รวบรวมข้อมูลเตรียมตัวรับมือกับภัยพิบัติ

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย kananun, 28 กันยายน 2006.

  1. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ขอบคุณครับ คุณคณานันท์ ถ้ามีโอกาส จะไปร่วมฝึกสมาธิ ด้วยครับ

    สรุปตอนนี้ ผมจัดเป้ ให้พี่สาวเรียบร้อยแล้ว และส่งมอบไปแล้วครับ

    เป็นเป้ สำหรับภัย "แผ่นดินไหว" และ "เพลิงไหม้" ใช้ในตึกสูง(30 ชั้น)ครับ เน้นที่ความคล่องตัว ขนาดเล็ก และ รวดเร็ว ต่อการใช้งาน ผมจะอธิบาย เป็นอย่างๆไป ว่าทำไมผมเลือกใช้แบบนี้

    1. เป้ขนาดเล็ก ประมาณ 18-20 ลิตร สีส้มสะท้อนแสง ราคา 450 บาท ซื้อมาบุญครองชั้นล่าง

    เหตุผลการเลือก ความคล่องตัว เล็ก ไม่จุสิ่งของมาก จุเฉพาะสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้จริงๆ หากมีซากปรักหักพัง ก็สามารถมุดได้ง่ายกว่า เป้ใหญ่ๆที่มีความเทอะทะ และ เลือกสีส้มสะท้อนแสง เพื่อให้ผู้อื่นสามารถค้นหาได้ง่ายกว่าสีอื่นๆ สำหรับเป้ใบนี้ ก็จะมี เชือกระโยงระยาง ที่รัดกับเป้ไว้ ผมตัดออกหมด เพื่อไม่ให้เวลาเดินเบียดๆ ไปเกี่ยวกับใคร หรือ เกี่ยวสิ่งอื่นๆ ของตัวอาคารในขณะที่มุดซากปรักหักพังครับ

    2. นกหวีด Storm จำนวน 1 อัน ราคา 299 บาท ซื้อในบอร์ดซื้อขาย เว็บ tkt

    เหตุผลการเลือก เนื่องจากเป็นนกหวีดที่บอกไว้ว่า "ดังที่สุดในโลก" ผมคิดว่า ถ้าเป่าเบาๆ ก็คงจะดังมากเหมือนกัน หากเราติดอยู่ในซาก ซึ่งสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ แต่อากาศมีน้อย ก็สามารถเป่านกหวีดได้ โดยไม่ต้องเป่าแรงๆ ไม่ให้เหนื่อยง่ายด้วยครับ

    3. แท่งเรืองแสง จำนวน 3 แท่ง รวมราคา 120 บาท ซื้อจากร้าน Kitcamp

    เหตุผลการเลือก เพื่อไว้เป็นการให้สัญญาณขอความช่วยเหลือ หรือ ไว้ส่องสว่างได้ หากไฟฉายที่เตรียมไว้เกิดไม่ทำงาน และแท่งเรืองแสงนี้ผมคิดว่า ต้องเป็น "สีเขียว" เท่านั้น ผมมองไปถึง ถ้าใช้สีแดง สีส้ม คงไม่เหมาะ เพราะมันคงจะสีกลืนไปกับ ไฟไหม้ หรือเพลิงไหม้ ครับ ทำให้ไม่สามารถส่งสัญญาณได้ ครับ

    4.มีดอเนกประสงค์ จำนวน 1 อัน ราคา 150 บาท หน้าตาคล้ายๆ มีดสวิส ซื้อที่ ร้าน TKT Shop

    เหตุผลการเลือก คิดว่าไม่มีอะไรมาก ครับ อุปกรณ์ก็รู้ๆกันอยู่ว่ามีอะไรบ้าง มีด เลื่อย ที่เปิดขวด ที่เปิดกระป๋อง เผื่อจะได้ใช้บ้างครับ

    5.ไฟฉายขนาดถ่านก้อน D พร้อมแบตเตอรี่ขนาด D จำนวน 2 ก้อน ราคา 200 บาท จำนวน 1 ชุด ซื้อได้ตามห้างทั่วไปครับ

    เหตุผลการเลือก ตอนแรกผมคิดว่าจะใช้พวก LED เหมือนกัน แต่ด้วยระยะเวลา ที่หนี นั้น อาจจะใช้เวลาไม่มากนัก และ LED ก็มีลำแสงที่ไม่ค่อยพุ่งเท่าไหร่นัก ผมจึงเลือกใช้ ไฟฉายธรรมดา หลอดคลิปตัน ที่ราคาไม่แพง และทำไมถึงเลือกขนาด D ผมนึกถึงเวลาที่ฉุกเฉินจริงๆ ทุกอย่างต้องมีความรวดเร็ว ตั้งสติและหนี ในช่วงเวลาไม่กี่วินาที ผมเลือก ขนาด D เพราะมันมีขนาดใหญ่ และสามารถค้นหา และหยิบจับ ในเป้ ได้ง่ายกว่า ไฟฉายขนาดเล็ก(พวกไฟฉายแรงๆ Tactical Light) และให้ความสำคัญกับการใส่ถ่านก้อน D เข้าไปในไฟฉาย ในเวลาไม่กี่วินาที สามารถใช้ได้ทันทีครับ

    6.ชุดปฐมพยาบาล จำนวน 1 ชุด ชุดละ 250 บาท ซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป บรรจุอยู่ในกล่องกันน้ำ มีดังนี้ครับ
    - ยาทาแผล เบตาดีน
    - ยาทาป้องกันแบคทีเรีย สำหรับ ไฟลวกผิวหนัง
    - พลาสเตอร์กันน้ำขนาดต่างๆ
    - พลาสเตอร์แบบผ้า ติดแน่น
    - ผ้าก๊อซ
    - เทปติดผ้าก๊อซ
    - ยา Ibuprofen 1 แผง

    เหตุผลการเลือก เนื่องจากเป็นเป้ ที่ใช้ แผ่นดินไหว และ เพลิงไหม้ครับ ผมจะจัดยา ชุดปฐมพยาบาล ไปทางนี้เสียมากกว่า และ มีจำนวนไม่เยอะนัก เพื่อความคล่องตัว และเบา

    7. ถุงมือหนัง จำนวน 2 คู่ รวมราคา 100 บาท ตามร้านวัสดุก่อสร้าง , Home pro

    เหตุผลการเลือก เลือกถุงมือหนังดีกว่าครับ และถุงมือหนังนี้เป็นถุงมือหนังสำหรับงานช่าง(งานหนัก)ครับ ใช้ดี เวลาที่ยกหิน ยกซากปรักหักพัง ดีครับ

    8. หน้ากากกันฝุ่น ผงซีเมนต์ 3M N95 จำนวน 2 ชิ้น ราคา 90 บาท ซื้อได้ที่ Home Pro ครับ

    เหตุผลการเลือก คงจะทราบกันดีอยู่แล้วครับ หากมีแผ่นดินไหว พวก ฝุ่น ผงซีเมนต์ ใยหิน คงจะมีมากครับ ต้องใช้ N95 เท่านั้น

    9.ออกซิเจนกระป๋อง จำนวน 1 กระป๋อง ราคา 150 บาท ซื้อที่ tkt shop

    10. อาหารฉุกเฉิน Seven Oceans จำนวน 1 กล่อง ราคาประมาณ 380 บาท

    เหตุผลการเลือก เนื่องจากเก็บได้นาน ถึง 5 ปี จะมีความคงทน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ และมีความเบา ให้พลังงานสูงมากครับ คงไม่เขียนอะไรมากเนื่องจาก ก็รีวิว มาบ้างแล้ว

    แต่ลองดูว่า รสชาติ เป็นอย่างไร อ่านที่นี่ครับ ถ้าว่างๆ มีเวลาก็ลองไปชิมที่ร้าน Kitcamp ได้ ผมทิ้งไว้ให้ ลองโทรไปก่อนครับ ไม่แน่ใจว่าหมดหรือยัง
    http://board.trekkingthai.com/board/show.php?forum_id=7&topic_no=150481&topic_id=152333

    11. น้ำดื่มฉุกเฉิน Seven Ocean จำนวน 1 แพ็ค ราคาประมาณ 140 บาท

    เหตุผล ก็คงเหมือนกับ อาหารฉุกเฉิน ครับ
     
  2. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    จะมีงานเกี่ยวกับภัยพิบัติ แบบคราวก่อนอีกเมื่อไหร่ครับ คุณคณานันท์ ผมยังอยากฟังอีกหลายเรื่อง ครับ
     
  3. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    ถึงเวลาจะแจ้งให้ทราบครับ ไม่งั้นก็จัดนอกสถานที่แบบที่คุยกันกับคิท

    ที่เราจะจัดแคมป์ปิ้งที่สวนรถไฟครับ
     
  4. วัสสานะ

    วัสสานะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    268
    ค่าพลัง:
    +565
    ข้อมูลเป็นประโยชน์ครับ ขอเพิ่มเติม

    ผมอ่านเจอข้อมูลว่าคนเราต้องการพลังงานเฉลี่ย 1,500-2,000 กิโลแคลอรี่ ต่อวัน
    ถ้าสามวันไม่ใช้พลังงานมาก 2,500 กิโลแคลอรี่ อาจพอครับ แต่ถ้ามีกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงาน อาจให้พลังงานไม่พอ มีอาหารเพิ่มอีกหน่อยก็ดีครับ
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ถ่านอัดแท่ง
    (ใช้กับเตาอั้งโล่แทนเตาผิงไฟ)

    [​IMG]

    [​IMG]

    บริษัท thailand-anthraciteได้มีการพัฒนาการผลิตถ่านอัดแท่ง ( Log Charcoal ) เพื่อให้ได้ถ่านอัดแท่งที่มีคุณภาพดี ให้ความร้อนสูง ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ จากการที่เราได้นำเศษชิ้นที่เหลือใช้ ของถ่านไม้เบญจพรรณคุณภาพสูง มาผสมกับเศษชิ้นที่เหลือใช้ของถ่านกะลามะพร้าว แล้วนำไปอัดเป็นแท่ง แล้วนำไปอบลดความชื้น จากนั้นนำถ่านที่ได้จากการผลิตไปเข้าห้องแลป เพื่อตรวจสอบคุณภาพของถ่านบาร์บีคิว ( Log Charcoal ) ก่อนนำออกจำหน่าย เหมาะสำหรับ ธุรกิจร้านอาหารประเภท ปิ้ง ย่าง เผา อบ ต้ม แทนถ่านไม้ที่ใช้ทั่วไป

    <TABLE><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE>
    • ให้ความร้อนสูง เนื่องจากเป็นถ่านที่ได้รับการเผาไหม้เต็มที่ ประสิทธิภาพดีกว่าถ่านอัดแท่งจากขี้เลื่อย
    • ปลอดภัย ไม่มีสารตกค้าง และไม่ทำลายสุขภาพเพราะถ่านได้ถูกเผาไหม้ด้วยอุณหภูมิเกิน 800 องศา ทำให้ไม่มีสารก่อมะเร็ง ( สามารถทดสอบกับถ่านทั่วไปได้โดยการนำไปต้มน้ำร้อน หากก้นหม้อเป็นเขม่าสีดำแสดงว่า ถ่านที่ใช้ถูกเผามาไม่สุกและมีสารก่อมะเร็ง
    • ใช้ได้นาน สามารถใช้ได้นานกว่าถ่านไม้ธรรมดาถึง 2 - 3 เท่า
    • ประหยัดค่าใช้จ่าย
    • ไม่แตกประทุ อย่างถ่านไม้ทั่วไป
    • มีควันน้อย
    • ไม่มีกลิ่น เพราะผลิตจากวัสดุธรรมชาติ 100 % ไม่ผสมสารเคมีใด ๆ
    • ให้ความร้อนสม่ำเสมอ ไม่วูบวาบเนื่องจากความหนาแน่นของถ่านเท่ากันทุกส่วน
    ผลิตภัณฑ์ถ่านอัดแท่ง
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD width=25 height=25>[​IMG]</TD><TD class=LeftSpaceTB></TD><TD>ถ่านอุตสาหกรรม</TD><TD width=25 height=25>[​IMG]</TD><TD class=LeftSpaceTB></TD><TD>ถ่านอัดแท่ง</TD><TD width=25 height=25>[​IMG]</TD><TD class=LeftSpaceTB></TD><TD>ถ่านบาร์บีคิว</TD><TD width=25 height=25>[​IMG]</TD><TD class=LeftSpaceTB></TD><TD>ถ่านเมล็ดถั่ว</TD></TR></TBODY></TABLE>

    โรงงานอุตสาหกรรมผลิตถ่านอัดแท่งและถ่านอัดก้อน คุณภาพส่งออก สำหรับร้านอาหาร โรงแรมและภัตตาคารชั้นนำ โรงหล่อ โรงชุบ ผลิตจากผงถ่านไม้เบญจพรรณ คุณภาพสูงเผานานกว่า 72 ชั่วโมง มีคุณสมบัติคือ ควันและขี้เถ้าน้อย ไม่แตกประทุขณะใช้ ให้พลังงานความร้อนสูงสม่ำเสมอ

    สามารถใช้ได้นานกว่าถ่านไม้ธรรมดา 2-3 เท่า ราคา ถ่านอัดแท่งกะลา 12 บาท/กก ถ่านอัดแท่งไม้ธรรมชาติ 8 บาท/กก. กำลังการผลิต 1000 ตัน/เดือน สนใจติดต่อ บ.เอ็นเนอร์ยี่ ชาร์โคล จำกัด โทร 02-9480379 มือถือ 089-7899053 (คุณบรรจง) หรือ 089-7899063 (คุณชัยรัตน์)

    ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.thailand-anthracite.com
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • test_charcoal.JPG
      test_charcoal.JPG
      ขนาดไฟล์:
      27.1 KB
      เปิดดู:
      3,113
    • FH6601.jpg
      FH6601.jpg
      ขนาดไฟล์:
      16 KB
      เปิดดู:
      4,993
  6. sutatip_b

    sutatip_b เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    3,197
    ค่าพลัง:
    +26,189
    URGENT FIRE-PAK ชุดอุ้มชีวิตฝ่าพายุเพลิง นวัตกรรมหนีตายแบบพกพา <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td bgcolor="#cccccc" height="1">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline">โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</td> <td class="date" align="left" valign="baseline">9 กุมภาพันธ์ 2552 10:12 น.</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="4" cellspacing="0" width="100%"> <tbody><tr> <td align="center" valign="middle">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="100%"><tbody><tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="284"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="284"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ภาพจำลองการใช้งานชุดอุปกรณ์ URGENT FIRE-PAK </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ภาพผู้คนล้มตายจากเหตุเพลิงไหม้ซานติ ก้าผับเมื่อคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่ผ่านมา สร้างความเศร้าสะเทือนใจ พร้อมเป็นบทเรียนราคาแพงให้ทุกฝ่ายต้องหันกลับมาล้อมคอกรับมือเหตุร้ายที่ อาจเกิดขึ้นได้ทุกเวลา

    ปฏิเสธ ไม่ได้ว่า ที่ผ่านมา คนไทยใส่ใจรักษาความปลอดภัยของชีวิตจากอัคคีภัยในระดับต่ำ อุปกรณ์ป้องกันต่างๆ ติดตั้งไว้ส่วนใหญ่แค่เอาหน้ารอดจากข้อกฎหมาย ไม่ได้เกิดจากจิตสำนึกเตรียมพร้อมจะช่วยเหลือชีวิตผู้คนได้อย่างแท้จริง

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">นพมาศศิริ ดำรัสธรรม (ซ๊าย) และลำเพาพรรณ ลีรพันธุ์ </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> แต่สำหรับ “ลำเพาพรรณ ลีรพันธุ์” และ “นพมาศศิริ ดำรัสธรรม” ตระหนักถึงปัญหาดังกล่าวมายาวนาน จึงคิดค้น URGENT FIRE-PAK ชุดอุปกรณ์ช่วยชีวิตส่วนบุคคลยามตกอยู่ในเหตุเพลิงไหม้ มากว่า 5 ปีแล้ว ถือเป็นรายแรกและรายเดียวในประเทศไทย โดยแรงบันดาลใจเกิดจากจิตสำนึกที่บอกตัวเองตลอดมาว่า ชีวิตมีค่าเหนือสิ่งอื่นใด หากสูญเสียไป ไม่มีอะไรทดแทนได้

    “จุด เริ่มต้นมาจากเหตุการณ์ 911 มีข่าวคนติดอยู่ในซากตึก แล้วพยายามโทรศัพท์ออกมาหาแม่ เพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ยังไม่ทันได้พูด ก็หมดสติไปก่อนเพราะขาดอากาศหายใจ เนื่องจากสำลักควัน หากเขามีเวลาอีกแค่ 2-3 นาที ก็จะรอดชีวิตแล้ว ประกอบกับเวลานั้น พบอุปกรณ์ต้นแบบช่วยชีวิตจากไฟไหม้ของวิศวกรไทยท่านหนึ่ง จึงเกิดความสนใจนำมาต่อยอด เชื่อว่า ถ้าทำสำเร็จจะช่วยชีวิตคนได้อีกมหาศาล” นพมาศศิริ เผย

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ชุดแบบต่างๆ </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> อย่างไรก็ตาม ชุดต้นแบบดังกล่าว คุณสมบัติยังไม่เหมาะกับการใช้งานจริง ไม่ว่าจะเป็นด้านระบบ และมาตรฐานวัสดุอุปกรณ์ ดังนั้น ได้วิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์ขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง ศึกษาจากตำราวิชาการในและต่างประเทศ อีกทั้ง ได้รับการสนับสนุนการพัฒนานวัตกรรม จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) นอกจากนั้น จำลองเหตุการณ์เพื่อทดสอบการทำงานจริง กว่าจะได้ชุดที่สมบูรณ์แบบใช้เวลามากกว่า 3 ปี กับงบประมาณกว่าล้านบาท โดยจดเป็นสิทธิบัตรไว้แล้ว

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="300"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="300"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">กระป๋องบรรจุอากาศบริสุทธิ์ </td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ลำเพาพรรณ เล่าว่า อุปกรณ์แก้ปัญหาอัคคีภัยที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน แทบทั้งหมดใช้เพื่อดับไฟที่กำลังไหม้อาคารหรือสถานที่ ไม่ได้ช่วยให้คนหนีรอดออกมาได้ ขณะที่มากกว่า 95% ของผู้เสียชีวิตจากอัคคีภัยมาจากการสำลักควันก่อนความช่วยเหลือจะมาถึง จาก การวิจัยระบุชัดว่า ช่วงเวลาวิกฤตที่สุดของเหตุเพลิงไหม้จะอยู่ระหว่าง 5-10 นาที ถ้าไม่สามารถพาตัวเองออกจากช่วงเวลานี้ไปได้ 70% จะเสียชีวิต ดังนั้น ชุดอุปกรณ์ URGENT FIRE-PAK เน้นให้ผู้ประสบเหตุสามารถพาตัวเองออกมาให้รอดจากจุดที่วิกฤตที่สุดให้ได้ด้วยตัวเอง

    ผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบเป็นชุดสำเร็จรูป ประกอบด้วยหมวกครอบศีรษะที่ทำจากพลาสติกชนิดพอลิโพรไพลีน(polypropylene) ปราศจากสารพิษ ทนความร้อนได้กว่า 160 องศาเซลเซียส สามารถปกป้องอวัยวะตา หู จมูก ปากจากควันไฟได้ ส่วนด้านหน้าหมวกเชื่อมต่อกับวาล์วและท่อนำอากาศ ซึ่งสายจะเชื่อมจากกระป๋องบรรจุอากาศบริสุทธิ์ สามารถปล่อยให้อากาศไหลออกมาอย่างอัตโนมัติในอัตราที่พอเพียงจะใช้หายใจได้ ในเวลา 3-15 นาที (แล้วแต่จำนวนกระป๋องที่บรรจุ) อีกทั้ง อุปกรณ์ต่างๆ ยังเรืองแสง ช่วยมองเห็นในที่มืด โดยชุดอุปกรณ์ต่างๆ เก็บไว้ใช้งานนานได้กว่า5 ปี ส่วนกระเป๋าบรรจุอากาศ เก็บไว้ได้นาน 2 ปี

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="325"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="325"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">ทดสอบการทำงานจากการจำลองเหตุการณ์</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> สำหรับขั้นตอนใช้งานเพียงสวมชุดอุปกรณ์เข้ากับตัว สวมถุงครอบศีรษะ ดึงสายรัดทั้งสองด้านให้พอดีรอบคอ อมจุกยางไว้หายใจออกทางปาก กดปุ่มล็อกค้างอากาศจะออกมาตามสายเองโดยอัตโนมัติ ซึ่งขั้นตอนต่างๆ เหล่านี้ ถ้าผ่านการฝึกฝนจะปฏิบัติได้ภายในเวลาไม่เกิน 10 วินาที ต่ำกว่าเกณฑ์มาตรฐานสากลที่กำหนดว่า อุปกรณ์ช่วยชีวิตยามเกิดไฟไหม้ควรปฏิบัติการได้ภายในเวลา 30 วินาที

    นพมาศศิริ อธิบายเสริมว่า ในต่างประเทศมีอุปกรณ์ลักษณะใกล้เคียงกัน ทว่า มีน้ำหนักมากถึง 3-5 กิโลกรัม ส่วน URGENT FIRE-PAK ทั้งชุดหนักเพียงประมาณครึ่งกิโลกรัม ไม่ เป็นอุปสรรคต่อการวิ่ง ทำให้เด็กหรือสัตว์เลี้ยงสามารถใช้งานได้สะดวก นอกจากนั้น สินค้าของต่างประเทศ ราคาสูงกว่า 2-3 หมื่นบาท ขณะที่สินค้าไทยชิ้นนี้ ราคาเริ่มต้นที่พันกว่าบาท สำหรับแบบพกพากระป๋องเดี่ยว ส่วนราคาสูงสุดแบบชุดติดผนังประมาณ 6 พันกว่าบาท

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="400"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="400"> [​IMG] </td> </tr> <tr><td class="Image" align="left" valign="baseline">แบบตู้ติดผนัง</td></tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> ด้านการทำตลาดนั้น ลำเพาพรรณ เผยว่า จะเข้าไปเสนอสินค้าด้วยตัวเองตามหน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน หากเป็นองค์กรที่มีผู้บริหารชาวต่างชาติ จะให้การตอบรับสินค้านี้อย่างดียิ่ง ตรงกันข้ามกับหน่วยงานของไทย โดยเฉพาะภาครัฐ แม้จะชื่นชมและเห็นความสำคัญ แต่ปฏิเสธการสั่งซื้อ ด้วยเหตุผลว่า ไม่มีงบประมาณพอสำหรับซื้ออุปกรณ์ดูแลความปลอดภัย

    “ส่วน ตัวดิฉันมั่นใจว่า สินค้านี้มีตลาดที่ใหญ่มาก แต่เรายังไม่สามารถไปถึงจุดที่เปิดตลาดได้สำเร็จ เนื่องจากปัญหาสำคัญ คือ ภาครัฐ และคนไทย ยังไม่ได้ให้ความใส่ใจกับความปลอดภัยอย่างจริงจัง แต่หลังเหตุซานติก้า หวังว่า คงมีความตื่นตัวในด้านการหนีไฟและเตรียมการต่างๆ มากขึ้น โดยเฉพาะในระดับนโยบายจากผู้บริหารองค์กรต่างๆ เราต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึกสาธารณะในด้านความปลอดภัยให้เป็นวัฒนธรรม เพื่อตระหนักถึงภัยต่างๆ และให้คนไทยมีสัญชาตญาณในการเอาตัวรอดเมื่อเผชิญเหตุการณ์อันตราย อีกทั้งขอให้ช่วยกันสนับสนุนสินค้าไทยเพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ และการเสียดุลการค้าต่างประเทศ” ลำเพาพรรณ ระบุ

    </td> </tr> <tr> <td class="body" align="left" valign="baseline"> <table align="center" border="0" cellpadding="0" cellspacing="0"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top"> <table border="0" cellpadding="0" cellspacing="0" width="307"> <tbody><tr> <td align="center" valign="top" width="307"> [​IMG] </td> </tr> </tbody></table></td> </tr> <tr> <td align="center" height="5" valign="top">[​IMG]</td> </tr> </tbody></table> คู่หูธุรกิจ ทิ้งท้ายว่า ถึงจะผลิตอุปกรณ์ช่วยชีวิตจากอัคคีภัย แต่ภาวนาว่า อย่าให้มีใครต้องประสบเหตุเพลิงไหม้จนต้องใช้สินค้าตัวนี้จริงๆ เลย ขอเพียงซื้อสินค้าชิ้นนี้เหมือนการทำประกันชีวิต เพื่อความสบายใจโดยหวังว่าเหตุร้ายจะไม่เกิดขึ้น

    ********************

    โทร.0-2255-2808 , [​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG][​IMG]0-2254-5434[​IMG] และwww.urgentfirepak.net</td></tr></tbody></table>
     
  7. Forever In LoVE

    Forever In LoVE เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,349
    ค่าพลัง:
    +3,864
    เจอบทความนี้ที่เว็บ สสส
    เห็นว่าเข้ากันได้ ขอนำมารวบรวมไว้ที่กระทู้นี้นะคะ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    [​IMG]
    อุปกรณ์อย่างหนึ่ง ที่คนขับรถควรจะมีครับ

    ผมเคยประสบอุบัติเหตุรถคว่ำมาแล้ว

    แล้วปรากฏว่า ประตูเสีย เปิดไม่ได้ เนื่องจากว่า เราล็อกประตูครับ ขนาดเป็นระบบธรรมดา ที่ไม่ใช่ไฟฟ้า ถ้าเป็นไฟฟ้า เราก็เชื่อใจไม่ได้เช่นเดียวกันครับ

    แนะนำผู้ที่ขับรถ

    ขับรถทางไกล ความเร็วสูง ต่างจังหวัด ไม่ต้องล็อกประตูครับ

    แต่ถ้าวิ่งช้าๆ จราจรแออัด ก็ล็อกได้ครับ กันคนแปลกหน้ามาเปิดประตู

    ลองดูการใช้งานครับ

    http://www.youtube.com/watch?v=9TdxAGeeWjM
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • bodygard.gif
      bodygard.gif
      ขนาดไฟล์:
      11.6 KB
      เปิดดู:
      3,340
  9. ragpon

    ragpon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    456
    ค่าพลัง:
    +954
    อัพโหลด รูปลงได้แล้วครับ เป็นแผนที่ประเทศไทยความละเอียดค่อนข้างสูงครับ เกี่ยวกับเส้นทางเดินต่างๆ เน้นถนนครับ
    http://palungjit.org/attachmen...1&d=1235230469<!-- google_ad_section_end -->
     
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>กูเกิลเปิดตัวแผนที่ดิจิตอลเวอร์ชันไทย</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 กุมภาพันธ์ 2552 10:17 น.</TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG]

    กูเกิล เปิดตัว Google Maps ประเทศไทย ด้วยการนำเสนอแผนที่เสมือนจริงของประเทศไทยที่ครบถ้วนสมบูรณ์ พร้อมรองรับการค้นหาข้อมูลทั่วประเทศ

    พรทิพย์ กองชุน ผู้จัดการฝ่ายการตลาดประจำประเทศไทย กูเกิล เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ไทยเป็นประเทศแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่พร้อมเปิดตัวแพลตฟอร์มการค้นหาข้อมูลทางภูมิศาสตร์ในเวอร์ชันท้องถิ่น ที่มีความยืดหยุ่นและเอื้อต่อการทำงานร่วมกันแก่ผู้ใช้งาน พร้อมรองรับการทำงานร่วมกันอย่างยืดหยุ่น กูเกิลจึงได้เปิดตัว Google Maps ประเทศไทย (http://maps.google.co.th) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการค้นหาแบบใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ชาวไทยสามารถค้นหาข้อมูลทางภูมิศาสตร์ เช่น แผนที่ออนไลน์ ภาพถ่ายดาวเทียม เส้นทางการขับรถ ที่อยู่ และรายชื่อองค์กรธุรกิจ บนเครื่องพีซีหรือโทรศัพท์มือถือ และเป็นภาษาไทย

    นอกจากนี้ แพลตฟอร์มการทำงานร่วมกันแบบเปิดกว้างนี้ เปิดโอกาสให้ผู้ใช้องค์กรธุรกิจ และนักพัฒนาในเมืองไทยสามารถแลกเปลี่ยนแผนที่และความรู้เกี่ยวกับท้องถิ่น เพื่อสร้างภาพรวมของประเทศไทยตามมุมมองและประสบการณ์ของคนไทย พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับถนนหนทาง ที่อยู่ ของบริษัทห้างร้านและองค์กรธุรกิจหลายแสนแห่งทั่วประเทศ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับท้องถิ่นได้อย่างสะดวกรวดเร็วและครบถ้วนสมบูรณ์

    Google Maps จะแสดงชื่อสถานที่เป็นภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เพื่อให้ชาวไทยและชาวต่างชาติสามารถสร้างข้อมูลและแบ่งปันให้คำแนะนำที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับเมืองไทย ซึ่งจะช่วยปรับปรุงคุณภาพของแผนที่ประเทศไทยที่ใช้งานง่ายและครบถ้วนสมบูรณ์มากที่สุด

    นอกจากการค้นหาพิกัดทางภูมิศาสตร์ในระดับท้องถิ่นแล้ว ข้อมูลและเครื่องมือบน Google Maps ประเทศไทย และเว็บไซต์ต่างๆ ยังผสานรวมอย่างกลมกลืนเข้ากับชีวิตประจำวันของผู้ใช้ชาวไทย องค์กรต่างๆ ในเมืองไทย เช่น HSBC (everydaydiningdelight.com), ไอซีเว็บ(bkkmenu.com), โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ , ไทยทิคเก็ตเมเจอร์, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, แวร์ อิน ไทยแลนด์ และสเปซ ไมเนอร์ สนับสนุนการพัฒนา Google Maps เพื่อให้ผู้ใช้สามารถค้นหาตำแหน่งขององค์กรธุรกิจและสถานที่ที่น่าสนใจ ตรวจสอบกิจกรรมและภาพยนตร์ที่กำลังฉายในละแวกใกล้เคียง แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวให้แก่เพื่อนชาวต่างชาติ ค้นหาร้านอาหารและร้านค้าต่างๆ

    ผู้บริหารกูเกิลกล่าวว่า กูเกิลมุ่งเน้นการจัดระเบียบข้อมูลของโลก เพื่อให้สามารถเข้าถึงได้ง่ายและเป็นประโยชน์สำหรับทุกๆ คน การเปิดตัว Google Maps ประเทศไทยครั้งนี้ เป็นอีกย่างก้าวที่สำคัญในการช่วยให้ผู้ใช้ชาวไทยสามารถค้นหาข้อมูลทางภูมิศาสตร์ตามที่ต้องการเป็นภาษาไทย โดยคลิกเมาส์เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น ไม่ว่าจะเพื่อการทำงานหรือความบันเทิง Google Maps ประเทศไทย เป็นแพลตฟอร์มแบบเปิดที่รองรับการทำงานร่วมกันได้อย่างยืดหยุ่นสำหรับผู้ใช้

    Company Related Links :
    Mapsgoogle

    ที่มา http://www.manager.co.th/CyberBiz/ViewNews.aspx?NewsID=9520000022607
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    น้ำเอนไชด์..ช่วยโลกและตัวเราเอง

    [​IMG]

    [SIZE=-1]ทำไม่ยากเพียงแต่อาศัยเวลา[/SIZE]

    [SIZE=-1]ประโยชน์[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ดื่มแล้วสดชื่น ผิวดีไม่ผุผอง เป็นตุ่มก็จะหาย แก่ช้า ผิวพรรณเปล่งปลั่ง หินปูนไม่เกาะตามกระดูก ปรับสมดุลร่างกาย ไม่เป็นหวัดและสุขภาพดี[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ลดไข้ ป้องกันการติดเชื้อ จะเพิ่มภูมิคุ้มกันในต่อมน้ำเหลือง แก้ภูมิแพ้[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ใช้ล้างตา 1 หยดเหมือนน้ำหยอดตา รักษาตาแดง ตาอักเสบจะสมานเนื้อเยื่อ[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ถนอมอาหาร อาหารหมัดดองจะไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ ใช้หมักอาหารไม่บูด หรือฉีดพ่นของแห้งเช่นมะขามไม่ขึ้นรา[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ทำน้ำหอม แชมพูผมจะดีและหนังศรีษะไม่แห้งไม่เป็นตุ่ม ทำสบู่ผิวดีไม่เป็นผื่นคัน [/SIZE]
    [SIZE=-1]*หมักในห้องจะสดชื่นเพราะเพิ่มออกซิเจนและไม่มีแมลง[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ใส่น้ำเครื่องรถหม้อน้ำ จะไม่เป็นสนิมล้างสนิมและถนอมเครื่องยนต์รถ[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ล้างพื้นคราบไขมันคราบสนิมสิ่งสกปรกทั้งหลาย[/SIZE]
    [SIZE=-1]*เพิ่มผลผลิตการเกษตรทั้งผลและดอกและกำจัดสศัตรูพืชพวกแมลงที่ทำลายต้นไม้[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ทำสีช่วยย่อยกระดาษ[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ช่วยให้สภาพแวดล้อมอากาศและน้ำดินดีขึ้น [/SIZE]

    [SIZE=-1]ก่อนอื่นเตรีมผักผลไม้แล้วแต่เราอยากใช้อะไร แครอท ลูกยอ แอปเปิล องุ่น มะนาวฯลฯได้ทั้งนั้น มีประโยชน์ทำได้หมด แต่วันนี้กอล์ฟทำจากลูกสมอ(จัดเป็นผลไม้อายุวัฒนะคือลูกยอ สมอและมะขามป้อม) [/SIZE]

    [SIZE=-1]สูตรและประโยชน์เหล่านี้ ได้มาจากการคิดค้นทำวิจัยเผยแพร่โดย คุณหมอ ดร.รสสุคนธ์ พุ่มพันธ์วงศ์[/SIZE]

    [SIZE=-1]ขั้นที่1[/SIZE]
    [SIZE=-1]ทำทานเลยใช้ [/SIZE]
    [SIZE=-1]น้ำผึ้งใส่ขวด 2 ช้อน(1ส่วน) (ถ้าใช้น้ำตาลแบบทำไวน์จะอันตรายเพราะทำลายเนื้อเยื่อกระเพาะนะคะ)[/SIZE]
    [SIZE=-1]สมอ(ผลไม้)กะเอา3ส่วน [/SIZE]
    [SIZE=-1]น้ำ 10 ส่วนคือเกือบเต็มขวด แต่เหลือที่ให้มีอากาศในขวดบ้างนะคะ[/SIZE]
    [SIZE=-1]หมัก 3 เดือน แต่ที่เขาทำขายที่ฮิตๆๆเช่นน้ำลูกยอบางทีก็ 1 เดือนแล้วเขย่าขวดหรือถังเพื่อเร่งปฎิกิริยากาย่อยเอนไซด์ [/SIZE]

    [SIZE=-1]ขั้นที่2[/SIZE]
    [SIZE=-1]หลังจากถ้าเราหมัก 3 เดือนถ้าอยากเพิ่มปริมาณขยายจากขวดเดียวขยายได้อัลลิมิเตดเลยคะถ้าคิดจะทำขายนะ[/SIZE]
    [SIZE=-1]คือขวดที่ 1 หมัก 3 เดือนนะขยายต่อ คือ[/SIZE]

    [SIZE=-1]น้ำจากขวดหมัก1ส่วนก็ประมาณแก้วเล็ก 1 แก้วคะ+น้ำผั้ง1ส่วน+น้ำ 10 ส่วน[/SIZE]
    [SIZE=-1]กากผลไม้ก็ใช้ขยายได้ไม่ต้องทิ้งเน่าๆๆอย่างนั้นแหละ กาก 1 ส่วน+น้ำผึ้ง 1ส่วน+น้ำ 10 ส่วน[/SIZE]

    [SIZE=-1]ถ้าขั้นนี้เราไม่อยากขยายต่อก็หมักต่อแต่ถ้าประสิทธิภาพดีสุดจะหมัก 6 ปีแนะคะ 2 ปีก็พอใช้ได้[/SIZE]

    [SIZE=-1]แต่ต้องเติมน้ำผึ้งทุก 2 เดือน 2 ปีก็เท่ากับ 14 ครั้ง แล้วหลังจาก 2 ปี ไม่ต้องทำอะไรปล่อยทิ้งไว้ 4 ปีจะได้น้ำเอนไซด์ที่ดีที่สุดเพราะเข้มข้น ชนิดที่เติมน้ำเปล่าแค่ฝาเดียวก็เป็นน้ำเอนไซด์ทั้งขวดเลยคะ แต่ถ้าใครอยากได้มากๆๆก็ขยายเพิ่มวนแบบเดิมขั้นที่ 2 นะแหละคะแต่จะเปลืองน้ำผึ้งนะขอบอก [/SIZE]


    [SIZE=-1]<CENTER></CENTER>
    [​IMG][/SIZE]​


    [SIZE=-1]รูปขั้นตอนสุดท้ายทำ สังเกตน้ำจะไม่เต็มขวดนะเหลือที่ให้อากาศไว้ด้วยนะ แล้วจดกันลืมเติมน้ำตาลแต่ละเดือน น้ำมากไปน้ำผึ้งจะเป็นแอลกอฮอล์ น้ำผึ้งเข้มข้นจะไม่เปรี้ยว แล้วตั้งทิ้งไว้ในห้อง ถ้าอุณหภูมิทั่วไปถ้าอากาศเย็นก็เป็นช้านิดนึง เอนไซด์กระตุ้นการย่อยสลายทำให้เกิดออกซิเจน จากจุลินทรีแปลงมาเป็นเอนไซด์ ทดสอบน้ำที่เน่าพอเติมหรือทำน้ำเอนไซด์เอากระดาษลิสมัสที่ทดลองกรดด่างวัดจะได้เป็นน้ำดีมีออกซิเจนมาก[/SIZE]

    [SIZE=-1]การนำมาประยุกต์ใช้ [/SIZE]
    [SIZE=-1]*ดื่มวันละช้อน ถ้าเป็นไข้ใช้ที่หมักอายุมากสุดแต่ปริมาณน้อยที่สุด อ่อนเพลียใช้แบบที่สารอาหารมากที่สุด[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ถ้าไม่อยากให้อาหารหมักดองเป็นอันตรายให้เอาเอนไซด์ 6 ปีใส่ 1 ช้อน[/SIZE]
    [SIZE=-1]*น้ำยาล้างตาเอาที่มีแก็สอ่อนๆๆไมใช่กรดผลไม้กรดไม่เปรี้ยวเช่นแครอท ดีที่สุดเอาที่อายุเกิน 2 ปี[/SIZE]
    [SIZE=-1]นำน้ำหมัก 1 หยดผสมน้ำอุ่นล้างตาได้ หยอดตาแดง ตาอักเสบ จะเย็นๆ ถ้าแสบแสดงว่าตาอักเสบจะช่วยสมานเนื้อเยื่อ [/SIZE]
    [SIZE=-1]*ทำกระดาษ น้ำเอ็นไซด์หมักกระดาษจะยุ่ย >ปั่น>จะทำกาวแป้งมันผสมด้วยก็ได้ >เอาตะแกรงแบบมุ้งลวดร่อนให้ทั่วแผ่น>ตากแดด>แห้งพอแกะได้มีดแซะขอบเบาๆๆแกะ กระดาษจะทน[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ทำน้ำหอม ดอกไม้1ส่วน+น้ำเอนไซด์ 6 ปี 1 ส่วน หมักทิ้งไว้ 10-20 ปียิ่งนานยิ่งหอม จะได้หัวน้ำหอม เช่นดอกมะลิ 10 กล.น้ำเอ็นไซด์ 6 ปีครึ่งถัง จะเติมน้ำหอมเพิ่มก็ได้[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ทำแชมพู น้ำยาล้างจาน น้ำยาซักผ้า เพียงแค่ผสมกับด่าง [/SIZE]
    [SIZE=-1]*ทำเต้าเจี้ยว ตักคราบที่เป็นฝ้าขาวนวดกับแป้งสาลีจะได้ก้อนแป้งห่อถุงพลาสติกเก็บไว้ใช้ก็ได้เป็นแป้งหมัก[/SIZE]
    [SIZE=-1]ก้อนแป้ง 2 ช้อน(1กรัม)หมักกับถั่วเขียวดิบ 2 กล.ใส่เกลือถุงพลาสติกคลุมปิดหมัก 2 อาทิตย์ ถ้าใช้ก้อนแป้งมากจะเป็นเร็ว จะได้เต้าเจี้ยวแต่เป็นสีนวลๆๆนะไม่ใช่สีน้ำตาลแบบขวดขายทั่วไปแต่ปลอดภัยต่อสุขภาพ [/SIZE]
    [SIZE=-1]*น้ำซีอิ้ว ถั่วเหลืองดิบบดใส่ก้อนแป้ง ถ้าจะทำซอสเปรี้ยว เช่นคิคุเมนก็ใส่เกลือเล็กน้อย หมัก 3 เดือน ถ้าซีอิ้วก็ใส่เกลือมากๆๆหมัก 6 เดือนเอาไปผสมน้ำก็จะเป็นซีอิ้วเลย แต่ไม่เป็นสีดำนะ[/SIZE]
    [SIZE=-1]*เต้าหู้ยี่ เต้าหู้ยี่ น้ำมะเขือเทศปั่น พริกแดงเอาเม็ดออก มะเขือเทศหั่น เอ็นไซด์1 ช้อน หมักในกระปุก 1 ปี [/SIZE]


    [SIZE=-1]<CENTER></CENTER>
    [​IMG][/SIZE]​


    [SIZE=-1]*อาหารไม่มีเชื้อรา เช่นมะขามหวาน เอาไปคลุกหรือพ่นน้ำเอนไซด์ 1 ช้อน รสจะคงสภาพเดิม และทานไม่ท้องอืดด้วย[/SIZE]
    [SIZE=-1]*แก้โรคตับอักเสบ แกะเอาเนื้อระกำคลุกเอนไซด์6ปีเป็นหัวเชื้อ ใส่น้ำ 1 ลิตร กาก1ช้อนทานได้เลย[/SIZE]
    [SIZE=-1]*น้ำมันทาตัว เช่นยูคาลิปตัส เอาใบมาปั่นกับน้ำเอนไซด์ 6 ปี[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ดับกลิ่นปากจากใบส้ม ทำเหมือนน้มันทาตัว[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ดับกลิ่นเท้า ดับกลิ่นรักแร้ พ่นแบบสเปร์[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ฉีดผมถ้าไม่มีเวลาสระเช่นเดินทางไกล ดอกไม้หอมปั่นกับน้ำเอ็นไซด์[/SIZE]
    [SIZE=-1]*เอ็นไซด์1ส่วนต่อน้ำ 10 ส่วน เอาไปล้างผัก ล้างเนื้อ ทำลายสารเคมีที่ตกค้าง[/SIZE]
    [SIZE=-1]*สบู่เหลว แชมพูผสม อามาสระสเก็ตจะหายไม่คัน[/SIZE]
    [SIZE=-1]*น้ายาล้างจาน ใส่น้ำด่างกับน้ำเอ็นไซด์ เล็บจะไม่เป็นเชื้อราบำรุงผิว[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ล้างกระจก[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ล้างพื้น น้ำมันเครื่อง คราบปูน เอาเอนไซด์อายุมากๆๆราด[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ทำสีธรรมชาติแล้วแต่หาสีธรรมชาติจากพืชผัก ใช้เอนไซด์อายุมาก เช่น เปลือกมังคุดปั่นกับเอนไซด์ 2 ปี ย้อมผ้าใส่ขนม ดอกจำปีปั่นกับน้ำเอนไซด์ ได้สีส้ม[/SIZE]
    [SIZE=-1]*ใส่หม้อน้ำรถยนต์ ถนอมเครื่องยนต์จะดีไม่เป็นสนิม ที่เป็นสนิมจะหาย [/SIZE]
    [SIZE=-1]ใส่หม้อน้ำทิ้งซักพัก งิ่งซัก 2 ครั้ง ก็ถ่ายล้างซัก 2 ครั้ง น้ำจะสีแดงทำจนหายน้ำแดง ก็ค่อยใส่น้ำสะอาด เครื่องรถจะเย็นตลอด [/SIZE]

    [SIZE=-1]ยังไม่หมดนะคะเขายังนำสูตรน้ำเอนไซด์มาประยุกต์ประหยัดใช้กับน้ำตาลทำประโยชน์ได้ด้วย เพื่อใช้ช่วยสิ่งแวดล้อม แม้แต่ถ้าเราเอามาใช้ล้างจาน อาบ ซักผ้า ก็ช่วยทำให้น้ำเสียกลายเป็นน้ำดีได้ เพราะไปเปลี่ยนเพิ่มออกซิเจนให้น้ำสัตว์น้ำก็มีชีวิตอยู่ได้และน้ำไม่เน่าจากเน่ากลายเป็นน้ำดี[/SIZE]

    [SIZE=-1]ตอนแม่ซื้อน้ำผึ้งมีคนแก่บอก ให้เอาบอระเพ็ดแช่นะแกแก่ 70 กว่าปีทานทุกวันไม่เคยป่วยเลย มาต่อสูตรหมักน้ำตาล[/SIZE]

    [SIZE=-1]ปุ๋ยชีวภาพ [/SIZE]
    [SIZE=-1]ขยะพืชผักผลไม้ใบไม้ใส่ถัง หรือพวกขยะเปียก [/SIZE]
    [SIZE=-1]กากน้ำตาล หรือน้ำตาลทรายแดง ใส่สัก 4-5 ช้อนต่อถัง[/SIZE]
    [SIZE=-1]ไม่ต้องใส่น้ำนะ[/SIZE]
    [SIZE=-1]หมักเกิน 10 วันหรือจะถึง 3 เดือนก็ได้ แล้วแต่อยากนำมาใช้นะ เพราะ 1 เดือนก็ใช้ได้แล้ว[/SIZE]

    [SIZE=-1]อาจเทหัวเชื้อที่เคยทำมาก่อนช่วยเร่งการทำงานได้ ยิ่งถ้าใส่น้ำเอนไซด์จะเป็นขยะหอมและไม่มีแมลง ถ้าถังมีกลิ่นเป็นเพราะน้ำตาลน้อยแก้โดยเติมน้ำตาลใส่ลงไปอีก[/SIZE]

    [SIZE=-1]ใช้ของหนักพวกหินกดทับด้วยก็ได้จะได้อ่อนตัวดีจมน้ำ จะได้ไม่มีหนอน วางในที่ร่มไม่ให้โดนแดด จะหมักไปเรื่อยๆๆเติมขยะใหม่ทุกวันก็ได้ จนปริมาญ 3 ส่วน 4 ของถังให้หยุดเติมปิดฝาทิ้งไว้ 2 เดือนเลยทีนี้ แต่อย่านานเป็นปีกลิ่นเหม็น[/SIZE]

    [SIZE=-1]เมื่อได้ผล น้ำและกากจะเป็นสีน้ำตาลหรือเป็นยางมะตูม ให้กรอกใส่ขวด ถ้าหมดอายุเกิน3เดือนทิ้งราดท่อระบายน้ำจะช่วยให้น้ำท่อดีไม่เหม็น หรือเป็นปุ๋ยรดต้นไม้[/SIZE]

    [SIZE=-1]Bloggang.com.เนเวอร์แลนด์[/SIZE]

    [SIZE=-1]ที่มา http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=imaginer&group=1&month=09-2006&date=08&blog=7[/SIZE]<!-- End main-->
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • water1.jpg
      water1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.4 KB
      เปิดดู:
      13,707
    • 77-20040923124315.jpg
      77-20040923124315.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.4 KB
      เปิดดู:
      11,117
    • 77-20040923145853.jpg
      77-20040923145853.jpg
      ขนาดไฟล์:
      33.1 KB
      เปิดดู:
      11,479
    • Earth.jpg
      Earth.jpg
      ขนาดไฟล์:
      40.6 KB
      เปิดดู:
      276
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 3 มีนาคม 2009
  12. kananun

    kananun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    10,282
    ค่าพลัง:
    +114,775
    โห พี่เกษมรู้วาระจิต มีน้องๆเขาได้กราบเรียนคุยกับทางครูบาก้อง ท่านเน้นให้ทำน้ำเอนไซม์ทานกันเพื่อปรับธาตุและใช้รักษาโรคเมื่อเกิดภัยพิบัติครับ
     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    คุณซัน กับ คุณ ณ. เล่าให้ฟังก่อนแล้วตอนที่ไปถวายสังฆทาน ที่บ้านซอยสายลมเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมานี้เอง เลยหาข้อมูลมาช่วยเสริมให้นะครับ ไม่ได้รู้วาระจิตของใครหรอกนะครับ....อิอิ
     
  14. Nakamura

    Nakamura Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    2,002
    ค่าพลัง:
    +17,625
    น้ำเอนไซม์นี้คุ้นๆนะครับ ไม่รู้ใช่ตัวเดียวกับที่ผมไปเจอพระป่าท่านฉันเพื่อเป็นเภสัช บำรุงร่างกายปรับธาตุ คล้ายๆแบบนี้ เด๋วว่างๆต้องไปถามสูตรใหม่ ^^


     
  15. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
    ในนี้ใครมี หลอดดูดกรองน้ำฉุกเฉิน (frontier emergency water filter)บ้างครับ น่าจะทำเคสเอาไว้นะครับ กันใส้กรองแตก

    ความจริงสินค้า น่าจะผลิตเคสมาให้ด้วย เวลาใช้เสร็จ จะได้มีที่เก็บ ไม่งั้นวางไว้เฉยๆ ใส้กรองหมดสภาพแน่ๆ หรือ ถ้ามันเข้าไปอัดกันในเป้

    แต่ในเมื่อไม่มี ไม่เป็นไร ผมก็เลยเอากล่องใส่ดินสอมาใส่แทนครับ และใช้พลาสติกที่เป็นปุ่มๆ กันกระแทก อีกชั้นหนึ่งครับ แล้วก็ปิดกล่อง เอายางมัดอีกที เท่านี้ก็เรียบร้อย

    ถ้าให้ดี กล่องดินสอ น่าจะเป็นพลาสติกมากกว่า เวลาโดนน้ำจะได้ไม่เป็นสนิม ครับ

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_2192.jpg
      IMG_2192.jpg
      ขนาดไฟล์:
      44.9 KB
      เปิดดู:
      14,248
  16. ยาล้างตา

    ยาล้างตา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2007
    โพสต์:
    494
    ค่าพลัง:
    +3,539
    หลอดสั้นดีจัง หาได้ไหนครับ ของผมยาวฟุตกว่าๆ พกพายาก
     
  17. Kongp

    Kongp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,696
    ค่าพลัง:
    +3,909
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    เรื่องเกี่ยวกับขวดน้ำพลาสติก

    [​IMG]

    เคยได้รับ fwd mail ที่เขียนว่าห้ามใช้ขวดพลาสติกซ้ำ เพราะว่ามันจะมีสารในพลาสติกละลายออกมา ฟังดูแล้วก็น่ากลัวเหมือนกัน ก็ไปเจอเรื่องนี้มาที่พันทิบ ก็ก็อปเอาเฉพาะสาระๆ มาละกัน มาให้ความรู้ ที่มีอยู่จ้ะ

    1.ขวดน้ำที่ขายใส่น้ำดื่ม(แบบตราสิงห์ หรืออื่นๆ) ทั่วๆไปในท้องตลาด หากอยากทราบว่า เป็นพลาสติกชนิดไหน ให้ดูที่ก้นขวดค่ะ ถ้ามีจุดตรงกลาง ตรงก้น เป็นลักษณะกลมๆ นั่นคือ PET ค่ะ

    ขวด PET ทนร้อน ทนเย็นได้มากค่ะ หากอายุการใช้งานไม่ถึง 1 ปีแล้ว จะไม่มีสารปนเปื้อนค่ะ สังเกตได้ว่า น้ำดื่มก็จะมีอายุให้ดูนะคะ ว่าไม่ควรทานเกินวันที่เท่าไหร่

    แต่มีข้อยกเว้นที่ว่า ถ้าสาวๆ เอาไปใส่ น้ำร้อน หรือ เย็นจัดที่จุดเยือกแข็งแล้วล่ะก็ อายุการใช้งานของขวด จะหดสั้นลง เนื่องจาก ความร้อนจัด หรือเย็นจัด จะไปทำลายโรงสร้างของพลาสติก ทำให้ มันอาจจะปล่อยสารออกมาได้ค่ะ

    2. ส่วนอีกประเภท คือขวด PVC อันนี้เห็นได้มาก ว่าใส่ น้ำเก๊กฮวย ขวดละ 5 บาทริมถนน ก้นขวดจะไม่มีจุดกลมๆให้ดูขวดประเภทนี้ ทนร้อน ทนเย็นได้น้อย
    กว่าขวด PET ดังนั้น มีแนวโน้มที่จะปล่อยสารอันตรายออกมาได้มากกว่า

    ***โดยเฉพาะการใส่ น้ำหรืออาหารที่มี ไขมัน ปนอยู่ ***

    เช่น นม หรือ กาแฟ น้ำมันและความร้อน จะทำให้ pvc ปล่อยสารปนเปื้อนออกมาค่ะ

    3. ขวดจากพลาสติกประเภทอื่นๆ เช่น PP PE ขวดพวกนี้เราไม่มีความรู้มากนักค่ะ จำได้แต่ว่า ชนิดนึงเป็นขวดร้อน ชนิดนึงเป็นขวดเย็น ขวดร้อนก็ทนร้อนได้ดี ขวดเย็นก็ทนเย็นได้ดี ในที่นี้หมายถึง ทนร้อนน้ำเดือด และทนเย็นเยือกแข็งนะคะแต่ขวด ประเภทหลังนี้ ราคามันถูกค่ะ เราแนะนำว่า ควรใช้ครั้งเดียวทิ้ง ไม่ควรใช้ซ้ำ

    สรุปแล้ว ขวดทุกแบบ มีโอกาสที่จะมีสารปลอมปนได้ หากอายุการใช้งาน มันมาก หรือใช้งานมันแบบฮาร์ดคอร์

    แต่ถ้าให้แนะนำ ขวด PET ที่เราใช้ใส่ๆ น้ำทั่วไป ไม่ควรใช้ซ้ำเกิน 6 เดือนค่ะ พอ 6 เดือนก็ทิ้งเปลี่ยนชุดใหม่เถอะค่ะ เพราะเราไม่ทราบว่า สารอะไรจะแพร่ออกมามั้ย

    ส่วน PVC ถ้าเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเนี่ย ตัวใครตัวมันนะคะ สารก่อมะเร็งทั้งนั้น

    สำหรับขวดที่วางตากแดด หรือไว้ในที่ๆไม่ใช่อุณหภูมิห้องตลอดเวลา ก็ไม่ควรใช้ซ้ำ นานเกิน 3 เดือนเช่นกันจ้ะ

    ปล.คิดว่าข้อมูลถูกต้องนะคะเพราะเป็นสิ่งที่เรียนมา แต่ว่าเรียนมานานแล้ว อาจจะหลงลืมไปบ้าง ผิดพลาดเล็กน้อยประการใด ขออภัยมาด้วยจ้ะ

    จากคุณ : ไทค์กะโจ

    ความคิดเห็นที่ 8

    ขอเพิ่มเติมนะคะ ในฐานะที่เป็นนักเคมีวิเคราะห์ เนื่องจากตอนปริญญาโท ทำวิทยานิพนธ์เรื่องนี้ จากการศึกษา พบสารที่แพร่ออกมาจากขวด PET หลายตัวค่ะ สารนี้เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ทั้งจากสารเคมีที่ใช้ในการผลิตขวด สารที่เกิดขึ้นระหว่างการผลิต เป็นต้น แต่สารดังกล่าวจะแพร่ออกมาในระดับที่ไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค อย่างไรก็ตามชนิดและปริมาณของสารที่แพร่ออกมาจะขึ้นกับระยะเวลาการใช้งาน และสภาวะในการเก็บค่ะ

    จากคุณ : เสือร้องไห้รักเสือนอนหลับ

    ความคิดเห็นที่ 9

    ในกรณีขวด PET หรือขวดใสนำกลับมาใช้ได้ครับ แต่ห้ามเก็บในที่ๆโดนแดด อุณหภูมิสูงหรือต่ำมากเกินไป ถ้ามีกลิ่นเกิดขึ้น หรือเกิดการเสียรูปทรงของขวด ก็ควรเปลี่ยน หรือควรเปลี่ยนเมื่อใช้งานไปในระยะหนึ่งครับ

    ขวด PVC นี่ผมไม่แน่ใจว่าขวดตัวไหนนะครับ ขวด PE PP ส่วนมากเป็นขวดน้ำดื่มแบบขุ่น พวกนี้ไม่ควรนำกลับมาใช้ใส่น้ำดื่มครับ เรื่องมีจุดหรือไม่มีที่ก้นขวดผมคาดว่าน่าจะเป็นจากวิธีการผลิตครับ

    ขอบคุณทุกท่านด้วยครับที่ให้ความรู้

    จากคุณ : Kato_nd

    ทีมงานของเราคนหนึ่งบอกว่า เคยรับทราบมาเหมือนกันว่ามีเมลทำนองนี้ส่งต่อๆ กันมา โดยกล่าวถึงอันตรายของการนำขวดน้ำพลาสติกที่เรียกว่า ขวด PET (Polyethylene terephthalate) ไปใช้ซ้ำ โดยบรรจุน้ำดื่มธรรมดาแทน เพื่อความกระจ่างและความมั่นใจ ผมจึงได้ทำหนังสือสอบถามไปทาง อย. ครับ ซึ่งก็ได้คำตอบมาดังข้างล่างนี้ โดยสรุปก็คือ อันตรายไม่น่าจะเกิดจากตัวขวดครับ แต่อาจจะเกิดจากน้ำที่อาจมีการปนเปื้อนจุลินทรีย์มากกว่า อย่างไรก็ตาม จากคำชี้แจงก็ไม่แนะนำให้ใช้ซ้ำครับ (แต่ว่าจริงๆ ผมก็ยังใช้อยู่เลยครับเนี่ย) รายละเอียดลองอ่านและพิจารณาดูครับ และก็ต้องขอขอบคุณทาง อย. มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ

    ข้อมูลเรื่องอันตรายจากการใช้ขวดพลาสติก PET บรรจุน้ำดื่มซ้ำ

    จากจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ที่ส่งต่อมาเป็นทอดๆ ที่ระบุว่า ขวดพลาสติก PET (Polyethylene terephthalate) บรรจุน้ำดื่มหากมีการนำมาใช้ซ้ำหลายๆ ครั้งจะเกิดอันตรายจากสารพิษ Diethyl Hydroxylamine (DEHA) โดยก่อให้เกิดมะเร็ง นั้น ข้อมูลในจดหมายมีข้อเท็จจริงที่ไม่ถูกต้อง หลายประการ เช่น

    1. DEHA ไม่ได้เป็นอักษรย่อของสาร Diethyl Hydroxylamine แต่เป็นอักษรย่อมาจาก Diethylhexyl adipate ซึ่งเป็นตัว Plasticizer ที่เพิ่มความยืดหยุ่นให้กับพลาสติกบางอย่าง แต่ตัว Diethyl Hydroxylamine นั้นเป็นสารที่ใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น เป็นสารป้องกันสีซีดจางในรูปถ่าย ใช้ร่วมในการบำบัดน้ำเพื่อป้องกันการผุกร่อน และเป็นวัตถุดิบใน Silicone sealant และมีกลิ่นฉุนรุนแรงคล้ายแอมโมเนีย ไม่มีการใช้ในการผลิตขวดพลาสติก PET แต่หากมีการใช้ในการผลิตขวดพลาสติก PET และปนเปื้อนสู่น้ำดื่มก็น่าจะสามารถทราบได้ทันทีจากกลิ่น

    2. สาร Diethylhexyl adipate (DEHA) ไม่มีการใช้ในการผลิตขวดพลาสติก PET และไม่ได้เป็นวัตถุดิบ หรือผลพลอยได้จากกระบวนการผลิต (by-product) หรือสารที่ได้จากการย่อยสลายของขวด PET แต่อย่างใด แต่มีการใช้ในการผลิตแผ่นฟิล์มพลาสติกจำพวก PVC (Polyvinyl Chloride) ที่ใช้ในการหุ้มห่ออาหาร ซึ่งสามารถแพร่กระจายสู่ผู้บริโภคอาหารได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารที่ไขมันสูง เช่น เนื้อสัตว์ และเนยแข็ง แต่เป็นไปในปริมาณที่น้อยมาก จนไม่สามารถก่อให้เกิดพิษต่อร่างกายได้เลย

    3. สาร Diethylhexyl adipate (DEHA) เป็นสารที่ International Agency for Research on Cancer (IARC) จัดอยู่ในประเภทสารที่ไม่ก่อให้เกิดมะเร็งในมนุษย์ (Not classified as to its carcinogenicity to humans)

    4. ทางอีเมลดังกล่าวได้ระบุว่าน้ำดื่มที่บรรจุในขวด PET มีโอกาสปนเปื้อนด้วย DEHA นั้นอาจมีสาเหตุมาจากการพบ DEHA ในน้ำดื่มก็ได้ จากการทดลองของ Dr.M.Kohler (Swiss Federal Laboratories for Materials Testing and Research, June 2003) พบว่ามีการปนเปื้อนของ DEHA อยู่ในน้ำดื่มบรรจุขวดจริง แต่การปนเปื้อนดังกล่าวนั้นจะเป็นการปนเปื้อนอยู่ในน้ำดื่มเอง เนื่องจากพบ DEHA ในน้ำดื่มที่บรรจุขวดแก้วด้วย

    อย่างไรก็ตามการปนเปื้อนของ DEHA ในน้ำดื่มบรรจุขวด PET ที่ทดสอบโดย Dr.M.Kohler นั้น พบว่าเป็นการปนเปื้อนที่ต่ำกว่าระดับที่ WHO กำหนดไว้มาก (พบการปนเปื้อนในช่วง 0.010-0.0046 ไมโครกรัมต่อลิตร ในขณะที่ WHO กำหนดให้น้ำดื่มพบ DEHA ได้ไม่เกิน 80 ไมโครกรัมต่อลิตร)

    5. อันตรายจากการเก็บขวดน้ำดื่มที่เปิดดื่มไปแล้วบ้างไว้ในรถหรือการใช้ขวดพลาสติก PET ซ้ำนั้น อาจเกิดอันตรายจากการที่จุลินทรีย์ในน้ำดื่มเจริญเติบโตขึ้น

    นอกจากนี้ยังมีข้อเสนอแนะว่า ขวด PET นั้นผลิตขึ้นมาสำหรับใส่อาหารหรือเครื่องดื่มเพียงครั้งเดียว ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับให้นำมาทำความสะอาดใหม่โดยใช้ความร้อนสูงหรือขัดถูแล้วนำมาใช้ซ้ำ ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่อาจมีสารบางอย่างจากขวด PET หลุดมาเจือปนกับอาหาร ขวด PET ที่ใช้แล้วควรนำไปผ่านกระบวนการ Recycle เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่มากกว่าการนำกลับมาใช้ซ้ำ แม้ว่าการใช้ซ้ำนั้นจะไม่มีอันตรายจากการที่สารในขวด PET หลุดออกมาก็ตาม แต่ผู้บริโภคอาจได้รับอันตราย จากการปนเปื้อนของจุลินทรีย์เนื่องจากการทำความสะอาดที่ไม่ดีพอ

    http://www.pantip.com/cafe/lumpini/t.../L4647472.html
    http://update.se-ed.com/218/letter.htm
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มีนาคม 2009
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    จุดธูปนานไฟแช็คแก๊สระเบิด นิ้วฉีก-กระดูกแตก

    [​IMG]
    [​IMG]

    ประธานสภาทนายความเมืองปทุมธานี เคราะห์ร้าย ไฟแช็คแก๊สระเบิดนิ้วฉีก-กระดูกแตก เหตุจุดธูปใช้ไฟแช็คเป็นเวลานานจนเกิดความร้อน

    เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 16 พ.ย. 50 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีผู้ถูกไฟแช็คแก๊ส ระเบิดใส่มือขณะใช้จุดธูป เป็นเหตุให้นิ้วมือฉีก และกระดูกแตก ถูกนำตัวมาเข้ารับการรักษาบาดแผลอยู่ที่โรงพยาบาลกรุงสยามเซนต์คาร์ลอส ต.สวนพริกไทย อ.เมือง จ.ปทุมธานี จึงเดินทางไปตรวจสอบ ที่ห้อง 404 พบนายสรสิน มณีงาม อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 58/20 หมู่บ้านมณีรินทร์ ม. 11 ต.บางคูวัด อ.เมือง จ.ปทุมธานี ซึ่งเป็นประธานสภาทนายความจังหวัดปทุมธานี นอนพักรักษาตัวอยู่บนเตียงคนไข้ นิ้วมือข้างขวา คือนิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วชี้ ถูกพันด้วยผ้าพันแผล

    นายสรสิน มณีงาม เปิดเผย ถึงสาเหตุการเกิดบาดแผลดังกล่าวว่า เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา หลังจากที่เสร็จจากภาระกิจการงาน ก็ได้เดินทางกลับบ้านพักเพื่อจะพักผ่อน ต่อมาได้หาธูปเทียนเพื่อจะจุดบูชาศาลพระภูมิ และศาลตายาย ที่อยู่ในบ้าน จึงได้นำธูปเทียนและไฟแช๊คแก็ส ที่เป็นพลาสติค อันละ 5 บาทแบบที่มีวางขายทั่วไปตามท้องตลาด จากนั้นก็ทำการจุดเทียนและจุดธูปจำนวน 14 ดอก เพื่อจะไหว้บูชาศาลทั้ง 2 แห่ง

    ระหว่างที่กำลังจุดธูปอยู่นั้น จู่ๆ ไฟแช๊คก็เกิดระเบิดขึ้นอย่างรุนแรงเสียงดังสนั่น ทำให้คนครอบครัวที่อยู่ในบ้าน ต่างวิ่งออกมาดูด้วยความตกใจ พอหายจากการตกตะลึงก็ก้มมองดูที่มือ ปรากฏว่าที่นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ เป็นแผลฉีกขาดเลือดไหลออกมาจำนวนมาก จึงรีบมาพบแพทย์ที่โรงพยาบาลให้ทำบาดแผลให้ ปรากฏว่านอกจากแผลฉีกขาดของเนื้อแล้ว ยังพบว่ากระดูกนิ้วหัวแม่มือท่อนบนยังถูกแรงระเบิดถึงกับกระดูกแตกด้วย ซึ่งทางแพทย์ของโรงพยาบาลก็ได้ทำแผลให้และให้นอนพักที่โรงพยาบาลดังกล่าว

    นายสรสิน กล่าวต่อว่า สาเหตุที่ไฟแช็คแก็ส เกิดระเบิดขึ้นนั้น คาดว่า อาจจะเป็นเพราะความประมาท ที่ใช้ไฟแช๊คจุดธูปนานเกินไป จนทำให้ไฟแช็คมีความร้อนจัด จนระเบิด แต่ไม่โทษบริษัทที่ทำออกมาวางจำหน่าย และก็ไม่ทราบด้วยว่าไฟแช๊คพวกนี้มีการรับรองมาตรฐานอย่างไร

    อีกทั้งไม่คิดจะฟ้องร้องอะไรกับทางผู้ผลิต เพียงแต่อยากจะขอเตือนไปยังประชาชนและบุตรหลาน ทุกคน โดยเฉพาะเด็กๆ ที่ชอบใช้ไฟแช๊คพวกนี้จุดเล่นหรือจุดไฟ จุดไฟพะเนียง ซึ่งตอนนี้ก็ใกล้เทศกาลลอยกระทง ที่จะมีพ่อค้าแม่ค้านำดอกไม้ไฟ หรือพลุมาวางขาย ซึ่งเมื่อเด็กๆซื้อไปแล้วนำไฟแช๊คแบบนี้มาจุด ก็อาจจะทำให้เกิดอันตรายแบบตนเองที่โดนระเบิดใส่มือมาแล้วก็ได้

    ที่มา : คม ชัด ลึก
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 1_209.jpg
      1_209.jpg
      ขนาดไฟล์:
      21.7 KB
      เปิดดู:
      3,088
    • 3_55.jpg
      3_55.jpg
      ขนาดไฟล์:
      18.7 KB
      เปิดดู:
      6,219
  20. lovemoney

    lovemoney สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +5
    เห็นด้วยค่ะpig_cryy2
     

แชร์หน้านี้

Loading...