ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

มาร่วมสุขสันต์วันคล้ายวันเกิด
ขอให้เจริญในธรรม ยิ่งยิ่งขึ้นไปครับ

 

เห็นด้วยครับ
เคยได้ยินว่ามีคนเอาเหรียญสลึง และ ห้าสิบสตางค์ รุ่น ปี 2495 มั้ง
มาหลอมเป็นแหวน เป็นสร้อย เพราะเชื่อว่ามีเปอร์เซนต์ทองคำในเหรียญรุ่นนั้นมาก
...
แต่ชีวิตก็พังพินาศหลังจากนั้นไม่นาน
ด้วยเหตุบังเอิญหรือ กรรมอันใดส่งผลก็แล้วแต่ ครับ

 

เคยทราบข้อมูลจากช่างหล่อพระพุทธรูปมืออาชีพเช่นกันค่ะ ว่า เหรียญ ไม่น่าใช้สำหรับหล่อพระ เนื่องจากมีในหลวงอยู่
ที่มาของข้อมูล; MCOTdotNet : HipTv | ???͡?ЅҠ|

 

ขอบคุณครับ อ.Bizan


;38

 

Happy BD + 1วัน กับเทพบุตรชาวดินด้วยคนค่ะ



เกือบตรงกับวันมีสุริยคราสเลย
พ้นไปได้อย่างหวุดหวิด



ว่าแต่ปีนี้เป่าเทียนกี่เล่มเอ่ย

 

สุขสันต์วันเกิดค่ะอาจารย์หนุ่ย
ขอให้สุขภาพขันธ์แข็งแรงนะคะ

 

อักษรจีนเขียนได้สวยมากเลยนะคะ
แล้วแต่ละตัวอักษรก็เหมือนรูปกำลังภายในแต่ละท่ายังงั้นเลยค่ะ
(จินตนาการกว้างไกล ฮ่า ฮ่า)

 

นั่นสิครับ
เขียนพู่กัน ได้มีพลังแหลมคม งามมากครับ

 

คณะอาจารย์นีโม่ คงกำลังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่สามร้อยยอด ประจวบคีรีขันธ์ คงยังเดินทางกลับไม่ถึงกรุงเทพฯ

ขออนุโมทนาให้กับทีมงานทุกท่าน ที่ได้ร่วมเดินทางไปประสานงานนอกพื้นที่ กทม. ในครั้งนี้

กลับมาก็คงจะมีภาพ มีเรื่องราวต่าง ๆ มาเล่าให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับทราบกัน


ตอนนี้ พี่สุดใจก็ต้องเร่งลงข้อมูลการประสานงานที่กรุงเทพฯ ที่ยังคงค้างไว้นั้นต่อให้จบ ก่อนที่ทีมของอาจารย์นีโม่ จะมาลงข้อมูลการเดินทางไปทำพิธีขออโหสิกรรมในครั้งนี้ ให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับทราบด้วย เมื่อเดินทางกลับมา


ต่อจากวันที่ 15 กรกฎาคม 2552 เดินทางไปบันทึกภาพ และวีดีโอ โรงเรียนอนุบาลนิธิกานต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงนำภาพต่าง ๆ กลับไปตัดต่อที่เอื้ออาทรบึงกุ่ม

วันที่ 17 กรกฎาคม 2552 ได้นัดหมายเดินทางไปกราบพระอาจารย์พชร ที่วัดประยงค์กิตติวราราม พร้อมกับครอบครัวของคุณพีท และครอบครัวของอาม่า

เดินทางไปกับอาจารย์นีโม่ และคุณอนันต์ ไปถึงประมาณ 10.30 นาฬิกา และสักครู่ครอบครัวของคุณพีท ก็เดินทางมาพร้อมด้วยรถยนต์ 2 คัน และมีคุณ ukrin มากับรถคุณพีทด้วย

พระอาจารย์พชร ท่านติดกิจนิมนต์นอกสถานที่ และยังไม่ได้เดินทางกลับมา คาดว่าจะเดินทางกลับมาในช่วงเย็น

จึงได้ร่วมสนทนากับคุณแม่ อาม่า และท่านอื่น ๆ ที่วัดประยงค์ฯ จนบ่ายโมง จึงเดินทางกลับไปรวมกันที่บ้านคุณพีท และหากพระอาจารย์ท่านกลับมาที่วัด ก็จะเดินทางมากราบท่านอีกครั้ง

พี่สุดใจและอาจารย์นีโม่ คุณ ukrin คุณอนันต์ ได้แยกไปที่เอื้ออาทรบึงกุ่ม เพื่อตัดต่อวีดีโอให้คุณแม่แดงต่อให้แล้วเสร็จ

 

จนช่วงเย็น ได้รับโทรศัพท์จากคุณแดนเดือนเดียว ว่าเดินทางมาจากสุรินทร์ถึงกรุงเทพฯแล้ว จะเดินทางมาพบที่สำนักงานของกลุ่มฯ ที่เอื้ออาทร และได้พาพี่ที่นับถือกันมานาน เดินทางมาด้วย

ท่านผู้ที่เดินทางมากับคุณแดนนี้ เป็นผู้สนใจธรรมะ ปฏิบัติธรรมมานาน และเป็นผู้ที่เคยให้คำปรึกษาปัญหาต่าง ๆ คอยช่วยเหลือให้คำแนะนำในขณะที่คุณแดนพบเจอความทุกข์รุมเร้า และเป็นที่ปรึกษาปัญหาต่าง ๆ เรื่อยมา

แต่ช่วงหลัง กลับรู้สึกแปลกใจที่ได้เห็นคุณแดนเปลี่ยนแปลงไป จากคนที่เคยทุกข์มากมาย กลายเป็นคนสงบเยือกเย็นในระยะเวลาอันรวดเร็ว เบาบางจากทุกข์ ความร้อนรนกระวนกระวายที่เคยเห็นมาจนชินนั้น ไม่มีปรากฏขึ้นให้เห็น มีแต่รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ แม้จะพบเจอกับเหตุการณ์ที่ต้องทุกข์แบบเดิมก็ตาม

.... แดนเสียสติไปแล้วหรือไร? ....

จึงเกิดความแปลกใจ จึงได้สอบถาม คุณแดนก็ได้อธิบาย ได้ขยายความเรื่องการปฏิบัติที่มุ่งเน้น เพื่อการปล่อยวาง เพื่อละการยึดมั่นถือมั่นในขันธ์ห้า ในอัตตาตัวตน การละอุปาทานขันธ์ห้าเป็นหลัก ให้ทราบ

ดังนั้นเมื่อทราบว่า ที่เปลี่ยนไปก็เพราะได้มาปฏิบัติธรรมกับกลุ่มนี้ที่เขากะลา ก็เลยสนใจจะมาสนทนาด้วย เพื่อจะได้รับทราบเรื่องราวต่าง ๆ

ซึ่งได้เคยขอให้คุณแดนพามาหลายครั้งแล้ว แต่ยังไม่พร้อมกันสักที จนวันนั้น คุณแดนมาได้โทรศัพท์มาก่อน และทราบว่าพี่สุดใจ และอาจารย์นีโม่อยู่พร้อมกันที่เอื้ออาทร ท่านผู้นี้จึงได้เร่งให้พามา เพื่อจะได้พบกัน

และพอดีในช่วงเย็น คุณพีท ได้โทรมาแจ้งว่า พระอาจารย์พชร ท่านได้กลับมาที่วัดประยงค์ แล้ว และให้คณะของคุณพีทเดินทางไปพบกับท่านได้ที่วัด

คุณพีท และครอบครัว จึงได้เดินทางไปที่วัดเพื่อกราบพระอาจารย์อีกครั้ง ได้แจ้งให้พี่สุดใจ และอาจารย์นีโม่ทราบด้วยเพื่อเดินทางไปสมทบ

แต่เนื่องจากได้นัดหมายกับคุณแดน และพี่คุณแดนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว จึงได้ขอให้คุณพีทช่วยกราบเรียนพระอาจารย์ด้วย และให้คุณพีทช่วยเป็นธุระเรื่องพระประธานฯ ที่พระอาจารย์จะมอบให้กับสถานธรรมที่เขากะลา ซึ่งกำลังจะหล่อขึ้นมาใหม่นั้น ต้องดำเนินการอย่างใดบ้าง

ซึ่งคุณพีทก็ได้ช่วยเป็นธุระให้ จนได้ข้อมูลมาแจ้งให้เพื่อน ๆ สมาชิกได้รับทราบกัน ดังที่อาจารย์นีโม่ได้แจ้งไว้แล้วนั้น

ต้องขออนุโมทนากับคุณพีทและครอบครัวด้วยเป็นอย่างยิ่ง

<TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: 0px; BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 1px solid">0-07-2009, 06:14 AM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid; BORDER-TOP: rgb(255,255,255) 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: 0px; BORDER-BOTTOM: rgb(255,255,255) 1px solid" align="right"> #10515 </TD></TR><TR valign="top"><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px solid; BORDER-TOP: 0px; BORDER-LEFT: 1px solid; BORDER-BOTTOM: 0px" width="175">
<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->Astro Neemo<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2275664", true); </SCRIPT>
ผู้สนับสนุนบริจาค



วันที่สมัคร: Sep 2007
สถานที่: ดินน้ำลมไฟหยั่งไม่ถึง
อายุ: 39
ข้อความ: 1,198
Groans: 10
Groaned at 2 Times in 2 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 4,402
ได้รับอนุโมทนา 22,972 ครั้ง ใน 1,222 โพส
พลังการให้คะแนน: 394


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2275664 style="BORDER-RIGHT: rgb(255,255,255) 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->

กำหนดการเททองหล่อพระพุทธเมตตา (เขากะลา)

ขอกราบอนุโมทนาในมหากุศล ในความเมตตาของพระอาจารย์พชร คงบุญ เจ้าสำนักสงฆ์ประยงค์กิตติวราราม คลอง ๑๑ (อาจารย์ของคุณพีท ทองเจือ) ท่านได้เมตตามอบพระประธานพระพุทธเมตตา ซึ่งได้จำลองจากมหาเจดีย์พุทธคยา ดินแดนแห่งการตรัสรู้จากประเทศอินเดีย ขนาดเท่าองค์จริง โดยฝีมือการจำลองแบบจากช่างปั้นที่มีฝีมือติดอันดับ ๑ ใน ๓ ของโลก (มีขนาด๗๙ นิ้วมูลค่าการหล่อแบบและจัดสร้างประมาณสามแสนบาท ) เพื่อเป็นพระธานในศูนย์ปฎิบัติธรรมแห่งนี้สืบไป
ขอกราบอนุโมทนาในมหากุศลอันยิ่งใหญ่ไว้ ณ.ที่นี้

โดย จะจัดทำการเททองหล่อพระพุทธเมตตา(เขากะลา)ในวันที่ ๒๕ ตุลาคม ศกนี้ เวลาประมาณ ๙.๐๐น.พร้อมกับเททองหล่อพระประธานขนาดหน้าตักกว้าง ๕ เมตรของวัดประยงค์กิตฯ

ซึ่งในการจัดสร้างครั้งนี้พวกเราสามารถที่จะช่วยเหลือปัจจัยให้กับหลวงพ่อเพชรได้เพื่อให้ท่านใช้เป็นทุนทรัพย์ในการหล่อพระ
โดยมีประธานหาทุนก็คือคุณพีท ทองเจือและครอบครัว

หาก ท่านใดมีจิตศรัทธาประสงค์จะเป็นเจ้าภาพร่วมบริจาคทรัพย์หรือโลหะทองเหลือง ตามกำลังศรัทธาเพื่อช่วยเป็นทุนทรัพย์ในการหล่อพระทั้งสององค์นี้ร่วมกับกับ หลวงพ่อก็ติดต่อได้ที่ทีมงานBlog17 ได้โดยตรงครับ
<!-- google_ad_section_end -->
__________________
</TD></TR>

 

ส่วนพี่สุดใจ และอาจารย์นีโม่ ก็ได้ต้อนรับคุณแดน และพี่ที่นับถือท่านนี้ ซึ่งเมื่อได้รับฟังข้อมูลของระบบ ยิ่งรู้สึกทึ่งมาก ที่เหมือนกันกับได้เคยฟังมาก่อน เมื่อนานมาแล้ว เหมือนกับเคยรับฟัง แต่ผ่าน ๆ มานานแล้ว มารับฟังครั้งนี้ เหมือนสะกิดให้ความเข้าใจเดิม ๆ ย้อนกลับมา

ความว่าง การปล่อยวาง ความที่ไม่ใช่ตัวเราของเรา ความเป็นเช่นนั้นเอง อะไรมากมายเหล่านี้ เคยได้ยินได้ฟัง แต่ยังไม่เคยเห็น ไม่เคยปฏิบัติให้ตรงแก่นสักครั้ง พอมาฟังเกิดความเข้าใจ และเริ่มยิ้มออกมาได้

นั่นคือ เห็นแนวทางการปฏิบัติ และเห็นทางที่จะเบาบางจากทุกข์นั่นเอง

ภายหลังจึงได้รับทราบว่า ท่านผู้นี้เป็นคนอยู่จังหวัดสุราษฎร์ธานี และท่านไปที่สวนโมกข์ตั้งแต่ยังเด็ก ๆ จนโตขึ้นมา เพราะเป็นหลานของท่านพุทธทาส คุณแม่ก็จะนำไปส่งไว้ที่วัดในวันหยุดโรงเรียน ก็จะเล่นบ้าง ฟังบ้าง อยู่รอบ ๆ ที่ท่านพุทธทาสแสดงธรรม ซึ่งท่านผู้นี้เรียกท่านพุทธทาสว่า ปู่

ท่านเล่าว่า ปู่สอนอยู่เรื่อย ให้ปล่อยวาง ให้ละการยึดมั่นถือมั่น มันไม่ได้เป็นตัวใคร ของใคร แต่ด้วยตอนนั้นท่านยังเป็นเด็ก ก็ฟังไป ท่านสอนทุกครั้งที่ไปอยู่ที่วัด และได้ฟังตอนที่ท่านพุทธทาสเทศนาธรรมให้กับญาติโยมด้วย

แต่เมื่อโตขึ้นมา ก็มาอยู่ทางโลก มามีกิจการส่วนตัวเป็นเจ้าของกิจการเอง แม้จะตะเวณทำบุญมากมาย แต่ก็ยังมีความทุกข์ในหลาย ๆ เรื่อง

แต่เมื่อได้พบกัน ได้เจอกัน ได้สนทนากัน เหมือนมาต่อเติมความเข้าใจ ที่เคยได้ยินได้ฟัง จึงได้แนวทางปล่อยวางที่ทำได้จริงขึ้นมา จึงหวนคิดถึงคำของปู่ คือท่านพุทธทาสได้เคยพร่ำสอนไว้เมื่อนานมาแล้ว

และท่านกล่าวว่า คงถึงเวลาแล้วที่ท่านจะปฏิบัติอย่างจริงจังเสียที และเมื่อมารับทราบแล้ว พบว่าสิ่งที่ได้ฟังมานี้ มิได้ขัดกับสิ่งที่เคยได้ยิน ได้ฟังมาแล้วเมื่อก่อนหน้านี้เลยสักนิด เป็นเรื่องเดียวกัน แต่รูปแบบอาจจะแตกต่างกันไป

และเห็นว่าขนาดคนที่เคยเผชิญกับความทุกข์มากมายอย่างคุณแดน ยังสามารถปล่อยวาง และออกจากทุกข์ได้ ทำไมท่านจะทำบ้างไม่ได้

ขออนุโมทนากับท่านผู้นี้ด้วยอย่างยิ่ง


ซึ่งในวันนั้น พี่สุดใจก็ยินดีอย่างยิ่ง ที่ได้มีโอกาสพบกับท่านผู้นี้ ผู้ที่เป็นหลานใกล้ชิดของท่านพุทธทาส ที่ท่านเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และพี่สุดใจนับถืออย่างยิ่ง อ่านหนังสือของท่านมากมายหลายเล่ม ได้ปัญญามากมาย แต่ไม่เคยได้ไปกราบท่านเลยสักครั้ง จนท่านละสังขารไป

วันนี้ ได้มีโอกาสพบกับผู้ที่ได้ใกล้ชิดกับท่านพุทธทาส จึงมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสพบ มีโอกาสสนทนา และได้รับรู้เรื่องราวของท่านพุทธทาสจากหลานของท่าน

อาจารย์นีโม่ก็ได้ชี้แนะในเรื่องการปฏิบัติ และเรื่องอื่น ๆ อีกหลายเรื่องให้กับท่านผู้นี้ด้วย

สนทนากันอย่างยาวนาน จนเลยเที่ยงคืนไปแล้ว จึงได้เดินทางกลับไป

ขออนุโมทนากับคุณแดน ที่ได้ขยายระบบ บอกกล่าวเรื่องของธรรมะเพื่อการละวางอัตตาตัวตนของเขากะลา ให้กับผู้อื่นได้รับทราบ และใช้การปฏิบัติที่ได้ผล จนเบาบางจากทุกข์แล้ว เป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่น

ขออนุโมทนากับทั้งสองท่านด้วยค่ะ<!-- google_ad_section_end --> <!-- google_ad_section_end -->

 

วันที่ 18 กรกฎาคม 2552

พี่สุดใจ นัดหมายกับคุณหนุ่ย คุณ ukrin นำวีดีโอที่ถ่ายทำกิจกรรมของนักเรียนอนุบาลนิธิกานต์ และตัดต่อแล้ว ไปให้คุณแม่แดงได้ลองชมดู เผื่อว่าจะมีส่วนใดที่ต้องแก้ไข ซึ่งได้ทำไปให้ดูเป็นตัวอย่างก่อน 1 ชุด

ซึ่งภาพอาจไม่ค่อยคมชัดเท่าใดนัก แต่คุณแม่แดงท่านบอกใช้ได้แล้ว มีการแก้ไข เพิ่มเติมเพียงเล็กน้อย และท่านได้ฝากขอบใจทีมงานทุกท่านที่ได้มาช่วยถ่ายทำกิจกรรมของอนุบาลนิธิกานต์ให้





และก่อนเดินทางกลับ ได้มอบพระธาตุ ให้กับคุณแม่แดงไว้บูชา และมอบให้คุณพีท กับทีมงานบล็อค 17 และอาจารย์ukrin ที่จะนำไปมอบต่อให้กับผู้ที่แจ้งความจำนงค์ขอรับไปบูชา










ซึ่งพระธาตุที่ได้มอบให้คุณแม่แดง คุณพีท และอาจารย์ukrin นี้ อาจารย์หนุ่ย (เทพบุตรชาวดิน) ได้รับมอบมาจากชมรมพระธาตุ จึงได้นำมามอบต่อให้กับผู้ที่ศรัทธานำไปบูชา เพื่อเป็นสิริมงคล

ขอขอบพระคุณ และขออนุโมทนากับชมรมพระธาตุด้วยค่ะ

 

นามสกุลเรืองศรี ... เป็นอะไรกับ คุณ สมชาย เรืองศรี เพื่อนซี้ผม(นักเรียนทุน พ.ก.รัสเซีย) อยู่พนัสนิคม ตอนนี้ซี้ไปแล้วครับ ------

อ้าว... เพิ่งทราบว่าจารย์เม้าท์ก็เพื่อนคุณสมชาย แกจากไปอย่างกระทันหัน เล่นเอาพวกเรามึนกันจนมองไม่เห็นดาว(..ที่แกไปสถิตย์อยู่..)เลย อยากทราบว่าจารย์ได้ข่าวจากเพื่อนซี้นี้บ้างหรือเปล่า...??? หลังไมค์ก็ได้ค่ะจารย์

 

หลังจากสมชาย จากไปอยู่ดาวที่มองไม่เห็น ก็ไม่ได้ข่าวแกอีกเลย
ป่านนี้แกคงเฝ้ารอรับเพื่อนๆ ที่กำลังเข้าคิว ไปหาแก ทีละคนๆ
ใครทิ้งขันธ์ห้า ได้เร็ว ก็จะได้ไปก่อน
ที่ยังห่วงหาอาลัยในขันธ์ห้า ก็ต้องอยู่ทนทุกข์กันต่อไปครับ

;38

 

เมื่อวานนี้(22/7/52) คณะของอาจารย์นีโม่ ได้เดินทางโดยรถตู้ VIP
ไปทำพิธีขออโหสิกรรม และสวดนพพระเคราะห์ กลับชีวิตร้ายให้กลายเป็นดี
ที่บ้านของอาจารย์สุทัศศรี ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีผู้ร่วมเดินทางทั้งหมด 7 ท่าน
คือ

1. อ.นีโม่
2. อ.ยูคริน
3. อ.สิ
4. อ.ไอย
5. อ.หนุ่ยแฟรงค์
6. MOUNTAIN
7. คุณครูอ้อย

จุดแรกรถแวะรับผู้โดยสารที่อาคารบึงกุ่ม ออกจากบึงกุ่มเวลาประมาณ 13.20 น. แวะรับผู้โดยสารจุดที่สอง ที่หน้า บิ๊กซี พระราม 2 เวลา 13.55 น.


รถตู้วีไอพี โดยการสนับสนุนจาก อ.สุทัศศรี...ทะเบียนสวยมาก

 

ขาไปใช้เวลาเดินทางรวดเร็วราวปาฏิหาริย์
ถึงประจวบฯ เวลา 16.10 น. ใช้เวลาเพียง 2.20 นาที เท่านั้น ยัง งง งง กันอยู่ถึงวันนี้

ก่อนถึงอาการ งง มาชมภาพบรรยากาศในรถ ก่อนครับ











โชเฟอร์ขอแวะซื้อเกลือ

 

พอรถวิ่งเข้าเขตสามร้อยยอด ประจวบฯ
อ.สุทัศสี ได้ให้หลานชาย นำรถรถตู้ทึบ(อ.ไอย เรียก) มารอรับแล้ว วิ่งนำทาง ไปร้านอาหาร
เพื่อส่งเสริมสุขภาพกันก่อน
พวกเราเห็นรถตู้ทึบ ที่ อ.ไอย. บอก ถึงกับปล่อยก๊าก ที่ไหนได้ ที่แท้ก็รถปิคอัพ นั่นเอง

ชมบรรยากาศร้านอาหาร กลางดง กันก่อนที่จะ
ไปบ้าน อ.สุทัศสี (มื้อนี้ อ.สุทัศสี เป็นเจ้าภาพ
ครบสูตร รถดี ดนตรีเพราะ อาหารอร่อย)


ที่เห็นนั่งยองๆเหลา เขาเอง อ.ยูคริน

 

อาหารจานเด็ด ทยอยนำมาเสิร์ฟ








ถ่ายไม่ทัน ตอนเต็มจาน



ขอถ่ายไว้เป็นหลักฐาน ก่อนหมด



มือถ่าย ตัวจริง ถ่ายจนพุงปลิ้น

 

เจ้าภาพ อ.สุทัศสี แวะมานั่งเป็นกำลังใจ



อ.โม่ ไม่ต้องควัก มื้อนี้ อ.สุทัศสี เลี้ยง...ขอโมทนาสาธุ

 

หลังจากอิ่มหนำสำราญ เบิกบานหฤทัยคอนแวน
กันทุกคนแล้ว ก็มุ่งหน้าสู่บ้าน อ.สุทัศสี ทันที ไม่รีรอ
(เริ่มออกแนวลิเก แล้ว)


บ้าน หรือสนามฟุตบอล ชัก งง อีกแล้ว



สมาชิกที่มารอเข้าพิธี