เสวนาปัญหาอ่านจิต

เนื่องจากปลาปิดกระทู้อ่านจิตไปแล้ว

เพราะร้างคน เหอๆ ตอนนี้ก็ขอเริ่มใหม่ละกันนะคะ

เอาเฉพาะเวลาใครมีปัญหา คำถามนะค่ะ

"ไม่รับอ่านจิต"

หรือถ้าใครอยากอ่านก็อ่านได้ค่ะ ใครก็ได้เลือกมาเองก้ได้

แต่ไม่รับอ่านให้นะค่ะ

ไขปัญหาเฉยๆ

 

ปัญหาคือ เราจะอ่านจิตเค้าโดยที่เป็นกลางไม่อคติ ได้ยังไง
เช่นคนที่เราชอบ กับไม่ชอบ
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่อุปทานไปเอง

อ่านจิตของเค้ามาเพียวๆไม่ได้แต่งเติมคิดไปเอง
หรือได้ยินสิ่งที่เป็นจริง หรือความคิดของเค้าที่เค้าสร้างขึ้น
ให้เราเห็นไปตามที่เค้าสร้าง

วานไขปริศนาด้วยครับ สาวน้อยนักพลังจิต

 

ไม่มีปัญหา(แล้วตรุส์เข้ามาทำไมฟระ)

 

อ่านจิต แบบไม่อคติ*
.....
.
. .. .. ... .... ..... <<<<<รู้สึกยังไงกับจุดพวกนี้
หมีตัวหนึ่ง ไปโขมยปลาฉลาม มาจากบ้านคุณ<<<<<หมีตัวนั้นมีสีอะไร (ตอบจากความรู้สึก)
ผีกระหังมาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ?<<<<<รู้สึกยังไงกับข้อความนี้?
กีฬาสี โรงเรียน อนุบาลรักทักกี้จัง สีที่ชนะคือ??????<<<<<<คือสีอะไร(ตอบจากความรุสึก)
เอามาให้ ดูกันเล่นๆค่ะ ไม่มีถูก/ผิด เพราะออกมาจากความรู้สึกค่ะ....ว่างๆๆจะมาแปะเฉลยไว้

 

ปลาไมเคยเชื่ออะไรในสิ่งที่เหลวไหลปลาจะเชื่ออะไรที่สามารถพิสูจได้

การอ่านจิต เรียกง่ายๆว่าเป็นจิตวิทยาแขนองหนึ่งค่ะ

อยางนักสังคมสังเคราะ หรือจิตแพทย์เขาจะมีวิชาพวกนี้ติดตั้งสูงพอสมควรค่ะ

แต่เขามักไม่ได้มาทายอะไรเล่นๆแบบพวกเราหรอกค่ะ เหอ แต่มีส่วนคล้ายๆกัน


แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าไม่อุปทานไปเอง

ก็เพราะมีความสงสัยแหละค่ะ เพราะเราไม่เชื่อใจตัวเองด้วย ไม่มั่นใจและมีความสงสัยด้วย

ถ้าตามหลักพระพุทธศาสนา เขาเรียก"นิวร"ใช่หรือป่าวค่ะ ไม่แน่ใจ

 

เคยได้ยินพระท่านเทศน์เรื่องหนึ่งเหมือนกัน พระอาจารย์อะไรจำไม่ค่อยได้ละคะ นานแล้วละ

เกี่ยวกับพลังศรัทธาค่ะบอกว่ามีหมู่บ้านหนึ่งในประเทศแห่งหนึ่ง หมู่บ้านนั้นทั้งยากจน ทั้งแห้งแล้ง และขาดแคลน

และมีครอบครัวๆหนึ่งมีแม่ลูกอยู่2คน ลูกชายคนนั้นก็ออกไปบวชเป็นพระและออกไปบวชอยู่ไหนไม่รู้ แหะๆ

ส่วนผู้เป็นแม่ก็อยู่ในหมู่บ้านนั้นและ มีคาถาวิเศษอยู่คาถาหนึ่ง คือถ้าสวดแล้วคาถานั้นจะเสกให้ของสิ่งนั้นกินได้

ผู้เป็แม่มีความเชื่อเลยนำก้อนกินไปต้ม และท่องคาถา เสกก้อนกินแข็งๆนั้น ปรากฏว่ากินได้

พ่อพระลูกชายกลับมาเยี่ยมผู้เป็นแม่ ก็สังเกตุว่าทำไมคนใหม่หมู่บ้านเขาดูผอมโซขาดน้ำ อาหารไม่พอ แต่ทำไม
ผู้เป็นแม่ของตนกลับดูแข็งแรง สมบูรณ์ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น


พอสอบถามก็ทราบความดังกล่าวที่กล่าวมาแล้วนั้น

พระลูกชายก็เลยถามบทสวด แต่ปรากฏว่าบทสวดที่ผู้เป็นแม่สวดอยู่นั้นเป็นบทสวดที่ผิด

พระลูกชายซึ่งบวชและไปศึกษาตำราที่ถูกต้องมา เลยมาเทศสอนแม่ของตนให้ท่องคาถาที่ถูกต้อง

หลังจากนั้นแม่จึงไม่แน่ใจวาคาถาไหนถูกต้อง เลยท่องไปทั้งผิดทั้งถูก

เพราะถึงแม้ท่องคาถาที่ผิดๆก่อนหน้านี้แล้วทำไมหล่อนถึงกินก้อนหินได้ละ จริงไหม

หลังจากนั้นความไม่แน่ใจกลับค่อยๆเข้ามาแทนที่ความศรัทธา หลังจากนั้นไม่ว่าเธอจะท่องคาถาไหน

ก้อนหินก็ไม่สารถกินได้อีกต่อไป

นิทานเรื่องนี้ปลาไม่ได้แตงขึ้นมานะคะ พระท่านเทศมาอย่างนี้จริงๆ
มาอ่านๆคิดๆดูแล้วความเชื่อ ความศรัทธา ก้เป็นแรงอีกส่วนหนึ่งค่ะ

อย่างเช่นตอนเรียนมโนยิทธิ ใช่ไหมละคะ

ถูกผิดไม่ต้องกลัว กังวล หรือสงสัยทำไปเรื่อยๆก่อน

 

1....เห็นจุดแล้วรู้สึก รำคาญ
2.หมีสีชมพู ขี้โมย
3.รู้สึกว่า จะบ้ารึ, บ้าอ่ะป่าว
4.สีแดง

รอเฉลยนะจ๊ะ จุ๊บ จุ๊บ

 

ขออนุญาต จขกท นะคะ

ปกติจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะมีแนวทางที่เรียนมาเกี่ยวกับเรื่องจิตใจระดับนึง ยกตัวอย่างเช่น เด็กที่อยู่ในครอบครัวทีพ่อแม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน มักมีพฤติกรรมที่รุนแรงอันเนื่องมาจากสังคมและสภาพแวดล้อม เป็นต้น แต่ จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาจะต้องทำงานโดยมีจรรยาบรรณเป็นหลักสำคัญในการให้การรักษา สมมติง่ายๆ หากเราเป็นหมอ แล้วมีคนที่เราอาฆาตเคียดแค้นเจ็บป่วยใกล้ตาย มารับการรักษาจากเรา หมอต้องให้การรักษาผู้ป่วยรายนั้นโดยนึกว่าเขาคือผู้ป่วยไม่ใช่ศัตรู เช่นเดียวกันกับการอ่านจิต เมื่อเราคิดที่จะอ่านจิตใครแล้วให้วางความรู้สึกคนที่ชอบ ไม่ชอบ รัก เกลียด ไปก่อน แล้วอ่านจิตเขาแบบผู้มารับการอ่านจิต การวางให้สนิทนั้นอาจเป็นเรื่องค่อนข้างยาก จำเป็นต้องได้รับการฝึกฝน ส่วนคำถามสุดท้ายก็ยกตัวอย่างว่า สมมติเราเป็นหมอเรียนมาว่ายาพาราเซตามอลสามารถรักษาอาการไข้ได้ ถ้าเราเป็นไข้เราจะมัวลังเลอยู่ไหมว่า เอ?ยานี้แก้ไข้ได้จริงหรือเปล่า? ถ้าการกินยาพาราเซตามอลคือทางเลือกเดียวที่เรามีเราก็คงจะกินเข้าไปโดยไม่สงสัย บางครั้งเราจำเป็นต้องมีศรัทธาต่อบางสิ่ง แต่ไม่ใช่ถึงกับงมงาย เมื่อเราศรัทธา ความศรัทธาจะเป็นพลังสำคัญในการดึงศักยภาพที่เรามีออกมาใช้อย่างเต็มที่ ขนาด จขกท ออกมาตั้งกระทู้เสวนาปัญหาอ่านจิต ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคยทายผิด แต่ จขกท ก็ศรัทธาในความรู้ที่เขามีอยู่เช่นกัน ทุกอย่างอยู่ที่การฝึกฝนค่ะ:z2:z2:z2

 

เดาว่า คุณคนนี้ มีความคิดในทางลบไปกว่า 50% ทันที
ที่เจอกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคย.....(อคติ ง่ายมาก)
.
เป็นคนตลกเรียบๆ ชอบมองพฤติกรรมคนอื่น อย่างเอาเป็นเอาตาย
หากว่า มีจุดประสงค์บางอย่าง(ตื้อ)
.
มักไม่เปิดรับความคิดใหม่ๆในทันที จนกว่าจะมี คนเริ่มหันมายอมรับ มากพอสมควรก่อน
จึงเริ่มหันมารับตามกระแสบ้าง...
.
สิ่งแวดล้อมภายนอก ส่งผลต่อคุณได้มากกว่า บุคลิกดั้งเดิม
.
.
.
เดาคะ จากคำตอบที่พี่พิมพ์^-^


ถ้าอ่านแบบไม่มีอคติ ก็ลองอ่านจากคำตอบง่ายๆที่เราใช้คำถามมาแปะก็ดีค่ะ^^

 

1.ผมชอบประเมินร้ายไว้ก่อนจริงๆครับ จะได้ระวังตัว
แต่ถ้าเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ใครลงอะไรผมก็ลองฝึกดูหมดอ่ะ ไม่อคติเลยนะ

2.ผิดเลย ตอนนี้อ่ะไม่ค่อนสนใจความคิดคนอื่น เพราะรู้ว่าควบคุมไม่ได้เป็นทุกข์

3.อันนี้มันกว้างๆนี่ คนทั่วไป
แต่พื้นเพชอบสวนกระแส เพราะชอบสงบ
อะไรที่ตามกระแสคนเยอะต่อคิวนาน จะไม่ค่อยดิ้นรนขนาดนั้น

4.สิ่งแวดล้อมภายนอก ส่งผลต่อคุณได้มากกว่า บุคลิกดั้งเดิม ---อันนี้สิ น่าสนใจมาก 55
นิสัยแย่ๆแก้ไม่หายซะที ขี้เกรงใจ แคร์คนอื่นเกิน บางทีเป็นเบียดเบียนตัวเอง

มีอีกไหมอ่ะ หนุกดี บางทีก็ได้รู้จักตัวเองชัดขึ้นผมว่าดีนะ เอาอีก เอาอีก

 

ไมยุ หนู มั่วไปเฉยๆ...555

 

ช่วงนี้ ผีบ้า ไม่รู้จะแก้ยังไงดี ๕๕+

หนักๆหัว เฮ้ยยยยยย ถามเอง ตอบเอง

O_O ในตัวเรานี่ ผีบ้า ๕๕๕+

แบ่ง ๒ ร่าง ใน คนเดียว

คนที่ ๑ มัน เป็นผีบ้า นำปัญหา มาให้

คนที่ ๒ มันจะบอกวิธีแก้เอง

๕๕๕+ บ้าๆๆๆ

 

ปลาก้บ้างี้บ่อยๆคะ ห้าๆ ไม่ต้องแก้หรอก เดี๋ยวโป๊ เอ้ย ดีแล้วคะ

 

คนที่1 คือจิตสำนึก
คนที่2 คือจิตใต้สำนึก

 

กลับๆๆๆๆ พากระทู้ออกทะเล แระเรา คุคุ

ขยันตาย ขยันเกิด จน เบื่อ ๕๕๕+

ปัญหา การ อ่านจิตหราคะ จะมีก็มี ไม่มีก็มี บอกไม่ถูก

และ ไม่รู้จะคิดมากไปทำไม มันก็แค่อ่านจิต

วิเคราะห์ด้วยสมอง แบบ มนุษย์

ก็คง จะเป็น ๑.ความคิดปรุงแต่ง

๒. เราไม่เชื่อตัวเอง แบบว่า ได้คำตอบมาแล้ว แล้ว ไม่เชื่อ

สรุป ความคิดปรุงแต่งนั่นแหละ

คำตอบแรกที่แว๊บขึ้นมา คือของจริง

ของจริงมันจะไม่บังคับ แรกๆ รู้ยาก ความคิดปรุงแต่งมันเก่ง

ปรุงแต่ง ครบรส แต่ไม่รู้ทำไม พอปรุงมากๆ เบื่อจัง

ไม่สนละ ผิดก๊ะ ผิด ถูก ก็ ถูก แล้วไง มันมีอะไรให้คิดอีก

ผิดก็ปรับปรุง ถูกก็อย่าเหลิง เดี๋ยวเป็นแบบเรา ๕๕๕+

 

ขอลองด้วยคนนะครับ มือใหม่เพิ่งศึกษาครับ ขอให้ทายละกัน
1. ...... รู้สึกถึงความว่างเปล่า ไม่มีอะไรเลย (ไม่รู้ว่าปรุงแต่งไปรึเปล่า)
2. สีแดง (ไม่รู้ทำไมใส่สีแดงตอนนอนตลอด ตั้งแต่เด็กละ -*-)
3. สงสารผีกระหัง (อีกความคิดนึง ก็สงสารตำรวจ)
4. ขาว

ช่วงนี้จิตเป็นอะไรไม่รู้ อยู่ๆมันก็มีความคิดที่ไปลบหลู่ หาเรื่องตลอด แล้วอีกจิตนึงก็ไปขอโทษ รู้สึกผิด แล้วพอมานึกก็เคลียดๆจิตมันคิดแบบนี้ได้ไง ก็วนอยู่ตลอดๆ ไม่เป็นตัวของตัวเอง สงสัยยึดติดมากไป วางบ้างดีกว่า

 

พี่จะกล่าวบทไป ว่าอะไรเหรอคะ ปลา งงคะ จับใจความไม่ได้ แหะๆ

 

รู้สึกว่าเขาจะตอบปัญหาของน้องไล้ข้างบนโพสต์ที่4อ่ะจ๊ะน้องปลา

 

รูปใครหราคะ *o* สวยจังค่ะ เทพอะไรสักอย่างนึกไม่ออก

สวย น่ารัก เมตตา มากๆ ชอบค่ะ >_<

 

อ๋อ ค่ะ