เราควรยอมพ่อแม่แค่ไหน?

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Bkkianmar, 15 มกราคม 2009.

  1. Bkkianmar

    Bkkianmar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +55
    ถามๆๆๆๆ
    อยากถามความเห็นว่า
    เราควรยอมพ่อแม่แค่ไหนในกรณีมีเรื่องขัดแย้งกัน
    ถ้าสมมุติว่าเราถูกจริงๆ พ่อแม่อ่ะผิด
    ถ้าเราเถียงนี่ท่านจะต้องขุ่นหมองใจแน่นอน หมายความว่าเราควรจะยอมให้ท่านถูกไปเช่นนั้นหรือเปล่า


    บางครั้งการที่เราพูด หรือทำอะไรบางอย่าง เราทำไปตามหลักเหตุผล
    พูดตามความจริง แต่พอพูดไปแล้วรู้สึกผิด เพราะพ่อแม่ต้องไม่สบายใจแน่เลย
    ก็คิดว่าแบบนี้ต่อไปจะยอมท่านทุกอย่างเลยดีมั้ย

    ขอบเขต อยู่ตรงไหน? เราควรทำอย่างไรให้เหมาะสมที่สุด?
     
  2. พระไตรภพ

    พระไตรภพ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,067
    ค่าพลัง:
    +7,521
    เวลาที่ท่านและเรา ยังมีอารมณ์ความดันสูง คือโกรธอยากเอาชนะอยู่ในจิต เราก็ควรนิ่งเสีย ถ้าท่านถามเราค่อยตอบ แต่ถ้าท่านไม่ถามก็อย่าพยายามไปตอบ เพราะจะกลายเป็นเถียงไป

    เวลาที่พ่อแม่ รวมทั้งเราเอง มีอารมณ์ปกติ ใจเย็นแล้ว ค่อยหาโอกาสบอกกล่าวเรื่องราวต่างๆให้ท่านฟัง ถ้าคิดว่าการพูดของตัวเองจะทำให้ท่านโกรธอีก ก็ใช้การเขียนอธิบายด้วยคำที่สุภาพเหมาะสมเล่าเรื่องให้ท่านอ่าน แล้วเอาไปยื่นให้ท่าน หรือ วางไว้ในที่ที่คิดว่าท่านจะมองเห็น แต่อย่าลืมเจียนคำว่าขอโทษและรักเด็ดขาด แล้วอะไรๆก็จะดีเอง

    การโต้เถียงอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกก็ได้ ท่านอาจจะฟังเรามากขึ้น สาธุ ขออนุโมทนาด้วยใจ
     
  3. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    มาตาสดุดี<!--colorc--><!--/colorc-->

    <!--coloro:#3333FF-->
    <!--/coloro-->โดย หลวงพรปรีชา<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#993300--><!--/coloro-->อันพระคุณมารดาหาใดเปรียบ
    บ่มิเทียบเทียมเท่าล้นเกล้าอยู่
    สุดจะคณนาด้วยตราชู
    สุดหยั่งรู้หนักเบาว่าเท่าไร<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#000099--><!--/coloro-->มหาสมุทรสุดฝั่งยังหยั่งรู้
    ความรักดูยืดยาวสืบสาวได้
    อีกขุนเขาโขนเขินและเนินไพร
    ความกว้างใหญ่วัดขนาดตามมาตรา<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#3333FF--><!--/coloro-->อันพิภพว่ากว้างเวิ้งว้างแสน
    จบดินแดนเลขคำนวณสอบสวนหา
    กำหนดได้ครบครันด้วยปัญญา
    มิใช่ว่าสุดคำนวณประมวลวัด<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#3366FF--><!--/coloro-->อีกทั้งห้วงเวหานภากาศ
    ยังสามารถหยั่งทำเขตจำกัด
    อาทิตย์จันทร์ดาราสารพัด
    ทุกส่วนสัดสอบดูรู้ประมาณ<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#6633FF--><!--/coloro-->
    แต่พระคุณมารดาสุดหาช่อง
    ที่จะปองกำหนดจดกล่าวขาน
    รู้แต่ว่ายิ่งใหญ่ใดมิปาน
    สุดจะทานเทียบทำกำหนดนับ<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#CC33CC--><!--/coloro-->
    ฉะนี้แน่แม่ของเราเฝ้านับถือ
    อย่าดึงดื้อฟังว่าอย่าสับปลับ
    อย่าถือโทษโกรธขึ้งถึงสำทับ
    กล่าวบังคับขู่เข็ญเช่นใครใคร<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#993399--><!--/coloro-->ท่านกรากกรำลำบากได้ยากยิ่ง
    ทุกทุกสิ่งสิ่งเสียสละเพราะจะให้
    เราผู้บุตรสุดที่ห่วงดั่งดวงใจ
    ปราศภัยทั้งผองมาพ้องพาน<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    ยามตั้งครรภ์

    <!--coloro:#CC0000--><!--/coloro-->ยามตั้งครรภ์ ท่านก็เริ่มประเดิมรัก
    เฝ้าฟูมฟักเจตน์จำนงด้วยสงสาร
    ถนอมครรภ์หมั่นประคองมิต้องงาน
    เกรงทารกจะพาลลำบากกาย<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->จะยืนนั่งเดินนอนค่อยผ่อนเบา
    เพราะเกรงเจ้าจะสะเทือนเคลื่อนสลาย
    ยิ่งนานวันครรภ์ยิ่งหนักมิพักคลาย
    ท่านยิ่งหมายมุ่งระวังการนั่งเดิน<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#660000--><!--/coloro-->ยอมลำบากมิให้ยากแก่ครรภ์ด้วย
    หวังอำนวยสุขเราแต่เพลาเนิ่น
    มิยอมให้ใดพลาดมิขาดเกิน
    ท่านเพลิดเพลินมุ่งนำภาร์รักษาครรภ์<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#993300--><!--/coloro-->ถึงจะหนักสักเท่าไรไม่บอกบ่น
    ความกังวลเท่าไรไม่หวาดหวั่น
    สีหน้าสุขแช่มชื่นทุกคืนวัน
    เพราะรักนั้นอยู่ที่บุตรสุดอาทร<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    ยามจะคลอด


    <!--coloro:#006600--><!--/coloro-->ยามจะคลอดทอดร่างระริดปวด
    แสนยิ่งยวดแทบชีวิตจะปลิดถอน
    ความเจ็บรุนแรงทวีซ้ำถี่ซ้อน
    หัวใจอ่อนหวิวหวาดแทบขาดใจ<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#009900--><!--/coloro-->ถึงกระนั้นใช่ท่านจะถือโกรธ
    หมายมั่นโทษรังเกียจก็หาไม่
    พอเห็นหน้าทารกร้องความข้องใจ
    ก็กษัยสูญทันทีมีแต่รัก<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#339999--><!--/coloro-->ความเจ็บปวดปลิดหายคล้ายมิเกิด
    เฝ้าแต่เพลิดเพลินทวียินดีนัก
    นั่นคือผลที่อุ้มครรภ์มานานนัก
    ได้ประจักษ์ลืมลำบากที่ยากกาย<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#666600--><!--/coloro-->ถึงสิบเดือนแม่ประคองอุ้มท้องมา
    หวังเห็นหน้าบุตรในครรภ์แสนมั่นหมาย
    มุ่งถนอมให้ยิ่งทั้งหญิงชาย
    ใช่จะหน่ายแหนงให้ไร้อุ้มชู<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    ยามเป็นทารก


    <!--coloro:#CC6600--><!--/coloro-->เมื่อยังอ่อนนอนเบาะฉอเลาะพูด
    ก็ได้ดูดนทีนั้นที่ถันคู่
    เหมือนดื่มน้ำจากอุราน่าเอ็นดู
    ร่างกายผู้มารดาพาร่วงโรย<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#993300--><!--/coloro-->
    ยามลูกร้องรีบประคองเข้ารับขวัญ
    ไม่เป็นอันกินนอนผ่อนระโหย
    ตัวเองชั่งแต่หวังจะกอบโกย
    ความสุขโปรยให้แก่บุตรสุดที่รัก<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#996633--><!--/coloro-->
    มดมืไต่ไรมิตอมถนอมเจ้า
    ทุกค่ำเช้ามิได้เห็นเป็นงานหนัก
    สิ่งใดผิดสำแดงแสลงนัก
    ท่านก็จักงดไว้ไม่รับประทาน<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#CC9933--><!--/coloro-->
    ยามลูกตื่นก็เห่กล่อมไม่ยอมหลับ
    ทิ้งสำรับยามลูกร้องเรียกอาหาร
    ยามลูกป่วยก็รักษาพยาบาล
    ลูกสำราญแม่จึงชื่นระรื่นใจ<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    เมื่อเติบโต

    <!--coloro:#330099--><!--/coloro-->ครั้นอายุเติบใหญ่ยิ่งใฝ่รัก
    ความฟูมฟักจะถดถอยน้อยหาไม่
    กลับทวีความระวังทุกอย่างไป
    เกรงโพยภัยจะมีมาบีฑา<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#3333FF--><!--/coloro-->
    เฝ้าอบรมสอนสั่งให้ยั้งคิด
    สิ่งใดผิดใดชอบสอบศึกษา
    ให้รู้เช่นชั่วดีมีปัญญา
    มีคุณค่าสมกำเนิดเกิดเป็นคน<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#333399--><!--/coloro-->แม้ยามโกรธลงโทษถึงดุด่า
    เจตนาสอนสั่งจึงนั่งบ่น
    ใช่จักเกลียดจักชังฝังกมล
    ความรักท้นท่วมอยู่มิรู้วาย<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#000099--><!--/coloro-->
    ถึงทำผิดหนักหนาถึงสาหัส
    ทุกคนตัดไม่คบค้าพาแหนงหน่าย
    อันแม่หรือจะมีจิตคิดโหดร้าย
    ( ...... ข้อความหายไป ...... )
    <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#FF99FF--><!--/coloro-->ความรักของมารดา<!--colorc--><!--/colorc-->
    <!--coloro:#006600--><!--/coloro-->
    ท่านพร้อมจะอภัยให้ทุกเมื่อ
    รักไม่เบื่อเกลียดไม่ลงเพราะสงสาร
    นึกเมื่อยามอุ้มท้องต้องทรมาน
    ให้ดื่มธารจากทรวงอกฟกช้ำมา<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#CC33CC--><!--/coloro-->
    ความรักของผู้อื่นดาษดื่นนั้น
    ย่อมมีวันจืดจางอย่างน้ำท่า
    แต่ความรักของท่านผู้มารดา
    สุดจะหาจืดหมดสิ้นรสร้าง<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#6600CC--><!--/coloro-->ชั่วก็รักดีก็รักหนักเป็นห่วง
    รักดั่งดวงจิตจริงไม่ทิ้งขว้าง
    มีเมตตาการุณย์หนุนเป็นทาง
    มิใช่อย่างรักละเมอหลงเพ้อไป<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#663366--><!--/coloro-->ตั้งแต่น้อยเติบใหญ่มิหน่ายลูก
    คิดฝังปลูกให้รุ่งเรืองเฟื่องสมัย
    ลูกได้ดีแม่ก็ปลื้มลืมเหนื่อยใจ
    เพราะนั่นไซร้คือผลที่ทนมา<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    การสนองคุณมารดาของบุตร


    <!--coloro:#FF6600--><!--/coloro-->พระคุณท่านมารดาฉะนี้นี่
    บุตรที่ดีควรระลึกหมั่นศึกษา
    กำหนดฟังฝังไว้ในอุรา
    แล้วคิดหาทางปองสนองคุณ<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#CC6600--><!--/coloro-->ที่ท่านเลี้ยงที่ท่านรักยิ่งกว่าชีวิต
    ยอมอุทิศทุกสิ่งรับสนับสนุน
    มิให้ท่านขาดเหลือเฝ้าเจือจุน
    ให้ท่านอุ่นนอกคลายหายทุกข์ร้อน<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#993300--><!--/coloro-->
    อย่าให้ท่านเสียใจได้เศร้าโศก
    เนื่องเพราะเรานอกโอวาทพลาดคำสอน
    สิ่งใดดีจงนำพามุ่งอาทร
    คิดผันผ่อนให้แม่สุขทุกคืนวัน<!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    <!--coloro:#990000--><!--/coloro-->กิจสำคัญขั้นสุดท้ายบุตรชายหญิง
    ควรอย่างยิ่งจะจำกำหนดหมั่น
    เมื่อถึงคราแม่มีคุณสิ้นบุญนั้น
    งานศพพลันจัดนิยมตามสมควร<!--colorc-->
    <!--/colorc-->
    <!--coloro:#FF6600--><!--/coloro-->
    อีกทำบุญสุนทานกุศล
    เพื่อเป็นผลอุทิศให้ได้ตามส่วน
    ประพฤติได้ดั่งนี้เช่นชี้ชวน
    นามอบอวลว่าเป็นผู้รู้คุณเอย ฯ
    <!--colorc-->
    <!--/colorc-->

    http://www.dmc.tv/forum/index.php?showtopic=2928
     
  4. นักเดินธรรม

    นักเดินธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มกราคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +2,393
    ถ้าปฏิบัติธรรมมาก็พึงระลึกจิตคำว่า พ่อแม่คือพระอรหันต์เข้าไว้นะครับ แล้วก็ตรวจดูอารมณ์ตนไปเรื่อยๆ โกรธก็สักแต่ว่าโกรธ ให้มันดับไป อยากเอาชนะก็สักแต่ว่าอยากให้มันดับไป ดับไฟในใจเราง่ายสุดครับ เพราะมันขึ้นตามกฎไตรลักษณ์ แต่ถ้าให้ไฟกิเลสลามเลียไปถึงท่านจะกลายเป็นกฎแห่งกรรมครับ ถามว่ายอมแค่ไหน ยอมได้ไม่มีประมาณครับผม ทำใจให้สบาย ให้ท่านใจเย็นหรือเวลาผ่านไปค่อยชี้แจงก็ได้ ถ้าเราถูกจริง ของจริง ชี้แจงช้าหรือเร็วไม่สำคัญครับ เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย
     
  5. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    การยอมพ่อแม่ ต้องยอมแบบไม่มีเงื่อนไข ยามให้สิ่งใดท่านไป ต้องไม่เสียดาย แม้ว่าท่านจะเอาไปใช้หรือไปให้กับคนที่เราไม่ชอบ ก็ต้องให้แบบให้ขาด แม้ว่าเราจะมีเหตุผลและมั่นใจว่าถูก แต่ก็ต้องเงียบซะเมื่อจะเถียงกับท่านแล้วทำให้ท่านไม่สบายใจ ทำให้พ่อแม่สบายใจ สุขใจที่สุด กตัญญูและกตเวทิตา รับประกันว่า ทำอะไรก็เจริญค่ะ อนุโมทนาค่ะ
     
  6. kunyard

    kunyard สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +2
    อนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ เป็นความจริงที่สุดคะ อยากให้ลูก ๆ ทุกคนได้อ่านจังเลย
     
  7. merumas

    merumas เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2007
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +222
    ขอโทษด้วยที่ไม่เข้าใจเวลามีผู้กล่าวยกย่องพระคุณแม่
    สำหรับเราคนที่มีสถานะที่เราเรียกแม่ เราคิดแต่ว่าเป็นเจ้ากรรมนายเวรของกันและกันมา..

    ถ้าต้องอยู่กับแม่ที่มีจิตริษยา อาฆาตแค้นผู้อื่น (รวมถึงลูกและผู้มีพระคุณทั้งหลาย)
    ใส่ความลูกตัวเองต่อญาติพี่น้อง ครูและเพื่อนฝูงจะทำอย่างไรดีคะ
    พยายามยึดขันติอยู่อย่างสงบก็แล้ว ต่อต้านก็แล้ว จนในที่สุดต้องบอกศาลาออกมาจากชีวิตกันและกันเพราะไม่งั้นจะบาปไปกว่านี้แน่

    เวลาผ่านมาเนิ่นนาน..ความโกรธของลูกมันดับแล้ว เหลือแต่ความสงสาร
    แต่พยายามวางเฉย ปฏิเสธว่าไม่มีคนๆนี้อยู่ในชีวิต ก็รู้สึกบาปในใจ (ที่ใครๆก็พากันกรอกหูว่า ยังไงแม่ก็เป็นแม่)

    ไม่อยากให้แม่ติดอยู่ในมิจฉาทิฐิอีก แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นใหม่ยังไง...
     
  8. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ในความคิดผม จากประสบการณ์ของผม ถ้าเราถูกจริง อธิบายเเล้วเเต่ท่านยังไม่ยอมฟัง ผมจะปล่อยไว้เป็นความหลัง ไม่เก็บไปคิดอีก จะได้ไม่คาใจเเละรู้สึกไม่ดีกับท่านอีก หาอย่างอื่นพูดกับท่านต่อ ลืมเรื่องที่เพิ่งเถียงกันไปได้เลย ยังไงท่านก็พ่อเเม่เราครับ ควรบูชาท่านไว้เป็นดีที่สุดครับ ไม่มีท่าน ไม่มีเราในโลกนี้ครับ
     
  9. Bkkianmar

    Bkkianmar Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กันยายน 2008
    โพสต์:
    196
    ค่าพลัง:
    +55
    อนุโมทนา ^^ ค่ะ
    เข้าใจแล้วค่ะ พ่อแม่คือพระของเรา
    ทนทุกข์ทนลำบากเพื่อเรามากมาย
    ไม่มีเหตุผลอ่ะไรที่เราจะควรทำให้ท่านหมองใจเลย

    เพราะท่านคือพ่อแม่ของเรา ชนะทุกเหตุผล
     
  10. nuttadet

    nuttadet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,892
    ค่าพลัง:
    +6,454
    ใช้เมตตาเป็นหลักเลยครับ สำหรับท่านที่คิดว่าพ่อแม่เป็น เจ้ากรรมนายเวร นะครับ

    ท่านคิดได้ครับ แต่ในเมื่อชาตินี้ เป็นพ่อแม่ลูกกัน ทำไมต้องเอาเรื่องเ่ก่ามาคิดครับ

    ทำหน้าที่เราให้ดี หรือยังทำแล้ว ดีที่สุดไหม ทำด้วยใจที่ปรารถนาดีไหม ถ้าทำดีหมดแล้ว

    พ่อแม่ท่านยังเป็นเหมือนเดิม ยังไงซะเราก็ได้ชื่อว่าเราได้ทำหน้าที่ลูกที่ดี แล้วครับ

    อภัยให้เค้า และกราบท่านขออภัย ท่าน บ่อยๆ กรรม อะไรที่ผูกกันมา จะช่วยให้เบาขึ้นครับ

    วันพ่อ วันแม่ นะครับ หาพวงมาลัยกราบเท้าท่าน ขออภัย ขออโหสิกรรม ทุกอย่างที่เคยทำกันมา

    ให้พยายามทำให้ได้บ่อยๆ ครับ
     
  11. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ให้พิจารณาตอนเจ้าชายสิทธัตถะออกบวชครับ แม้บิดามารดา (มารดาเลี้ยง) จะคัดค้านอย่างไรก็ไม่เป็นผลครับ จนวันนึงเมื่อพระพุทธองค์ตรัสรู้ก็ได้ไปโปรดพระบิดาและพระมารดาครับ

    บางอย่างเป็น "วาระ" ครับ เมื่อยังไม่ถึงวาระเถียงไปก็ไม่มีประโยชน์ครับ

    อีกอย่างคือ "คุณแน่ใจเหรอครับว่า คุณถูกแน่นอน"

    ถ้ามั่นใจว่าถูก ในทางพุทธศาสนามีคำว่า "กุศโลบาย" ครับ

    คือ อุบายอันเป็นกุศลครับ ลองหาอ่านเพิ่มเติมดูนะครับ

    โมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 มกราคม 2009
  12. @^น้ำใส^@

    @^น้ำใส^@ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    2,330
    ค่าพลัง:
    +4,674
    แต่ก่อนก็มีแสดงเหตุผลของเราบ้างคะ แต่บางครั้งก็ทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ เราก็ทุกข์

    ตอนนี้ถ้าอะไรยอมได้ก็ยอม ไม่เถียง สักพักท่านก็สบายใจ ส่วนเราเห็นท่านสบายใจเราก็สบายใจนะคะ ไม่ต้องคิดอะไรมาก คิดซะว่า ถ้ามันไม่หนักหนาจนเกินไป ทนได้ก็ทน เพราะท่านทนเพื่อเรามามากมายแล้วนะคะ ^^

    อนุโมทนากับทุกท่านด้วยนะคะ สาธุ
     
  13. slamb

    slamb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กันยายน 2007
    โพสต์:
    1,021
    ค่าพลัง:
    +538
    ควรถือพรหมวิหาร4 คือบางเรื่องที่พูดแล้วทําให้ท่านไม่สบายใจ ก็ควรหลีกเลี่ยงโดยการถืออุเบกขาไปก่อน แต่การพูดในสิ่งที่ถูกต้องหรืออธิบายให้ท่านเข้าใจถูกต้องก็ควรทําครับ เพียงแต่ต้องดูหาโอกาสที่เหมาะสม
     

แชร์หน้านี้

Loading...