สมเด็จพระพุทธาจารย์โต สร้างพระเครื่องใช้ผงพระธาตุของฤาษี

โห ... คนเรา แกว่งชีวิตหาอบายซะแล้ว


ขี้เกียจพูดมาก

ขอบอกเพียงว่า ทุกอณูที่พระพุทธองค์ทิ้งไว้ในภพ

ย่อมยังคุณแก่สัตว์โลกแต่ฝ่ายเดียว เป็นแก้วยิ่งกว่าแก้ว รัตนะยิ่งกว่ารัตนะ

 

บ้านผมก้อมีพระบรมสารีฯ ครอบครัวมีความสุขดีครับ ชีวิตราชการก็ก้าวหน้าดีมาก แต่สำหรับความตายก็เป็นธรรมดา หลวงพ่อฤาษีเราท่านให้ไม่ลืมความตาย เราต้องเจอมันซักวันใดวันหนึ่ง ขอเพียงแต่ว่าถ้าจะตายก็ขอให้ไม่กลับมาเกิดอีก ขอชาตินี้เป็นชาตสุดท้ายครับ มั่นสร้างความดีต่อไปนะครับ

 

คือ...ผมก็มีนะ ผมไม่เห็นเป็นอะไรเลย ถือว่าหลากหลายทีเดียว พระคำข้าวรุ่นพิเศษยังฝังพระธาตุเลยครับก็ไม่เห็นมีใครเป็นอะไรนะครับ...

 

คุณสินธพ ทรวงแก้ว เป็นใครผมไม่ทราบ แต่เท่าที่อ่านผ่านๆมา หลายท่านที่มีพระบรมสารีริกธาตุไว้บูชา ก็สรุปได้ว่ามีแต่ความเจริญรุ่งเรือง เป็นสิ่งที่เป็นมงคลทั้งสิ้น ผมไม่ทราบว่าคุณสินธพ ทรวงแก้ว มีจุดประสงค์อย่างไร
น้องปาล์ม เรามาร่วมแจกพระบรมสารีริกธาตุกันเถอะ โดยขอมอบให้กับคุณสินธพ ทรวงแก้ว เป็นคนแรกเลยนะ แล้วลองดูซิ ว่าจะตายไหม เพราะผมเองก็ได้รับมาจากน้องปาล์มเข่นกัน ผมเองนำไปแบ่งให้กับผู้อื่นด้วย เขาก็ดีใจมากเลย แต่ก็ยังไม่เห็นจะตายซักทีนี่ครับ

 

ผมว่ามีประเด็นอื่นๆ ที่ร้ายแรงกว่านี้อีกหลายเรื่องครับ...

คุณสินธพ ทรวงแก้ว ตามประวัติที่เขียนไว้ในหนังสือ...
ได้ศึกษาพระไตรปิฎกมานานกว่า ๒๐ ปี อ่านจบถึง ๖ จบ...
จึงได้พยายามอธิบายวิธีการปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์...

โดยกล่าวว่าการปฏิบัติสมถกรรมฐานให้ได้ฌานสมาบัติ แล้วจึงปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน เพื่อการพ้นทุกข์นั้น...
ทำได้เฉพาะพระพุทธองค์เท่านั้น คนเราทั่วไปไม่สามารถทำได้ เพราะจะยึดติดกับฌาน อภิญญา...

การเริ่มต้นด้วยสมถกรรมฐานจึงเป็นวิธีที่ผิด.. ให้เริ่มที่วิปัสสนากรรมฐานเลย...
เริ่มต้นผิดก็ผิดเลย เริ่มต้นถูกก็ถูกเลย... ???
และที่ครูบาอาจารย์สอนกันมาตั้งแต่โบราณกาล... เป็นการหลงผิด ติดที่ฌาน อภิญญา...

*** และตลอด ๑๔๐๐ ปีที่ผ่านมาไม่มีผู้ฝึกได้ถึงขั้นอริยะบุคคลเลย.. ????

(b-ng) (b-wow) (b-hmm)

สมเด็จฯ โต และหลวงปู่ทวด ท่านเป็นผู้มีอภิญญาญานแก่กล้า จึงทราบว่าที่ลำพูนมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ท่านจึงไปพบพระเครื่องที่สร้างโดยพระอรหันต์จากอินเดียตั้งแต่ปี ๗๐๐ กว่าๆ ..
ซึ่งมีพระอังคารธาตุพระพุทธเจ้าผสมอยูด้านหลังองค์พระ...

แต่สมเด็จฯ โต และหลวงปู่ทวด ท่านไม่รู้ ว่าเป็นอังคารธาตุของพระพุทธเจ้า
จึงแคะผงออกมาจากหลังองค์พระ นำไปสร้างพระเครื่องต่อ โดยไม่รู้ว่า
พระที่สร้างด้วยพระธาตุหรือ อังคารธาตุนั้น คนธรรมดาเก็บไว้ไม่ได้
ต้องเป็นระดับอริยะบุคคล...

คนที่จะสัมผัสพลังหรือทราบว่าพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันต์ธาตุ ว่ามีฤทธิธานุภาพเพียงใดนั้น
ต้องเป็นระดับอริยะบุคคล ซึ่งก็คือผู้เขียนนะเอง (มีผู้กล่าวว่าได้โสดาบันปฏิผล) ???
และสื่อให้เห็นว่าครูบาอาจารย์ที่สืบๆ กันมาไม่มีใครได้อริยะบุคคลเลย เพราะติดในอภิญญาญาณ ???

 

คงจะเป็นเรื่องของบุญบารมีมั้ง. ระดับพระพุทธเจ้าคนธรรมดาบารมีน้อยเก็บไว้ก็น่าจะเป็นได้ (มั้ง)...

 

เผยแพร่ธรรมโดยแฝงมิจฉาลงไปนั้นจักไม่เจริญ
ทางที่ดีหากท่านผู้เขียนหนังสือได้รับรู้ขอให้แก้ไขให้ถูกต้องเถิดจะได้พ้นจากภัยอันเกิดจากการปรามาสพระรัตนตรัย เรื่องนี้มีท่านผู้หนึ่งเคยเกิดเป็นธิดาพญามารมาก่อนด้วยอวิชชาและมานะในครั้งอดีตของเธอทำให้เขียนข้อมูลเชิงวิชาการปฏิเสธพระธรรมโดยบิดเบือนออกไปตามใจชอบจนทำให้เธอมิอาจเจริญภาวนาได้ดีที่เธอผู้นั้นพบกับแสงธรรมอันแท้จริงจึงได้ธรรมอันแท้จริงไปในที่สุดไปอ่านได้ที่ http://www.bloggang.com/viewblog.php?id=sunnygirl&date=02-02-2005&group=2&blog=3

ส่วนเรื่องพระธาตุข้าพเจ้าให้ข้อสังเกตไว้ดังนี้
พระธาตุเขี้ยวแก้วที่อัญเชิญมาจากศรีลังกานั้นข้าพเจ้าก็ไปนมัสการท่านอยู่หลายวาระเวลาอยู่ใกล้ท่านรู้สึกเย็นและสงบมากเคยมีโอกาสไปทำกรรมฐานใกล้ๆท่านด้วยรู้สึกสมาธิรวมง่ายดีนะไม่เกิดโทษอะไรเลย
พระธาตุอื่นๆเช่นที่นครศรีธรรมราชก็ไปนมัสการและถวายผ้าไตรมาก็รู้สึกสงบและจิตเบิกบานดีไม่มีโทษแต่ประการใด

อนึ่งสมถกรรมฐานข้าพเจ้าก็ปฏิบัติอยู่ อันว่าติดในฌาณนั้นพึงเกิดได้แต่มิใช่ระงับมิได้ การทรงฌาณนั้นมีคุณแม้ตายขณะนั้นจักไปเกิดในเทวภูมิหรือพรหมโลก เป็นเบื้องต้น ไม่มีโทษในการทรงฌาณ และหากดำเนินวิปัสสนาจะเห็นทำให้ตัดจากกิเลสได้ง่ายและรวดเร็วเพราะจิตมีกำลังสูง หากใช้เพียงอุปจารสมาธิแล้วดำเนินวิปัสนานั้นจิตมีกำลังน้อยไม่อาจตัดกิเลสใหญ่ๆได้โดยง่ายโดยเฉพาะปุถุชนนั้นจิตอ่อนแรงหากไม่ใช้กำลังขั้นฌาณจะเอาวิปัสสนามาตัดกิเลสมันยากมากดังโบราณาจารย์อริยเจ้าทั้งหลายที่ท่านได้สั่งสอนสืบเนื่องมานั้นก็นับว่าถูกต้องแล้ว พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญว่าดีแล้วชอบแล้วและควรทำ ดังเห็นได้จากพุทธวจนะทั้งหลายที่ทรงแนะนำพระสาวก ว่าควรทำกรรมฐานอย่างไร บางท่านเจริญสมถด้วยกสิณ บางท่านมรณสติ บางท่านอสุภะกรรมฐาน ในพระไตรปิฏกมีจารึกไว้ชัดเจนอยู่แล้วยากที่จะปฏิเสธ

เรื่องสติปัฏฏาน4นั้นก็เป็นการปฏิบัติแบบสมถร่วมกับวิปัสสนาประกอบหาใช่การเจริญวิปัสสนาอย่างเดียวไม่ การที่ท่านกำหนดจิตรู้ถึงร่างกาย รู้ถึงจิต รู้ถึงธาตุนั่นคือสมถแบบต่างๆ เช่นกายานุสติ ธาตุนุสติ จิตตานุสติ เป็นต้น เมื่อดำเนินจิตถึงฌาณ4แล้วประกอบกับมีการเจริญวิปัสสนาควบไปด้วยจะทำให้ถึงไวและเร็วกว่าเจริญสมถถึงอรูปฌาณซึ่งจะกระทำเฉพาะท่านที่ต้องการความรู้โดยละเอียดเท่านั้นจะมีประโยชน์ทางด้านฤทธิ์

อีกประการมนุษย์ทั้งหลายที่ยังเวียนว่ายในภพปัจจุบันนี้มีทั้งท่านที่บำเพ็ญโพธิสัตว์มา ทั้งบำเพ็ญปัจเจกพุทธเจ้ามา จำนวนมิน้อยท่านเหล่านี้ก็มิใช่อยากบินแต่บินไม่ได้มิใช่อยากเป็นนกแต่เป็นนกมิได้ ดังนั้นเป็นเรื่องที่ท่านต้องเข้าใจให้ดีเสียก่อนว่ามีบุคคลหลายจำพวกและปัจจัยเกื้อหนุนหลายประการมิใช่มีแต่มนุษย์ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาในไม่นานอย่างท่านเข้าใจ

ท่านผู้เขียนหนังสือพึงทำความเข้าใจเสียใหม่ก่อนและปฏิบัติก่อนจะใช้อวิชชาส่วนตัวเขียนข้อธรรมบิดเบือนไปเสีย เพราะโทษนั้นมีหนักหนามิใช่แค่ปฏิบัติธรรมไม่เห็นผลเมื่อวาระถึงท่านแตกดับตายไปจะประจักษ์เอง อันว่าใครจะช่วยได้นั้นไม่มีมีแต่ตัวท่านเท่านั้นที่ทำเองและได้รับเอง

 

อืม................มึน.....................กรรม

 

สนใจลูกแก้วสมเด็จกับพระปู่ใหญ่เชิญทางนี้

มีลูกแก้วมณีรัตนสมเด็จให้บูชาครับ มี 7 สี ให้บูชาชุดละ 3,500 บาท มีชุดเดียว ลูกแก้วนี้สร้างในสมัยสมเด็จโตและเข้าปลุกเสกในพระราชพิธีหลวง ลูกแก้วสมเด็จนี้เป็นของกรุวังหน้า บรรจุไว้ในใต้หลังคาโบสถ์วัดพระแก้ว สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ GolfRealmadrid_23@Hotmail.com และท่านใดสนใจที่จะบูชาพระครูเทพโลกอุดรในพิมพ์ต่างๆก็Mailมาได้นะครับ เป็นของกรุวังหน้าทั้งหมด

 

บ้านหนู๋ยิ้มมีค่ะ พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ ... ยังมีชีวิตอยู่รอดมาเกือบ 10 กว่าปี แถมได้ประจักษ์กับตนเองด้วยเหตุหลายประการค่ะ .. ขอไม่เล่าดีไหมค่ะ

แต่กล้าเอาหัวตัวเองเป็นประกัน เพราะมาเข้าสู่เส้นทางพุทธศาสนานี้ได้เพราะ พระธาตุนี้แล

ใครอยาก ประจักษ์พบเจอบ้าง ลองไปหาบูชาและอธิฐานจิตขอบารมีท่านเองดีกว่าฟังลมปากคนอื่นค่ะ

 

ตายก็ตายเพราะกรรมไม่ใช่เพราะใคร อย่าลืมพระรัตนตรัย และทาน ศีล ภาวนา พ้นภัยได้จริง กำจัดภัยได้จริง

 

ที่บ้านก็บูชาพระบรมฯ บูชามากว่า 10ปีแล้ว เพิ่งมีเพิ่มเยอะๆตอนเข้ามาในเวปนี้แหละ มาจากความอนุเคราะห์ของหลายๆท่าน ตอนนี้ก็เลยอัญเชิญออกไปถวายตามวัดต่างๆ บ้าง ตั้งใจจะถวายต่อไปเรื่อยๆ มอบให้กับผู้ตั้งใจมาขอบ้าง เรื่องตายน่ะไม่กลัวหรอกนะ กลัวเกิดมากกว่าน่ะ อิอิ ...

 

ไม่รู้จริงอย่าวิจารณ์

คำกล่าวต่างๆที่พาดพิงถึงอ.สินธพนั้นพวกท่านผู้ที่อยากเป็นผู้เจริญทั้งหลาย ความเป็นจริงมีอยู่แล้วอ.สินธพเห็นความจริงแล้วแต่พวกท่านมองไม่เห็น ก็อย่าคิดว่าไม่ใช่ความจริง การที่ท่านวิจารณ์ท่านรู้จักธรรมแค่ไหน รู้ไหม ไหนคือธรรม ไหนไม่ใช่ธรรม ดังคำกล่าวของพระพุทธองค์ที่ว่า ผู้ใดเห็นธรรมผู้นั้นเห็นเราตถาคต เพราะฉะนั้นผู้มีดวงตาเห็นธรรมแล้วย่อมที่จะแยกได้ว่า ไหนคือตถาคต ไหนไม่ใช่ตถาคต สิ่งไหนคือพระบรมสารีริกธาตุ ไหนคือพระธาตุ(ฤาษี) และขออธิบายเรื่องที่พระบรมสารีริกธาตุมีอันตรายต่อผู้ครอบครองนั้นอุปมาเหมือนว่า ทองคำ 10 บาทห้อยคอได้ กับทองคำ 1000000000000000000000000000000บาทห้อยคอไม่ได้ฉันนั้น และการให้ร้ายแก่อาจารย์สินธพถือเป็นบาป ไม่เป็นผลดีเลยครับทางที่ดี มาพบอาจารย์แล้วถามกับท่านเอง โดยเอาเหตุและผลมาคุยกันจะดีกว่าจะมีประโยชน์ต่อพวกท่านทั้งหลาย <?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:shapetype id=_x0000_t75 stroked="f" filled="f" path="m@4@5l@4@11@9@11@9@5xe" oreferrelative="t" o:spt="75" coordsize="21600,21600"><v:stroke joinstyle="miter"></v:stroke><v:formulas><v:f eqn="if lineDrawn pixelLineWidth 0"></v:f><v:f eqn="sum @0 1 0"></v:f><v:f eqn="sum 0 0 @1"></v:f><v:f eqn="prod @2 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="prod @3 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @0 0 1"></v:f><v:f eqn="prod @6 1 2"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelWidth"></v:f><v:f eqn="sum @8 21600 0"></v:f><v:f eqn="prod @7 21600 pixelHeight"></v:f><v:f eqn="sum @10 21600 0"></v:f></v:formulas><vath o:connecttype="rect" gradientshapeok="t" o:extrusionok="f"></vath><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o:lock aspectratio="t" v:ext="edit"></o:lock></v:shapetype><v:shape id=_x0000_i1025 style="WIDTH: 28.5pt; HEIGHT: 21pt" alt="" type="#_x0000_t75"><v:imagedata o:href="http://palungjit.org/images/smilies/bigkiss.gif" src="file:///C:\DOCUME~1\anuruk\LOCALS~1\Temp\msohtml1\01\clip_image001.gif"></v:imagedata></v:shape>เท่าที่สังเกตจากสำนวนที่ใช้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเป็นชาวพุทธผู้แสวงหาความหลุดพ้นจากทุกข์<o></o>
<o> </o>

 

สิ่งที่ท่านทั้งมีอยู่ไม่ใช่พระบรมสารีริกธาตุแต่เป็นพระธาตุของฤาษี

 

อย่างที่คุณThananว่าครับ เนื้อหาบิดเบือนมาก

พระบรมสารีริกธาตุที่เราๆบูชา = พระธาตุฤาษี
แบบนี้ใครผิดครับ ระหว่างฤาษีที่ไม่บอกผู้บูชาก่อนว่าเป็นพระธาตุฤาษี
หรือ คนบูชาผิดเองที่เข้าใจว่าเป็นพระบรมสารีริกธาตุ

แล้วพระบรมสารีริกธาตุที่ให้อัญเชิญมาจากศรีลังกาให้คนได้กราบไหว้บูชากัน
ผู้ที่เดินทางมาบูชา ก็ไม่เห็นได้รับอันตรายจากพุทธานุภาพ หรือที่อ.สินธพ เรียกว่ารังสี
พ่อแม่ลูกที่เดินทางมาบูชาก็กลับบ้านไปอย่างสุขใจ
คนมั่งมี คนจน เดินทางมาสักการะบูชาก็กลับบ้านไปอย่างสุขใจ
ก็ไม่เห็นมีใครได้รับอันตรายเลยครับ



ปล. การโจมตีกันทางศาสนาในยุคนี้น่ากลัวนะครับ
อะไรที่ไม่เคยมีมาก็ว่ามี อะไรที่เคยมีดีๆอยู่แล้วกลับลบทิ้ง
อะไรที่เป็นจริงก็ว่าเท็จ อะไรที่เท็จกลับเทิดทูน
เพื่อสนองตอบความคิดเห็นของคนๆเดียว และกลุ่มคนที่มีเงินพิมพ์หนังสือหรือครับ
ควรจะแสวงหาความจริงให้ได้ก่อนนะครับ ก่อนจะออกมาการันตีหรือฟันธง

ขอให้ทุกคนพิจารณากันให้ดีๆนะครับ ไม่งั้นคนรุ่นหลังอาจหลงทางกันไปได้

 

คำว่าเคราพบูชากับการครอบครองต่างกันนะครับ การไปสักการะบูชาเป็นช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้นแต่การครอบครองคื่อการอยู่เป็นเวลานาน

 

ถ้าเอายูเรเนียน 235 วางไว้สนามหลวงหรือที่กว้างๆ จะไม่มีคนได้รับอันตรายหรือครับ
หรือต้องครอบครองไว้เท่านั้นกัมตภาพรังสี จึงจะเริ่มทำงาน

คำพูดของอ.สินธพผิดมาตั้งแต่แรกอยู่แล้วครับ

"พระบรมสารีริกธาตุนั้นมีพลังพุทธานุภาพรุนแรงกว่ากัมมันตรังสีเหล่านั้นนับเท่าไม่ได้"

งั้นคนที่ไปสักการะบูชาก็ต้องเสียชีวิตหรือป่วยกันหมดแล้วนะครับ

ปล.ในเมื่อคนรอบข้างเตือนแล้ว แต่ตัวเองเลือกที่จะลงนรกเองก็ช่วยไม่ได้ครับทั้งอ.สินธพและคณะลูกศิษย์

อย่าบิดเบือนสิ่งดีๆ หรือสิ่งยึดเหนี่ยวใจที่ดีๆให้เป็นไปตามความต้องการของตัวเองจะดีกว่านะครับ ^^

อนุโมทนาครับ

 

ท่านผู้ใดมีพระบรมสารีริกธาตุที่เสด็จมาเอง ขอให้ผมได้อัญเชิญไปบูชาสัก

เล็กน้อยเถิดครับ

 

เห็นด้วยกับอนุรักษ์คนมีครูค่ะ

 

เห็นด้วยกับคุณอนุรักษ์คนมีครูค่ะ