โรคภัยไข้เจ็บ อันเกิดจากการนั่งสมาธิ / การฝึกจิต / การฝึกพลัง

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 10 ตุลาคม 2008.

  1. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    การอาบน้ำแข็ง โดยไม่ทานยาเขียวของผม


    ปกติ มีการทรงตัวปิติซาบซ่าน(ขนลุก) เกือบตลอดเวลา

    หนาแน่นมากน้อย ตามกำลังสติ สัมปชัญญะ รู้ตัวทั่วพร้อม




    อาบสิบขัน


    ถ้าวันไหน สติพร่อง รับอารมณ์ หรือ ปรุงแต่งมาก

    จะเจ็บหัวขันแรกๆ แปร๊บๆ เหมือนเข็มเล็กๆแทง แล้ว เหมือนไฟช๊อตแปร๊บที่หัว


    ขันต่อๆไป แค่เย็นที่ผิวกาย



    กุณฑาลิณี หรือ พลังความร้อนในกาย ขึ้นเร็วมาก

    ขันที่หนึ่งหรือขันที่สองไม่เกินนั้น



    อาบเสร็จแล้ว เช็ดตัวให้แห้ง


    เดินขนลุกต่อทันที

    แค่เดินในห้องขนาด 4เมตร คูณ 5 เมตร ไปมา

    ในอัตราเร็วธรรมดา หายใจแค่ลิ้นปี่ ตามจังหวะอัตโนมัติที่ฝึกจนชิน

    ร่างกายจะปรับเร็ว ตัวโปร่ง เบา พลังกุณฑาลิณีในตัว เปลียนจากอุ่น
    เป็นเย็นสบายๆ เหมือนเย็นเมนทอลทั้งตัว

    ปิติขึ้นภายในหนึ่งหรือสองนาที ตั้งแต่ซ่านในผิวกาย
    เมื่อนึกให้เต็มหัว เต็มหน้า หัวจะเย็นมาก ปิติจะหนาแน่นขึ้นคลุมกาย
    บางที ขนลุกจริงๆ ตั้งเด่



    ทุกวันนี้ อากาศปกติเย็นมาก ผมอยู่ตีนดอยที่แม่ริม อากาศกลางคืนเฉลี่ย

    ไม่เกินสิบสามองศา ผมนุ่งกางเกงตัวเดียวในบ้าน ขณะที่คนอื่น ห่มผ้าหนา
    สองสามชั้น ใส่หมวก ให่ถุงเท้า



    หมายเหตุ คนอื่นอย่าทำตาม โดยไม่ทานยาเขียว

    เพราะอาจมีอันตราย จากการที่ร่างกายปรับไม่ทัน

    นอกจากท่าน จะทำปิติคลุมกายได้หนาแน่น จนชำนาญฃ


    หรือ เร่งปราณร้อน เย็น ได้คล่อง ดังใจ


    ถ้าเป็นไข้ หรือ เป็นอย่างอื่น อย่ามาโทษกันจ้า
     
  2. kuro122

    kuro122 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +410
    แหงะกำแระงานนี้! ผมลองหลับตาทำสมาธิหน้าคอมฯ ทำไมหลับตาได้ไม่ถึงนาที

    ตามันลืมเอง ทดสอบหลายครั้ง ก็เป็นอยู่อีก หรือว่าอุปทานอีกแล้วครับ อาจารย์

    เป็นเหมือนพี่มังกรฯ ค่ะ แต่จะเป็นตอนนอนเล่น แต่จับพองยุบไปด้วย มันจะลืมตาเอง เป็นทั้งซ้ายและขวาค่ะ แต่มันจะลืมทีละข้าง อยู่ที่ว่านอนตะแคงข้างไหน ตาข้างตรงข้ามจะลืมค่ะ
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ไม่ยักกะมีใครพูด...(เบื้องหลังการมองนะ)
    ตอนที่ตาลืมขึ้นมาเองนะ มองอะไรอยู่ ใช้ตามองหรือใจมอง
    ตรงนี้เป็นทริกนะ
     
  4. kuro122

    kuro122 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +410
    ไม่แน่ใจนะคะ ตรงนี้ใช่ที่ว่า ลืมตาก็เห็น หลับตาก็เห็นหรือเปล่าค่ะ
     
  5. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    สองท่านที่มาบอก

    ระดับพลังกุณฑาลิณี และ ประสิทธิภาพจักรจะต่างกับคนทั่วไป คือ จักรหก และ เจ็ด

    มีการทำงานอัตโนมัติดีระดับหนึ่งแล้ว สามารถเข้าสู่จุดสมดุลย์ร้อน-เย็นได้เร็ว




    ขอสักราย สองราย ที่ยังต้องตั้งเจตนา เดินจักร เดินปราณ หรือ การปรับระดับพลังงานร้อนเย็น ที่ต้องใช้เวลานานอยู่ครับ


    แล้วผมจะเสนอทัศนะมุมมองของผม เพื่อประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ขอบพระคุณครับ
     
  6. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    เอาแบบย่อ ๆ นะครับจารย์ คือว่า...

    พออาบน้ำแข็งเสร็จเรียบร้อย เช็ดตัวแห้งแล้ว (ประมาณ 10 นาที) ผมจะนั่งลง

    แล้วพนมมือเอาหัวแม่มือจรดหว่างคิ้ว ระลึกพุทธัง สะระณัง คัจฉามิ

    ลดมือที่พนมมาตรงหน้าอก ระลึกธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ

    ลดมือทั้งสองลงที่หน้าตัก ขวาทับซ้าย ระลึกสังฆัง สะระณัง คุจฉามิ


    เสร็จแล้วจึงมานั่งหายใจแค่ลิ้นปี่ ระลึกถึงลมเข้าที่จมูก ผ่านคอ สุดที่ลิ้นปี่

    แล้วไล่จากลิ้นปี่ ผ่านคอ ออกที่จมูก มีเพียงเท่านี้ครับ ก่อน/ระหว่างที่นั่งสมาธิ

    ขอยืนยันหนักแน่นครับว่า ไม่เคยตั้งจิตคิดมอง อยากเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดทั้งสิ้น

    การที่ลืมตาขึ้นมาเอง คล้ายถูกบังคับ จะเป็นตั้งแต่เริ่มหลับตาทำสมาธิครับ

    บางวันตาจะลืมเอง เมื่อนั่งไปได้ 10 นาทีบ้าง 15 นาทีบ้าง

    เคยจงใจบีบเปลือกตาลงหลายครั้งครับ สักเดี๋ยวตามันก็ลืมใหม่

    อาการที่บอกทั้งหมด เป็นมาจนจำครั้งไม่ได้ครับ





     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 พฤศจิกายน 2008
  7. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    เอ๊ะ! เธอกับฉานนี่เป็นคู่เหมือนกันป่าวเนี่ย ที่โพสต์มาหลายเรื่อง

    ฉานก็เป็นมานานแล้วจ่ะ หลายอย่างไม่ได้บอกไปเท่านั้นเอง อิอิ

    แต่...ยังทำตัวเบาไม่ได้หรอกจ่ะ เวลาเดินทีไร ฝีเย็บจะเย็น และที่

    กางเกงใต้ฝีเย็บ เหมือนมีน้ำเย็น ๆ เปียก ๆ ด้วย พอเอามือจับ เอ!

    กางเกงก็แห้งดี แต่ทำไมกางเกงถึงเปียกเย็น 555555555 กำแระ

    งานนี้วิชาคุณโอม ทำพิษหรือป่าวเนี่ย
     
  8. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ในการฝึกจิต ต้องมีที่ตั้งของจิต
    จิตตั้งอยู่ที่ใด อายตนะทั้งหมด(หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ) ล้วนไปรวมตัวกันอยู่ ณ. ที่นั้นทั้งสิ้น

    มังกรฝึกการเคลื่อนที่ของจิต จาก จมูก คอ (คอหอย) อก (ลิ้นปี่) แล้วย้อนกลับตามลมหายใจ
    ดังนั้นตาย่อมจับจ้องอยู่ที่การเคลื่อนที่นั้น โดยมี คอหอย เป็นจุดกึ่งกลางของจมูก กับ อกลิ้นปี่

    จุดที่คอ คอหอย(จุดนิ่มๆตรงคอต่อกับอก อยู่ระหว่างหัวกระดูกไหปลาร้า)
    จุดนี้เป็นประตูลมใหญ่ของเส้นตา สหัสรังสี และทวารี (ด้านข้างของจักรที่ห้า)

    เมื่อมีการจับจ้องที่ประตูลมที่คอหอย มีพลังผ่านจำนวนมาก จุดนี้จะถูกกระตุ้นให้ตื่นตัว ตาย่อมเปิดจ้องดูเป็นธรรมดา
    ทดสอบดูได้นะ(มันอธิบายยากวะ)
     
  9. kuro122

    kuro122 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    344
    ค่าพลัง:
    +410
    เสร็จแล้วจึงมานั่งหายใจแค่ลิ้นปี่ ระลึกถึงลมเข้าที่จมูก ผ่านคอ สุดที่ลิ้นปี่

    แล้วไล่จากลิ้นปี่ ผ่านคอ ออกที่จมูก มีเพียงเท่านี้ครับ ก่อน/ระหว่างที่นั่งสมาธิ

    ขอยืนยันหนักแน่นครับว่า ไม่เคยตั้งจิตคิดมอง อยากเห็นสิ่งหนึ่งสิ่งใดทั้งสิ้น

    การที่ลืมตาขึ้นมาเอง คล้ายถูกบังคับ จะเป็นตั้งแต่เริ่มหลับตาทำสมาธิครับ

    บางวันตาจะลืมเอง เมื่อนั่งไปได้ 10 นาทีบ้าง 15 นาทีบ้าง

    เคยจงใจบีบเปลือกตาลงหลายครั้งครับ สักเดี๋ยวตามันก็ลืมใหม่

    อาการที่บอกทั้งหมด เป็นมาจนจำครั้งไม่ได้ครับ

    ++++++++++++++++++++++++++++++

    เอ๊ะ! เธอกับฉานนี่เป็นคู่เหมือนกันป่าวเนี่ย ที่โพสต์มาหลายเรื่อง

    ฉานก็เป็นมานานแล้วจ่ะ หลายอย่างไม่ได้บอกไปเท่านั้นเอง อิอิ

    แต่...ยังทำตัวเบาไม่ได้หรอกจ่ะ เวลาเดินทีไร ฝีเย็บจะเย็น และที่

    กางเกงใต้ฝีเย็บ เหมือนมีน้ำเย็น ๆ เปียก ๆ ด้วย พอเอามือจับ เอ!

    กางเกงก็แห้งดี แต่ทำไมกางเกงถึงเปียกเย็น 555555555 กำแระ

    งานนี้วิชาคุณโอม ทำพิษหรือป่าวเนี่ย

    *****************************************

    ข้อความสีแดง เหมือนพี่มังกรฯ (อีกแล้ว) คือนอน ๆ ไปแล้วเหมือน ถ้าจะเปรียบเหมือนโดนพลังบังคับ คือมันจะเกิดอาการคล้ายมันตื่นจากข้างใน (มีอาการแต่บอกไม่ถูกค่ะ)แล้วตามันก็เปิดเอง จนรำคาญ คนจะนอนเดี๋ยวลืม ๆ พลิกซ้ายตาขวาลืม พลิกขวาตาซ้ายลืม

    ข้อความสีเขียว จะเป็นตอนเดินจงกรมน่ะค่ะที่ชัดที่สุด เดินแล้วเหมือนไม่ตัวเลย เบามาก กับที่นอกเหนือจากเดินจงกรม คือตอนเดินวันที่สอง ที่ทำตามแบบคุณโอมนะคะ เดินแกว่งแขน

    มันมีหลายอย่างแปลก ๆ เหมือนไม่สะกิด ก็จำไม่ได้ ไม่ค่อยสนใจน่ะค่ะ เป็นมาเริ่มตั้งแต่ฝึกสมาธิเดือนแรกผ่านไปใหม่ ๆ น่ะค่ะ คิดว่าเหมือน ๆ คนอื่นทั่วไป<!-- / message -->
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 พฤศจิกายน 2008
  10. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    พี่มังกร

    มังกรไฟ กลายเป็นมังกรน้ำ เล่นน้ำสนุกแล้วคร๊าบบ 5555
    น้ำท่วมนรก ไปละจ้า.....



    พัฒนาการของการเดินขนลุก

    ต่อไป ถ้าเดินจนตัวเบา และ จากเบาเป็นโหวง เหมือนไม่มีกายหรือ กายโปร่ง ไม่มีน้ำหนักได้ จะได้สัมผัสพัฒนาการของพลังจากข้างในที่เป็นของเราล้วนๆ



    หมายเหตุ ขอแก้ไขนะครับ


    ที่เคยบอกให้เอาลิ้นแตะเพดาน ให้ลืมเสีย

    จาก . . . เดินสบายๆแกว่งแขนตามธรรมชาติ กัดฟัน หายใจแค่ลิ้นปี่ ทำ(นึก)ขนลุก ทั่วทั้งตัว ทั้งหัว ต่อเนื่อง

    ไม่ว่าจะนั่งสมาธิ หรือ เดินขนลุก
    กัดฟัน นะครับ ฟันล่างบน เป็นทางผ่านที่ดีและสมบูรณ์ของพลังกุณฑาลิณีจากจักร 5 ไปจักร 6 กัดฟันแล้ว เดี่ยวลิ้นเค้าจะแต่เบาๆเอง


    ถ้าเน้นการเอาลิ้นแตะเพดาน คนที่เกร็งลิ้น หรือ ลิ้นแข็ง จะดันฟันบนล่างให้ห่างกัน
    พลังจะตก
     
  11. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    การที่ ตาลืมเอง ขณะหายใจลิ้นปี่

    เพราะ


    ทั้งสองท่าน ผ่านถึงจักร 7 แล้ว

    การหายใจแค่ลิ้นปี่ กระตุ้นถึงจักรเจ็ดได้ระดับหนึ่งแล้ว

    จักรหก ที่มีตาทั้งสองเป็นอาณาบริเวณ กำลังปรับตัวเอง ให้พัฒนาตามจักร7

    มีการหมุนของจักรทีเร็วแรงขึ้น เพื่อตามจักร7 ให้ทัน

    ดวงตาจะลืม ขึ้นมาเองอัตโนมัติ


    พอระยะหนึ่ง ผ่อนตา ปิดตาได้ เพราะว่า

    การหมุนของจักร6 สมดุลย์กับจักร 7 แล้วครับ




    ส่วนของคุณ KURO


    การทีตาตรงข้ามด้านที่ตะแคงลืมได้ ขณะนอนกำหนดลม

    เพราะ เหตุผลคล้ายกัน แต่ลืมด้านที่ไม่ได้นอนทับเพราะ

    ปราณด้านนั้น ไม่ถูกกดทับครับ


    ต่อไปลองนอนหงายดู แล้วดูการเปลี่ยนแปลง
     
  12. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ทดลองไม่อาบน้ำแข็งเป็นวันแรกครับจารย์ พอสี่ทุ่มใส่กางเกงขาสั้นตัวเดียว

    ไม่ใส่เสื้อ ไปเดินเล่นรับลมหนาวสัก 20 นาที เสร็จแล้วมานั่งไล่ลมกลับไปกลับ

    มาระหว่างจมูกถึงลิ้นปี่ ประมาณ 5 นาที ตาสองข้างลักปิดลักเปิด พอไล่ไป

    อีกซัก 1 - 2 นาที ตาค่อย ๆ ลืมขึ้นมาเอง ตามที่อาจารย์โพสต์ไว้ครับ


    แต่ผมยังรู้สึกแปลก ๆ อยู่ดีล่ะครับ คือตาที่ลืมเองจากการไล่ลม และตาที่ลืมเอง

    โดยอาบน้ำแข็ง มันเป็นคนละตัวครับ

    เวลาอาบน้ำแข็งเสร็จ พอลงนั่งสมาธิหลับตา จิตยังไม่ทันกำหนดไล่ลม ตาก็ลืม

    เองแล้วครับ คล้าย ๆ กับจักร 5 และ 6 มันถูกกระตุ้นก่อนนั่งสมาธิครับ

    (เอ! ระหว่างโพสต์ข้อความ เหมือนมีลมแถวหัวคิ้ว ช่างมาน ๆ ๆ ๆ )






     
  13. ขมิ้นชัน

    ขมิ้นชัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 เมษายน 2008
    โพสต์:
    508
    ค่าพลัง:
    +141
    ขออภัยครับ..ผมขออนุญาตเรียนถามคุณ โอม.ซักนิดนะครับ..เรื่องอาการขนลุก..
    อาการแรกเริ่มที่เกิดอาการนี้มาจากการนั่งสมาธิ..ในช่วงเวลาต่อมาด้วยความนึกสนุกและคิดว่าเป็นเรื่องแปลกๆดี..ในช่วงเวลาใช้ชีวิตประจำวันผมก็ลองนึกให้เกิดขึ้นมาและแผ่ความรู้สึกแผ่ซ่านไปตามร่างกายจนทั่วตัว..พบว่าใช้วิธีน้อมจิต(นึก)ตรงลิ้นปี่พร้อมกับการหายใจเข้าลึกๆ(ไม่ได้กัดฟัน)ก็จะเกิดอาการขนลุกแผ่ซ่านออกมาหลังจากนั้นก็จะรู้สึกโล่งโปร่งสบาย..วูบๆวาบๆเป็นลักษณะคล้ายคลื่นแผ่กระจายออกมา..
    .....ทำให้ผมนึกสงสัยว่านี่คือลมปราณหรือเปล่าครับหรือเป็นวิธีบังคับให้สารแอนโดรฟีนในสมองหลั่งออกมา.....และอาการอย่างนี้มีหรือใช้ประโยชน์อย่างไรได้บ้าง....
    ..ในช่วงเวลาหนึ่งผมอ่านหนังสือของอาจารย์สุวินัย ชุดมังกรจักรวาลและสมาธิหมุนเล่มเล็กๆของท่านอาจารย์รัตน์ ซึ่งมีเนื้อหาน่าสนใจมากได้ลองฝึกดูบ้างแต่ขาดความต่อเนื่องและด้วยความด้อยในสติปัญญาและความเพียรจึงไม่บรรลุผลเท่าที่ควรประกอบกับช่วงที่ฝึกได้เกิดข้อสงสัยมากมายไม่ทราบจะสอบถามท่านใด..
     
  14. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    สีเขียวของคุณโอม โพสต์ช้าไปแล้วนะครัีบ 555555555 คือผมรำคาญกับ

    การเอาลิ้นแตะเพดาน เลยแอบขบฟันล่างบนให้ติดกัน เพราะพอลิ้นแตะเพดาน

    ปาก และเรานั่งสมาธิไปเรื่อย ๆ ...เผลอหน่อยเดียว ฟันแยกจากกันแล้วครับ

    ทำให้เป็นกังวลกับการนั่งสมาธิด้วยครับ

    แหม! ผมไม่ได้เอาลิ้นแตะเพดานนานแล้วครับ แต่ปิดคุณโอมไว้

    เพิ่งรู้ว่าที่ทำ อิอิ ถูกต้อง...........งิงิ
     
  15. มังกรบูรพา

    มังกรบูรพา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,539
    ค่าพลัง:
    +9,407
    ข้อความสีเขียวผมพอมีประสบการณ์ผ่านมาหลายครั้งครับ และขอยืนยันว่า

    เป็นการแผ่กระแสของลมปราณ ตามที่ท่านคิดถูกต้องแล้วครับ ส่วนเรื่องการ

    ฝึกตามตำราโดยขาดครูบาอาจารย์ควบคุม เห็นหลายท่านจะประสบปัญหา

    เหมือนกันครับ อย่าไปคิดว่าเราด้อยสติปัญญาและความเพียร

    สำหรับประโยชน์การแผ่พลังขนลุก รอคุณโอม เข้ามาตอบจะดีกว่าผมครับ

    ยินดีเป็นอย่างยิ่งครับ ที่จะได้นั่งรถคันเดียวกัน
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    มังกรลองดู ใช้ 5 ตรงคอหอยเป็นศูนย์ความรู้สึก(40-50%)
    ตอนอาบน้ำแข็ง พลังไหลจาก 7, 6 , 5, 4

    แล้วให้ลมหายใจประกบตามการไหลของพลัง เหมือนยางยืด จากจมูก ไปลิ้นปี่
    แล้วหดกลับ นี่เป็นแบบที่ ๑

    อีกแบบ เริ่มที่ 4 เป็นยางยืดจาก ลิ้นปี่ ไปจมูก แล้วหดกลับมาที่ลิ้นปี่

    มีอีกแบบเป็นแบบที่ 3
    ให้ใช้ 5 เป็นศูนย์กลางของยางยืด ยืดไปลิ้นปี่ กลับมาที่คอหอย ยืดขึ้นไปจมูก แล้วกลับมาที่คอหอย

    ลองดูทั้งสามแบบ กำหนดรู้เฝ้าดูความแตกต่างที่คอหอยและตา

    หนึ่งจะร้อน หนึ่งจะเย็น หนึ่งจะอุ่น หรือไม่ ตาถูกบังคับให้ลืมตาแบบใด
     
  17. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    บทสวดอีกแบบ เพื่อใช้ประกอบการทำสมาธิภาวนา แผ่อานิสงส์แก่สิ่งที่แอบแฝง


    [​IMG] OO ....นโม ตัสสะ สละการก่อเวรกรรม...OO

    <HR style="COLOR: #ffffff; BACKGROUND-COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- / icon and title --><!-- message --><!-- ads code -->
    บทสวด
    เพื่อความอยู่เป็นสุขและเพื่อเจริญสติ
    ไม่มีเวรกับใครๆ

    นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต
    สัมมาสัมพุทธัสสะ
    ( 3 ครั้ง )

    ( ขอนอบน้อมแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าพระองค์นั้น
    ซึ่งเป็นผู้ไกลจากกิเลส ตรัสรู้ชอบได้โดยพระองค์เอง )

    พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ,
    สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ,

    ( ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ,
    ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ,
    ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ )

    ทุติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ทุติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ทุติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ( แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ,
    แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ,
    แม้ครั้งที่สอง ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ )

    ตะติยัมปิ พุทธัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ตะติยัมปิ ธัมมัง สะระนัง คัจฉามิ,
    ตะติยัมปิ สังฆัง สะระนัง คัจฉามิ,

    ( แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าถือเอาพระพุทธเจ้าเป็นสรณะ,
    แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าถือเอาพระธรรมเป็นสรณะ,
    แม้ครั้งที่สาม ข้าพเจ้าถือเอาพระสงฆ์เป็นสรณะ )



    สิ่งใดที่ข้าพเจ้าได้เคยล่วงเกิน
    ด้วยกาย วาจา ใจ

    จะโดยตั้งใจก็ดีหรือโดยไม่ตั้งใจก็ดี
    ต่อ
    เจ้ากรรมนายเวร เทพ เทพยดาอารักษ์
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย โอปปาติกะ สัมภเวสี
    พ่อแม่ ครูบาอาจารย์ ญาติพี่น้อง บุตรหลาน
    คนรัก ภรรยา(สามี) ตลอดจน
    สรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวง
    ที่เคยเกี่ยวข้องด้วยในอดีตและปัจจุบัน
    ในทุกภพภูมิ ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมด้วย
    ขออโหสิกรรม ขออโหสิกรรม ขออโหสิกรรม

    และหาก
    ข้าพเจ้าได้เคย
    ผูกเวรจองกรรม อาฆาต พยาบาท มุ่งร้าย
    ต่อผู้ใดหรือสรรพสัตว์ใดทั้งในอดีตและปัจจุบัน
    ในทุกภพภูมิ ข้าพเจ้าขออโหสิกรรม

    ข้าพเจ้าขอสมาทานอยู่ในกุศลกรรมบถสิบ
    (ตลอดชีวิต)

    1) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการฆ่าสัตว์
    2) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการลักทรัพย์
    3) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการประพฤติผิดในกาม
    4) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการพูดเท็จ
    5) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการพูดส่อเสียด
    6) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการพูดคำหยาบ
    7) เป็นผู้ละเว้นขาดจากการพูดเพ้อเจ้อ
    8) เป็นผู้ไม่เพ่งเล็งอยากได้ของเขา
    9) เป็นผู้มีจิตไม่พยาบาท
    10) เป็นผู้มีสัมมาทิฏฐิ

    ด้วยศีลและวัตรปฏิบัติอันบริสุทธิ์นี้
    ขอเทพ เทพยดาอารักษ์ สิ่งศักสิทธิ์ทั้งหลาย

    จงโปรดคุ้มครองข้าพเจ้า ( ผู้สวด)
    ให้อยู่ดีมีสุขสวัสดีทุกประการ
    มีใจมั่นคงในพุทธศาสนาที่จะ
    ก้าวตามรอยบาทพุทธองค์จนพบนิพพานในชาตินี้
    โดยไม่เนิ่นช้า ด้วยเทอญ

    ข้าพเจ้า
    ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่มีอยู่ทั้งหมดทั้งสิ้น
    แก่เจ้ากรรมนายเวร เทพ เทพยดาอารักษ์
    สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
    โอปปาติกะ สัมภเวสี พ่อแม่ครูบาอาจารย์
    ญาติพี่น้อง บุตรหลาน คนรัก ภรรยา(สามี)
    ตลอดจนสรรพสัตว์ทั้งหลายทั้งปวงในทุกภพภูมิ
    ขอจงได้
    อนุโมทนาส่วนกุศลผลบุญนี้โดยทั่วกันเทอญ

    สาธุ สาธุ สาธุ กราบสามครั้ง
    นั่งสมาธิ
    แผ่เมตตาเจโตวิมุติอันไม่มีประมาณไปในทุกทิศทุกทาง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 ธันวาคม 2008
  18. nunnapath

    nunnapath เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    280
    ค่าพลัง:
    +256
    อาบน้ำเย็นมาครบห้าวันแล้ว อาการโดยทั่วไปปรกติดีร่างกายปรับความอุ่นได้เร็ว จากคนชอบร้อนเดี๋ยวนี้ เหมือนอุณหภูมิในร่างกายเรามีดีไม่ร้อนแทบระเบิด แต่มีอาการง่วงนอนมากมาเจือปนทำอย่างไรดี ส่วนอาการขนลุกนั้นทำอย่างไรก็ยังไม่สามารถปรากฏได้ ค่อยต้องฝึกไปเรื่อย ๆ
     
  19. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    ที่ง่วงนอนมากมาเจือ เพราะ จักร 6 โดนกดเป็นระยะๆอยู่

    ( ไม่กล่าวถึงความง่วงตามปกติที่ต้องพักกายนะ )

    ถ้าจักร6 ทำงานดี พลังสติจะเข้มข้น ตื่นรู้ ไม่นอนหลับมาก


    ให้เดินขนลุกทันทีทีรุ้สึกง่วง ถ้าสะดวก แม้ระยะสั้นๆ
    หรือ หายใจแค่ลิ้นปี่ เร็วๆ เพื่อกระตุ้นพลังสติ


    โมทนาครับ
     
  20. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,168
    กระทู้เรื่องเด่น:
    20
    ค่าพลัง:
    +29,715
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO


    อาการขนลุก หรือ อย่างเบากว่านั้นคือ ปิติซาบซ่านทั่วผิวกาย บางทีเหมือนมีกระแสไฟฟ้าแปร๊บๆ เกิดในส่วนต่างๆ

    นั่นคือ อาการของกำลังสมาธิระดับปิติในกาย

    มีประโยชน์มาก


    เพราะ เป็นฐานในการทรงสมาธิในระดับสุข เอกัคตา ในชีวิตประจำวันที่ต้องทำภาระกิจต่างๆ


    มีความคล่องแคล่ว ว่องไว ในการมีสติรู้ตัวทั่วพร้อม

    กระตุ้นประจุไฟฟ้าลบ ของระบบไฟฟ้าชีวะในกาย ให้กำจัดอนุมูลอิสระ

    ต้นเหตุของเซลล์มะเร็ง และ ฯลฯ ได้ ทำปฏิกิริยากับจิตวิญญาณที่แฝงในกายได้ กระตุ้นการทำงานของศูนย์พลังงานในกายให้สมดุลย์ได้ ( จักระ )

    เมื่อกายสะอาดระดับหนึ่งแล้ว ก็ปรับให้นิ่มขึ้น เข้าสู่สภาวะสุข และเอกัคคตา ทั้งๆที่ลืมตาได้



    ปิตินั้น ไม่ว่า เราจะรู้สึกดีกับสิ่งต่างๆเช่น บทสวดมนต์ การทำบุญ

    การได้พูดคุยกับคนดีๆ การได้เห็นสิ่งดี การได้ใกล้สิ่งที่มีพลังดีๆ

    ล้วนทำให้เรามีอาการซาบซ่านได้ อย่างแรงถึงกับขนลุก



    ให้หมั่นสังเกตุ ไว้ ว่า เรามีปฏิกิริยาได้ง่ายจากอะไรบ้าง
    และเมื่อเกิดขึ้น ให้พยายามทรงได้นานๆ แผ่ทั่วกาย

    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

    เอนโดรฟินน์จะหลั่ง เมื่อใช้ขนลุกหรือ กุณฑาลิณี กระตุ้นถึงระบบจักรเจ็ดได้

    ถ้าทำขนลุกคลุมเต็มหน้า เต็มหัว จะเห็นชัด

    ถ้ากัดฟัน และหายใจด้วยลิ้นปี่ พลังกุณฑาลิณี จะขึ้นถึงจักร 6-7 ได้ดีกว่าหรือไม่

    ถ้าเทียบกับการไม่กัดฟัน ไปลองทำดู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 1 ธันวาคม 2008

แชร์หน้านี้

Loading...