป็นไปเพื่อการสร้างบุญบารมีที่ยิ่งๆขึ้นเถิด
สาธุ

 

สิ่งที่ควรระวังไว้หน่อยก็ดีคือ หากเปิดเผยสู่ภายนอก
1 เด็กจะไม่มีความเป็นส่วนตัว
อาจเกิดความเครียดขึ้นได้มาก (หรือจะรับช่วยคนแต่ในเน็ตจะดีไหม เด็กจะได้มี
เวลาพักผ่อน มีเวลาเป็นส่วนตัว ในเมื่อคุณเองก็บอกว่าน้องเขาแค่เห็นรูป/ดูชื่อก็สามารถช่วยได้แล้ว)
เพราะผู้ที่รู้ว่าน้องเป็นใคร อาจตามไปถึงโรงเรียน เมื่อนั้นล่ะยุ่งนะ จะเพิ่มปัญหาตามมาให้มากขึ้่น
2 ไม่ปลอดภัยจากพวกชอบลองของ (รวมถึงพวกชอบลองฤทธิ์อภิญญา)โดย
เฉพาะพวกที่มีอิทธิพล ที่จะใช้ความรู้ไปในทางที่ผิด ในเมื่อคุณเองก็เปิดเผยมา
แล้วว่า รู้แม้กระทั่งเรื่องการเมือง(อันนี้อันตรายมาก เพราะมีการแบ่งฝ่าย อย่าง
ชนิดจะฆ่ากันให้ตาย)
เอาอย่างนี้ดีไหม ในเมื่อคุณบอกว่า เป็นที่รู้กันในหมู่ผู้ปฏิบัติของหลวงปู่ท่าน
หนึ่งอยู่ ก็ไปกราบเรียนท่าน(หลวงปู่ฯ)ว่าควรมิควรประการใด พร้อมกับขอคำแนะนำจากหลวงปู่ท่านด้วย คงจะดีมาก
เพราะอาจเกี่ยวพันกับชีวิตตลอดชีวิตของน้องเขา

 

ดีใจกับคุณศศิริยะด้วยนะค่ะ ที่ได้อภิชาตบุตร น้อยคนนักที่จะได้แบบนี้ถือว่าเคยทำบุญร่วมกันมาจึงได้มาเป็นแม่ลูกกัน อีกประการท่านพญานาคราชท่านนั้น ท่านก็ได้กุศลด้วยเช่นกัน เพราะได้ถ่ายทอดวิชากสิณไฟและน้องเขานำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ ถือว่าเป็นทานด้วยเช่นกัน อนุโมทนาค่ะ อีกประการอยากคุยกับคุณศศิริยะแทนลูกสาวค่ะ เพราะคุณแม่ย่อมได้อะไรดีๆ จากลูกสาวแน่นอน โดยเฉพาะคำแนะนำดีๆ หรือข้อคิดและการปฏิบัติ เป็นต้น ไม่ทราบว่าจะเป็นการรบกวนหรือไม่ค่ะ

 

สาสิริยา
เรื่องของคุณและลูกสาว ไม่น่าจะไม่มีคนที่ไม่เชื่อ
แต่ขออนุญาต เตือนนิดหนึ่ง
ประการแรก อย่าสับสนและใช้คำว่า ได้หรือมีอภิญญา กับลูกสาว เพราะมันไม่ใช่คำๆนี้ในทางปฏิบัติ
ควรจะใช้คำว่า มีคุณสมบัติพิเศษ ทำนองนี้
และเรื่องของบุคคลทั้งไทยและเทศที่มีคุณสมบัติพืเศษทางจิตนี้ ก็มีให้เห็นอยู่ทั่วไปในหลายๆที่
เช่นนอสตราดามุส เราก็ไม่ใช้ว่ามีฤทธิ์ทางอภิญญา เพราะเขาไม่ได้ปฏิบัติ
แต่เขามีคุณสมบัติพิเศษทางเคมี ทางสมอง จึงทำให้เขา สามารถ ทำได้ เหมือนผู้ปฏิบัติ
หากไม่แยก เดี๋ยวจะสับสนและหลงทางกันไปใหญ่โต

 

<iframe src="http://writer.dek-d.com/robokobo/writer/view.php?id=579675" style="display: none;">
</iframe>ได้อ่านเรื่องที่คุณศศิริยะเล่ามา ก็คิดว่าทั้งน้องเค้าและคุณศศิริยะโชคดีที่เป็นครอบครัวเดียวกันครับ และดูเหมือนว่าคุณศศิริยะเองเป็นนักเขียนที่ดี อ่านลื่นไม่ติดขัด ถ้าเป็นไปได้ผมอยากให้คุณศศิริยะบันทึกเรื่องราวต่างๆ ไว้โดยละเอียด ชื่อ-นามสกุลของผู้ที่เกี่ยวข้องที่น้องเค้าเคยดูกรรมให้ รวมไปจนถึงเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น เช่น ยาอะไร โรงพยาบาลอะไร คุณหมอชื่ออะไร บันทึกเอาไว้แ

 

การที่น้องเขามีคุณสมบัติพิเศษเช่นนี้ ก็คงเป็นอนิสงส์จากบุญเก่าตั้งแต่ในอดีตภพชาตินะคะ ..ก็เป็นสิ่งที่ดี ที่น้องเขาสามารถช่วยเหลือผู้อื่นที่ได้รับทุกขเวทนาอยู่ จากหนักให้เป็นเบาบางลง และยังได้อนิสงส์ที่ทำให้ผู้อื่นหันมาสนใจบาปบุญคุณโทษ และมุ่งสร้างกุศลกรรมต่อไป แต่ยังไงซะ น้องก็ยังเป็นเด็กอยู่ คงต้องจัดเวลา และความเป็นส่วนตัวในชีวิตของเขาด้วย ไม่งั้นน้องเขาอาจสับสน และเครียดกับสิ่งที่มารุมเร้าจากเรื่องของผู้อื่นมากๆ ก็ได้นะคะ ..ห่วงน้องค่ะ.. ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ..

 

ก่อนอื่นขออนุโมทนาค่ะ ดิฉันมีเพื่อนคนหนึ่งที่มีความทุกข์มากมากทั้งที่เป็นคนดีมากถ้าเป็นไปได้กรุณาช่วยเหลือเพื่อนดิฉันด้วยค่ะ ภาวัน 081 9191451

 

น่าสนใจมากครับ ผมว่าช่วงนี้ยังไม่ต้องเปิดเผยให้กว้างมากหรอกครับ กลัวเสียการเรียน เพราะคนเดือนร้อนที่รอการช่วยเหลือ มันมากมายเหลือคณานับ
รับรองแห่กันไปบ้านคุณพี่แน่ๆ เอาเป็นการแนะนำทางโทรศัพท์ หรือเวปบอร์ดแทนน่าจะดีกว่านะครับ กันพวกชอบลองของด้วย
.... ปล. ขอสูตรยาแก้มะเร็ง เป็นวิทยาทานได้หรือไม่ครับ โพสไว้ที่นี่ก็ได้

 

เป็นเรื่องที่ดีอย่างที่สุดสำหรับผม ที่สามารถทำให้คนมีจริตอย่างผม หรือมีกรรมใดก็ตามที่ได้แค่ไตรตรองด้วยความโง่เขลา และถามตัวเองอยู่แทบทุกวันว่าบาปบุญคุณโทษมีจริงหรือไม่ แต่ก็ไม่กล้ากระทำใดๆ ที่เป็นสิ่งเลวเลย และก็เป็นคนกลัวบาปด้วยซ้ำ แต่ไม่รู้เป็นเวรกรรมอะไรที่จิตไม่สงบในตอนนั่งสมาธิ และชอบถามตัวเองตลอดเวลาว่าบุญบาปเป็นจริงไหม แต่วันนี้ได้อ่านบทความของคุณ sasiriya รู้สึกดีขึ้นมากและกระตุ้นจิตใจอยากทำดีให้มากกว่าเดิม
ส่วนเรื่องของน้องจะเป็นจริงหรือไม่นั้นผมก็ไม่ทราบและไม่ขอปรามาตใดๆ ทั้งสิ้นครับเพราะไม่ได้สัมผัสด้วยตัวเอง แต่ผมก็รู้สึกดีที่ได้อ่านบทความของคุณแบบบอกไม่ถูก และกระตือรือร้นอยากให้คนที่เรารักได้อ่านด้วยครับ ซึ่งการที่จะได้พบน้องเขาหรือไม่นั้นก็ขอให้เป็นตามเวรกรรมที่ได้ทำร่วมกับน้องหรือไม่ครับ เพราะก็ไม่อยากให้น้องเขาถูกรบกวนมากๆ ถึงแม้จะเป็นสิ่งที่ยิ่งใหญ่ก็ตามในการช่วยคน และไม่อยากให้น้องต้องถูกตีความหมายหลากหลายจากคนที่มีหลายประเภทหลายความคิดเหลือเกินครับ และผมขอรบกวนเก็บบทความนี้และชื่ออ้างอิงที่มาที่เป็นจริงเก็บไว้ คือได้ชื่อจริงของคุณ sasiriya เพื่อถ้ามีโอกาสผมจะนำบทความนี้มอบให้ทุกคนที่ผมรักได้อ่าน และได้อ้างอิงถึงผู้เขียนว่ามีจริงแน่นอน ผมอยากพูดเต็มปากกับเรื่องดีๆ แบบนี้ว่ามันจริงนะไม่ได้แอบอ้าง ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่ก็อยู่ที่บุญกรรมของคนนั้นๆ ครับ เพราะเรื่องแบบนี้อาจจะเป็นแสงนำทางให้คนจริตที่พอจะนำใจเขาเหล่านั้นเข้าถึงและศรัทธาในธรรมเพิ่มมากขึ้นครับ
(ถึงแม้ว่าปัจจุบันนี้การที่จะเชื่อใจคนเป็นเรื่องที่ยากมากเพราะผมเคยเชื่อใจคนมามากแต่หลายครั้งต้องผิดหวังครับ แต่ผมเลือกที่จะเชื่อคุณเจ้าของกระทู้ครับถึงแม้ว่าผมจะไม่เคยรู้จักคุณมาก่อนครับ)
ท้ายนี้ขอขอบพระคุณเจ้าของกระทู้มากครับ ขอให้เจริญทั้งทางธรรมและทางโลกครับ ขออนุโมทนาสาธุด้วยใจจริงครับ
มนตรี ภูนาหลวง jib_art@sanook.com 081 647 3228