เหรียญบิน หลวงพ่อทรง - แพโบสถ์น้ำ หลวงตา (เล็ก) น. ๑๒๖๕

หุๆๆ....ผมก็อยากไปคว้าพระนักธรรมของพี่สักองค์ แต่กลัวโดนตะกรุดเสาอากาศของพี่เคาะกระบาลเอามีหวังเลือดอาบ..... 555

 

สวัสดีครับพี่พี

ผมคงต้องรบกวนพี่พีอีกแล้วครับ ที่ผมเคยบอกไปแล้วว่าเมื่อผมไปวัดครั้งที่ว่าหลวงพ่อละสังขารไปแล้วร่วมสัปดาห์นั้น ผมได้เช่าของแปลกมาแบบหนึ่งเป็นแผ่นหินอ่อนลงยันต์มาด้วย ไม่ทราบว่าพี่เคยเห็นของชุดนี้หรือมีข้อมูลไหมครับ เพราะที่ลุงกับป้าที่จำหน่ายของแกบอกคือเจอในห้องที่หลวงพ่อจำวัด ผมเห็นว่าราคาไม่แรงก็เลยเช่ามา

แผ่นยันต์นี้ ขนาด ๑๐ x ๑๐ ซม. หนา ๑.๗ ซม. ลงยันต์สุกิตติมา แบบเดียวกับหลังปิดตาหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี

อันว่า ยันต์สุกิติมา นี้เท่าที่ผมพอมีความรู้อยู่บ้าง ต้องถือว่าเป็นความฉลาดของบูรพาจารย์ผู้ผูกยันต์ขึ้นมา เพราะคาถาสุกิติมานี้ บทเต็มคือ

สุกิติมา สุภาจาโร สุสีละวา สุปากะโต ยัสสะสิมา วะเจธิโร เกสะโรวา อะสัมภิโต

บทนี้ดีทางเมตตา

ซึ่งเมื่ออ่านออกเสียงจะได้ ๓๒ คำ แต่เมื่อมาผูกเป็นรูปยันต์แล้วจะเหลือเพียง
๒๕ ช่องเท่านั้น ซึ่งวิธีการลงแบบนี้จะเรียกว่าลงแบบกลซ่อนอักขระ

และที่อยากจะถามพี่พีอีกอย่างก็คือ ตรงมุมทั้งสี่ด้านของแผ่นยันต์หินอ่อนนี้ ถ้าเริ่มอ่านจากมุมซ้ายบน มามุมซ้ายล่าง ไปมุมขวาล่างและขึ้นไปขวาบน จะอ่านได้ว่า เตชะธัมโม

ซึ่งน่าจะเป็นฉายาของพระองค์ที่จารแผ่นหินอ่อนนี้ ไม่ทราบว่าเป็นฉายาของพระวิโรจน์หรือพระสวัสดิ์หรือพระลูกศิษย์หลวงพ่อองค์อื่นหรือไม่ครับพี่ ขอบคุณครับ

ภาพแรกสภาพเดิมครับ

ส่วนภาพสองเอาแป้งลงให้เห็นชัดขึ้น

 

<TABLE class=tborder id=post1343564 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">10-07-2008, 01:37 PM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#510 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175>พี เสาวภา<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1343564", true); </SCRIPT>
สมาชิก

เข้ามาครั้งล่าสุด: วันนี้ 09:00 AM
วันที่สมัคร: Feb 2008
ข้อความ: 573
Groans: 9
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 1,550
ได้รับอนุโมทนา 5,910 ครั้ง ใน 566 โพส
<IF condition="">
</IF>พลังการให้คะแนน: 64





</TD><TD class=alt1 id=td_post_1343564 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- message -->อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ cc5922
สาธุ
กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
อนุโมทนากับลุงพีน่าจะเรียกอย่างนี้นะครับเพราะผมทายว่าลุงพี
อายุน่าจะประมาณพ่อผม ขอบคุณสำหรับเรื่องราวดีดีครับ
จะคอยติดตาม



</TD></TR></TBODY></TABLE>
แหะๆ เอาอย่างนั้นเลยเหรอครับ ผมเพิ่งพ้นเณฑ์ทหารมา หมื่นกว่าวันเท่านั้นครับ



<TABLE class=tborder id=post1355288 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">วันนี้, 07:33 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #567 </TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE class=tborder style="BORDER-TOP-WIDTH: 0px" cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead colSpan=2> </TD></TR><TR title="โพส 1355288" vAlign=top><TD class=alt2 align=middle width=125>พี เสาวภา</TD><TD class=alt1>อันนี้ พี่จ่าผาแดงเอามาลงทันเหตุการณ์น่ะครับ

ฯลฯ




อันนี้ถ้าพี่พีพ้นเกณฑ์ทหารมาหมื่นกว่าวันแล้วเรียกผมว่าพี่ สงสัยอายุผม คงเกษียณปีหน้าแน่ๆ

ผมอายุยังน้อยกว่าพี่พีตั้งสองร้อยกว่าเดือนนะครับ แหะๆ ด้วย

อันนี้ขออนุญาติแซวนะครับพี่




</TD></TR></TBODY></TABLE>

<!-- / message -->


</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ท่านคุณป้ากับคุณลุง น่ะ ท่านว่ามาจากห้องหลวงพ่อที่จำวัดทุกรายการ ทั้งนั้นแหละครับ


ห้องของหลวงพ่อนี่ ไม่ใหญ่มาก ไม่น่าเกินกว่า ๓ x ๓ เมตรเท่าไหร่ ประมาณนี่แหละครับ แล้วมีเตียงตั้งอยู่ตัว เข้าไปก็น่าจะ ๓๐ % ของห้องเข้าไปแล้ว แล้วก็มีของส่วนตัวของหลวงพ่อ กระจุกกระจิก วางอยู่ในพานมั่ง วางกองอยู่บ้าง ผมเคยเข้าไป ไม่เห็นวัตถุมงคล วางเป็นลังๆ ที่จะมีก็อาจจะมี ของส่วนตัวที่เขา ฝากมาเสกไม่มาก พวกตะกรุด หรือเป็นของที่มีค่าพวกเงิน พวกทอง ท่านเลยเอาไปเก็บไว้ในห้อง


ตอนยุคแรกๆ ที่ผมไป พวกวัตถุมงคลก็ใส่ลัง หรือ ใส่กล่องวางกองอยู่หน้าห้อง ( ข้างใน ไม่ใช่ข้างนอกแบบก่อนหลวงพ่อจะล่ะ สังขาร ) ไม่ใช่ในห้องนอนหลวงพ่อ พระลำปางก็เอามาใส่พานไว้ ให้เลือกกัน บนพานหรือ วางบนกระดาษหนังสือพิมพ์เอา ไม่หวงหรือมาเฝ้า ว่ากันเอง เอาอะไรก็เอาเงินไปจ่ายท่าน ถ้าจะเอาเพิ่มก็ ไปเปิดลังมาให้ พวกกริ่งก้นเงินพวกที่แพงๆหน่อยก็จะใส่ลังไว้


นอกนั้นเคยเห็นในโบถส์พวกรูปหล่อ พระบูชาเรซิ่น พระบูชาทองเหลือง อาจะมีองค์เล็กๆบ้าง เพราะผมได้ยินว่า เหรียญเต่าท่านเอาไว้ในโบถส์เป็นปี ตอนหน้าใกล้บวช โบถส์ท่านจะไม่ค่อยว่าง เพราะคิวท่านบวชพระเยอะ วัตถุมงคลที่อยู่ในโบถส์ก็จะผ่านพิธีมาหลายครั้ง ส่วนในหน้าบวชนั้น บางทีท่านวิ่งรอกสามวัด ไปเมตตา นั่งบวชให้เขา


วัตถุมงคลส่วนมากเขาจะใส่ น้ำมันตั้งอิ้ว หรือ หัวน้ำหอม ให้คนหนุ่มด้วย ถ้าเอาเป็นลังๆ เข้าไปในห้องนอนพวกคุณ แล้วมานอนดม คงได้เรื่อง มึนแน่ๆ อย่าว่าแต่หลวงพ่อที่แก่แล้ว แล้วป่วยด้วยเลย


พระที่เอามาวางในตู้ เห็นวางอยู่เป็นปี ห้องหลวงพ่อคงมีอีกห้องใหญ่มาก เพราะพระผงน่ะ ผมเห็นที่หอสวดมนต์ เป็น หลายลัง หลายถาด น่าจะหลายหมื่น ผมเคยถาม คุณป้า ก่ะคุณ ลุง ท่านก็ว่ามาจากในห้องหลวงพ่อ สงสัยท่องไว้ตามบทเลย ....แหะๆ


แผ่นหินอ่อนนี้ ทำถวายหลวงพ่อโดย เสี่ย ศ ทั้งหินอ่อนและเครื่องมือไฟฟ้าจารบนหิน จัดว่าเจตนาดี ส่วนฉายา เตชะธัมโมนั้น เป็นฉายาของหลวงพี่ สวัดดิ์คนจารครับ ผมไม่ทราบเจตนาท่านครับ อาจจะเป็นลายเซ็นไว้แทนตัว เป็นผมน่าจะใส่ฉายาหลวงพ่อจะมีค่ามากกว่า


พวกแผ่นหินอ่อนนี้ ผมเคยเห็นวางไว้ในหอสวดมนต์ ตอนนั้นไม่ได้คิด จะขอหลวงพ่อมา ถ้ามาจากหอสวดมนต์ ก็คงผ่านมาหลายพิธีล่ะครับ เพราะท่านเข้าไปเสกของให้ หลายพวก หลายครั้ง

 

สาธุ พี่พี และเพื่อนๆ
ปู ปากน้ำ ได้เห็นแล้ว ที่ได้อุตสาหะ นะมาลง ให้ประจักษ์ ทางสายตา


อานุโมทนา ในความตั้งใจ อันดี ของท่านๆ ครับ

 

วัดไผ่แหลม อยู่ที่อ. วิเศษฯ ครับ ที่มีพระครูอุปถัมท์ธรรมรังสี เป็นเจ้าอาวาส พระองค์นี้เป็นพระหลานรักของหลวงพ่อที่มีความรุ่งเรืองทั้งทางโลกด้านการศึกษา และทางศาสนา และหลวงพ่อบวชให้ จากการพูดคุยผมไม่ได้ซักเรื่องประวัติท่านมาก แต่พอทราบว่าท่านจบปริญญาตรี มาทางด้านวิศวกรรมโยธา ก่อนมาบวช อันนี้ไม่เบา

<O</O
ท่านให้ข้อมูลอีกอย่างทางด้านมุมมองและความใกล้ชิดเอ็นดูที่หลวงพ่อมีต่อท่าน ท่านให้ข้อมูลที่สำคัญแก่ผม ท่านบอกว่าหลวงพ่อทรงให้เบี้ยจำนวนประมาณ ๑๐๐ ตัวแก่ท่าน ๘ วันก่อนท่านจะสิ้น ส่วนเหรียญ และรูปหล่อ ท่านทยอยให้มาก่อนหน้านั้น ส่วนเบี้ย หลังจากที่ได้รับมา ปรากฏว่าคนมาจองจนหมด ท่านว่าขนาดโยมในครอบครัวท่าน ก็มาจองไปสิบตัวแล้ว เรียกว่าไม่เหลือติดวัด ผมได้ถ่ายรูปมาให้ดู แค่เบี้ยตัวครูสองตัวที่เหลือ ที่ได้มาก่อนหน้า พร้อมทั้งประวัติของหลวงพ่อที่ท่านพระครูอุปฯ เมตตาเขียนมาให้ก่อนหน้า และผมได้ลงไปให้ท่านอ่านก่อนหน้าแล้ว

การที่ท่านให้เบี้ยเป็นร้อยกว่าตัว แก่พระหลานท่าน อันนี้มีนัยย์เหมือนกัน ว่าเบี้ยของท่านนี้มีทีเด็ด เป็นของทิ้งทวนจริงๆ และยืนยันว่าไม่ได้มีขายแต่ที่วัด แต่หลวงพ่อมีตุนไว้ และแจกทีเป็นร้อยๆตัว แต่เลือกแจก และเป็นการยืนยันว่ามีการทำเบี้ยมีปริมาณเยอะ พอสมควร ( ผมเอาวัสดุไปถวายให้ท่านฟรีๆเอง ยกเว้นชันโรง) หลายพันตัว หลวงพ่อถึงมีตุนอยู่เป็นร้อยๆตัว และแจกทีแบบทิ้งทวน เป็นร้อยกว่าตัวแก่หมู่ญาติของท่าน ไม่ใช่เรื่องเล่าของพวกมีปัญญาทำเบี้ยมาให้ท่านเสกเองแค่หลักร้อย หลักสิบ เมื่อเห็นแค่นั้น มีปัญญาแค่นั้น แต่มาพูดว่ารวมสรุป ว่าของวัดทำมามีแค่ สองร้อยกว่าตัวในปีหนึ่ง แค่ของที่พวกเขามีปัญญาทำมา ถ้าทำปริมาณแค่นั้น พระที่ได้รับแจกมาทีเป็นร้อยกว่า และพระที่ขายหน้าตู้ก็บอกว่าจำหน่ายไปหลายพันตัว จะเป็นเรื่องโกหกหรือปล่าว อันนี้พวกท่านที่ได้อ่านคำพูดแบบนี้มาก่อนในบอร์ดอื่น ก็ให้พิจารณาเอาเองน่ะครับ คำกล่าวแบบนี้จะทำให้คนที่อยู่วงนอก ที่ไม่รู้เรื่อง เข้าใจผิดได้ และผู้ที่พูดแบบนั้นมีเจตนาดีต่อวัดหรือไม่

<O</O
พระครูอุปฯ ท่าทางท่านเป็นพระเก็บตัวผมเลยไม่กล้าขอถ่ายรูปท่านมา แต่ยังเป็นพระหนุ่มครับ ท่าทางเป็นคนมีไอคิวสูง แต่พอจะทราบว่าท่านไม่ได้เรียนทางด้านคาถาอาคมมาเพราะไม่ชอบและเพราะหลวงพ่อห้ามไว้ ว่า "เดี๋ยวจะเหนื่อยแบบผม" อันวิชาที่หลวงพ่อเรียนมานี่ ผมพอจะจับเคล็ดได้ ว่าการที่ท่านพูดแบบนี้ คือ เรียนแล้วต้องไปช่วยเขานั่นเองทำให้เหนื่อย จะเรียนแล้วอยู่เฉยๆไม่ได้ คือเรียนแล้วญาติโยมจะมากันเอง ดีที่หลวงพ่อทรง ท่านเลิกเป็นหมอยาด้วย ไม่งั้นคงยิ่งเหนื่อยใหญ่


<O</O
แถวๆวัดไผ่แหลม จากปากคำที่ท่านว่า ก็เป็นหมู่ญาติๆของหลวงพ่อ แทบทั้งนั้น แบบว่าถ้าไปนิมนต์หลวงพ่อมาฉัน จะให้หลวงพ่อเลือกสั่งรายการอาหารได้เองว่าอยากฉันอะไร เป็นต้นว่า น้ำพริกมะขาม กับ ผัก ที่ท่านชอบมาก แล้วท่านก็ยืนยันความคิดของผมที่ว่า หลวงพ่อทรง ไม่ได้ไปศึกษาที่ไหนไกลมากจากวิเศษฯ แต่ศึกษามาจากพระ แถว อ่างทองนั่นเอง ยกเว้นที่ผมกราบเรียนถามท่านเรื่องหลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ ว่าหลวงพ่อเรียนวิชามาจากหลวงพ่อมุ่ยหรือ ปล่าวครับ ท่านบอกว่าแอบเรียนมาบ้าง


<O</O
ซึ่งในยุคนั้นพระแถวอ่างทองและสุพรรณบุรีมีเก่งมากๆอยู่หลายองค์ บางองค์ดังแค่พื้นที่ ไม่ได้ดังออกมาจากส่วนกลาง บางท่านเป็นฆราวาสที่เก่งกาจ ที่คอยช่วยเหลือคน ด้านแพทย์และไสยศาสตร์ ทำเครื่องรางที่แบบคงกระพัน ยิงฟันไม่เข้า แบบเชื่อขนมกินได้ ท้าให้ลองได้ อะไรประเภทนั้น


<O</O
ท่านให้ข้อมูลว่าพระเก่งในยุคนั้นและยุคนี้ จะมีบริเวณ ชัยนาทและอ่างทองมาก อันนี้จะสอดคล้องกับที่ข้อมูลและที่ผมคาดการณ์ ว่าหลวงพ่อไม่ได้ไปไหนไกลมาก แค่ศึกษาแถวๆ นี้ ก็รับแขกโปรดญาติโยมเหนื่อยแล้ว บางอย่างผมได้ยินมาจาก พวกที่วิเศษฯว่า ในยุคเก่าๆ ใครไปถามว่า หลวงพ่อ เรียนนั่น เรียนนี่ ทำโน่นทำนี่ได้หรือ ปล่าว ท่านจะทำเฉยไม่รู้ไม่ชี้ เรื่องนี้ให้หลังอีกหลายปี มีลูกศิษย์รุ่นใหม่ๆหน่อยไปถาม ว่าทำไมรุ่นพ่อรุ่นลุงผม มาถามหลวงพ่อว่า ทำของได้หรือไม่ หลวงพ่อทำเฉย หลวงพ่อทรงท่านตอบว่า ถ้ามันรู้ว่าเราทำได้ มันใช้เราตายซิ


<O</O
คำพูดนี้เป็นจริงน่ะครับ เพราะตอนปลายชีวิตของท่าน มีคนมาใช้ท่านอย่างมากมาย ใช้ทำโน่นทำนี่หลายอย่าง จนท่านมาบ่นกับพระหลานท่านว่า เดี๋ยวเหนื่อยเหมือนผม อันนี้ในความเห็นของผม คำพูดนี้สะท้อนอะไรหลายๆอย่าง


<O</O
นอกจากนั้นท่านยังให้ข้อมูลว่า หลวงพ่อนุ่ม ซึ่งเป็นปรมาจารย์ท่านหนึ่ง เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ เคยนิมนต์หลวงพ่อเดิมมานั่งหนักในการสร้างโบถส์ ในสมัยโบราณมีคติว่าการสร้างโบถส์จะมีกุศลแรง พระที่คิดว่ามีบารมีไม่ถึงเมื่อจะสร้างโบถส์ แล้วอาจจะเป็นบุญใหญ่เกินไป (หรือ อาจจะทำแล้วไม่ทำให้เสร็จ ๑๐๐ % เพราะบุญจะมากไป ) ท่านจะไปนิมนต์พระผู้ใหญ่กว่า มีบารมีมากกว่า มานั่งหนักเป็นประธานแทน


<O</O
แต่หลวงพ่อเดิมบอกท่านว่าหลวงพ่อนุ่มบารมีถึงแล้วให้ไปทำเอง อันนี้อาจจะเข้าใจได้ว่าการสร้างวัดสร้างโบถส์แต่โบราณ สามารถทำได้ยากมากๆ ทั้งหาเงิน หาช่าง และวัสดุ ต้องมีคนที่มีบารมี ที่จะทำโบถส์ได้เอง และยากมากที่จะสร้างได้สักหลัง


<O</O
ส่วนของๆหลวงพ่อเดิม หลวงพ่อนุ่มก็มาออกแถววิเศษฯเยอะเพื่อช่วยสร้างโบถส์ ขนาดว่าเซียนท้องถิ่นเคยซื้อหามีดหลวงพ่อเดิม มาได้ ประมาณ ๒๐๐ กว่าเล่ม อันนี้เขาว่าน่ะครับ ผมแค่ฟัง และเมื่อเร็วๆ นี้ ทางวัดนางใน ได้ค้นพบมีดประมาณ ๖ ถึง ๗ เล่มในตู้ พร้อมกับจดหมายสั่งไว้จากหลวงพ่อนุ่มว่าให้นำที่เหลือนี้ไปคืนวัดหนองโพ คงเป็นมีดที่เหลือจากการออกให้ทำบุญสร้างโบถส์นั่นเอง .....แหะๆ น้ำลายไหลเอื้อกๆ


<O</O
จะเห็นว่าอันนี้อาจจะพอเป็นสายใยได้บ้างว่า ถ้าหลวงพ่อทรงได้วิชามาจากสายหลวงพ่อเดิม ก็โดยผ่าน หลวงพ่อนุ่มนี่เอง


<O</O
หลวงพ่อนุ่มนี้เป็นถึงเจ้าคณะและพระอุปัชฌาย์ มีชื่อเสียงมากในด้านเบี้ยแก้ หลวงพ่อนุ่มนี้เป็นพระอุปัชฌาย์ แก่หลวงพ่อมี วัดม่วงคันซึ่ง หลวงพ่อทรงบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทต่างวัยกัน( และหลวงพ่อมีท่านกล่าวว่าหลวงพ่อทรงเป็นอาจารย์ของท่าน ) ชอบพอกันมาก เคยถีบจักรยานไปไกลๆ ด้วยกัน เมื่อโยงๆกันจะพอเห็นถึงความเกี่ยวเนื่องได้


<O
</O
จากการพูดคุย ท่านนี้กล่าวว่า หลวงพ่ออาจจะไปเรียนวิชา มาจาก พระอาจารย์ ผ่อน หรือ ( หลวงพ่อสิน ) วัดขุมทอง ( ตามรูป ) ติดกับวัดราชสกุณา วิเศษฯ คนล่ะวัดกับ วัดราชสกุณา ( วัดนก ) อ่างทองที่มีชื่อเสียงเรื่องพระกรุวัดนกน่ะครับ


<O</O
หลวงพ่อ ผ่อนนี้ ดังทางรูปถ่าย และเด่นทางด้านคงกระพันชาตรี ดังแต่ในท้องที่ คนที่อื่นไม่รู้จักท่านเลย และอีกหลายอย่างเพราะเป็นบุตรบุญธรรมหลวงพ่อ พัก วัดโบถส์ อันลือลั่น อันนี้ฟังดูมีเหตุผล เพราะหลวงพ่อทรงท่านไม่ทันหลวงพ่อพัก แต่มีวิชาเบี้ย งาแกะ และตะโพน อาจจะสืบทอดมาจากหลวงพ่อผ่อนนี้ก็ได้


<O</O
หลวงพ่อผ่อนนี้ อายุน่าจะแก่กว่าหลวงพ่อทรงประมาณ 20-30 ปี และมรณะภาพไปแล้ว เรื่องที่หลวงพ่อผ่อนรู้จักกับหลวงพ่อทรงนี้ หลวงพ่อทรงไม่เคยเล่าให้ผมฟังเลย แม้ว่าจะสนิทกันมากแล้ว ผมไม่มีข้อมูลหลวงพ่อผ่อนเลย


<O</O
แต่ผู้ที่ให้ข้อมูลนี้คือ พระครูอุปถัมท์ธรรมรังสี ( พระอาจารย์ต้อม ) แห่งวัด ไผ่แหลม วิเศษฯ นี่เอง


<O</O
ท่านพระครูอุปฯมีอายุประมาณ ๔๘-๕๐ ปี เป็นหลานหลวงพ่อทรงที่สนิทกันหลวงพ่อทรงมาก ขนาดว่าถ้าท่านหนีคนจากวัดและบ้านหลานท่านแล้ว จะหนีไปแอบฉันน้ำชาหรือนอนเล่นพักผ่อนที่กุฏิหลวงพี่ต้อมนี้


<O</O
ที่หน้ากุฏิหลวงพี่ต้อมนี้จะมีหมาเห่าเก่ง ประมาณ ๓-๔ ตัว ( ที่ผมเห็น ) เรียกว่าทะเล่อทะล่า เข้าไปหมาจะต้องเห่า และถ้ายังฝืนฝ่าด่านเข้าไปอีก อาจจะเจอเขี้ยวหมู่ได้


<O</O
แต่บางครั้ง หลวงพี่นั่งทำงานอยู่ จะได้ยินเสียงหลวงพ่อตะโกนว่า เฮ้ยมีใครอยู่มั่งว่ะ โผล่ออกมาดูเห็นหลวงพ่อยืนรออยู่แล้ว ไม่มีหมาเห่าสักแอะ ทำให้ท่านทึ่งมาก


<O</O
หลวงพี่นี้เองที่ยังบอกอีกว่า เรื่องศีลนี้ ในอ่างทอง หลวงพ่อทรงกินขาด พระท่านจะดูกันออก ( ที่จริงท่านกล่าวเปรียบเทียบ แต่ผมไม่กล่าวล่ะ เพราะจะกระทบอาจารย์อื่น )


<O</O
พระครูอุปฯ องค์นี้เองที่ไปหา หลวงพ่อทรงก่อนล่ะสังขารแปดวันท่านจำได้ หลวงพ่อบอกท่านว่า ไม่ไหวแล้วล่ะ แล้วปลดของในอังสะให้ การให้ของส่วนตัวท่านนี้ มีทั้งหมด หลายอย่าง เช่น รูปเหมือน เหรียญเต่าเรือนรุ่นหนึ่ง และเหรียญเศรษฐี คนเล่าจำไม่ได้ว่าให้ครั้งไหนก่อน แต่มีเหรียญบินแน่นอน พร้อมทั้งรูปหล่อ ส่วนอีก อย่างสองอย่างอาจจะให้มาก่อน ซึ่งของเหล่านี้เป็นของส่วนตัวท่าน ที่พกอยู่ที่อังสะมาตลอด เป็นของที่ท่านประทับใจ ติดตัวไว้จนมาถึงบทสุดท้ายของชีวิตท่าน


<O</O
<O </O
เหรียญบินที่อยู่ในอังสะหลวงพ่อทรง มอบให้ท่านพระครูอุปฯ ประมาณปีหนึ่งก่อนมรณะภาพ ในขณะที่ท่านมาทำพิธีในโบถส์วัดไผ่แหลม

<O</O
<O</O
<O
</O
ส่วนรูปหล่อนี่เป็นรูปหล่อโบราณรุ่นหนึ่งน่ะครับ ( ปี ๒๕๔๒ ) ที่อยู่ในอังสะท่าน และมอบให้ท่านพระครูอุปฯประมาณแปดวันก่อนมรณภาพ รุ่นนี้ทำโดยโรงเรียน พร้อมรูปหล่อห้านิ้ว รุ่นนี้น่าสนใจมากน่ะครับ หลวงพ่อยังห้อยติดตัวเลย ผมจะนำมาเสนอรายละเอียดให้ท่านต่อไป แต่จะเจาะหน่อย เพราะยังมีของหลงเหลืออยู่ แต่กลับมาพูดอ้างกันเป็น รูปหล่อปี ๒๕๔๒ แต่ของเสริมมานี่ก็ทันหลวงพ่อน่ะครับ และมีประวัติแน่นอนมาก


<O</O
หลวงพ่อทรงท่านเป็นพระไม่สะสม ใช้เงินไม่เป็นครับ ใครถวายเงินใส่ซอง เมื่อไปหาท่านอีกครั้งก็อาจจะกองอยู่ตรงที่เดิม เงินที่ได้มาก็บางทีไม่ได้แกะซองแต่มัดๆใส่ถุงไว้ ท่านไม่สนใจของเหล่านี้ แต่สนใจเหรียญสามเหรียญและรูปหล่อ ๑ องค์ติดตัวไว้จะกระทั่งก่อนเสียชีวิต ได้มอบให้หลานที่ท่านรักไป ทั้งได้สั่งไว้ว่า


<O</O
อย่าเป็นแบบผม มันเหนื่อย


<O</O
หลวงพี่ต้อมนี้ข่าวว่าไม่สนใจคาถาอาคม คิดว่าคงทำตามที่หลวงพ่อสั่ง


<O</O
เหรียญทั้งสามชนิดและรูปหล่อ ผมหาจนได้มาเหมือนกันทุกชิ้น ส่วนเหรียญบินซึ่งซื้อต่อมา เจอสวยๆ บอกตามตรงผมเก็บไว้หมด
<O</O
<O</O
<O</O

หลายท่านที่อยากได้ของหลวงพ่อน่ะครับ ผมรวมตอบทีเดียว เดี๋ยวจะว่าผมทำเฉย ที่จริงไม่เฉยหรอก เพียงแต่ว่าของเหล่านี้เป็นของส่วนตัวน่ะครับ ผมไม่ได้มีตุนไว้เป็นลังๆ หรือ มีแม่พิมพ์พร้อม ปั้มออกมาเท่าที่ต้องการได้ ที่มีเก็บเพราะได้มาฟรีส่วนใหญ่มาจากความเมตตาของหลวงพ่อ ที่"ขอ"ท่าน มาก็เยอะ


<O</O
ที่ผมเขียนก็ยืนยันว่าชุดไหนเป็นชุดของวัด ส่วนใครจะทำอะไรมา แล้วว่าเป็นของวัด ก็ว่ากันไปครับ ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง เพราะหลวงพ่อเสกให้แน่ๆทุกรายที่ไปขอ ผมจะว่าแต่ของผมที่ผมยุ่งเกี่ยวทันเห็น และ ผมเองก็อยากให้ท่านได้ของพวกนี้ เพราะบางอย่างน่ะอย่างที่เรียนให้ทราบว่าแจกฟรี อย่างพระผงรูปเหมือน ท่านแจกออกไปเยอะมากเป็นหมื่นๆองค์ ทอดเวลาไปซักระยะ ใครที่มีไว้ แล้วเห็นว่าพอขายได้ในยุคเศรษกิจพอเพียง อาจจะนำมาออกตัวก็ได้น่ะครับ
<O</O
ถ้าเป็นตะกรุด ผ้ายันต์ ผ้ารอยเท้า พระผง ตะโพนเล็กน่ะ ถ้าเห็นแล้ว ใช้หลักการ และ แบบพิมพ์ โค้ด ที่ผมเขียนมาน่าจะเป็นแนวทางได้ แล้วถ้าได้จากคนดีๆ มีสัจจะ มีที่มาที่ไปดีๆ ก็น่าจะเชื่อใจได้น่ะครับ เพราะของยังไม่ใช่ราคาเป็นหมื่นเป็นหลายๆพันแต่อย่างไร


<O</O
แต่เรื่องเบี้ยนี่จนใจครับ ยิ่งเป็นเบี้ยเปลือยแล้ว หรือถักด้วย เป็นของใหม่ ไม่มีโค้ด ดูยาก ยกเว้นอันที่มีแผ่นทองแดงแปะจาร ก็อาจจะพอดูได้ แต่ถ้าเปลือยๆ ไปเลย วัดแถวอ่างทอง มีทำตั้งหลายวัด เพราะเป็นของ OTOP ( อันนี้ผมว่าเอง ) จัดว่าเป็นเครื่องรางมหัศจรรย์จริงๆ เป็นที่นิยม ไม่แพ้สายนครปฐม และวัดนายโรง มีประสบการณ์ก็เยอะ ไม่แพ้สายอื่น มีการสืบทอดกันมาตลอดจากโบราณถึงปัจจุบัน ไม่บังคับเรื่องปรอทด้วยว่าต้องมีหนึ่งบาท บางตัวเจอเก่าๆ เขย่าดูแซ็กๆ มีปรอทแค่หน่อยที่เหลือคงเป็นอย่างอื่น พวกตะกรุด หรือ ตะกั่ว พกใส่กระเป๋ากางเกงก็ได้ไม่ห้าม มีประสบการณ์ครบทุกอย่าง ดีทุกรส

<O</O
ผมเองเก็บเบี้ยไว้บ้าง เพราะชอบเป็นพิเศษ มาเก็บเยอะขึ้นตอนไปวิเศษฯ ตอนเจอหลวงพ่อทรงนี่แหละ ผมก็โดนอัดมาเยอะ หลวงพ่อคำ หลวงพ่อนุ่ม หลวงพ่อพัก พึ่งเอาไปเช็คกับพระครูอุปฯ หลานหลวงพ่อทรง เพราะท่านเป็นเซียนเบี้ยได้ข่าวมาแบบนั้น แล้วได้คุยกันถูกคอ
<O</O
เบี้ยหกตัวผ่านแค่สองตัว ที่ผ่านก็หาวัดลงไม่ได้ด้วยซ่ะตัวหนึ่ง ที่ซื้อเขาเพราะชอบ เขาว่าหลวงพ่อคำก็ผมก็หลวงพ่อคำด้วย หลวงพ่อนุ่ม ผมก็หลวงพ่อนุ่มด้วย......แหะๆ


<O</O
พระครูอุปฯท่านก็ให้หลักมา บวกกับหลักเก่าๆของผม ถ้าเป็นเบี้ยแบบเก่า อาจจะพอแนะนำกันได้ แต่พอเป็นเบี้ยหลวงพ่อทรง ผมจนใจจริงๆ เพราะไม่ทราบจะดูอย่างไรแบบฟันธง แต่ก็พอมีหลักบ้างนิดหน่อยไม่มาก <O</O

 

ตะโพน เล็ก สาธุ ขอบารมีหลวงพ่อทรง ได้โปรดเมตตา กระผมด้วย

 

กราบ กราบ กราบ หลวงพ่อทรงครับ
ต้องไปต่างจังหวัด ไว้กลับมาติดตามใหม่
ขอบารมีหลวงพ่อคุ้มครองครับ

 

ขอบารมี พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ และโดยเฉพาะ หลวงพ่อทรง คุ้มครองคุณให้เดินทางโดยปลอดภัย ตลอดปลอดโปร่ง พร้อมทั้งมีโชคลาภใหญ่จงบังเกิดในการเดินทางครับ

 

เอาอีกแล้ว อดีตรำลึก
กำนัน (เกินกว่าผู้ใหญ่) คุยกัน

 

ใช่แหวนดอกบัวหลวงพ่อป่ะครับ

พอดีเดินดูในตลาดพระ เจอแหวนวงนี้ เนื้อทองเหลือง แต่ไม่มีโค้ด ส
มีรอยจารด้านในวง ขอความเห็นหน่อยนะครับ ใช่ของผ่านมือหลวงพ่อไหม

 

พี่หมู่โต

อันนี้ต้องถามพวกเจ้ากรมที่เก็บทุกรุ่น ผมได้ยินว่าทางใต้มีคุณลุงอยู่ท่าน ที่ตรัง ( อาจะเป็นศิษย์หลวงปู่แก้ว หรือ ปล่าวไม่ทราบ ) ท่านนี้มีของหลวงพ่อทุกรุ่น บูชาคงผ่านทาง ไปรษณีย์ เป็นส่วนใหญ่ ท่านผู้นี้เคยโทรมาคุยกับหลวงพี่วิโรจน์ว่า รุ่นไหนของหลวงพ่อที่ผมไม่มีมั่งนี่ หลวงพี่วิโรจน์ที่ทราบแต่แรกก็ ก็ตอบว่าคงไม่มีมั้งโยม....แหะๆ

ท่านแบบนี้คงมีอีก มาเปิดเผยตัวซ่ะทีก้ดีน่ะครับ เอามาโชว์และมาตอบบ้าง

เพราะแหวนดอกบัวของศูนย์นี้ผมไม่มีความรู้เลยครับ

 

เขาเรียกว่ารุ่นพี่จ้า

ถ้ามาเรียกเป็นรุ่นกำนัน อาจจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทได้น่ะจ้ะ

 

ขอบคุณพี่พีครับ ผมเองอยากให้คนที่เก็บหลายรุ่นมาเหมือนกันเพราะบางทีเราไปเจอพระศูนย์ตามแหล่งต่างๆ แต่มีรอยจาร แน่นอนอย่างน้อยความคิดแวบแรกต้องผ่านมือหลวงพ่อ เช่ามาด้วยความศรัทธา(อยากได้) + หน้ามืดไป หวังแสงสว่างจากพี่ๆ เพื่อนนำทางให้ได้พระดีๆ ที่หลวงพ่อเสก พระหลวงพ่อนับวันหายากขึ้นนะครับผมว่า เพราะมีพุทธคุณดี หลายท่านจึงเก็บไว้ บางท่านไม่ต้องการเผยตัว เพราะเหตุหลายประการ ช่วยกันเน่าะช่วยกัน
*วันสองวันนี้อาจได้ไปกราบหลวงพ่ออีก เพราะจะไปทำธุระที่สุพรรณ :z2

 

ขอบคุณ พี่พี ผมขออนุโทนาบุญ ในความศรัทรา ของท่าน
อย่างเต็มกำลังนะครับ

ผมได้แต่ ขอ สาธุ ในกิจ แห่งนี้ครับ

 

ท่านที่ไม่เปิดเผยตัว น่าจะจริง ซุ่มเพื่อตามเก็บเพิ่ม กลัวไก่จะตื่น

หรือ ขี้เกียจเปิดตัว อ่านเขาอย่างเดียว

หรือ กลัวเปิดแล้ว คนมาตามไถตามตื้อ โดยเฉพาะคนกันเอง เจ้านายบ้าง พวกนี้บางที่พูดไม่ออก

หรือ บางคนเก็บเงียบ เพื่อรอราคา ผมได้ยินมาจากในสนามพันทิพย์ มีคนตุนตะกรุด มหาจักรไว้สิบดอก ของแท้ๆ ได้จากวัด มีจาร แต่ยังไม่ออก ไม่คุย ดูสถานะการณ์ก่อน

 

ขออนุญาตแจมครับ

รูปร่างหน้าตาคล้ายกันเลยครับ
แต่ที่ผมเคยเห็นจะเป็นเนื้อนวะ (มั้ง) สีออกทองแดง ๆ ครับ

 

คุณสิริคุตโตครับ แหวนดอกบัวของหลวงปู่เป็นของศูนย์สร้าง ที่ผมพอรู้ และได้สอบถามจากหลวงพี่ที่ได้ดูแลตู้วัตถุมงคลของวัด ตั้งแต่สมัยหลวงปู่ท่านยังอยู่ มีสร้างแค่เนื้อนวโลหะเนื้อเดียวครับ ด้านในวงแหวนจะมีโค๊ดตัว " ส " ตอกไว้ครับ แต่ถ้าใครจะไปทำมาเองแล้วให้ท่านจาร ตามที่บอกว่ามีรอยจาร ก็ต้องขยายรอยจาร มาให้คุณพีดูกันไปเลยครับว่าใช่หรือป่าว

 

สวัสดีครับพี่พี

ชิ้นนี้ด้วยครับที่เช่ามาพร้อมกันขนาดกว้างยาวเท่ากัน แต่ชิ้นนี้ลงยันต์ที่มักจะใช้ที่ด้านหลังวัตถุมงคลหลวงพ่อเป็นประจำ คือ นะ โม พุท ธา ยะ ตรงกลางเป็น สะ ม้วนโลก ด้านบนเป็น อิ สวา สุ ด้านข้างเป็น มะ กับ อะ ด้านล่างเป็น อุ แต่เพิ่มขึ้นมาคือ ที่เป็นตัว ห หีบแล้วขมวดเป็นอุณาโลมลงด้านล่าง ที่วางไว้ทั้งซ้ายขวา น่าเป็นหัวใจหงษ์ทองตัวผู้และตัวเมีย และตัว เฑาะว์ ที่อยู่เหนือตัว อิ ,บนหัวใจหงษ์ทองและตัว พะ ที่ขมวดหางเป็นอุณาโลม บนตัว สวา กับตัว สุ
ด้านล่างเป็น นะ ชา ลิ ติ นะ มะ พะ ทะ อะ

ตัวล่างสุดที่คล้ายตัว ว อ่านว่า วิ ถ้า เตชะธัมโม เป็นฉายาพระสวัสดิ์ ตัว วิ นี้คงเป็นตัวย่อของพระวิโรจน์ น่าจะใช่ไหมครับ

แผ่นยันต์หินอ่อนทั้งสองแผ่นนี้ผมใส่ไว้ในโอ่งน้ำมนต์ที่อยู่ในห้องพระ เขียนถึงเรื่องน้ำมนต์นี้เวลาผมเข้าไปวัดไหนๆหรือวัดใดมีพิธีพุทธาภิเษกถ้ามีโอกาสผมจะขอน้ำมนต์วัดนั้นๆมาใส่รวมไว้ในโอ่งใบนี้กับเวลาที่เปลี่ยนน้ำที่ใส่แก้วถวายพระบนโต๊ะบูชา ก่อนจะเปลี่ยนน้ำ ก็จะเอาน้ำเก่าเทรวมไว้ในโอ่งนี้ อันนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์ครับ


สภาพเดิมกับลงแป้งให้เห็นชัดครับ

 

ล๊อตเกตที่เช่ามาพร้อมกันด้านหลังเป็นแผ่นเงินแต่ไม่ทราบภายในบรรจุอะไรหรือไม่ ท่านใดมีข้อมูล ช่วยนำเสนอด้วยครับ ขอบคุณครับ