ที่แท้มันไม่ยุ่งเกี่ยวกับอะไรๆเลย

เมื่อเราเข้าถึงธรรมแท้ๆ รู้เห็นเข้าถึงเสพรสแห่งไตรลักษณ์แล้ว เราจะไม่สงสัยสิ่งอื่นใดเลย เช่น ผีมีจริงไหม บาปบุญมีจริงไหม ทำดีได้ดีจริงไหม ทำชั่วได้ชั่วจริงไหม ความสงสัยเหล่านี้นั้น จะไม่เกิดขึ้นกับผู้เข้าถึงธรรมเลย

เพราะไม่สนใจก็ว่าได้ มองเห็นอย่างชัดแจ้งในหนทางที่ตนควรเดิน ไม่มีกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่อง จริงหรือไหมหนอ สาธุ

 

ชีวิตนี้ น่ายินดีนัก ที่ได้รู้จักท่านนะ เด็กน้อยผู้น่าเกลียด

ประตูแห่งมหาอมตะธรรมได้เปิดขึ้นอีกคราหนึ่ง โดยพระพุทธเจ้าของพวกเรา

พระนิพพาน

 

สิ่งที่เตือนกันนั้นอาจไม่ทันเกิดประโยชน์ ต่อเมื่อเราประสบภัยเราจะคิดเห็นคำเตือนนั้น ขอท่านจงพ้นภัยเถิด

 

ท่าน เด็กน้อยผู้น่าเกลียด อยากถามว่า จะเข้าพระนิพพานเลยมั๊ย หรือว่าจะรอไปก่อน(กลับมาเกิดอีก)

ข้าพเจ้าว่าจะเข้าไปเลยอ่ะ

 

ไม่มีกิจอื่นใดที่ต้องทำแล้วใยต้องกลับมาอีก

 

สัทธรรมประเสริฐพร้อม......... ความจริง
มิอาจบิดเบือนสิ่ง......... แอบอ้าง
มนุษย์เราท่านเอยอย่าช้า........กาลร่วง เร็วนา
ประพฤติแต่ดีบ่มสร้าง......... สติไซร้ดำรงค์ธรรม...

มีธรรมเป็นเขตกลั้น.................. แดนสถิตย์
ทุกขณะจิตพินิจ....................เพียรนี้
คิดดีชั่วกอปจิต....................... อคติดับวูบได้ฤา
เว้นจาก"ธรรม" ควรลี้............... หลีกเร้นเสวนา.........

สุขเกิดกล่าวเล่า...................ด้วยวาจา..
มีร่มพุทธาเหนือหัว.................ปกเกล้า
พระสัทธรรมพุทธองค์.............ขจัดมืดอวิชชานอ
ถอนรากกิเลสร้าย..................ดับสิ้นกลกาม
http://www.watpasirisombon.com/index.php?option=com_wrapper&view=wrapper&Itemid=146

 

คิดเอง เออเอง จินตนาการล้วนๆ
ถ้าบุคคลเข้าถึงธรรม ดวงปัญญาจะเกิด แสงสว่างแห่งปัญญาจะสาดส่องให้เห็นบุญบาปและภพภูมิที่อวิชชาปิดบังอยู่ ธรรมจักขุที่มืดบอดก็จะใสสว่าง เมื่อรู้แล้วเห็นแล้วอย่างชัดเจน จึงไม่มีความสงสัยอีก ญาณอันเป็นเครื่องรู้ก็จะเกิดขึ้น จึงหมดกิจที่จะต้องสอบสวนในเรื่องเหล่านั้นอีก ไม่ใช่เพราะไม่สนใจ แต่เพราะรู้แล้วจนแจ่มแจ้งแก่ตนเหมือนเราเห็นฝ่ามือของตน จึงไม่มีแม้แต่ความคิดสงสัยว่ามีมืออยู่จริงหรือไม่ นี่แหละที่เรียกว่าดวงปัญญา

 

อย่างนั้นหรือ เป็นกันทุกคนเลยหรือ