เชิญชวนสาธุชนผู้ใจบุญร่วมเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์การพิมพ์หนังสือเพื่อเป็นธรรมทาน

.......อาตมภาพ พระมหาวิชิต ธมฺมธโร ป.ธ.๙ วัดสร้อยทอง(พระอารามหลวง) บางซื่อ กรุงเทพ ฯ
.......ได้เขียนหนังสือชื่อ"มาฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ด้วยการเอาสตินับลมหายใจเข้า-ออกกันเถิด" ซึ่งเป็นหนังสืออธิบายวิธีการนั่งสมาธิอย่างถูกต้อง ของการนั่งสมาธิจริงๆ มีรูปภาพประกอบให้เข้าใจง่าย สามารถฝึกทำตามได้ เหมาะแก่ชาวพุทธทุกเพศทุกวัย โดยเฉพาะวัยเรียนวัยศึกษา จะทำให้มีสมาธิในการเรียนเพิ่มมากขึ้น ต่อไป การนั่งสมาธิจะไม่ใช่ยาขมอีกต่อไป หากฝึกปฏิบัติตาม จิตจะไม่ฟุ้งซ่าน กลับเป็นสภาวะนิ่งได้เร็วกว่าเดิม
.....หนังสือเล่มนี้ องค์ความรู้เอามาจากหนังสือวิสุทธิมรรค อันเป็นหลักสูตรของ ประโยค ๘และ๙ เนื้อหาในหนังสือมีอธิบายเพียงไม่กี่บรรทัด แต่อาตมภาพได้ใช้ความรู้และทดลองทำตามจนเข้าใจชัด คิดสภาวะออกจนเขียนเป็นหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา


.....การทำจิตให้เป็นสมาธิด้วยวิธีการนับลมนี้ ที่เคยมีสอนกัน ส่วนมากสอนไม่ละเอียด ไม่ใส่ใจโดยมองผ่านไปว่าไร้ประโยชน์ อันที่จริงแล้ว อาตมามองเห็นว่าเป็นส่วนสำคัญที่สุดของการฝึกสมาธิจิต เพราะมันเป็นรากฐานของการฝึกสมาธิของทุกระดับจิต การที่คุณโยมทั้งหลายเวลานั่งแล้วจิตฟุ้งไม่เป็นสมาธิหรือเป็นแค่ชั่วคราว ก็เพราะฝึกข้ามขั้นตอนไป เมื่อรากฐานไม่แน่น ไปฝึกขั้นที่สูงกว่าก่อน สภาวะจิตก็ย่อมฟุ้งเป็นธรรมดา การนั่งทำสมาธิจิตขั้นสมถะยังไม่สำเร็จแล้ว ไปฝึกนั่งทำขั้นวิปัสสนาก่อน ย่อมไม่เห็นผลแห่งการฝึกเป็นแน่นอน!
เปิดดูไฟล์ ส่วนที่๑.doc รูปเล่มของหนังสือเล่มนี้ ตามภาพ
.ปกหน้า .ปกหลัง

เหตุใด เมื่อทำบุญแล้ว ต้องระบุชื่อเอาไว้ให้คนทั่วๆไปทราบด้วย??​

บางคน แค่คิดอยากทำบุญ เลยบริจาคร่วมด้วย แต่ไม่อยากให้ระบุชื่อนั้น มีอยู่หลายคนมาก เพราะกลัวคนอื่นมองตัวเองว่า อยากทำบุญเอาชื่อเสียง...... แต่ว่าการทำบุญนั้นเน้นที่เจตนาเป็นส่วนสำคัญ.....ทุกครั้งที่ทำบุญถวายทานแล้ว พระพุทธเจ้าตรัสสอนไว้ว่า ควรตั้งจิตอธิษฐานด้วย เพราะบุญจะให้ผลแก่ผู้ทำผู้มีเจตนาดี ก็ด้วยการตั้งจิตอธิษฐาน ข้อนี้ฉันใด....การที่เราเมื่อทำบุญเเล้ว ควรให้คนอื่นได้รับรู้และร่วมพลอยอนุโมนาบุญด้วย ฉันนั้น.
มีข้ออุปมาให้พิจาณาเห็นตามจริง....ถามว่า โยมทั้งหลายเคยส่งพัสดุไปทางไปรษณีย์ให้แก่คนที่เรารู้จักใหม?..หากเราส่งไป เขียนจ่าหน้าบอกไว้เพียงบ้านเลขที่ ตำบล อำเภอ จังหวัด โดยไม่เขียนชื่อระบุว่าผู้รับเป็นใคร...เมื่อพัสดุนั้นไปถึงที่บ้านเลขที่นั้น ตำบลนั้น อำเภอนั้น และจังหวัดนั้นแล้ว ใครจะเป็นคนรับ??? เมื่อไม่มีชื่อว่าใครเป็นคนรับ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ก็ต้องตีกลับพัสดุนั้นคืนมาให้เราผู้ส่งใช่หรือไม่???....แต่ถ้าหากว่า เรา เขียนชื่อ ที่อยู่ ของผู้ที่เราจะส่งพัสดุไปให้เอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว พัสดุนั้นก็ย่อมไปถึงมือผู้ที่เราประสงค์ส่งไปให้อย่างแน่นอน ฉันใด....การที่เราร่วมบริจาคทรัพย์เพื่อทำทานแล้วให้จารึกชื่อเอาไว้นั้น เพื่อให้คนอื่นร่วมพลอยอนุโมทนาทานของเราด้วย....การที่คนอื่นๆร่วมพลอยอนุโมทนาทานกับเรานี่เเหละ จัดเป็น ทานานุโมทนา (การร่วมพลอยชื่นชมยินดีส่วนแห่งทานของผู้อื่น) และผลทานที่เราทำแล้ว ก็ย่อมอำนวยผลให้เราได้ถูกต้องตัวบุคคลได้ชัดเจน อีกทั้ง เมื่อมีคนอ่านออกชื่อเราทุกๆครั้ง ก็เท่ากับเป็นการเพิ่มพูนตัวบุญแห่งทานให้กับเราไปด้วยทุกๆครั้ง ผลบุญแห่งทาน ก็จะอำนวยผลให้ได้ถูกต้องตัวบุคคลผู้ทำ เปรียบเหมือนนายไปรษณีย์ส่งพัสดุให้ถึงมือผู้รับโดยถูกต้องตัวบุคคลผุ้รับ ฉันนั้น.
อีกนัยยะหนึ่ง....หากเรามีเทียนอยู่๑๐เล่ม เมื่อเราจุดเทียนในห้องอันมืดมิดเพียง๑เล่ม ห้องนั้นก็พลันสว่าง แต่ถ้า เรามอบเทียนให้กับคนอื่นๆอีก๙คนๆละ๑เล่ม เมื่อพวกเขาทั้ง๙คนจุดเทียนที่ได้รับมาคนละ๑เล่มนั้นขึ้นพร้อมกัน ห้องนั้นก็พลันสว่างยิ่งขึ้นกว่า ข้อนี้ฉันใด ทานานุโมทนา การร่วมพลอยชื่นชมยินดีทานของผู้อื่น ก็เป็นได้ ฉันนั้นเหมือนกันแล.


..... ขอเชิญฟังธรรมะ mp3 ที่อาตมาทำเป็นบทความธรรมคีตะบรรยายในชื่อหัวข้อว่า"ธรรมะให้ข้อคิด" ไปฟังขัดเกลากิเลสกันไปพลางๆก่อนนะ อาจมีอ่านผิดบ้าง ก็อย่านำมาเป็นสาระ ตัวธรรมะต่างหากที่ควรตั้งใจฟังนำไปปฏิบัติ

เปิดดูไฟล์ 1ทานที่มีผลมาก มีอานิสงส์มาก.mp3
เปิดดูไฟล์ 2ศีลเป็นอาภรณ์อันประเสริฐ.mp3
เปิดดูไฟล์ 3เป็นมนุษย์นี้เเสนยาก.mp3
เปิดดูไฟล์ 4ใครลิขิต.mp3
เปิดดูไฟล์ 5เป็นอยู่ด้วยรัก.mp3
เปิดดูไฟล์ 6ชีวิตนี้มีน้อย.mp3
เปิดดูไฟล์ 7ร้อนคลาย.mp3
.......วันที่26 มค 52 ไปบริจาคหนังสือธรรมะเล่มนี้แก่ผู้ป่วยจำนวน100คน/เล่ม ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึก ถนนวิภาวดีรังสิต เขตพญาไท กรุงเทพฯ ลงภาพให้ดูเพื่อร่วมอนุโมทนาด้วยกันเพียงบางส่วน
... .. ... ..
... .. ...

"ทำทานคนเดียวหรือชวนคนอื่นให้ทำร่วมด้วย ได้อานิสงส์อย่างไร?"​

ในธรรมบทภาค๕ เรื่องที่๖ แห่งปาปวรรค
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า
"อุปาสกา อิเธกจฺโจ อตฺตนา ทานํ เทติ,ปรํ น สมาทเปติ,โส นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺฐาเน โภคสมฺปทํ ลภติ โน ปริวารสมฺปทํ
ดูก่อนอุบาสกและอุบาสิกาทั้งหลาย คนบางคนในโลกนี้ ถวายทานด้วยตัวเอง แต่ไม่ได้ชักชวนคนอื่นให้ร่วมถวายทานด้วย เขาถือกำเนิดในภพใดๆ ย่่อมได้เฉพาะโภคสมบัติ ไม่ได้บริวารสมบัติ
เอกจฺโจ อตฺตนา ทานํ น เทติ,ปรํ สมาทเปติ, โส นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺฐาเน ปริวารสมฺปทํ ลภติ,โน โภคสมฺปทํ
คนบางคน ไม่ถวายทานด้วยตัวเอง แต่ชักชวนคนอื่นให้ถวายทานอย่างเดียว เขาถือกำเนิดในภพใดๆ ย่อมได้เฉพาะบริวารสมบัติ ไม่ได้โภคสมบัติ
เอกจฺโจ อตฺตนา จ ทานํ น เทติ ปรญฺจ น สมาทเปติ,โส นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺฐาเน โน โภคสมฺปทํ ลภติ โน ปริวารสมฺปทํ,วิฆาสาโท หุตฺวา วิจรติ ฯ
คนบางคน ไม่ถวายทานด้วยตัวเองทั้งไม่ได้ชักชวนคนอื่นให้ร่วมถวายทานด้วย เขาถือกำเนิดในภพใดๆ ย่อมไม่ได้โภคสมบัติ ย่อมไม่ได้บริวารสมบัติ ย่อมเที่ยวเป็นคนขอทานกินของเหลือเดน
เอกจฺโจ อตฺตนา จ ทานํ เทติ ปรญฺจ สมาทเปติ,โส นิพฺพตฺตนิพฺพตฺตฏฺฐาเน โภคสมฺปทญฺจ ลภติ ปริวารสมฺปทญฺจาติ
คนบางคน ถวายทานด้วยตัวเองทั้งชักชวนคนอื่นให้ร่วมถวายทานด้วย เขาถือกำเนิดในภพใดๆ ก็ย่อมได้ทั้งโภคสมบัติทั้งบริวารสมบัติ "​

สาธุชนผู้มองเห็นสัจจธรรมชีวิตคือหลัก อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา พึงขวนขวายทำทานในทุกขณะๆเมื่อมีโอกาสทำฯ​

"หากอยากชนะจิตใจที่ตระหนี่ถี่เหนียวของตนเอง ควรทำบุญในขณะเวลาใด?"​

ในธรรมบทภาค๕ เรื่องที่๑ แห่งปาปวรรค
พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า " กลฺยาณกมฺมํ กโรนฺเตน หิ อุปฺปนฺนจิตฺตํ อหาเปตฺวา ตํขณญฺเญว กาตพฺพํ, ทนฺธํ กตํ กุสลํ หิ สมฺปตฺตึ ททมานํ ทนฺธเมว ททาติ, ตสฺมา จิตฺตุปฺปาทสมนนฺตรเมว กลฺยาณกมฺมํ กาตพฺพํ
จริงๆแล้ว คนที่คิดจะทำกรรมดี อย่าปล่อยให้จิตดวงที่ประกอบด้วยศรัทธาอันเกิดขึ้นแล้วให้เสื่อมสูญไป ต้องรีบทำทันที เพราะกุศลที่เขาทำช้า เมื่อจะให้สมบัติ ก็ย่อมให้ช้าด้วยเหมือนกัน เพราะฉะนั้น จึงต้องรีบทำกรรมดี ในช่วงระหว่างที่จิตดวงที่ประกอบด้วยศรัทธากำลังเกิดมีอยู่นั่นแหละ"
ในประเด็นนี้มีเรื่องเล่าประกอบพอเป็นอุทาหรณ์ดังต่อไปนี้
เล่ามาว่า ในกาลสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่าวิปัสสี ได้มีพราหมณ์ชื่อว่ามหาเอกสาฎก. อนึ่ง ในกาลสมัยของพระพุทธเจ้าพระนามว่าโคดมของเราทั้งหลาย พราหมณ์คนนี้ ก็ได้เกิดเป็นพราหมณ์ชื่อจูเฬกสาฎก ในเมืองสาวัตถี. ก็พราหมณ์นั้น มีผ้าสาฎกสำหรับนุ่งผืนหนึ่ง ฝ่ายนางพราหมณีของเขา ก็มีผืนหนึ่ง พวกเขาทั้งสองคน มีผ้าคลุมห่มผืนเดียวกันเท่านั้น. ในเวลาจะออกไปภายนอกเรือน ทั้งพราหมณ์ทั้งพราหมณี ก็จะผลัดกันห่มผ้าคลุมผืนนั้น.
ต่อมาวันหนึ่ง เมื่อมีคนป่าวประกาศการฟังธรรมในพระวิหาร พราหมณ์จึงพูดกะนางพราหมณีว่า " เขาประกาศการฟังธรรมแล้วนะ แม่จ๋า, แม่จักไปฟังธรรม ในเวลาส่วนวันหรือในเวลาส่วนค่ำหละ? , ก็เพราะผ้าคลุมห่มไม่มี เราทั้งสองจึงไม่สามารถไปฟังธรรมพร้อมๆกันได้ "
นางพราหมณีจึงบอกว่า " ฉันจักไปฟังธรรมในเวลาส่วนวันก็แล้วกันนะพ่อ" แล้วก็ฉวยผ้าสาฎกมาคลุมเดินไปฟังธรรมในเวลาส่วนวัน.
พราหมณ์รอคอยอยู่ในเรือนตลอดทั้งวัน พลบค่ำจึงได้ไปฟังธรรมนั่งข้างหน้าพระพักตร์พระพุทธเจ้า.
ลำดับนั้น ปีติ๕ ประการ คือ ขุททกา ปีติ (ปีติเล็กน้อย) ๑,ขณิกา ปีติ(ปีติชั่วขณะ)๑,โอกกันติกา ปีติ(ปีติดังระลอกคลื่น)๑,อุพเพงคา ปีติ(ปีติโลดโผน)๑,ผรณา ปีติ(ปีติที่แผ่ซ่าน)๑ เกิดขึ้นแผ่ซ่านไปทั่วร่างของพราหมณ์นั้นแล้ว.
เขามีความประสงค์จะถวายผ้าสาฎกบูชาพระพุทธเจ้า จึงครุ่นคิดว่า "หากเราจักถวายผ้าสาฎกผืนนี้แล้วไซร้, ไม่ใช่เฉพาะนางพราหมณีคนเดียวที่จักไม่มีผ้าคลุมห่มเท่านั้น, ถึงเราก็จักไม่มีด้วย" .
ทีนั้น จิตดวงที่ประกอบด้วยความตระหนี่หนึ่งพันดวง เกิดขึ้นแก่เขาแล้ว .
ถัดมาอีก เขาก็มีจิตดวงที่ประกอบด้วยความศรัทธาเกิดขึ้นมาดวงหนึ่ง.
ถัดมาอีก จิตดวงที่ประกอบด้วยความตระหนี่หนึ่งพันดวง เกิดขึ้นแก่เขาข่มขี่จิตดวงที่ประกอบด้วยความศรัทธาดวงเดียวนั้นเสียสิ้น.
จิตดวงที่ประกอบด้วยความศรัทธาซึ่งดูเหมือนจะมัดยึดจิตดวงที่ประกอบด้วยความตระหนี่อันมีกำลังเอาไว้ได้ ก็เกิดค้านกัน สลับกันไปมาอยู่ดังนี้.
เขามัวแต่ครุ่นคิดอยู่นั่นแหละว่า "เราจักให้หรือไม่ให้" ปฐมยามก็ผ่านพ้นไป.
ต่อมา เมื่อมัชฌิมยามมาประจวบถึงแล้ว เขาก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้เด็ดขาดว่าจะให้ แม้ในเวลามัชฌิมยามนั้น.
เมื่อปัจฉิมยามมาประจวบถึงแล้ว เขาจึงคิดว่า "เมื่อเราต่อสู้กับจิตดวงที่ประกอบด้วยความศรัทธาและจิตดวงที่ประกอบด้วยความตระหนี่อยู่นั่นแหละ ก็ผ่านไปเสียเปล่าถึงสองยาม,จิตดวงที่ประกอบด้วยความตระหนี่อันมีประมาณเท่านี้ของเรานี้ กำลังเจริญอยู่ ก็จักไม่ให้เพื่อให้เราได้ยกศรีษะขึ้นจากอบายภูมิ๔ ,เราจักถวายผ้าสาฎกหละ!".
เขาจึงทำจิตดวงที่ประกอบด้วยความศรัทธาให้ดำเนินไปข้างหน้าข่มขี่จิตดวงที่ประกอบด้วยความตระหนี่ตั้งหนึ่งพันดวงได้เสียสิ้นแล้ว ถือเอาผ้าสาฎกไปวางไว้แทบบาทมูลของพระพุทธเจ้า แล้วเปล่งเสียงดังขึ้นถึงสามครั้งว่า​

ชิตํ เม ! ชิตํ เม ! ชิตํ เม !
เราชนะแล้ว !
เราชนะแล้ว !
เราชนะแล้ว !​

แล้วสาธุชนทั้งหลายเล่า ???​

​

 

ขออนุโมทนา ในโครงการของท่านอาจารย์ครับผม สาธุครับ ขอให้สำเร็จและได้อานิสงส์ทุกท่าน

พระสมรัก ญาณธีโร
www.phrasomrak.com
www.romdham.com
www.subbhadham.com

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
สาธุ สาธุ สาธุ

 

ผม นายศราวุฒิ ยาวิราช และครอบครัว ร่วมทำบุญเป้นเงิน 500 บาทครับ ได้โอนไปแล้ววันนี้

ขอถวายกุศลนี้แด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกๆพระองค์ พระปัจเจกโพธิเจ้า
ทุกๆ พระองค์ พระอรหันต์ทุกๆพระองค์ พระโพธิสัตว์ทุกๆ พระองค์ เทพ พรม
ผู้สำเร็จทุกท่าน บิดามารดา ครู อุปัชฌาย์อาจารย์ ญาติมิตร เพื่อนสาราสัตว์น้อยใหญ่
เจ้ากรรมนายเวร
ขอบารมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในสากลโลก จงช่วยปกป้องคุ้มครองมวลมนุษย์ทั้งโลกให้รอดพ้นจากภัย
พิบัติทั้งหลาย ผลร้ายที่จะเกิดแก่ประเทศไทย จงกลายเป็นดี
และโปรดแผ่พลังจิต แผ่บารมี ช่วยให้ข้าพเจ้า เกิดปัญญาเห็นธรรมด้วยเทอญฯ

 

ร่วมบุญพิมพ์หนังสือกับท่านมหาวิชิต จำนวน 1000 บาท ได้โอนเงินแล้ว กรุงไทย 020-0-05088-5 และขอรับหนังสือด้วย สัก 5 เล่ม และขอMP 3 ชีวิตใครลิขิต สัก 1 แผ่น ขอบพระคุณอย่างสูง จัดส่ง
นิจรินทร์ พีรพรวิมล
บริษัท ไทย ซิง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
62/79-80 ถนน บางบอน 5
แขวง บางบอน เขต บางบอน
กรุงเทพฯ 10150

 

<FONT SIZE="3" COLOR="#CC0000">
นาย ไวยวุฒิ โสตถิทัต....
ร่วมทำบุญ.... ครับ...

วันที่ 7 กพ 2552 เวลา 16.45
จำนวน 1,009.97 จากบัญชี 081-0-00021-0


ขออุทิศส่วนกุศล... ให้แก่...

นาย สุพร โสตถิทัต บิดา
นาง ชไลศรี โสตถิทัต มารดา
นาย อรัญ ชาญภูมิดล ลุงเต่า
รศ.นส. สุพัฒน์ โสตถิทัต อา
นาย อัศวิน โสตถิทัต พี่ชาย </FONT>

<FONT SIZE="3" COLOR="#0000CC">
ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านครับ ธรรมใดที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรงพบแล้ว ขอธรรมนั้น จงสำเร็จแก่ท่าน ทั้งหลายโดยเร็วด้วยเถิด สาธุ สาธุ สาธุ </FONT>

<FONT SIZE="4" COLOR="#CC0000">อิทัง ปุญญะผะลัง </FONT><FONT SIZE="3" COLOR="#006600">ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ เจ้ากรรม นายเวร ทั้งหลาย ที่เคยล่วงเกินมาแล้ว แต่ชาติก่อนก็ดี ชาตินี้ก็ดี ขอ เจ้ากรรม นายเวร ทั้งหลาย จงโมทนา ส่วนกุศลนี้ ขอจงอโหสิกรรมให้แก่ข้าพเจ้า ตั้งแต่บัดนี้ ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน</FONT> <FONT SIZE="3" COLOR="#CC0000">และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ เทพเจ้า ทั้งหลาย ที่ปกปักรักษาข้าพเจ้า และ เทพเจ้า ทั้งหลาย ทั่วสากลพิภพ และ พระยายมราช ขอเทพเจ้า ทั้งหลายและ พระยายมราช จงโมทนาส่วนกุศลนี้ ขอจงเป็นสักขีพยาน ในการบำเพ็ญกุศล ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเถิด</FONT> <FONT SIZE="3" COLOR="#0000CC">และขออุทิศส่วนกุศลนี้ ให้แก่ท่านทั้งหลาย ที่ล่วงลับไปแล้ว ที่เสวยความสุขอยู่ก็ดี เสวยความทุกข์อยู่ก็ดี เป็นญาติก็ดี มิใช่ญาติก็ดี ขอท่านทั้งหลาย จงโมทนาส่วนกุศลนี้พึงได้รับประโยชน์ ความสุข เช่นเดียวกับข้าพเจ้า จะพึงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด</FONT><FONT SIZE="3"COLOR="#006600">หากท่านทั้งหลายยังไม่มีโอกาสได้อนุโมทนาเพียงใด ขอเทพเจ้าทั้งหลายและ พระยายมราช จงเป็นสักขีพยานให้แก่ข้าพเจ้าด้วย เจอเธอเมื่อใด ขอให้เธอได้ อนุโมทนาส่วนกุศลนี้ด้วยเถิด </FONT> <FONT SIZE="3" COLOR="#CC0000">ผลบุญใด ที่ข้าพเจ้า ได้บำเพ็ญแล้ว ตั้งแต่ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาตินี้ ขอผลบุญนี้ จงเป็นปัจจัย ให้ข้าพเจ้า ได้เข้าถึง ซึ่ง พระนิพพาน ในชาติปัจจุบันนี้ด้วยเถิด หากแม้นยังไม่ถึง พระนิพพาน เพียงใดขอคำว่า ไม่รู้ ไม่มี ไม่สำเร็จ ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้บังเกิดแก่ ข้าพเจ้าเลย ขอผลบุญทั้งหลาย ที่ข้าพเจ้า ได้กระทำแล้ว ตั้งแต่ ต้นชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ จงบังเกิดผล ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้ เถิด</FONT>

 

​

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2552 ข้าพเจ้า นายเสรี-นางนงลักษณ์ วงษ์ทองเหลือ และครอบครัว ได้โอนเงินจากตู้เอทีเอ็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ โลตัสแพร่ จำนวน 225 บาท เข้าบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาเตาปูน ชื่อบัญชี พระมหาวิชิต บัญชีเลขที่ 020-0-05088-5 เพื่อร่วมบุญเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์การพิมพ์หนังสือชื่อ "มาฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ด้วยการเอาสตินับลมหายใจเข้า-ออกกันเถิด" เพื่อเป็นธรรมทาน จำนวน 9 เล่ม ให้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนะครับ

ISS.BANK DATE TIME LOCAT. SEQ.
SCB 080209 1112 9863 3006
TRANSFER
FROM A/C SCB 2040855
TO A/C KTBA 0200050885
AMOUNT 225.00
FEE 25.00

...............................................................​

คำขอขมาพระรัตนตรัย
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมา สัมพุทธัสสะ (3 ครั้ง)
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ทวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะ เม ภันเต อุกาสะ ขะมามิ ภันเต

หากข้าพระพุทธเจ้า ได้เคยประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัย อันมีพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆพระองค์ พระธรรม และพระอริยะสงฆ์ พระอริยเจ้าทั้งหลาย ด้วยทางกาย หรือวาจาก็ดีหรือ ด้วยใจก็ดี ด้วยเจตนาก็ดีหรือไม่เจตนาก็ดี รู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็ดี ขอองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ พระธรรม พระอริยสงฆ์ทั้งหลาย ผู้มีพระคุณทุกท่านและเจ้ากรรมนายเวรทุกท่าน ได้โปรดอดโทษ และอโหสิกรรมให้แก่ข้าพระพุทธเจ้าด้วย กรรมอันน่าติเตียนอันใดที่ข้าพเจ้าได้กระทำลงไปด้วยความเห็นผิด ขอกรรมเหล่านั้นจงได้สลายตัวลงด้วยเถิด ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ตราบจนข้าพเจ้าได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณด้วยเทอญ (คำอธิษฐานคัดลอกและปรับเปลี่ยนเพิ่มเติมมาจากเว็ปอาจารย์คนเมืองบัว)

ขอแม่พระธรณีและพระยายมบาล จงเป็นพยานในการทำบุญนี้แก่ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้ทำบุญในครั้งนี้เพื่อบูชาพระรัตนตรัยทั้ง 3 สรณะสูงสุดแห่งชีวิตของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายที่ได้ทำแล้วแก่บิดามารดาทุกภพทุกชาติ ครูบาอาจารย์ทุกภพทุกชาติ เทวดา 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน หมื่นโลกธาตุแสนโกฏิ พระเพลิง พระพาย แม่พระธรณี แม่พระคงคา แม่พระโพสพ พระมหากษัตริย์ไทยทุกพระองค์ ญาติสนิทมิตรสหายทุกภพทุกชาติ มนุษย์ทั้งหลายในอนันตจักรวาล ท่านทั้งหลายที่ตกทุกข์ได้ยากอยู่ในภูมิอบายทั้ง 4 อันได้แก่ ภูมิสัตว์เดรัจฉาน ภูมิอสูรกาย ภูมิเปรต และภูมินรก ขออานุภาพแห่งคุณพระศรีรัตนตรัยได้ช่วยแปลสภาพบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำแล้ว ให้สัตว์ในอบายภูมิทั้ง 4 ให้ได้รับผลบุญในครั้งนี้ด้วย ขอเจ้ากรรมและนายเวรทั้งหลายทั้งปวงที่ข้าพเจ้าได้ล่วงเกินไว้ ด้วยกาย วาจา ใจ ขอท่านทั้งหลายเหล่านั้น จงมาอนุโมทนาบุญ และอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วยเทอญ

ขอส่วนกุศลผลบุญทั้งหลายที่ข้าพเจ้าได้กระทำมานี้ แผ่ไปให้ไพศาล ท่านที่ได้ทุกข์ ขอให้ท่านพ้นทุกข์ ท่านที่มีความสุข ขอให้ท่านได้สุขยิ่งๆ ขึ้นไป ขอท่านทั้งหลายเจริญด้วยอายุ วรรณะ สุขะ พละ ปฏิธาน ธนสารสมบัติ ขอให้ส่วนกุศลผลบุญในครั้งนี้เป็นพลวะปัจจัย อุปนิสัยตามส่งให้ข้าพเจ้า และสัพพะทุกดวงวิญญาณในสังสารวัฏนี้ ได้พบกับพระพุทธศาสนาทุกภพทุกชาติ ได้เกิดเป็นมนุษย์ที่มีสัมมาทิฏฏิ หมั่นทำบุญทำทาน เพื่อสละความโลภ หมั่นรักษาศีลและเจริญพรหมวิหาร 4 เพื่อระงับความโกรธ หมั่นเจริญภาวนา ทั้งสมถะและวิปัสสนากรรมฐานเพื่อกำจัดกิเลส ตัณหา อุปาทาน อวิชชาและอาสวะให้หมดสิ้นไป ได้สำเร็จซึ่งมรรค 4 ผล 4 ตลอดจนได้เข้าถึงแดนทิพย์พระนิพพานเอกันตบรมสุขกันทุกท่าน รวมทั้งขอข้าพเจ้าได้บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณ เป็นพระวิริยาธิกะพุทธเจ้าองค์หนึ่งเมื่อบุญบารมีถึงพร้อมแล้ว ตลอดจนถึงกาลเวลาอันสมควรแล้วด้วยเทอญ สาธุๆๆ

.......................................................
ขออนุโมทนา สาธุ ๆ ๆ กับทุกท่านที่ร่วมบุญเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์การพิมพ์หนังสือชื่อ
"มาฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ด้วยการเอาสตินับลมหายใจเข้า-ออกกันเถิด" เพื่อเป็นธรรมทาน ด้วยนะครับ
........................................................
นิพพานนะ ปัจจะโย โหตุ​

 

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยนะคะ ^__^

ขอให้ทุกท่านเจริญทั้งทางโลกและทางธรรมยิ่งๆขึ้นไปค่ะ สาธุ*-*

 

วันนี้ส่งเงินไปร่วมทำบุญทางไปรษณีย์แล้วนะคะ

สาธุค่ะ *-*;aa37

 

อนุโมทนา สาธุ กับพระคุณเจ้าในการนี้ด้วยค่ะ ร่วมบุญและโอนไปวันไหนจะแจ้งให้ทราบอีกครั้งนะคะ

 

วันนี้ได้โอนเงินร่วมพิมพ์หนังสือด้วย 100 บาทค่ะ
ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุสาธุ

 

ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

" การให้ธรรมเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง "






ขอบอกบุญต่อด้วยจ้า บริจาคอวัยวะที่ http://www.organdonate.in.th/
บริจาคดวงตาที่ http://www.eyebankthai.com/
ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่ต้องการบริจาคนะคะ สาธุ สาธุ สาธุ <!-- / sig -->

 

17-02-2552 Time:13;18;58 Ref No 069109021700014 A/C 0200050885

Today I and transfer money -325 Bath to tumboon ka

Every body pls sa tue boon with us na ka,we sa tue boon with every body ka

Tanya Klyne and family Richard Tada klyne, Richard murich klyne

 

ข้าพเจ้า นางสาว จิตตินาท สุดยอด ได้โอนเงิน 100 บาท 170209 1914
เพื่อร่วมบุญเป็นเจ้าภาพอุปถัมภ์การพิมพ์ หนังสือชื่อ "มาฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ด้วยการเอาสตินับลมหายใจเข้า-ออกกันเถิด" เพื่อเป็นธรรมทาน
แล้วนะคะ ขอให้ข้าพเจ้ามีจิตเป็นสมาธิ ลมหายใจเข้ารู้ ลมหายใจออกรู้ ด้วยเถิด สาธุๆ

 

นมัสการ พระอาจารย์วิชิต

วันนี้ 21กพ.2552 เวลา 10.40 น. ผมได้โอนเงินร่วมพิมพิ์หนังสือ มาฝึกจิตให้ป็นสมาธิ ด้วยลมหายใจ.... จำนวน 300 บาท (LOCAT. 7096 SEQ.7353)จากตู้ATM ไทยพาณิชย์ มอ. หาดใหญ่
ขอรบกวนรับหนังสือ จำนวน 1 เล่มครับ
ขออนุโมทนาและขอบคุณมากครับ

ธำรงวิทย์ ชัยจรูญพร
ภาควิชาพยาธิวิทยา คณะแพทย์ ม.สงขลานครินทร์
หาดใหญ่ สงขลา 90110

 

ได้ร่วมทำบุญแล้วค่ะในวันที่ 26 ก.พ.
Record no. 8840 FR BBLA 0147639
จำนวนเงิน 200บาท

 

วันที่ 04/03/09 เวลา 20:38 ได้โอนเงินร่วมทำบุญ 50 บาทค่ะ
และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านด้วยค่ะ

 

กราบนมัสการ พระมหาวิชิต
ข้าพเจ้า น.ส.จุฬารัตน์ คชินทร

วันที่ 26 มีค.2552 เวลา 17.22 น.
โอนเงินจำนวน 500 บาท เพื่อร่วมทำบุญจัดพิมพ์หนังสือ
"มาฝึกจิตให้เป็นสมาธิ ด้วยการเอาสตินับลมหายใจเข้า-ออกกันเถิด"
จากบัญชี SCB สาขา ถนนสาทร, บัญชีเลขที่ :XXXX311257 ค่ะ

ขอผลบุญแห่งธรรมทานนี้ จงสำเร็จแด่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ บิดา มารดา ครูบาอาจารย์ เทพยดาทุกพระองค์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย วงศาคณาญาติของข้าพเจ้าทั้งที่มีชีวิตอยู่ และล่วงลับไปแล้ว มนุษย์ และอมนุษย์ และดวงจิตทุกดวงที่อยู่ใน 31 ภพภูมิในสากลจักรวาล รวมทั้งเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้าและครอบครัว ทั้งในชาตินี้ และอดีตชาติ หากท่านทุกข์ขอให้ท่านพ้นจากทุกข์ หากสุขขอให้สุขยิ่งๆขึ้นไป ...
ขอท่านทั้งหลายได้โปรดรับอานิสงฆ์และร่วมรับอนุโมทนาบุญ ในกาลครั้งนี้ด้วยเทอญ..สาธุ