ประเทศไทยจะเกิดอุบัติภัยอย่างที่ทำนายกันจริงๆหรือไม่

หลานคุณลุงคนเชียงใหม่หายไปเลย ...อยากทราบข่าวพระคุณลุงท่านเป็นอย่างไรบ้าง?...

 

*** เมื่อมี สัจจะทำ ****

เมื่อรู้จัก... ตัดนิสัยด้วยสัจจะ ....วันละข้อ วันละอย่าง ทุกวันๆ
อารมณ์ต่างๆ ...จะลดน้อยลง
แล้วบางอารมณ์ ....จะเริ่มหมดไป
ธรรมของพระพุทธเจ้า...ท่านต้องทำเอง ถึงจะรู้ได้เอง
ธรรมของพระพุทธเจ้า....คือ สัจจะทำ

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

เรื่องเช่นนี้มันเกี่ยวกับกรรมใครกรรมมันนะครับ ว่าเมื่อก่อนเราได้สร้างกรรมชั่วอะไรมา เรื่องกรรมนี้มันเป็นเรื่องซับซ้อนมาก ยากที่จะอธิบายได้นะครับ แม้แต่พระพุทธเจ้าผู้ประเสริฐใน๓โลก ในตอนที่พระองค์เป็นพระพุทธเจ้าก็ต้องใช้กรรมจากอตีดชาติที่เคยทำมาเลย นับประสาอะไรกับมนุษย์กับมนุษย์เราทำกรรมอะไรไว้ก็ต้องชดใช้แน่นอน

 

วันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552 ปีที่ 18 ฉบับที่ 6654 ข่าวสดรายวัน


เตือนโลกจะร้อนเพิ่ม6องศา



บีบีซีรายงานว่า เมื่อ 15 ก.พ. ศ.คริส ฟีลด์ นักวิทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสภาวะอากาศ ผู้จัดทำรายงานการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศระหว่างประเทศ (ไอพีซีซี) ปี 2550 กล่าวเตือนในที่ประชุมวิทยาศาสตร์อเมริกัน นครชิคาโก สหรัฐ ว่า ปัญหาโลกร้อนจะเลวร้ายหนักกว่าที่คาดไว้ในศตวรรษหน้า โดยที่ผ่านมาประเมินความเปลี่ยนแปลงไว้ต่ำเกินไป เนื่องจากปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ปี 2543-2550 พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่คาด ซึ่งมาจากโรงไฟฟ้าพลังงานถ่านหินในอินเดียและจีน โดยคาดว่าอุณหภูมิโลกจะสูงขึ้นราว 1.1-6.4 องศาในช่วงร้อยปีข้างหน้า

หน้า 7

โคลัมเบียหนีภูเขาไฟ7,000คน



เมื่อ 15 ก.พ. ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า รัฐบาลโคลัมเบียประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินหลังจากที่ภูเขาไฟกาเลราส ซึ่งอยู่ใกล้ชายแดนฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ติดกับเอกวาดอร์เกิดปะทุขึ้นเมื่อวันเสาร์ และสั่งอพยพชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยจำนวน 7,000 คนไปอยู่ที่ปลอดภัย และยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยภูเขาไฟปะทุเมื่อเวลา 19.10 น. ตามเวลาท้องถิ่น ภูเขาไฟลูกนี้เคยระเบิดขึ้นหลายครั้งแล้วนับแต่ปี 2532 และการระเบิดเมื่อปี 2536 ทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักท่องเที่ยวที่อยู่ใกล้ภูเขาไฟเสียชีวิต 9 ราย

หน้า 7

จีนผวาจลาจลปิดทิเบตถึงมี.ค.



เอพีรายงานว่า เมื่อ 15 ก.พ. ทางการจีนคุมเข้มประเทศทิเบต สั่งห้ามนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าพื้นที่ทิเบต รวมถึงมณฑลกานซู เสฉวน และชิงไห่ ที่อยู่ล้อมรอบทิเบต เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้น ในวันที่ 10 มี.ค. ซึ่งเป็นวาระครบรอบ 50 ปี ซึ่งองค์ทะไล ลามะพยายามต่อสู้ให้ทิเบตได้รับเอกราช แต่ไม่ประสบผลสำเร็จ จนถูกเนรเทศออกนอกทิเบต ไปอยู่อินเดีย โดยเมื่อปีที่ผ่านมาเกิดจลาจลในเมืองลาซาเมืองหลวงของทิเบต มีผู้เสียชีวิต 22 ราย โดยจะกลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าได้อีกครั้งปลายเดือนมี.ค. ส่วนมณฑลเสฉวนนั้นจะปิดไปถึงเดือนเม.ย.

หน้า 7
โอบามาเล็งลงนามงบฟื้นศก.อังคารนี้



เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 15 ก.พ. ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ กล่าวยกย่องสภาคองเกรสที่ให้ความเห็นชอบต่อแผนกระตุ้นเศรษฐกิจว่าเป็นหลักชัยสำคัญที่จะนำไปสู่การฟื้นฟูประเทศ ซึ่งตนจะเร่งลงนามร่างกฎหมายเพื่อให้มีผลบังคับใช้เร็วที่สุด เพื่อให้ประชาชนกลับมามีงานทำ

นายโอบามากล่าวผ่านสถานีวิทยุจากชิคาโกว่า แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 7.8 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเพียงแค่การเริ่มต้น เพราะปัญหาต่างๆ ที่ทำให้เกิดวิกฤตในสหรัฐครั้งนี้หยั่งรากลึกและขยายวงกว้างมาก แต่การอนุมัติแผนช่วยเหลือโดยเร็วจะทำให้รัฐบาลลงมือดำเนินการลงทุนในเรื่องจำเป็นได้ทันท่วงที

ทั้งนี้ งบหลักๆ จะเทลงไปสนับสนุนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจ อาทิ สร้างและบูรณะโครงสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน ลดภาษีภาคธุรกิจและส่วนบุคคล พัฒนาโครงการพลังงานทางเลือก ช่วยเหลือด้านการศึกษา ออกคูปองอาหารให้คนยากจน และเพิ่มสิทธิประโยชน์แก่กลุ่มผู้ตกงาน

หน้า 7
โสมใต้ระอา-ยั้งโปรยใบปลิวต้านโสมเหนือ



เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อ 15 ก.พ. รัฐบาลเกาหลีใต้แถลงเรียกร้องให้กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านเกาหลีเหนือยุติแผนการนำใบปลิวต่อต้านเกาหลีเหนือที่เตรียมไว้เป็นแสนใบไปโปรยบริเวณชายแดนเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ในโอกาสวันคล้ายวันเกิดปีที่ 67 ของประธานาธิบดีคิม จอง อิล ผู้นำเกาหลีใต้ ขณะที่ความตึงเครียดระหว่างสองชาติเกาหลียังคงคุกรุ่นและไม่มีท่าทีจะบรรเทาลง

ถ้อยแถลงของรัฐบาลระบุว่าเพื่อเห็นแก่ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและภาพลักษณ์เกาหลีใต้ในสายตาประชาคมโลก และหากใครฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ ทั้งนี้ นักเคลื่อนไหวต่อต้านเกาหลีเหนือระบุไว้ก่อนหน้านี้ว่ามีแผนจะนำบอลลูนยักษ์บรรจุใบปลิว 100,000 ใบที่มีเนื้อความต่อต้านเกาหลีเหนือ โจมตคีเผด็จการคิม และธนบัตรเกาหลีเหนืออีกหลายร้อยใบไปโปรยเพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเกาหลีเหนือมาเก็บใบปลิวไปอ่าน แม้ว่าอาจจะถูกทางการเกาหลีเหนือลงโทษ

หน้า 7
ยักษ์ของพม่า

รุ้งตัดแวง

สปาย-กลาส



ในโลกนี้มีชาวโรฮิงยากว่า 3 ล้านคนอยู่ทางตอนเหนือของพม่าและตะวันตกของบังกลาเทศ

แต่ในแผนที่โลก ชาวโรฮิงยาไม่มีประเทศ

ชาวโรฮิงยากลายเป็นคนไร้รัฐและไร้ตัวตนในทางกฎหมายเพราะพม่าไม่รับรองชาวโรฮิงยาเป็นพลเมืองตั้งแต่ปี 2525

27 ปีผ่านไป ทัศนคติของชาวพม่าต่อชาวโรฮิงยาไม่เคยเปลี่ยน ชาวพม่าไม่เคยเห็นชาวโรฮิงยาเป็นพวกพ้องเดียวกัน ด้วยรูปร่างหน้าตาและภาษาที่แตกต่างกัน

กงสุลใหญ่พม่าที่ฮ่องกงให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์เซาธ์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ ว่าชาวโรฮิงยาว่าเป็นพวก "น่าเกลียดเหมือนยักษ์" มีผิวสีน้ำตาลแก่

ตรงข้ามกับ "ผิวพรรณดีและนุ่มนวล" ของชาวพม่าส่วนใหญ่?!?

บรรยายมาขนาดนี้ก็คงเข้าใจแล้วว่า พม่ามองโรฮิงยาอย่างไร

เมื่อคนในแผ่นดินเดียวกันไม่ยอมรับแล้วจะให้ใครจะยอมรับชนชาติที่เสียเปรียบนี้

ชาวโรฮิงยาที่อพยพไปดินแดนอื่นตกอยู่ในสถานะผู้ลี้ภัย ผู้อพยพ หรือ "ผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย"

ไทยพยายามผลักดันชาวโรฮิงยาออกไป จนปรากฏเป็นข่าวอื้อฉาวตั้งแต่ต้นปีนี้

ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงยืนยันความมีมนุษยธรรม ให้ข้าวให้น้ำและเสบียงกรังไว้ให้เพียงพอสำหรับการเดินเรือไปปลายทางแล้ว

แต่สื่อต่างประเทศก็ยังประโคมข่าวทหารไทยทารุณกรรมและผลักไสชาวโรฮิงยาสู่ท้องทะเล

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ซีเอ็นเอ็นว่า มีเหตุผลชวนให้เชื่อว่าอาจเกิดเหตุการณ์นั้นจริง แม้ทุกหน่วยงานก็ปฏิเสธว่าไม่ใช่นโยบาย แต่หากหาหลักฐานได้ ว่าใครทำ ก็ต้องลงโทษผู้กระทำผิด

การสืบหาความจริงก็เรื่องหนึ่ง แต่แก้ปัญหาระยะยาวของโรฮิงยาก็อีกเรื่องหนึ่ง

แน่นอนว่า ไทยชาติเดียวแก้ปัญหานี้ไม่ได้ ต้องเป็นระดับภูมิภาคและระดับโลก

หน้า 7
แถลงการณ์พระอาการสมเด็จพระราชินี

เรื่องทรงเข้ารับการตรวจพระหทัย

<STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
เมื่อวันที่ 16 ก.พ. สำนักพระราชวัง ออกแถลงการณ์ เรื่อง สมเด็จพระราชินีทรงเข้ารับการตรวจพระหทัย ระบุว่า เนื่องด้วยสมเด็จพระราชินีทรงมีพระอาการพระหทัยเต้นผิดปกติ คณะแพทย์จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ จึงเชิญเสด็จเข้ารักษาพระอาการที่โรงเพยาบาล เพื่อเพื่อตรวจพระอาการ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 15 ก.พ. ที่ผ่านมา และขณะนี้ได้ตรวจรักษาพระหทัยจนเต้นเป็นปกติ โดยพระองค์เสด็จกลับวังไกลกังวลแล้ว
ลำปางวิกฤต-หมอกควันขั้นอันตราย ออก4กฎเหล็กคุมเข้ม-ล่าตัวพวกลักลอบเผาป่า



ลำปาง - หลังจากที่จังหวัดลำปางประสบปัญหาปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน (PM10) มีค่าสูง ซึ่งจังหวัดลำปางมีสถานีวัดสภาพอากาศอยู่ 4 แห่งด้วยกัน คือ สถานีบริเวณการประปาส่วนภูมิภาคแม่เมาะ สถานีอนามัยสบป้าด สถานีอนามัยท่าสี และสถานีศาลากลางหลังเก่า อ.เมืองลำปาง โดยจากการตรวจวัดสภาพอากาศทั้ง 4 จุด พบว่าจังหวัดลำปางมีปริมาณฝุ่นขนาดเล็กกว่า 10 ไมครอน เกินค่ามาตรฐานเมื่อวันที่ 12 ก.พ. อยู่ที่ 130.6 มคก./ลบ.ม. ถือว่าอยู่ในระดับที่อันตราย

นายสามารถ ลอยฟ้า รองผวจ.ลำปาง เปิดเผยว่า ในพื้นที่ภาคเหนือเมื่อจะเข้าสู่ฤดูแล้งจะประสบกับปัญหาหมอกควันทุกปี รวมทั้งที่จังหวัดลำปางด้วย และในปีนี้ถือว่าเกิดขึ้นเร็วมาก สาเหตุส่วนใหญ่เกิดมาจากการเผาตอซังข้าว หญ้าแห้ง และลักลอบเผาป่าเพื่อจะเอาผักหวาน ซึ่งการกระทำอย่างนี้ถือว่าส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและประชาชนโดยทั่วไป ดังนั้นจังหวัดลำปางได้ออกมาตรการ 4 ข้อ เพื่อให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาดังกล่าว คือ 1.ออกประกาศจังหวัดให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. และเทศบาล เฝ้าระวังตรวจสอบหาตัวผู้กระทำผิดที่ลักลอบเผาหญ้าแห้งหรือลักลอบเผาป่า 2.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐ เช่น หน่วยป้องกันรักษาป่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมฯ ให้เปิดศูนย์รับแจ้งเหตุไฟป่าตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อเกิดเหตุจะได้เข้าช่วยเหลือดับไฟได้ทันเวลา 3.แจ้งเตือนไปยังแขวงการทาง หน่วยบำรุงทาง ทุกจุดที่อยู่ในพื้นที่จังหวัดลำปาง จะต้องคอยดูแลเขตทางเฝ้าระวังเรื่องไฟไหม้ และ 4.ให้ภาคีภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมคือหากพบว่ามีไฟไหม้ป่าหญ้าแห้ง ให้ประชาชนในพื้นที่แจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบหรือไม่ก็ระดมชาวบ้านเข้าไปช่วยกัน ดับไฟล่วงหน้าก่อน และช่วยกันสร้างแนวกันไฟ ซึ่งการร่วมมือกันสอดส่องดูแลและแก้ไขปัญหาไฟป่าได้ทันท่วงที จะทำให้ปัญหาหมอกควันในจังหวัดลำปางลดลงได้อย่างมาก

หน้า 30

 

.....อนุโมทนา...ในความเห็นส่วนตัว...โดยสรุป...ขอทุกท่านจงมั่นคงในพระรัตนตรัยด้วยปัญญา....ไม่ว่าจะเป็น หรือตาย...ล้วนได้ชื่อว่า...ไม่เสียเวลาเปล่า ทั้ง ในชาตินี้ และ ชาติหน้า...

 

งง พูดอะไรกัน เข้าใจเเต่ของคุณหนุมาน เพราะพิสูจได้

 

ไม่ได้เข้ามาสองวัน สันโดษ ท่านเป็นอะไรไปแล้ว ง๊งงง

 

เข้ามาอ่านดู คิดว่ามีบางท่านคงทราบแล้วว่า สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไร กลัวบางท่านจะไม่เข้าใจ เพื่อนบางคน กลายเป็นเสียกำลังใจกันไปนะครับ เมื่อมีคนทักหรือกล่าวขึ้นมาแล้ว ผมขอเสริมก็แล้วกัน

ผมจึงขอเตือนท่านอื่น ๆ ว่า ตอนนี้ สถานการณ์ที่เห็นอยู่ ในปัจจุบันนี้ ไม่ดีมาก ๆ ครับ คนทั่วไปอาจไม่รู้สึกครับ แต่ถ้าเป็นคนที่มีจิตสัมผัสพลังได้ก็จะรู้ครับ รู้ว่าสถานการณ์ที่ดูเหมือนปกติสุข เงียบสงบ ตอนนี้ ไม่ใช่อย่างที่เห็นครับ เป็นสิ่งที่หลอกให้เข้าใจผิดครับ ไม่ใช่ความจริง ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เมื่อรู้แล้วควรรีบปฎิบัติธรรม ทำบุญให้มาก ๆครับ และอย่าลืมถวายผลบุญแด่ในหลวงด้วยครับ

<table id="post1474224" class="tborder" width="100%" align="center" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;" id="currentPost"> 04-09-2008, 11:47 AM <!-- / status icon and date --> </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #11286 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> littlelucky <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_1474224", true); </script>
ทีม ตรวจทานพระไตรปิฏก



วันที่สมัคร: Oct 2005
ข้อความ: 182
<if condition=""></if> พลังการให้คะแนน: 183


</td> <td class="alt1" id="td_post_1474224" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- message --> อะไรที่สำคัญที่สุด สำหรับเราชาวไทย

ขอให้ท่านที่จะต้านทานภัย เร่งงานของท่านโดยด่วนครับ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้น ขอให้นึกถึงว่า ในหลวงสำคัญที่สุดครับ
การไปให้ความสำคัญกับเรื่องของคนหรือคนที่ไม่มีความสำคัญ จะทำให้ละเลยสิ่งสำคัญไปนะครับ
อีกฝ่ายเขาลงมือหนักมากครับ ขอให้ท่านเองระวังตัวเองให้ดีด้วยครับ

สัญญาณอันตรายมาแล้วครับ แต่ไม่รู้ว่าจะออกผลมาแบบไหน
ไปๆ มา ๆ ปัญหาของมนุษย์ ก็คือความไม่รู้จริง ๆ ครับ

ขอให้ทุกท่าน อารธนาบารมี
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถวายบุญนี้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
(่บทนี้ได้รับจาก ใบแนบสมเด็จองค์พระปฐมและพระพุทธเจ้าปางพระนิพพาน ซึ่งจัดสร้างโดย
ผู้ใหญ่ใจบุญท่านหนึ่ง ขออนุญาติด้วยครับ)

วิธีอารธนาบารมี
องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

สวดบทไตรสรณคมน์ก่อนแล้ว

ขออารธนาบารมีพระุพุทธ พระธรรม พระอริยสงฆ์ คุณครูบาอาจารย์ ทั้งหลายขอพระบารมีทุกๆพระองค์ทรงคุ้มครองอย่าได้มีภัยอันตรายใดๆ และขอความคล่องตัวทั้งทางโลก และทางธรรม ขอให้มีปัญญาเห็นธรรม เพื่อหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด
่ขออนุโมทนากับพระพุทธเจ้าทุก ๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้า พระอริยสงฆ์ ครูบารอาจารย์ทั้งหลาย เทพพรหมทั้งหมด
เพื่อถวายบุญนี้แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ญาติก็ดีมิใช่ญาติก็ดี เทพพรหม และผู้มีพระคุณทั้งหมด เจ้ากรรมนายเวร และพญายมราช ขอทุกท่าน จงเป็นสุขเถิด และอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้าตั้งแต่วันนี้ ตราบวันเข้าพระนิพพาน
ผลบุญใดที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญแล้ว ณ โอกาสนี้ขอให้เป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าทั้งหลายได้เข้าถึงซึ่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด
<!-- / message --> <!-- sig --> __________________

​

<!-- / sig --> <!-- edit note --> <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1">
</td></tr></tbody></table>

 

ข้อควรระวังในการใช้ฤทธิ์อภิญญา​

​

tossapornk<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_827341", true); </SCRIPT> สมาชิก

อภิญญาเป็นเหมือนดาบ 2 คม คมหนึ่งอาจจะใช้ไปในทางสร้างสรรค์(สัมมา) แต่อีกคมหนึ่ง ก็สามารถใช้ไปในทางทำลายตัวเราเองและผู้อื่นได้(มิจฉา ทำลายตัวเองหมายถึง นำพาตัวเองไปลงนรกอเวจี) ตัวเราเองมั่นใจแล้วหรือว่าเราสามารถควบคุมอภิญญาได้ดีมีสติไม่บกพร่อง หรือคิดแค่เพียงว่าขอให้กูได้มันก่อนก็แล้วกันอย่างอื่นค่อยว่ากันทีหลัง เท่าที่ผมรู้สึกได้ก็คือจะมีคนที่ได้อภิญญาใหญ่แล้วควบคุมมันไม่ได้ จากนั้นจิตก็จะถูกจิตมารเข้าสิง จนลงมือใช้อภิญญา ในทางทำลายผู้อื่นจนเกิดเป็นสงครามอภิญญาขนาดย่อมๆ ในหลายพื้นที่ และมีการประลองกำลังของอภิญญาระหว่าง ฝ่ายสร้างสรรค์กับฝ่ายทำลาย จนมีการบาดเจ็บของคนที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่อีกมากมาย สิ่งพวกนี้เป็นเพียงภาพที่เกิดขึ้นในจิตของผม ซึ่งอาจจะเกิดหรือไม่เกิด ผมไม่ขอออกความเห็น ผมแค่เพียงนำภาพที่ผมเห็นมาบอกพวกเราให้ระวังกันให้มากๆ ผมขอโมทนาสาธุให้กับคนที่เห็นธรรมยิ่งใหญ่กว่าอภิญญา จนปัญญาญานสว่างชัด ...สาธุ

kananun<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_827549", true); </SCRIPT> สมาชิก

ควรระวังครับ การได้อภิญญานั้น ผู้ใช้ควรได้และเข้าใจในสัมมาทิฏฐิกันก่อนเพราะ อภิญญาที่ได้อนุญาตให้ใช้นั้น เป็นไปเพื่อการช่วยเหลือการสงเคราะห์ กันในทางโลก(ให้ปลดให้เบาจากทุกข์ทางกาย ขันธ์ห้า )

และการสงเคราะห์ในธรรม (โดยการสร้างศรัทธาที่ไม่เกิดให้เกิด ที่ไม่ตั้งมั่นให้ตั้งมั่น) ปราบจิตที่เป็นมิจฉาทิฏฐิให้อ่อนลง ปราบมานะทิฏฐิให้สลายตัวลง จนจิตน้อมอ่อนโยนสมควรแก่ธรรม จากนั้นจึงใช้อนุสาสนีปาฏิหาริย์ น้อมนำธรรมสู่จิตจนบรรลุธรรมในที่สุด

หากใช้ในทางที่ผิดก็จะกลายเป็นตัวมานะทิฏฐิ ไปจนถึงมิจฉาทิฏฐิ หากดูใจตนเอง มีความเห็นว่าเก่งกว่าพระพุทธเจ้าเมื่อไหร่ ก็แสดงว่า ตีตั๋วลงนรกแล้ว แม้ว่าจะเป็นพุทธภูมิก็ตาม

หากรู้ตัวทัน ก็พึงกราบขอขมาพระรัตนตรัย บ่อยๆทุกวัน อธิษฐานจิตเข้าสู่สัมมาทิฏฐิ เอาไว้กลับจิต กลับตัว กลับใจได้ ยังมีโอกาสรอดจากนรก

จากนั้นปฏิบัติในองค์พระโสดาบันเพื่อปิดอบายภูมิไว้ ดังนั้นพรหมวิหารสี่สำคัญที่สุด

ดังนั้นก่อนได้อภิญญานั้น ถามใจตนเองก่อนว่า ต้องการได้อภิญญาไปเพื่ออะไร หากคำตอบแรกของใจบอกว่าอยากเก่ง อยากเป็นฮีโร่ ก็นั่นล่ะ คงรู้ที่ไป

๑กุหว่าใจ๋๑<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_826123", true); </SCRIPT> สมาชิก

ในพระพุทธศาสนานี้ พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องปาฏิหาริย์ไว้มี 3 อย่างคือ

1. อิทธิปาฏิหาริย์ คือ ปาฏิหาริย์ในเรื่องการแสดงฤทธิ์ แสดงความเป็นผู้วิเศษ ดลบันดาลสิ่งต่างๆ เหาะเหินเดินอากาศ นิรมิตกายให้เป็นหลายคนได้ มีหูทิพย์ ตาทิพย์ เป็นต้น

2. อาเทศนาปาฏิหาริย์ คือ การทายใจ ทายความรู้สึกในใจ ทายความคิดของผู้ถูกสอนได้

3. อนุสาสนีปาฏิหาริย์ คือ คำสอนที่แสดงความจริงให้ผู้ฟังรู้และเข้าใจ มองเห็นความเป็นจริงของโลก ให้ผู้ฟังได้ปฏิบัติตามอย่างนี้ ละเว้นการปฏิบัติอย่างนั้น และยังสามารถนำไปประพฤติปฏิบัติตาม จนรู้เห็นได้ผลจริงด้วยตนเอง

ปาฏิหาริย์ทั้ง 3 อย่างนี้ พระพุทธเจ้าไม่ทรงสรรเสริญ 2 อย่างแรก คือ อิทธิปาฏิหาริย์ และอาเทศนาปาฏิหาริย์ หากแสดงเพียงอย่างใดอย่างหนึ่งและไม่นำไปสู่อนุศาสนีปาฏิหาริย์ซึ่งเป็นปาฏิหาริย์ที่พระองค์ทรงสรรเสริญมากที่สุด

ก็ขอฝากไว้เป็นข้อคิด สำหรับพี่น้องทุกท่านด้วยครับ

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@​

ที่มา http://palungjit.org/showthrea...=100360&page=3​

<!-- / message -->
<!-- / message --><!-- attachments -->

 

สงครามพลังจิต
(Psycho War)


​

อ่านดูแล้วเหมือนคนเขียนจะดูหนังมากไป หรือไม่ก็เมาน้ำผลไม้ แต่ขอชี้แจงอีกครั้งนะครับว่านี้ไม่ใช่ ปจว.หรือ ปฏิบัติการจิตวิทยา แต่เป็น "การใช้พลังจิตในการทหาร"​

คือผมรู้มันฟังดูเป็นเรื่องประสาทๆ แต่ในสมัยสงครามเย็นก็มีเอกสารและหลักฐานหลายตัวอย่างแสดงให้เห็นว่า ทั้งโซเวียตและแม้แต่สหรัฐฯเองได้มีการตั้งหน่วยงานเพื่อทำการศึกษา วิจัยและพัฒนา ฝึกฝน บุคลากรที่ความสามารถพิเศษด้านพลังจิตเพื่อใช้ในการทหาร โดยทางโซเวียตเองถือว่า"เป็นส่วนหนึ่งของสงครามนอกแบบ" เอกสารที่พบเท่าที่เชื่อได้ก็มีปฏิบัติการเช่น

"การสะกดจิต เพื่อค้นหาข้อมูล ข่มขู่ หรือติดตามบุคคล"
"การใช้ความสามารถทางจิตเพื่อค้นหาเรือดำน้ำ ในพื้นทีที่ใช้อุปกรณ์ตรวจจับไม่ได้"
​

AAG_th
<!--รายละเอียด=203.154.220.6, 203.154.220.162, wing21.rtaf.mi.th : 0-->25 ธันวาคม 46 เวลา 9:54:40 น

<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD class=detail>โซเวียต ทุ่มพัฒนาด้านพลังจิตอย่างมากเลยครับ ลงทุนปีละหลายพันล้านดอลลาร์ มีการสร้างเครื่องมือพลังจิตด้วยมั้ง ถ้าผมจำไม่ผิดนะ ประธานาธิปดี คนก่อนท่านปูติน ก็เคยโดนเล่นงานด้วยพลังจิต จนเกือบถึงขั้นเสียชีวิต ต้องหามเข้าโรงพยาบาลมาแล้ว ข่าวนี้ออกมานานแล้วครับ และไม่ค่อยเป็นที่เปิดเผยเท่าไหร่ ผมว่ามันก็มีโอกาสเป็นไปได้สูง เพราะคนเราจะทำอะไร ใจจะต้องแน่วแน่ถึงจะสำเร็จ</TD></TR><TR><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
Nomal
<!--รายละเอียด=203.170.229.241-->25 ธันวาคม 46 เวลา 12:09:45 น.

<TABLE width=550 border=0><TBODY><TR><TD class=detail>ดูเหมือนทั้งทางรัสเซียหรือแม้แต่สหรัฐฯเอง ก็มีสถาบันหรือองค์กรวิจัยทางด้านนี้เป็นระบบอย่างลับๆ เลยที่เดียว

<DD>ส่วนใหญ่การใช้พลังจิตที่ได้รับการพิสูจน์แล้วนี้ ก็จะมีที่น่ากลัวๆ เช่นแบบง่ายๆ อย่างย้ายของโดยไม่ใช้อะไรเลยนอกจากมองอย่างเดียว หรือจนถึงทำให้ของไหม้ได้โดยไม่ใช้มือจับแค่มอง รัสเซียได้ประดิษฐ์อุปกรณ์แปลงพลังจิตเป็นพลังงานแบบอื่นๆเช่น <DD><DD>Psychic Demodolator อะไรนี้แหละ แปลงพลังจิตเป็นไฟฟ้า นักพลังจิตบางคนก็สามารถจุดไฟ ปล่อยไฟฟ้าออกจากตัว หรือแม้แต่สะกดจิตให้หัวใจหยุดเต้นได้ ซึ่งอย่างหลังนี้เป็นประโยชน์ต่อการลอบสังหารแบบลับๆ ไร้ร่องรอยมากๆ เพราะเป้าหมายสังหารจะถูกแพทย์ระบุว่า "หัวใจวายเฉียบพลัน"
<DD>มาดูด้านเครื่องบินดีกว่า จีนนอกจะจะมีโครงการสร้างข่ายเสาดักฟังคลื่นสัญญานขนาดยักษ์เพื่อดักจับ บ.Stealth แล้วยังมี"โครงการสำรอง"โดยมีข่าวลือลับๆ ว่าได้มีการว่าจ้างอดีตเจ้าหน้าที่รัสเซีย ที่มีความเชียวชาญด้านพลังจิต มาใช้ดักจับความเคลื่อนไหวของ บ.Stealthได้อย่างแม่นยำ
<DD>อีกทั้งยังการยืนยันจากประสบการณ์ตรงของอดีตทหาร ที่เคยไปรบในแนวรบตะวันตก ทั้งพวกไทยใหญ่ กระเหรี่ยง แม้แต่พม่าเอง เขาก็มีการใช้ "พิธีกรรม อาคม ไสยเวทย์" ในการรบประกอบกับการรบสมัยใหม่ บางครั้งทหารรับจ้างตะวันตกที่เข้าไปช่วยพวกชนกลุ่มน้อย ก็เจอกับเหตุการณ์ประหลาดระหว่างรบที่ไม่สามารถอธิบายได้หลายๆ ครั้ง บรื้อ~

<DD>เรื่องบ้าๆ แบบนี้ก็มีด้วย
<DD></DD></TD></TR><TR><TD>

AAG_th
<!--รายละเอียด=203.154.220.6-->25 ธันวาคม 46 เวลา 12:17:16 น.
​

</TD></TR></TBODY></TABLE>
ที่มา http://www.wing21.rtaf.mi.th/wboard/...n.asp?GID=2067

​

<!-- / message --><!-- attachments --><FIELDSET class=fieldset><LEGEND>รูปขนาดเล็ก</LEGEND>










</FIELDSET>

 

ขอบคุณสำหรับ คุณตลับนาค ที่ส่ง sms เตือน ข่าวการเคลื่อนไหวใต้พิภพ มาตลอด เช่นเคย เมื่อ อาทิตย์ที่แล้ว อินโดเนียเซีย 7.5 ,6.5 ,6.0
สังเกตุ วันที่ 12 กพ. น่ะจ๊ะ จะบอกให้ ...ว่า กี่ ครั้ง....


<TABLE width="100%"><TBODY><TR><TD class=subtitle colSpan=8>รายงานแผ่นดินไหวในรอบ 15 วัน </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE borderColor=#d9d9d9 cellSpacing=0 borderColorDark=#ffffff cellPadding=3 width="100%" borderColorLight=#d9d9d9 border=1><TBODY><TR class=RH><TD>วันที่</TD><TD>เวลา</TD><TD>จุดศูนย์กลาง</TD><TD>ละติจูด</TD><TD>ลองจิจูด</TD><TD>ขนาด</TD><TD>ลึกจากพื้นดิน</TD><TD>หมายเหตุ</TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>16 ก.พ. 52</TD><TD>21:13</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 32' 24'' N</TD><TD>127&deg; 02' 24'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>15 ก.พ. 52</TD><TD>23:16</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 08' 24'' N</TD><TD>126&deg; 47' 24'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>35 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>15 ก.พ. 52</TD><TD>11:40</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 06' 00'' N</TD><TD>126&deg; 50' 24'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>33 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>15 ก.พ. 52</TD><TD>10:56</TD><TD align=left>NIAS REGION, INDONESIA</TD><TD>1&deg; 49' 12'' N</TD><TD>97&deg; 00' 36'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>15 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>14 ก.พ. 52</TD><TD>12:30</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 14' 24'' N</TD><TD>126&deg; 52' 12'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>35 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>14 ก.พ. 52</TD><TD>04:26</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 01' 48'' N</TD><TD>126&deg; 57' 36'' E</TD><TD>5.6 </TD><TD>40 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>14 ก.พ. 52</TD><TD>01:42</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 09' 00'' N</TD><TD>127&deg; 25' 48'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>2 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>13 ก.พ. 52</TD><TD>23:49</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 47' 24'' N</TD><TD>127&deg; 04' 48'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>13 ก.พ. 52</TD><TD>21:38</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 00' 36'' N</TD><TD>126&deg; 51' 00'' E</TD><TD>5.4 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>13 ก.พ. 52</TD><TD>19:37</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 48' 36'' N</TD><TD>126&deg; 50' 24'' E</TD><TD>5.6 </TD><TD>36 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>13 ก.พ. 52</TD><TD>18:40</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 50' 24'' N</TD><TD>126&deg; 42' 00'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>13 ก.พ. 52</TD><TD>14:56</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 42' 36'' N</TD><TD>126&deg; 49' 12'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>13 ก.พ. 52</TD><TD>11:28</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 12' 00'' N</TD><TD>127&deg; 01' 12'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>9 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>13 ก.พ. 52</TD><TD>09:24</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 46' 12'' N</TD><TD>126&deg; 42' 00'' E</TD><TD>5.4 </TD><TD>51 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>13 ก.พ. 52</TD><TD>00:46</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 55' 48'' N</TD><TD>126&deg; 46' 12'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>23:57</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 06' 36'' N</TD><TD>126&deg; 51' 36'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>21:44</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 07' 12'' N</TD><TD>126&deg; 57' 00'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>21:16</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 49' 48'' N</TD><TD>126&deg; 45' 36'' E</TD><TD>5.3 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>21:07</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 13' 48'' N</TD><TD>126&deg; 57' 00'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>51 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>20:15</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 05' 24'' N</TD><TD>126&deg; 48' 36'' E</TD><TD>6.4 </TD><TD>30 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>18:35</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 12' 00'' N</TD><TD>127&deg; 03' 00'' E</TD><TD>5.1 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>15:30</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 08' 24'' N</TD><TD>126&deg; 55' 48'' E</TD><TD>5.9 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>14:38</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 29' 24'' N</TD><TD>127&deg; 03' 00'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>14:32</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 08' 24'' N</TD><TD>126&deg; 55' 12'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>14:07</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 04' 48'' N</TD><TD>126&deg; 57' 36'' E</TD><TD>5.1 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>13:01</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 16' 12'' N</TD><TD>127&deg; 08' 24'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>11:40</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 16' 12'' N</TD><TD>126&deg; 59' 24'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>35 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>11:27</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 06' 00'' N</TD><TD>126&deg; 52' 48'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>11:16</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 52' 48'' N</TD><TD>126&deg; 43' 48'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>10:49</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 59' 24'' N</TD><TD>126&deg; 37' 12'' E</TD><TD>6.1 </TD><TD>47 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>10:19</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 51' 36'' N</TD><TD>127&deg; 07' 12'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>10:01</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 55' 12'' N</TD><TD>126&deg; 48' 00'' E</TD><TD>5.1 </TD><TD>51 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>09:15</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 10' 48'' N</TD><TD>126&deg; 58' 48'' E</TD><TD>5.1 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>08:42</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 00' 36'' N</TD><TD>126&deg; 52' 48'' E</TD><TD>5.4 </TD><TD>58 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>08:25</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 10' 48'' N</TD><TD>127&deg; 05' 24'' E</TD><TD>5.5 </TD><TD>30 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>07:03</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 51' 00'' N</TD><TD>126&deg; 46' 48'' E</TD><TD>5.5 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>05:32</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 48' 36'' N</TD><TD>127&deg; 00' 36'' E</TD><TD>5.0 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>05:14</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 40' 12'' N</TD><TD>126&deg; 55' 12'' E</TD><TD>5.9 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>03:16</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 48' 36'' N</TD><TD>126&deg; 43' 12'' E</TD><TD>5.1 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>03:09</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 54' 00'' N</TD><TD>126&deg; 50' 24'' E</TD><TD>5.4 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>02:56</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 52' 48'' N</TD><TD>126&deg; 39' 36'' E</TD><TD>5.5 </TD><TD>33 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>02:18</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 20' 24'' N</TD><TD>127&deg; 22' 12'' E</TD><TD>5.1 </TD><TD>5 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>02:01</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 45' 36'' N</TD><TD>126&deg; 39' 00'' E</TD><TD>5.5 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>01:54</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 56' 24'' N</TD><TD>126&deg; 47' 24'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>58 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>01:47</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 49' 48'' N</TD><TD>126&deg; 33' 00'' E</TD><TD>5.1 </TD><TD>35 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>01:25</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 57' 36'' N</TD><TD>126&deg; 59' 24'' E</TD><TD>5.5 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>01:22</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>4&deg; 00' 36'' N</TD><TD>126&deg; 48' 00'' E</TD><TD>5.2 </TD><TD>38 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RDS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>00:49</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 52' 12'' N</TD><TD>126&deg; 29' 24'' E</TD><TD>5.6 </TD><TD>60 </TD><TD align=left> </TD></TR><TR class=RADS align=middle><TD>12 ก.พ. 52</TD><TD>00:34</TD><TD align=left>KEPULAUAN TALAUD, INDONESIA</TD><TD>3&deg; 47' 24'' N</TD><TD>126&deg; 48' 36'' E</TD><TD>7.3 </TD><TD>30 </TD><TD align=left> </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

หมั่นทำความดีไว้ ส่งแต่ความรู้สึกดีให้กับคนรอบข้าง การหมั่นสวดมนต์ภาวนาก็เป็นบุญอันยิ่งใหญ่ที่ทำได้ง่ายที่สุดแต่ต้องอาศัยความอดทน แต่ก็ไม่ยากถ้าตั้งใจทำ
การที่เราได้เข้ามาอยู่ในสังคมเวปนี้นับว่าเป็นบุญของชีวิตเราแล้ว เพราะทำให้เรารับรู้สิ่งต่างๆมากมาย และเราไม่ประมาทกับชีวิตอีกต่อไป ขอขอบคุณผู้ก่อตั้งเวปนี้ และอีกหลายท่านที่นำข้อมูลดีๆมาเผยแผ่ ให้เรา ขอขอบคุณมากๆค่ะ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ทัพเรือไทยร่วมนาวิกสหรัฐฯ ฝึกโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก หาดยาวสัตหีบ </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>16 กุมภาพันธ์ 2552 21:57 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>

​

​

​

​

​

ศูนย์ข่าวศรีราชา - คอบร้าโกลด์ 09 เข้มข้น กองทัพไทย ร่วมทหารอเมริกัน และพันธมิตรทางทหาร ฝึกโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก ทัพเรือส่งอากาศยานโจมตีเคลื่อนที่ยกพลขึ้นบกที่หาดยาวสัตหีบ ชลบุรี

วันนี้ (16 ก.พ.) พล.ร.อ.ศุภกร บูรณดิลก ผบ.กร.(ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ) พล.ร.ท.สุวิทย์ ธาระรูป (ผบ.นย.) ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน พร้อมด้วย พล.ท.เคียต เจ สเตลเดอร์ (Lt.General Keith J.Stalder) ผบ.กองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ ภาคพื้นแปซิฟิก และคณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ฝ่ายไทยและสหรัฐฯ ได้ร่วมสังเกตการณ์การฝึกโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก ณ บริเวณหาดยาว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี

สำหรับในการฝึกการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกเป็นการปฏิบัติการต่อที่หมายบนฝั่งตามกำหนดเวลาที่ได้วางไว้ สำหรับการฝึกการโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบกในครั้งนี้ มีกำลังฝ่ายไทย ประกอบด้วย ร.ล.สีชัง ร.ล.มันกลาง กำลังรบยกพลขึ้นบก จำนวน 1 กองร้อย (170 นาย) รถสะเทินน้ำสะเทินบก (Amphibious Assault Vehicle : AAV) จำนวน 8 คัน เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 3 ลำ ส่วนทางด้านกองกำลังฝ่ายสหรัฐอเมริกา มีกำลังพล ประกอบด้วย เรือ USS ESSEX, USS HARPERS FERRY และยานเบาะอากาศ จำนวน 2 ลำ เฮลิคอปเตอร์ จำนวน 8 ลำ เครื่องบินโจมตี 2 ลำ กำลังพลนาวิกโยธิน 1 กองร้อย (170 นาย) รถสะเทินน้ำสะเทินบก จำนวน 12 คัน เข้าร่วมการฝึก

การฝึกคอบร้าโกลด์ เป็นการฝึกร่วม/ผสมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียอาคเนย์ ระหว่างกองทัพไทยกับ สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และ สิงคโปร์ ภายใต้ชื่อรหัส “คอบร้าโกลด์ 09” ซึ่งเป็นภาพความร่วมมือของกองทัพมิตรประเทศทั้ง 5 ชาติ เพื่อดำรงไว้ซึ่งสันติภาพของภูมิภาค และความร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพกำลังพลของกองทัพที่เข้าร่วมการฝึก ให้คุ้นเคยกับการปฏิบัติการรักษาสันติภาพภายใต้กรอบของสหประชาชาติได้อย่างแท้จริง

พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า การฝึกร่วมภายใต้การฝึกโจมตีสะเทินน้ำสะเทินบก ถือเป็นการฝึกต้นแบบสภาวะสถานการณ์จริง ซึ่งจะสร้างเสริมสมรรถนะแก่กำลังพล ให้มีขีดความสามารถในการปฏิบัติงานร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังเป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ ในเชิงรบแบบสะเทือนน้ำสะเทือนบกของทั้ง 2 ประเทศ ให้มีการพัฒนาไปตามสถานการณ์สงครามที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อรักษาอธิปไตยของแต่ละชาติให้เกิดความสงบสุข

ที่มา http://www.manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9520000017946

 

เรียนคุณเกษม

ผมได้รับสัญญานระหัสเลข 1 กับ 1 ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นระหัสเลขสิบเอ็ดหรือ เป็นระหัสวันอาทิตย์ที่ 1 ของปีนี้ หรือวันอาทิตย์ที่ 11 ของปีนี้

วันอาทิตย์ที่ 11 October 2009
1 - 11 - 10 - 11(2+0+0+9) มันคือเลข 111011
วันอาทิตย์ที่ 1 November 2009
1 - 1 - 11 - 11(2+0+0+9) มันคือเลข 111111

ทั้งสองวันนี้อาจจะมีอะไรแปลกๆให้เราได้เห็นกันก็เป็นได้ครับ

 

แม่น้ำโขงที่ จ. หนองคายลดระดับไป ๖๐๐ เมตร จากริมฝั่ง ชาวอ.ศรีเชียงใหม่ที่อาสัยอยู่ริมโขง (บ้านห้วยทราย) ขณะนี้ต้องใช้น้ำบาดาลแล้ว

ภัยแล้งปีนี้คงจะสาหัส เพราะขณะนี้ยังไม่ถึงฤดูร้อนเลย น้ำอาจแห้งเพราะเมืองจีนกักน้ำด้วยหรือไม่ก็ไม่ทราบ

แจ้งเพื่อทราบค่ะ

 

ผู้ปฏิบัติธรรมจบวทบ. ได้ข้อมูลมาเอง ช่วยกันพิจารณาค่ะ

 

*** ธรรมเที่ยง คือ การกระทำเที่ยง****

ธรรม ...คือ ทำ
หลักธรรม.... คือ หลักในการกระทำ
หลักธรรมของพระพุทธเจ้า... คือ หลักในการกระทำของพระพุทธเจ้า
หลักในการกระทำของพระพุทธเจ้า.... คือ หลักสัจจะธรรม
หลักสัจจะธรรม... คือ หลักสัจจะทำ
หลักสัจจะทำ....คือ หลักในการกระทำด้วยสัจจะ
สัจจะธรรม... คือ ธรรมเที่ยง
หลักสัจจะธรรม.... คือ หลักในการกระทำเที่ยง
การกระทำเที่ยง...คือ กาย วาจา ใจ ตรงกัน
กาย วาจา ใจ ตรงกันได้....ด้วย ข้อสัจจะ ที่ให้ไว้
สัจจะทำ...คือ สัจจะปฏิบัติ
ปฏิบัติ....ให้ กาย วาจา ใจ ตรงกัน
เพื่อให้...หลุดพ้นจากนิสัย ที่ติดตามตัวมาตั้งแต่เกิด
นิสัยหมดสิ้น...อารมณ์ก็หมดสิ้น
หมดสิ้นอารมณ์....ก็บรรลุอรหันต์
สัจจะทำ...จึงต้องกำหนดมานำตนเอง
สัจจะทำ....จึงต้องทำทุกวัน เป็นประจำ
เหมือน พระสมัยพุทธกาล

- " หนุมาน ผู้นำสาร "

 

หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ​

ในช่วงนี้มีสมาชิกเว็บพลังจิต หลายๆท่าน ถูกจิตมารเข้าครอบงำใจ ทำให้มีพฤติกรรม ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก ทั้งฉุนเฉียว เกรี้ยวกราด ด่าทอ กันโดยไม่มีเหตุผล

เพื่อเป็นการลดกระแสจิตดำมืด ของฝ่ายมารที่แผ่ซ่าน เข้ามาครอบงำจิตใจของคนเราในขณะนี้ ผมจึงขออนุญาตนำ พระธรรมเทศนาของหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ มาเป็นเครื่องเตือนสติ ให้ชาวสมาชิกเว็บพลังจิตได้น้อมนำมาเป็น เกราะป้องกันจิตใจของตนเอง ให้พ้นจากอำนาจบงการของฝ่ายมาร ดังนี้ครับ

………………...................................................................​

จิต มาร กิเลส​

จิตไปเร็วมาก เจ้าของตามไม่ทันไปทุกขณะ ดังนั้น คนเลยทำชั่ว ปล่อยให้กิเลสพาไป ไปฆ่าสัตว์ ลักทรัพย์ ประพฤติผิดในกาม พูดจาหยาบคาย ส่อเสียด ให้คนอื่นเดือดร้อน และดื่มสุรา ​

ความชั่วมี ความดีมี จิตมีสิทธิ์ที่จะเลือก ถ้าจิตฉลาด ก็เลือกเอาบุญกุศล ถ้าไม่ฉลาด ก็เลือกเอาเรื่องชั่ว พอใจทำชั่ว

จิตไม่ฉลาด ไม่สามารถสร้างหรือหา (ทรัพย์สิน) ของตัวเอง ก็ไปฉกฉวยเมื่อเห็นของของผู้อื่น ในโลกสมมุตินี้กลับเห็นผู้ฉกฉวย หลอกคนอื่นได้ เป็นคนฉลาด โลกก็เป็นอย่างนี้

แต่ในทางธรรมะ ถ้าไปทำให้คนอื่นทุกข์เดือดร้อน กรรมนั้นก็จะตามสนอง ให้ต้องถูกหลอก โดนต้มตุ๋น ต้องเสียใจ คับอกคับใจ เกิดชาติใดก็จะเป็นอย่างนั้น

พระพุทธองค์ทรงสอนให้คนฉลาด มีปัญญา ไม่สอนให้โง่เขลาเบาปัญญา คำสอนล้วนแต่ทำให้เกิดปัญญา แนะนำให้คนฝึกตน อย่าปล่อยตนให้ไหลไปตามอำนาจของกิเลส

“ทูรังคะมัง เอกะจะรัง คูหาสะยัง…ฯลฯ” ปกติของจิตนั้น เที่ยวไปไกล มีถ้ำคือร่างกายเป็นที่อาศัย ใครสำรวมจิตใจตนให้ดีก็จะพ้นจากบ่วงแห่งมาร

สิ่งที่ยิ่งทำให้โลภ โกรธ หลง ก็คือ “มาร” เมื่อพิจารณารู้แล้ว ต้องไม่หลงไหลไปตามมายาของกิเลสนั้น เมื่อมีอะไรมากระทบก็อย่าวู่วาม ให้มีสติสัมปชัญญะสกัดกั้นจิตใจไว้

มีอะไรมากระทบใจ ก็ “อดทน” ก่อน ถ้าไม่อดทนก็จะมีเรื่อง อย่างมีคดีกัน ฟ้องกัน เสียเงิน เสียเวลา ไปศาลทีไรก็เสียเงินทุกที ไม่ฉลาด ถ้าฉลาดโจทก์กับจำเลยควรมาพูดคุยกันตกลงกัน สมยอมกัน ยอมสละกันบ้าง การว่าความในโรงศาลไม่ใช่ของดี ทำให้เสียเงินทอง เสียเกียรติยศชื่อเสียง

พระพุทธองค์จึงสั่งสอนให้สำรวมจิต ซึ่งจะทำให้มาร คือความชั่วทั้งหลายมาหลอกลวงยั่วยวนไม่สำเร็จ เพราะว่าจิตรู้เท่าทัน เมื่อจิตตั้งมั่น ก็เกิดปัญญา

ดังนั้น อย่าปล่อยให้จิตไหลไปตามกระแสโลก จะยืน เดินนั่ง นอน ก็ใช้สติสัมปชัญญะพิจารณาก่อน จะทำจะพูดจะคิด ก็สำรวมจิต รักษาจิตให้ดี มารหรือความชั่ว ก็มาลบล้างหรือทำให้จิตใจเศร้าหมองขุ่นมัวไม่ได้

ขอให้เข้าใจว่า ความชั่วทั้งหลาย (โลภ โกรธ หลง) คือตัวมารใครล่วงความโลภ ความโกรธ ความหลง ก็เข้าใจผิด เดินทางผิด เห็นผิดเป็นชอบไป การขอหวย รวยเบอร์ บนบาน ไม่ได้อะไร นี่เรียกว่า ความหลง ดังนั้น สำรวมตัวเองให้ดี ไม่ปล่อยให้ความชั่วจูงจิตใจไป เท่านี้ก็มีแต่ความดี ไม่มีความชั่ว

ก่อนนอนควรสวดมนต์ไหว้พระ ฝึกฝนตน อย่าแค่กราบ ๓ ทีแล้วนอนเลย เพราะพวกเรากำลังฝึกตนอยู่ พระพุทธองค์ทรงวางระเบียบไว้อย่างไร ก็ให้ฝึกตนอย่างนั้น ทำบุญ-ทำทาน-ขยันทำงาน-ขยันทำบุญ-ควบคุมใจให้อยู่ในความดี อย่าให้โลภ โกรธ หลง มาครอบงำใจให้ไปทำไม่ดีกับคนอื่น อันจะเป็นบาปเป็นเวรต่อไป ทำความดีให้เกิดในใจตนด้วยการพยุงจิตให้แน่วแน่

จิตมีปกติเที่ยวไปไกล แต่ไม่มีรูปร่าง มีถ้ำคือกายเป็นที่อาศัย ผู้ใดสำรวมจิตใจให้ดี ก็จะพ้นจากบ่วงแห่งมาร คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง นั่นเอง

พระธรรมเทศนาเรื่อง จิต มาร กิเลสโดย หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วันที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๔๓ ณ ศาลากาญจนาภิเษก

ที่มา http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/001194.htm

 

*** กำหนดสัจจะ ****

มานำชีวิต...วันละชั่วโมง
... " ไม่หวังพึ่งวัตถุ มากจนเกินไป " ....
เพื่อแก้ไขนิสัย ตัดลด ตัวทะยานอยาก

- " หนุมาน ผู้นำสาร "