มหาอำนาจใหม่ ที่จะทำให้ไทยเป็นหนึ่งคือต้องชนะ BRIC

นวัตกรรมใหม่ ที่คนไทยทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อเอาชนะกลุ่มเศรษฐกิจใหม่ และกลุ่มนี้มีชื่อสั้นๆว่า BRIC

BRIC นั้นเป็นชื่อย่อของพันธสัญญาใหม่ในเศรษฐกิจโลกที่ไม่ควรมองข้าม

BRIC คือ บราซิล + รัสเซีย + อินเดีย + จีน

BRIC คือผู้ต่อกรใหม่กับ และมีแนวโน้มว่าพันธมิตรกลุ่มนี้จะมาแรงกว่าใครๆ ในทศวรรษหน้านี้ โปรดติดตาม

สมาชิกท่านใดที่มีเรื่องราวเกี่ยวกับ BRIC เชิญแสดงความคิดเห็นได้ครับ

 

ชนะตัวเราเองก่อนได้จิงจะดีครับ

 

คุณไม่รู้อะไร อย่ามาพูดดีกว่า

ในทศวรรษหน้า BRIC คือกลุ่มพันธมิตร ที่ใครๆ ย่อมเกรงกลัว เป็นอำนาจใหม่

จุดเด่นของ B ของ R ของ I ของ C นั้นมีแน่ๆ

ผมต้องการให้คนระดับอภิภูมาคุยในเรื่องนี้ ถ้าคุณรู้แล้ว โปรดชี้แจง เพื่อเป็นความรู้แลกเปลี่ยนความรู้กัน
หากไม่รู้ ขอให้ดูเฉยๆ อย่ากระโตกกระตาก อย่าโวยวาย อย่าทำเป็นกระต่ายตื่นตูม แค่รู้ มาแลกเปลี่ยนกัน

ขอเชิญ ท่าน ดร.

 

รู้สึกว่าจะเป็นประเทศที่มีประชากรมากระดับต้นๆของโลก แล้วเป็นประเทศที่มีราคาแรงงานถูก โดยเฉพาะประเทศจีน

 

ประเทศเหล่านั้น ก็ต้องกินอาหารเหมือนกัน จะเป็นมหาอำนาจยังไงก็ต้องกิน
คนยิ่งเยอะก็ยิ่งดี เราก็ปลูกข้าวขายให้ซะต่อไปโลกจะขาดแคลนอาหาร มหาอำนาจทางอาหารคือเราเราทำได้ดีอยู่แล้ว(ถ้าจะทำ) อย่างอื่นอย่าไปแข่งกับเขาเลย

 

BRIC คือ บราซิล + รัสเซีย + อินเดีย + จีน

น่ากลัวจริงๆ ครับกลุ่มนี้ ถ้าเค้ารวมมือกับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมือง เศรษฐกิจ การทหาร ฯลฯ ประเทศเหล่านี้สามารถกำหนดชะตากรรมของโลกได้เลยนะจะบอกให้ ทำไมผมถึงว่าอย่างนั้น หากท่านรู้ข้อมูลพื้นฐานของแต่ละประเทศก็คงจะวิเคราะห์ได้นะครับว่าทำไมถึงว่าน่ากลัว

ข้อมูลทั่วไปของแต่ละประเทศ

สหพันธ์สาธารณรัฐบราซิล
เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในละตินอเมริกาและใหญ๋เป็นอันดับที่ 5 ของโลก (8,511,965 ตร.กม.)
มีประชากร 187,015,000 คน เป็นอันดับ 5 ของโลกเช่นกัน

สหพันธรัฐรัสเซีย
เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดในโลก ( 17,075,200 ตร.กม.)
มีประชากรเป็นอันดับ 9 ของโลก 142,499,000 คน เช่นกัน
สินค้าส่งออกที่สำคัญของสหพันธรัฐรัสเซีย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ประมง แร่เหล็ก ถ่านหิน น้ำมันดิบ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ก๊าซธรรมชาติ แอมโมเนีย ปุ๋ย ไม้ท่อน เหล็กหล่อ ทองแดง อะลูมิเนียม
สินค้านำเข้าที่สำคัญของสหพันธรัฐรัสเซีย ได้แก่ ผลิตภัณฑ์อาหาร(ไก่แช่แข็ง ปลาแช่แข็ง เนย ชา ธัญพืช น้ำมันพืช เนื้อกระป๋อง น้ำตาล สำลี ผ้าฝ้าย และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ) เคมีภัณฑ์และยาง เครื่องจักรกลและยานยนต์ โลหะและอัญมณี

สาธารณรัฐอินเดีย
มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 7 ของโลก (3,287,590 ตร.กม.)
จำนวนประชากร 1,169,016,000 คน มากเป็นอันดับ 2 รองจากจีน
สินค้าออกที่สำคัญ อัญมณี และกึ่งอัญมณี ไข่มุก เสื้อผ้าสำเร็จรูป ชา และกาแฟ ผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์ ยาและเวชภัณฑ์
สินค้าเข้าที่สำคัญ น้ำมันปิโตรเลียม เครื่องจักร อัญมณีและกึ่งอัญมณี แร่เหล็ก และน้ำมันพืช

สาธารณรัฐประชาชนจีน
เป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 4 ของโลก (9,596,960 ตร.กม. เฉพาะพื้นที่จีนแผ่นดินใหญ่เท่านั้น ไม่รวมไต้หวัน ฮ่องกง และมาเก๊า)
มีประชากร 1,320,955,000 คน มากเป็นอันดับ 1 ของโลก

ข้อสังเกตุที่น่าสนใจ ทั้งสี่ประเทศมีน้ำมันดับ และเชื่อเพลิงอื่นๆที่ผลิตได้เองในประเทศโดยเฉพาะบราซิลผลิตเอทานอน(มีการวิจัยมากว่า 50 ปีแล้ว)มากเป็นอันดับหนึ่งของโลก และสี่ประเทศนี้ก็สามารถสินค้าเกษตรส่งออกอีกด้วย นี้ยังไม่นับ GDP ของและประเทศนะครับ อินเดีย จีน รัสเชีย ยังมีทรัพยกรมนุยษ์ที่เชี่ยวชาญด้านซอฟร์แวร์คอมพิวเตอร์ที่สุดอีกด้วย ส่วนรัสเซียมีทรัพยกรมนุยษ์ที่มีคุณถาพมากที่สุด คนรัสเชียมีการศึกษาที่ดีคิดเป็น 99.99% ของประชากรทั้งประเทศ
จีนและอินเดียเป็นผู้ผลิตข้าวส่งออกเช่นเดียวกับไทยและมีปริมาณการผลิตมากเป็นอันหนึ่งและสอง(ผลผลิตปี 2550/2551 มีผลผลิต 129.5 ล้านตัน และ 94 ล้านตันตามลำดับ) ส่วนไทยผลิตได้ 18.6 ล้านตัน มากเป็นอันดับสี่ ส่วนเวียดนามเพื่อนบ้านเราผลิตได้ 23.3 ล้านตันมากเป็นอันดับสาม

ด้านการทหาร จีนและรัสเชียมีกองทัพที่ใหญ่ที่สุดอีกเช่นกัน ถ้าจะว่าถึงอาวุธปรมาณูที่น่ากลัวแล้วก็มีสะสมอยู่ในจีน รัสเซีย และอินเดียด้วยเช่นกัน

 

สี่ประเทศนี้มีอะไรดี มาดูกัน

บราซิล: ประเทศที่รวยทรัพยากรธรรมชาติ (ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ใหญ่ที่สุดในอเมริกาใต้) เป็นศูนย์กลางของการผลิตสินแร่ของโลก เช่นทองคำ เหล็ก สังกะสีและป่าไม้ นอกจากนี้ยังเป็นผู้นำในผลิตภัณฑ์ด้านเกษตร และเป็นผู้ผลิตเอธานอลรายใหญ่ที่สุดของโลกด้วย บราซิลยังเป็นผู้ส่งออกวัตถุดิบ เช่น เหล็ก อลูมิเนียม แพลตินัม เอทานอล รวมทั้งชิ้นส่วนอุตสาหกรรมชิ้นส่วนเครื่องยนต์ เครื่องบินและรถยนต์ และมีบทบาทสำคัญในการส่งออกสินค้าประเภททรัพยากรเพื่อการผลิตและบริโภคให้กับจีนอีกด ้วย

รัสเซีย: เจ้าแห่งพลังงาน GDP เป็นอันดับ 9 ของโลก มีก๊าซธรรมชาติมากเป็นอันดับ1ของโลก ผลิตถ่านหินเป็นอันดับ 2 ของโลก มีปริมาณน้ำมันสำรองมากเป็นอันดับ2 รองจากซาอุดิอาระเบีย และส่งออกน้ำมันไปยังประเทศต่างๆรวมทั้งจีนด้วย

อินเดีย: ผู้นำด้านไอที ประเทศนี้มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงมาก ระหว่างปี 2006-2007 เติบโตถึง 9.4% ประชากรมีจุดเด่นตรงที่ มีการศึกษาดี มีความพร้อมในเรื่องภาษาอังกฤษ ค่าแรงไม่สูงนัก จึงเป็นแหล่งการให้บริการประเภท outsource ให้กับบริษัทในสหรัฐและยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้าน Call Center นอกจากนี้ยังเป็นผู้ส่งออกหลักเรื่องของ software IT

จีน: ผู้นำด้านการผลิตของโลก ช่วง 25 ปีที่ผ่านมา การเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉลี่ยคือ 9.4% (คาดการณ์ว่าจะเป็น 11.5%ในปี 2007) ขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกรองจาก สหรัฐ ญี่ปุ่นและเยอรมนี ในภาคบริการจีนก็เป็นผู้นำเช่นเดียวกัน ธนาคาร ICBC ของจีนมีมูลค่าทางการตลาด ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากซิตี้แบงค์เท่านั้น นอกจากนี้จีนยังมีเครื่องจักร ในการขับเคลื่อนของตัวเองครบครัน ทั้งการลงทุน การบริโภค การส่งออก และการใช้จ่ายของรัฐบาล

 

เท่าที่อ่านมาจากความคิดเห็นข้างบน ยังนึกไม่ออกว่าไทยจะเอาอะไรไปชนะเขา แต่ที่รู้ๆ รัสเซีย อินเดีย จีน ไม่ถูกกัน คงงี้ล่ะมั้งที่ กลุ่มเศรษฐกิจนี้อาจจะไม่เกิดขึ้น แล้วสหรัฐก็คงไม่ปล่อยให้เกิดขึ้นโดยง่ายด้วย ไทยเองไม่ต้องขนาดจะไปเอาชนะเขาหรอกครับ แค่เอาตัวเองให้รอดจากวิกฤตในบ้านเมืองตัวเอง เอาแค่นั้น เอาให้รอดก่อนคงจะดีกว่าครับ

 

(ข้าวหอมมะลิเกวียนละ 30,000 บ) น่าจะสูงขึ้นไปอีกในอนาคต
จริงๆ แล้วประเทศไทย ไม่ต้องไปกังวลกับกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ เพราะเราเป็นประเทศผู้ผลิต ยังไงก็ไม่อดตาย ด้านพลังงาน ถ้าทำตามพ่อหลวงของเรา ( ทำจริงๆ นะ ไม่ใช่ทำแต่ปาก) ไม่ต้องกังวลเลย พลังงานทดแทนมีตั้งหลายอย่าง แถมทรัพย์ในดินของเราก็เหลือเฟือ แร่ธาตุ น้ำมัน ที่จะพบในอนาคตอันใกล้ตามคำของพระผู้ทรงอภิญญาบอก

ด้านไอที ก็พัฒนาพอประมาณ ไม่ต้องตามกวดเขามากหรอก ซ้ำร้ายเยาวชนของเราหลงผิดไปมาก ก็เพราะเจ้าไอที นี่แหละตัวการสำคัญ เรารับวัฒนธรรมของต่างชาติมามาก วิถีชีวิตคนเมืองเริ่มเปลี่ยน รวดเร็วก็เพราะไอทีนะครับ รับมือไม่ทันเลย

และที่สำคัญ เราเป็นเมืองพุทธ ครับ สอนพื้นฐานชีวิตของคนไทยไม่ต้องแก่งแย่งแข่งขันกันมาก ให้รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือซี่งกันและกัน ให้รักสันติ สันโดษ โอ้ยดีใจมากที่เกิดในดินแดนที่พุทธศาสนารุ่งเรือง มีกษัตริย์ที่ทรงทศพิธราชธรรม

อย่าไปห่วงมากเลยครับ พวกมหาอำนาจที่แตะมือกัน ก็เพราะผลประโยชน์บางอย่างร่วมกัน ดีไม่ดี ขัดกันเมื่อไร น่าจะกำ กำปั้น ใส่กันนะ

โดยเฉพาะด้านอาวุธ นิวเคลียร์ของพวกเจ้าปิศาจทั้งหลาย ลองนึกภาพนะครับ ถ้ามันขัดแย้งกันจริงๆ มันจะกล้าใช้รึเปล่า มันก็กลัวตายเหมือนกันนั่นแหละ ขนาดสงครามโลกครั้งที่ 2 ที่ญี่ปุ่น นั่นแค่ 2 ลูก อานุภาพยังสู้ไม่ได้เลยกับเทคโนโลยีปัจจุบัน ซึ่งมีเป็นร้อยๆ พันๆ ลูก กระจายกันตามประเทศมหาอำนาจต่างๆ ซัดกันเบาะๆ แค่ 100 ลูก โลกเราก็ไม่เหลือแล้ว พวกนี้มีไว้แค่ขู่ หรือเอาไว้ป้องกันตนเองครับ

แต่ถ้ามันเกิดบ้าเลือดซัดกันจริงผมก็ไม่กลัวหรอกเพราะผมมีเครื่องป้องกัน ?
ไม่ต้องถามนะครับ เป็นคนที่โชคดีเกิดทันและนับพุทธศาสนาจริงๆ น่าจะรู้ว่าผมมีอะไร (น้าน ขี้โม้ตามเคย เลยเรา อิอิ)

 

Thai Sufficiency Economy is the greatest คับ

อยู่อย่างไม่อดตาย อยู่อย่างพอเพียง ผืนดินไทย เป็นผืนดินที่จักรวาลสรรสร้างให้พอเหมาะพอเจาะมากๆเลยละคับ

 

อเมริกา อินเดีย ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย

มีความเจริญด้านวิทยาศาสตร์

 

เราชนะ BRIC ตรงที่เราใช้ชีวิตแบบเพียงพอ แถมมีเทพเทวา นางฟ้านางสวรรค์คอยช่วยเหลืออีกเพียบ

เราแพ้ BRIC ตรงที่เราต้องซื้อสิ้นค้าฟุ่มเฟือยจากเขา แต่ในเร็วๆนี้เราก็จะพึ่งตัวเองได้ เพราะเรามีบ่อน้ำมันใหญ่ในเพชรบูรณ์แล้วนี่ เย้ๆๆๆๆๆ

แต่ใครเป็นคนสัมปทานหนอ ได้ข่าวว่าไม่ใช่ ปตท. ไม่รู้ว่าอย่างไร เวลาออกไปสำรวจต่างประเทศ (ที่ออกข่าวทีวี ไม่รู้ว่าประเทศไหน เพราะผมดูทีไรแล้วไม่อยากจะจำ และก็ไม่สนใจที่จะจำ และแล้วก็จำไม่ได้จริงๆ อีกนั่นแหล่ะ) บอกว่าจะเอาพลังงานมาให้คนไทย เพื่อคนไทย แต่บ่อน้ำมันในเมืองไทยกลายเป็นของใครไปแล้วหนอ

ผลสุดท้ายก็ใช้น้ำมันแพงเหมือนเดิมนั่นแหล่ะ


ฮิๆๆ สวัสดีพี่หล่อ โดนแบนไปกี่ดอกแล้วนี่ 555

 

ขอโทษทีครับเห็น จขกท พิมพ์คำว่าอภิญาณ ผมก็นึกว่าจะดูอนาคต กลุ่มนี้มีจริงผมตกข่าวครับ ขอบโทษอย่างสูงครับ (ping-love:'(

 

คุณไปค้นหาใน Search Engineไปดูซิว่า BRIC คือใครในปี 2008 นี่เป็นมหาอำนาจใหม่ ที่จะจับกลุ่มกันไปอีก 5 ปีต่อจากนี้ไป เรื่องนี้เขาพึ่งออกหนังสือพิมพ์ได้แค่ไม่กี่อาทิตย์เอง

ปล. ผมให้ คีย์เวิร์ดไปแล้วนะ ไปหาอ่านเอาเอง ค้นหาเอาเอง นะจ่ะ

 

เป็นอย่างไรหล่ะท่าน

มหาอำนาจใหม่ไม่หวั่นเกรงภัยพิบัติใดๆ และเขาเหล่านี้จะเป็นอู่ข้าวอู่น้ำต่อจากไทยในอีกไม่ช้า

คอยดูสิ

หึหึ

 

มาดูกันต่อไปว่า มหาอำนาจใหม่ของโลก ภายใต้ชื่อว่ากลุ่มมหาอำนาจ BRIC

จะแน่สักแค่ไหน? จะเป็นจริงอย่างที่ว่า หรือว่าจะเป็นแค่ราคาคุย ราคาโม้ไปวันๆ

10 ปี ไม่สายเกินไปหรอก มาร่วมพิสูจน์กันดีกว่า ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน

 

ผมชอบรัสเซียยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

กองทัพแดงงงงงง

แต่รักประเทศไทยนะจุ๊บๆ

 

สันติ สันติ สันติ
สงบ สงบ สงบ
จะดีกว่าไหม

 

โธ่ถังกะละแมไหม้ กะละมังแตก

สารขันธ์ประเทศ จะเป็นหนึ่งในโลก

พวกมึงต้องสามัคคีกันไว้

จำไว้ ...

ปล. อยากจะขับรถเบ๊นซ์ แต่ไม่มีตังค์ วันนี้ต้องปั่นจักรยานไปก่อน ใช่ว่าตามองดาว ตีนติดดิน ชาตินี้ทั้งชาติอย่าหวังว่าจะไปขี้รถเบ๊นซ์นะ

หึหึ

 

เอาแค่ทำให้คนดี ได้ปกครองควบคุมคนชั่วให้ได้ก่อน