งงกับอาการของตัวเอง ที่เกิดจากการนั่งสมาธิค่ะ

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย หยดน้ำบนใบบัว, 17 มีนาคม 2009.

  1. หยดน้ำบนใบบัว

    หยดน้ำบนใบบัว สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +12
    หนูเป็นคนๆหนึ่งที่หัดนั่งสมาธิด้วยตนเองโดยที่อาศัยความรู้จากทางเวบนี้และจากเมื่อสมัยเด็กๆที่ตอนกลางวันทางโรงเรียนบังคับให้เด็กทุกคนนั่งสมาธิก่อนเข้าเรียนตอนบ่ายค่ะ ทุกครั้งที่หนูนั่งก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพราะจุดมุ่งหมายในการนั่งสมาธิของหนูก็แค่ต้องการให้ตัวเองมีสมาธิในการอ่านหนังสือเท่านั้นเองค่ะ แต่วันนี้ก็เกิดอะไรที่แปลกประหลาดกับตัวเองค่ะ

    คือทุกครั้งก่อนที่หนูจะเริ่มนั่งหนูก็จะอธิฐานให้ผลบุญที่เกิดจากการนั่งสมาธิในครั้งนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรที่เราเคยล่วงเกินท่านคะ (อันนี้มีผู้ใหญ่ท่านนึงเป็นคนบอกให้หนูทำทุกครั้งก่อนที่จะนั่งค่ะ) แล้วหนูก็เริ่มกำหนดลมหายใจเข้าออก ไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆ จนกระทั่งจิตของหนูนิ่ง (อันนี้เป็นความรู้สึกของตนเองค่ะว่ามันนิ่งแล้วเพราะการท่องพุทโธของหนูมันหยุดไปแล้วการหายใจของหนูมันเหมือนกับการหายใจที่แบบน้อยมากหรือที่เค้าเรียกกันว่าละเอียดค่ะ ไอ้อาการอันนี้มันเกิดกับหนูทุกครั้งค่ะ หนูเลยสรุปเอาเองว่า คงเข้าสมาธิแล้วละ)

    แต่วันนี้มันมีอาการที่แปลกจากทุกครั้งมากๆๆๆเลยค่ะ เพราะตัวเองเริ่มรู้สึกว่าเออเรานิ่งแล้วนะ จู่ๆๆก็รู้สึกว่า ทำไมหัวของตัวเองมันเริ่มใหญ่ขึ้นเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆ เรื่อยจนมันเหมือนจะครอบทั้งตัวตัวเอง แล้วก็ทุอย่างในโสตประสาทของหนูมันเห็นเป็นสีขาวทั้งหมด แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าปากตัวเองจะไม่มีแล้วและขากับเท้าตัวเองก๊จะถูกหัวเราคอบไว้หมดแล้ว ก็เริ่มรู้สึกกลัวว่าอะไรเนี่ยเกิดอะไรขึ้นแต่อีกใจหนึ่งก็ลองดูสิว่าจะยังไง ทีนี้มันรู้สึกได้ค่ะว่าเหมือนตัวเรามันพุ่งขึ้นไปข้างบนแล้วมันเร็วมากจนกลัว แทบอยากจะลืมตา แต่มีพี่คนนึงเคยบอกว่าถ้าเกิดสมาธิแล้วอย่าออกจากสมาธิแบบหุนหันเพราะมันจะไม่ดี หนูก็ไม่กล้าที่จะลืมตา ได้แต่พูดกะตัวเองว่า กลับมาเถอะขอให้จิตเรากลับมาที่เราด้วยเถอะ (อันนี้ที่คิดแบบนี้เพราะความกลัวสุดๆๆ) พอตัวหนูเริ่มคิดแบบนี้ก็รู้สึกว่าหัวเราเริ่มเล็กลงขากะตัวเริ่มมาแล้ว แต่หัวเราเนี่ยรู้สึกว่ามันหมุนติ้วมากๆๆๆๆๆๆ จนเราเริ่มรู้สึกไม่ดีสุดๆๆๆ ก็เลยลืมตาเลยค่ะ แต่อาการหัวหมุนติ้วมันยังหมุนอยู่ค่ะ จนไม่รู้จะทำไงดี ก็เลยเพ่งสายตาไปที่ๆเดียว มันก็เลยค่อยๆๆหยุดหมุนค่ะ

    หนูเลยอยากถามจากผู้รู้ทุกๆๆท่านค่ะ อาการที่เกิดกับหนูครั้งนี้เป็นเรื่องปกติของคนที่นั่งแบบไม่มีความรู้หรือเปล่าค่ะ ยังไงหนูขอรบกวนทุกท่านให้ความรู้หนูด้วยนะคะ

    ขอบคุณมากนะคะ pity_pig
     
  2. เฮียปอ ตำมะลัง

    เฮียปอ ตำมะลัง ทุกสิ่งจบสิ้นลงด้วยความตาย วุ่นวายทำไม ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    24,969
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +91,130
    อ นุ โ ม ท น า ส า ธุ . . . ดีแล้วชอบแล้ว

    เป็นอาการของปิติ อย่างหนึ่งครับ...ทำสมาธิได้นิ่งสงบ เป็น ปฐมญาน

    แนะนำให้อ่าน link นี้ประกอบครับ

    http://www.palungjit.org/smati/k40/smabat.htm
     
  3. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,608
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,017
    ไม่ต้องไปสนใจอะไรครับ เราไม่เป็นอะไรหรอกครับ จับอยู่ที่ลมหายใจของเราต่อไป อนุโมทนาครับ
     
  4. center-in-center

    center-in-center เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,717
    <TABLE class=tborder id=post1982945 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt1 id=td_post_1982945 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid">คุณ เจ้าของกระทู้
    คุณได้คำตอบในตัวเองอยู่แล้ว ก็คุณใช้ชื่อ "สัจจวาจา"
    ก็เพราะ สัจจะ นี่แหละ ที่จะทำให้สำเร็จ
    ถ้าท่านดำริ ในใจ หรือ ในวาจาก็ตาม แล้วทำให้ได้ดังที่พูดไว้ ท่านย่อมได้รับผลอันนั้น
    นั่นหมายความว่า การที่ท่านจะทำในสิ่งที่ท่านได้ให้สัจจะไว้ ท่านต้องอาศัยกำลังหลายอย่าง อาทิเช่น ความเพียร ขันติ อุเบกขา ฯลฯ
    เมื่อท่านทำสำเร็จท่านย่อมได้รับผลอันนั้น

    ทุกลมหายใจและทุกขณะจิตนี้ ล้วนเป็นพระธรรมโดยทั้งสิ้น ท่านเริ่มจากตรงไหนก้ได้ ย่อมเข้าถึงที่สุดแห่งธรรมได้เช่นกัน

    ท่านไม่ต้องแสวงหา หรือ ร้อนรน หรือ เปรียบเทียบกับผู้อื่นให้เสียเวลา
    เพราะถ้าท่านทำอย่างนั้น แสดงว่า "อัตตา" ย่อมมีอยู่
    "อัตตา" นี้ ทำให้มีการเพ่งโทษ ทำให้ มีการเปรียบ เทียบเรา-เขา
    "อัตตา" นี้ แม้สละซึ่งกายหยาบได้ แต่ยังมี "เรา" อยู่ จิตนั้นย่อมวนเวียนในสามภพไม่สิ้นสุด
    จงไม่ยึดกาย (กายหยาบ-กายทิพย์-กายธรรม-กายพรหม-กายอรหันต์) ไม่ยึดเวทนา ไม่ยึดจิต ไม่ยึดภาวะธรรม หรือ ฌาณสมาบัติ ใดๆ
    ก็จะหลุดพ้นจาก เหตุ-ปัจจัย กฎแห่งกรรม และ ไตรลักษณ์
    เพราะเมื่อหลุดพ้นแล้วย่อมไม่มีสิ่งใดครอบงำ ไม่มีคำใดในสามภพจะใช้แทน สิ่งที่หลุดพ้นได้ เพราะกบในกะลา ย่อมไม่รู้แจ้ง ในสิ่งนอกกะลา จึงนึกคิดต่างๆนาๆ ว่านอกกะลาเป็นอย่างไร มัวคิด ๆ พูดๆ จึงไม่มีเวลาใช้ปัญญาหาทางออกนอกกะลา

    รีบปฎิบัติ รีบใช้ปัญญากันเสียแต่ตอนนี้ จะพิจาณาอะไรก็ได้ เพราะทุกอย่างเป็น "ธรรม" อยู่แล้ว
    ทำที่สุดแห่งธรรม นั้นๆ ก็จะหลุดพ้น
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นทุกข์ จงทำทุกข์ให้แจ้ง ใช้ปัญญาให้ถึงที่สุด
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นกุศล จงทำกุศลให้แจ้ง ใช้ปัญญาให้ถึงที่สุด
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นอกุศล จงทำอกุศลให้แจ้ง ใช้ปัญญาให้ถึงที่สุด
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นอัพพยากฤต ก็จงทำให้แจ้ง ใช้ปัญญาให้ถึงที่สุด
    ถ้าสิ่งนั้นเป็นกาย ก็จงพิจารณากายในกาย ให้ถึงที่สุด
    ฯลฯ
    เมื่อถึงที่สุดแห่งธรรมนั้นๆ ก็จะหลุดพ้น

    สาธุ..
    <!-- / message -->
    <!-- / message --></TD></TR><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">[​IMG] [​IMG]<SCRIPT type=text/javascript> vbrep_register("1982945")</SCRIPT> [​IMG] </TD><TD class=alt1 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right><!-- controls -->[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  5. อนุญฺญา

    อนุญฺญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +131
    เคยนั่งสมาธิอยู่แล้วโสตประสาทเป็นสีขาวสว่าง ตัวเบา รู้สึกว่าลมหายใจเบามาก

    แล้วสักพักก็ได้ยินเสียงคลื่นวิทยุซ่าๆอยู่ใกล้ๆ
    ซึ่งไม่ไกลจากตัวมีวิทยุซึ่งไม่ได้เปิดตั้งอยู่และไม่ได้เสียบปลั๊ก
    และแน่ใจว่าไม่มีใครมาเปิดแน่ๆ เพราะอยู่คนเดียว

    ก็พยายามนิ่งอยู่ ไม่ได้สนใจ สักพักก็ได้ยินเสียงนั้นอีก

    นั่งไปอีกสักพักมันรู้สึกอยากลืมตามากๆ จึงฝืนไว้

    แต่ตอนหลังไม่ฝืน จึงออกมาปรับลมหายใจ เพราะไม่อยากออกจากสมาธิเร็วๆค่ะ
     
  6. อนุญฺญา

    อนุญฺญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +131

    ทำไมป็นแแบบนี้คะ
    ขอความรู้ด้วยค่ะ
     
  7. Jsus Christ

    Jsus Christ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    138
    ค่าพลัง:
    +82
    เป็น ปิติ
    อยู่ใน ระดับฌาน2
    ปิติ นั้นมีทั้ง ปิติทางกาย และ ปิติทางจิต

    แปลให้เข้าใจ ปิติ ก็คือ อาการแปรปรวนต่างๆ นานา
    บ้างก็เกิดจาก สภาพเป็นไปชั่วขณะ ทั้ง ทางกายภาพ และ ทางใจ
    บ้างก็เกิดจาก การปรุงแต่ง คิดขึ้นเอง ผุดคิดไปเอง จินตนาการต่อเพิ่ม

    ในการทำสมาธินั้น เราจะไม่ไหลไปตาม ปิติ ต่างๆนานานี้ แค่ กำหนดรู้ แล้ว ละ หรือ เลิกให้ความสนใจ ยิ่งเร็วยิ่งดี

    <font style="background:lime">เมื่อการ ปิติ ต่างๆ นี้ ไม่กวนต่อความสนใจของเราอีกต่อไป เราก็จะก้าวล่วงเข้าสู่ ฌาน3 คือ ฌานสุข นั่นเอง</font>
     
  8. Apinya Smabut

    Apinya Smabut นิพพานังสุขัง นิพพานเป็นสุขอย่างยิ่ง

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    1,398
    กระทู้เรื่องเด่น:
    57
    ค่าพลัง:
    +2,633

แชร์หน้านี้

Loading...