ขอคำแนะนำเรื่องการสวดมนต์ครับ

หลายครั้งครับที่สวดมนต์แล้วจะวูบหลับ แบบว่าทนไม่ไหวแล้วน่ะครับ
แล้วในบางครั้งก็เกือบจะหลับจริง แต่เพราะว่าตั้งใจจะสวดจนจบก็สวดต่อ ทำให้บางทีที่สวดมนต์ก็เหมือนจะผิดเป็นคำอื่นครับ คือได้ยินเสียงจากปากตัวเองเป็นคนละคำกับที่เห็นในหนังสือน่ะครับก็เลยรู้ว่าผิด
แล้วสุดท้ายก็ทนไม่ไหว ต้องขอข้ามบทที่สวดประจำไปในวันที่เกิดอาการนี้
พี่ ๆ น้อง ๆ เห็นว่าน่าจะเกิดจากอะไรครับ

 

เทพที่คุ้มครองเราอยู่ท่านลงมาร่วมสวดมนต์ด้วยมั้งครับ

 

ง่วงก็นอนนะครับ
เลิกง่วงแล้วค่อยมาสวดใหม่

 

สวดมนต์ก็เป็นการทำสมาธิอย่างหนึ่ง แนะนำให้กำหนดจิตที่ลิ้นปี่เวลาสวดมนต์ เพื่อไม่ให้จิตฟุ้งซ่านไปไหน หลังสวดเสร็จจะแผ่เมตตาหรืออุทิศส่วนกุศลให้ยกจิตขึ้นสู่จุดอุณาโลมหรือกึ่งกลางระหว่างหัวคิ้ว บริเวณหน้าผาก แล้วแผ่เมตตา อุทิศส่วนกุศล อานิสงส์คือ เป็นที่รักของเทวดา มนุษย์ สรรพสัตว์ และ วิญญาณทั้งหลาย ทำให้ใจเย็นลงด้วย

ขออนุโมทนาค่ะ

 

เกิดจากความ ขี้เกียจ และ ง่วงหงาวหาวนอน เป็นนิวรณ์ธรรม

ก็ต้องหัดฝืนสุ้กับกิเลส ให้บ่อย

 

มารครับ ที่อยู่ในตัวเราคอยขัดขวางไม่ให้เข้าถึงธรรม ต้องเร่งความเพียรให้มาก
หากบาระมีเกิดแล้วอาการง่วงก็จะหายไปเองครับ ช่วงแรกๆ หากเกิดอาการง่วง
ก็ให้จิบน้ำเย็นครับ ก่อนเข้าห้องพระให้เตรียมน้ำเย็นไว้ข้างๆจิบทีละนิดอย่า
มาก กว่าจะจบเดี๋ยวจะแน่นท้องอึดอัดไม่มีสมาธิกับการสวดมนต์
ขอให้เจริญในธรรม

 

คำอธิษฐานขอพรพระ (f)

ข้า แต่พระพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า พระสงฆ์เจ้า ข้าพเจ้าขอน้อมอัญเชิญ เทพยดาเจ้าทั้งหลาย โปรดได้เสด็จมาฟังการสวดมนต์ของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขอขมากรรม หากกรรมใด ที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วพลาดผิดประการใด ด้วยกาย วาจา และด้วยใจก็ดี ตั้งแต่อดีตชาติเป็นต้นมาจวบจนในวันนี้ ทั้งที่ตั้งใจก็ดี ไม่ตั้งใจก็ดี ทั้งที่ข้าพเจ้าี่ระลึกได้ก็ดี ระลึกไม่ได้ก็ดีั้ ทั้งที่ข้าพเจ้ารู้เท่าถึงการณ์ก็ดี และ รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอทุกๆ พระองค์จงเมตตาอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

ข้าพเจ้าขอถวายพระพร ขอทุกๆ พระองค์จงทรงพระเกษมสำราญ จงทรงพระชนม์อายุยืนนาน จงทรงพระญาณบารมีให้สูงยิ่งๆขึ้ึุ้้้นไปด้วยเถิด ขอพระองค์ท่านทั้งหลาย จงประทานพรให้ข้าพเจ้าได้อยู่้ดีกินดี มีความสุขความเจริญ ยิ่งๆ ขึ้นไป ขอให้ข้าพเจ้าได้มีหูทิพย์ ตาทิพย์ และ เจโตปริญญาณ พร้อมทั้งเกิดดวงตาเห็นธรรม ให้ได้สำเร็จมรรคผล เข้าถึงพระนิพพาน ในชาติปัจจุบันด้วยเทอญ สาธุ สาธุ ..

ขออนุโมทนา กับคำชี้แนะ ทั้งหลายทั้งปวง .. สาธุ สาธุ

 

ขอบคุณสำหรับคำชี้แนะครับ จะตอบกลับเป็นข้อ ๆ นะครับ

1 เทพที่คุ้มครองลงมาสวดด้วยทุกครั้งล่ะครับ

2 บทที่สวดปกติคือ อธิฐานขอพรพระ (ที่คุณ little duck มาโพสต์ไว้ให้)
ต่อด้วยอาราธนาพระพุทธ พระธรรม พระสงค์, พาหุงฯ, มหากาฯ, ยอดพระกัณฐ์ไตรปิฎก, ชินบัญชร (3 จบ), ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร (เขียนไม่ถูกขออภัย), คาถาป้องกันภัยสิบทิศ (อาจารย์ฝั้น), ขอพรเทพฯ, พระแม่กวนอิม, พระสยามเทวาธิราช, พระพุทธเจ้าหลวง, แผ่บุญกุศลให้ตนเอง สรรพสัตว์ เจ้ากรรมนายเวร... กรวดน้ำ... นั่งสมาธิประมาณ 5 นาที ประมาณนี้ครับ

3 ไม่แน่ใจว่าเป็นเพราะเหนื่อยหรือง่วงหรือเปล่า แต่พอเลิกสวดก็กลับมาทำอย่างอื่นต่อได้ครับ (หายง่วง)

4 คำแปลนั้นได้อ่านและศึกษาไปทั้งหมดแล้วครับผม เข้าใจในเนื้อหาของคำแปลเป็นที่เรียบร้อย แต่อาจจะยังไม่แตกฉานนักครับ

5 นิวรณ์ธรรม... จะระวังครับ

ขอบคุณทุกท่านมากครับ ถ้าใครจะช่วยเสนอข้อคิดเห็นเพิ่มก็จะขอบคุณมากครับ ^^

 

ตาไล่ตามอัขระ
หูฟังเสีงตน
สวดอย่างมีสติ
สมาธิตั้งมั่นกับบทสวด
และเข้าใจความหมายของบทสวด
เท่านี้ก็ไม่ง่วงแล้วครับ
ได้กุศลกันเห็นๆ หุหุ

 

ตั้งใจแน่วแน่ ก็จะไม่ง่วงจ๊ะ สมาธิ สมาธิ

 

จะพยายามมากยิ่งขึ้นครับ

 

ตามธรรมดา หากเราจะศึกษาวิชา คณิตศาสตร์ให้ได้ผลดี เราก็ต้องตัดวิชาอื่นออกไปแล้ว ตั้งใจศึกษาเฉพาะคณิตศาตร์

แต่หากศึกษาคณิตศาสตร์อยู่ แล้ว ไปศึกษาเรื่อง สังคม แล้วเอามารวมกัน
ว่า อย่างนั้นอย่างนี้ การศึกษาคณิตศาสตร์มันก็กลายเป็น คณิตสังคม มันก็ไม่ได้เข้าถึงคณิตศาสตร์ที่แท้จริง

ก็อุปมาว่า ถ้าจะเอาเรื่องพุทธศาสนา ก็มีแค่ ศีล สมาธิ และ ปัญญา ก็ต้องตัดเรื่องเทพ เรื่องเจ้าออกไป
แล้ว ตั้งใจศึกษาเฉพาะ ศีล สมาธิ ปัญญาไปก่อน เมื่อศึกษาดีแล้ว ก็ค่อย ไปศึกษาเรื่องอื่น
แยกกันเป็นเรื่องๆ เอาอะไรเอาอย่างเดียว

ทีนี้ เราก็ควรเลือกศึกษาศาสตร์ทีี่พิสูจน์ได้ก่อน เพราะเราจะได้เอาความรู้ที่พิสูจน์ได้ ไปอธิบาย สิ่งที่จะศึกษาต่อไปได้อย่างไม่ผิด ทิศผิดทาง

ไม่เช่นนั้นมันจะกลายเป็น ความเชื่อ มากกว่า การศึกษา

 

สงสัยพ่อช้างมาภาคอะไรไม่รู้(ที่ต้องนอน) เรียกไม่ถูก