อานิสงส์สร้างเวจกุฏี (ห้องน้ำ)

ในห้อง 'บุญ-อานิสงส์การทำบุญ' ตั้งกระทู้โดย NoOTa, 23 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. NoOTa

    NoOTa Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    20,125
    กระทู้เรื่องเด่น:
    349
    ค่าพลัง:
    +64,492
    อานิสงส์สร้างเวจกุฏี (ห้องน้ำ)



    [​IMG]



    ใจความว่า พระศาสดาได้เสด็จประทับอยู่ในพระเชตวันมหาวิหาร
    แห่งกรุงสาวัตถี มีมาณพคนหนึ่งเป็นช่างทองทำการขายทองรูปพรรณ
    อยู่ในกรุงสาวัตถีนั้น จนมั่งมีโภคทรัพย์สมบัติมาก

    อยู่มาวันหนึ่งมาณพนั้นมาคิดว่า เราค้าขายทองก็มีความเจริญ
    รุ่งเรืองขึ้นเป็นลำดับ ทรัพย์ที่หามาได้โดยยาก ก็ไม่อยากจะให้สูญหายไป
    โดยเร็ว ตริตรองหาวิธีที่จะเก็บทรัพย์ให้ได้อยู่นาน ก็ไม่พบวิธีที่จะป้องกัน
    ความเสื่อมเสียของทรัพย์ได้ เพราะว่าทรัพย์เป็นของกลางเป็นเครื่องอาศัย
    ของคนทุกคน สุดแล้วแต่ใครจะขยันหมั่นเพียรหามาได้เท่านั้น ถึงแม้
    จะหามาได้มากก็ดี ถ้าขาดปัญญาเป็นเครื่องรักษาทรัพย์แล้วทรัพย์นั้น
    ก็ไม่คงทนอยู่ได้ แม้จะอยู่ได้ตลอดไปตนเองก็มีชีวิตยืนนานที่จะบริโภค


    ต่อไปไม่ได้เพราะความตายย่อมมาพรากตนให้หนีไปเสียจาก
    ทรัพย์เมื่อสิ้นชีพแล้วทรัพย์เหล่านั้น ก็ไม่ติดตามตนไปปล่อยไว้ให้คนอื่น
    เขาใช้สอยอย่างสบาย เห็นมีอยู่แต่อย่างเดียวเท่านั้น ที่จะติดตามตัวไป

    ในอนาคต คือฝังทรัพย์ไว้ในพุทธศาสนาเมื่อคิดเช่นนี้แล้วก็คิดดูว่า
    จะทำอะไร สิ่งอื่น ๆ ก็มีผู้ทำไว้หมดแล้ว ก็เห็นแต่เวจกุฎีเท่านั้นที่ยังไม่มี
    ใครทำเลย


    เมื่อคิดเช่นนี้แล้วจึงได้สร้างขึ้นเมื่อสำเร็จแล้วยังได้สร้างโรงไฟ
    แลที่สำหรับอาบน้ำอีกด้วย เมื่อเสร็จสรรพดีแล้ว ก็ทำการฉลองอย่าง
    มโหฬารและมอบถวายแก่ ภิกษุสงฆ์ มีพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ
    เป็นประธานแล้วตั้งปฏิธานความปรารถนาว่าข้าแต่ท่านผู้เจริญ
    เมื่อข้าพเจ้ายังไม่ถึงพระนิพพานตราบใด ขึ้นชื่อว่าความทุกข์อันเกิด
    แต่โรคต่าง ๆ อย่าได้มาแผ้วพานต่อข้าพเจ้าเลย อิมินาทาเนน
    ด้วยอำนาจผลทานนี้พระสารีบุตรก็อนุโมทนาว่า ขอให้ความ
    ปรารถนาจงเป็นผลสำเร็จเถิดมาณพนั้นเป็นผู้ไม่ประมาทผลทาน
    ให้สมาทานศีลครั้นทำกาลกิริยาตายไปแล้วไปเกิดบนสวรรค์เทวโลก
    มีสมบัติวิมานทอง มีเทพอัปสรเป็นยศบริวาร อยู่มาวันหนึ่งภิกษุทั้ง
    หลายนั่งสนทนา ถึงมาณพผู้นั้นอยู่พระศาสดาเสด็จมาถึงในที่นั้น
    แล้วตรัสถามว่า ดูกรภิกษุทั้งหลายเธอนั่งสนทนากันด้วยเรื่องอะไร
    ภิกษุทั้งหลายกราบทูลให้ทรงทราบ พระองค์ทรงแสดงธรรมเทศนา
    แก่ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นว่าดูกรภิกษุทั้งหลาย นรชนทั้งหลายเกิดมา
    ได้พบพระพุทธเจ้าและในขณะที่พุทธศาสนายังประดิษฐานอยู่
    จะเป็นผู้เศร้าโศกในอบายภูมิ เป็นจำนวนมากมาณพที่เป็นช่างทองนี้
    ได้พบทั้งสองประการแล้วไม่เป็นผู้ประมาท ได้สร้างเวจกุฎีถวายบูชา
    พระรัตนตรัยด้วยศรัทธาเลื่อมใส ได้เสวยสุขในสุคติโกลสวรรค์
    และเป็นปัจจัยให้ถึงซึ่งพระนิพพาน แม้ในพระศาสนาของพระพุทธเจ้า
    ทรงพระนามว่าตัณหังกร เราตถาคตก็เคยสร้างเวจกุฎี และที่สำหรับอาบ
    แก่พระภิกษุสามเณรได้ตั้งสัตยธิษฐานว่า ขอให้ข้าพระองค์ได้เป็นพระ
    พุทธเจ้า พระองค์หนึ่ง ในอนาคตกาล ด้วยผลแห่งอานิงส์
    ที่ข้าพระองค์ได้สร้างเวจกุฎีให้เป็นสาธารณะทานนี้ ตถาคตครั้นทำลาย
    ขันธ์แล้วก็ไปบังเกิดสวรรค์เสวยทิพย์สมบัติอยู่ชั้นดุสิตครั้นจุติจาก
    ชาตินั้นแล้ว ได้ท่องเที่ยงอยู่สังสารวัฎฎ์จนบารมีเต็มเปี่ยมแล้วจึงตรัส
    เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า คือตถาคตนี้เอง ก็สมดังคำปรารถนาในครา
    กาลครั้งโน้นทุกประการ เมื่อจบพระธรรมเทศนาจบลงแล้วชนทั้งหลาย
    เป็นอันมากได้ดวงตาเห็นธรรม ต่างก็รื่นเริงบันเทิงใจในเวจกุฎี
    เป็นยิ่งนัก




    from :)
    http://www.84000.org/anisong/11.html
     
  2. Nutuk

    Nutuk เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    805
    ค่าพลัง:
    +347
    อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
    สาธ สาธุ สาธุ
    <!-- / message -->
    <!-- / message -->
     
  3. CLUB CHAY

    CLUB CHAY เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    507
    ค่าพลัง:
    +1,412
    ขอร่วมอนุโมทนาบุญกุศลกับทุกรูปทุกนามที่ช่วยกันทำนุบำรุงและเผยแพร่พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองครับ สาธุ
     
  4. aeymerit

    aeymerit สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    26
    ค่าพลัง:
    +16
    ขออนุโมทนาค่ะ ดิฉันก็สร้างห้องน้ำให้วัดเทียบศิลารามและชักชวนผู้อื่นร่วมสร้างด้วย 11ห้องค่ะ เพื่อให้ผู้ปฎิบัติธรรม และแม่ชี ได้มีห้องน้ำเพียงพอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...