เป็นโรคแปลกๆ ใครช่วยได้บ้าง ทรมานมาก

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย teeradetk, 3 พฤษภาคม 2008.

  1. เด็กใหม่คับ

    เด็กใหม่คับ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    102
    ค่าพลัง:
    +152
    ลองไปหาพระอาจารย์ที่มีญานทิพ ให้ท่านช่วย และขอท่านบวช น่าจะดีขึ้น
     
  2. จื่อหลิง

    จื่อหลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    294
    ค่าพลัง:
    +698
    ลองสังเกตเวลาอาการคันให้ดีๆนะครับ ว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ทั้งสภาพแวดล้อมที่เราอยู่ การกิน ที่อยู่อาศัย และอารมณ์ตนเองด้วย ทางที่ดีที่สุดก็นั่งสมาธิอยากที่ทุกคนโพสไว้นะคับ เพราะจะช่วยให้เรามีสมาธิ ไม่ยุ่งเกี่ยวกับอารมณนั้นได้พอที่ทำให้ทุเลาลงได้บ้างหรือไม่ก็วิปัสสนากรรมฐานเลย พิจารณาเวทนาให้มันถึงที่สุดคับ
    ขอให้หายก็แล้วกัน สาธุคับ ฯ ;aa22​
     
  3. เจ้าสัว

    เจ้าสัว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    522
    ค่าพลัง:
    +353
    ขอให้หายไวๆๆนะครับ
     
  4. มะหน่อ

    มะหน่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,652
    ค่าพลัง:
    +1,210
    ผมไม่ไล่เคาะอนุโมทนาแล้วนะครับเยอะมากอ่านก็เยอะมาก
    ในเมื่อมันเป็นกรรมแล้วมันต้องหมดกรรมเมื่อเราทำแต่ความดี...เรื่องดี...ที่เราเป็นอยู่สรุปคือเป็นกรรมครับ

    คนเราเมื่อจมน้ำแล้วอึดเท่าไหนแค่นั้น...เพราะในเมื่อรับกรรมแล้วจมน้ำแล้วอดทน...เหมือนอึดลมหายใจได้เท่าไหนเท่านั้น...หากไปเกรงเคร่งเครียดเหมือนว่าลมหายใจนั้นยิ่งหมดเร็วยิ่งขึ้น.....แต่หากจมน้ำแล้วคิดว่าสนุกสบายเหมือนเวลานั้นมันนานๆลมหายใจอยู่ได้อีกนานกว่า

    เมื่อจมแล้วไปไหนขอรับ....วันนึงต้องถึงพื้นแน่นอนจมปล่อยให้จม..จมอย่างมีสติปัญญา.....ไม่มีอะไรลึกทะลุโลกไปได้หรอกขอรับ

    ลำบากวันนี้ทนเอาทำเอาบุญเอากุศลส่งผลแน่นอนวันข้างหน้า
    ฝนมันไม่ตกสามร้อยหกสิบห้าวันหรอกขอรับ....หยุดตกเมื่อใดแล้วเราก็หากินตอนนั้นหรือหากินกลางสายฝนก็ไม่แปลก...เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติสุขทุกข์...ตกตลอดชาติก็เรื่องของฝน

    คนที่มีความทุกข์มากๆจะรู้จักเวทนาครับดีกว่าคนอื่นด้วยหากเราปลงเสียละเสียคิดว่านี่แหละโชคของเราแล้วที่มีเวทนา...ดูเวทนาจนไม่เจ็บไม่ปวด...ปฏิบัติธรรมก้าวกระโดดแล้วครับ

    หมอเมืองไทยเก่งครับคงอีกไม่นานคงมียารักษาแน่นอนเราต้องมีความหวัง...และสร้างบารมีล้างกรรมของตัวเองไว้.....ความหวังคือไม่นานหรอกครับ....หวังเฉยๆทุกวัน....วันที่เราเริ่มจมน้ำแล้วเท้าเราถึงพื้นแล้วทะลึ่งขึ้นมาเสียอย่ารอความตาย...วันนั้นเราก็โผล่พ้นน้ำแล้วเหมือนบัวในพุทธศาสนาครับ

    เราอึดเท่าไหนทำบุญเท่าไหน...สร้างบารมีเท่าไหนเท่านั้นครับ...เวทนาพาผลนะครับ
    หวังว่าท่านคงมีกำลังใจขึ้นนะขอรับ...หากหมดกรรมเก่าวันใดกรรมใหม่มาสุขเมื่อนั้นแล้วขอรับ...อีกไม่นานหรอกครับ..อึดไว้..กราบขอบพระคุณท่านยิ่งเมื่อก่อนผมก็โพสไปที่หนึ่งนี่ไม่รู้อยู่ตรงไหนเหมือนกันกับกระทู้นี้ไม่หาแล้วครับ...ยังมีเรื่องวุ่นวายกับตัวเองกับคนอื่นอีกมากมาย...หวังว่าท่านคงสร้างกำลังใจเอาวิกฤตินี้เป็นโอกาสนะขอรับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2008
  5. ภัทรอังคาร

    ภัทรอังคาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    4,904
    ค่าพลัง:
    +14,098
    รองดูแบบนี้ก่อนก็ได้นะค่ะ เช้ามาตื่นนอนมา ยังไม่ทันล้างหน้าแปรงฟัน ให้ดื่มน้ำต้มสุกวันละห้าแก้ว หรือเท่ากับ 1 ลิตร ทำอย่างงี้ทุกเ้ช้า ไปสักประมาณ 3 เดือน แล้วคอยสังเกตุว่าอาการจะทุเลาเบาบางได้ไหม ถ้าน้ำช่วยได้ ก็ไม่น่าจะต้องรอถึงสามเดือนก็คงจะเห็นผลค่ะ รองทำดูก่อนตั้งใจเลยว่า 3 เดือน จะตื่นมาดื่มน้ำต้มสุกให้ได้ วันละ 5 แก้ว ทุกวัน หากพ้นสามเดือนไปแล้วไม่ดีขึ้น ค่อยมาว่ากันใหม่ค่ะ

    แล้วอยากให้คุณเชื่อความคิดเห็นที่เขาบอกมา ให้คุณหมั่นรักษาศีล ปฎิบัติ ภาวนา อุทิศให้แก่เจ้ากรรมนายเวรค่ะ สิ่งที่เราเคยทำมาในอดีตชาติเราอาจจะไม่รู้ไม่เห็น แต่สามารถแก้กันได้ด้วยการนั่งสมาธิ เริ่มแรกหากยังไม่เคยนั่ง ก็รองนั่งวันละ 15 นาที หลังจากนั้นก็เพิ่มเป็นครึ่งชั่วโมง หรือว่าหนึ่งชั่วโมง นั่งเสร็จแล้วอย่าลืมกรวดน้ำ แผ่เมตตา ก่อนนั่งก็ขอจะกล่าวบทอโหสิกรรมต่อ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดามารดา ครูบาอาจารย์ เทพพรหม แล้วก็เจ้ากรรมนายเวรของเรา

    เห็นบอกว่าหาหมอมาเยอะแล้ว ก็เลยไม่อยากจะพูดอะไรเรื่องหมอ หรือเรื่องการรักษา เพราะคงช่วยไม่ได้ แต่อยากให้รองอย่างที่บอกไว้ แล้วก็นั่งสมาธิดู หากทำได้สักพักยังไม่ดีขึ้นขอใ้ห้รองติดต่อเข้ามา แล้วยังไงจะหาวิธีัไว้คอยช่วยเหลืออีกทีนะค่ะ อย่ามองข้ามสิ่งที่เรามองไม่เห็น โรคลักษณะแบบนี้ส่วนมากจะเป็นเกี่ยวกับโรคเวร โรคกรรม

    ปล่อยนก ปล่อยปลา ปล่อยสัตว์ฺให้มากๆ ถวายสังฆทานทุกเดือน ทำบุญซื้อโรงศพ อะไรก็ได้ที่เป็นบุญ ทำอะไรทุกครั้งก็ขอให้กรวดน้ำแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรนะค่ะ
     
  6. ^Lily^

    ^Lily^ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +110
    เคยอ่านหนังสือของหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม ค่ะ ที่มีคนเป็นโรคผิวหนัง(รุนแรง) มาบวชและปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อจรัญค่ะ ตอนบวชก็ทำกรรมฐานและขัดห้องน้ำวัด ต่อมาไม่นานโรคผิวหนังที่เป็นอยู่ก็หายค่ะ

    แต่ถ้าลองไปปฏิบัติธรรม กรรมฐานและวิปัสสนากรรมฐานดูก็อาจจะทราบว่าเคยทำกรรมอะไรมาค่ะ ทำกรรมฐานจนจิตนิ่งมาซักระยะ (บางคนอาจใช้เวลาหลายวัน)แล้วสวดมนต์ จุดธูป ลองอฐิษฐานขออาราธนาบารมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรม และพระอริยสงฆ์ (ทุกๆพระองค์)ว่า ถ้าหากลูกเคยทำกรรมอะไรไว้ที่ทำให้เป็นโรคผิวหนัง ขอให้ข้าพเจ้าได้ทราบด้วยเถิด แล้วนั่งสมาธิ ทำจิตให้นิ่ง อย่าอยากรู้
    ภาวนาพุทโธ, ยุบพอง,สัมมาอะระหัง อะไรก็ได้ที่ถนัด แล้วจะทราบเองค่ะ

    ถ้าทราบแล้ว ถ้ามีเจ้ากรรมนายเวรก็ให้ขอขมาและอโหสิกรรม เวลาทำบุญครั้งต่อไปก็อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรด้วยค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ตุลาคม 2008
  7. joeydarkman

    joeydarkman Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2010
    โพสต์:
    52
    ค่าพลัง:
    +54
    เป็นกำลังใจให้คุณเอส หายไวไวนะครับ
     
  8. churdpong

    churdpong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    176
    ค่าพลัง:
    +384
    มีว่านอยู่ชนิดหนึ่งที่อาจจะช่วยคุณได้ครัีบ มันคือ "รางจืด" ลองหาข้อมูลดูครับ
     
  9. Prichasamart

    Prichasamart เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    125
    ค่าพลัง:
    +671
    เดาเอาว่าภาวะที่เป็นอยู่เป็นภาวะที่เรียกว่า Neuralgia (อาการปวดจากปลายประสาทอักเสบ) ซึ่งพบได้ภายหลังจากการเป็น งูสวัด หรือ อีสุกอีใส ภาวะอย่างนี้คงไม่มีทางหายขาด คงจะต้องเป็นไปตลอดชีวิตละมังครับ
    (ผมยังไม่แน่ใจในคำวินิจฉัยนะครับ ได้แต่ฟังจากประวัติ ยังไม่เห็นผื่น ก็เลยไม่แน่ใจเท่าไหร่)
    อาจจะมียาที่ใช้ลดอาการดังกล่าวได้ ซึ่งจะเป็นยาที่เป็นในกลุ่มยากันชัก เช่น Neurontin (ตัวนี้กินครั้งละหนึ่งเม็ด วันละสามเวลา หลังอาหาร) หรือ Lyrica (ตัวนี้กินครั้งละหนึ่งเม็ด วันละสองเวลาหลังอาหารเช้า-เย็น) อาจจะพอลดอาการลงไปได้บ้าง แต่ขอบอกไว้ก่อนว่า ยังไม่แน่ใจในคำวินิจฉัยละครับ แค่คิดเอาตามที่ได้อ่านประวัติการเจ็บป่วยมา และอีกอย่างก็คือยาจะแพงมากๆครับ
    อีกอันที่อาจจะพอช่วยได้ก็เอาตามวิถีพุทธ ก็คือลองนั่งสมาธิดูเวทนาเอาเลยครับ เกิดเวทนามากๆยังไงก็ดูมันไปอย่างนั้น ให้มันเกิดเวทนาให้มันสุดๆ แล้วเราก็ทนดูไปให้มันสุดๆเหมือนกัน ก็จะเป็นวิธีที่ทางการแพทย์อาจจะอธิบายได้ว่ามันจะไปลด Threshold การรับรู้ความเจ็บปวดที่ปลายประสาทที่หนังศีรษะ ก็จะทำให้รู้สึกปวดหรือแสบร้อนน้อยลงไปได้บ้าง
    หวังว่าที่กล่าวมาจะพอช่วยได้นะครับ
     
  10. สับสน!

    สับสน! เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2010
    โพสต์:
    0
    ค่าพลัง:
    +3,984
    ตรวจเลือดแล้ว หมอบอกว่าอย่างไรครับ...
    ลองอดอาหารดูครับ สักวันหรือสองวันเต็มๆ แล้วสังเกตุอาการว่าลดอาการคัน หรือร้อนลงหรือไม่...อาหารทุกชนิดที่ผ่านการย่อยจากกระเพาะ แล้วผ่านการสะเทินของตับเพื่อกรองสารพัดพิษ มาเป็นเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกาย เลือดคุณอาจมีปัญหา เพราะการกินอาหารครับ
    ผมเชื่อว่าคุณ มิได้คิดไปเองแน่...แต่ธรรมมะใดเกิดแต่เหตุใด พระองค์ตรัสถึงเหตุนั้นและ...มันน่าสงสัยครับ โรคผิวหนัง หรือโรคเลือด ต่อมน้ำเหลือง วิทยาการสมัยใหม่มีรึรักษาคุณไม่หาย ไปทำบุญวันเปิดโลกธาตุหลวงตามหาบัวรึไม่ครับ ครั้งหน้าอย่าลืมนะครับ 30 พฤษภาคม ทุกปี
     
  11. วิหคเพลิง

    วิหคเพลิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2006
    โพสต์:
    237
    ค่าพลัง:
    +783
    ไปหาหมอพยายมดูสิเผื่อหาย
     
  12. chayapin

    chayapin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    232
    ค่าพลัง:
    +1,115
    อันดับแรกคุณเอสต้องสร้างกำลังใจให้แช็งแกร่งก่อน และคิดว่าถ้าตายตอนนี้ได้ทำคุณงามความดีอะไรไว้บ้าง ได้ทำประโยชน์ให้แก่ตนเอง และพ่อแม่หรือยัง ถ้ายังไม่ได้ทำ ก็ยังไม่สมควรตาย เพราะถ้าตายไปตอนนี้ จะมีอบายภูมิเป็นที่ไป เพราะเป็นทุกข์จากโรคที่รุมเร้าจิตใจเศร้าหมอง ลองอ่านคำแนะนำที่ทุกความเห็นเขาแนะนำมาดิฉันว่าลอง่ตั้งสติดูว่าเราน่าจะลองใช้คำแนะนำแบบไหนมาปรับใช้รักษาโรคของตนเองขณะนี้ แล้วลองทำดูนะคะ
    คุณเป็นแบบนี้ เชื่อไหมว่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ของคุณเขาทุกข์กว่าคุณอีก เพราะฉะนั้นจงลุกขึ้นมาสู้ เพื่อตนเองและพ่อแม่ของคุณคนที่คุณรัก สร้างภูมิคุ้มกันให้จิดใจที่อ่อนแอของคุณเสียก่อนนะคะ สร้างบุญกุศลให้แก่ตัวเองให้มากๆ พยายามทำวันละเล็กละน้อย เช่นช่วยแม่ทำงานเท่าที่จะช่วยได้ แล้วนึกอุทิศบุญกุศลให้ตัวคุณเองก่อน และให้เจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้เกิดโรคนี้ ทำบ่อยๆ และทำทุกๆ วัน ก่อนนอนสวดมนต์ไหว้พระเสร็จแล้ว แผ่เมตตาให้ตนเองก่อน และขออโหสิกรรมต่อเจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ
    ทำเช่นนี้ทุกๆวัน อ้อ..แล้วถ้าเคยล่วงเกินพ่อแม่ ก็ควรหาพวงมาลัยไปกราบขอขมาท่านเพื่อลดหนี้กรรมและเสริมสร้างบุญกุศลให้แก่ตนเองค่ะ ความดีไม่มีขาย อยากได้ก็ต้องทำเอง ขอให้หายจากโรคนี้ไวไว นะคะ
     
  13. dalinple

    dalinple สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มีนาคม 2012
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +3
    โรคภูมิคุ้มกัน โรคการอักเสบ การแพทย์ทางเลือก ช่วยได้

    แนะนำ โรคฟื้นฟูโรคปลายประสาทอักเสบ ให้เป็นปกติ Multiple Sclerosis<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
    คุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:smarttags" /><st1:personName w:st="on" ProductID="ภิญญดา อบแพทย์">ภิญญดา อบแพทย์</st1:personName>
    อาการป่วยหนัก ช่วงปี 2550-2552 มีดังนี้
    1. ภูมิแพ้ ฝุ่น อากาศ น้ำ สารเคมี ยาฆ่าแมลงตกค้างในผัก มีทั้งผื่นขั้น ทั้งเม็ดเล็ก เม็ดใหญ่ มีหนองคลายสิวเต็มใบหน้า และแพ้ตามตัว
    ภูมิแพ้อากาศ ( ภูมิแพ้เป็นร่วมกว่า 10 ปี ใช้ทั้งยาทา ยากิน ) ใช้ยาพ่นหอบ
    2. ปวดกระดูกแขนขา ปวดกล้ามเนื้อตามตัว เดินขึ้นบันไดเจ็บหัวเข่า และเป็นรองช้ำเจ็บเท้า เดินกระเพกอยู่ 2 ปี
    3. ปลายประสาทอักเสบแขนและมือทั้ง 2 ข้าง ไม่มีแรง ยกแก้วน้ำไม่ได้ ปลายนิ้วมือไม่มีความรู้สึก จับเส้นผมไม่รู้สึก เจ็บปวดแปลบคล้ายเข็มแทง ทรมานจนนอนไม่หลับ ทานยาแก้ปวดปลายประสาทอักเสบหลายชนิดดีขึ้นบ้าง แต่ไม่หาย ยากลุ่มสุดท้ายสเตอรอยด์<o:p></o:p>
    4. โรคกระเพาะ มีแก๊สลมในกระเพาะ พุงป่อง เรออกมาเสียงดังมาก เพื่อนๆว่าเสียมารยาท ต้องพกยาประจำ
    5. โรคกรดไหลย้อน แสบขึ้นมาที่หน้าอกและลำคอ ทำให้เป็นแผลร้อนในในลำคอ และกระพุ้งแก้มบ่อย
    6. ปวดท้องประจำเดือนมาก เป็นพังผืด และเนื้องงอกขนาดเล็กที่มดลูก ยกของหนักไม่ไหว เดินนาน จะเจ็บมดลูก
    7. ตาบอดกลางคืน มองไม่ค่อยเห็นตอนกลางคืน ตกกระไดบ้านบ่อย
    8. รากฟันอักเสบ จะทานน้ำแข็ง น้ำเย็น ขนมหวาน ช็อคโกแลค ไม่ได้ จะมีอาการเสียวฟัน
    9. นอนหลับไม่ลึก เวลาตื่นนอนรู้สึกไม่มีแรง ถ่ายไม่เป็นเวลา ความจำเริ่มเสื่อม ลืมชื่อคนง่าย
    10. ผิวพรรณแห้งทั้งหน้า ทั้งตัว ผอม โทรมเร็วกว่าอายุ ซึ่งอดีตคือคนผิวหน้าดี เป็นนักกีฬามหาลัย
    <o:p> </o:p>
    การดูแลตัวเองในอดีต <o:p></o:p>
    ดิฉันเป็นคนหนึ่งที่จัดอยู่ในกลุ่มคนไทยที่กินยา และวิตามินเกินความจำเป็น จนตัวเหลือง ตับเหลือง เพราะอาการโรคภูมิแพ้ที่รักษามา 10 ปี เคยกินยาตั้งแต่ยาอันดับ 1- อันดับ 10 ยาสเตอรอยด์ทั้งยากิน ทั้งยาทา และวิตามินอาหารเสริมมียี่ห้อจำนวนมาก มาจากอเมริกาและยุโรปทานมาตลอด 10 ปี เนื่องจากคิดว่า ร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็น , ผลิตภัณฑ์เครื่องกรองอากาศ , หมอนป้องกันไรฝุ่น เพื่อลดฝุ่น , ทานผักในโครงการหลวง เนื่องจากแพ้ยาฆ่าแมลงที่ตกค้างในผัก ร้อนถึงในลำคอ ไม่สามารถทานข้าวนอกบ้านได้ ต้องทำอาหารกินเอง , ต้มผัก ต้มถั่วรับประทาน 2 ปี , ทานวิตามินจาก รพ.เอกชนชื่อดัง เพื่อรักษาตาบอดกลางคืน หลายปี ยังไม่หาย , รักษาหมอจีน ต้มยาจีน , รักษาธรรมชาติบำบัด ทานอาหารสมุนไพร ฤทธิ์ร้อนเย็นปีกว่า ยังไม่หาย , รักษาพลังจักรวาล และน้ำแร่ หินแร่ จากประเทศอังกฤษ ยังไม่หาย
    การดูแลตัวเองในปัจจุบัน <o:p></o:p>
    มีคนมาแนะนำให้ทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ( gamma-oryzanol ) แนะนำว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่คณะกรรมการอาหารและยาของประเทศญี่ปุ่นรับรอง สามารถขายประเทศญี่ปุ่น อเมริกา ได้ จึงทดลองเพียง 2 กระปุก 2 อาทิตย์ ภูมิแพ้ดีขึ้นเร็วมาก มือเริ่มยกแก้วน้ำได้ จากนั้นทานต่อเนื่อง 2-3 เดือน อาการปลายประสาทอักเสบหาย ปวดกระดูก ปวดเข่า ปวดเมื่อยตามตัวดีขึ้น เจ็บฝ่าเท้าหาย ไม่ต้องพ่นยาหอบ โรคกระเพาะหาย เดือนที่ 3-6 โรคกรดไหลย้อนหาย อาการปวดประจำเดือน ปวดมดลูกหาย ตาบอดกลางคืนหาย สามารถมองเห็นในที่มืดโดยไม่ต้องเปิดไฟ รากฟันอักเสบหาย กลับมาทานของหวานได้ ถ่ายตอนเช้าทุกวัน นอนหลับลึก ตื่นเช้าไม่เพลีย ... พยาน มีคนรู้จักที่ห้างเสรี และเพื่อน เห็นว่าสุขภาพดีขึ้น ยกของได้ เดินถือของระยะทางยาว นั่งนาน สวยขึ้นกว่า
    ช่วงเวลา 6 เดือนที่ทานน้ำมันรำข้าว ไม่ได้ทานยา อาหารเสริมอื่นเลย เพราะต้องการพิสูจน์ ( 3 วันแรกจากการทานน้ำมันรำข้าว จากมือที่ไม่มีแรงยกแก้วน้ำได้ ทำให้มือมีแรงยกแก้วน้ำได้นิดหน่อย จึงเริ่มเชื่อ ) ยกเว้น ช่วงที่ท้องเสีย ทานยา charcoal ช่วงที่ค้นหายาแก้ท้องเสีย ดิฉันตกใจว่ากระเป๋ายาหลายใบและอาหารเสริม ของดิฉันลดลง ( เนื่องจากช่วงนั้น รับงานเดินทางไปประเทศอังกฤษ จึงต้องจัดกระเป๋ายาไปด้วย จึงเห็นว่าใช้ยาลดลง ) ทำให้ลดค่าใช้จ่ายอาหารเสริมต่างประเทศได้มาก
    ช่วงเดือนที่ 9 เป็นช่วงที่สุขภาพดีมีความสุขจริงๆ เพราะดิฉันรู้สึกกลับมาเป็นหนุ่มเป็นสาวอีกครั้ง สามารถวิ่งขึ้นลงบันไดได้โดยไม่เจ็บเข่าและไม่เหนื่อย และมีประสบการณ์ช่วยผู้ที่ป่วยปลายประสาทอักเสบ หน้าชา-ลิ้นแข็ง แขนขาอ่อนแรงเข้ารักษาโรงพยาบาล 3 แห่งแล้วอาการยังไม่หาย หลังจากทานน้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว 6 กระปุก อาการดีขึ้น 80% และยังคงทานอย่างต่อเนื่อง สิ่งที่เกิดขึ้นน่าอัศจรรย์ใจเหนือความเป็นจริงค่ะ <o:p></o:p>
    ความมหัศจรรรย์น้ำมันรำข้าวและจมูกข้าว ของประเทศไทย ศึกษาหาข้อมูลได้ที่ www.pubmed.com
     

แชร์หน้านี้

Loading...