เรื่องเล่า ก่อนนอนคืนนี้..ของเหล่าคนผู้มีตาทิพย์

วันนี้ขอเข้ามาเคาะประตูบ้านอาจารย์สามตาหน่อยครับ
อาจารย์มีเรื่องเล่าสนุกๆ สำหรับชาวพลังจิต ที่สนใจในพลังทิพย์
มาให้พวกเราได้อ่านกันเสมอๆ

หลังจากที่ผมห่างหายไปนาน ก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกครับ
แอบไปฝึกการละวางอัตตาตัวตน เพื่อรับอุปกรณ์จากต่างดาว
เข้ามาใช้ให้เกิดประโยชน์ตน ประโยชน์ท่าน

ประโยชน์ตน คือ ทำให้จิตเบาสบาย ย่นย่อวัฏฏะสงสาร ให้เหลือน้อยลง

ประโยชน์ท่าน คือ สามารถนำอุปกรณ์ที่ได้รับติดตั้ง ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ ยามเกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงที่กำลังจะเกิดตามมา

อุปกรณ์ ดังกล่าว เปรียบไปก็เหมือนกับ เทคโนโลยี่นาโน
แต่ของต่างดาวเขามีเทคโนโลยี่สูงกว่า ละเอียดกว่า
เขาจึงสามารถเดินทางจากดาวดวงหนึ่งมาสู่ดาวอีกดวงหนึ่งได้
โดยใช้เวลาเพียงเล็กน้อย

และเจ้าอุปกรณ์ที่ว่านี้ ที่เขานำมาใส่ไว้ในมนุษย์อย่างเราๆท่านๆ
ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นในด้าน
การรักษาเยียวยา การทำให้เกิดหูทิพย์ ตาทิพย์ ตัวเบา
สแกนคน ทำให้รู้ว่าเขาคิดอะไร

แต่มีข้อแม้ว่า บุคคลที่จะได้รับการติดตั้งอุปกรณ์นั้น
จะต้องมีการปฏิบัติ ให้เข้าถึงการปล่อยวาง ละอัตตาตัวตน ให้ได้
และต้องเข้าใจ ว่า ความสามารถที่เหนือมนุษย์นั้น เป็นเรื่องของอุปกรณ์
ที่ต่างดาวติดตั้งให้ ห้ามคิดว่า เราเป็นผู้กระทำ เด็ดขาด
มิเช่นนั้นแล้ว อุปกรณ์นั้นก็ไม่สามารถใช้การได้ เนื่องจากขาดกลไกสำคัญ
คือการปล่อยวางนั่นเอง

ฝากนำมาให้อ่านเพื่อพิจารณา ไว้เป็นอีกกรณีครับ

 

อนุโมทนาครับ..
ชอบครับ ได้อ่าน ได้รับรู้เรื่องที่สัมผัสเองไม่ไ้ด้
ขอร้องล่ะ ใครที่ไม่เชื่อ อย่ามาทำให้กระทู้เสียเลยครับ

 

สวัสดีเเช่นกัน สำหรับ ลุงเม้า ของ หลานๆๆ
ได้ ข่าวก้าวหน้าไปไกล..ทั้ง พลัง ยูเรอัส และ สมาชิก เขากะลา
ที่ หลายคนได้ ติดอุปกรณ์ พิเศษ จาก มนุษย์ ต่างดาวแล้ว
ฝากความคิดถึง ไปยัง คุณ สุดใจ และ คุณ astro nemo ด้วย ..
เคยร่วยมวงสนทนากันหลายครั้ง
หวังว่า จะช่วยมนุษย์ได้ มาก ในยามวิกฤติ

 

ผมเอง มีเรื่อง ประสบการณ์ ด้านตาที่สาม เป็น ร้อยเรื่อง..
กระทู้ นี้ คงจะเป็นหนังยาว..
............................................................................
อย่างไรก็ ตาม ขอ ให้ ผู้ มีตาทิพย์ นอื่น มาเล่า สลับกันไป
ให้ความเข้าใจ ความรู้จะได้ กว้างออกไป จาก หลายๆๆ ผู้มีประสบการณ์
เป็นการหนุนให้ แน่ใจกันว่า สิ่งลึกลับ ที่เกี่ยว กับ ตาที่สามนั้น มี จริง
...........................................................................

 

มิน่าล่ะครับ คือเห็นอาจารย์บอกว่าตาที่สามผมเปิดแล้ว แต่ก็ไม่เคยเห็นผีซักตัว

อ่านข้อความที่น้องบาสโพสต์แล้ว เลยถึงบางอ้อ..นี่เอง หุหุ แสดงว่ากำลัง

ของสมาธิมีส่วนสำคัญ ต่อไปคงต้องเพิ่มการนั่งสมาธิให้มากขึ้น

 

suwi อ้างอิง:
<table width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="alt2" style="border: 1px inset ;"> ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ Baby_par
ยังสงกะสัย..มัวดูแต่รูปโป้..แล้วเอาเวลาไหน..มาฝึกตาทิพย์
สงกะสัย จะได้แค่ ตากุ้งยิง เสีย ละมัง
เออ..จะต้องไป ด้นดูอีกที..เวบนั้น ชือ อะไร...โป้ จริงไหม
แล้ว จะมาบอก
555 !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!1

................................................................<!-- / message --><!-- edit note -->

<hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1">
กำถึงว่าพ่อมังกรแอบหายไปไหน TT^TT
</td> </tr> </tbody></table>

นั่นดิ...เสียชื่อถึงลูกถึงหลาน
กำของลูกปลามังกรจิงๆ... พ่อทำด้าย

ว่าแต่เวปนั้นอยู่ที่ใหน บอกมั่งฮี่ จะแวะไปปรงสังขารมั่ง


เออ...คือว่า...เว็บที่ผมควบคุมอยู่ เล่นมาซัก 8 ปีได้แล้วครับ เป็นเว็บโพสต์

รูปนางแบบติดอันดับของประเทศมาหลายครั้ง ผมก็เพิ่งหันมาสนใจฝึกสมาธิ

ไม่กี่เดือนนี้เอง เพราะอยากรู้ว่าสิ่งต่าง ๆ ที่โพสต์กันมานั้น มีจริงหรือไม่

ตอนนี้เชื่อแล้วครับ มีเหตุหลายอย่างที่ได้สัมผัสกับตัวเอง สำหรับชื่อเว็บ

อาจารย์กับน้องบาส ห้ามบอกใครนาครับ เดี๋ยวผมขายขี้หน้าเขาแย่....

คือแบบ..แบบว่าผมเข้าไปตรวจรูป และ..เออ..ไว้เพ่ง ๆ ๆ เผื่อปลงอสุภะ

น่ะครับ แต่ป่านนี้ อิอิ ยังไม่สำเร็จ

 

บ้าก็บ้าว่ะ

เอา ว่ะ ไหน ๆ ก็มากันขนาดนี้แ้ล้ว ไม่สนใครเข้าจะว่าบ้ากันล่ะ แต่ก่อน ตอนเล่นเวปนี้ใหม่ ๆ ก็เคยมีความคิดว่า จะเขียนเล่าประสพการณ์ การเห็นและสัมผัส สิ่งลี้ลับ ให้คนอื่นฟัง แต่ก็กล้วคนว่าบ้า และเวอร์ และโกหก ตอนนี้ได้โอกาศดี เพราะมีเพื่อน ๆ ร่วมบ้ากันหลายคน แต่ขอรับรองว่า สิ่งที่จะเล่าเป็นความจริงทุกประการ ผู้ที่มีตาที่สาม และตาทิพย์ หรือผู้ที่ได้มโนมยิทธิ ผมอนุญาติให้ตรวจสอบความจริงกันได้โดยไม่ต้องเกรงใจ จะค่อย ๆ เล่ากันที่ละเรื่อง เอาตั้งแต่เริ่มต้นเลยครับ ตามกระผมมาได้เลย;aa21

 

เล่ามาเลยท่านชยา เอาหลาย ๆ เรื่องหน่อย ตัวผมกับสมาชิกที่มีความเชื่อ

อยากฟังครับ ถ้าเคยเห็นวิญญาณสาว ๆ ให้เล่ามาด้วย อย่าดูอย่าเห็นคนเดียว

แบ่งปันหน่อยนะ 555555555

 

เข้าสมาธิครั้งแรก ได้อุปจาระสมาธิ

........................ขอย้อนรอยถอยหลังไปยังปี พ.ศ. 2525
ผม อายุได้16ปี เรียนอยู่ชั้น ม.4/9
โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดหนองคาย
จังหวัดที่อยู่เหนือสุดของอิสาน
ทุก ๆ วันศุกร์ตอนเย็นหลังเลิกเรียน
ทางโรงเรียนจะจัดให้มีการอบรมศีลธรรม
โดยมีวิทยากรมาบรรยาย สลับกับการแสดงธรรมะ จากพระสงฆ์ ...................................
​

.................และวันนี้ ก็เป็นวันศุกร์แห่งความเบื่อ
หน่ายอีกแล้ว
เพราะจะต้องฟังบรรยายธรรมอีกแล้ว
อีกตั้งหลายชั่วโมง กว่าจะได้ซ้อมดนตรี

แต่วันนี้รู้สึกว่าจะแปลกเป็นพิเศษ ครูบอกว่า
วันนี้จะมีวิทยากรมาสอน นั่งสมาธิ เพื่อ ระลึกชาติ
และดูอนาคตว่าเป็นอย่างไร ใครจะมีอาชีพอะไรในตอนโตขึ้น ผมก็มีความสนใจขึ้นมาทันใด .....
​

....................พอตอนเข้าห้องประชุม ครูก็ประกาศ
รับ อาสาสมัครเพื่อมานั่งสมาธิจำนวน 20 คน
ก็มีนักเรียนกรูกันออกไปมาก ผมก็กรูออกไป แต่ว่า อยู่ในตำแหน่งคนที่ 21 จึงไม่ได้รับเลือกไปนั่งสมาธิบนเวที ในหอประชุม ผมก็ได้แต่เสียดาย และก็ได้แค่ดูเพื่อน ๆ นั่งสมาธิกัน

.......................ในการนั่งสมาธิครั้งนี้ มีส่วนคล้ายกับ การฝึกมโนมยิทธิ เป็นอย่างมาก การนั่งสมาธินี้กินเวลาราว ๆ 45 นาที ก็เลิก

ก็มีการสอบ ถาม นักเรียนที่นั่งว่า เห็นอะไรบ้าง บางคนก็ตอบว่า เห็นตัวเองในอนาคต เป็นทหาร บ้าง เป็น นายอำเภอบ้าง เป็นตำรวจบ้าง ผมเองก็มีความอยากรู้มากว่า ที่ตัวเองอยากเป็นนักบินเครื่องบินรบ จะได้เป็นไหม พอเลิกกลับบ้าน ก็ยังคิดอยู่ไม่หายว่า อยากนั่งสมาธิ ก็และบอกกับพ่อว่า .
​

........................พ่อ ผมอยากนั่งสมาธิ .... พ่อผมท่าน ก็งง อยู่ไม่น้อย ว่า ไอ้นี่มันมาไม้ไหน เพราะทุกวันมีแต่มาขอไปซ้อมดนตรีบ้าง ซ้อมปิงปองบ้าง แต่วันนี้มาบอกว่า อยากนั่งสมาธิ ...พ่อก็เดินเข้าไปในห้องนอน ไปหยิบหนังสือเล่มหนึงมาให้ ชื่อหนังสือคือ...............คู่มือพระกรรมฐาน โดย พระอาจารย์ มั่น ภูริทัตโต .....................

ผมได้อ่านและทำความเข้าใจอย่างละเอียดในคืนนั้น แต่มิได้ลงมือนั่งในทันที ผมตั้งใจว่า พรุ่งนี้ จะไปนั่งสมาธิในพระอุโบสธ หลวงพ่อพระใส วัดโพธิ์ชัย ซึ่งอยู่ติดกับบ้านผมนั่นเอง และชวน เพื่อนไปอีก 3 ให้ไปเป็นเพื่อนกัน ซึ่งทั้ง 3 ก็เป็นเพื่อนที่ซ้อมดนตรีด้วยกันนั้นเอง มี โต้ง โจ เป็ด โดยให้ โต้ง เป็นคน บอก พุท-โธ ผมก็ท่อง พุทโธ ไปด้วยพร้อมกับ จับ ลมหายใจ โดยก่อนนั้ง ก็อธิฐานต่อหน้าองค์ หลวงพ่อพระใสว่า ขอบารมีหลวงพ่อ ให้ผมได้เห็นแสงบารมีของตัวเอง .............

.............ผมก็ท่อง พุทโธ ไปเรื่อย ๆ โต้งก็บอก พุทโธ ไป ตลอด ซักพักหนึ่ง จิตก็เริ่มรวม หูของผมก็เริ่มไม่ได้ยินเสียงของเพื่อนแล้ว
......................

..................ในขณะที่ผมหลับตาภาวนาอยู่นั้นก็เกิดเป็นจอภาพขนาด 4คูณ4นิ้วที่บริเวณ ระหว่างคิ้วถึงกลางหน้าพาก ผมเห็นเป็นภาพ พระอาทิตย์ทรงกรด ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางราว 4 นิ้ว สีม่วงเข้ม แต่สดใสมาก ขอบ ๆ เป็นเปลว ทรงกรดสีทอง สวยงาม ภาพนี้ทรตามความรู้สึกจึงคลายออกมา ....

........พอคลายออกมา หูก็เริ่มได้ยินเสียงเพื่อน ยัง ท่อง พุทโธ อยู่ ก็ถามเพื่อนว่า นั่งไปนี่กินเวลาเท่าไร เพื่อนบอกว่า นานมาก ราว 50 นาที แต่ความรู้สึกผม เหมือนกับ ว่า อยู่ในสมาธิ เพียง 5 นาทีเท่านั้น ตอนหลังก็มาทราบถึงเรื่องการเหลื่อมล้ำเวลาของสมาธิแต่ก็ขั้นก็หมดความสังสัย

.......................................... อันนี้เป้นการนั่งสมาธิครั้งแรก ครับ ก็เข้าอุปจาระสมาธิได้ ผมคิดว่า ไม่ได้เป็นที่ความสามารถของผมเองหรอกครับ เป้นบารมีของหลวงพ่อพระใสท่านเมตตามากกว่า ครับ เดี๋ยวมีเรื่อง 2 ต่อครับ​

 

ความอยาก บดบังทิพย์จักษุ

งานอดิเรกที่ผมชอบ นอกจากเรียนนังสือก็คือ เล่นดนตรี เพราะนอกจากจะสนุกแล้วยังได้เงินใช้ มีเงินซื้อโน้นซื้อนี้ได้ไม่ต้องขอ พ่อ-แม่ แต่ที่ชอบที่สุดก็คือ

ไปเป่าแตรงานศพ ซึ่งมีบ่อยมาก ผมเป็นวงดุริยางค์ของโรงเรียน ก็ต้องไปทำหน้าที่บริการชุมชนครับก็ได้เงินทุกครั้ง 80 บาทบ้าง 100 บาทบ้าง ตามแต่ว่าจะไปกันกี่คน ได้มาก็มาหารกัน

............แต่ที่ชอบไปเป่าแตรงานศพ ก็เพราะว่า ผม ชอบดูศพครับ ตอนเป่าก็เป่าไป พอตอน เค้า จะล้างหน้าศพที่ไร ผมก็จะชวนเพื่อนจอมซนอีกคน ชื่อ เจ้า เอ้ นพพงษ์ อินทรวิเชียร เล่นดนตรีอยู่วงเดีียวกันล่ะ ไปดูศพทุกศพเลย จนกลายเป็นเรื่องธรรมดา....................................................

พอกลับมาบ้าน ก็มานั่งสมาธิ เพราะอยากเห็นผี อยากเห็นวิญญาณ นั่งอยู่ 3 ปี จนอายุ 19 เข้าเรียน วค. เอกดนตรีปี 1 ก็ไม่เห็นผีซักกะตัว เพราะว่า มีสมาธิก็จริง แต่ก็มีความอยากเห็น ความอยากเห็นมันเป็นกิเลสหยาบ ขัดขว้างการมองเห็นของจิต ผมเข้าเรียนปี 1 วค. อุดรธานี ได้มาเช่าบ้าน บังกะโลเป๊ปซี่ ในซอยกระเทย หน้า วค. กับเพื่อน ๆ ที่เรียนห้องเดียวกัน บ้านมี 3 ห้อง อยู่กันห้องละ่ 2 คน ผมอยู่ห้องชั้นบน

..............................ผมก็ยังคงนั่งสมาธิอยู่เหมือนเดิม โดยหวังว่า จะเห็นแสงบารมีอีก หรื่อเห็นผีสักตัว หลังจากที่เห็นศพมาเป็นร้อย ๆ ศพ มัีนก็ไม่เห็นอะไรซักอย่าง พักเป๊บ เด้อ เดี๋ยวมาเขียนต่อครับ
​

 

เห็นวิญญาณครั้งแรก สมใจ

มาคืนหนึง ก็นั่งสมาธิเหมือนเดิม มันก็ไม่เห็นอะไรอีกตามเคย ก็เลยเลิก มานั่งพิงเสาที่ตรงหัวนอน แล้วก็มากคิดว่า เอ นั่งมาตั้งหลายปีแล้ว ก็ไม่เคยเห้นอะไรเลย นอกจากวันแรกที่นั่งโน้น ก็เลยคิดว่า เอาว่ะ ......ไม่เห็นก็ไม่เห็น ไม่ต้องสนใจเรื่องเห็นมันล่ะคราวหน้าไม่ต้องสนใจ

คิดได้อย่างนั้นก็โล่งใจ ก็เลยหยิบหนังสือมาอ่าน อ่านไปได้ไม่กี่บรรทัด มีความรู้สึก ประหลาด หูได้ยินเสียงคล้าย ๆ การเปลี่ยนคลื่นความถี่วิทยุ จาก สถานีหนึ่ง ไปยังสถานีหนึ่ง ตาก็มองไม่เห็นตัวหนังสือแล้ว ..........................................................
.แล้วเหมือนกับว่าได้ย้ายตัวเองไปยังอีกมิติหนึ่ง ทันใดนั้น หูผม ก็ได้ยินเสียงผู้หญิง ทักว่า ....ยังนอนไม่หลับหรือ ไก่ ...แหน่ะ รู้จักชื่อเล่นผมด้วย ใครหว่า และวินาทีต่อมา ก็เห็น ผู้หญิง ผมยาว ใส่ชุดสีดำทั้งชุด สไบเฉียง สีเหลืองทัดดอกไม้ นั่งพับเพียบ ค่อนข้างก้มหน้า นั่งอยู่เฉียง 45 องษาทางด้านขวาของผม แล้วก็ยิ้ม ชุดที่เธอใส่ คล้ายชุดไทย อีสาน หรือเผ่าภูไทนี่ละครับ

.....................ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องการแต่งกายมากนัก ก็เลยไม่รู้แน่ชัดว่าเป็นแบบใด เํธอยิ้มให้อยู่ราว ๆ 2-3 นาที ก็คลายกลับมาเป็นห้องนอนเหมือนเดิม ผมเริ่มได้สติ ก็รู้ว่า โดนผีหลอกเข้าให้แล้ว ก็เลย วิ่งป่าราบลงมาชั้นล่างพร้อมตะโกน ผีหลอก ๆๆๆ จนเพื่อนตื่นมาด่า คนจะนอน ตะโกนอะไร

..................................นี่ละครับพี่น้อง คนอยากเห็นผีมาก ...พอได้เห็นจริง ก็วิ่งซะ โห อายครับ ..........จากนั้นมา ก็รู้แล้วครับ ว่า ไม่ต้องอยากเห็น นั่งไปเลย เข้าอุปจาระได้แล้ว ถ้าผี อยู่ข้าง ๆ ตัว ก็เห็นเลยครับ นับจากนั้นมา ก็เห็นมาเรื่อย ๆ ครับ

.................................เดี๋ยวมีเรื่อง นี้ต่อครับ
​

 

ลองของนางตะเคียน

พอรุ่งเช้า ก็มาเล่าให้เพื่อนฟัง คนเชื่อก็มี คนไม่เชื่อก็มี ก็เลยขึ้นไปดูที่ห้องนอนผมอีกครั้ง ..........ปรากฎว่า ต้นเสาที่ผมพิงอ่านนั่งสือ เป็นเสาตกน้ำมัน มีน้ำมันไหลเยิ้มออกมาตามรอยแยก ผมก็รู้ทันทีว่า ที่เห็นเมื่อคืนต้องเป็นนางไม้แน่ ๆ

..................................... มีเพื่อนผมคนหนึ่ง ชื่อเจ้า หนุ่ย มันเล่นกีต้าร์ พักอยู่ห้องข้าง ๆ กันนี่ล่ะ มันบอกว่า ผี เผอที่ไหน เจอกับมันหน่อย คืนนี้จะมานอนที่ห้องผม ใครจะมานอนด้วยก็มา ปรากฎว่า มี อาสามา ก็มี ผม เจ้าตั้ม เจ้าเป็ด โดยมีเจ้าหนุ่ย เอาพระไปแขวนไว้ที่ เสา พร้อมกับ บริกรรมคาถาอะไรสักอย่าง แล้วก็จึงนอน

.............โดย เจ้าหนุ่ย นอนใกล้เสาที่สุด ถัดมา เป็นเจ้าตั้ม เป็ด และผม ...ต่างคนก็ต่างนอน อย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีเสียงคุยกัน ซึ่งปกติ กว่าจะนอนกันได้ ก็ต้องคุยกันเป้นวรรคเป็นเวร คืนนี้เงียบดีแท้หนอ

........................เวลาผ่านไปจนถึงราวเที่ยงคืน ท่ามกลางความเงียบ ผมก็ได้ยินเสียง ผู้หญิงร้องไห้ เบา ๆ แต่ชัดมาก โหยหวล น่าสงสารมาก ไม่เพียงแต่ผมได้ยิน เพื่อน ๆ ก็ได้ยินครับ เจ้าหนุ่ยก็เลยกระซิบถามเจ้าตั้มว่า ไ้ด้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ไหม ตั้มก็ตอบว่า ได้ยิน ตั้มก็ถามเป็ดว่า ได้ยินไหม เป็ดก้ตอบว่าได้ยิน เจ้าเป็ดก็หันมาถามผมว่าไ้ด้ยินไหม ผมก้ตอบว่าได้ยิน

................................ พอสิ้นเสียงผมตอบเท่านั้นล่ะครับพี่น้อง ทั้ง 4 ตะโกนพร้อมกัน ว่า ผีหลอก และเผ่นป่าราบจากชั้นบน มาชั้นล่าง ใช้เวลา ไม่ถึง 3 วินาที ชนิดนักวิ่ง 100 เมตรยังอาย ..............ต่างคนต่างก็รุมด่าเจ้าหนุ่ยว่า หาเรื่องใส่ตัวแล้ว แล้วจะอยู่บ้านนี้กันได้ไหมล่ะนี่ เจ้าหนุ่ย ก็แก้ตัวว่า ใครจะไปรู้ว่ะ ว่าผีมีจริงโว้ย

.................เอาล่ะที่นี่้ลองของนางไม้แล้ว จะอยู่บ้านนี้กันได้ไหมนี่.....อยากรู้ ๋โปรดติดตามตอนต่อไปครับ....................

 

ดีใจที่ได้มีโอกาสขึ้นไปกราบหลวงพ่อพระใสมาเมื่อกลางปีที่แล้วคะ ที่นี่งามจริงๆ

 

คุณชยา มารุติ..สลับมาเล่า เรื่องผีสางนางไม้เสียยาว
ผีสวย นางตะเคียนผมทอง เสียด้วย
ขยักเรื่อง นอนคุยกับผี ทั้ง คืน..ไว้หรือ เปล่า
ไอ้ เรา..ได้ ข่าว ชายหนุ่ม นอนกับผี มาแยะ..
อยากรู้ประสบการณ์ ว่า เหมือน นอนกับ สาวเป็นๆๆ ใหม
...........................................................
คุณมังกรบูรพา โผล่ออกมา อีกคน..
สารภาพเอง ว่า คุม เวบโป้ มา8 ปี
ดู รูปสยิว ไปแล้ว มากกว่า 8000 รูป หรือ 8000 สาว
สำเร็จ สุขทางใจ..ในฝันไปแล้ว มากมายนับไม่ถ้วน
อย่า ลืม นะ..คนเรามีกระสุน ประมาณ สองหมื่น นัด
ขณะนี้ กระสุนน่าจะใกล้หมด แล้ว นะ
ถนอมตัวไว้บ้าง..บันยะ บันยังบ้าง
ถ้าใช้เกิน ในชาติ นี้..จะเป็นการ โอดี Over Draw ติดลบ
ชาติหน้า เกิดมา..จะไม่มีกระสุนเลย...มีโอกาส เป็นหมัน แหงๆๆ
..ขอแนะนำ มาด้วย รัก ..สหายธรรม ผู้แกร่งกล้า
.................................................................................

 

เรื่องเล่า ก่อนนอน คืนนี้ ..ตอนที่ 3
วัดถ้ำพระโพธิสัตว์- วัด ถ้ำ นาคราช
............................................................
บนเส้นทางถนนมิตรภาพ ช่วง แก่งคอย ที่เลยสระบุรี ไปหน่อย
ตรงโรงปุนกลาง...ทางซ้ายมือ จะมีถนนแยกเข้า ไปในแนวป่า โปร่ง
ตรงต้นทาง มีวัด ตั้งอยู่ บนเนินเขา ชื่อ วัด "ถ้ำ นาคราช"
ทิวเขาที่ วัดนี้ตั้งอยู่..มีแนวยาว ลงทางใต้ มองเห็น ลิบๆๆ ยาวเหยียด
มีถนนเล็กๆๆ พอสวนกันได้ เป็นถนนลาดยาง ขนานไปกับ ทิวเขา
ถนนนี้ ไป ตัน ที่ วัด "ถ้ำพระโพสัตว์" ที่อยู่ในสุด ห่างออกไป 15 กม
.........................................................................
สองข้างถนน เป็น สวนพืชกษตรต้นไม้ผลไม้..
ที่หนาแน่น ดูจะเป็น สวน องุ่น..ที่ มองเห็นเป็นทิว.
.เป็น ราวต้นไม้ กิ่งไม้ สุงระดับศีรษะ..เห็นเป็นสีเขียวสลับกันไป
สูงขึ้นไป บน เขา..เป็นป่าโปร่ง มีต้นไม้ ป่า เบญจพรรณ ขึ้นเรียงรายตลอดแนว
มีทั้งใบเขียว สด..และบางส่วน ใบเริ่มเปลี่ยนสี..พร้อมที่ จะผลัดใบ
..........................................................................
ครั้งนั้นเราแวะ กราบที่ วัด ต้นทาง..คือ วัด ถ้ำ นาคราช
ตั้งใจจะไป วัก ที่ สอง ที่ อยู่ ข้างใน..วัด ถ้ำ พระโพธิสัตว์
เป็นวัดที่อยู่ในสุด..มีโบสถ์ อันสวยงาม และ ร่มเย็น
คืนวันเพ็ญ..ถ้าได้ไป นั่ง ปฏิบัติธรรม บนลานกว้าง ท่ามกลางขุนเขา..
จะพบ ว่า..เหมือนจะเป้น สวรรค์ บนดิน..ไม่มีที่ใดเหมือน
.........................................................................

 

ออกจาก วัด ถ้ำนาคราช
ก็ขับรถไปอย่างช้าๆๆ อย่างสะบาย อารมณ์ ที่ได้ มาไหว้ พระ
และ ชมวิว ธรรมชาติ อันเขียวชอุ่ม..ที่ประกอบด้วย แนวสวน องุ่น
......................................................................
หางตาถึงแม้จะมองไป ข้างหน้า
แต่ก็ เห็น อะไร แวบๆๆ เคลื่อนที่ ตามเรา
ด้วย ความเร็ว ที่ พอๆๆ กัน คือ ประมาณ 40 กม / ชม
ก็กำหนด จิต ดู ว่า เป็น สิ่งใด
เห็นแล้ว โน่น..บนไหล่เขาที่ ขนาด กันไป..มีอะไร ต้ว ยาว ๆเลื้อย ตามเราไป
กำหนดจิตอีกที..อ้อ พญานาค เศียรเดียว ตัวเขียวปากแดง
กำลัง เคลื่อนตามรถเรา ในแนวเชิงเขา..
ลอยไป ตาม ระดับ ต้นไม้เบญจพรรณ ป่าโปร่ง..ที่ ทอดยาวตลอด
......................................................................
จิตได้ คำตอบว่า เขาเคลื่อนที่ไปตามราวป่า..เพราะ มีต้นไม้
เขาไม่ชอบที่ จะ เคลื่อนไป ตามพื้นดิน หรือ ภูมิประเทศ ที่ ขาด ตอน จาก ต้นไม้
ต้นองุ่นก็เล็กเกินไป ที่ จะอาศัย เกาะเป็นฐานในการเคลื่อนที่
.....................................................................
มองด้วยตาใน เห็น ตัวยาวสีเขียว..เคลื่อนที่อย่างเร็ว
ลอง มองด้วยตาเปล่า..ก็ยังเห็น อิทธิฤทธิ์ ของ การเคลื่อนตัว
กลุ่ม พญานาค / วิญญาณ / เทพ..เทวดา.
.มีพลัง ธาตุลม เป็นหลัก ในการเคลื่อนตัว
..............................................................
มองด้วยตาเปล่า..เห็น แนวระดับ ต้นไม้ ลู่ลม เป็นแถบ.
.เหมือน มีลม พายุพัด เฉพาะ แถบ ของ ต้นไม้
กิ่ง ไหวเอน..สะบัด เป็นแนว..ใบไม้บางส่วนลู่ลม
และ บางส่วนที่ พร้อมจะผลัดใบ..ก็หลุด ร่วง ปลิว ลงมา
อันเป้นผล ของ พลัง ธาตุลม ที่เคลื่อนที่ อย่างแรง
.................................................................

 

ขับรถไปตามถนน อย่างช้าๆๆ โดยมี ร่องรอย ราวป่า ลู่ลม ขนานกันไป
แสดง ว่า..เขา ตามเรามาจริงๆๆ
ไปถึงวัด ถ้ำพระโพธิสัตว์ อันสวยงาม..ก็จอดรถ
เดินเข้าข้างใน เพื่อ ไต่ตามข้นบันได ที่ ขึ้นสูง ไป ยัง ถ้ำ ที่อยู่ บนเขา.
.บันได มากกว่า 400 ขั้น.สูง ประมาณ 3 เท่า ของ ภูเขาทองใน กทม
......................................................................
ไต่ขึ้นไป อย่างช้าๆๆ เพราะ เขา ค่อนข้าง ชัน
มีเสียงเคลื่อนที่ เลื้อยตามหลังมาติดๆๆ
เขาตามเรามาจริง ตั้งแต่ต้นทาง
เขามีพลัง พิเศษ.จนหมาในวัด มากกว่า 10 ตัว ที่ คนเอามาปล่อยไว้
สัมผัสได้..ก็พากันหอน อย่างยาวนาน
ก็เลยได้ ความรู้ว่า..นอก จาก ผี มาแล้ว.
.ถ้า มีพญานาค หรือ นาค มา..หมาก็จะหอนอย่างโหยหวล..เหมือนๆๆกัน
.............................................................................

 

ขึ้นไป ถึงระดับสูง สุด..ที นั่น มีถ้ำ สะอาด..ปลอดโปร่ง เย้น สะบาย
มีร่องรอย ว่า มี ผู้ ปฏิบัติธรรม มาค้างคืน กันมากเหมือนกัน
บนผนัง ถ้ำ ด้านเหนือ ..มี พระฉาย ของ พระพุทธองค์ พร้อมรังสี แห่ง พระธาตุ
เราก็กราบ และ เริ่ม จะนั่ง ทำ สมาธิ
..........................................................
มองเห็น แวบๆๆ ว่า..มีนาค มาลับๆๆล่อ อยู่ ปากทางเข้า
ก็อดไม่ได้..."..เข้ามาซิ..ลูก .."
เขาก็ค่อยๆๆ กระมิดกระเมื้ยน เคลื่อนตัวเข้ามา..ลอยมาเหนือ พื้น สัก 6 นิ้ว
.."กราบพระ ซิลูก.." แล้ว เราก็ นั่ง สมาธิ ต่อ
ลองมอง เขาด้วย หาง ตา..
อ้อ!!! ลูกนาค เยาวัยนี่ เอง..ตัวยาวประมาร 3 เมตร แสดงว่า ยังอายุ น้อย
นาค หรือ พญา นาค ที่ โตเต็มที่ จะยาว ประมาณ 5- 7 เมตร
..........................................................................
แอบดูอีกที..ว่า นาค เขาไหว้พระ กันยังไง
อเอ..ขดเป็นเกลียว เป็น ชั้นๆๆ ขึ้นมา
ขด วนไปทาง ขวา ลักษณะ เดียวกับ ธรรมจักร ของ ศาสนา พภุทธ
ที่ วนขวา หรือ ทวนเข็มนาฬิกา
....................................................................
ขากลับลงมา..เขาก็ ตามหลังมา ติดๆๆ
คุยกันทางโทรจิต
ได้ ความ ว่า ดีใจ มาก ที่ได้มีโอกาส พบผู้ มีบุญ.และ ทำบุญ ร่วมกัน
...................................................................
ขากลับออกมา..เขาไม่ได้ เลื้อยเคลื่อนที่ กลับ อย่างขามา.
.คือ เคลื่อนไปตามราวป่า..แต่อาศัย มากับรถ
เกาะอยู่ บนหลังคา ด้านนอก..คุยกันทางโทรจิต เกี่ยวกับ หลักธรรมะ
สงสัย จะเป้น นาคเด็ก..รถ วิ่งไป.
.ก็มีเสียง เอา หาง เคาะ เป็น จัง หวะ บนหลัง คานั้น
สงสัย ลูก นาค ตัง นี้ จะติด คาราโอเกะ มาเป็นแน่
ปล่อย เขาลง ที่ ปากทาง..
ต่างก็ แยก กันไป ตามทางของ ตัว อย่างค่อน ข้าง มี ความสุข
...................................................................

 

นี่เป็นประสบการณ์ การพบ นาค /พญานาค ในรูปแบบหนึ่ง
แต่มีสหายธรรมหลายท่านไปที่ นั่น
ได้ พบปะสนทนากับ นาค ถูเขา..ที่ ต่างกับ นาคแม่น้ำ ในแถบ แม่น้ำโขง
เหมือนกับ คน เรา ที่ อยู่ บนดอยสูง แบบชาวเขา.
.กับคนที่อยู่ในลุ่มน้ำเจ้าพระยา..ที่ จะมีแนวคิด ที่ต่างกัน
.............................................................
บางท่านที่เคยมาเล่าให้เรา ฟัง บอก ว่า คุยธรรม กันมันมาก
เวลาขับรถกลับ..เขาก็ ตามกลับมาส่ง ถึงบ้าน ในกทม เลย ทีเดียว
มาคุย ต่อ ที่ ห้องพระ ในบ้าน ต่อ
เวลาเขาจะกลับ..ไม่ต้องห่วง..เคยวัดความเร็ว ของ เขาไว้แล้ว
ประมาณ 3600 กม / ชม
ระยะ ทาง กทม- แก่ง คอย..180 กม...
ใช้เวลาแค่ สามนาที..เขาก็ถึงแล้ว
.............................................................
หลายคนที่ เคยพบ และ เขาตามมาส่ง ถึงกทม
ขึ้นจอมาเล่าหน่อย..จะได้ สะใจ สหายธรรม ท่านอื่น
จะได้ เชื่อ ว่า พญานาค มีจริง..มีธรรมะ จริงๆๆ
ถ้าไม่มีพญา นาค..แล้ว พระพุทธ ปาง นาคปรก
โดย พญา นา คที่ ชื่อ มุจจรินทร์..
เป็นเรื่อง โกหก ..หรือ อย่างไร
............................................................
อนุโมทนา สาธุ..ครับ..สำหรับคืน วันที่ 14 พย 2551 นี้
.............................................................

 

เชื่อคะ อาจารย์