เชื่อหรือไม่?!? มนุษย์เราเกือบจะหายตัวกันได้แล้ว!

ขอบคุณสำหรับ ข้อมูลที่น่าสนใจครับ =^_^=

 

สิ่งที่มนุษย์เราทำเป็นแต่เกิดคือหายใจ ขอให้ทุกคนดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข มีสติกับทุกก้าวย่างของชีวิต สุขสันต์วันตรุษจีนด้วยครับ

 

ข้าว่า เอ็งดูหนังไซไฟว์มากไปหว่ะ

 

พระสมุทรสุดลึกล้น คณนา สายดิ่งทิ้งทอดมา หยั่งได้ ภูเขาอาจวัดว่า กำหนด จิตมนุษย์นี้ไซร้ ยากแท้หยั่งถึง...

*อยากหายตัวได้บ้างจัง

 

หลังจากอ่านแล้วพอสรุปได้ดังนี้
ที่บอกว่าหายตัวได้นั้นแท้จริงแล้วคือการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเหนือแสง โดยเปลี่ยนสถานะจากสสารเป็นพลังงาน (ทิ้งกายหยาบเหลือเพียงวิญญาน) แล้วเดินทางไปถึงอีกสถานที่หนึ่งด้วยความเร็วเหนือแสง ไปสู่เครื่องจดจำสภาวะกายหยาบ แล้วทำการสร้างกายหยาบร่างใหม่ขึ้นให้วิญญานอาศัยเหมือนกายหยาบเดิม
ส่วนการทดลองของอเมริกาีที่สามเหลี่ยมเบอมิวด้านั้น เป็นการต่อยอดจากเทคโนโลยีของทวีปแอตแลนติสที่สาปสูญ มิได้ขโมยเทคโนโลยีจากมนุษย์ต่างดาวตามที่เข้าใจกันแต่อย่างใด แต่ก็ไม่แน่ว่าเทคโนโลยีของทวีปแอตแลนติสเองนั้นอาจเป็นเทคโนโลยีที่ได้มาจากมนุษย์ต่างดาวก็เป็นได้

 

หายได้ก็ดี น่ะ สิ

 

แอบกรี๊ด คนข้างบน ( บุคลในภาพ น่ะค่ะ)

 

อ๋อ ไม่ใช่การหายตัวคับ




เป็นการวาปมากกว่าม้างงงง





ประมาณว่าการเคลื่อนที่ผ่านช่องว่างในอวกาศอ่ะ



เหมือนที่มนุษย์ต่างดาวใช้มาโลกไง


ย่นระยะทางอวกาศ



เอิ๊กๆๆๆ ของทุกอย่างมันมีพลังน๊ะ555

 

หนังสือเล่มนี้ผมเคยอ่านครับ มีภาพบุคคล และการสัมภาษณ์ของทหารเรือ
การทำคือ โดยการยิงคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าไปที่เรือ เพื่อให้เกิดสนามแม่เหล็กเหนี่ยวนำ
และเกิดการย้ายสสารไปอีกที่ได้ แต่เค้าสรุปว่าโครงการนี้ไม่สำเร็จ เนื่องจากสสารของมนุษย์กลับมาไม่ครบ
ผมจำชื่อหนังสือไม่ได้แล้วเจอที่ร้านหนังสือเก่าที่จตุจักร เกือบยี่สิบปีมาแล้ว

 

อยากจะบอกว่าเค้าทำกันได้ตั้งสองปีแล้วครับแต่เป็นผ้าที่ผลิตโดยนวัตกรรมนาโนเทคโนโลยี
สะท้องและดูดกลืนแสงทำให้ตาคนเราไม่สามารถมองเห็นผ้านั้นได้ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการทดสอบอู่

 

เรื่องการหายตัวที่ว่า"ไอน์สไตน์สามารถนำเรือลำใหญ่จากมหาสมุทรอเมริกาใต้ หายวับไปปรากฎอยู่ ณ เกาะญี่ปุ่นได้เพียงเสี้ยววินาที"นั้นมั่วนิ่มแน่นอนคราบผมกล้าฟันธง แต่ก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นไปไม่ได้นะคราบเพราะวัตถุในโลกควอนตัมฟิสิกส์ที่เป็นองค์ประกอบของทุกสิ่งต่างก็สามารถหายตัวได้ทะลุผ่านเหมือนวิญญาณทั้งที่พลังงานมันไม่พอเขาเรียกว่าปรากฎการณ์ลอดอุโมงนะคราบ
แต่ทว่าสิ่งหนึ่งที่ยังคงเป้นปัญหาที่หาคำตอบไม่ได้จนถึงปัจจุบันคือทำไมพอเป็นพวกมันมารวมตัวเป็นวัตถุเชิงคลาสิกจึ่งทำเช่นนี้ไม่ได้ ....อันนี้ก็คงต้องคิดกันต่อไปครับ

ส่วนเรื่องทำไม่เขาถึงฉลาดสุดๆก็ขอบอกว่าผมไม่รู้ครับ

ก็มาอธิบายอีกแล้วคราบก็ข้อแก้ไขในข้อมูลที่ผิดพลาดข้างบน
1.Photoelectric Effect Theory นั้นไม่ใช่ ทฤษฎีการแผ่รังสี แต่เป็นการนำเอา ทฤษฎีการแผ่รังสี ของพลังค์ (พลังงานของการแผ่รังสีเท่ากับค่าคงที่ของพลังค์คูณความถี่)มาอธิบายPhotoelectric Effectเพื่อยืนยันคุณสมบัติทวิภาคของแสงครับ ทำให้เขาได้รับรางวัลโนเบล

ส่วนการยืนยันว่าแบบจำลองของดอลตันผิดก็ไม่ได้ใช้ความรู้เรื่องนี้ครับแต่อาศัยทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษที่มาของพลังงานเท่ากับมวลสารคูณความเร็วแสงครับเรื่องรถไฟเองก็ไม่ใช่เป้นคำอธิบายทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป (General Theory of Relativity)ครับแต่เขานำมาอธิบายเรื่องทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษครับ

2.ส่วนเรื่องGeneral Theory of Relativityก็เป็นภาคต่อของทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษครับโดยรวมเอาแรงโน้มถ่วงเข้าไปด้วยทำให้เขาพบว่าพลังงานและสสารสามารถทำให้อวกาศเวลาโค้งงอได้

3.เขาไม่ได้เป็นผู้คิดค้นระเบิดปรมาณู!และแทบไม่มีส่วนร่วมเลยครับเพราะโดยตัวทฤษฏีสัมพัทธภาพพิเศษไม่ได้บอกเลยว่าเราจะทำระเบิดได้อย่างไรใช้อะไรแต่แค่บอกความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนแปลงมวลสารไปเป็นพลังงานผู้ที่คิดมันขึ้นมาจริงเป็นทีมนักวิทยาศาสตร์ของโครงการแมนฮัตตันและก็ทีมย่อยอีก2ทีมคราบ

 

ผมเด็กใหม่ครับ

ผมก็เคยอ่านมาบ้างเหมือนกันครับ

รู้สึกว่าจะมีสีอยู่สีหนึ่งที่ตาเราไม่สามารถมองเห็นได้อะครับ

ในการทดลองที่อ่านมาทดลองกับสัตว์ไปแล้วได้ผล

แต่ยังไม่กล้าทำกับมนุษย์ หลังจากวันที่ไปอ่านมา

กระทู้เหล่านั้นกูถูกลบ ไม่มีใครเขียนขึ้นมาอีกเลย

 

ขอบคุณมากครับ

โดยส่วนตัวแล้วชอบลุงไอซ์มากครับ

 

สุดยอดไปเลย อีกไม่นานคงจะเปนจริง

 

หลวงปู่หงษ์ มีผ้าคลุมล่องหน ครับผม
ผมพูดจริงๆนะครับ หลวงปู่หงษ์ได้ทำขึ้นมาครับ

ถ้าใครอยากได้ชมในกระทู้ พระเครื่องทั่วไปนะครับ แต่ต้องบริจาคมวลสารครับผม ขอบคุณครับ

 

cool!

 

วิทยาศาสตร์ จงเจริญ ! ! !

 

ใครอยากหายตัวได้ก็ฝึกสมาธิกันเอาเองละกัน แต่ถ้าใครอยากฝึกสมาธิเพื่อเอาพระนิพพานเราก็ขออนุโมทนาด้วยเช่นกัน

 

อนุโมทนา สาธุ
ความตั้งใจอยู่ที่ไหนความสำเร็จอยู่ที่นั่น