พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

วันนี้ ผมขอนำเรื่องของคนตัดไม้มาเล่าสู่กันฟังครับ

เรื่องคนตัดไม้
<O</O
มีคนตัดไม้คนหนึ่ง นำฟืนไปขายให้แก่ร้านขายฟืน
ซึ่งร้านขายฟืน ก็ปฏิบัติต่อคนตัดไม้ดีมาก
ดังนั้นคนตัดไม้จึงคิดอยากตอบแทน
โดยการจะตัดไม้ให้ได้เป็นจำนวนมากๆ <O</O
ในวันแรกคนตัดไม้ตัดไม้ได้ 20 ต้น
แล้วนำมาให้ร้านขายฟืนซึ่งร้านขายฟืนก็ชมเชย
และปฏิบัติต่อคนตัดไม้อย่างดี <O</O
แต่พอในวันที่ 2
คนตัดไม้ก็ตั้งใจจะตัดให้ได้มากขึ้น
แต่ปรากฏว่ากลับตัดได้เพียง 18 ต้น <O</O
ในวันรุ่งขึ้นก็กะว่าจะตัดให้ได้มากยิ่งขึ้น
แต่ก็กลับเหลือ 16 ต้น <O></O>
ยิ่งนับวันผ่านไปเรื่อยๆก็ตัดได้น้อยลงเรื่อยๆ
จนในที่สุดคนตัดไม้ก็รู้สึกละอายใจ
จึงไปกล่าวคำขอโทษกับทางร้านขายฟืน <O</O
แต่เจ้าของร้านขายฟืนก็กลับถามคนตัดไม้ว่า
คุณลับขวานครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ <O</O
คนตัดไม้ตอบว่า
ผมไม่มีเวลาหยุดลับขวานเลย
เพราะขนาดไม่หยุดยังตัดไม้ได้น้อยขนาดนี้ <O</O
ซึ่งเจ้าของร้านก็บอกแก่คนตัดไม้ว่า
คุณลองคิดดูสิว่าหากคุณหยุดลับขวานให้คม
โดยเสียเวลาเพียงเล็กน้อย
คุณอาจตัดไม้ได้มากกว่านี้ก็ได้ <O</O
เปรียบได้กับการทำงาน
ถ้าคุณก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่หยุดพักหยุดคิด
เปรียบได้กับคนตัดไม้
คุณก็จะล้าลงไปเรื่อย.. <O</O
<O</O
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
<O
มีเพื่อนผมส่งรูปมาให้ดู เลยนำมาให้ดูกัน</O

 

เวลาของทุกคนมีเท่ากัน แต่ทุกคนใช้เวลาไม่เท่ากัน
เมื่อเช้านี้ อ่านดูแล้วเห็นว่าดี ก็เลยนำมาลงให้อ่านกันครับ

ธรรมะสะกิดใจ : เวลา
วันพฤหัสบดีที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2549
http://www.komchadluek.net/column/pra/2006/03/02/01.php




เวลา
ทุกคนมีเวลาเท่ากัน แต่ค่าของเวลาไม่เท่ากัน
ทุกคนประหยัดเวลาได้ แต่เก็บเวลาไว้ไม่ได้
ใช้เวลาให้มีคุณค่า ดีกว่าประหยัดเวลา
คนคิดฆ่าเวลา คือคนไม่รู้ค่าเวลา

0 ธ.ทศเทพ 0

 

คุณ sithiphong ครับ ผมได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณมากน่ะครับ ส่งมาให้ผมเยอะมากเลยครับ แต่ผมไม่รู้ว่าเป็นพระอะไรบ้างครับ ถ้ามีเวลาช่วยโพสต์บอกผมด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

ผมส่งรายละเอียดไปให้แล้วนะครับ ผ่านทางข้อความส่วนตัวครับ



+++++++++++++++++++++++++++++++++++

ส่วนคุณtawatd ,คุณฉัตรพร ถ้าได้รับพระแล้ว ผมรบกวนช่วยแจ้งให้ทราบด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

คุณสิทธิ์พงศ์ค่ะ,

ได้รับพระแล้วค่ะ ตอนบ่ายกว่าๆ สวยทุกองค์
ขอทราบประวัติสมเด็จองค์สีเขียว และลูกอมค่ะ
ขอบคุณมากกกกกกกกกกกกกกกก..ใจดีอีกแล้ว
แจ้งทาง อีเมล์ก้อได้ค่ะ ninenile@hotmail.com

ฉัตรพร..

 

ขอบคุณครับ ที่แจ้งมาครับ

คุณTawatd ครับ ได้รับพระแล้วอย่าลืมแจ้งให้ผมทราบด้วยนะครับ จะได้ทราบว่าพระถึงผู้รับแล้ว ผมจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง

 

ได้ร่วมช่วยเหลือพระสามเณรด้วยคนคะ
และได้แจ้งที่ link http://www.palungjit.org/board/showthread.php?t=21733&page=21 ด้วยคะ

และรบกวนอยยากได้พระนางพญาได้ด้วยหรือเปล่าคะ

---------------------------------------
pu002@hotmail.com

 

ต้องการพระพิมพ์ไหนครับ เป็นสมเด็จเจ้าคุณกรมท่า (ลงรักสีอะไร) หรือเป็นพระอุ้มบาตรเล็ก รวม 5 พระธรรมทูต (ให้ระบุวันเกิดด้วย วันอาทิตย์ถึงวันเสาร์) ผมจะได้ส่งพระไปให้ถูกครับ ส่วนที่อยู่ ส่งให้ผมผ่านทางข้อความส่วนตัวก็ได้นะครับ

ส่วนพระนางพญานั้น หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรไม่ได้เสกนะครับ

 

ขออนุโมทนาในกุศลด้วยครับ

ผมขอเป็นวันจันทร์ที่จะส่งพระไปให้นะครับ ถ้าได้รับพระแล้ว ช่วยแจ้งให้ผมทราบด้วย ว่าได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณครับ

 

ขอแจ้ง พระพิมพ์อุ้มบาตรเล็กรวม5พระธรรมทูต เหลืออยู่ 6 องค์แล้วนะครับ

++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันนี้ 3 มีนาคม 2549 ผมมีบทความเรื่อง 10 ข้อคิดเพิ่มคุณค่าให้ชีวิต ลองอ่านกันดูนะครับ

10 ข้อคิดเพิ่มคุณค่าให้ชีวิต<O</O
<O> </O>
>1. จริงอยู่ ที่มิตรภาพความเป็นเพื่อนไม่มีวันหมดแต่คุณอาจลืมไปว่ามันเปลี่ยนแปลงได้
>
>2. เมื่อคุณตระหนักว่า ไม่มีใครช่วยคุณ ในเวลาที่คุณมีความทุกข์ไม่มีใครดีใจอย่างจริงใจกับคุณ ยาม
>เมื่อคุณมีความสุขเมื่อนั้นคุณเรียนรู้ที่จะหาเพื่อนแท้ให้กับชีวิตคุณได้แล้ว
>
>3. อดีตเป็นสิ่งที่ผ่านมาแล้วปล่อยความเจ็บปวดความทรมานที่ได้ประสบ ผ่านไปกับอดีตด้วย
>
>4. อย่าละเลยและเพิกเฉยต่อคนที่คุณชอบพอเพราะมัวคิดว่าปล่อยให้ความสัมพันธิ์ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
>ชีวิตคนเราแสนสั้นนะคุณ จะตายวันตายพรุ่งก็ยังไม่รู้
>
>5. คุณไม่ได้ตายจากความเจ็บปวดในชีวิตที่ผ่านมาแต่มันทำให้คุณเข้มแข็งขึ้น
>
>6. อย่าให้ชีวิตขึ้นกับคนอื่น เพื่อทำให้คุณมีความสุข
>
>7. ชีวิตแต่งงานและครอบครัว เป็นเรื่องที่สำคัญจงอย่ารีบร้อนในการตัดสินใจ
>
>8. แสดงความชื่นชมกับคนที่คุณรักและห่วงใย ในทุก ๆ วันไม่ใช่แค่วันหยุดหรือวันเกิด
>
>9. ผู้คนผ่านเข้ามาในชีวิตของคุณ ทั้งด้วยเหตุผลและด้วยโอกาสซึ่งนำพาทั้งความสุขและบทเรียนมาให้
>คุณ
>
>10. เมื่อใดก็ตามที่ผิดหวัง จงมองโลกในแง่ดีเข้าไว้
>
>ป.ล.
>
>ถ้าคุณยืมมา (จงคืน)
>
>ถ้าคุณทำพัง (จงซ่อม)
>
>ถ้าคุณรู้แล้ว (ปล่อยมัน)
>
>ถ้าคุณต้องการ (ร้องขอ)
>
>ถ้าคุณใช้ (ทำให้สะอาด)
>
>ถ้าคุณใส่ (แขวนไว้ที่เดิม)
>
>ถ้าคุณทำผิดพลาด (แสดงความรับผิดชอบ)
>
>ถ้าคุณเชื่อ (คุณจะประสบความสำเร็จ)
>
>ถ้าเป็นเจ้าของ (จงปกป้อง)
>
>ถ้ามี (จงแบ่งปัน)
>
>ถ้าคุณรักใครสักคน (จงแสดงออก)<O</O

 

ขอแจ้งอีกครั้งนะครับ เรื่องการทำบุญกับวัดบ่อเงินบ่อทอง หากท่านใดทำบุญ 1,000.-บาท จะมอบพระสมเด็จเจ้าคุณกรมท่าให้ 1 องค์ (มีการลงรัก 3 แบบ คือ 1.รักสมุหรือรักพม่า สีน้ำเงิน 2.ชาดหรือรักจีน สีแดง 3.รักไทย สีดำ) โดยแจ้งความประสงค์ที่คุณนักเดินทางครับ




หรือ
เป็นพระพิมพ์อุ้มบาตรเล็กรวม5พระธรรมทูต ยังเหลืออีก 6 องค์ครับ โดยแจ้งความประสงค์กับผมนะครับ



ให้แจ้งด้วยว่าต้องการพระพิมพ์ สีอะไร

โดยแจ้งความประสงค์ว่า
ขอบริจาคเงินทำบุญกับสำนักสงฆ์ บ่อเงินบ่อทอง จำนวนเงิน 1,000.-บาท โดยขอรับพระพิมพ์อุ้มบาตรเล็ก รวม 5 พระธรรมทูต (ที่หลวงปู่ทั้ง 5 องค์เสก)

ให้แจ้งทั้งสองกระทู้นะครับ
1.กระทู้ขอความเมตตาช่วยต่ออายุพระเณร (ที่อยู่ผู้รับพระให้แจ้งกับคุณนักเดินทาง ทางข้อความส่วนตัวก็ได้นะครัย) สำหรับขอรับพระสมเด็จเจ้ากรมคุณท่า
และ
2.กระทู้พระวังหน้านะครับ ส่วนที่อยู่ให้แจ้งผ่านข้อความส่วนตัวมาให้ผมก็ได้ ถ้าไม่ต้องการแจ้งลงที่กระทู้ครับ สำหรับขอรับพระอุ้มบาตรเล็ก รวม 5 พระธรรมทูต

ขออนุโมทนาในกุศลทุกท่านที่ได้ทำบุญกับวัดบ่อเงินบ่อทอง อีกครั้งครับ

 

คุณสิทธิพงศ์คะ

วันนี้ (3/3/49) ได้ไปบริจาคเงินทำบุญกับสำนักสงฆ์ บ่อเงินบ่อทอง
จำนวนเงิน 2,000.-บาท โอนเงินที่
บ/ชธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ชื่อบัญชี นางสาวฐิติวรรณ คุณานพรัตน์
(สังฆทานบิณฑบาท-ข้าวสาร-อาหารแห้ง)
สาขา บางนา
เลขที่บัญชี 015-4 32192-6
ประเภทบัญชี ออมทรัพย์

<!-- / message --><!-- edit note -->แล้วนะคะที่สาขาสนามบินน้ำ

โดยจะขอรับพระดังนี้ค่ะ

1.พระสมเด็จวังหน้า ที่เป็นสีประจำวัน มีพระธาตุในองค์พระพิมพ์
จำนวน 1องค์ ถ้าเป็นไปได้ขอสีม่วงนะคะ
2.พระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ทั้ง 5 องค์เสก ซึ่งเป็นสีประจำวัน สีม่วง จำนวน 1 องค์
รวมเป็น 2 องค์ นะคะ
ที่อยู่จะส่งpmไปให้ค่ะ
อนุโมทนาบุญนะคะ
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ

 

คุณสิทธิพงศ์อีกรายการนะคะ

วันนี้ (3/3/49) ได้ไปบริจาคเงินทำบุญกับวัดเขาทองพุทธาราม
ตำบลเขาทอง อำเภอพยุหคีรี จังหวัดนครสวรรค์
จำนวนเงิน 2,000.-บาท โอนเงินที่
บ/ชธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
ชื่อบัญชี นายวิทยา ดนัยตโมนุท
สาขา พระนั่งเกล้า
เลขที่บัญชี 323-2-440333
ประเภทบัญชี ออมทรัพย์

<!-- / message --><!-- edit note -->แล้วนะคะที่สาขาสนามบินน้ำ

โดยจะขอรับพระดังนี้ค่ะ

1.พระนอนปางไสยาสน์จำนวน 1องค์
2.พระพิมพ์ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดร ทั้ง 5 องค์เสก ซึ่งเป็นสีประจำวัน สีส้มจำนวน 1 องค์
รวมเป็น 2 องค์ นะคะ
ที่อยู่จะส่งpmไปให้ค่ะ
อนุโมทนาบุญนะคะ
ขอบพระคุณอย่างสูงค่ะ
<!-- / message --><!-- edit note -->

 

คุณพุทธันดร ครับ ขออนุโมทนาในกุศลด้วยครับ

 

ผมได้รับพระแล้วครับ ขอบคุณมากครับ ธวัช

 

ขอบคุณครับที่แจ้งให้ทราบ
ขออนุโมทนาในกุศลอีกครั้งครับ

 

วันนี้ (4 มีค.2549) ผมนำเรื่องการถนอมสุขภาพ มาฝากนะครับ



30 วิธี ถนอมสุขภาพ<O</O
<O</O
เพื่อสุขภาพดีกันถ้วนหน้า
==========================================================================
เผยให้เห็น 30 วิธี ถนอมสุขภาพ ... กายและใจ
==========================================================================
1. หายใจให้ทั่วท้อง
2. นวดแผนโบราณเพื่อล้างพิษ
3. ปิดมือถือ ในบางขณะ เพื่อเป็นอิสระ คิดอะไรได้เต็มที่
4. โนบราซะ ( ผู้ชาย ก็โนอันเดอร์แวร์แทนละกัลล์ )
5. กินอย่างมีสติ : ไม่กินจนฟุ้งเฟ้อ และกินจนเกินความจำเป็นไม่อื่มเกินและเคี้ยวช้า ๆ คำละ 50 ครั้ง
6. ดื่มน้ำวันละ 6-8 แก้ว ดื่มน้ำช่วงเช้าหลังตื่นนอนก่อนแปรงฟันจะมีประโยชน์น้ำที่ผสมน้ำลายในปากจะเป็น ตัวล้างลำไส้ได้ดีนัก <O</O
7. เตือนตัวเองให้ทานผลไม้วันละ 3 - 5 อย่าง หลากสี
8. อดบ้างก็ได้ การอดอาหารในช่วงสั้น ๆ แม้เพียงวันละมื้อจะช่วยให้อวัยวะที่เกี่ยวข้องกับการดูดซึมได้พักผ่ อน
9. อาบน้ำคลายเครียด
10. ขับถ่ายบอกสุขภาพ ปัสสาวะที่ดีต้องใส ไม่ขุ่น ไม่มีตะกอน ถ้าเข้มต้องดื่มน้ำเพิ่ม อุนจิ ต้องนิ่ม สีเหลือง ลอยน้ำได้ ไม่เหม็น หากแข็งต้องเพิ่มผัก ผลไม้ และน้ำ <O></O>
11. หวีผมบรรเทาปวด ในวันที่เครียด / ปวดหัวตุบๆ ลองแปรงผมด้วยหวีที่มีปุ่มตรงซี่แปรง
12. ยิ้มหน่อย ( ใครชอบเก็ก ไม่ยิ้ม ลองดูนะคะ)
13. มาหัวเราะกันเถอะ ทั้งยิ้มและหัวเราะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข กระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดระดับความเครียด เพิ่มภูมิคุ้มกัน <O</O
14. น้ำตาคลายเครียด และช่วยระบายความเครียดได้ (แอบร้องก็ได้ถ้าอาย แต่จริงแล้ว ร้องไห้เป็นเรื่องปกติมนุษย์)
15. เซ็กซ์คือยาวิเศษ
16.นอนหลับเพิ่มพลัง เพื่อซ่อมแซมฟื้นฟู ตอนนอนร่างกายจะหลั่งสารเมลาโทนิน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ และ ระบายท็อกซินออกจากสมอง <O</O
17. สักงีบหนึ่ง หลับกลางวัน สัก 15 นาที
18. เดินเท้าเปล่ากันบ้าง ทำให้เกิดการทำงานร่วมกันระหว่างระบบประสานสัมผัสกล้ามเนื้อ กระดูก และสมอง เดินเท้าเปล่า รับน้ำค้างบริสุทธ์ สนามหญ้า ย่ำก้อน กรวดบ้าง <O</O
19. กอด ยาวิเศษประจำบ้าน กอดคนที่คุณรักจะมีผลต่อระบบประสาทส่วนกลางช่วยปลดปล่อยความเครียด
20. ช่างคุย กับเพื่อนสนิท คนรู้ใจ
21. ร้องเพลง ขณะร้องร่างกายจะขับคาร์บอนไดออกไซด์ และสูดออกซิเจนได้มากขึ้น
22. ไดอารี่ที่รัก เขียนบันทึกช่วยระบายความในใจ และ ได้ทบทวนชีวิต รู้จักและปรับปรุงตัวเองได้
23. Out Door Please!! ออกใช้ชีวิตกลางแจ้งบ้าง
24. ฝึกสมองทุกวัน อ่านหนังสือ เล่นเกมส์ ทำให้สมองทำงานมากกว่า 80 %ขณะที่ดูโทรทัศน์ใช้สมอง 20 % อย่าลืมอ่านหนังสืออย่างน้อยวันละ 15 นาที <O</O
25. สงบใจไหว้พระ
26. ชวนกันมาดูดาว
27. ความสุขจากรูปเก่า ... เก่า ....
28. ให้เพื่อได้รับเศษสตางค์ ลองหยอดตู้บริจาคแบ่งสิ่งของให้คนที่ยากจนกว่าเรา ฯลฯ ช่วยให้คุณเข้าใกล้ความสุข
29. ชมคนอื่นเสียบ้าง
30. พูดขอบคุณให้ติดปาก และขอบคุณจากใจจริงร่างกายจะหลั่งสารเอนดอร์ฟินทำให้มีความสุข
==========================================================================
เมื่อทราบกันดังนี้แล้ว ก็ต้องหมั่นปฏิบัติให้ถูกต้องด้วย
แต่ก็ไม่ควรใช้สมองมาก จนเครียดเกินไป
เพราะจะทำให้เกิดโรคอื่นตามมาได้เช่นกัน ปัจจุบัน คนไทยเป็น“โรคเครียด”
กันมากขึ้นอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน <O</O
<O</O

 

วันนี้ (4/3/2549) อีกบทความนะครับ

โปรดระวัง ..คนให้ช่วยกรอกแบบสอบถาม<O</O
<O> </O>
โปรดระวัง ..คนให้ช่วยกรอกแบบสอบถาม..ที่ไหน ก็แล้วแต่...( ที่ BTS และสรรพสินค้าแถวปูนฯ )

> >>>อย่าลืมเตือนลูกๆหลานๆนะจ๊ะ สำหรับคนใช้บริการ BTS บ่อยๆ <O</O

> >>ระวังไว้นะ...พอดีมีเพื่อนส่งเมล์นี้มาให้ล่ะ...
>
> >>เรื่องคร่าวๆก็คือ...ผู้หญิงคนหนึ่งต้องใช้บริการรถไฟฟ้าอยู่ทุกวัน
>
> >>แล้วก็มักจะเห็นคนกลุ่มหนึ่งมาคอยดักคนให้ช่วยตอบแบบสอบถาม

> >>ซึ่งเธอก็โดนเหมือนกัน ด้วยความเห็นใจ ก็เลยยอมตอบคำถาม
>
> >>โดยแรกๆ ... คนพวกนี้จะถามคำถามทั่วๆไป
>
> >>แต่ก็ไปลงท้ายที่การถามข้อมูลบัตรเครดิต
>
> >>ซึ่งเธอเอะใจเลยไม่ตอบ แล้วเดินหนีออกมา ...
>
> >>แต่เพื่อนร่วมงานของเธอ ...ตกเป็นเหยื่อของคนพวกนี้....
>
> >>เพื่อนของเธอคนนี้เจอคนกลุ่มเดียวกันที่สถานีชิดลม เวลาประมาณ 6 โมงครึ่งช่วงเย็น
>
> >>โดยตอบคำถามไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ๆก็รู้สึกเหมือนถูกป้ายยา
>
> >>หรืออะไรสักอย่างจนเธอรู้สึกสลึมสลือแต่ไม่ถึงกับหมดสติ
>
> >>เธอจำไม่ได้ว่าถูกพาไปที่ ไหน ...
>
> >>แต่จำได้เหมือนว่าคนพวกนี้บังคับให้เซ็นอะไรสักอย่าง
>
> >>เธอมารู้สึกตัวอีกทีที่สถานีชิดลม ตอนเที่ยงคืน ...
>
> >>ปรากฏว่าเธอเจอสลิปบัตรเครดิตของเธอถูกรูดไป 20,000 บาท
>
> >>และพบใบสัญญาว่าเธอจะโอนเงิน 4,000 บาททุกเดือน เป็นเวลา 20 เดือน
>
> >>ให้กับบริษัทที่ชื่อ Asia Travel ซึ่งทุกครั้งที่เธอโทรไปยังบริษัทนี้
>
> >>เธอจะพบแค่เครื่องรับฝากข้อความเท่านั้น
>
> >>และเมื่อเธอปรึกษาทนาย ... ทนายก็บอกว่าใบสัญญาเป็นลายมือของเธอจริง
>
> >>และเป็นเรื่องที่ยากต่อการพิสูจน์หลักฐาน
>
> >>ตอนนี้เธอได้แจ้งกับทาง BTS ... ให้จับตาดูกลุ่มมิจฉาชีพกลุ่มนี้ ...
>
> >>และตอนนี้เธอกำลังกลุ้มใจมากๆ ...เพราะยังไม่รู้ว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร
>
> >>และเมื่อเร็วๆ
>นี้ที่แหล่งสรรพสินค้าแถวปูนฯก็มีกลุ่มคนร้ายใช้วิธีการเดียวกันนี้
> >>โดยเฉพาะผู้หญิงวัยกลางคนที่แต่งตัวดีเพื่ออำพรางตัวเองและให้เหยื่อตายใจ
>
> >>โดยเข้ามาขอความช่วยเหลือและยื่นนามบัตรซึ่งป้ายยาไว้ ...
>
> >>พอเหยื่อสูดดมเข้าไป ก็จะไม่ได้สติ และหลอกให้ไปรูดบัตรเครดิตซื้อของให้
>
> >>ซึ่งเราก็ไม่สามารถเอาผิดกับใครได้เลย
>
> >>แม้จะเป็นแหล่งผู้คนผลุกผล่านก็ตาม ก็ยังไม่ปลอดภัยอยู่ดี
>โดยเฉพาะสาวๆOffice
>
> >ที่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
>
> >>ถ้าเป็นไปได้หลีกเลี่ยงการไปเดิน shopping เพียงลำพัง จะดีที่สุด <O</O

 

รู้เทคนิคแบงก์ปลอม



วันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2549
สกู๊ป : ลุยโรงพิมพ์ธนบัตร..รู้เทคนิคแบงก์ปลอม

บายไลน์, ขวัญชนก วุฒิกุล kwanchanok@nationgroup.com



จำได้ว่า ช่วงบ่ายวันหนึ่งเมื่อประมาณ 2-3 สัปดาห์ที่แล้ว ระหว่างที่ดิฉันกำลังคร่ำเคร่งกับการแยกปัญหาบ้านเมืองออกจากปัญหาส่วนตัว ก็มีน้องนักข่าวส่งหมายเชิญของแบงก์ชาติให้ แล้วบอกว่า แบงก์ชาติเชิญบรรณาธิการข่าวไป "วิสิท" ซึ่งก็คือ การเยี่ยมชมแบงก์ชาติในวันที่ 21 กุมภาพันธ์
สารภาพตามตรงว่า ตอนแรกก็ไม่ได้คิดว่าจะไปเอง ทั้งๆ ที่เมื่อสมัยสาวๆ ทำข่าวใหม่ๆ ดิฉันอยากทำข่าวแบงก์ชาติมากที่สุด เคยพยายามอ้อนวอนบรรณาธิการ หรือ พี่ บก.ให้ช่วยย้ายดิฉันจากที่ประจำตลาดหลักทรัพย์ไปประจำที่ธนาคารแห่งประเทศไทยบ้าง เพราะคิดว่าที่นั่นคงเป็นแหล่งความรู้ที่ช่วยต่อเติมภาพเศรษฐกิจให้ครบวงจร แต่สุดท้ายก็ไม่ได้รับอนุญาต ทำให้ดิฉันต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านตลาดทุนต่อไป
พอคิดถึงวัยเยาว์ ซึ่งจะว่าไปแล้วก็เพิ่งผ่านมาไม่นาน (แค่ 10 กว่าปีเองค่ะ) ทำให้ตัดสินใจตอบรับเข้าร่วมโครงการ "วิสิท แบงก์ชาติ" ซึ่งงานนี้บอกได้คำเดียวว่า คุ้มจริงๆ ค่ะ
จุดนัดพบสำหรับการเยี่ยมเยือนแบงก์ชาติในครั้งนี้ เริ่มต้นตั้งแต่เช้าที่ห้องประชุมใหญ่ชั้น 4 อาคารสำนักงานใหญ่ ซึ่งทราบจาก คุณจิตติมา ดุริยะประพันธ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายสนับสนุนการบริหาร ว่า ห้องประชุมที่เรานั่งกันอยู่นี้ เป็นห้องที่ใช้หารือนโยบายสำคัญๆ มากมาย รวมถึงการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินเพื่อพิจารณาภาพรวมเศรษฐกิจและตัดสินใจเรื่องความเป็นไปของทิศทางดอกเบี้ย
ขณะที่ผนังห้องด้านข้างนั้น มีภาพวาดของอดีตผู้ว่าการแบงก์ชาติตั้งแต่พระองค์แรก คือ หม่อมเจ้าวิวัฒนไชย ไชยันต์ ซึ่งภายหลังได้รับการสถาปนาเป็น พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวิวัฒนไชย ไปจนถึงอดีตผู้ว่าการท่านสุดท้าย คือ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล ลองนับดู 2-3 ครั้ง จนแน่ใจว่า จากสุดมุมผนังทั้ง 2 ด้านแล้ว ทั้งหมดมีอยู่ 16 ภาพด้วยกัน
อดคิดไม่ได้ว่า ถ้า ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการแบงก์ชาติคนปัจจุบันกลายเป็นอดีตแล้ว จะติดภาพตรงไหน ?
หลังจากรับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับบทบาทและหน้าที่ของแบงก์ชาติ รวมทั้งการประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจเสร็จสิ้นแล้ว โปรแกรมในช่วงบ่าย คือ การเยี่ยมชมโรงพิมพ์ธนบัตร ซึ่งดิฉันสนใจใคร่รู้เป็นพิเศษ เพราะอย่างที่เรียนไว้ให้ทราบตั้งแต่ต้นว่า ดิฉันไม่เคยประจำข่าวสายแบงก์ชาติ เพราะฉะนั้น ทุกเรื่องที่นี่จึงดูตื่นตาตื่นใจไปหมด โดยเฉพาะโรงพิมพ์ธนบัตร ซึ่งเป็นที่ตั้งของ "ห้องมั่นคง"
หลายคนคงเคยได้ตำนานหรือเรื่องเล่าต่อกันมาว่า ห้องมั่นคงเป็นที่เก็บรักษาทุนสำรอง ซึ่งเปรียบเสมือนสมบัติของชาติ มีเสียงเล่าลือว่า ที่นั่นเก็บรักษาทองคำก้อนใหญ่มหึมา ซึ่งมลังเมลืองมาก ขณะที่หลายคนจินตนาการว่า ห้องมั่นคงคงเต็มไปด้วยเพชรนิลจินดาเหมือนขุมทรัพย์อินเดียนาโจนส์
ดิฉันบอกไม่ได้เหมือนกันค่ะว่าเป็นจริงตามนั้นหรือเปล่า เพราะเท่าที่สายตาของตัวเองกวาดไปได้ไกลที่สุด จากด้านหน้าก็ไม่เห็นอะไรอย่างที่ร่ำลือกันไว้ ที่เห็นแน่ๆ ก็คือ ถ้ามองจากด้านนอก ห้องมั่นคงไม่ต่างจากคุกที่มีลูกกรงเหล็กสกัดกั้นอิสรภาพของความมั่งคั่งเอาไว้แต่ภายใน
ไกด์กิตติมศักดิ์ที่นำชมโรงพิมพ์ธนบัตรครั้งนี้ คือ ดร.นพพร ประโมจนีย์ กรรมการผู้จัดการโรงพิมพ์ธนบัตร ซึ่งพาชมทุกขั้นตอนของการพิมพ์ธนบัตรหรือแบงก์ เริ่มตั้งแต่กระดาษเปล่า ซึ่งเป็นกระดาษพิเศษที่สั่งพิมพ์เป็นการเฉพาะมาจากโรงพิมพ์ในต่างประเทศ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการพิมพ์ ต่อเนื่องจากการตรวจสอบการพิมพ์ ซึ่งใช้ความเชี่ยวชาญของเจ้าหน้าที่ที่ตรวจด้วยตาเปล่าแล้วเห็นความ "ผิดปกติ" ของธนบัตรทันที
หลายคนที่เคยสงสัยว่า แบงก์เสียๆ เหล่านี้ แบงก์ชาติจัดการอย่างไรนั้น ดร.นพพร บอกว่า กระดาษที่ใช้พิมพ์แบงก์ 1 แผ่นนั้น ถ้าพิมพ์แบงก์ใหญ่ เช่น ราคา 1,000 บาท ก็พิมพ์ได้ 28 ใบ ถ้าแบงก์ราคาเล็ก ก็ได้ประมาณ 30 ใบนั้น เมื่อตรวจสอบว่ามีการพิมพ์ผิดพลาด เจ้าหน้าที่ก็จะใช้มาร์กเกอร์กาผิด ก่อนจะนำเข้าเครื่องคัดแยก แล้วนำแบงก์ที่พิมพ์ผิดนั้นส่งต่อให้คณะกรรมการพิจารณาก่อนที่จะส่งทำลายทั้งหมด
ตอนที่เห็นเจ้าหน้าที่คัดแบงก์เสียทิ้ง บอกคำเดียวว่า เสียดายจริงๆ ค่ะ แต่ ดร.นพพร บอกว่า ธนบัตรที่ใช้ไม่ได้นี้มีสัดส่วนไม่เกิน 5% ของจำนวนทั้งหมดเท่านั้นค่ะ
ขณะที่ภารกิจที่ดูเหมือนจะสำคัญที่สุดของโรงพิมพ์ธนบัตร อยู่ที่การผลิตเพื่อให้ยากต่อการปลอมแปลง เพราะเจ้าแบงก์ปลอมสร้างความสูญเสียให้ระบบเศรษฐกิจไม่ใช่น้อยๆ เลยทีเดียว ดังนั้น หากสงสัยว่าธนบัตรฉบับใดเป็นธนบัตรปลอม วิธีตรวจพิสูจน์แบบง่ายๆ เลยก็คือ ให้นำธนบัตรที่แน่ใจว่าเป็นของจริงมาเปรียบเทียบสี ลวดลายการพิมพ์ และรายละเอียดอื่นๆ ซึ่งจะสังเกตเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน
ลักษณะโดยทั่วไปของธนบัตรจริงก็คือ เนื้อกระดาษมีความเหนียว แกร่ง ไม่ซับน้ำ ไม่เปื่อยหรือยุ่ยง่าย ลวดลายและภาพ โดยเฉพาะพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีลายเส้นละเอียด คมชัด สวยงาม ไม่เลอะเลือน
แต่ยังไม่แน่ใจ ก็สามารถตรวจสอบเพิ่มเติมที่ "ลายน้ำ" เป็นภาพพระบรมฉายาสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและรูปลายน้ำโปร่งแสงเป็นพิเศษในเนื้อกระดาษส่วนที่ว่าง จะมองเห็นภาพได้ชัดเจนเมื่อยกธนบัตรขึ้นส่องดูกับแสงสว่าง
หรือจะพิจารณาจาก "เส้นใยสีโลหะ" ซึ่งฝังในเนื้อกระดาษตามแนวยืน จะมองเห็นได้ชัดเจนเมื่อยกธนบัตรขึ้นส่องกับแสงสว่าง และจะเห็นตัวเลขและตัวอักษรของราคาธนบัตรโปร่งแสงขนาดจิ๋ว รวมถึง "แทบฟอยล์สีเงิน" ซึ่งบนแถบฟอยล์จะมีตราอักษรพระปรมาภิไธยย่อ "ภ.ป.ร." กับตัวเลขกำกับราคา ซึ่งมองเห็นเป็นหลายมิติ เมื่อพลิกธนบัตรไปมาจะเปลี่ยนสีและสะท้อนวาววับ จุดนี้เองที่กรรมการผู้จัดการโรงพิมพ์ธนบัตรบอกว่ายากต่อการปลอมแปลงอย่างยิ่ง
นอกจากนี้ ยังมี "ตัวพิมพ์เส้นนูน" แจ้งราคาบนมุมบนด้านขวา ตัวอักษรคำว่า "รัฐบาลไทย" และตัวอักษรแจ้งราคาด้านหน้าธนบัตร พิมพ์ด้วยระบบเส้นนูน เมื่อใช้นิ้วมือลูบจะรู้สึกสะดุดหรือรู้สึกสากๆ พร้อมกันนี้ ยังมี "ตัวเลขแฝง" ซ่อนในลายประดิษฐ์ หน้าตัวเลขไทยแจ้งราคามองเห็นได้เมื่อยกธนบัตรเอียงเข้าหาแสงสว่าง โดยมองผ่านจากมุมล่างซ้ายเข้าหากึ่งกลางธนบัตร
รู้อย่างนี้แล้ว ลองหยิบแบงก์ในกระเป๋าขึ้นมาพิสูจน์กันหน่อยก็ได้ค่ะ ดูสิว่ามีอาชญากรเศรษฐกิจซ่อนอยู่ในกระเป๋าสตางค์เราหรือเปล่า
"วิสิท แบงก์ชาติ" ครั้งนี้ มีโอกาสพอกพูนความรู้มากขึ้นเยอะเลยค่ะ โดยเฉพาะขั้นตอนการพิมพ์ธนบัตรจากกระดาษเปล่าที่มีต้นทุนแผ่นละ 1 บาท และเพิ่มมูลค่าด้วยนวัตกรรมต่างๆ จนค่าสูงสุดถึง 1,000 บาท
ยิ่งตอน ดร.นพพร ชี้ให้เห็นเทคนิค "โฮโลแกรม" ซึ่งเป็นรูปดอกบัวเล็กๆ ที่ด้านหน้าเป็นรูปหนึ่ง ด้านหลังเป็นอีกรูป แต่เมื่อส่องกับแสงสว่างก็รวมกันเป็นดอกบัวจิ๋วซ่อนอยู่บนแบงก์ 1,000 บาท ก็ทำให้รู้ซึ้งกับใจตัวเองว่า ที่ผ่านมาไม่เคยแม้แต่สังเกตเห็น เพราะถนัดแต่หยิบใช้อย่างเดียว ดังนั้น พอสังเกตให้สะดุดนิดเดียว ก็ชะลอการใช้จ่ายแบบไม่จำเป็นได้ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ

 

วันนี้ (6 มีค.2549) เมื่อเช้าผมได้ส่งพระพิมพ์ไปให้คุณpu002 และคุณlittlelucky แล้วนะครับ ได้รับพระแล้ว ช่วยแจ้งกลับมาให้ผมทราบด้วยนะครับ ขอบคุณครับ

วันนี้ อีกบทความนะครับ

ระวังเหตุการณ์อย่างนี้<O</O
อยากแชร์ประสบการณ์
>> > > >
>> > > เพราะช่วงตรุษจีนหลายท่านอาจต้องเดินทางไปต่างจังหวัดจะได้ระวัง
>> > > > ไว้ครับ
>> > > >
>> > > > เมื่อต้นเดือน มิย.ปีที่แล้ว ผมใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ
>> > > > ขากลับจากโคราช เลยจากปากช่องมา
>> > > > สัก 10
>> > > > กม.เห็นจะได้ ขณะนั้นเป็นเวลาตี
>> > > > 3ผมเลี้ยวรถเข้าปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง
>> > > > (ขอไม่ระบุชื่อปั๊มนะครับ
>> > > > เพราะ
>> > > > เรื่องนี้คงไม่เกี่ยวอะไรกับปั๊มเขา )
>> > > > ตอนนั้นขับรถเก๋งไปครับ
>> > > > กะเข้าไปทำธุระและล้างหน้าล้าง
>> > > > ตาให้หายเพลียสักหน่อย ผมเข้าห้องน้ำไปประมาณ 5นาที
>> > > > ออกมาเห็นบริเวณล้อหน้ามีน้ำเจิ่งนองไป
>> > > > หมด
>> > > > สถานการณ์อย่างนี้หม้อน้ำมีปัญหาแน่ช่วงนั้นมึนครับ
>> > > > เพราะช่วงที่ขับมาระดับความร้อนก็
>> > > > ปกติช่วงที่
>> > > > กำลังคิดหาทางแก้ปัญหาอยู่นั้น ก็มีรถกระบะเก่าๆ
>> > > > คันหนึ่งวิ่งเข้ามาจอดใกล้ๆคนหนึ่งอายุ
>> > > > ราว 40 อีก
>> > > > คนหนึ่งอายุสัก 20 ต้น ๆ เข้ามาช่วยดู
>> > > > แถมวิเคราะห์ให้เสร็จว่า เครื่องยนต์เป็นอะไรและ
>> > > > อาสาว่า
>> > > > จะเรียกรถยกพาไปซ่อมที่อู่ให้
>> > > > ผมยังไม่ทันจะตอบรับหรือปฏิเสธแกก็กดโทรศัพท์
>> > > > ส่งเสียง
>> > > > ล้งเล้งอยู่
>> > > > เดี๋ยวเดียว ก็เดินมาบอกผมว่า
>> > > > แกช่วยจัดการเคลียร์ให้แล้ว เดี๋ยวรถยกจะมา
>> > > > ทางอู่คิดราคา
>> > > > 7500
>> > > > โดยใช้อะไหล่แท้ ผมเลยบอกว่า ไม่ทำเด็ดขาด
>> > > > ขอบคุณที่มีน้ำใจผมกำลังติดต่อช่างประจำ
>> > > > อยู่ผมอาจ
>> > > > ต้องเอารถเข้า 0แกก็ไม่ว่าอะไร เพียงแต่พูดเปรยๆ ว่า
>> > > > เข้า 0ต้องเสียเป็นหมื่นนะแกหายไป
>> > > > ครู่
>> > > > ใหญ่ ก็เดินมาหาผมบอกว่าจะให้ช่างมาซ่อมที่นี่เลย
>> > > > แกต่อรองราคาลงมาได้เหลือ 5000 ผม
>> > > > เห็นท่าทาง
>> > > > แกดูซีเรียสเวลาที่พูดก็เลยต้องแกล้งโกหกไปว่า
>> > > > รถคันที่ขับเป็นของผู้กองที่หินกอง สระบุรี
>> > > > ( กราบ
>> > > > ขออภัยท่านไว้ด้วยครับที่ขอแอบอ้าง )
>> > > > ท่านบอกให้เอารถเข้าอู่เพราะเคลมได้ รถกระบะคันนั้น
>> > > > เลยขับ
>> > > > ออกไปอย่างกระชาก
>> > > >
>> > > > หลังจากนั้นก็มีคนขายไส้กรอกอีสานมาพูดว่า
>> > > > คุณคงโดนทิ่มหม้อน้ำเข้าให้แล้ว จอดรถดึก ๆ
>> > > > ตามปั๊ม
>> > > > ถ้าไม่มีคนดูรถ มักจะเป็นแบบนี้
>> > > > แกบอกว่าเจอกันหลายปั๊ม
>> > > > แกก็เตือนใครไม่ได้เพราะต้องค้า
>> > > > ขายแถบนั้น
>> > > >
>> > > > โชคดีที่ผมพอมีเพื่อนอยู่ที่สระบุรีจึงพาช่างมาซ่อม
>> > > > เสียเวลาไปหลายชั่วโมงหม้อน้ำที่ถอด
>> > > > ออกมาเป็นรู
>> > > > ใหญ่เลยครับช่างบอกว่ารอยเกิดจากการเสียบทะลุ
>> > > > เพราะถ้าหม้อน้ำเกิดรอยรั่วเองแผลจะ
>> > > > ไม่เป็นรู
>> > > > ขนาดนี้แถมอยู่กลางหม้ออย่างนี้ถามเด็กปั๊ม
>> > > > แกก็บอกว่าเคยระบาดหนักเมื่อหลายปีแล้วก็
>> > > > เงียบไป
>> > > > เพิ่งมาเกิดอีกก็ในช่วงเทศกาล<O></O>
<O> </O>