ขอเชิญกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติสายลำปางกระทู้นี้เลยค่ะ

สวัสดีเจ้า เปื้อนๆ ปี้ๆ น้อง ๆ น้า ลุง อาว อา จาวเมืองลั๊วกอน
ไก่ขาวกู้คู้กู้คนเจ้า
ข้าเจ้าได้ฮับเป็นผู้ประสานงาน แจกเหรียญน้ำมนต์ตี้จังหวัดลำปาง
ได้เริ่มงานไปพ่องแล้ว เมื่อวันเสาร์ตี้ 1 พฤศจิกายน 2551 เจ้า
จึงมาเปิดกระทู้มารายงานผลการปฏิบัติงาน พร้อมกับเจินจวนป้อ
แม่ ปี้ น้อง มาจ้วยกั๋นตวยเจ้า บ้านเมืองเฮาจะได้สงบ และปลอดภัย
โดยเร็ววัน และยังเป็นการสร้างป๋ารมีตานอย่างแรงกล้าตวยเน้อเจ้า

 

ต่อไปขออู้เป๋นกำไทยพ่องเน้อะ เผื่อคนตางอื่นเปิ้นจะได้อ่านตวย

วันเสาร์ที่ 1 พย. 51 ได้ออกจากบ้านแต่เช้าเวลา8 .00 น.
เนื่องจากตนเองได้พักอาศัยอยู่ อำเภอดอยสะเก็ด และได้รับ
มอบเหรียญจากคุณตากาฉ่อ ให้นำไปหย่อนที่ เขตอำเภอ
ดอยสะเก็ดอีกประมาณ 48 เหรียญ
เริ่มต้นจึงไปหย่อนในสายน้ำที่ไหลผ่านในหมู่บ้าน
ซึ่งหมู่บ้านนี้เป็นหมู่บ้านจัดสรรขนาดใหญ่ มีบ้านเรือน
ปลูกสร้างอยุ่ร่วม 500 หลังคาเรือน มีแม่น้ำสายเล็กๆ
ไหลผ่าน พร้อมกับมีหนองน้ำใหญ่อีก 1 แห่ง
กลุ่มคุณะที่ไปจึงได้อธิษฐานจิต หย่อนเหรีญน้ำมนต์
ไว้ที่แม่น้ำ 1 แห่ง และหนองน้ำอีก 1 แห่งค่ะ

 

รูปแม่น้ำอีกค่ะ ข้างๆ นั่นบ้านพักคนงานก่อสร้าง
ก่อนไปก็ทำการไหว้เจ้าที่เจ้าทางที่รักษาเขตแดนแหล่งน้ำแห่งนี้
บอกให้ท่านรับทราบ และขอการปกป้องรักษาดินแดนบริเวณ
หมู่บ้านนี้ด้วยค่ะ

 

การเดินทางไปหย่อนเหรียญทำน้ำมนต์ในจังหวัดลำปางครั้งนี้
ทางคณะได้เลือกอำเภอวังหนือเป็นอำเภอแรก
เนื่องจากเห็นว่า เป็นอำเภอที่ไกลสุด และมีแหล่งน้ำสำคัญ
คือน้ำตกวังแก้ว ซึ่งเป็นน้ำตกที่สวยงามมาก เป็นแหล่งต้นน้ำ
ขนาดใหญ่ของจังหวัดลำปาง
การเดินทางจึงเดินทางผ่านเส้นทางดอยสะเก็ด-เชียงราย
ค่ะ ระหว่างทางจึงผ่านลำน้ำหลายแห่ง จึงได้หย่อน
เหรียญทำน้ำมนต์ด้วยเลย เพราะเป็นเขตอำเภอดอยสะเก็ด ต่อ
จังหวัดเชียงรายค่ะ
รูปแรก ลำน้ำแม่หวาน 1 เหรียญ ค่ะ
ต่อมา ก็หย่อนที่ อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ ลำน้ำแม่กวง 1 เหรียญ
เดินทางต่อมาที่ กม.36 ก็พบลำน้ำแม่กวงอีก จึงหย่อนอีก 1 เหรียญ
บ้านปางแดง อีก 1 เหรียญ
กม. 45 อีก 1 เหรียญค่ะ

 

หนทางอันคดเคี้ยว รถยนต์แล่นกันชิ้วๆ
ผู้ที่เดินไปที่แม่น้ำ จึงหวาดเสียวตนเองเป็นยิ่งนัก

 

ต่อมาก็แม่น้ำแม่ลาว ตรง กม 60 1 เหรียญ
บ้านสันติสุข อีก 1 เหรียญ
ระหว่างทางก็มีผลไม้จากชาวบ้านนำมาขาย
ก็เลยแวะลงซะหน่อย เพื่อไม่ให้แม่ค้าเสียกำลังใจ
(ที่จริงท้องหิว) ผลไม้ อโวคาโด ก็ถูกๆ ค่ะ โลละ 20 บาท
มะละกอสุกลูกโต ๆ 10 บาท
กล้วยไข่ หวีใหญ่ๆ 15 บาท
เหมามาหลายอย่างเชียว ผลไม้ทั้งนั้นเลย

 

สวัสดีค่ะ คุณคณานัน ไม่เร่งไม่ได้แล้วค่ะ เบื้องบนส่งสัญญาณเตือน
มาเรื่อยๆ ถ้าเราปฏิบัติจริงก็ย่อมรู้ได้ด้วยตนเอง
หรือจะดูจากหลักการพื้นฐานของมนุษย์ก็ได้เช่นกัน
กระแสจิตที่ดีงาม จิตเจตนาดีงาม อุทิศเสียสละช่วยเพื่อน
มนุษย์อย่างไม่หวังผล และเมื่อบุคคลผู้นั้น หรือคนกลุ่มหนึ่ง
เริ่มกระทำลงไป เราเป็นผู้รับช่วงต่อ ที่จะต่อมือ ต่อแขน
ให้เป็นเรื่องเป็นราว เป็นผลสำเร็จ เราก็ย่อมต้องตระหนัก
และร้อนรนที่จะต้องรีบเร่งดำเนินการค่ะ
จิตเจตนาที่กระทำการเช่นนี้มิใช่เฉพาะมนุษย์คิดเอาเอง
แต่ยังมีไตรสรณคมณ์ เป็นที่พึ่ง มีครูบา อาจารย์ เทพ เทวดา
แซ่ซร้องสรรเสริญ และร่วมด้วยช่วยอีกแรงเช่นกัน
โดยจะดลจิตดลใจมนุษย์ที่มีจิตใจดีงาม กระตุ้นเตือนให้เร่ง
รีบทำค่ะ

วันนี้จะมารายงานผลการปฏิบัติงานต่อค่ะ

 

ระหว่างทางไป อำเภอวังเหนือ ก็ผ่านหลายแม่น้ำ หลายวัดวา
วัดหนึ่งที่คณะได้เดินทางเข้าไป เพราะอยู่ริมทางผ่านพอดี
คือวัดแม่หวาน บันไดเป็นพญานาคสวยงาม
แต่ประตูวิหารปิด พบแต่เจ้าสองสามตัวนอนหลับอยู่
ก็เลยเดินกลับลงมา

 

อีก 1 เหรียญ ที่แม่น้ำแม่ลาว ในเขตบ้านสันติสุข อ.เวียงป่าเป้า
ผ่านวัดๆ หนึ่ง เดินเข้าไป เพื่อจะวางเหรียญ หรือลูกแก้วที่องค์พระ
ประตูวิหารปิด พบแต่ยามเฝ้าบันได
มองหาน้ำบ่อ น้ำบ่อก็ปิดสนิท
เลยเดินกลับออกมาก่อนค่ะ

 

และแล้วก็มาถึง อ.วังเหนือจนได้
เข้าไปสักการะ ศาลเจ้าพ่อพญาวังก่อน
เจ้าพ่อพญาวังเป็นที่เคารพของคนในอำเภอนี้มาก
ขณะอยู่ที่ศาล จะได้ยินเสียงแตรรถตลอดเวลา
เวลาคนขับรถผ่าน จะบีบแตรเพื่อแสดงความสักการะ
ถึงตอนนี้ ขอ นำเรื่องราวของอำเภอวังเหนือมาเสนอต่อทุกท่านนะคะ

อำเภอวังเหนือ​

"พญาวังเรืองนาม พระธาตุงามเรืองชื่อ น้ำตกสวยเลื่องลือ นามนี้คือวังเหนือ" อำเภอ วังเหนือเป็นหนึ่งใน ๑๓ อำเภอของจังหวัดลำปาง อยู่ห่างจากจังหวัดลำปางไปทางทิศเหนือเป็นระยะทาง ๑๐๘ กิโลเมตร เป็นดินแดนเหนือสุดของจังหวัดลำปาง ลักษณะภูมิประเทศเป็นที่ราบในหุบเขา และที่ราบเชิงเขา มีภูเขาล้อมรอบ ตัวเมืองมีแม่น้ำวังไหลผ่าน เป็นแหล่งทำการเกษตรทำไร่ทำสวน เป็นอำเภอที่เป็นต้นน้ำของแม่น้ำวัง ซึ่งไหลจากน้ำตกวังแก้ว (น้ำตกแม่กื๊ด ) ซึ่งอยู่ในยอดเขาผีปันน้ำ เหนือสุดของอำเภอวังเหนือในตำบลวังแก้ว ไหลลงไปรวมกับลำน้ำสอยที่อำเภอแจ้ห่ม โดยยังคงใช้ชื่อแม่น้ำวังอยู่ ไหลผ่านจังหวัดลำปาง ซึ่งเปรียบเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของคนลำปาง ก่อนที่จะไปรวมกับแม่น้ำปิง ที่จังหวัดตาก ประชากรส่วนให้ร้อยละ ๙๘ เป็นคนพื้นเมือง และประมาณร้อยละ ๒ เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ มีเขตติดต่อกับอำเภอใกล้เคียงดังนี้​

ทิศเหนือ ติดต่อกับอำเภอแม่สรวย อำเภอพาน จังหวัดเชียงราย
ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
ทิศตะวันตก ติดต่อกับอำเภอเวียงป่าเป้า จังหวัดเชียงราย
ทิศตะวันออก ติดต่อกับอำเภอแม่ใจและอำเภอเมือง จังหวัดพะเยา และอำเภองาว จังหวัดลำปาง​

ประวัติการตั้งถิ่นฐาน
อำเภอวังเหนือ ตามปรากฏในธรรมพุทธจาริก ได้จารึกเป็นลายลักษณ์อักษรว่าเดิมเรียกว่าเมืองหวัง ต่อมาผู้คนพูดกันผิดเพี้ยนเป็น เมืองวัง และเรียกว่า วังเหนือ จนถึงปัจจุบัน สำหรับการตั้งถิ่นฐาน แบ่งได้เป็น ๓ ยุคคือ
ยุคที่ ๑ สมัยเจ้าพ่อพญาวังปกครองเมืองวัง ประมาณ ช่วง พ.ศ. ๑๗๐๐-๑๘๐๐ จากการศึกษาประวัติพระองค์ท่านจากเอกสารแผนภูมิปฏิบัติการประจำปี พ.ศ. ๒๕๔๑ สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอวังเหนือ และเอกสารประวัติอำเภอวังเหนือ ซึ่งแต่งโดยพระมหาสุทัศน์ หลักแน่น (ปัจจุบันคือ พระเทพรัตนมุนี รจภ.๖) วัลลพ เสียงกึก ได้เขียนประวัติเจ้าพ่อพญาวังตรงกันว่า

 

ได้ฝากลูกแก้วไว้ที่อนุสาวรีย์เจ้าพ่อพญาวัง 1 ลูก
และได้เดินทางต่อมา ยังวัดพระเกิด
คณะได้เข้าไปไหว้พระ และก็ต้องประหลาดใจ
ในมือพระมีลูกแก้ว อยู่แล้ว 3 ลูก
โดยเฉพาะลูกขวาสุด สีเหมือนลูกแก้วของทางกลุ่มเราเลย
เอ...หรือว่า มีกลุ่มพลังจิตพิชิตภัยพิบัติ อยู่ในเขตอำเภอวังเหนือ
มาวางลูกแก้วไว้หนอ

 

ขอเสียงตวยเน้อเจ้า ปี้ ป้า อาว อา
ถ้าได้งินเสียงนี้แล้ว ขอเจินมาจ้วย กั๋นตวยเน้อเจ้า
ยังข้างแห๋มหลายตำบลอยู่ ยังบ่อไคว่เลยเจ้า
**********
ต่อภาคภาษาไทยนะค่ะ
มาถึงวัดแล้ว ไหน ๆ ก็ ไหนๆ
ก็เลยวางลูกแก้วไว้ที่หัตถ์พระประธานองค์ใหญ่ 1 ลูก
ทางคณะได้เดินทางต่อไป ตามหนทางที่คดเคี้ยว
เพื่อจะไปยังน้ำตกวังแก้ว
ต้นกำเนิดแม่น้ำวัง
ในที่สุด ก็ถึงที่หมาย
จึงวางเหรียญน้ำมนต์ไว้ที่น้ำตก 1 เหรียญ
และลูกแก้ว อีก 1 เหรีญ ที่ศาล
ฝากเจ้าที่เจ้าทางไว้ค่ะ

 

อนุโมทนาจ้า.....

ฝากดูแลทีมงานคนที่นั่งข้างๆ ด้วยนะคะ...

เป็นกำลังใจให้ลุยต่อไปค่ะ

ฉันมีความรักมาให้..........ฉันมีดอกไม้มาฝาก

ขอใจเป็นเฉกเช่น............ดอกบัวพ้นน้ำ

 

เมื่อเสร็จภารกิจที่น้ำตกวังแก้วแล้ว
ทางคณะจึงมุ่งไปที่น้ำตกวังทองต่อ
ขับไปได้ครึ่งทาง ก็ต้องยกธงขาวกลางคัน
เนื่องจากสภาพถนนเจ้าค่ะ

 

งิ๊นดีเจ้า ได้กำลังใจ๋จากน้องนิ่ม
หันฮูปงามๆ ก็ค่อยยังแควน

 

ระหว่างทางกลับ ได้ผ่านวัดอีกหลายวัด
ที่สำคัญคือวัดพระธาตุ
เป็นวัดเก่าแก่ อยู่ในที่สูง มองลงมาจะเห็นวิวทิวทัศน์
ข้างล่างสวยงามมาก
วัดนี้ตามสภาพที่เห็น ยังขาดเงินบูรณะให้สมบูรณ์อีกมาก
ที่เห็นจะมีวิหาร 1 หลัง กุฎิเล็กๆ อยู่ 3-4 กุฎิ
มีโรงครัวแบบโอเพ่นแอร์ เปิดรับลมฝนตลอด
ทางคณะได้พูดคุยกับพระรูปหนึ่ง นามว่า พระคัมภีร์
จึงได้บอกถึงวัตถุประสงค์ พร้อมมอบเหรียญ และลูกแก้ว
อย่างละ 1 เหรียญ ไว้ให้ท่านใช้สงเคราะห์คนต่อไปตามแต่จะเห็นสมควร
พระคัมภีร์ได้เล่าให้ฟังถึงประวัติความเป็นมาของวัดพระธาตุ
พร้อมกับบอกว่า อยากซื้อที่ข้างๆ ที่เขาจะขาย ประมาณ 2 ไร่ครึ่ง
เป็นเงิน ห้าหมื่นบาท ตอนนี้ยังไม่มีเงินจำนวนนั้น
วัตถุประสงค์ที่ต้องการซื้อที่เพิ่มออกไปคือ อยากทำเป็นสวนป่า 1.5 ไร่
เพื่อปลูกต้นตะโค พอโตมาก็จะขายได้
เหลืออีก 1 ไร่ จะทำเป็นห้องสมุด
ทางคณะจึงได้รับเรื่องราวเหล่านี้มา
เพื่อเผยแพร่ให้คณะศรัทธา ผู้มีจิตเจตนา
ต้องการจะทำนุบำรุงซื้อที่ดินให้กับทางวัด
ถวายเป็นทานไว้กับศาสนาต่อไป
ขอเชิญชวนค่ะ

 

การที่เรารับอาสาสมัครก็เพื่อเป็้นศูนย์ของแต่ละจังหวัดในการกระจายวัตถุมงคลให้ครอบคลุมในเขตจังหวัดของท่านครับ

โดยภาพรวมนั้น เราปรารถนาให้พลังบารมีแห่งพุทธานุภาพ ช่วยคุ้มครองประชาชนชาวไทยทั้งปวงให้รอดพ้นจากภัยพิบัติและอยู่เย็นเป็นสุข

เจริญรุ่งเรืองทั้งทางโลกทางธรรมกัน พิทักษ์ชาติ พระศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ครับ

สำหรับ พระบรมสารีริกธาตุก็ดี วัตถุมงคลก็ดี สื่อธรรมมะก็ดี ไม่ว่าจะเป็นหนังสือธรรมมะหรือ ดีวีดี คำสอน

เราส่วนกลางช่วยกัน จัดส่งให้โดยไม่คิดมูลค่าแต่อย่างไรครับ

ทุกสิ่งที่พวกเราสามัคคีและเสียสละกันก็เพื่อ ส่วนรวม เพื่อให้เป็นแบบอย่างว่า ในสังคมไทยเองก็ไม่เคยเหือดแห้งน้ำใจและความเสียสละต่อกัน

อันเป็นบาทฐานของของเมตตาธรรม พรหมวิหารสี่ ซึ่งหากชาวไทย ชาวโลกทรงความดีมีเมตตาต่อกันโลกก็ย่อมลดความเร่าร้อนเป็นธรรมดา


ตั้งนั้นความเสียสละของทุกๆคนก็เป็นการ

"สร้างพระในใจคน และสร้างคนให้เป็นพระ"

เมื่อเราทั้งหลาย ได้เข้าถึงสภาวะ ที่ค้นพบ ความสุขจากการให้ การเสียสละ เรากจะค้นพบ จิตประภัสสรอันอยู่ภายในจิตใจของเราเองทุกคนอยู่แล้ว


ดังนั้นทุกๆท่านก็คือตัวแทน ของจังหวัดท่านในการจุดเทียนแห่งความดี

จากจิตสู่จิต สู่หัวใจทุกๆดวงครับ

ค้นพบ"คุณค่า"และ"ศักยภาพ"ของเรากันครับ
<!-- / message --> <!-- sig --> __________________

 

21 เมษายน 2552
วางเหรียญทำน้ำมนต์ที่อ่างเก็บน้ำห้วยแม่ปูน 1 เีหรียญ พอดีมีเศษลูกแก้วที่แตกอยู่จึงนำมาวางด้วยอีก 2 ชิ้น ห้วยแม่ปูนน้ำเป็นแหล่งน้ำหลักในการทำน้ำประปาของหมู่บ้าน หนองแหวน บ้านวังพร้าว เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ อยู่ด้านหลัีงศูนย์แสดงสินค้าเซรามิก อ.เกาะคา หรือหลังค่ายทหาร อ.เกาะคา

 

22 เมษยายน 2552 วางเหรียญทำน้ำมนต์ที่บ่อน้ำเลี้ยงเจ้าแม่จามเทวี หลังวัดพระธาตุลำปางหลวง 1 เหรียญ

<table style="width: 654px; height: 229px;" border="0"><tbody> <tr> <td height="171">[FONT=Microsoft Sans Serif, MS Sans Serif, sans-serif]ใน ชุมชนแห่งนี้ มีสถานที่น่าสนใจ คือ บ่อน้ำเลี้ยงพระนางจามเทวี ซึ่งเป็นสถานที่เคารพสักการะของหมู่บ้าน ตามตำนาน จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ได้เล่าสืบต่อกันมาว่า เมื่อประมาณปี พ.ศ. 1215 พระนางจามเทวีเสด็จจากเมืองละโว้ (ลพบุรี) จะไปสร้างเมืองหริภุญชัย (ลำพูน) พระนางได้แวะมานมัสการพระธาตุลำปางหลวง และได้ถวายพระนาคปรกบูชาพระธาตุ ด้านทิศตะวันตก หรือ วิหารละโว้ เมื่อชาวบ้านได้กู้ข่าวจึงได้เข้าเฝ้าเพื่อให้พระนางจามเทวีหาแหล่งน้ำให้ใน หมู่บ้านให้ สมัยนั้นชาวบ้านต้องหาแหล่งน้ำไกล ดังนั้นพระนางจึงได้อธิษฐานต่อหน้าพระธาตุลำปางหลวงว่า “ ถ้าที่ใดมีสายน้ำผ่าน ขอดลบันดาลให้ชาวบ้านผุดเจอน้ำด้วยเถิด ” พลันใดนั้นมีหมูตัวหนึ่งมากคุ้ยบริเวณที่เป็นบ่อน้ำที่เห็นในปัจจุบันนี้ และได้มีสายน้ำผุดออกมา ชาวบ้านและทหารที่ตามเสด็จมาช่วยกันขุด และกลายมาเป็นบ่อน้ำเลี้ยงมาจนถึงปัจจุบันนี้ และได้มีการบูรณะ เมื่อปี พ.ศ.2474
ในวันที่ 13 เมษายน ของทุกปี ชาวบ้านจะช่วยกันตักน้ำบ่อน้ำเลี้ยงนี้ไปถวายเพื่อใช้เป็นน้ำสรงพระธาตุและ องค์พระแก้วมรกต ก็มีงานพระราชพิธีสำคัญของกรุงเทพ ฯ จะนำน้ำจากบ่อนี้ไปทำน้ำพระพุทธมนต์และชาวบ้านทั่วไป ก็ใช้ทำน้ำพระพุทธมนต์ในพิธีต่า[/FONT]งๆ ๆ

</td> <td>

​

</td></tr></tbody></table>

 

23 เมษายน 2552
วางเหรียญที่สถานีสูบน้ำด้วยไฟฟ้า บ้านวังพร้าว อ.เกาะคา จ.ลำปาง 1 เหรียญ