พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ราชวงศ์ชิงตอนกลาง / ธารประวัติศาสตร์
    http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000056287
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ยุทธชัย อนันตศักรานนท์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">29 พฤษภาคม 2551 15:53 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> <td align="right" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="PageTab" align="center" valign="middle"> 1 | 2 </td> <td width="3">[​IMG]</td> <td align="left" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td height="17" width="7">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/b_bg.gif" height="17">หน้าถัดไป</td> <td height="17" width="8">[​IMG]</td> <td height="17" width="11">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">นาฬิกาดนตรี สร้างขึ้นในกว่างโจว สมัยฮ่องเต้เฉียนหลง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> หลังราชวงศ์ชิงได้ผ่านยุครุ่งเรืองถึงขีดสุดมาแล้ว สรรพสิ่งก็ดำเนินไปตามวงเวียนแห่งกงล้อประวัติศาสตร์ จากรุ่งโรจน์สู่ความเสื่อมโทรม ไม่ว่ายุคสมัยใด บ้านเมืองเจริญได้ด้วยบุคคล ก็เสื่อมถอยด้วยบุคคลเฉกเดียวกัน และวันใดที่บ้านเมืองเริ่มเสื่อมถอย ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการฉวยโอกาสย่ำยีจากต่างชาติ...

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="530"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="530"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">บ้านของเหอเซิน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อาทิตย์เที่ยงวันผ่านพ้น

    แม้ว่าฮ่องเต้เฉียนหลงจะมีความวิริยะอุตสาหะในการบริหารปกครองบ้านเมือง ทว่ายุครุ่งโรจน์ของเฉียนหลงก็ประหนึ่งอาทิตย์เที่ยงวัน เมื่อผ่านพ้นย่อมเดินเข้าสู่ความเสื่อม ในช่วงหลังของรัชกาลเฉียนหลง กลับปรากฏขุนนางฉ้อราษฎร์บังหลวงจนเป็นที่เลื่องลือในหน้าประวัติศาสตร์นามว่าเหอเซิน (和珅)ผู้มีนามเดิมว่าซ่านเป่า สังกัดกองธงแดงของแมนจู มีความเชี่ยวชาญในภาษาแมนจู ฮั่น มองโกล และทิเบตถึง 4 ภาษา

    เมื่อแรกเริ่มรับราชการเหอเซินเริ่มต้นจากการเป็นทหารมหาดเล็กธรรมดาผู้หนึ่ง รับหน้าที่ในการหามเกี้ยวหรือถือธง ภายหลังเมื่อสบโอกาสได้แสดงความสามารถต่อหน้าพระพักตร์ของเฉียนหลง จึงเป็นที่โปรดปราน และได้เลื่อนขั้นอย่างต่อเนื่อง โดยเลื่อนขั้นเป็นราชองครักษ์ จากนั้นเป็นรองผู้บัญชาการกองธงน้ำเงิน โดยในช่วงเวลาที่รับราชการ 20 กว่าปี ได้รับการเลื่อนขั้นถึง 47 ครั้ง เคยดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการเก็บค่าธรรมเนียมประตูเมืองฉงเหวิน ดูแลท้องพระคลังส่วนพระองค์ คลังหลวง ซึ่งในระยะแรกเหอเซินเองก็เป็นขุนนางที่มีความซื่อสัตย์สุจริต และมีความสามารถ จนสามารถช่วยหาทางเติมเต็มเงินในคลังหลวงที่ร่อยหรอให้มีมากพอกับการดำเนินโครงการสำคัญๆในบ้านเมืองอย่างการทหาร การจัดซ่อมสร้างเขื่อน การสร้างพระสุสาน เป็นต้น

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="250"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="250"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพเหอเซิน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ยังไม่นับรวมกับผลงานอื่นๆอีกมากมายอาทิการคลี่คลายคดีที่หยุนหนัน การตรวจสอบบัญชีที่ซันตง และการคิดค้นหม้อไฟขนาดเล็ก ที่ทำให้งานเลี้ยงที่มีแขกเหรื่อกว่า 530 โต๊ะของฮ่องเต้เฉียนหลงนั้นสามารถมีอาหารที่อุ่นได้อยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเป็นที่โปรดปรานของเฉียนหลง เคยได้รับการควบดูแลหน้าที่ถึง 60 กว่าประการในเวลาเดียวกัน อีกทั้งได้รับพระราชทานพระธิดาพระองค์เล็กให้อภิเษกกับบุตรชายของเหอเซิน ทำให้เหอเซินซึ่งเป็นทั้งขุนนางใหญ่และกลายเป็นหนึ่งในพระประยูรญาติมีอำนาจมากขึ้นอย่างรวดเร็ว

    ภายหลังเหอเซินจึงเริ่มการแผ่ขยายอำนาจ ใช้ตำแหน่งหน้าที่ในการหาเงินทอง ไม่ว่าจะเป็นการเปิดโรงรับจำนำ เปิดร้านรับแลกตั๋วเงิน เหมืองแร่ และกิจการซื้อขายอื่นๆอีกมากมาย ยังไม่รวมถึงการฉ้อราษฎร์บังหลวง แบ่งพรรคแบ่งพวก ใช้อำนาจบาตรใหญ่ จนถึงกับมีบันทึกในสมัยต่อมาไว้ว่า “รัชสมัยเฉียนหลงแห่งต้าชิง เหอเซินใหญ่ยิ่งคับแผ่นดิน มีอำนาจเหลือล้นราชสำนัก เหล่าขุนนางพร้อมพรักชิงประจบ ทั้งขูดรีดฉ้อโกงอย่างเปิดเผย ละเลยขุนนางพรรคพวกอื่น จนระบบปกครองต้องพังครืน เหล่าขุนนางดาษดื่นด้วยคนพาล”
    ต่อมาในเดือนตุลาคม ปีค.ศ. 1795 ฮ่องเต้เฉียนหลงได้ประกาศว่าจะมีการสละราชสมบัติให้กับพระโอรสในฤดูใบไม้ผลิปีต่อไป เนื่องจากไม่ต้องการครองราชย์นานกว่าพระอัยกาคังซี ทำให้เฉียนหลงฮ่องเต้ประกาศสละราชสมบัติในปีค.ศ. 1796 เพื่อให้ตนอยู่ในตำแหน่งน้อยกว่าคังซี 1 ปี

    ทว่าหลังสละราชสมบัติให้กับฮ่องเต้เจียชิ่งแล้ว พระองค์ก็ยังคงเป็นผู้ที่กุมอำนาจแท้จริงอยู่ด้วยการอาศัยตำแหน่ง “ไท่ซั่งหวง” (太上皇) หรือพระราชบิดาหลวง ในการร่วมฟังข้อราชการด้วยเป็นเวลาถึง 3 ปีจนกระทั่งเสด็จสวรรคต

    กระทั่งวันที่ 13 เดือนอ้าย ค.ศ. 1799 หรือหลังจากที่เฉียนหลงฮ่องเต้สวรรคตเพียงวันเดียว ฮ่องเต้เจียชิ่งก็มีราชโองการประกาศความผิดของเหอเซิน 20 กระทง และมีบัญชาให้นำตัวไปกุมขัง ปลดออกจากตำแหน่ง และริบทรัพย์สมบัติทั้งหมดเข้าคลังหลวง

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เรือรบแมนจู</td></tr> </tbody></table></td> <td width="5">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ตามบันทึกได้ปรากฏว่า การริบทรัพย์ของเหอเซินในครั้งนั้นมีเงินทั้งสิ้น 800 ล้านตำลึง ในขณะที่งบประมาณแผ่นดินจากภาษีในขณะนั้นอยู่ที่ประมาณ 70 ล้านตำลึงต่อปี กล่าวคือเพียงเงินของเหอเซินที่ได้มาจากการฉ้อราษฎร์บังหลวง ก็เทียบเท่ากับงบประมาณแผ่นดินถึง 10 กว่าปียังไม่รวมถึงหลักฐานอื่นที่พบอาทิชามทองคำ 4,288 ใบ โถเงิน 600 ชิ้น จานทอง 119 ใบ ทองคำ 5,800,000 ตำลึง เงินแท่ง 50,000 แท่ง และเพชรนิลจินดา ผ้าแพรไหมของมีค่าอื่นๆอีกมากมาย ดังนั้นหลังจากริบทรัพย์แล้วในภายหลังจึงมีการกล่าวขานว่า “เหอเซินล้มกลิ้ง เจียชิ่งอิ่มท้อง” ขึ้น (和珅跌倒,嘉慶吃饱)

    หลังจากที่เหอเซินถูกกุมขัง 10 วัน ฮ่องเต้เจียชิ่งได้พระราชทานผ้าขาวให้แก่เหอเซิน เพื่อให้อัตวินิบาตกรรม แทนการประหารด้วยการแล่เนื้อทั้งเป็น ส่วนบุตรชายคนโตเนื่องจากได้อภิเษกกับองค์หญิงเหอเซี่ยว ทำให้เว้นจากการติดคุก ส่วนลูกหลานที่เหลือของเหอเซินก็ถูกเนรเทศไปยังหมู่บ้านที่ อยู่ทางใต้ของเมืองฮาร์บินลงมาราว 60 กิโลเมตร ในมณฑลฮาร์บิน ในช่วงวาระสุดท้ายก่อนการรัดคอตนเองนั้น เหอเซินยังได้ประพันธ์บทกวีสุดท้ายไว้ว่า “ห้าสิบปีคืนวันดังความฝัน บัดนี้รามือพลันลาโลก วันหน้าเมื่อวารีท่วมมังกร ตามหมอกควันขจรมาเกิดกาย” แสดงถึงความรันทดและความแค้นที่มี สื่อความหมายถึงวันใดที่มีผู้กลับมาควบคุมฮ่องเต้ไว้ คนผู้นั้นก็คือเหอเซินที่กลับมาเกิดใหม่ ซึ่งมีคนตีความไว้ว่าเป็นซูสีไทเฮา ที่เกิดในปีค.ศ.1835 ที่แม่น้ำฮวงโหได้เกิดอุทกภัย

    ** ความร่ำรวยของเหอเซินนั้น ได้รับการจัดอันดับจากหนังสือพิมพ์ยักษ์ใหญ่อย่างวอลล์ สตรีท เจอร์นัล ให้เป็นหนึ่งใน 50 บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลกในรอบสหัสวรรษ เมื่อเดือนเม.ย. 2007 โดยก่อนหน้านั้นได้เคยรับการจัดอันดับให้เป็นบุคคลที่รวยที่สุดในศตวรรษที่ 18

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="250"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="250"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">การสูบฝิ่นที่เริ่มแพร่ระบาดในสังคมจีน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> การทุจริตฉ้อฉลของคนที่มีสติปัญญาและความสามารถอย่างเหอเซิน ไม่เพียงแต่ส่งผลให้ท้องพระคลังในราชสำนักลดลงเท่านั้น แต่ยังเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดการแพร่ระบาดของการฉ้อราษฎร์บังหลวงไปทั่วแวดวงราชการ เท่ากับเป็นการทำลายระบบในการปกครองอันเข้มงวด ที่ได้พยายามวางรากฐานให้ขุนนางปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตกันมานานลง


    สงครามฝิ่น ครั้งที่ 1

    แม้ราชวงศ์ชิงจะมีความยิ่งใหญ่เพียงใดก็ตาม แต่ที่ผ่านมาก็เลือกที่จะปิดประเทศไม่ค้าขายกับชาติอื่น จนกระทั่งปีค.ศ. 1757 หรือในรัชกาลเฉียนหลงปีที่ 22 ก็ได้มีการกำหนดให้เมืองกว่างโจวเป็นเมืองท่าเพียงแห่งเดียวที่ได้รับการอนุญาตให้ติดต่อกับชาติต่างชาติ ซึ่งนับตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 18 เป็นต้นมา อังกฤษได้นำเข้าใบชา ถ้วยชามเครื่องเคลือบและผ้าไหมจากจีนเป็นจำนวนมาก ในขณะที่มีสินค้าส่งออกให้จีนเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ทำให้อังกฤษเสียเปรียบดุลการค้าให้จีนอย่างมหาศาล

    กระทั่งรัชกาลเฉียนหลงปีที่ 28 หรือค.ศ. 1773 เพื่อถ่วงดุลการค้าที่เสียเปรียบ อังกฤษได้เริ่มนำเอาฝิ่นเข้ามาจำหน่ายในเมืองจีน ซึ่งเดิมทีสำหรับคนจีน นับตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 เป็นต้นมา ฝิ่นก็ถูกจัดและถูกใช้ในฐานะยาสมุนไพรประเภทหนึ่ง กระทั่งหลังจากที่อังกฤษได้เข้าพิชิตอินเดีย และได้มอบสิทธิผูกขาดในการจำหน่ายให้กับบริษัทอีสต์อินเดีย และนำเข้าจำหน่ายในจีนเป็นจำนวนมาก ซึ่งในเวลานั้นนอกจากอังกฤษแล้ว ยังมีอเมริกา ฝรั่งเศสและรัสเซียที่ต่างก็พยายามนำเอาฝิ่นจากตุรกี และเอเชียกลางมาจำหน่ายในจีนเช่นกัน

    ในช่วงเวลานั้น ราคาของฝิ่นอยู่ชั่งละ 5 ตำลึงเงิน ในช่วงเวลา 40 ปีก่อนที่สงครามฝิ่นจะปะทุขึ้น อังกฤษได้ขนฝิ่นเข้ามาประเทศจีนมากถึง 400,000 ลัง จนดูดเอาเงินแท่งออกไปจากจีนได้ราว 300 ล้าน – 400 ล้านแท่ง จนกระทั่งเกิดปัญหาการขาดแคลนเงินแท่งภายในประเทศและทำให้ราคาของเงินแท่งพุ่งสูงขึ้นไปกว่า 1 เท่าตัว จนประชาชนและประเทศชาติต่างยากจนลงไปตามๆกัน คนที่สูบฝิ่นมากขึ้นทุกขณะ ไม่เพียงแต่เป็นในวงขุนนางข้าราชการเท่านั้น แต่เลยไปถึงบรรดาเจ้าของที่ดิน พ่อค้า บัณฑิต และแม้กระทั่งชาวไร่ชาวนา ช่างแรงงาน ทหารก็ไม่เว้น

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="266"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="266"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หยกขาวรูปเด็กหยอกมุสิก</td></tr> </tbody></table></td> <td width="5">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ปีค.ศ. 1821 ฮ่องเต้เจียชิ่งเสด็จสวรรคต พระโอรสองค์ที่ 2 ได้ขึ้นครองราชย์มีพระนามว่าฮ่องเต้เต้ากวง ในเวลานั้นเป็นช่วงเวลาที่ราชสำนักชิงฟอนเฟะ กองกำลังทหารอ่อนโทรม มีการลุกฮือขึ้นก่อความไม่สงบมากมาย และที่สำคัญก็คือการสูบฝิ่นที่แพร่ระบาดไปทั่ว

    เมื่อมาถึงปีค.ศ. 1838 ทั่วประเทศมีชาวจีนที่ติดฝิ่นมากถึง 2,000,000 คน จนถึงกับมีคำกล่าวว่าฝิ่นนั้น นอกจากจะขูดเอาเงินแท่งจากจีนไปแล้ว ยังได้ทำลายสุขภาพร่างกายและจิตวิญญาณชาวจีนไปด้วย ในปีเดียวกันนี้จึงมีกลุ่มขุนนางถวายฎีกาโดยเปิดโปงบรรดาข้าราชการที่ค้าฝิ่น และผลักดันให้มีการหยุดฝิ่นด้วยการลงโทษผู้ที่สูบอย่างรุนแรง หลังจากนั้นหลินเจ๋อสีว์ (林则徐) ผู้ตรวจการหูกว่างได้ถวายฎีกาถึง 3 ครั้งต่อฮ่องเต้เต้ากวง โดยระบุว่าหากไม่ทำการหยุดฝิ่นในประเทศจีน ในระยะยาวอีกหลายสิบปีนั้น จีนจะไม่เหลือทหารไว้รบ ไม่เหลือเงินไว้ใช้อีกต่อไป จนทำให้ฮ่องเต้เต้ากวงมีดำริที่จะปราบปรามฝิ่นอย่างจริงจัง

    ปีค.ศ. 1839 หลินเจ๋อสีว์ได้เตรียมคน และทหารเดินทางออกจากปักกิ่งอย่างไม่เอิกเกริก เมื่อตรวจพบผู้กระทำผิดกฎหมายก็จะมีการดำเนินการลงโทษทันที และเมื่อเดินทางถึงกว่างโจว (กวางเจา) ก็ทำการลอบสืบเป็นการลับ จนกระทั่งรู้ถึงเส้นทางขนส่งและจำหน่ายฝิ่นแล้ว จึงเริ่มต้นมีคำสั่งให้พ่อค้าต่างชาติทำการส่งมอบฝิ่นในครอบครองออกมาทั้งหมด จากนั้นให้ทำทัณฑ์รับรองว่าจะไม่ขนฝิ่นลงเรือมายังประเทศจีนอีกตลอดไป ซึ่งหากมีครั้งต่อไปจะถูกริบและจับกุมคนดำเนินคดี

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="216"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="216"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หลินเจ๋อสี่ว์</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> นอกจากนั้นหลินยังได้ทำการกวาดล้างปัญหาฝิ่น ด้วยการจัดการตั้งกฎอย่างเด็ดขาดให้ผู้เกี่ยวข้องกับการค้าฝิ่นจะถูกกุมขังในเรือนจำ ในมีหลักฐานว่าเป็นผู้ค้าจะถูกตัวศีรษะเสียบประจาน ส่วนผู้ที่ติดฝิ่นก็จะมีการส่งเข้าสถานรักษาพยาบาลเพื่อช่วยให้เลิกฝิ่น จากนั้นก็จัดโครงการรณรงค์ให้อดฝิ่น โดยที่ใครทำสำเร็จทางการจะทำการประกาศเกียรติคุณให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับผู้อื่น

    หลินเจ๋อสีว์ได้กำหนดเวลา 3 วันให้ทุกคนที่มีฝิ่นนั้นส่งมอบออกมาให้หมด กระทั่งครบเวลาที่กำหนดขณะนั้นได้ฝิ่นทั้งสิ้นเพียง 1,037 ลัง เมื่อเห็นดังนั้น จึงมีคำสั่งให้ปิดล้อมร้านค้า ยกเลิกการค้าขายระหว่างจีนกับอังกฤษ ไม่อนุญาตให้ร้านค้าติดต่อกับเรือที่มีการขนฝิ่น ปลดพนักงานชาวจีนที่ทำงานกับผู้ค้าต่างชาติ แล้วนำกำลังออกปิดล้อมคลังสินค้า โดยหนึ่งในนั้นมีผู้ตรวจการพาณิชย์อังกฤษ ชาร์ลส์ เอลเลียตอยู่ด้วย เมื่อชาร์ลส์ในขณะนั้นไม่มีกำลังรบอยู่ในมือ และกลัวว่าพ่อค้าฝิ่นของตนจะถูกฆ่า จึงยอมส่งมอบฝิ่นจากเรือ 20 ลำออกมาจำนวนทั้งสิ้นปรากฏว่ามีถึง 20,283 ลัง

    ในวันที่ทำการทำลาย ได้มีผู้คนจำนวนมากแห่แหนเข้ามาชมดูกันอย่างเนืองแน่น หลินเจ๋อสีว์ได้ให้คนขุดหลุมขนาดใหญ่ 2 หลุมบริเวณชายหาดหู่เหมิน แล้วจัดการเผาทำลายฝิ่นที่มีจำนวนกว่า 2,000,000 ชั่ง และใช้เวลาเผาทำลายถึง 3 สัปดาห์

    คลิกอ่านต่อหน้า 2

    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> <td align="right" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="PageTab" align="center" valign="middle"> 1 | 2 </td> <td width="3">[​IMG]</td> <td align="left" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td height="17" width="7">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/b_bg.gif" height="17">หน้าถัดไป</td> <td height="17" width="8">[​IMG]</td> <td height="17" width="11">[​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ราชวงศ์ชิงตอนกลาง / ธารประวัติศาสตร์
    http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9510000056287&Page=2
    <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ยุทธชัย อนันตศักรานนท์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">29 พฤษภาคม 2551 15:53 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> <td align="right" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td height="17" width="10">[​IMG]</td> <td height="17" width="7">[​IMG]</td> <td align="center" background="/images/b_bg.gif" height="17">หน้าที่แล้ว</td> <td height="17" width="8">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table></td> <td width="2">[​IMG]</td> <td class="PageTab" align="center" valign="middle"> 1 | 2 </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> </tbody></table><table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพวาดการลงนามในสนธิสัญญานานกิง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ภายหลังสภาผู้แทนราษฎรอังกฤษได้มอบอำนาจให้ชาร์ลส์ เอลเลียตนำเรือ 40 กว่าลำ ทหารกว่า 4,000คน มาอยู่ที่บริเวณมาเก๊า และทำศึกกับจีนซึ่งได้มีการเตรียมตัวรับมือไว้ก่อนแล้ว ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีผู้คนล้มตายทั้งสองฝ่าย ถือเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามฝิ่นครั้งแรก

    ประจวบกับในเวลานั้นมีกลาสีชาวอังกฤษกลุ่มหนึ่งเมาอาละวาดฆ่าชาวจีนในเกาลูนตายไปหนึ่งคน ชาร์ลส์ เอลเลียตไม่ยอมส่งตัวจำเลยให้กับทางการจีน ทำให้ความรู้สึกเป็นปฏิปักษ์กับชาวตะวันตกเพิ่มสูงขึ้น เมื่อถึงเดือนมิ.ย.ปีค.ศ. 1840 กองเรือรบอังกฤษภายใต้การบัญชาการของพลเรือเอกยอร์ช เอลเลียตก็เดินทางมาถึง แล้วใช้กำลังเรือส่วนหนึ่งปิดท่าเอาไว้ จากนั้นส่งกำลังส่วนใหญ่แล่นขึ้นเหนือเข้ายึดเมืองติ้งไห่ ใช้เป็นศูนย์บัญชาการ จากนั้นในเดือนส.ค. ก็แล่นเรือขึ้นไปบริเวณใกล้ๆป้อมต้ากูที่เทียนจิน ซึ่งเข้าใกล้ปักกิ่งมากขึ้นทุกที

    ฮ่องเต้เต้ากวงในเพลานั้น เมื่อพบเห็นสถานการณ์คับขัน ก็ถึงกับครั่นคร้ามในแสนยานุภาพกองทัพของอังกฤษ ผนวกกับถูกคำยุยงจากฝ่ายที่ขอให้ยอมเจรจาสงบศึก จึงได้เปลี่ยนพระทัย จึงได้ส่งผู้ตรวจการฉีซั่นไปยังเทียนจิน เพื่อขอเจรจา โดยฉีซั่นได้เสนอเงื่อนไขก่อนเจรจาว่าจะมีการปลดและลงโทษหลินเจ๋อสีว์ และเปลี่ยนข้าหลวงคนใหม่ไปยังกว่างโจว อีกทั้งยอมรับฟังความเดือนร้อนของพ่อค้าอังกฤษ

    ในขณะนั้นเป็นช่วงผลัดเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง มีโรคระบาดเกิดขึ้น ทำให้ทหารอังกฤษละทิ้งเมืองติ้งไห่ แล้วกลับไปเจรจากันที่กว่างโจว และลงนามใน “ร่างสนธิสัญญาชวนปี๋” ที่มีเนื้อหาว่าจีนจะต้องยกเกาะฮ่องกง และท่าเรือให้กับอังกฤษ จากนั้นชดใช้เงินให้กับรัฐบาลอังกฤษจำนวน 6,000,000 ตำลึงเงิน เปิดท่าเรือกว่างโจวให้เป็นท่าเรือพาณิชย์ โดยที่อังกฤษจะยอมถอนทหารออกจากซาเจี่ยว ป้อมปืนต้าเจี่ยวกลับไปที่ติ้งไห่

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">หยกขาวสลักรูปสัตว์</td></tr> </tbody></table></td> <td width="5">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> การลงนามสนธิสัญญาดังกล่าว เป็นการกระทำโดยพลการของฉีซั่น ทำให้ฮ่องเต้เต้ากวงทรงกริ้วเป็นอย่างมาก จึงมีรับสั่งปลดและลงโทษฉีซั่น จากนั้นส่งอี้ซัน ซึ่งเป็นขุนนางราชองครักษ์วังหลวง นำกำลังทหารหมื่นกว่าคนไปยังมณฑลกวางตุ้งเพื่อต่อต้านทัพอังกฤษ ที่ในขณะนั้นได้เข้ายึดครองฮ่องกงและติ้งไห่

    ทหารของอังกฤษหลังจากยึดป้อมปืนใหญ่ได้หลายแห่ง ก็นำกำลังบุกโจมตีกว่างโจว จนทหารของจีนต้องหลบกลับเข้าในตัวเมืองกันหมด แม่ทัพอี้ซั่นจึงได้เสนอให้เจรจาสงบศึกอีกครั้ง จนมีการลงนามในสนธิสัญญากว่างโจว ซึ่งได้รับการอนุมัติจากเต้ากวงให้มีการชดใช้เงินจำนวน 6,000,000 ตำลึงเพื่อให้อังกฤษถอยออกจากเมือง

    ทว่าท่าทีของประชาชนกลับแตกต่างจากราชสำนักที่ยอมอ่อนข้อให้กับทหารอังกฤษ จึงมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่ลุกขึ้นจับอาวุธ ต่อสู้กับทหารอังกฤษที่มีอยู่พันกว่านายในเกว่างโจว จนทำให้มีทหารอังกฤษเสียชีวิตไปหลายสิบคน

    ในขณะที่ทางอังกฤษเองก็ไม่พอใจกับสิทธิที่ได้รับจากการเจรจาของชาร์ลส์ เอลเลียตถึงกับมีการปลดเอลเลียต แล้วส่งเซอร์เฮนรี ป็อตติงเจอร์ ในเดือนส.ค. ปีค.ศ. 1841 ป๊อตติงเจอร์ได้นำเรือ 37 ลำพร้อมทหารอีก 2,500 คนออกจากฮ่องกง มุ่งขึ้นเหนือโจมตีเซี่ยเหมิน ถัดมาอีกเดือนกว่าๆ ก็สามารถบุกยึดติ้งไห่ โดยเก่อหยุนเฟย (葛云飞) ผู้บัญชาการทหารของเมืองต้องพลีชีพ จากนั้นก็บุกยึดเจิ้นไห่ หนิงปอ และบุกต่อไปโดยไม่สนใจคำขอเจรจาจากฝั่งจีน จนกระทั่ง บุกยึดเป่าซัน เซี่ยงไฮ้ และเรื่อยไปถึงด่านทางใต้ของหนันจิง (นานกิง) ทำให้ทางการจีนจำต้องยอมเจรจาภายใต้เงื่อนไขที่ไม่ยุติธรรมอย่างยิ่ง เรียกว่า “ร่างสนธิสัญญานานกิง” โดยสนธิสัญญาที่ถือว่าเป็นสัญญาอัปยศของจีนนั้นมีเงื่อนไขโดยสรุปคือ

    1. รัฐบาลต้าชิงจะต้องชดใช้เงินเงินทั้งสิ้น 21 ล้านตำลึง โดยแบ่งเป็นค่าปฏิกรรมสงคราม 12 ล้านตำลึง ค่าเสียหายให้พ่อค้าอังกฤษ 3 ล้านตำลึง และค่าเสียหายจากฝิ่นอีก 6 ล้านตำลึง โดยจำนวนนี้ไม่นับรวมกับ 6 ล้านตำลึงที่จ่ายไปก่อนหน้า

    2. จะต้องยกเกาะฮ่องกงให้อังกฤษ

    3. เปิดเมืองท่าทั้ง 5 ได้แก่กว่างโจว เซี่ยเหมิน ฝูโจว หนิงปอ และเซี่ยงไฮ้เป็นเมืองท่าพาณิชย์

    4. ภาษีทั้งขาเข้าและขาออกของพ่อค้าอังกฤษให้เป็นไปตามการเจรจาของทั้ง 2 ฝ่าย

    ซึ่งหลังจากนั้นอีก 1 ปีจีนยังได้ลงนามในข้อตกลงและวิธีปฏิบัติ ซึ่งมีสัญญาเพิ่มเติมจากสนธิสัญญานานกิงโดยกำหนดให้อังกฤษมีสิทธิสภาพนอกอาณาเขต คือ ชาวอังกฤษไม่อยู่ใต้กฎหมายของประเทศที่พำนักอาศัย เมื่อกระทำผิดหรือถูกฟ้อง คดีความจะถูกตัดสินพิจารณาคดีโดยกงสุลของประเทศตนเอง และอังกฤษจะต้องเป็นประเทศที่ได้รับผลประโยชน์อย่างดีที่สุด กล่าวคือ หากจีนมีการให้สิทธิพิเศษด้านการค้า เดินเรือ ภาษี หรือ การคุ้มครองทางกฎหมายแก่ประเทศใด อังกฤษจักได้รับสิทธิดังกล่าวไปด้วยเช่นกัน และการลงนามในสนธิสัญญานานกิงนี้ก็ถือเป็นจุดจบของสงครามฝิ่นครั้งที่ 1 ลง

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="500"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="500"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ชุดมังกรของไท่ผิงเทียนกั๋ว</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> กบฏไท่ผิงเทียนกั๋ว(太平天国)

    ภายหลังราชวงศ์ชิงพ่ายแพ้ในสงครามฝิ่น ได้ก่อให้เกิดความขัดแย้งในสังคมจีนขึ้นอย่างรุนแรง รัฐบาลต้าชิงได้หมดเงินไปกับการทหารในสงครามดังกล่าวถึง 70 ล้านตำลึง บวกกับต้องชดใช้ให้กับต่างชาติตามร่างสนธิสัญญานานกิงอีก 21 ล้านตำลึง ภาระเหล่านี้ถูกผลักโอนมายังชาวไร่ชาวนาทั่วไป ซ้ำร้ายยังถูกขุนนางกับเจ้าของที่ดินขูดรีด ทำให้ประชาชนต้องแบกภาระและชำระภาษีมากกว่าที่กำหนดไว้ตามตัวบทกฎหมายหลายเท่า บวกกับเงินแท่งมีมูลค่าสูงขึ้น และภัยธรรรมชาติจากอุทกภัยและภัยแล้งจนประชาชนต้องอดอยากและประสบทุกข์เข็ญอย่างยิ่ง

    ผลของความวุ่นวายในสังคม และความลำบากของราษฎร ได้ก่อให้เกิดกลุ่มกบฏชาวนาขึ้นในช่วงปลายราชวงศ์ชิง โดยกลุ่มกบฏนี้ได้ตั้งชื่อตนเองว่า “ไท่ผิงเทียนกั๋ว” อันหมายถึงอาณาจักรสวรรค์อันสันติสุข ซึ่งผู้นำกลุ่มกบฏนี้มีนามว่า หงซิ่วเฉวียน (洪秀全) ที่เคยเป็นบัณฑิตสอบตกหลายสมัย ในขณะที่กำลังท้อแท้หมดอาลัย กลับได้พบกับหมอสอนศาสนา ซึ่งหลังจากที่ได้อ่านหลักคำสอนในศาสนาคริสต์แล้วพบว่ามีการระบุถึง “ดินแดนสวรรค์ที่ทุกคนต่างดีงามและเสมอภาค” แล้ว ยิ่งทำให้หงมีความสนใจและเริ่มต้นนับถือพระผู้เป็นเจ้าขึ้น

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="right" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td width="5">[​IMG]</td> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">การปะทะกันของไท่ผิงเทียนกั๋วกับอังกฤษที่เทียนจิน</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ค.ศ. 1843 หงซิ่วเฉวียนได้ชักชวน เฝิงหยุนซัน ที่เป็นเพื่อนสมัยเรียนและลูกพี่ลูกน้องชื่อหงเหรินกาน ไปยังลำธารเล็กๆสายหนึ่ง จากนั้นกระโดดลงไปในน้ำ ชำระร่างกายจนสะอาด เป็นสัญลักษณ์เหมือนการทำพิธี “ใช้น้ำเข้าจารีต” ของศาสนาคริสตร์ จากนั้นทั้งสามก็ได้ตกลงกันอย่างลับๆในการจัดตั้ง “สมาคมนับถือพระเจ้า” (拜上帝会) ขึ้น และประกาศว่าตนเป็นบุตรคนรองของพระผู้เป็นเจ้า หรือเป็นน้องชายของพระเยซู

    หลังจากจัดตั้งสมาคมขึ้น หงกับเฝิงหยุนซันก็เดินทางไปเผยแพร่คำสอนที่เขตจื่อจิงซัน ในมณฑลกว่างซี (กวางสี) หลังจากนั้นก็เดินทางไปยังกว่างตง (กวางตุ้ง) ในระยะเวลา 2 ปีกว่าๆที่เผยแพร่ศาสนา ก็ได้ทำการเขียนหนังสือต่างๆออกมา ว่าวด้วยผลักดันอุดมการณ์ความเท่าเทียมกันของชาวนา

    ในขณะนั้นเฝิงหยุนซันก็สามารถรวมรวบสมาชิกได้หลายพันคน จนกระทั่งค.ศ. 1850 ฮ่องเต้เต้ากวงทรงสินพระชนม์ มีราชโอรสขึ้นครองราชย์ พระนามว่าฮ่องเต้ชิงเหวินจง (清文宗) หรือเรียกตามชื่อรัชกาลว่าฮ่องเต้เสียนเฟิง (咸丰皇帝) ในเวลานั้นสมาคมนับถือประเจ้าได้รวบรวมคนมามากกว่า 20,000 คน โดยสมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวนาที่ยากจนข้นแค้นเป็นหลัก

    กระทั่งเดือนมิ.ย.- ก.ค. ในปีเดียวกัน สมาชิกแต่ละคนได้นำเอาทรัพย์สินสิ่งของมีค่าของตนมาสมทบทุนกันตามแต่ฐานะที่มี รวมเป็นกองทุนที่เรียกว่า “สมบัติศักดิ์สิทธิ์” จากนั้นก็จัดทั้งหน่วยสู้รบชายและหญิง โดยแยกค่ายทหารชายกับหญิงออกจากกัน และมีการตราระเบียบวินัยอย่างเข้มงวดอาทิ ห้ามทุจริต ห้ามสูบฝิ่น ห้ามข่มขืนสตรีซึ่งมีโทษถึงขั้นประหารชีวิต นอกจากนั้นยังให้สมาชิกชาย ตัดหางเปียทิ้ง โดยระบุว่าเป็นเครื่องหมายข้าทาสของแมนจู แล้วให้หันมาไว้ผมยาวแทน

    ช่วงต้นปีค.ศ. 1851 สมาคมนับถือพระเจ้ามีสมาชิกมากถึง 30,000 คนมีการประกาศสถาปนาอาณาจักร “ไท่ผิงเทียนกั๋ว” ขึ้น โดยหงซิ่วเฉวียนตั้งตนเป็น “เทียนหวัง” หรือกษัตริย์สวรรค์ขึ้น จากนั้นก็แต่งตั้งหยางซิ่วชิง เป็นตงหวัง หรือเจ้าบูรพา แต่งตั้งเซียวเฉากุ้ยเป็นซีหวาง หรือเจ้าประจิม ตั้งเฝิงหยุนซันเป็นหนันหวัง หรือเจ้าทักษิณ เหวยชังฮุยเป็นเป็นหวังเจ้าอุดร และสือต๋าไคเป็น อี้หวังหรือเจ้าปีกทัพ เริ่มต้นกระบวนการปฏิบัติที่ยาวนานถึง 14 ปี

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="left" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">เหรียญที่ไท่ผิงเทียนกั๋วผลิตไว้ใช้ในอาณาเขตของตน</td></tr> </tbody></table></td> <td width="5">[​IMG]</td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> หลังจากนั้นกองทัพก็เริ่มต่อสู้กับกองกำลังราชวงศ์ชิง โดยบุกขึ้นเหนือไปยังกุ้ยหลิน ล้อมฉางซา ยึดอี้ว์โจว และเอาชนะที่อู่ชังได้ทำให้ได้เรือมานับหมื่นลำ ได้อาวุธ และปืนใหญ่เป็นจำนวนมาก มีการตั้งกองทัพเรือขึ้น กระทั่งสามารถบุกหนันจิง (นานกิง) ในเดือนมี.ค. ปีค.ศ. 1853 นี้ไท่ผิงเทียนกั๋วมีสมาชิกราว 500,000 คน

    หลังจากยึดนานกิง ก็ได้อาศัยเปลี่ยนชื่อเป็นเทียนจิง และใช้เป็นเมืองหลวงของอาณาจักร และส่งกองทัพสองสายบุกขึ้นเหนือและตะวันตก โดยทางเหนือบุกยึดไปถึงเทียนจิน ส่วนสายตะวันตกก็บุกไปตามแม่น้ำฉางเจียงสู่อู่ชาง ฮั่นหยาง และฮั่นโข่ว ในช่วงระยะเวลา 3 ปี ซึ่งส่วนใหญ่จะประสบชัย ได้เข้ายึดครองดินแดนด้านตะวันออกของมณฑลหูเป่ย เจียงซี และอันฮุย ซึ่งถือเป็นช่วงรุ่งโรจน์ที่สุดของอาณาจักร

    ประชาชนในอาณาจักรไท่ผิงเทียนกั๋วมีเป็นหลักล้าน ได้จัดตั้งสกุลเงินของตนเองขึ้นมาใช้ และได้มีการกำหนดนโยบายในการปกครองสำคัญๆขึ้น เช่นระบบการจัดสรรที่นาเทียนเฉา ที่ให้ที่ดินทั่วประเทศเป็นสาธารณะให้ทุกคนมีสิทธิ์ในการถือครองอย่างเท่าเทียมกัน แล้วมี “ยุ้งฉางกลาง” ที่ให้ผลผลิตเป็นของส่วนกลาง แล้วจัดสรรให้ตามลำดับชั้นฐานะ ส่งเสริมให้ชายหญิงเท่าเทียมกัน ให้ผู้หญิงมีสิทธิ์สอบเข้ารับราชการเป็นขุนนางได้ สั่งห้ามการซื้อขายฝิ่น อนุญาตให้พ่อค้าต่างชาติค้าขายได้อย่างเท่าเทียมกัน อีกทั้งมีการยกเลิกประเพณีต่างๆเช่นการมัดเท้าสตรี ให้รื้อทำลายศาลเจ้า ห้ามบูชากราบไหว้ ยกเลิกการแต่งงานด้วยการซื้อขาย และห้ามการซื้อทาสเป็นต้น

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่ากบฏไท่ผิงเทียนกั๋วจะสามารถสร้างอาณาจักรของตนขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ แต่สุดท้ายจากการที่ผู้นำกบฏเกิดขัดแย้งกันเอง โดยหยางซิ่วซิงได้แยกตัวออกไป จากนั้นหงซิ่วเฉวียนได้ให้เหวยชังฮุยไปสังหารหยางซิ่วซิง แต่สุดท้ายเหวยชังฮุยก็ถูกหงซิ่วเฉวียนสังหาร ในขณะที่สือต๋าไคก็ต้องพาทหารตนเองหลบหนีไป กระทั่งกองทัพเริ่มอ่อนแอลง กอปรกับราชสำนักชิงในตอนนั้น ได้ร้องขอให้กองทัพอังกฤษซึ่งมีอาวุธอันทันสมัยมาร่วมมือกับทหารในกองทัพไฮว๋ของหลี่หงจาง และกองทัพหูหนันของจางกั๋วฟาน จนกองกำลังของไท่ผิงเทียนกั๋วสูญเสียที่มั่นไปเรื่อยๆ กระทั่งปลายปีค.ศ. 1863 ในรัชกาลถงจื้อปีที่ 2 ทหารชิงก็สามารถล้อมเมืองเทียนจิง (นานกิง) ทว่าหงซิ่วเฉวียนไม่ยอมทิ้งเมืองหลวงไปตั้งหลักในที่ใหม่ จนกระทั่งหงซิ่วฉวนซึ่งเจ็บป่วยอยู่ได้สั่งให้ประชาชนกินหญ้าแทนข้าว โดยตนเองได้เริ่มต้นกินก่อน จนทำให้อาการป่วยทรุดหนักลง ประกอบกับไม่มียารักษาจึงทำให้เสียชีวิตลง ซึ่งบางตำราก็ระบุว่าหงซิ่วเฉวียนได้ฆ่าตัวตาย แต่แม้กระนั้นทหารไท่ผิงนับแสนคนในเทียนจิง ก็ยังคงสู้โดยไม่ยอมแพ้ จนกระทั่งสุดท้ายกว่าทหารชิงจะสามารถเอาชนะได้ อาณาจักรไท่ผิงเทียนกั๋วก็จบลงด้วยทะเลเลือด

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">แผนที่แสดงเส้นทางการต่อสู้ช่วงสงครามฝิ่นครั้งแรก โดยจุดที่มีธงคือจุดที่ทหารชิงต่อต้านอังกฤษ ส่วนสีชมพูคือจุดที่จีนถูกบังคับให้เปิดท่าเรือตามสนธิสัญญานานกิง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table>

    </td> </tr> </tbody></table> </td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> <td align="right" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="right" valign="middle"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td height="17" width="10">[​IMG]</td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table></td></tr></tbody></table>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  4. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ง่ำๆมาให้ความรู้กันนิดครับ การแทรกแทรงใดๆก็ตามตามกลไกของตลาด แล้วทำให้ประชาชนส่วนมากที่เดือดร้อน ดีขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ดีครับ เพียงแต่ต้องรู้จักควบคุมจำกัดวง และเวลา ครับ ไม่เช่นนั้นจะเป็นระเบิดเวลาที่ถูกซื้อออกไปเท่านั้น ใช่แล้วครับ ผมหมายถึงน้ำมันดีเซล......ประหยัดกันนะครับอย่าลืม....
     
  5. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ง่ำๆ ลืมตอบครับ ช่ายเลยครับคิดถึงกรุเนปาลที่อยู่กับคอคุณตั้งใจ เมื่อไหร่จาให้ผมซักทีครับ55555
     
  6. ตั้งจิต

    ตั้งจิต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,574
    ค่าพลัง:
    +5,485
    กรุนี้มีอีกองค์เมื่อไรให้เลยจริงๆ พี่หนุ่มครับพี่หนุ่ม มีอีกมั้ย ถ้ามีเมื่อไรส่งให้ลุงเลยนะจ๊ะ(ping)
     
  7. nongnooo

    nongnooo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    4,139
    ค่าพลัง:
    +9,446
    ง่ำๆ ผมชอบอารายที่มีเจ้าของอยู่แล้วคร๊าบง่ำๆ.......55555
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตั้งจิต [​IMG]
    มันเป็นยังไงล่ะครับ รู้สึกๆ คิดถึงผมใช่ปะ(sing)
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ nongnooo [​IMG]
    ง่ำๆ ลืมตอบครับ ช่ายเลยครับคิดถึงกรุเนปาลที่อยู่กับคอคุณตั้งใจ เมื่อไหร่จาให้ผมซักทีครับ55555
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เหออออออออ เหลืออยู่ 2 องค์เอง แถมไม่ใช่พิมพ์อรหันกลางซะด้วยสิ

    .
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รายการ"ตัวจริงเสียงจริง" ตอน "เปิดเทอมใหม่ หัวใจมีธรรม"(บ่อเงินบ่อทอง)

    http://palungjit.org/showthread.php?t=129914 <TABLE class=tborder id=post1222598 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-TOP: 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px">22-05-2008, 04:42 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM: 1px solid" align=right>#1 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT: 1px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1222598", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:10 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 3,776
    ได้ให้อนุโมทนา 444 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 34,120 ครั้ง ใน 3,722 โพส
    พลังการให้คะแนน: 3513 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1222598 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid">รายการ"ตัวจริงเสียงจริง" ตอน "เปิดเทอมใหม่ หัวใจมีธรรม"(บ่อเงินบ่อทอง)
    <HR style="COLOR: rgb(255,255,255)" SIZE=1>เมื่อ2ปีที่แล้ว พวกเราชาว"พลังจิต" ได้ช่วยเหลือสำนักสงฆ์แห่งหนึ่ง ที่ห่างไกลความเจริญ ในขณะนั้นพระสงฆ์-สามเณรเกื่อ100รูปกำลังลำบาก ไม่มีอาหารและที่พักต้องใช้"เมรุ"เป็นที่หลบหนาวและศึกษาธรรม หลังจากที่ชาวคณะ"พลังจิตและสื่อต่างๆได้มาร่วมกันทำความดีสงเคราะพระ-เณรที่กำลังลำบาก มาวันนี้ความเป็นอยู่ของพระ-เณรมีความคล่องตัวขึ้น สมบูรณ์ขึ้น ต้องขอกราบโมทนากับทุกๆท่านที่ได้ร่วมบุญกันมาตั้งแต่ต้นจนถึงปัจจุบันและคงจะอีกนานแสนนานเท่าที่สติปัญญา กำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์ยังคงมีอยู่ สาธุๆๆ

    กว่าจะมาถึงวันนี้ต้องผ่านอะไรมาตั้งมากมาย มีหลายๆครั้งที่มีเหตุให้ท้อใจในการสร้างบารมี ถูกหาว่า"หากิน" ก็เคยมี แต่ในที่สุด"ผลของความดีก็ปรากฏเป็นรูปธรรมให้เห็นกันในวันนี้ สาธุ สาธุ สาธุ อนุโมทามิ

    ปล.เทปชุดนี้จะนำขึ้นถวายสมเด็จท่านด้วย.....สาธุๆๆ
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder id=post1237602 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-TOP: 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid; BORDER-RIGHT-WIDTH: 0px">ันนี้, 10:04 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT-WIDTH: 0px; BORDER-BOTTOM: 1px solid" align=right>#5 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px; BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-BOTTOM-WIDTH: 0px; BORDER-LEFT: 1px solid" width=175>พสภัธ<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1237602", true); </SCRIPT>
    สมาชิก ยอดนิยม
    สมาชิกยอดฮิต

    [​IMG]

    เข้ามาครั้งสุดท้ายเมื่อ: วันนี้ 10:10 PM
    วันที่สมัคร: Nov 2005
    สถานที่: //////////////
    ข้อความ: 3,776
    ได้ให้อนุโมทนา 444 ครั้ง
    ได้รับอนุโมทนา 34,120 ครั้ง ใน 3,722 โพส
    พลังการให้คะแนน: 3513 [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]


    </TD><TD class=alt1 id=td_post_1237602 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid">"เปิดเทอมใหม่ หัวใจมีธรรม"





    <HR style="COLOR: rgb(255,255,255)" SIZE=1>เชินชมได้แล้วครับ....
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    คิดถึงน้องเณรมากๆเลย

    .
    <!-- / message --><!-- sig -->
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ร้อนอีก 1 องศา ไทยเจอ “ซูเปอร์ไต้ฝุ่น” 3 องศา กทม.จมบาดาล เตือนสร้างรถใต้ดินต้องระวัง
    http://www.manager.co.th/QOL/ViewNew...=9510000063127
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 พฤษภาคม 2551 14:28 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=378 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=378>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>นักวิชาการ ม.เกษตรฯ ติงรัฐ เบรกรถไฟฟ้าใต้ดินก่อนจะสิ้นราชธานี ชี้ หากอุณหภูมิโลกสูงขึ้นเพียง 1 องศา ประเทศไทยจะเกิดซูเปอร์ไต้ฝุ่นไม่แพ้นาร์กีส และถ้าเพิ่ม 3 องศากรุงเทพฯจะจมบาดาล และจะมีรถไฟฟ้าไปทำไม วอนรัฐผลักปัญหาโลกร้อนเป็นนโยบายชาติ เตรียมพร้อมตั้งรับอย่างจริงจัง

    ดร.วิเชียร กีรตินิจการ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กรรมการสิ่งแวดล้อม บรรยายในงาน “TCELS Day” จัดโดยศูนย์ความเป็นเลิศด้านชีววิทยาศาสตร์ของประเทศไทย ในหัวข้อ “ประเทศไทยกับ มหันตภัยโลกร้อน” ว่า ในแต่ละวันมนุษย์มีส่วนทำให้เกิดภาวะโลกร้อนทั้งจาก การขับรถ เปิดแอร์ ไดร์ผม กินข้าว ฯลฯ วิถีชีวิตเหล่านี้เราไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ 200 ปี ที่ผ่านมา มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์ออกมา 250 พีพีเอ็ม แต่ในขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็น 380 พีพีเอ็มซึ่งเป็นสาเหตุทำให้โลกร้อนขึ้นถึง 0.8 องศา

    “ขณะนี้โลกร้อนขึ้นเพียง 0.8 องศา เราได้เห็นพายุไซโคลนนาร์กีสในพม่า เราเห็นพายุเฮอริเคนที่ทำลายล้างเมืองนิวออร์ลีนส์ มลรัฐหลุยเซียนา สหรัฐอเมริกา เราเห็นไฟป่าครั้งใหญ่ที่สุดในโลกที่ประเทศออสเตรเลีย ผมไม่ได้พูดขึ้นลอยๆ แต่ประจักษ์พยานเหล่านี้มีให้เห็น ขณะที่เมืองไทยยังไม่มีแผนการตั้งรับอย่างเป็นรูปธรรม”

    ดร.วิเชียร ฉายให้เห็นภาพของโลกร้อนทีละองศาว่า หากโลกร้อนขึ้น 1 องศา ทุ่งหญ้าเพื่อการปศุสัตว์ของอเมริกาจะกลายสภาพเป็นทะเลทรายอีกครั้งจากที่เมื่อหลายพันปีก่อนเคยเป็น น้ำจืดในทวีปเอเซียจะหายไป 1 ใน 3 ไทยจะเกิดซุปเปอร์ไต้ฝุ่น หน้าดินจะถูกพายุพัดจนเสื่อมโทรมความอุดมสมบูรณ์จะเปลี่ยนเป็นความแห้งแล้ง ถ้าโลกร้อนขึ้น 2 องศา หมีขาวขั้วโลกต้องดิ้นรนเอาตัวรอดสิ่งมีชีวิตหลายชนิดต้องอพยพย้ายถิ่นฐานขึ้นไปทางตอนเหนือ หมู่หลายแห่งในอินโดนีเซียจะจมหายไปในทะเล โดยเฉพาะเกาะมัลดีฟ ปะการังในทะเลจะสูญพันธุ์ น้ำแข็งขั้วโลกจะละลายมากขึ้น กล่าวคือ 1 ปี ละลาย 20 กิโลกเมตร หรือประมาณ 4 เท่าของพื้นที่ประเทศไทย และเพียง 2 วัน ของน้ำแข็งขั้วโลกที่ละลาย เท่ากับเราสามารถใช้น้ำในกรุงเทพฯได้ถึง 1 ปี และในขณะที่ทั่วโลกเดือดร้อน แต่แคนาดาจะได้รับผลพวงในทางที่ดีขึ้นคือจะเกิดป่าใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ที่ประเทศแคนาดา

    ดร.วิเชียร กล่าวว่า ถ้าองศาความร้อนเพิ่มขึ้นเป็น 3 องศา ปารีสจะกลายเป็นเมืองร้าง คนแก่จะร้อนตาย น้ำทะเลจะสูงขึ้น 1 เมตร กรุงเทพฯ จะจมบาดาล พืชผลเกษตรกรรมจะเสียหายอย่างหนัก แมลงจะระบาดก่อโรคพันธุ์ใหม่ที่รักษายากขึ้น แหล่งน้ำบาดาลจะปนเปื้อนน้ำทะเล ไทยจะประสบปัญหาข้าวหายาก หมากไม่มีจะกิน ซึ่งรุนแรงกว่าข้าวยากหมากแพงหลายเท่าตัว เมื่อถึงวันนั้น จะเกิดการแย่งชิงน้ำครั้งใหญ่ แรงงานต่างด้าวจะทะลักมาแย่งทรัพยากรของไทยจนเกิดการจลาจล และถ้าโลกร้อนพุ่งไปถึง 4 องศา น้ำจะท่วมเวนิซ หาดสแกนดิเนเวียนจะเป็นเหมือนพัทยา แม่น้ำคงคาจะเหือดแห้ง ประชาชน 1 พันล้านคนจะเดือดร้อน มหานครนิวยอร์คจะโดนเฮอริเคนครั้งใหญ่จะกลายเป็นเมืองบาดาล บางแห่งมีน้ำท่วมสูงถึง 7.6 เมตร

    “จะเกิดโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ของรถไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งเมื่อหันกลับมามองเมืองไทย ผู้นำประเทศเร่งแต่จะผลักดันโครงการ 5 แสนล้าน โดยอ้างว่าเพื่อต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจ ผมไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่การทำผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ไม่เคยมีการนำประเด็นเรื่องโลกร้อนไปพูดเลยว่าจะส่งผลให้โลกร้อนแค่ไหน และเมื่ออุณหภูมิโลกสูงขึ้นเพียง 3 องศา กรุงเทพฯ ก็จมแล้ว ตรงนี้ไม่เคยมีการพูดเลย ถ้าเป็นไปได้เอาเงินจำนวนเดียวกันนี้ไปทำประโยชน์อย่างอื่นดีไหมที่จะรักษาราชธานีและผืนแผ่นดินแห่งนี้ไว้ให้ลูกหลาน” ดร.วิเชียร กล่าวและว่า รัฐบาลควรผลักดันปัญหาโลกร้อนเป็นนโยบายชาติต่อไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE><!-- / message --><!-- sig -->
     
  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    8 วิธีหนีน้ำมันแพง ใช้รถแบบคนฉลาด

    http://hilight.kapook.com/view/24589

    [​IMG]


    ราคาน้ำมันลบสถิติใหม่ เบนซิน 95 ลิตรละ 39.59 บาท แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 35.59 บาท ดีเซล ลิตรละ 37.64 บาท … คงซีเรียสพอดูจนรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบนั่งก้นไม่ติดเก้าอี้ ต้องงัดเอาบางมาตรการออกมาต่อกร

    รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานโดดลงไปล้วงลูกเรื่อง ค่าการกลั่น หรือ รมว.คลัง ที่พยายามเข็น มาตรการหั่นภาษีรถยนต์รุ่นใหม่ ใช้เชื้อเพลิง E85 ล่อใจทั้งผู้ใช้และค่ายผู้ผลิตรถ ให้เร่งแจ้งเกิดโครงการนี้เร็วก่อนกำหนด แต่เอาเข้าจริง ก็ยังแน่ใจไม่ได้ว่า ทั้ง 2 มาตรการที่ว่า จะเท่าทันเหลี่ยมคูเชิงชั้นของพ่อค้าน้ำมัน และค่ายผู้ผลิตรถแค่ไหน ที่แน่ๆ เปรียบเทียบสถิติการใช้น้ำมันในแต่ละวันของคนไทย ระหว่างการใช้เบนซินกับแก๊สโซฮอล์ ช่วง ม.ค.-ธ.ค. 2549

    คนไทยใช้เบนซิน 91 วันละ 12.23 ล้านลิตร ใช้เบนซิน 95 วันละ 4.03 ล้านลิตร ใช้แก๊สโซฮอล์ทุกประเภทรวมกัน วันละ 3.50 ล้านลิตร เบ็ดเสร็จ ปี 2549 ไม่รวมน้ำมันดีเซล คนไทยใช้เบนซินและแก๊สโซฮอล์ เฉลี่ยวันละ 19.77 ล้านลิตร เทียบกับช่วง ม.ค.-ธ.ค. 2550 คนไทยใช้เบนซิน 91 วันละ 12.24 ล้านลิตร เบนซิน 95 วันละ 3.03 ล้านลิตร แก๊สโซฮอล์ทุกประเภทอีกวันละ 4.83 ล้านลิตร เท่ากับ ปี 50 คนไทยใช้เบนซินกับแก๊สโซฮอล์เฉลี่ยวันละ 20.10 ล้านลิตร

    มาถึงไตรมาสแรกของปีนี้ ช่วง ม.ค. - มี.ค. 2551 คนไทยใช้เบนซิน 91 ลดลงเหลือเพียงวันละ 10.43 ล้านลิตร ใช้เบนซิน 95 ลดเหลือแค่วันละ 1.68 ล้านลิตร แต่หันไปใช้แก๊สโซฮอล์ เพิ่มขึ้นถึงวันละ 7.50 ล้านลิตร รวมใช้น้ำมัน 3 ประเภท ไตรมาสแรกของปีนี้ เฉลี่ยวันละ 19.61 ล้านลิตร

    สังเกตให้ดีจะเห็นว่า การใช้น้ำมันทั้ง 3 ประเภท ใน 3 ช่วงเวลา แม้สัดส่วนการใช้เบนซินโดยรวมลดลง สวนทางกับสัดส่วนการใช้แก๊สโซฮอล์ที่เพิ่มขึ้น แต่อย่าเพิ่งหลงระเริงว่า คนไทยใช้เบนซินน้อยลง สามารถช่วยชาติประหยัดการนำเข้าน้ำมันดิบ เพราะหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่า แม้สัดส่วนการใช้เบนซินลดลง แต่เมื่อรวมสัดส่วนการใช้แก๊สโซฮอล์ที่เพิ่มขึ้นเข้าไปด้วย เท่ากับระยะ 2-3 ปีมานี้ คนไทยไม่ได้ใช้น้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์ ลดลงในภาพรวม หรือยังคงใช้ในปริมาณเฉลี่ยวันละ 19.61-20.10 ล้านลิตร โดยประมาณ หนำซ้ำราคาน้ำมันสำเร็จรูปในประเทศ ยังถีบตัวสูงขึ้นกว่า 25% ขณะที่ราคาน้ำมันดิบนำเข้า แพงขึ้นกว่า 50%

    รวมความแล้ว ในเมื่อเรายังไม่สามารถลดใช้น้ำมันในกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์ลงได้ แถมยังต้องกัดฟันใช้ในราคาที่แพงกว่าเก่า คงเหลืออีกไม่กี่ทางเลือกที่ทำได้ เช่น เลิกใช้รถยนต์ส่วนตัว หันไปปั่นจักรยาน หรือใช้บริการขนส่งสาธารณะ หรือไม่ก็ต้องหันมาทำความรู้จักกับ เทคนิคขับรถแบบประหยัด

    เปิดเว็บไซต์ “ซีเอ็นเอ็น มันนี่ ดอท คอม” มีเรื่องราวน่าสนใจเกี่ยวกับเคล็ดลับการขับรถที่ช่วยให้ประหยัดน้ำมันมาฝาก …

    ปีเตอร์ วาลเดส ดาพีน่า เจ้าของข้อมูลแนะนำไว้ในเว็บไซต์นี้ว่า ยุคน้ำมันแพงสิ่งแรกที่ผู้ขับรถควรคำนึง ก็คือ ควรเลือกใช้รถให้เหมาะกับสภาพการใช้งาน ดาพีน่ายกตัวอย่าง ถ้าที่บ้านของคุณมีรถยนต์ให้เลือกใช้มากกว่า 1 คัน เช่น มีรถเก๋งซีดานแบบประหยัด 1 คัน กับรถยนต์อเนกประสงค์แบบเอสยูวี อีก 1 คัน

    อย่าได้พยายามคิดประหยัด โดยใช้วิธีเข้าไปนั่งเบียดเสียด แบบจับสมาชิกทั้งบ้าน ยัดกันเข้าไปเหมือนอัดปลากระป๋อง อยู่ในรถเล็กเพียงคันเดียว เพราะการทำเช่นนั้น นอกจากจะทำให้รถคันดังกล่าว ต้องแบกรับน้ำหนักเกินภาระของเครื่องยนต์ ทำให้สิ้นเปลืองการใช้เชื้อเพลิงมากกว่าปกติ เกิดการสึกหรอเร็วกว่าเดิม ยังทำให้เจ้าของรถต้องควักจ่ายค่าน้ำมันเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับการเปลี่ยนไปใช้รถแบบเอสยูวี ที่จุคนได้มากกว่า มองแล้วเหมือนจะสิ้นเปลืองกว่า แต่กลับประหยัดกว่า

    เติมน้ำมันตามชนิดที่คู่มือการใช้รถแนะนำ เช่น โรงงานผู้ผลิตรถยนต์แนะนำว่า รถคันนั้นสามารถใช้ได้กับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 หรือ E20 โดยไม่ทำร้ายเครื่องยนต์ ผู้ขับขี่ก็ไม่ควรเลือกเติมน้ำมันสูตรที่พิเศษหรือแพงกว่า เช่น เบนซิน 91 หรือแก๊สโซฮอล์ 95 เพราะรถยนต์ยุคนี้ ส่วนใหญ่มีอุปกรณ์เซ็นเซอร์ที่ทันสมัย สามารถปรับสภาพเครื่องยนต์ให้เข้ากับเชื้อเพลิง ที่มีค่าออกเทนต่ำโดยไม่สูญเสียแรงขับเคลื่อน

    ดังนั้นการเติมน้ำมันที่มีค่าออกเทน และราคาสูงเกินความจำเป็น จึงเป็นการสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ ในรถยนต์ที่มีระบบครูซ คอนโทรล (cruise control) หรือวิ่งด้วยอัตราความเร็วที่ประหยัดน้ำมัน

    กรณีใช้ขับขี่บนทางราบทั่วไป ในสภาพที่การจราจรไม่ติดขัด เช่น วิ่งทางตรง ระยะไกลในต่างจังหวัด การใช้ระบบครูซ คอนโทรล นอกจากช่วยให้ผู้ขับขี่ไม่เปลี่ยนแปลงความเร็วโดยไม่จำเป็น ยังช่วยให้ประหยัดน้ำมัน ยกตัวอย่าง การใช้ระบบครูซ คอนโทรล ที่ความเร็ว 77 ไมล์/ชั่วโมง จะช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ระหว่าง 10-15% เป็นต้น

    เป็นไปได้ควรขับช้าๆ และวิ่งชิดเลนซ้าย การใช้ความเร็วคงที่สม่ำเสมอ และขับอยู่เลนซ้าย เช่น ขับที่ความเร็วไม่เกิน 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง พิสูจน์แล้วว่า จะช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงได้ประมาณ 15-20% เลี่ยงการแตะเบรกอย่างรุนแรง เมื่อไม่ได้ขับรถบนทางหลวง ที่มีการจราจรหนาแน่น ให้ระลึกไว้เสมอว่า การเหยียบเบรกแต่ละครั้ง ควรทำด้วยสัมผัสที่นิ่มนวล เพราะการขับรถอย่างกระโชกโฮกฮาก มักทำให้ต้องแตะเบรกอย่างรุนแรงตามมา นอกจากเสี่ยงอันตราย ยังทำให้สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากขึ้นอีก 25%

    รถที่มีแอร์ควรเปิดแอร์ ไม่ต้องถกเถียงกันอีกแล้วว่า การขับรถให้ประหยัดน้ำมัน ควรปิดหรือเปิดแอร์ขับกันแน่ ผู้ขับขี่รถส่วนใหญ่เชื่อว่า การขับรถทางไกลในต่างจังหวัด เมื่อปิดแอร์แล้วเปิดกระจกรับลมภายนอกแทน น่าจะช่วยให้ประหยัดน้ำมันยิ่งขึ้น

    แต่ดาพีน่าบอกว่า ได้มีการพิสูจน์กันแล้ว การใช้รถแบบปิดแอร์ แล้วเปิดกระจกขับกับปิดกระจก แล้วเปิดแอร์ จะสิ้นเปลืองน้ำมันหรือไม่ ขึ้นอยู่กับประเภทของรถ และการใช้ความเร็ว ยกตัวอย่าง รถที่วิ่งด้วยความเร็วไม่เกิน 65 ไมล์/ชั่วโมง จะปิดหรือเปิดแอร์วิ่ง ก็สิ้นเปลืองแทบไม่ต่างกัน ยกเว้น ใช้ความเร็วเกินกว่า 65 ไมล์/ชั่วโมงขึ้นไป ถ้าเปิดแอร์วิ่ง จะทำให้สิ้นเปลืองหรือกินน้ำมันมากกว่า

    หลีกเลี่ยงเส้นทางรถติด มีการพิสูจน์แล้วว่า การขับรถอ้อมหรือออกไปนอกไกลกว่าเส้นทางเดิม ที่รถติดเล็กน้อยดีกว่าขับอยู่ในเส้นทางที่รถติด แต่ไปได้แบบค่อยๆ ขยับ การขับแบบหลัง นอกจากทำให้หงุดหงิด ยังสิ้นเปลืองน้ำมันมากกว่า

    นอกจากนี้ ยังมีเกร็ดความรู้ หากทำได้ในระยะยาวจะช่วยประหยัดได้มาก นั่นคือ ทุกครั้งที่เติมน้ำมัน ไม่ควรระบุว่า ขอเติมเต็มถัง แต่ควรกะโดยประมาณว่าเติมเท่าไหร่จึงจะเต็ม หรือเกือบเต็มถัง โดยระบุเป็นจำนวนเงินที่ต้องการเติม เช่น 200, 500 หรือ 1,000 บาท เพราะทุกครั้งที่เติมน้ำมันเต็มถัง นอกจากลิ้นหัวจ่ายน้ำมัน จะถูกตัวเซ็นเซอร์ สั่งปิดโดยอัตโนมัติ ยังมีการส่งน้ำมันที่ค้างในหัวจ่ายส่วนหนึ่ง ซึ่งผ่านการคิดเงินจากมิเตอร์แล้ว ย้อนกลับไปยังตัวปั๊มจ่าย

    ฉะนั้นการระบุให้เติมน้ำมันเต็มถัง จึงไม่ต่างกับการที่เจ้าของรถกำลัง บริจาคน้ำมันส่วนที่ค้างอยู่ในท่อจ่าย และถูกคิดเงินแล้ว ส่งคืนให้แก่ผู้ขาย แม้ว่าเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ฟังดูจุกจิกหยุมหยิม แต่ในยุคที่น้ำมัน 1 ลิตร ราคาแพงกว่าข้าวราดแกง 1 จาน ใครจะหาว่าขี้ตืดก็อย่าไปสน ...




    ข้อมูลและภาพประกอบจาก
    [​IMG]
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 10 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 8 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"></TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, ชวภณ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://palungjit.org/showthread.php?p=1240019&posted=1#post1240019

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=9 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tcat colSpan=2>Currently Active Users Viewing This Thread: 2 (2 members and 0 guests) </TD></TR><TR><TD class=alt1 colSpan=2>‎sithiphong, ‎ชวภณ </TD></TR></TBODY></TABLE>
    http://www.agalico.com/board/showthread.php?p=86789#post86789

    ****************************************

    สวัสดีครับคุณชวภณ อยู่กันสองคน สองบอร์ดเลยนะครับ
    .
     
  13. Chanayotha

    Chanayotha สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    72
    ค่าพลัง:
    +10
    โอนแล้วนะครับ 1500 บาททั้งสอง2 มูลนิธิ
    แล้วจจะแจ้งที่จัดส่งให้อีกทีครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    การร่วมทำบุญกับมูลนิธิ 3 แห่ง
    <o></o>

    1.มูลนิธิชัยพัฒนา<o></o>
    http://www.chaipat.or.th/chaipat/ind...d=20&Itemid=58
    การบริจาคสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา <o></o>
    1. บริจาคโดยโอนผ่านทางธนาคาร ดังนี้

    - บริจาคสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา

    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยสวนจิตรลดา ชื่อบัญชี มูลนิธิชัยพัฒนา
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 067-2-00011-9 <o></o>

    2. บริจาคเป็นธนาณัติ / ตั๋วแลกเงินไปษณีย์

    กรุณาสั่งจ่าย มูลนิธิชัยพัฒนา
    ปณ. จิตรลดา กรุงเทพมหานคร 10303

    กรณีโอนเงินผ่านทางธนาคาร : ใคร่ขอความกรุณาผู้บริจาคนำสำเนาใบโอนเงิน
    พร้อมเขียนชื่อ - ที่อยู่ พร้อมเบอร์ติดต่อกลับอย่างชัดเจน
    ส่งกลับมาที่ โทรศัพท์ 0-2282-4425-8 และ 0-2282-3338
    โทรสาร 0-2282-3339

    หมายเหตุ จำนวนเงินที่บริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ภายในปีที่บริจาค<o></o>
    <o></o>

    2. มูลนิธิพระดาบส
    http://www.onec.go.th/coleg/dabot/dabot6.htm<o></o>
    <o></o>

    การบริจาค<o></o>


    การบริจาคเงินเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศล


    สมทบทุน มูลนิธิพระดาบสสามารถทำได้โดยวิธีดังต่อไปนี้<o></o>




    • เช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายในนาม “ มูลนิธิพระดาบส ”
    • ธนาณัติสั่งจ่าย นายเกษม วัฒนชัย ปณ . วังเทวะเสม์
    รหัสไปรษณีย์ 10205
    • โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ชื่อ “ สำนักงานมูลนิธิพระดาบส ”
    ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด( มหาชน ) สาขาเทเวศร์
    เลขที่บัญชี 020-2-54900-4<o></o>
    <o></o>

    ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
    มูลนิธิพระดาบส 384-386 ถนนสามเสน
    (ตรงข้ามหอสมุดแห่งชาติ)
    แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
    โทรศัพท์ 0-2282-7000,0-2281-0377
    โทรสาร 0-2280-0155<o></o>
    <!-- / message --><!-- sig -->

    3.สภากาชาดไทย
    http://www.redcross.or.th/donation/moneydonate.php4
    บริจาคเงิน<o></o>
    สิทธิประโยชน์พิเศษจากการบริจาค นอกจากเป็นกุศลบุญของผู้บริจาคแล้ว สภากาชาดไทยยังมอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ท่าน ดังนี้<o></o>
    <o></o>

    บริจาคเงินหรือสิ่งของ <o></o>
    20,000 บาท (สองหมื่นบาท) <o></o>
    สิทธิที่จะได้รับ<o></o>
    ได้รับสิทธิสมาชิกกิตติมศักดิ์ 1 ท่าน<o></o>
    <o></o>

    บริจาคเงินหรือสิ่งของ <o></o>
    200,000 บาท (สองแสนบาท)<o></o>
    สิทธิที่จะได้รับ<o></o>
    ได้รับพระราชทาน เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 2 จำนวน 1 ท่าน หรือได้รับสิทธิสมาชิก กิตติมศักดิ์<o></o>
    <o></o>

    บริจาคเงินหรือสิ่งของ <o></o>
    400,000 บาท (สี่แสนบาท)<o></o>
    สิทธิที่จะได้รับ<o></o>
    ได้รับพระราชทาน เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 1 จำนวน 1 ท่าน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี หรือได้รับสิทธิสมาชิกกิตติมศักดิ์<o></o>
    <o></o>

    ประโยชน์ของการเป็นสมาชิกสภากาชาดไทย<o></o>
    <o></o>

    ได้รับลดหย่อน ค่าห้องพิเศษ ค่าผ่าตัด และค่าผ่าตัดคลอดบุตรกึ่งหนึ่ง ของอัตราที่กำหนด เมื่อเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จตพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาของสภากาชาดไทย และได้รับลดหย่อน ค่ารักษาพยาบาล ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข<o></o>
    • ประดับเข็มได้ทั่วไป และประดับเข็มเข้าชมงานกาชาดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตู<o></o>
    • กรณีที่ท่านเป็นสมาชิกสภากาชาดไทย ไม่ว่าประเภทใด ทั้งสามีและภรรยา บุตรธิดาของท่าน ที่มีอายุที่ต่ำกว่า 12 ปี จะได้รับสิทธิตามข้อ 1 ด้วยเช่นกัน<o></o>
    กรุณาเลือกรูปแบบการบริจาคเงิน<o></o>
    ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
    <v:shape id="_x0000_i1026" style="width: 12.75pt; height: 11.25pt;" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CKTB_User%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_image001.gif" o:href="http://www.redcross.or.th/bullet/32.gif"></v:imagedata></v:shape>พิมพ์แบบฟอร์มการบริจาคเงิน(เพื่อนำไปชำระเงินทางธนาคาร)<o></o>
    หมายเหตุ จำนวนเงินที่บริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ภายในปีที่บริจาค<o></o>

    ********************************************<o></o>
    <o></o>

    กติกา การร่วมทำบุญกับมูลนิธิชัยพัฒนา ,มูลนิธิพระดาบส และสภากาชาดไทย โดยท่านที่ร่วมบุญ โอนเงินเข้าบัญชีมูลนิธิชัยพัฒนา ,มูลนิธิพระดาบสและสภากาชาดไทยเอง และนำสลิปการโอนเงินหรือใบอนุโมทนาบัตรมาแจ้งในกระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้<!-- / sig --> ครับ<o></o>

    <o></o>

    หากท่านที่ร่วมทำบุญ จำนวน 1,000 บาท ผมขอมอบพระสมเด็จ (ชุด 2408 ชุด 44 พิมพ์ พิมพ์หน้าเดียว ) จำนวน 1 องค์ ผมจะเป็นผู้เลือกให้นะครับ พระสมเด็จมีผมมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญ มีจำนวน 5 องค์
    1.ลูกลพ.เขาสาริกา (จอง 1 องค์) (โอนเงินทำบุญวันที่ 21/5/2551) ส่งพระพิมพ์แล้วเมื่อ 22/5/2551

    2.คุณnarin96 (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ ส่งพระพิมพ์แล้ว(26/05/2551) (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    3.คุณพุทธันดร (จอง 1 องค์) (โอนเงินทำบุญวันที่.โอนแล้ว.) พระพิมพ์ถวายแม่ชีณัฐทิพย์

    4.คุณพุทธันดร (จอง 1 องค์) (โอนเงินทำบุญวันที่.โอนแล้ว.) พระพิมพ์ถวายแม่ชีณัฐทิพย์

    5.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)
    <o></o>
    <o></o>

    หากท่านที่ร่วมทำบุญ จำนวน 2,000 บาท ผมขอมอบพระสมเด็จ (อกครุฑ อาบน้ำว่าน ) จำนวน 1 องค์ ผมจะเป็นผู้เลือกให้นะครับ พระสมเด็จมีผมมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญ มีจำนวน 10 องค์
    1.คุณชวภณ (จอง 1 องค์) (โอนเงินทำบุญวันที่ 23 พค.51) ส่งพระพิมพ์วันนี้ (26/05/2551)

    2.คุณkwok (จอง 1 องค์) รอส่งพระพิมพ์ (โอนเงินทำบุญวันที่25/05/2551)

    3.คุณเทพารักษ์ (จอง 1 องค์) ส่งพระพิมพ์วันนี้ (26/05/2551) (โอนเงินทำบุญวันที่ 25/05/2551)

    4.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    5.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    6.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    7.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    8.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    9.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    10.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    <o></o>
    <o></o>

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ<o></o>

    หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ<o></o>

    หมายเหตุ 3 ท่านใดจองและร่วมทำบุญก่อน มีสิทธิ์ได้ก่อน (การทำบุญกับมูลนิธิทั้ง 3 แห่ง ทำเร็ว บุญได้เร็วครับ)<o></o>
    <o></o>

    โดยท่านที่ร่วมทำบุญ ต้องสแกนหรือถ่ายรูปใบอนุโมทนาบัตรหรือสลิปการโอนเงินที่เป็นชื่อของท่านให้ผมทราบก่อน แล้วผมจะส่งพระพิมพ์ให้ ส่วนค่าจัดส่ง,ค่ากล่องและเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ผมเป็นผู้จ่ายให้เองครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    การร่วมทำบุญกับมูลนิธิ 3 แห่ง
    <o></o>

    1.มูลนิธิชัยพัฒนา<o></o>
    http://www.chaipat.or.th/chaipat/ind...d=20&Itemid=58
    การบริจาคสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา <o></o>
    1. บริจาคโดยโอนผ่านทางธนาคาร ดังนี้

    - บริจาคสมทบมูลนิธิชัยพัฒนา

    ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาย่อยสวนจิตรลดา ชื่อบัญชี มูลนิธิชัยพัฒนา
    บัญชีออมทรัพย์ เลขที่บัญชี 067-2-00011-9 <o></o>

    2. บริจาคเป็นธนาณัติ / ตั๋วแลกเงินไปษณีย์

    กรุณาสั่งจ่าย มูลนิธิชัยพัฒนา
    ปณ. จิตรลดา กรุงเทพมหานคร 10303

    กรณีโอนเงินผ่านทางธนาคาร : ใคร่ขอความกรุณาผู้บริจาคนำสำเนาใบโอนเงิน
    พร้อมเขียนชื่อ - ที่อยู่ พร้อมเบอร์ติดต่อกลับอย่างชัดเจน
    ส่งกลับมาที่ โทรศัพท์ 0-2282-4425-8 และ 0-2282-3338
    โทรสาร 0-2282-3339

    หมายเหตุ จำนวนเงินที่บริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ภายในปีที่บริจาค<o></o>
    <o></o>

    2. มูลนิธิพระดาบส
    http://www.onec.go.th/coleg/dabot/dabot6.htm<o></o>
    <o></o>

    การบริจาค<o></o>


    การบริจาคเงินเพื่อโดยเสด็จพระราชกุศล


    สมทบทุน มูลนิธิพระดาบสสามารถทำได้โดยวิธีดังต่อไปนี้<o></o>




    • เช็คขีดคร่อมสั่งจ่ายในนาม “ มูลนิธิพระดาบส ”
    • ธนาณัติสั่งจ่าย นายเกษม วัฒนชัย ปณ . วังเทวะเสม์
    รหัสไปรษณีย์ 10205
    • โอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ชื่อ “ สำนักงานมูลนิธิพระดาบส ”
    ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด( มหาชน ) สาขาเทเวศร์
    เลขที่บัญชี 020-2-54900-4<o></o>
    <o></o>

    ผู้สนใจสามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่
    มูลนิธิพระดาบส 384-386 ถนนสามเสน
    (ตรงข้ามหอสมุดแห่งชาติ)
    แขวงดุสิต เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร 10300
    โทรศัพท์ 0-2282-7000,0-2281-0377
    โทรสาร 0-2280-0155<o></o>
    <!-- / message --><!-- sig -->

    3.สภากาชาดไทย
    http://www.redcross.or.th/donation/moneydonate.php4
    บริจาคเงิน<o></o>
    สิทธิประโยชน์พิเศษจากการบริจาค นอกจากเป็นกุศลบุญของผู้บริจาคแล้ว สภากาชาดไทยยังมอบสิทธิประโยชน์พิเศษแก่ท่าน ดังนี้<o></o>
    <o></o>

    บริจาคเงินหรือสิ่งของ <o></o>
    20,000 บาท (สองหมื่นบาท) <o></o>
    สิทธิที่จะได้รับ<o></o>
    ได้รับสิทธิสมาชิกกิตติมศักดิ์ 1 ท่าน<o></o>
    <o></o>

    บริจาคเงินหรือสิ่งของ <o></o>
    200,000 บาท (สองแสนบาท)<o></o>
    สิทธิที่จะได้รับ<o></o>
    ได้รับพระราชทาน เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 2 จำนวน 1 ท่าน หรือได้รับสิทธิสมาชิก กิตติมศักดิ์<o></o>
    <o></o>

    บริจาคเงินหรือสิ่งของ <o></o>
    400,000 บาท (สี่แสนบาท)<o></o>
    สิทธิที่จะได้รับ<o></o>
    ได้รับพระราชทาน เหรียญกาชาดสมนาคุณชั้นที่ 1 จำนวน 1 ท่าน จากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกุมารี หรือได้รับสิทธิสมาชิกกิตติมศักดิ์<o></o>
    <o></o>

    ประโยชน์ของการเป็นสมาชิกสภากาชาดไทย<o></o>
    <o></o>

    ได้รับลดหย่อน ค่าห้องพิเศษ ค่าผ่าตัด และค่าผ่าตัดคลอดบุตรกึ่งหนึ่ง ของอัตราที่กำหนด เมื่อเข้ารับการรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ และโรงพยาบาลสมเด็จตพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชาของสภากาชาดไทย และได้รับลดหย่อน ค่ารักษาพยาบาล ตามระเบียบของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล สังกัดกระทรวงสาธารณสุข<o></o>
    • ประดับเข็มได้ทั่วไป และประดับเข็มเข้าชมงานกาชาดได้ โดยไม่ต้องเสียค่าบัตรผ่านประตู<o></o>
    • กรณีที่ท่านเป็นสมาชิกสภากาชาดไทย ไม่ว่าประเภทใด ทั้งสามีและภรรยา บุตรธิดาของท่าน ที่มีอายุที่ต่ำกว่า 12 ปี จะได้รับสิทธิตามข้อ 1 ด้วยเช่นกัน<o></o>
    กรุณาเลือกรูปแบบการบริจาคเงิน<o></o>
    ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
    <v:shape id="_x0000_i1026" style="width: 12.75pt; height: 11.25pt;" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata src="file:///C:%5CDOCUME%7E1%5CKTB_User%5CLOCALS%7E1%5CTemp%5Cmsohtml1%5C01%5Cclip_image001.gif" o:href="http://www.redcross.or.th/bullet/32.gif"></v:imagedata></v:shape>พิมพ์แบบฟอร์มการบริจาคเงิน(เพื่อนำไปชำระเงินทางธนาคาร)<o></o>
    หมายเหตุ จำนวนเงินที่บริจาคสามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้ภายในปีที่บริจาค<o></o>

    ********************************************<o></o>
    <o></o>

    กติกา การร่วมทำบุญกับมูลนิธิชัยพัฒนา ,มูลนิธิพระดาบส และสภากาชาดไทย โดยท่านที่ร่วมบุญ โอนเงินเข้าบัญชีมูลนิธิชัยพัฒนา ,มูลนิธิพระดาบสและสภากาชาดไทยเอง และนำสลิปการโอนเงินหรือใบอนุโมทนาบัตรมาแจ้งในกระทู้ พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้<!-- / sig --> ครับ<o></o>

    <o></o>

    หากท่านที่ร่วมทำบุญ จำนวน 1,000 บาท ผมขอมอบพระสมเด็จ (ชุด 2408 ชุด 44 พิมพ์ พิมพ์หน้าเดียว ) จำนวน 1 องค์ ผมจะเป็นผู้เลือกให้นะครับ พระสมเด็จมีผมมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญ มีจำนวน 5 องค์
    1.ลูกลพ.เขาสาริกา (จอง 1 องค์) (โอนเงินทำบุญวันที่ 21/5/2551) ส่งพระพิมพ์แล้วเมื่อ 22/5/2551

    2.คุณnarin96 (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ ส่งพระพิมพ์แล้ว(26/05/2551) (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    3.คุณพุทธันดร (จอง 1 องค์) (โอนเงินทำบุญวันที่.โอนแล้ว.) พระพิมพ์ถวายแม่ชีณัฐทิพย์

    4.คุณพุทธันดร (จอง 1 องค์) (โอนเงินทำบุญวันที่.โอนแล้ว.) พระพิมพ์ถวายแม่ชีณัฐทิพย์

    5.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)
    <o></o>
    <o></o>

    หากท่านที่ร่วมทำบุญ จำนวน 2,000 บาท ผมขอมอบพระสมเด็จ (อกครุฑ อาบน้ำว่าน ) จำนวน 1 องค์ ผมจะเป็นผู้เลือกให้นะครับ พระสมเด็จมีผมมอบให้ผู้ที่ร่วมทำบุญ มีจำนวน 10 องค์
    1.คุณชวภณ (จอง 1 องค์) (โอนเงินทำบุญวันที่ 23 พค.51) ส่งพระพิมพ์วันนี้ (26/05/2551)

    2.คุณkwok (จอง 1 องค์) รอส่งพระพิมพ์ (โอนเงินทำบุญวันที่25/05/2551)

    3.คุณเทพารักษ์ (จอง 1 องค์) ส่งพระพิมพ์วันนี้ (26/05/2551) (โอนเงินทำบุญวันที่ 25/05/2551)

    4.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    5.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    6.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    7.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    8.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    9.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    10.คุณ..... (จอง 1 องค์) ยังไม่ได้โอนเงินร่วมบุญ (โอนเงินทำบุญวันที่.......)

    <o></o>
    <o></o>

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ<o></o>

    หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ<o></o>

    หมายเหตุ 3 ท่านใดจองและร่วมทำบุญก่อน มีสิทธิ์ได้ก่อน (การทำบุญกับมูลนิธิทั้ง 3 แห่ง ทำเร็ว บุญได้เร็วครับ)<o></o>
    <o></o>

    โดยท่านที่ร่วมทำบุญ ต้องสแกนหรือถ่ายรูปใบอนุโมทนาบัตรหรือสลิปการโอนเงินที่เป็นชื่อของท่านให้ผมทราบก่อน แล้วผมจะส่งพระพิมพ์ให้ ส่วนค่าจัดส่ง,ค่ากล่องและเรื่องอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ผมเป็นผู้จ่ายให้เองครับ

    โมทนาสาธุครับ
    </td> </tr> </tbody></table>
    คุณพุทธันดร ได้ร่วมทำบุญกับสภากาชาดไทย จำนวน 2,000 บาท ขอรับพระพิมพ์ 2408 ชุด 44 พิมพ์ จำนวน 2 องค์
    และได้ถวายพระพิมพ์แ่ด่แม่ชีณัฐทิพย์ ทั้งสององค

    นับถือใจคุณพุทธันดรมากๆ์
    ขอโมทนาบุญด้วยครับ

    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    http://palungjit.org/showthread.php?p=1215400#post1215400

    งานบุญ ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ


    ชุดพิเศษ 2

    1.ครั้งแรกในเดือน มกราคม 2550
    ผมนำเข้าพิธีพุทธาภิเษก การอาราธนาพระบารมี พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า
    ซึ่งผมเรียกพระพิมพ์ที่เข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งนี้ว่า พระพิมพ์ชุดพิเศษ 2


    2.ครั้งที่สองในเดือนกุมภาพันธ์ 2550
    ผมนำพระพิมพ์เข้าพิธีพุทธาภิเษก การอาราธนาพระบารมี พระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุทเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า และหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้ง 5 พระองค์
    ซึ่งผมเรียกพระพิมพ์ที่นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในครั้งที่สองว่า พระพิมพ์ชุดพิเศษ 2


    [​IMG]
    พระปิดตาวังหน้า(หลังแบบ)
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 2 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) หมดแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จวังหน้า
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว


    [​IMG]
    พระสมเด็จวังหน้า
    ร่วมทำบุญ 700 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเกสรซ์ จอง 1 องค์) หมดแล้ว โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว



    [​IMG]
    พระสมเด็จหลังเบี้ย
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ โอนเงินแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ ส่งพระพิม์แล้ว
    (คุณวินัยธร จอง 1 องค์) หมดแล้ว โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จไกเซอร์
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณpucca2101 จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระเก๋งจีนไตรโลกอุดร(เนื้อกรมท่า)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) หมดแล้ว (โอนเงินร่วมบุญแล้ว ) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระเก๋งจีนไตรโลกอุดร(เนื้อปัญจสิริ)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณkwok จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว รับพระแล้ว
    (คุณพรสว่าง 2008 จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณpucca 2101 จอง 1 องค์) หมดแล้ว (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จ(เนื้อปัญจสิริ)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 7 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 6 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 5 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณnarin96 จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณ jirautes จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณwood6208 จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์
    (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณonimaru_u จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว (โอนเงินร่วมบุญแล้ว)



    [​IMG]
    พระปิดตาวังหน้า(สองหน้า)
    พระปิดตาวังหน้า สีดำ/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    พระปิดตาวังหน้า สีขาว/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณpucca 2101 จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระปิดตาสี่กร (เนื้อปัญจสิริและเนื้อกรมท่า)
    พระปิดตาสี่กร เนื้อปัญจสิริ/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว (รอส่งเพิ่มเติม) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณkwok จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว รับพระแล้ว
    (คุณเทพารักษ์ จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) หมดแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) โอนเงินแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว


    พระปิดตาสี่กร เนื้อกรมท่า/1องค์ ร่วมทำบุญ 500 บาท จำนวน 5 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 3 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว(รอส่งเพิ่มเติม) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเทพารักษ์ จอง 1 องค์) คงเหลือ 2 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) หมดแล้ว (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว

    [​IMG]
    พระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (รักแดงหรือชาด)
    ร่วมทำบุญ 500 บาท/1องค์ จำนวน 10 องค์
    (พี่ท่านนึง จอง 1 องค์) คงเหลือ 9 องค์
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 8 องค์ โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 1 องค์) คงเหลือ 7 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณonlyboon จอง 1 องค์) คงเหลือ 6 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณพรสว่าง 2008 จอง 1 องค์) คงเหลือ 5 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณชวภณ จอง 1 องค์) คงเหลือ 4 องค์ ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณofferrer จอง 1 องค์ ผมเลือกให้) คงเหลือ 3 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    (คุณเชน จอง 2 องค์) คงเหลือ 1 องค์ (โอนเงินร่วมบุญแล้ว ส่งพระพิมพ์แล้ว


    หมายเหตุ
    1.คุณพรหมประกาศิต ร่วมทำบุญ 5,000 บาท
    2.คุณลูกลพ.เขาสาริกา ร่วมทำบุญ 2,000 บาท (ขอรับพระผงยาวาสนา 1 องค์) ส่งพระพิมพ์แล้ว
    3.คุณseata<script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_", true); </script> ร่วมทำบุญ 200 บาท (ขอรับผ้ายันต์ครอบจักรวาล ) ส่งผ้ายันต์แล้ว (26/5/2551)
    4.คุณนคร (เว็บอกาลิโก) ร่วมทำบุญแล้ว 1,000 บาท (รอรับพระสมเด็จเนื้อขาว ปิดทองร่องชาด 2 องค์) รอส่งพระพิมพ์


    หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ

    หมายเหตุ 3 หากผมลงรายละเอียดการทำบุญ(ไม่ว่าจะลงชื่อท่านผู้ร่วมทำบุญ ,การส่งพระพิมพ์ หรือจำนวนเงินที่ร่วมทำบุญ ฯลฯ)

    พระวังหน้า ที่ผมนำมามอบให้กับผู้ที่ทำบุญในกระทู้ขอเชิญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ และผมได้บอกบุญในกระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้ เป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    แต่หากจะนำไปเพื่อเป็นพุทธานุสติ และหรือการห้อยคอ และหรือการบูชาต่างๆ เพื่อเป็นการบูชาพระคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามกุกุกสันโธ ,องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนาม สมณโคดม ,หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ,สมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี ( การบูชาพระคุณพระสิวลีเถระเจ้า ,พระอนุรุธเถระเจ้า ,พระอุปคุตเถระเจ้า เนื่องจากการนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกเพิ่มเติม) ,การบูชาพระคุณองค์พระมหากษัตริย์ไทยทุกๆพระองค์ ,พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระปิ่นเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ,พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ,องค์อุปราชวังหน้า รัตนโกสินทร์ทุกๆพระองค์ และทั้งช่างสิบหมู่แห่งวังหน้า ,วังหลวง ,วังหลัง และช่างราษฎร์ทุกๆท่านครับ

    ซึ่งเรื่องที่ผมได้บอกนั้น เป็นความเชื่อ ,ความเห็นของผม รวมทั้งคณะของผม ซึ่งก็แล้วแต่ท่านผู้ร่วมทำบุญและท่านผู้อ่านทุกๆท่าน จะมีความคิดเห็นอย่างไร ก็สุดแล้วแต่ครับ

    โมทนาบุญทุกประการกับทุกๆท่านครับ
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset ;">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านผู้อ่านทุกๆท่าน

    ผมมีรูปหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ ( หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 1.หลวงปู่พระอุตรเถระเจ้า 2.หลวงปู่พระโสณเถระเจ้า 3.หลวงปู่พระมูนียะเถระเจ้า(หลวงปู่อิเกสาโร)4.หลวงปู่พระฌาณียะเถระเจ้า(หลวงปู่ขรัวขี้เถ้า) 5.หลวงปู่พระภูริยะเถระเจ้า(หลวงปู่หน้าปาน) อธิษฐานจิตทั้ง 5 พระองค์) อยู่จำนวนหนึ่ง

    และผมมีผ้ายันต์ครอบจักรวาล (รายละเอียดด้านล่าง) อยู่จำนวนหนึ่ง

    ซึ่งท่านที่ร่วมทำบุญร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ณ สำนักสงฆ์ผาผึ้ง อ.บ้านเขว้า จ.ชัยภูมิ บมจ.ธนาคารกรุงไทย สาขาลาดพร้าว102 บช.ออมทรัพย์เลขที่ 1890-13128-8 ชื่อบัญชี นางพิชญ์สินี ชาญปารีชญา ,นายอุเทน งามศิริ ,นายสิรเชษฏ์ ลีละสุนทเลิศ ที่มีความประสงค์ที่จะขอรับไว้เพื่อบูชา โปรดแจ้งมาให้ผมทราบด้วยนะครับ

    ส่วนรายละเอียดเรื่องของผ้ายันต์ครอบจักรวาล ตามนี้ครับ
    เชิญร่วมบุญผ้ายันต์ครอบจักรวาลรุ่นพิเศษเพื่อแจกจ่ายผู้ปฎิบัติงานใน 3 จังหวัดภาคใต้
    http://palungjit.org/showthread.php?p=583434
    http://www.palungjit.org/board/showt...434#post583434
    [​IMG]

    เรื่องที่เกี่ยวข้องกับพิธีพุทธาภิเษก วันอังคารที่ 10 กรกฎาคม 2550<o>:p</o>:p
    กระทู้พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้<o>:p</o>:p
    หลวงปู่สุภา กันตสีโล โพสที่ 6010 หน้าที่ 601<o>:p</o>:p
    หลวงปู่สุภา กันตสีโล โพสที่ 6034 หน้าที่ 604<o>:p</o>:p
    สำเร็จลุน โพสที่ 6138 หน้าที่ 614<o>:p</o>:p
    พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) โพสที่ 6139 หน้าที่ 614<o>:p</o>:p
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม โพสที่ 6140 หน้าที่ 614<o>:p</o>:p
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม โพสที่ 6141,6142,6143 หน้าที่ 615<o>:p</o>:p
    พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) โพสที่ 6176,6178,6179,6180 หน้าที่ 618<o>:p</o>:p
    พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม โพสที่ 6181,6182,6183,6184,6185 หน้าที่ 619<o>:p</o>:p
    พระครูวิหารกิจจานุการ (หลวงพ่อปาน) โพสที่ 6186,6187,6188 หน้าที่ 619<o>:p</o>:p
    พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ) โพสที่ 6189 หน้าที่ 619<o>:p</o>:p

    ผ้ายันต์ครอบจักรวาลนี้ ได้รับการอธิษฐานจิต จาก หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร 5 พระองค์ ,สำเร็จลุน พระครูโพนเสม็ด (ญาคูขี้หอม) พระอาจารย์สีทัตถ์ วัดท่าอุเทน นครพนม ,พระครูวิหารกิจจานุการ(หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค) พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤาษีลิงดำ วัดท่าซุง) , หลวงปู่สุภา กันตสีโล

    โมทนาสาธุครับ<o>:p</o>:p
    <!-- / message --><!-- sig -->
    </td></tr></tbody></table>

    อ้างอิง:
    <table border="0" cellpadding="6" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr><td class="alt2" style="border: 1px inset ;">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ โชคชัยชนะ [​IMG]
    สำหรับผ้ายันต์ครอบจักรวาล ที่จะมอบให้กับท่านที่ร่วมสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้ง ถ้าหากว่า งานสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งเสร็จเรียบร้อย หรือผมเห็นว่า สมควรที่จะยุติการมอบผ้ายันต์ ผมก็จะไม่นำมามอบให้อีกนะครับ เป็นผ้ายันต์ที่รวมองค์ผู้อธิษฐานจิตไว้ถึง 3 สาย ซึ่งไม่ธรรมดาครับ

    สำหรับการมอบผ้ายันต์ให้กับทหารๆ ที่ผ่านมา เท่าที่ตรวจสอบมานั้น ยังไม่มีผู้ที่ได้รับอันตรายเลยครับ

    โมทนาสาธุครับ

    .
    </td></tr></tbody></table>
    อย่าลืมแจ้งมานะครับ สำหรับท่านที่ร่วมบุญสร้างพระเจดีย์ศรีชัยผาผึ้งทุกๆท่านครับ

    โมทนาสาธุครับ
    <!-- / message --><!-- sig -->
    <!-- / message --> <!-- sig -->
     
  19. :::เพชร:::

    :::เพชร::: เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    8,584
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +36,137
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2008
  20. narin96

    narin96 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    113
    ค่าพลัง:
    +28
    เรียน คุณ sithiphong
    ขอทำบุญกับมูลนิธิชัยพัฒนา ๑,๐๐๐ บาท
    หากโอนแล้วจะแจ้ง ครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...