ใครก็ได้ช่วยผมที

ผมมีอาการไม่ดีครับพอจะรู้ว่าเป็นอะไรแต่ทำไมแก้ไม่หายสักทีครับ คือการปรามาสพระรัตนไตร เมื่อกี้ผมไหว้พระอยู่ครับ ผมถามตัวเองว่า กำลงไหว้อะไรอยู่แล้วจิตก็คิดปรามาสโดยการบอกว่า ไหว้...อะไรอยู่ คล้ายๆกับว่าผมคิดนะกำลงไหว้อะไรอยู่ แต่มันตอบแบบ ควบคุมไม่ค่อยได้ยังไงไม่รู้ว่า ไหว้....อะไรอยู่ และปรามาสบ่อยมากทำยังไงดีครับ เครียดมากครับ

 

..เป็นช่วงที่ดวงตกบ้าง .. อกุศลส่งผล...

...ให้ทนทาน ให้อกุศลส่งผลไป โดยจิตเราไม่สนใจ โดยหน้าด้านคิดดีๆ ทำดีๆ นอบน้อมในพระรัตนตรัย เท่าที่เราจะทำได้ นอกเหนือจากนั้นไม่ควรคิดมาก

..เมื่อให้อกุศลมันส่งผลไปเรื่อยๆตามกรรมแล้ว....จนเมื่ออกุศลกรรมคลายลงแล้ว ... การคิดปรามาสแบบนี้จะไม่มีอีก จนกว่าอกุศลจะมาใหม่

..ก็ถือว่าเรื่อยๆแล้วกันครับ

 

เป็นเพียงความคิดพื้นฐานของจิตครับ แต่ที่บอกว่าให้ช่วย ช่วยเรื่องอะไรครับ
ถ้าเป็นเรื่องความคิดพื้นฐานที่กล่าวมาข้างต้น ก็ควรจะปล่อยวางครับ
เก็บไว้จะทำให้เครียดครับ ปล่อยไปจะได้ไม่ต้องเครียด ขอให้หลุดพ้นจากความเครียดครับ

 

เข้าใจ+เห็นใจครับ

ทำใจให้สบายๆครับ

อาการแบบคุณ ไม่ใช่เรื่องแปลกครับ
บางคนอาจเป็นหนักกว่าคุณอีก

วิธีแก้ ง่ายนิดเดียวครับ

1. นั่งสมาธิ ทุกวัน
(แนะนำ เช้า 5 นาที + กลางวัน 5 นาที + เย็น 5 นาที)
รับรอง 1 - 3 เดือน คุณจะได้รับผลดีสักอย่าง แน่นอน

2. ให้ระลึกทุกครั้งว่า....
" ไอ้ตัวที่คิดไม่ดีนั้น มันไม่ใช่หัวใจเราที่แท้จริง
ช่างหัวมัน....มันสักแต่ว่าความคิดที่ผ่านมา....แล้วก็จะผ่านไป
หัวใจเรา ที่แท้จริงเคารพพระรัตนตรัย สุดหัวใจ "


ถ้าทำ 2 ข้อนี้ไปตลอด....รับรองอาการที่ไม่ดีนั้นจะหายไปแน่นอนครับ


ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ
(bb-flower

 

หมั่นสร้างกุศลไว้....ความดีที่ทำมากเหมือนน้ำเปล่าที่เพิ่มมากขึ้น แต่ปริมาณพิษเท่าเดิม ....กรรมชั่วไม่ได้หายไปไหน...รอเวลาแสดงผล ...แต่มันจะไม่โหมกระหนำมาแรงมาก ....ความดีที่ทำเพิ่มขึ้น ๆ จะช่วยพยุง ทุกอย่างไว้ ไม่เหนื่อยมาก เท่าไร แนะนำให้ ทำสังฆทาน ถวายพระพุทธรูป ขนาด 3-5 นิ้ว..และผ้าไตร ...แล้วแต่กำลัง .อธิฐาน ..ขออโหสิกรรมกับเจ้ากรรมนายเวร...ทำด้วยจิตศรัทธา ก่อนทำบุญยินดี ขณะทำบุญยินดี หลังทำบุญยินดี จะได้บุญมาก กุศลส่งมาเร็ว ....

 

เป็นเหมือนกันเลย...พยายาม..หาทางแก้มาตลอด...อีก 10 วัน หนูจะพ้นกรรมชั่วแล้ว...หลังจากที่ทรมานมานาน เป็นปี ๆ (ท่านผู้รู้บอกมา.....)

 

กรรมเกิดแต่เจตนา
เจตนาที่เกรงใจ หรือเคารพมากเกินเป็นศรัทธาครับเป็นบารมี
ปกติจิตมันก็หลอกล่อกันไปมาอย่างนี้ละครับ(นี่ขนาดไม่มีใครรู้นะเนี่ย)ถ้ารู้คงไม่รังเกียจคุณหรอกครับ

 

....

อย่าไปซีเรียสเลยครับ..พอเราจะคิดดีมันก็แกล้งให้คิดชั่วๆ..พอจะพยายามยั้งมันไว้มันก็ยิ่งเพิ่มกำลัง..ยิ่งบางคนอยู่ต่อหน้าพระสงองค์เจ้าหรือผู้ทรงความดีมากๆหรือผู้ที่มีเจโตเก่ง.มันยิ่งฟุ้งซ่านไปหมด...ปกติ.ของคนน่ะคับ..เพราะเราเริ่มรู้สึกตัวว่าสิ่งใดควรหรือไม่ควร.มารมันก็เลยแหย่เข้าให้..คนทั่วไปที่ไม่รู้สำนักถึงความผิดชอบขั่วดีเขาก็คิดเตลิดไปมากกว่านี้ไม่สนใจ..เราเองเริ่มจะมาดีแล้วมารมันก็เลยชอบแหย่ให้เราสู้กับมันตลอด.บางทีมันเล่นทั้งวัน.บางทีมันเล่นทั้งคืน..บางทีมันจะให้เราเล่นกับมันตลอด24ชั่วโมง.บางคนก็นึกว่าเป็นโรคจิตประสาทไปแล้ว.แต่จริงๆไม่ใช่นะ....จิตเราเองจริงๆไม่ได้คิดปรามาศ..ตัวที่ทำคือกิเลสมารไม่ใช่เรานะ

 

อย่าไปคิดมากเลย เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ เป็นการทบทวนความทรงจำของสมองของเรา เป็นการทวนย้ำการกระทำของเรา เพื่อบันทึกเข้าไปในสมองของเราเท่านั้นเอง คิดมากไปได้

 

อย่าไปคิดมากเลย เรื่องเล็กๆน้อยๆแบบนี้ เป็นการทบทวนความทรงจำของสมองของเรา เป็นการทวนย้ำการกระทำของเรา เพื่อบันทึกเข้าไปในสมองของเราเท่านั้นเอง คิดมากไปได้

 

อย่าคิดว่าไหว้อิฐ....คิดว่าไหว้ความดีบูชาความดีครับเมื่อก่อนผมก็เป็นแต่พอคิดอย่างนี้แล้วก็สบายใจครับและขอขมาทุกวันตามแบบหลวงพ่อฤษี

 

ไม่ต้องกังวนใจไปครับ อาการแบบนี้มักจะเกิดขึ้นได้ง่ายกับผู้ที่ฝึกสมาธิใหม่ๆครับ จิตจะแยกออกเป็น 2 อย่างครับ คือ จิตที่รู้และเคารพพระรัตนไตย และจิตที่คอยแย้งพระรัตนไตย วิธีแก้ง่ายๆ คือปล่อยให้จิตเรียนรู้ไปเรื่อยๆ และจิตจะปล่อยวางไปเอง จะเกิดความสงบเอง จะเป็นความสงบที่ลึกขึ้นไปเรื่อยๆ จนเป็นความว่างที่ค่อนข้างจะบริสุทธิ พยายามฝึกไปเรื่อยๆนะครับ เพราะอาการที่เกิดขึ้นกับคุณนั้นเป็นส่วนหนึ่งที่เกิดจาก "กรรม"

 

หลวงพ่อฤาษีฯได้กรุณาบอกไว้เสมอแล้วครับว่า การปรามาสเช่นนั้น เป็นกิเลสมาร ครับ ในขณะที่จิตมีอกุศลเข้าแทรกและจิตกำลังจะพัฒนาขึ้นสูงขึ้นน่ะครับ หลวงพ่อแนะนำว่าให้คอยขอขมาโทษพระรัตนตรัยอยู่เสมอ ๆ พอนานวันเข้าจิตก็จะอ่อนลง และหยุดการปรามาสครับ

 

ปรามาสพระรัตนตรัย มันมักจะเกิดจากตัว สงสัย(วิจิกิจฉา)

เวลาที่เราสงสัยในความดีของพระพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ แล้ว มันมักจะมีคำถามประมาณว่า ท่านดียังไง? ท่านดีจริงหรือ? เขาให้เราเชื่อว่าดีแล้วจะดีอย่างที่เขาบอกหรือ? ทีนี้ลองพิจารณาความดีของพระรัตนตรัยว่าท่านดีจริง หรือ เป็นของจริงหรือเปล่า ตามแนว พุทธานุสสติ ธรรมมานุสสติ และ สังฆานุสสติดูสิครับ เอาจนหายสงสัยและเชื่อในความดีของพระรัตนตรัยก่อน แล้วลองดูอีกที ว่ายังปรามาสท่านอยู่อีกหรือเปล่า ทีนี้ก่อนพิจารณาก็ทำอารมณ์ใจให้สบายเสียก่อน ถ้ายังหงุดหงิดอยู่ก็อย่าเพิ่งคิด เดียวมันจะเครียดเกินไป ลองดูในเรื่องอนุสสติ ก็แล้วกันครับ

http://www.palungjit.org/smati/k40/anu.htm

 

แมงจอน

มีงี้ด้วยหรอ เราไม่มีนะเพราะเราคิดดี ทำดี ต้อนนี้ลงสมาธิขั้นปีติแง้ว ขั้นถอดจิตไปมะได้มันติดง่วงยุนะ แก้ไม่หายเงย จิตนิ่งเป็นบางวันนะงุงุ

 

มีสติ อยู่เสมอ ครับ ทำสมาธิบ่อยๆ ทำใจเป็นกลางๆ บ่อยๆ ความฟุ้งซ่านน่ะคับ ชอบคิดโน่น คิดนี่ พอเราคิดไป แล้วเราอย่าเอาจิตเราไป จับ เพราะทำให้เราเป็นทุกข์ครับ ถ้ามันมาเราก็เฉยๆ กับมันไปครับ

 

พี่ศุกร์ตอบกระทู้ได้โดนใจมากคะ