อานิสงส์ที่เกิดจากการทำบุญด้วยทรัพย์น้อยแต่ได้บุญมาก

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย ปลายสายน้ำ, 27 กุมภาพันธ์ 2007.

  1. ปลายสายน้ำ

    ปลายสายน้ำ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +730
    อตีเต กาเล ในสมัยครั้งพุทธกาล นายติณบาลฯ เป็นคนยากจนอาสาเป็นลูกจ้างทำสวนหญ้าให้เศรษฐีทำหน้าที่ตัดหญ้าที่บริเวณบ้านเป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่ง เขาคิดว่า เรานี้เป็นคนยากจน เพราะไม่เคยทำบุญใดไว้ในชาติก่อนเลย เกิดมาชาตินี้จึงเป็นคนรับใช้ไร้ญาติขาดมิตร ไม่มีสมบัติอะไรติดตัวแม้แต่น้อย เมื่อเขาคิดดังนี้แล้ว เขาจึงแบ่งอาหารที่ได้รับจากการรับจ้างแต่ละเดือนออกเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งเอาไว้ถวายแก่พระสงค์ที่บิณฑบาต อีกส่วนหนึ่งเก็บไว้บริโภคเอง อยู่ต่อมาพอถึงเทศการออกพรรษา เหล่าชนผู้มีศัทธาต่างพากันทำบุญทอดกฐินเป็นการใหญ่ แม้เศรษฐีผู้เป็นนายเขาก็เตรียมการจะทอดกฐินเช่นกัน จึงได้ประกาศให้สาธารณะชนทราบทั่วไป เมื่อนายติณบาลฯได้ยินการประกาศ ก็เกิดความเลื่อมใสขึ้นในใจทันที คิดในใจว่ากฐินนี้แหละจะเป็นทานอันประเสริฐ จึงเข้าไปพูดกับเศรษฐีผู้เป็นนายว่า อยากจะร่วมอนุโมทนากฐินทานครั้งนี้ด้วย แต่ตัวเองไม่มีเงินติดตัวเลย จึงคิดอยู่นาน ในที่สุดเขาได้เปลื้อง (ถอด) ผ้านุ่งของตนออกทำความสะอาดแล้วพับอย่างดี ส่วนตัวเองนำเอาใบไม้มาเย็บนุ่งแทนผ้าแล้วนำผ้าฯ เที่ยวเร่ขายไปตามร้านตลาด หมู่ชนเห็นเขานุ่งใบไม้ก็พากันหัวเราะต่าง ๆ นา ๆ นายติณบาลจึงชูมือขึ้นกล่าวว่า พวกท่านทั้งหลายจงหยุดก่อน อย่าหัวเราะข้าพเจ้าเลย ข้าฯ ยากจน ไม่มีผ้าจะนุ่ง จะขอนุ่งใบไม้แต่ในชาตินี้เท่านั้น ชาติหน้าเราจะนุ่งผ้าอันเป็นทิพย์ เขาขายผ้าได้ห้ามาสก (1 บาทของเราในปัจจุบัน) แล้วนำเงินดังกล่าวมาร่วมอนุโมทนาทอดกฐินกับเศรษฐีผู้เป็นนาย ขณะนั้นได้เกิดการโกลาหลทั่วไปในหมู่ชนตลอดถึงเทวดาในชั้นฉกามาวจรสวรรค์ ติณบาลมีฐานะร่ำรวยอย่างไม่มีใครคาดคิด บั้นปลายของชีวิตเขาได้รับตำแหน่งเป็นเศรษฐีอยู่จนมีอายุขัย ก็ถึงแก่กรรมไปเกิดเป็นเทพบุตรในชั้นดาวดึงส์สวรรค์ เสวยสมบัติทิพย์อยู่ในวิมานแก้วสูงได้ห้าโยชน์ มีนางอัปสรหนึ่งพันแวดล้อมเป็นบริวาร (ทำบุญด้วยความเลื่อมใสมาก ถึงทรัพย์จะมีน้อยก็ได้บุญมาก)

    คัดจากเทศน์อานิสงส์กฐิน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กุมภาพันธ์ 2007
  2. takashina_toto

    takashina_toto เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +764
    อนุโมทนา สาธุๆ ส่งเสริมให้คนทรัพย์น้อยได้ร่วมอานิสงค์แห่งการทำบุญ
     
  3. apple_meppo

    apple_meppo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    258
    ค่าพลัง:
    +135
    อนุโมทนาคะ
    หากการให้ทานนั้น เป็นของบริสุทธิ์และใจบริสุทธิ์ ย่อมส่งผลแก่ผู้บริจาค
     
  4. aisa0101

    aisa0101 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มกราคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +89
    อนุโมทนาค่ะ

    เรื่องนี้ก็เคยได้ยิน ได้อ่านมาบ้างแล้ว ก็รู้สึกอายตัวเอง เพราะว่าโดนปลูกฝังมาว่า ถ้าเราไม่มีเงินก็อย่าเอาไปทำบุญเพราะว่ามันจะเป็นบาป

    จากนี้ไปจะเปลี่ยนความคิดของตัวเองใหม่

    ไม่ว่าจะทำบุญแบบไหน ถ้าใจเราศรัทธา เลื่อมใส ในสิ่งที่เรา โดยไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น นั่นก็เป็นบุญแล้ว ใช่ไหมคะ?
     
  5. หนูแว่น

    หนูแว่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    1,188
    ค่าพลัง:
    +3,207
    อนุโมทนา เป็นเรื่องที่ดีจริงๆ มีน้อยก็ทำน้อยแต่หากเปี่ยมไปด้วยพลังศรัธาแล้ว
    ก็ยิ่งใหญ่ได้เช่นกัน
     
  6. ตระกูลศักดิ์

    ตระกูลศักดิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    167
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ท่านทั้งหลายมาร่วมอนุโมทนาบุญกับท่านติณบาลกันเถิด ถึงแม้ท่านจะยากจนแต่หัวใจนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยความศรัทธาอันแรงกล้าต่อพระรัตนตรัย เป็นผู้ห่างไกลแล้วซึ่งความตระหนี่ ยอมเสียสละซึ่งเครื่องนุ่มห่มของตนอันมีผืนเดียวที่นุ่งอยู่ ยอมแล้วซึ่งการนุ่งผ้าไบไม้ เพื่อเป็นทาน
    ร่วมทำบุญกองกฐิน ขอให้ท่านทั้งหลายได้โปรดจงจดจำเอาท่านติณบาลเป็นตัวอย่างของคนที่ให้ทานด้วยใจศรัทธาอันแรงกล้า แม้ว่าท่านจะยากจนแต่ จิดใจนั้นร่ำรวยยิ่งกว่ามหาเศรษฐียิ่งนัก เราสมควรที่จะ สาธุการพร้อมกัน
    พร้อมกันด้วยเถิด สาธุ....สาธุ...สาธุ...
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญ ส.ต.ท.ตระกูลศักดิ์ฯ
     
  7. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ก่อนทำใจผ่องใส
    ขณะทำใจผ่องใส
    หลังทำแล้วใจผ่องใส
    ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยครับ<O:p</O:p
    สาาาาา...ธุ<O:p</O:p
    สาาาาา...ธุ<O:p</O:p
    สาาาาา...ธุ<O:p</O:p
    ให้ดังไปถึงพระนิพพาน<O:p</O:p
     
  8. kong_sorakrit

    kong_sorakrit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2007
    โพสต์:
    1,771
    ค่าพลัง:
    +3,426
    ขออนุโมทนาสาธุในบุญกุศลของธรรมทานในครั้งนี้ด้วยนะครับ
     
  9. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    สาธุ สาธุ ยินดีมากจริงๆ เพราะเราก็ทรัพย์น้อย แต่ทำบุญบ่อยๆ ตั้งใจทำจริงๆ ขออนุโมทนาด้วยครับ สาธุ สาธุ
     
  10. อรวี จุฑากรณ์

    อรวี จุฑากรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    439
    ค่าพลัง:
    +189
    ขออนุโมทนาบุญ สาธุ สาธุ สาธุ

    อานิสงค์ในการตั้งใจทำบุญ ก็ได้บุญอยู่แล้ว
    การทำบุญไม่ได้ยึดติดกับทรัพย์มากหรือทรัพย์น้อย
    อยู่ที่เจตนาตั้งใจทำบุญ ถ้าตั้งใจที่จะทำบุญก็ได้บุญ
    ถ้าไม่ตั้งใจทำบุญก็ไม่ได้บุญ อย่างเช่น การอนุโมทนาบุญ
    ก็เป็นบุญอย่างหนึ่งที่ไม่ต้องลงทุน แต่ ต้องตั้งใจพนมมือ
    ร่วมอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ แล้วเราก็จะได้บุญ ง่ายๆแค่นี้เองค่ะ

    (good) (good)
     
  11. yotinp

    yotinp สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอร่วมบริจาคสร้างหนังสือ

    <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p> </o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif']เรียน ท่านผู้มีจิตอันเป็นกุศลที่อยากจะเผยแผ่หลักธรรมในพระพุทธศาสนา[/FONT]<o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif']ด้วยเจตจำนงของทางคณะที่ต้องการเผยแผ่หลักธรรมคำสั่งสอนพระพุทธศาสนา จึงได้ริเริ่มที่สร้างหนังสือชื่อ วิธีสร้างบุญบารมี ซึ่งเป็นพระนิพนธ์ใน สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปรินายก องค์ที่ ๑๙ วัดบวรนิเวศวิหาร ขึ้น เพื่อแจกจ่ายเป็นธรรมทานและสร้างความเข้าใจในบุญและวิธีการสร้างบุญกุศลที่ถูกต้องตามหลักพระพุทธศาสนาและได้ถือปฏิบัติในอันจะเป็นกุศลแก่ ผู้ปฏิบัติและผู้จัดสร้าง โดยหนังสือดังกล่าวจะถูกส่งไปยังสถานที่ดังต่อไปนี้[/FONT]<o:p></o:p>
    <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" o:preferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></v:path><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_s1026 style="MARGIN-TOP: 10.4pt; Z-INDEX: -3; LEFT: 0px; MARGIN-LEFT: -18pt; WIDTH: 180pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 261pt; TEXT-ALIGN: left" o:allowoverlap="f" wrapcoords="-63 0 -63 21557 21600 21557 21600 0 -63 0" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\acer\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image001.jpg" o:title="ScannedImage"></v:imagedata><?xml:namespace prefix = w ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:word" /><w:wrap type="tight"></w:wrap></v:shape>[FONT='EucrosiaUPC','serif']๑[/FONT].[FONT='EucrosiaUPC','serif'] ทูลเกล้าถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ๙[/FONT],[FONT='EucrosiaUPC','serif']๙๙๙ เล่ม<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT='EucrosiaUPC','serif']๒. แจกให้กับประชาชนที่จะไปเคารพพระศพ[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif'] พระเจ้าพี่นางเธอ กัลยาณิวัฒนา [/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif'] กรมหลวง นราธิวาสราชนครินทร์[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif'] เพื่อถวายเป็นพระกุศลแด่พระองค์ท่าน ๘๔๐ เล่ม[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif']๓. ห้องสมุดประชาชน บรมราชกุมารี [/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif'] ทุกจังหวัดในประเทศไทย ๑[/FONT],[FONT='EucrosiaUPC','serif']๗๖๐ เล่ม<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT='EucrosiaUPC','serif']๔[/FONT].[FONT='EucrosiaUPC','serif'] วัดประจำรัชกาลทั้ง ๙ รัชกาล[/FONT] [FONT='EucrosiaUPC','serif']และวัดต่างๆ[/FONT] [FONT='EucrosiaUPC','serif']๒๙[/FONT],[FONT='EucrosiaUPC','serif']๐๐๑ เล่ม<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT='EucrosiaUPC','serif']๕[/FONT].[FONT='EucrosiaUPC','serif'] มหาวิทยาลัย ราชภัฏ ราชมงคล โรงเรียน [/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif'] วิทยาลัยพยาบาล ทุกแห่งทั่วประเทศ ๑๐[/FONT],[FONT='EucrosiaUPC','serif']๐๐๐ เล่ม[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif']๖. ร่วมแจกจ่ายไปตามชนบทที่ห่างไกล ๑๗[/FONT],[FONT='EucrosiaUPC','serif']๐๐๐ เล่ม[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif']๗. สถานฑูตไทยประจำต่างประเทศทั่วโลก ๑๕[/FONT],[FONT='EucrosiaUPC','serif']๔๐๐ เล่ม<o:p></o:p>[/FONT]
    [FONT='EucrosiaUPC','serif'] รวมทั้งสิ้นจำนวน [/FONT][FONT='EucrosiaUPC','serif']๘๔[/FONT],[FONT='EucrosiaUPC','serif']๐๐๐[/FONT][FONT='EucrosiaUPC','serif'] เล่ม <o:p></o:p>[/FONT]
    <v:shape id=_x0000_s1027 style="MARGIN-TOP: 10.9pt; Z-INDEX: -2; LEFT: 0px; MARGIN-LEFT: 220.65pt; WIDTH: 238.35pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 317.75pt; TEXT-ALIGN: left" wrapcoords="-35 0 -35 21573 21600 21573 21600 0 -35 0" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:\DOCUME~1\acer\LOCALS~1\Temp\msohtmlclip1\01\clip_image003.jpg" o:title="ScannedImage-2"></v:imagedata><w:wrap type="tight"></w:wrap></v:shape><o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif'] โดยการร่วมบริจาคหากท่านและครอบครัวมีจิตศรัทธาประสาทะก็ร่วมสมทบทุน[/FONT][FONT='EucrosiaUPC','serif']เพียง คนละ ๑๐ บาท (๑๐ บาทถ้วน) หรือมากกว่าแล้วแต่กำลังศรัทธา[/FONT][FONT='EucrosiaUPC','serif'] เพื่อจะได้รวบรวมจัดพิมพ์ ภายใน พุทธศักราช ๒๕๕๑ นี้ต่อไป[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='EucrosiaUPC','serif'] ท้ายนี้อยากฝากข้อคิดว่า ก่อนที่ไปขอบารมีจากใคร ควรอย่างยิ่งจะรู้จักสร้างบารมีด้วยตัวท่านเองก่อน การเผยแผ่หลักธรรมและการปฏิบัติก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างบารมีดังกล่าว[/FONT]<o:p></o:p>
    <v:shapetype id=_x0000_t202 path="m,l,21600r21600,l21600,xe" o:spt="202" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:path o:connecttype="rect" gradientshapeok="t"></v:path></v:shapetype><v:shape id=_x0000_s1028 style="MARGIN-TOP: 0.75pt; Z-INDEX: -1; LEFT: 0px; MARGIN-LEFT: -9pt; WIDTH: 234pt; POSITION: absolute; HEIGHT: 65.75pt; TEXT-ALIGN: left" type="#_x0000_t202" strokeweight="2.25pt"></v:shape><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-RIGHT: #f4f4f4; BORDER-TOP: #f4f4f4; BORDER-LEFT: #f4f4f4; BORDER-BOTTOM: #f4f4f4; BACKGROUND-COLOR: transparent">[FONT='Angsana New','serif']ชื่อ......นายโยธิน..........นามสกุล....พลเขต............[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='Angsana New','serif']จำนวนเงิน........[/FONT]100[FONT='Angsana New','serif'].........บาท...............................[/FONT]<o:p></o:p>
    [FONT='Angsana New','serif']อุทิศให้[/FONT][FONT='Angsana New','serif']เจ้ากรรมนายเวร สัตว์ทั้งหลาย เทวดาทั้งหลาย[/FONT]<o:p></o:p>

    </TD></TR></TBODY></TABLE><o:p></o:p>
    <o:p> </o:p>
     
  12. สวนะ

    สวนะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +201
    เป็นธรรมทานที่ทำให้เราเกิดปิติ และความเพียรในการสร้างบุญกุศลต่อไป ถึงแม้จะมีทรัพย์น้อย ขออนุโมทนาค่ะ
     
  13. ก.แก้วคำ

    ก.แก้วคำ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    435
    ค่าพลัง:
    +71
    ทำบุญตามฐานะมีมากทำมาก มีน้อยทำน้อย ทำไปทีละนิดละหน่อยก็เป็นกุศลกองใหญ่ได้เหมือนกัน ทำแล้วสบายใจจิตเป็นสุข แบบนี้ใช้ได้แล้วครับ ตามที่หลวงพ่อฤาษีลิงดำท่านได้บอกไว้ ผมเห็นด้วยทุกประการครับ
     
  14. atomdekst

    atomdekst Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    405
    ค่าพลัง:
    +79
    ขอบคุณบทความดีๆครับอ่านแล้วมีกำลังใจทำบุญ

    อนุโมทนาครับ
     
  15. rivercrow

    rivercrow สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +20
    ทำบุญด้วยจิตอันบริสุทธิ์ ผลที่จึงได้รับมาก เป็นด้วยการนี้
     
  16. อรรัชช์ฐาน์

    อรรัชช์ฐาน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    299
    ค่าพลัง:
    +437
    โมทนาสาธุ ค่ะ ชอบทำบุญมากๆ แต่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีกำลังทรัพย์น้อย ก็ทำตามกำลังทรัพย์ค่ะ เพราะทุกบุญหมายถึงศัทธาอันแรงกล้าและมีจุดมุ่งหมายเดียวคือ พระนิพพาน
     
  17. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,409
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,434
    อนุโมทนา สาธุๆ ส่งเสริมให้คนทรัพย์น้อยได้ร่วมอานิสงค์แห่งการทำบุญ
     
  18. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    ธมฺโม หเว รกฺขติธมฺมจารี<O:p</O:p


    พระธรรมนี่แหละย่อมรักษาผู้ประพฤติธรรม<O:p</O:p

    <O:p</O:p


    บุญสำเร็จได้ด้วยการ อนุโมทนา สาธุ สาธุ สาธุ<O:p</O:p

    <O:p</O:p


    ขอให้ทุกท่านมีความเจริญยิ่งขึ้นในพระพุทธศาสนา<O:p</O:p
     
  19. อุปคุต

    อุปคุต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    83
    ค่าพลัง:
    +132
    อะ นุ โม ทะ นา บุญ ด้วยครับบ..........
     
  20. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,892
    ผลแห่งการชักชวนให้คนสร้างกุศล <table width="100%" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>
    <table width="100%" border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td valign="middle" align="center">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ในทางพุทธศาสนา การชักชวนผู้อื่นทำความดีนั้น ผู้ชักชวนก็ได้บุญ และทำให้เป็นผู้มีบริวารมาก หากทำด้วยตัวเองด้วยก็ยิ่งจะได้ทั้งทรัพย์สมบัติและบริวาร ดังเรื่องที่มีมาแต่ครั้งพุทธกาลว่า

    กาลครั้งหนึ่งพระเจ้าปเสนทิโกศลได้รับสั่งให้สันตติมหาอำมาตย์ไปปราบปรามโจร ที่กำลังฮึกเฮิมอย่างหนัก เมื่อพระเจ้าปเสนทิโกศลได้ทรงทราบว่ามหาอำมาตย์ปราบโจรได้อย่างราบคาบแล้ว ทรงพอพระราชหฤทัยมาก จึงพระราชทานทรัพย์สมบัติให้เป็นจำนวนมาก รวมทั้งหญิงสาวที่เก่งในการร้องเพลงและฟ้อนรำนางหนึ่ง อำมาตย์ได้ดื่มเหล้าฉลองชัยชนะจนเมามายถึงเจ็ดวันเจ็ดคืน ในวันที่ เจ็ดเขาจัดแจงแต่งตัวด้วยอาภรณ์อย่างดี แล้วขี่ช้างตัวที่ดีที่สุดไปยังท่าอาบน้ำ เมื่อไปถึงก็เห็นพระศาสดากำลังเสด็จเข้าไปบิณฑบาตในเมือง เขาจึงผงกศีรษะถวายบังคมด้วยความเคารพ ในขณะที่นั่งอยู่บนคอช้างนั่นเอง

    เมื่อพระศาสดาทรงเห็น จึงทรงแย้มพระโอษฐ์ พระอานนท์จึงทูลถามถึงสาเหตุที่พระองค์ทรงแสดงกิริยาเช่นนั้น พระพุทธองค์ตรัสว่า “อานนท์ เธอจงดูสันตติมหาอำมาตย์ วันนี้เขาประดับด้วยอาภรณ์อย่างดี มาสู่สำนักเรา เขาจะบรรลุพระอรหัตเพียงเพราะไดัฟังธรรมเพียงนิดเดียว เท่านั้นเอง และจะปรินิพพานในอากาศ”

    บรรดาชาวบ้านที่ได้ฟังคำของพระศาสดา บางพวกที่เป็นมิจฉาทิฏฐิคิดว่า “ท่านทั้งหลาย จงดูกิริยาของพระสมณโคดม พระองค์ย่อมพูดสักแต่ปากเท่านั้น ในวันนี้สันตติมหา-อำมาตย์นั้นเมาสุราอย่างหนัก จะได้ไปฟังเทศน์ฟังธรรมที่ไหน พวกเราจักจับผิดพระสมณโคดมที่กล่าวมุสาวาท”

    ส่วนพวกที่เป็นสัมมาทิฏฐิคิดกันว่า “น่าอัศจรรย์ พระพุทธเจ้าทั้งหลายมีอานุภาพมาก ในวันนี้ เราทั้งหลาย จักได้ดูการเยื้องกรายของพระพุทธเจ้า และการเยื้องกรายของสันตติมหาอำมาตย์”

    ฝ่ายมหาอำมาตย์หลังลงเล่นน้ำตลอดทั้งวันที่ท่าอาบน้ำแล้ว จึงกลับไปสู่อุทยาน และไปนั่งในโรงดื่ม ขณะที่หญิงสาวที่พระเจ้าปเสนทิโกศลพระราชทานให้นั้น ก็ขึ้นไปยืนอยู่ที่กลางเวทีเตรียมจะฟ้อนรำให้มหาอำมาตย์ดู แต่พอเริ่มจะแสดง นางก็กลับมีลมพิษเกิดขึ้นในท้องอย่างหนัก ปากอ้า ตาเหลือก และในที่สุดก็ขาดใจตาย สาเหตุเพราะกินอาหารน้อยมาตลอด ๗ วัน เพื่อให้ร่างกายอ้อนแอ้นน่าชมนั่นเอง

    เมื่อมหาอำมาตย์รู้ว่านางตายแล้ว เขาก็เกิดความเศร้าโศกอย่างแรงกล้าขึ้นมา กระทั่งส่างเมาทันที พิษของสุราที่ดื่มมาตลอด ๗ วัน ได้เสื่อมหายไป เขาคิดว่าคงไม่มีใครที่จะสามารถระงับความโศกเศร้าของเขาได้ เขาจึงไปขอเข้าเฝ้า พระศาสดาในตอนเย็นพร้อมกับบริวาร และกราบทูลถึงเหตุแห่งความโศกเศร้าที่เกิดขึ้นกับตนและเหตุที่มาเฝ้าพระ พุทธเจ้า

    ครั้นพระศาสดาได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว จึงตรัสว่า
    “ท่านมาหาเราผู้สามารถที่จะดับความโศกได้แน่นอน อันที่จริงน้ำตาที่ไหลออกของท่านผู้ร้องไห้ในเวลาที่หญิงนี้ตายด้วยเหตุ อย่างนี้ มากกว่าน้ำของมหาสมุทรทั้ง ๔ ซะอีก” แล้วจึงตรัสพระคาถา ว่า

    “กิเลส เครื่องกังวลใด มีอยู่ในกาลก่อน เธอจงยังกิเลสเครื่องกังวลนั้น ให้เหือดแห้งไป กิเลสเครื่องกังวล จงอย่ามีแก่เธอในภายหลัง ถ้าเธอจักไม่ยึดถือขันธ์ ในท่ามกลาง จักเป็นผู้สงบระงับเที่ยวไป”

    หลังจากพระองค์เทศน์จบ สันตติมหาอำมาตย์ก็บรรลุพระอรหัตผล แล้วพิจารณาดูอายุสังขารของตน ทราบว่าตัวเองจะหมดอายุขัยแล้ว จึงกราบทูลพระศาสดาว่า

    “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระองค์จงทรงอนุญาตการปรินิพพานแก่ข้าพระองค์เถิด”

    พระพุทธองค์จึงตรัสว่า “สันตติมหาอำมาตย์ ถ้าอย่างนั้น เธอจงเล่ากรรมที่เธอเคยทำไว้ในอดีตแก่เรา แต่ก่อนจะเล่า จงอย่ายืนบนพื้นดิน จงยืนบนอากาศชั่ว ๗ ลำตาล”

    มหาอำมาตย์จึงถวายบังคมพระศาสดา จากนั้นก็ขึ้นไปสู่อากาศชั่วลำตาลหนึ่ง แล้วลงมาถวายบังคมพระศาสดาอีก และขึ้นไปนั่งโดยบังลังก์บนอากาศ ๗ ชั่วลำตาลแล้ว จึงเล่าบุรพกรรมของตนเองว่า

    ในกัลป์ที่ ๙๑ แต่กัลป์นี้ ครั้งพระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ตนได้บังเกิดในตระกูลแห่งหนึ่ง ในพันธุมดีนคร คิดอยู่ว่า อะไรหนอเป็นกรรมที่ไม่ทำการตัดรอนหรือบีบคั้นชนเหล่าอื่น เมื่อใคร่ครวญอยู่อย่างนี้ จึงรู้ว่ากรรมคือ การ ป่าวร้องบอกบุญ ชักชวนคนทำบุญ เป็นสิ่งที่ดี จึงชักชวนชาวบ้านทำบุญ เที่ยวเชิญชวนชาวบ้านทำบุญสมาทาน อุโบสถศีลในวันอุโบสถ ถวายทาน และฟังเทศน์ฟังธรรม เพื่อให้เข้าถึงพระรัตนตรัย

    ผลของการชักชวนชาวบ้านบำเพ็ญบุญบำเพ็ญกุศลนั้นมีมากมายยิ่งนัก
    ดัง ที่เกิดขึ้นกับตน คือ พระราชาผู้ใหญ่ทรง พระนามว่า ‘พันธุมะ’ เป็นพระพุทธบิดา เมื่อได้ทรงสดับความดังนั้น จึงรับสั่งให้เรียกตนมาเฝ้า แล้วตรัสถามว่า กำลังทำอะไร ตนจึงทูลไปว่า ได้เที่ยวประกาศคุณของพระรัตนะตรัย ชักชวนชาวบ้านทำบุญ ทำกุศล

    พระราชาได้ตรัสถามว่า นั่งอะไรไป ตนได้กราบทูลไปว่า เดินไป จึงตรัสขึ้นว่าไม่เหมาะที่จะเดินไปอย่างนั้นหรอก จงประดับพวงดอกไม้นี้แล้วขี่ม้าไปเถิด ตรัสแล้วก็พระราชทาน
    พวงดอกไม้ และม้าที่ฝึกแล้วให้ ต่อมาพระราชาเห็นว่าม้าก็ไม่สมควร จึงได้พระราชทานรถที่เทียมด้วยม้าพันธุ์ดี และไม่นานพระราชาก็คิดว่ารถเทียมม้าก็ไม่สมควรอีก จึงได้พระราชทานทรัพย์สินเงินทองพร้อมทั้งเครื่องประดับเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้นยังได้พระราชทานช้างเชือกหนึ่งด้วย ตนจึงนั่งบนคอช้าง ออกเที่ยวชักชวนคนทำบุญทำกุศลอยู่อย่างนี้สิ้นแปดหมื่นปี กลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากกาย กลิ่นอุบล ฟุ้งออกจากปากตลอดกาลมีประมาณเท่านี้”

    หลังจากสันตติอำมาตย์กราบทูลบุรพกรรมของตนแล้ว ท่านก็ปรินิพพานบนอากาศนั่นเอง
    ........
    วิธี การทำบุญที่สันตติอำมาตย์ได้ชวนผู้อื่นทำนั้น มีทั้งการให้ทาน รักษาศีล และฟังธรรม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายๆ ไม่มีทรัพย์สินเงินทองก็สามารถทำได้ เพราะวิธีการทำบุญมีมากมายหลายวิธี เราสามารถทำบุญด้วยการรักษาศีล ฟังธรรม และเจริญภาวนา เป็นต้น ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ล้วนแต่ให้อานิสงส์มากมายยิ่งนักแก่ผู้ปฏิบัติ ไม่ได้น้อยไปกว่าการทำบุญด้วยวัตถุสิ่งของเลย

    จะเห็นว่าสันตติอำมาตย์ได้ทำบุญอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน แสดงให้เห็นถึงการมีจิตใจแน่วแน่เด็ดเดี่ยวในการทำความดี ดัง นั้น หากเราคิดอยากจะได้บุญที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ ก็จงแน่วแน่ในการสร้างความดีต่างๆ อย่าท้อแท้หมด กำลังใจเมื่อมีมารมาขัดขวาง นอกจากนั้นจงใช้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นรอบตัวเป็นปัจจัยในการเข้าถึงสัจธรรม เพราะทุกอย่างที่อยู่รอบตัว สามารถเป็นบทเรียนให้เราได้หากเรารู้จักใช้สติปัญญาพิจารณาอย่างจริงจังและ น้อมเข้ามาเปรียบเทียบกับตัวเอง และเมื่อเรามีปัญญาเห็นความจริง แล้ว ก็จงพยายามถ่ายทอดต่อไปยังคนอื่นๆ การชี้ทางให้แก่คนอื่น ก็เป็นบุญอันยิ่งใหญ่ เป็นธรรมทาน มีอานิสงส์มากมาย

    (จากหนังสือธรรมลีลา ฉบับที่ 90 พ.ค. 51 โดยมาลาวชิโร)
     

แชร์หน้านี้

Loading...