รบกวนถามผู้รู้ครับ

ผมมีเรื่องรบกวนถามหน่อยครับ คือตอนเนี้ยะผมปวดหัวมากๆเลย เมื่อวานไปหาหมอแล้ว หมอบอกว่าปกติดีทุกอย่าง แต่อาการปวดหัวก้อยังไม่หายเลยอ่ะครับ รบกวนท่านที่รู้ชี้แนะด้วยครับ ผมปวดจริงๆ ขอบคุณล่วงหน้าครับ

 

หายใจสบายๆ ไม่ต้องไปจ่อความรู้สึกที่หัว แต่ให้
ลองเอาความรู้สึกไว้ที่ท้องพองยุบ ตามไปเรื่อยๆแต่ไม่ต้องไปจิงจัง

 

องค์ลงมั๊งครับ เหอๆๆๆ

 

ต้องถามว่า มีเรื่องเครียดหรือเปล่า
ต้องปล่อยใจให้สบายๆ ไปทำอะไรที่เราชอบ
พักเรื่องงานเอาไว้ก่อน
ถ้าเป็นมาก ลองเปลี่ยนสิ่งแวดล้อมดู
เช่น ไปเที่ยวตามธรรมชาติ ทะเล ภูเขา
ไปรับพลังธรรมชาติ จะรู้สึกดีขึ้นเอง

อีกวิธีหนึ่งก็คือ ลองกินพาราดู หุๆๆ

 

ทานแล้วครับ พารา แต่ก้อไม่หายอ่ะครับ ตอนนี้ก้อปวด ปวดมากเลยครับ

 

ผ่อนลมหายใจยาวๆ

ทำแบบไม่จงใจนะ คือ พอนึกขึ้นได้ว่าจะผ่อนลมหายใจ ก็ปล่อยไป

ไม่ใช่นั่งอัดลมหายใจเข้า แล้ว ปล่อยอันนี้จะไม่ได้ผล

ถ้าทำได้แล้ว ให้สังเกตความรู้สึกที่ศรีษะ หรือ ที่ใจ ขณะที่ลมหายใจ
กำลังจะปล่อยไปสุด

มีความโล่งเกิดขึ้นไหม

หรือมี การสัดส่ายที่ศีรษะไหม

หรือมี อาการเหมือนอะไรดันๆอยู่แถวใจ แต่ไม่รู้เหตุผลไหม

ถ้ามี อาการโล่ง ให้ ระลึกอการโล่งนั้น รู้สึก ได้อย่างไรบ้าง
( อย่าลืมนะ ต้องไม่จงใจปล่อยลมหายใจ -- ไม่มีการอัดลมเข้าไปอีก
-- ทันที่ระลึกได้ ก็ปล่อยออกเท่าที่มี *** ถ้าทำไม่ถูก จะปวดหัว ***
และ ถ้าทำไม่ถูกจริงๆ ก็ไปนอน )

ถ้ามีอาการสัดส่ายที่ศรีษะ ให้รู้สึก ว่าอาการส่ายที่ศรีษะ ตัวเดียว กับ
การปวดไหม ถ้าทำถูก จะเห็นมันคนละตัวกัน ก็ลองทำเล่นๆไป คือ
แยก รูป อาการปวดหัวเล่นสนุกๆ ไป พอแยกได้ จะรู้ นาม คือ ความ
ปวดหัวที่ใจเราไปยึดเอาจากอาการ หนึบๆ หรือ สัดส่ายนั้นๆ ไม่ใช่
ใจเราที่ปวดหัว เราไปอุปาทาน ( แต่จริงๆมันก็หนึบๆนะ แต่ใจมันจะแยก
ได้ว่า อันไหน อาการ อันไหน คือ สิ่งที่เรากังวล )

ถ้ามีอะไรดันๆ แถวใจ ก็รับรู้ไปเลยว่า มีบางอย่างที่คิดไม่ออกบอกไม่ถูก
มันคับอกคับใจอยู่ ก็ให้รู้สึกไปว่า นั้น ตัณหา มันจะปรุงอะไรเราอยู่สักอย่าง
เราอาจะสกดทับมันไว้ หรือ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร ถ้ารู้สึกไดแบบนี้ ให้คอย
รู้สึกตรงนี้ไปแทนการปวดหัว ( อาการปวดหัวน่าจะหายไปทันที แต่หนึบๆ
ยังมีอยู่นะ ไม่เกี่ยวกัน กายส่วนกาย ขันธ์ส่วนขันธ์ ใจส่วนใจ )

ถ้าไม่เข้าข้อไหนเลย ก็ไปนอนก่อนดีกว่า อาจจะเพราะอากาศมันเปลี่ยน
แปลง เวลาอากาศมันเปลี่ยนแปลง มดมันก็วิ่งพล่านได้ ธรรมดา

 

เรื่อง ปวดหัว นี่ ปวดก็ปวดไป อย่าไปเอะใจ ทานยาแก้ปวดหัวแล้วก็พักผ่อน
ปวดหัว นี้ รักษาง่าย แต่ถ้าเอะใจ นี่รักษายาก

มันก็เกิดได้หลายสาเหตุ ยิ่งยุคนี้ อเมริกานี่ เขาว่า มันเป็นโรคปวดหัวกัน กินยากันกองเท่าภูเขา เพราะมันเครียด มันมีวิถีที่ดิ้นรน และ คลื่นโทรศัพท์ คลื่นอะไรแปลกๆ มากมาย อากาศก้วิปริต

ผมเคยปวดหัวนะ พอปวดหัว แล้วนอนพัก ทานยา มันก้หายทุกรอบ มันจะปวดมากปวดน้อยมันก้หาย
แต่ พอดูดบุหรี่ จะปวดมากปวดน้อย มันก้ปวดมากขึ้นทุกที
แสดงว่า บุหรี่ นี่ทำให้ปวดมากขึ้น และ นอนพักกับ พาราเซตามอลนี้ ทำให้ทุเลา

ถ้าปวดมากๆ นี่แสดงว่า เส้นเลือดและ กล้ามเนื้อบีบรัดตัวมาก เพราะประสาทมันเกร็งมากขึ้นไป อันมาจาก กำลังชอง ตัณหา และ กังวล บีบรัดขึ้นไปอีกทอดหนึ่ง

 

ถามเว็บธรรมมะ ได้แต่ฝึกจิตใจ - - ลองไปโรงพยาบาลดูใหม ให้เค้าตรวจอย่างละเอีียด

 

ไปตรวจแล้วครับ หมอบอกปกติทุกอย่าง ให้แต่ยาแก้ปวดที่แรงกว่าพารา แต่ก้อไม่หายอ่ะครับ

 

ตอนนี้หายหรือยังหละครับ

ตอบง่ายๆ ว่าโรค ไมเกรน

เป็นโรค ที่ เมื่อเปลี่ยนแปลง สภาวะของสารเคมีในสมอง จะปวดหัว
คุณลองไปสังเกตุดูนะ ว่าเกิดจากอาการเหล่านี้หรือไม่
1 เมื่อนอนผิดเวลา ตื่นผิดเวลา จะเป็น
2 ออกแรง หรือ ออกกำลังกาย เกินกำลัง ผิดเวลา จะเป็น
3 หยุดทำงาน อยุ่บ้าน มักจะเป็น
4 เคยทำงานหนักหรือ ผจญภาวะ เครียดสะสม เป็นเวลานาน
5 ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย
6 ดื่มสุรา หรือ บุหรี่ จะทำให้เป็น มากขึ้น

ลองดู ว่า มาจากเหตุเหล่านี้หรือไม่

 

สาธุ ครับ

แต่ยังไง คุณ จขกท ลองทำดูนะครับ ทำเล่นๆ

เป็นการฝึกจิตใจนั้นแหละ ของบางอย่างเลี่ยงไม่ได้
ก็เรียนรู้ทุกข์จากมันเสียเลย

พอรู้ทุกข์ตามที่มันเป็น ตามภาวะปัจจุบัน เราก็เข้าใจมัน

เวลา เราเข้าใจอะไรสักอย่างหนึ่ง มันก็ทำให้เราทุกข์ใจไม่ค่อยได้
เรียกว่า จิตใจได้รับการอบรมให้รู้ทุกข์ ให้เห็นความเป็นจริง

ความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน ขณะ นะครับ ไม่ได้หมายถึงไปรู้ต้นเหตุนู้น
หรือบางทีก็อาจะเป็นอนาคต

สรุป คือการฝึกจิตฝึกใจ ไม่ใช่เพื่อแก้ปวดทางกาย

 

ไม่เลยครับ เพราะว่าผมไม่ทานเหล้าไม่สูบบุหรี่ และไม่เที่ยว เพิ่งเป็นเมื่อสัก 2-3 วันก่อนอ่ะครับ ไม่รู้จริงๆว่าเป็นอะไร ตอนแรกผมก้อคิดว่าเกี่ยวกับความดันฯ แต่ไปหาหมอตรวจเจาะเลือดวัดความดันก้อปกติอ่ะครับ ก้อเลยไม่รู้ว่าเป็นไรกันแน่ครับ

 

ถ้า ไมเกรน มีหลายสาเหตุครับ

บางครั้งก็เพราะ คิดอะไรซ้ำเดิมๆ เช่น นึกถึง ภาพบุคคล ถ้าเป็นคนเดิม
ชื่อเดิม รูปเดิม ก็อาจทำให้ ไมเกรน ได้ เรียกว่าสมองมันไปใช้สัญญา
ส่วนนั้นมากเกินไป -- ทางวิทยาศาสตร์ เวลาสมองส่วนไหนถูกดึงข้อ
มูลไปจะมีสัญญาณไฟฟ้าสว่างวาบตรงนั้น แล้วหลังจากนั้น เลือดจะพุ่ง
เข้าไปหล่อเลี้ยงไขสมองส่วนนั้น ถ้าเราคิดอะไรซ้ำๆ ตรงนั้นก็จะทำงาน
หนัก บอบช้ำครับ

 

มันจะเป็นอะไร ก็ปวดหัวธรรมดานั่นแหละครับ
ก็ตอนนี้มันหายแล้ว ก็ช่างมัน
แต่ถ้าเป็นบ่อยๆ วงจรการปวดเริ่มถี่ขึ้น ก็ลองไปดู เหตุตามที่ผมบอก
มันไม่จำเป็นต้อง ทานสุราและบุหรี่หรอก ผู้หญิงก้เป็นกันมาก

เป็นกันมากเลย เดี๋ยวนี้นะ

 

อ้อ ได้ผู้มีความรู้ ด้านการแพทย์ ตัวจริง ลองถามท่าน บุคคล3 ก็ดีครับ เห็นท่านว่า ท่านพอมีความรุ้ด้านแพทย์อยู่บ้าง
ผม ก็สังเกตุจากคนรอบข้าง และ ตนเอง กับ ตำรา อาจจะแยกแยะไม่ดีเท่า

 

กรณีที่ สงสัย หรือ มีสิ่งคาใจ ก็คล้ายๆกัน

แต่ส่วนของไขสมองเวลา สงสัย นั้น มันสับสน ที่สับสนเพราะ ไปดึง
สัญญาเอาหลายจุด แทนที่จะจุดเดียว เรียกว่า ไฟสว่างวาบเพื่อดึง
ข้อมูลจากหลายจุด หลังจากนั้น เลือดก็ต้องเข้าไปแทนที่ แต่คราวนี้
ยุ่งครับ เพราะมีหลายจุด ส่วนที่ทำงานหลักจะกลายเป็นส่วนขมับ ก็
จะปวกขมับเป็นต้น ถ้าปวดด้านเดียว ก็แล้วแต่เรื่อง เช่น คำนวน หรือ
ว่า เรื่องศิลป สมองมันแบ่งเรื่องรับผิดชอบซ้ายขวา เขาว่าอย่างนั้น

 

อาจจะเครียด อาการศร้อน น้ำมันขึ้น

ลองแวะเข้าไปฟังเพลงในภัยพิบัติดูสิครับ
เพลงเพราะ ดีเจเสียงก็หล่อบาดใจ
ฟังแล้วไม่เครียด

 

มาถึงตลกเลยนะ พ่อคนหลายชื่อ

 

อ้าว ไม่ใช่การแพทย์ครับ อันนั้นสูงไป

ผมพึ่งดูสารคดีมาเมื่อวานนี้เอง เรื่อง วิวัฒนาการของสัตว์เลี้ยงลูก
ด้วยนม สาเหตุมันเป็นเพราะ สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมมีสมองส่วน Cortex
ส่วนที่รู้ได้ หมายจำ เวลาใช้งานจะต้องใช้เลือดมาก ทำให้ ตัวเล็ก
และ อายุสั้นกว่า สัตว์กินพืช

แต่เผอิญมาตรงกับ จขกท เพราะมันน่าจะมีส่วนกัน

ถ้า สารอาหาร หรือ ออกซิเจน ในเลือดไม่สมดุล ก็เป็นที่มา
ของการทำงานหนักได้

อ้อ นึกขึ้นได้ ต้องกินพวก วิตามิน B รวมครับ หรือ กินพักเยอะไว้ก็จะดี

คุณ จขกท ก็พิจารณาไปนะครับ ถ้าอันไหนไม่เป็นโทษ ก็ลองทำดู

 

การดูตนเองเมื่อปวดศรีษะ

การดูแลรักษาตนเองเมื่อปวดศรีษะ
อาการปวดศรีษะเป็นปัญหาสุขภาพที่พบบ่อยที่สุดอย่างหนึ่ง เช่น ปวดตุบๆในศรีษะ หรือรู้สึกเหมือนมีใครใช้สายยางมารัดรอบศรีษะ อาการปวดศรีษะอาจเกิดขึ้นที่ส่วนใดของศรีษะก็ได้ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ไม่ใช่จากปัญหาทางตา หรือความดันโลหิตสูง แต่เกิดจากอาการเกร็งของกล้ามเนื้อบริเวณศรีษะ คอ กราม และหัวไหล่ โชคดีที่สาเหตุส่วนใหญ่มักไม่ใช่ปัญหารุนแรง และมักบรรเทาลงได้โดยการดูแลรักษาตนเองที่บ้าน
กำลังเกิดอะไรขึ้นเมื่อปวดศรีษะ
อาการปวดศรีษะแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ ปวดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ (muscle tension headache) ซึ่งเป็นประเภทที่พบบ่อยที่สุด ปวดจากเส้นเลือด (vascular headache) ซึ่งมีส่วนสัมพันธ์กับการหดรัดตัวของเส้นเลือด และ ปวดจากช่องไซนัส (sinus headache) ซึ่งเกิดจากการอุดตันของโพรงอากาศในกระโหลกศรีษะ บางครั้งอาการปวดศรีษะอาจเกิดจากหลายสาเหตุร่วมกันก็ได้
ปวดจากการเกร็งตัวของกล้ามเนื้อ
มักเกิดจากความเครียด หรือจากอิริยาบทของร่างกายซึ่งมักจะปวดแบบตื้อๆหนักๆโดยไม่มีอาการผิดปกติอื่นๆ
ปวดจากเส้นเลือด
เส้นเลือดจะมีการหดและคลายตัว ทำให้เกิดอาการปวดศรีษะที่เรียกว่า ไมเกรน โดยมักจะปวดศรีษะตุ๊บๆ มากเพียงข้างเดียว อาจมีการมองเห็นผิดปกติหรืออาเจียนด้วย
ปวดจากโพรงอากาศ
โพรงอากาศที่อุดตันจะมีของเหลวขังและทำให้เกิดอาการปวด ซึ่งจะรู้สึกเหมือนถูกบีบปวดบริเวณใบหน้าและปวดฟัน ซึ่งอาจเกิดร่วมกับอาการคัดจมูก

​

การประเมินอาการ
เป้าหมายคือเพื่อให้ทราบประเภทของอาการปวดศรีษะ สิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาการ และแยกว่าเป็นการติดเชื้อหรือไม่ การมีไข้จะชี้ว่ามีการติดเชื้อ และอาการคอแข็งชี้ว่าอาจเป็นโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ซึ่งต้องได้รับการรักษาจากแพทย์
มีไข้หรือไม่
สะบัดปรอทวัดไข้ให้ปรอทลงไปต่ำสุด อมใต้ลิ้น 3 นาทีแล้ว อ่านผล ถ้ามีไข้ 38.9 ขึ้นไปควรพบแพทย์
ลักษณะของการปวดศรีษะ
จดบันทึกไว้ว่าอาการปวดศรีษะเกิดเมื่อใด เกิดหลังรับประทานอาหาร หรือกิจวัตรประเภทใด รวมทั้งอาการอื่นๆ ที่เกิดร่วมด้วย
เกิดเมื่อก้มศรีษะ/กดบริเวณช่องไซนัส
ถ้ามีไข้พร้อมกับปวดศรีษะมากขณะก้มศรีษะเอาคางจรดอก หรือปวดบริเวณช่องไซนัสรอบเบ้าตา ควรพบแพทย์

การดูแลรักษาตนเองเพื่อเบาเทาอาการ
อาการปวดศรีษะเป็นวิธีที่ร่างกายสื่อสารให้เราทราบว่ากำลังมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น เช่น อาจมีปัญหาภาวะภูมิแพ้หรือโรคของโพรงไซนัส หรืออาจมีอารมณ์เครียด หรืออยู่ในท่าทางที่ผิดปกติจนทำให้กล้ามเนื้อมีการเกร็งตัว ส่งผลให้เกิดอาการปวดศรีษะตามมา เป้าหมายของการดูแลรักษาตนเองเพื่อบรรเทาอาการ คือ การขจัดอาการปวดที่เกิดขึ้นทันทีทันใด และป้องกันไม่ให้เกิดอาการปวดศรีษะอีกหากเป็นไปได้
ควรปรึกษาแพทย์เมื่อ