ตอบคำถามเรื่องเด็กอภิญญาอายุ 13 จากกระทู้เรื่องแรงบุญแรงกรรม ใครว่าไม่มีจริง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย sasiriya, 22 พฤษภาคม 2008.

  1. Aodzilla

    Aodzilla Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +50
    สวัสดีครับ เพื่อนกัลยาณมิตรทุกท่าน

    เช้านี้ผมเข้ามายังไม่เจอใครเลย ผมจึงฝากเรื่องราวดีดีไว้ให้เพื่อน ๆ ได้อ่านและศึกษากันดูนะครับ รักษาสุขภาพด้วยนะครับ ฝากเพื่อนๆ กัลยาณมิตรดูแลคุณแม่คัดเค้าให้ด้วยนะครับ อย่าให้ท่านทำงานหนักมากนะครับ เช้านี้ผมก็ยังไม่เจอท่านเลยนะครับ สงสัยคุณแม่คงจะไปใส่บาตรหรือทำบุญอยู่หรือเปล่าหนอ อย่าลืมแบ่งบุญมาให้ลูกอ๊อดบ้างนะครับคุณแม่คัดเค้า ฝากความคิดถึงถึงทุกคนด้วยขอรับ แล้วไว้ว่าง ๆ จะเข้ามาทักทายใหม่นะครับผม
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  2. Aodzilla

    Aodzilla Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +50
    ความหมายของวันเข้าพรรษา

    "เข้าพรรษา" แปลว่า "พักฝน" หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ต้องอยู่ประจำ ณ วัดใดวัดหนึ่งระหว่างฤดูฝน โดยเหตุที่พระภิกษุในสมัยพุทธกาล มีหน้าที่จะต้องจาริกโปรดสัตว์ และเผยแผ่พระธรรมคำสั่งสอน แก่ประชาชนไปในที่ต่าง ๆ ไม่จำเป็นต้องมีที่อยู่ประจำ แม้ในฤดูฝน ชาวบ้านจึงตำหนิว่า ไปเหยียบข้าวกล้าและพืชอื่นๆ จนเสียหาย พระพุทธเจ้าจึงทรงวางระเบียบ การจำพรรษา ให้พระภิกษุอยู่ประจำที่ตลอด 3 เดือน ในฤดูฝน คือ เริ่มตั้งแต่วันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองครั้ง ก็เลื่อนมาเป็นวันแรม 1 ค่ำ เดือนแปดหลัง และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 เว้นแต่มีกิจธุระเจ้าเป็นซึ่งเมื่อเดินทางไปแล้วไม่สามารถจะกลับได้ในเดียวนั้น ก็ทรงอนุญาตให้ไปแรมคืนได้ คราวหนึ่งไม่เกิน 7 คืนเรียกว่า สัตตาหะ หากเกินกำหนดนี้ถือว่าไม่ได้รับประโยชน์ แห่งการจำพรรษา จัดว่าพรรษาขาด ระหว่างเดินทางก่อนหยุดเข้าพรรษา หากพระภิกษุสงฆ์เข้ามาทัน ในหมู่บ้าน หรือในเมืองก็พอจะหาที่พักพิงได้ ตามสมควร แต่ถ้ามาไม่ทันก็ต้องพึ่งโคนไม้ใหญ่เป็นที่พักแรม ชาวบ้านเห็นพระได้รับความลำบากเช่นนี้ จึงช่วยกันปลูกเพิง เพื่อให้ท่านได้อาศัยพักฝน รวมกันหลาย ๆองค์ ที่พักดังกล่าวนี้เรียกว่า "วิหาร" แปลว่าที่อยู่สงฆ์ เมื่อหมดแล้ว พระสงฆ์ท่านออกจาริก ตามกิจของท่านครั้งถึงหน้าฝนใหม่ ท่านก็กลับมาพักอีกเพราะสะดวกดี แต่บางท่านอยู่ประจำเลย บางทีเศรษฐีมีจิตศัรทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา ก็เลือกหาสถานที่สงบเงียบไม่ห่างไกลจากชุมชนนัก สร้างที่พัก เรียกว่า "อาราม" ให้เป็นที่อยู่ของสงฆ์ดังเช่นปัจจุบันนี้


    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="75%" border=0><TBODY><TR><TD background=../freebg/bg/b230.gif bgColor=#ffffff>
    วันเข้าพรรษา กำหนดเป็น 2 ระยะ คือ ปุริมพรรษา และปัจฉิมพรรษา

    1. ปุริมพรรษา คือ วันเข้าพรรษาต้น ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 ของทุกปี
    หรือราวเดือนกรกฎาคม และออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ราวเดือนตุลาคม 2. ปัจฉิมพรรษา คือ วันเข้าพรรษาหลัง สำหรับปีอธิกมาส คือ มีเดือน 8 สองหน
    ตรงกับวันแรม 1 ค่ำ เดือน 8 หลัง หรือราวเดือนกรกฎาคม และจะออกพรรษาในวันขึ้น 15 ค่ำ
    เดือน 11 ราวเดือนตุลาคม


    </TD></TR></TBODY></TABLE>​
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • พษ.02.jpg
      พษ.02.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.4 KB
      เปิดดู:
      199
    • พษ.04.jpg
      พษ.04.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4 KB
      เปิดดู:
      201
    • พษ.03.jpg
      พษ.03.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.8 KB
      เปิดดู:
      197
  3. Aodzilla

    Aodzilla Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +50
    ความเป็นมา

    แต่เดิมในสมัยพุทธกาล พระพุทธเจ้า ไม่ได้ทรงบัญญัติพระวินัย ให้พระสงฆ์สาวก อยู่ประจำพรรษา เหล่าภิกษุสงฆ์จึงต่างพากันออกเดินทาง เผยแผ่พระพุทธศาสนาในสถานที่ต่างๆ โดยไม่ย่อท้อ ทั้งในฤดูหนาว ฤดูร้อน และฤดูฝน ต่อมาชาวบ้านได้พากันติเตียนว่า พวกสมณะศากยบุตร ไม่ยอมหยุดสัญจรแม้ในฤดูฝน ในขณะที่พวกพ่อค้าและนักบวชในศาสนาอื่นๆ ต่างพากันหยุดสัญจรในช่วงฤดูฝนนี้ การที่พระภิกษุสงฆ์จาริกไปในที่ต่างๆ แม้ในฤดูฝน อาจเหยียบย่ำข้าวกล้าชาวบ้าน ได้รับความเสียหาย หรืออาจไปเหยียบย่ำโดนสัตว์เล็กสัตว์น้อย ที่ออกหากินจนถึงแก่ความตาย
    เมื่อพระพุทธองค์ทรงทราบเรื่อง จึงได้วางระเบียบให้พระภิกษุสงฆ์ เข้าอยู่ประจำที่ ตลอดระยะเวลา 3 เดือนแห่งฤดูฝน ภิกษุสงฆ์ที่อธิษฐานเข้าพรรษาแล้ว จะไปค้างแรมที่อื่นนอกเหนือจากอาวาส หรือที่อยู่ของตนไม่ได้แม้แต่คืนเดียว หากไปแล้วไม่สามารถกลับมา ในเวลาที่กำหนด คือก่อนรุ่งสว่าง ถือว่าพระภิกษุรูปนั้นขาดพรรษา
    แต่หากมีกรณีจำเป็น 4 ประการต่อไปนี้ ภิกษุผู้อยู่พรรษาสามารถกระทำ สัตตาหกรณียะ คือ ไปค้างที่อื่นได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการขาดพรรษา แต่ต้องกลับมาภายในระยะเวลา 7 วัน คือ
    1. ไปรักษาพยาบาลพระภิกษุ หรือ บิดามารดาที่เจ็บป่วย
    2. ไประงับไม่ให้พระภิกษุสึก
    3. ไปเพื่อกิจธุระของคณะสงฆ์ เช่น ไปหาอุปกรณ์มาซ่อมแซมวัด ซึ่งชำรุดในพรรษานั้น
    4. ทายกนิมนต์ไปฉลองศรัทธาในการบำเพ็ญกุศลของเขา
    ในการอธิษฐานเข้าพรรษา ณ วัดหรือที่ใดที่หนึ่ง หากมีเหตุจำเป็น 5 ประการต่อไปนี้ ภิกษุไม่ต้องอาบัติ แม้จะไปอยู่ที่อื่น ได้แก่
    1. ถูกสัตว์ร้ายรบกวน ถูกโจรปล้น วิหารถูกไฟไหม้ หรือถูกน้ำท่วม
    2. ชาวบ้านถูกโจรปล้น อพยพหนีไป อนุญาตให้ไปกับเขาได้ หรือชาวบ้านแตกเป็น 2 ฝ่าย ให้ไปกับฝ่ายที่มีศรัทธาเลื่อมใส
    3. ขาดแคลนอาหาร หรือยารักษาโรค
    4. มีผู้เอาทรัพย์มาล่อ พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้หนีไปเสียให้พ้นได้
    5. ภิกษุสงฆ์แตกกันหรือมีผู้พยายามทำให้ภิกษุสงฆ์ในวัดแตกกัน ให้ไปเพื่อหาทางระงับได้



    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width="75%" align=center border=0><TBODY><TR><TD background=../freebg/bg/b230.gif bgColor=#ffffff>
    โดยปรกติเครื่องใช้สอยของพระ ตามพุทธานุญาตให้มีประจำตัวนั้น มีเพียงอัฏฐบริขารอันได้แก่ สบง จีวร สังฆาฏิ เข็ม บาตร รัดประคด หม้อกรองน้ำ และมีดโกน และกว่าพระท่านจะหาที่พักแรมได้ บางทีก็ถูกฝนต้นฤดูเปียกปอนมา ชาวบ้านที่ใจบุญจึงถวายผ้าจำนำพรรษา หรือผ้าอาบน้ำฝน สำหรับให้ท่านได้ผลัดเปลี่ยน และถวายของจำเป็น แก่กิจประจำวันของท่านเป็นพิเศษ ในเข้าพรรษานับเป็นเหตุให้มีประเพณีทำบุญ เนื่องในวันนี้สืบมา การที่พระภิกษุสงฆ์ ท่านโปรดสัตว์อยู่ประจำ เป็นที่เช่นนี้ เป็นการดีสำหรับสาธุชนหลายประการ กล่าวคือ ผู้ที่มีคุณสมบัติครบถ้วน ตามพระพุทธบัญญัติก็นิยมบวชพระ ส่วนผู้ที่อายุยังไม่ครบบวชผู้ปกครองก็นำไปฝากพระ โดยบวชเป็นเณรบ้าง ถวายเป็นลูกศิษย์รับใช้ท่านบ้าง ท่านก็สั่งสอนธรรม และความรู้ให้ และโดยทั่วไป พุทธศาสนิกชนนิยมตักบาตรหรือไปทำบุญที่วัด นับว่าเป็นประโยชน์


    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. Aodzilla

    Aodzilla Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +50
    กิจของสงฆ์
    ในวันเข้าพรรษา ถือว่าเป็นกรณียกิจพิเศษสำหรับพระภิกษุสงฆ์ จะมีการประชุมกันในพระอุโบสถ ไหว้พระสวดมนต์ ขอขมาซึ่งกันและกัน เสร็จแล้วก็ประกอบพิธีเข้าพรรษา ภิกษุจะอธิษฐานใจตนเองว่า ตลอดฤดูกาลเข้าพรรษานี้ตนเองจะไม่ไปไหน ด้วยการเปล่งวาจาว่า
    อิมสฺมึ อาวาเส อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมิ
    หรือว่า อิมสฺมึ วิหาเร อิมํ เตมาสํ วสฺสํ อุเปมิ
    แปลว่า ข้าพเจ้าขออยู่จำพรรษาตลอด 3 เดือน ในอาวาสนี้ หรือในวิหารนี้ (ว่า 3 ครั้ง)
    หลังจากเสร็จพิธีเข้าพรรษาแล้วก็นำดอกไม้ ธูป เทียน ไปนมัสการปูชนียวัตถุที่สำคัญในอาวาสนั้น ในวันต่อมาก็นำดอกไม้ ธูป เทียน ไปขอขมาพระอุปัชฌาย์อาจารย์ และพระเถระที่ตนเคารพนับถือ
     
  5. Aodzilla

    Aodzilla Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 เมษายน 2009
    โพสต์:
    221
    ค่าพลัง:
    +50
    นิราศเกี่ยวกับวันเข้าพรรษา

    <TABLE style="WIDTH: 495px; HEIGHT: 343px" width=495 bgColor=#ffffff border=0><TBODY><TR><TD width="50%" background=../freebg/bg/b230.gif>ถึงเดือนแปดแดดอับพยับฝน จวนจะบวชเป็นพระสละนาง
    ประดับพุ่มบุปผาพฤกษากระถาง
    ตุ๊กตาเจ้าพราหมณ์งามละมุน
    ต้นไม้ทองเสาธงหงส์ขี้ผึ้ง
    อุณรุทยุดกินนรชะอ้อนพริ้ง

    </TD><TD width="50%" background=../freebg/bg/b230.gif>ฤดูดลพระวษาเข้ามาขวาง อยู่เหินห่างเห็นกันเมื่อวันบุญ
    รูปแรดช้างโคควายขายกันวุ่น
    ต้นพิกุลลิ้นจี่ดูดีจริง
    คู่ละสลึงเขาขายพวกชายหญิง
    มีทุกสิ่งซื้อมาบูชาพระ

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
     
  7. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    ฮ่วย....ลูกสาวกกนี่น้อ...
    มัวก้มหน้าก้มตาอ่านประเดี๋ยวตกท่อเด้อหล่า
     
  8. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    ...มาเรือนนี้มีลูก 2 คนแล้วไม่รู้ว่าเกิดแบบใด
    แบบผุดขึ้นมาเองกระมังเนี่ย....ลูกอ๊อดเอ๊ย...
    พอฉันจังหันที่เตรียมไว้ให้ก็บรรเลงเพลงยุทธ์
    กับภารกิจประจำวันก่อน ไปไหนยังมะต้าย.....
     
  9. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    เรียนคุณป้าแน้ต

    1.คัดเค้ามะด้ายคอยเหรียญหลวงพ่อดอกเจ้าค่ะ
    2.แลที่ทอราฉับคุยกานน้านน่ะ....ถ่ายเทธรรมะจนพลังเยี่ยมวรยุทธ์
    แบตหมดกระจุยกระจาย ต่อปายคุยแบบมะห้ายเปลืองแบตซีเจ้าคะ
    เอาทอราฉับวางว้าย แล้วนั่งมองทอราฉับ ฉ่งกระแฉจิตไปทาง
    ทอราฉับไปดังติ๊ดๆ ๆๆๆ...อีกเครื่อง โผล่เป็น sms ไงเจ้าคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กรกฎาคม 2009
  10. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    หลังจังหัน หันซ้าย แลหันขวา
    เดินจงกรม ไปมาบ้าง กลางวิถี
    ช่วยเรื่องย่อย ช่วยเรื่องบุญ บารมี
    ตราบชีพนี้...ขอถวาย...ให้นฤพาน......
     
  11. watwa-aram

    watwa-aram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +974
    อรุณสวัสดิ์ตอนเช้าทุกท่าน...วันนี้เป็นอย่าไรกันบ้าง เล่าสู่กันฟังแน่เด้อจ้า.....หวัดดีคุณชัยวัฒน์ ตื่นแต่เช้าเลย ทานข้าวกันยังคะ..ส่วนแม่คัดเค้าเห็นหลังลัดๆๆ หายไปไสละแม่จ้า..ย่างหาจนเมื่อย สงสัยมื้อนี้แม่ไปทำความสะอาดห้องได๋ หรือไปหาแนวกินให้ลูกๆๆหลานๆๆอีกน้อแม่ ..เมื่อยบ่ เดี่ยวหนูล้างมือแล้วซิเข้าไปซ่อยเด้อจ้า....
     
  12. watwa-aram

    watwa-aram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    654
    ค่าพลัง:
    +974
    แก้ไข แก้ไขคำตก ไม่ใช่คำผิด ด่วนๆๆ เดี่ยวป้าดีดี มาเห็นแย่เลยเรา..เป็นอย่างไร นะเจ้าคะ..ตก .งองูไป...แบบว่าฟ้าวแล่นตามแม่คัดเค้าหน่อย..
     
  13. kadkao

    kadkao เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2007
    โพสต์:
    631
    ค่าพลัง:
    +240
    ฟ้าวมาฟ้าวไปเด้อหล่า...
    ไปแวะคัดเค้าดอทไฮไฟดอทคอม
    ไปเฮ็ดงานก่อนเด้อ...แว้บบบ
     
  14. ddalways

    ddalways เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    858
    ค่าพลัง:
    +188
    ;39 ;39 ;39

    สวัสดี เพื่อนพ้องน้องพี่ที่ัรักทั้งหลาย

    วันนี้ คุณยิ้มกับใครหรือยังคะ !?!?!?

    ;aa44;aa44;aa44

    สำหรับยิ้มของพี่ดีดีเหล่านี้ ขอมอบให้
    ญาติมิตรที่อยู่ในแว่นแคว้นแดนไกล
    ที่กำลังจะสลบไสลในกรมอุตุินิยมนิทรา
    ขอให้หลับฝันดีตลอดนิทราในราตรีนี้นะคะ

    แลอย่าลืม..ตื่นนอนยามเช้า ก็รีบเข้าเรือน..
    มาทักทายปราศัยกัน มาส่งยิ้มให้กันบ้างเน้อ...



    ;39 ;39 ;39

    คิดถึงทุกคนเลย...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  15. pchai_tualek

    pchai_tualek สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +11
    เรียน เพื่อน ๆ สมาชิกทุกท่าน
    สวัสดีครับ ผมหายไปนานเพราะงานยุ่งในช่วงที่ผ่านมานะครับ แล้วก็เป็นคนที่ไม่ค่อยมีเรื่องมาคุยสนุก ๆ เหมือนคนอื่น ๆ แต่ผมก็ยังตามอ่านกระทู้ของคุณศิอยู่เป็นระยะ ๆ นะครับ

    ผมมีเรื่องอยากจะรายงานความคืบหน้าให้ทราบนะครับเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ ตอนนี้ผมได้ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณน้องมาประมาณ 1 เดือน และได้ผลในทางที่ดีมาก ๆ ครับ คืออาการปวดหลังที่เป็นอยู่มีอาการดีขึ้นมาก เหลือที่เจ็บอยู่เพียงจุดเดียว ซึ่งไม่ได้รู้สึกว่าเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตประจำวันเท่าไรนัก จะรู้สึกว่ามันยังเจ็บและเป็นปัญหาอยู่ก็ตอนไปนวด (เพื่อการรักษานะครับ อย่าคิดไปไกล :p ผมเองไม่อยากจะปักใจเชื่อในตอนนี้หรอกครับ (ว่าผมจะหายขาดได้) ไม่ใช่ว่าไม่เชื่อในตัวคุณศิกับคุณน้องนะครับ แต่เป็นเพราะว่ายังไม่แน่ใจว่าตัวเองปฏิบัติตามคำแนะนำได้ดีพอ และตัวเองสะสมบุญมาพอที่จะหายได้หรือเปล่า อย่างไรก็ดี นี่คือปัญหาในเรื่องทัศนะคติและการขาดความมั่นใจในตัวเองซึ่งผมคงต้องใช้เวลาในการปรับอีกสักพัก คุณศิย้ำเสมอ ๆ ว่า ความสำนึกในกรรมและความจริงใจในการปฏิบัติเท่านั้นที่จะช่วยให้เราหลุดพ้นจากกรรมนั้นได้ ขอให้คุณศิกับคุณน้องช่วยเป็นกำลังใจต่อไปด้วยนะครับ

    พักหลัง ๆ เห็นคุณป้าแน๊ตเขียนเรื่องลงในเว็ปบ่อยมาก และมีหลาย ๆ ท่านออกความเห็นว่าคุณป้าเป็นเพื่อนสนิทกับคุณศิและมีญาณในระดับสูง ผมเองเป็นสมาชิกใหม่เลยยังไม่ค่อยคุ้นเคยกับคุณป้ามากนัก แต่สงสัยคุณป้าจะเป็นคนที่ขี้เล่นมาก ๆ นะครับ เพราะดูจากการใช้ภาษา การเล่าเรื่องราว หรือการแซวคุณศิ เลยทำให้มีคำถามในใจขึ้นมาว่า

    คุณป้าสนิทกับคุณศิและคุณน้องจริง ๆ หรือเปล่านะครับ ส่วนเรื่องคำแนะนำและการช่วยเหลือคนอื่นของคุณป้านั้นผมยังไม่ได้สัมผัสมากพอก็เลยไม่รู้ว่าจะเชื่อดีหรือเปล่านะครับว่า คุณป้ามีญาณในระดับสูงจริงหรือเปล่า อย่างไรก็ดีครับตราบใดที่ผมยังมีคุณศิและคุณน้องที่ผมเชื่อจากใจจริงว่าเป็นผู้รู้ในสิ่งที่พวกเธอแนะนำและพร่ำสอนเพื่อให้เรารู้คุณของศาสนาพุทธและองค์สัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยใจบริสุทธิ์จริง ๆ ก็ถือว่าผมโชคดีแล้วละครับ ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับหากผมทำให้ท่านใดไม่พอใจ แม้แต่พระพุทธองค์ยังทรงตรัสว่า เราไม่จำเป็นต้องเชื่อท่าน แต่จงเชื่อจากประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจริงจากการนำคำแนะนำของท่านไปปฏิบัติ ผมคิดว่าพระอรหันต์ทุกท่านหรือผู้มีญาณที่แท้จริงที่บรรลุในธรรม (ไม่ว่าจะอยู่ในขั้นใดก็ตาม) ก็คงจะกล่าวเช่นเดียวกัน

    แล้วคุยกันใหม่ครับ
     
  16. chanadda1978

    chanadda1978 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    55
    ค่าพลัง:
    +19
    สวัสดีคุณศศิ น้อง คุณป้าๆ ลุงๆ และสมาชิกทุกท่านน๊ะค๊ะ
    ไม่ได้เข้ามาหลายวัน ถึงเข้ามาก็มีเวลาไม่มาก แต่อยากจะกล่าวคำทักทายกับสมาชิกทุกท่านค่ะ สบายดีกันทุกคนหรือเปล่าค๊ะ และที่ตั้งใจมากที่สุดเลยก็คือ อยากจะอวยพรวันเกิดให้กับ "คุณลุงเม้ง" ค่ะ คงไม่สายเกินไปใช่ไหมค๊ะเพราะถึงจะช้ากว่าคนอื่นๆแต่ก็อยากจะเอ่ยคำดีๆจากใจ เพราะอย่างน้อยที่สุดก็ทำให้เราสบายใจที่ได้ทำสิ่งดีๆที่เราตั้งใจ
    ขออำนาจสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่คุณลุงเม้งนับถือ และที่อยู่ในสากลโลกแห่งนี้ จงดลบันดาลให้คุณลุงเม้งประสบแต่ความสุขความเจริญ ทั้งหน้าที่การงาน ครอบครัวและที่สำคัญขอให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เป็นที่พึ่งของทุกสมาชิกทุกท่าน และคนในครอบครัวด้วยเทอญสาธุ...สาธุ
    จากใจสองแม่ลูกค่ะ
    ปิ๋มและน้องบลู




    คุณศศิค๊ะหนูหวังว่าคุณศศิคงจะมีเวลาเปิดเมลล์ของหนูที่ส่งไปให้แล้วน๊ะค๊ะ แต่ถ้ายังก็จะรอเหมือนเดิมแหละค่ะ คิดถึงคุณศศิ น้อง และสมาชิกทุกท่านน๊ะค๊ะ เจอกันใหม่ค่ะ

    รักษาสุขภาพด้วยน๊ะค๊ะ
     
  17. Pawanrat-jin

    Pawanrat-jin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กันยายน 2008
    โพสต์:
    1,052
    ค่าพลัง:
    +3,939
    ;k03 สวัสดีค่ะ คุณพี่ดีดี (รูปนี้สำหรับพี่ดีดีนะคะ แฮ่ะๆ)

    น่ารักจัง เฝ้าบ้านให้พี่ศิทุกวันเลย
    ทั้งคุณพี่ดีดี และ คุณป้าคัดเค้า
    เปิดมาเจอแต่สองท่านนี้
    อิอิ

    พี่ชาติสุดหล่อด้วยนะคะ

    สงสัยจินจะคุยกะพี่ชาติมิค่อยได้
    แต่งกลอนมิค่อยเป็น อิอิ

    เด๋วไปฝึกวิทยายุทธิ์มาก่อนนะคะ
    ไม่นาน..
    ซักปี 2 ปี
    อาจจะจะมาโต้กลอนกับพี่ชาติได้
    แฮ่ะๆ

    บ๊ายบายค่ะ
     
  18. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    สวัสดี กัลยาณธรรมทุกท่านค่ะ คุณศศิ คุณน้อง รวมทั้งพี่คัดเค้า พี่ดีดี ป้าแน๊ต คุณชาติ คุณเม้ง คุณจิน คุณอ้างว้าง พี่เจนนี่ และทุกท่านที่มิได้กล่าวนามด้วยนะคะ

    สาวปีใหม่, gojeta, อ้างว้าง, paitoon01, chanadda1978, pchai_tualek, titaporn
    gojeta, watwa-aram, chanadda1978, pchai_tualek
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  19. สาวปีใหม่

    สาวปีใหม่ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    1,004
    ค่าพลัง:
    +2,368
    เอ๋ไปอ่านเรื่องราวดีๆมาเลยแวะเอามาลงให้เพื่อนๆอ่านกันนะคะ

    <center>แสงธรรมส่องชีวิต

    </center>
    <hr style="color: rgb(255, 255, 255); background-color: rgb(255, 255, 255);" size="1"> รอบครัวธรรมะ

    โดย: วัสสาน

    เดี๋ยว นี้ไม่ค่อยเห็นกันแล้วค่ะ ที่เด็กผู้ชายจะลุกจากที่นอนแต่เช้าตรู่ ในวันเสาร์อาทิตย์ เพื่อมาใส่บาตร เข้าวัด ฟังเทศก์ฟังธรรม เหมือนอย่างที่น้องทัน-ทิวัฒน์ วัย 9 ขวบ กับน้องปัน-ปัญญ์ วัย 8 ขวบ ลูกชายของคุณดิ๊ก-เทวินทร์ วรรณะบำรุง Design Director ของคอตโต สตูดิโอ กับคุณอ้วน-สุพรรณ ทำกันเป็นกิจวัตร [​IMG]
    ครอบ ครัวนี้อยู่ที่จังหวัดสระบุรีค่ะ แถวๆ อำเภอหินกอง ใกล้ๆ กับวัดซึ่งเป็นสำนักปฏิบัติธรรม ที่ชื่อว่าศูนย์แสงธรรมส่องชีวิต จากบ้านถึงวัดใช้เวลาเดินทางแค่ 2-3 นาทีก็ถึง

    "ปกติไม่เสาร์ก็ อาทิตย์ เราจะตื่นกันตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง อาบน้ำทำภารกิจของตัวเองเสร็จก็ไปที่วัดกัน เด็กๆ ก็จะได้ใส่บาตร ได้เห็นคนเยอะ ได้ไหว้พระ ได้สงบนิ่งตอนเช้าๆ อากาศดีๆ บรรยากาศจะดีมากโดยเฉพาะในวัดป่าแบบนี้ ใจเขาก็จะสงบ เสร็จแล้วเราก็ทานข้าวเช้ากันที่วัดเลย เป็นข้าวจากก้นบาตรพระนั่นล่ะ กินกันง่ายๆ เป็นมังสวิรัตบ้าง ผักบ้างขนมบ้าง พอสัก 9 โมงก็เสร็จ แล้วก็มีเวลาเหลือเฟือที่จะทำกิจกรรมอื่นๆ เก็บบ้านกวาดบ้าน ดูทีวี หรือจะพาลูกเข้ากรุงเทพฯ ตอนสายๆ หน่อยก็ยังได้ พาลูกไปเรียนดนตรี หาของอร่อยๆ ทาน เข้าร้านหนังสือกัน" คุณดิ๊กเล่า

    "แรกๆ เขาก็มีอิดออดบ้างเหมือนกันครับ ตามประสาเด็ก แต่เพราะเราทำกันมานานแล้ว ตั้งแต่ที่เขายังเล็กๆ ยังดุ๊กดิ๊กๆ นั่งนิ่งไม่ค่อยได้ ใส่บาตรทีหนึ่งข้าวก็จะร่วงหล่นบ้าง หรือบางทีก็เคาะโถข้าวเล่นป๊องๆ (หัวเราะ) แต่พอคุ้นเคยแล้ว หลังๆ บางทีเขาเองก็เป็นฝ่ายชวนเราไปเองเลย บอกว่า เราไม่ได้ไปวัดนานแล้วนะพ่อ (หัวเราะ)"

    ที่ลูกๆ สนใจใฝ่ธรรมะได้ขนาดนี้ ก็เป็นผลพวงมาจากความสนใจของคุณพ่อคุณแม่

    " ผมกับภรรยาจะสนใจธรรมะอยู่แล้ว เชื่อในคำสอนของพระพุทธเจ้า ว่าชีวิตมันเวียนว่ายตายเกิดไม่สิ้นสุด มีพัดพรากจากกัน มีสุข มีทุกข์ ถ้าวันนี้เราสุข ก็อย่าไปติดสุขมากจนเกินไป เพราะพรุ่งนี้มันก็อาจทุกข์ได้เหมือนกัน แต่ทุกข์มาแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ผ่านไป นี่คือความจริงที่เราเห็นและเราเชื่อ ชีวิตไม่มีอะไรแน่นอน อย่าไปยึดติด ...ทุกปีผมกับภรรยาก็จะไปบวชขาว (พราหมณ์) กันที่วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี ถือศีล 8 กันเป็นอาทิตย์ เวลาเราไปลูกๆก็จะตามไปด้วย ซึ่งก็เป็นธรรมดาที่เขาจะอยากอยู่ใกล้เรา แล้วหนังสือที่เราอ่าน ส่วนใหญ่ก็เป็นหนังสือธรรมะ ซึ่งลูกๆ ก็สนใจ ถามว่าอ่านอะไร เราก็จะเล่าให้เขาฟังเป็นภาษาง่ายๆว่า มีเทวดา มีปาฏิหาริย์ มีนรกสวรรค์ สอนเขาว่าถ้าทำแบบนี้จะเกิดผลยังไง

    "หรืออย่างฟังรายการวิทยุ รายการธรรมะบางรายการก็ดีมากๆ เขาจะสอนประวัติพระพุทธเจ้าในแต่ละชาติภพว่าไปทำอะไรมา ได้ผลยังไง มีความทุกข์ยังไง เด็กๆ ก็จะ in แล้วเขาจะเล่าดีมีเสียงสูงต่ำ มีดนตรีประกอบ และบางเรื่องก็สนุก เหมือนได้ฟังนิทาน เขาฟังแล้วก็จะค่อยๆ ซึมซับไปเองโดยที่เราไม่ต้องไปยัดเยียดให้
    [​IMG]
    " ช่วงเวลาก่อนนอนประมาณ 3 ทุ่มถึง 3 ทุ่มครึ่ง จะเป็นช่วงที่เขานิ่งพอสมควร เราก็จะถามเขาว่า ที่โรงเรียนเป็นยังไงบ้าง เล่าให้พ่อกับแม่ฟังหน่อย พอหมดเรื่องเรียนก็เข้าสู่เรื่องธรรมะ ให้ไหว้พระ สวดมนต์ ท่องศีล 5 แล้วเราก็จะเล่าเรื่องศีล 5 ให้เขาฟัง บางวันก็จะลองให้นั่งสมาธิ บางทีนั่งแป๊บเดียวเขาก็ไม่ไหวแล้ว เราก็จะให้เขานับ 1 2 3 อ๊ะ! วันนี้ถึงแค่ 10 ก็พอ (หัวเราะ) ทำให้เป็นเรื่องง่ายๆ ซะ ได้บ้างไม่ได้บ้างก็ไม่เป็นไร" แต่ที่แอบหวังอยู่ในใจก็คือเรื่องศีล 5 ข้อที่อยากให้ลูกมีไว้เป็นหลักใจค่ะ

    "แต่ไม่รีบร้อนนะครับ ค่อยเป็นค่อยไป บางทีก็เล่นเกมกัน อ้าว ใครรู้บ้างว่า ศีล 5 คืออะไร เขาก็จะแข่งกันตอบ แล้วก็ตอบได้ แรกๆจะให้เขารู้ก่อนว่ามีอะไรบ้าง ยังทำไม่ได้ไม่เป็นไร แล้วหลังๆ เราก็ค่อยๆ สอนด้วยนิทาน ด้วยการเข้าวัดฟังเทศก์ เขาก็ทำได้เอง

    "อย่างเรื่องฆ่าสัตว์ เมื่อก่อนลูกคนเล็กจะชอบมากเลย อุ้ยยุง...ตบเลย (หัวเราะ) เราก็จะบอกเขาว่า ทำอย่างนั้นไม่ได้นะลูก นี่พ่อตีหนูเบาๆ หนูยังเจ็บใช่มั้ย แล้วนี่หนูไปฆ่าเขาตาย แล้วพ่อแม่เขาอยู่ยังไงล่ะ แล้วลูกเขาอีก คือสอนให้เขารู้จักเอาใจเขามาใส่ใจเรา เขาก็เริ่มเข้าใจและไม่ทำอีก พวกแมงมุม แมลงสาบก็จะไม่ฆ่า แต่จะจับโยนออกไปนอกบ้าน ถ้ายุงกัดก็ปล่อยให้กัดไปถือว่าเสียสละให้เขา กัดเจ็บทีเดียวเดี๋ยวอิ่มก็ไม่มายุ่งกับเราแล้ว สอนให้คิดอย่างนี้เขาก็จะไม่รังแกสัตว์ ไม่รังแกใคร เขาถึงค่อนข้างมีเพื่อนเยอะ เพราะไม่ก้าวร้าว ไม่ทำร้ายคนอื่นทั้งคำพูด ความคิด และการกระทำ ตรงนี้ทำให้ผมคิดว่าจะทำให้เขาอยู่ในสังคมได้โดยไม่มีปัญหา
    [​IMG]
    " ตอนนี้ก็พยายามสอนเขาเรื่องการรู้จักป้องกันตัวเอง ไม่งั้นแล้วเขาจะซื่อและเถรตรงจนเกินไป แล้วกลายเป็นเหยื่อให้คนอื่นหาประโยชน์จากเขาได้ ซึ่งเราไม่อยากให้เป็นแบบนั้น

    "ผมว่าเรื่องธรรมะต้องเริ่มจากที่ ตัวเราสนใจก่อน แล้วทำให้เขาเห็น ตั้งแต่เขายังเด็กๆ ก่อนที่สิ่งเร้าภายนอกจะเข้ามามีอิทธิพลต่อความคิด ให้เขารับตรงนี้เข้ามาเป็นหลักยึดก่อน เมื่อหลักเขาแน่น สิ่งอื่นๆ อาจจะเข้ามาบ้างตามวิถีทาง แต่ก็จะไม่ส่งผลมากจนถึงขนาดที่จะทำให้เขาหลงไปกับมัน

    "ทุกวันนี้ เรียกว่าศีล 5 เราเชื่อเขาได้ ว่าเขาจะไม่ทำร้ายสัตว์ ไม่โกหก ไม่ลักทรัพย์ คือไม่หยิบของไปเองโดยไม่ขออนุญาตเจ้าของก่อน เวลาผิดหวังเขาก็จะไม่เกรี้ยวกราดหรือลงไปชักดิ้นชักงอ คนเล็กอาจจะมีงอนบ้าง แต่พอเราอธิบายให้ฟัง เขาก็เข้าใจ"

    และธรรมะนี้เองที่เป็นเครื่องกล่อมเกลาจิตใจให้คนในครอบครัววรรณะบำรุงใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

    ถ้า คุณพ่อคุณแม่ท่านใดสนใจ อยากหาที่สงบ พาลูกๆ ไปเรียนรู้ธรรมะที่สำนักปฏิบัติธรรม ศูนย์แสงธรรมส่องชีวิต จ.สระบุรี คุณดิ๊กบอกว่า จะมีรถบัสไปส่งยังศูนย์จอดอยู่ที่อนุสาวรีย์ กับที่บางเขนค่ะ หรือลองโทร.ไปที่เบอร์ 0 3637 9428 สอบถามรายละเอียดได้ค่ะ


    จาก: นิตยสาร Teen, Kids & Family

    เว็ปของแสงธรรมส่องชีวิต อยู่ด้านล่างนะคะ ท่านที่สนใจลองคลิ๊กดูค่ะ
    http://www.sangdhamsongchevit.com/

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009
  20. อ้างว้าง

    อ้างว้าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    430
    ค่าพลัง:
    +577
    ;aa47...ขอเป็นกำลังใจให้คุณwatwa-aram ที่มีความตั้งใจอย่างแน่วแน่ (ดูจากคำว่า .."เอ้าว่ะ"..ฮะฮะ) และมีสติที่พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส..โอกาสที่ได้รับรู้...เรื่องราวดีดีที่แทรกธรรมะไว้มากมาย...ตั้งแต่หน้าแรก...จนกระทั้งมาถึงหน้าปัจจุบัน...

    ซึ่งตอนนี้คาดว่าคุณศศิแม่เรือนของเราและกัลยาณมิตรหลาย ๆ ท่าน คงมีภาระกิจที่ต้องกระทำหลายอย่าง...เลยทำให้ท่านไม่ค่อยว่างที่จะเข้ามาแนะนำ...เตือนสติ..พวกเรา..แต่ก็ยังแอบแว็บ ๆ มาให้กำลังใจเรื่อย ๆ

    นับว่าเป็นช่วงที่ดีที่เราจะได้มีเวลาย้อนไปอ่านหน้าต้น ๆ เพื่อเก็บเกี่ยวความรู้ดีดีที่พลาดไป..
    .
    .
    .


    "โอ้โห้..ทำไมมันเยอะจัง! ตั้งสองร้อยกว่าหน้าอ่ะ...แล้วจะต้องไปอ่านตั้งแต่หน้าแรกเลยรึนี่..โอ้ยไม่ไหวหรอก..."

    ก็คงไม่ต่างอะไรกับที่ต้องการความหลุดพ้น...แต่ไม่มีความอดทนที่จะปฏิบัติ...และเริ่มต้น

    ครั้งแรกที่อ่านข้อความคุ
    watwa-aram จบ ก็คิดถามตัวเองขึ้นมาว่า..จุดเริ่มต้นของตัวเองอยู่ที่ไหน...

    นี่ข้อความแรกที่นำผมเข้ามาเรือนแห่งนี้..ขอบคุณครับ..ปาฏิหาริย์ แรงบุญ แรงกรรม...ใครว่าไม่มีจริง

    แล้วข้อความของคุณหล่ะ...อยู่ที่ไหน..

    เห็นไหมว่า...ทุกคนมีจุดเริ่มต้นที่ต่างกัน...แต่ทุกคนมีจุดหมายปลายทางเดียวกันแล้ว..

    ตั้งแต่จุดเริ่มต้นครั้งนั้น...ผมก็เดินมาถึงหน้าที่ 267 และก็จะเดินต่อไป...จนกว่าจะถึงจุดหมาย...ภายใต้เรือนพญานาคหลังนี้...ทีเราทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน..

    .."ขอให้ถึงซึ่งพระนิพพาน"


    รักและเคารพทุก ๆ ท่านครับ
    -Happy Smile_
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 มิถุนายน 2009

แชร์หน้านี้

Loading...