กระทู้ของคนไม่กลัวภัยพิบัติ และการเตรียมความพร้อม ในการรับมือ

ความจริงที่หนีไม่ได้คือ น้ำเข็งขั่วโลกละลาย ผลที่จะต้องตามมา คือ


1 เกิดน้ำท่วม อันเนื้องมาจาก ปริมาณน้ำในทะเลเพิ่มมากขึ้น โลกร้อน น้ำระเหิยเป็นไอน้ำมากขึ้น ผลที่ออกมาคือ มีฝนตกหนัก เพิ่มขึ้นทั่วโลก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเมืองต่างๆ ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มขึ้นไหลล้น เข้าท่วมตัวเมือง น้ำทะเลหนุน




2 แผ่นดินไหว เกิดจากปริมาณน้ำ ที่เพิ่มมากขึ้นในทะเล อันเนื้องมาจาก น้ำเข็งขั่วโลกละลาย ทำให้เปลือกโลก ทีการเคลื่อนตัว ผลที่ตามมาคือแผ่นดินไหว แผ่นดินทรุด ตามมา




3 เกิด ฤดู สุดโต่ง หนาวมากเกิด ร้อนมากเกิด ฝนตกเยอะเกิน
และปรากฏการทางธรรมชาติ ที่ไม่เคยเกิดมาก่อนในแต่ละประเทศ


เหตุการลมหมุนที่ปกติเกิดขึ้นในทะเลแต่ตอนนี้เกิดขึ้น บนบก นี้คือความจริงที่เริ่มจะเกิด ไม่สามารถหลอกตัวเองได้ว่ามันจะไม่เกิดอะไร จะไม่มีใครเป็นอะไร ตอนนี้ต้องยอมรับความจริงและ เตรียมตัวให้พร้อม ก่อนที่จะเกิดภัย ความกลัวไม่สามารถช้วยเราได้ และสิ่งของที่จำเป็นจะต้องเตรียมพร้อมในการเอาตัวรอดนั้น ควรมีอะไรบ้าง มาดูกันครับ


วิทยุวอ



ไฟฉาย



เต้นท์ และ เข็มทิศ ( หาซื้อได้ ตาม ห้าง )


เชือก


ไฟแช็ค


ถังใส่น้ำมัน



แผง โซล่าเซล พลังงานสำรอง ไว้สำหรับ ชาจไฟฉาย และ วิทยุวอἧ�������� 1-2-3-4- 5 �ѵ�� : ��ѧ�ʧ�ҷԵ�� - 0.00 - ��������: ��ѧ�ʧ�ҷԵ�� ��Ҵ 316x220x28 ��������� General description: Photovoltaic module is a sunlight power generation unit that directly converts solar energy into direct-current electric en#
ราคา 6xx ถึง 1,xxx บาท


เรือยาง ��й��������, ����͹������, �����ҧIntex, ��ҹ���, Detox foot spa, BluetoothU&I, �����ͧ�Դ�ŢOSALO, ��������� เราคาประมาณ 3200 บาท


กล่องยา





เหรียญพลังสเคล่าร์ (The Scala Power Coin) : :
: : ที่ระลึกครบ 8 รอบ 96 พรรษา สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สก ������������ͧ��������� Siristore.com - ��������Ƿ���������������� update ����������ҧ�������ͧ << คลิกเข้าอ่าน
พลังงานสเคล่า ที่ได้จากหินภูเขาไฟลาวา ช้วยให้คนที่พก มีพลังเพิ่มขึ้น 30% ช้วยให้ไม่เหนื่อยง่ายจากการเดินทาง และปรับสมดุลในร่างกาย ( สรรคุณยาว )
พลังงาน SCALAR ป้องกันรังสี คอม - มือถือ ปรับสมดุลในร่างกาย ... << คลิกเข้าอ่านข้อมูลใน เว็ปพลังจิตราคาน่าจะถูกกว่า


สบู่ฆ่าเชื้อ และ แชมพู


ถุงมือ แบบต่างๆ ( แบบใช้งาน และ แบบ ป้องกันเชื้อโรค )


เครื่อง กันหนาว ถุงมือ ผ้าห่ม หมวก


หน้ากาก


แว่นตา


GPS



เครื้องกรองน้ำ แบบไม่ใช้ไฟฟ้า


อาหารแห้ง


อาหารเสริม


เมล็ดพันธุ์ผัก และผลไม้ ต่างๆ

จาน ช้อน ซ่อม


นกหวีด เป่าเรียกขอความช้วยเหลือ (นักข่าวพยากรอากาศแนะนำมา ให้มีไว้ )


เสื้อชูชีพ


แว่นตากันน้ำ



ของที่กล่าวมาทั้งหมด มีไว้ติดบ้าน คงได้ใช้แน่นอนครับ ภัยจะเกิด หรือ ไม่เกิด เรามีเอาไว้ก็ไม่เสียหายอะไร หาก จะเกิดขึ้นอีก 3 ปีข้างหน้า เราก็เก็บเงิน ทะยอย ซื้อทีละอย่าง ก่อน 3ปี ก็คงจะครบแล้วละครับ สุดท้าย หนังสือสวดมนต์ และพระเครื่องขนาดเล็ก เพื้อเอาไว้ ระลึกนึกถึงพระ และนึกถึงบุญครับ มีไว้จะได้เป็นมงคลกับตัวเอง

 

มืด 7 ราตี คงจะหนาวแย่เลย

 

เห็นด้วยกับกระทู้นี้ครับ
ถ้าคิดว่าภัยพิบัติมีโอกาสเกิด ก็น่าจะทำการศึกษาเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น

ไม่ใช่พยายามไม่พูดถึง ห้ามไม่ให้ผู้อื่นพูดถึงหรือรับรู้เรื่องภัยพิบัติ เพราะนั่นไม่ใช่ทางแก้ปัญหาทั้งทางกายและทางใจ เป็นการหนีปัญหาของคนขลาด ดูเหมือนเป็นการหลอกจิตตัวเองไปวันๆมากกว่า ทั้งๆที่จิตใต้สำนึกบอกว่ามันมีโอกาสที่จะเกิดขึ้น

การเตรียมพร้อมกับสิ่งที่มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นคือความไม่ประมาท หากเกิดขึ้นก็มีความพร้อมที่จะรับมือได้ แต่หากไม่เกิดก็ถือเป็นเรื่องที่ดี ที่สำคัญคือไม่ควรตื่นตระหนกจนเกินเหตุ สุดโต่งไปทางด้านใดด้านหนึ่งทั้งด้านที่ไม่เชื่อไม่เตรียมความพร้อมใดๆหรือไม่ยอมรับรู้ใดๆเลย ทั้งยังชักชวนให้ผู้คนไม่ยอมรับรู้ตามให้เกิดความประมาท หรือด้านที่เชื่อจนงมงายหนีจากชีวิตปกติเข้าไปอาศัยอยู่ในถ้ำตัดขาดจากโลกภายนอกหรือการใช้เงินหรือเวลามากจนเบียดบังการใช้ชีวิตโดยปกติทั้งยังชักชวนให้คนอื่นเกิดความเชื่อโดยสุดโต่ง ทั้งสองกรณีนี้ก็ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีที่อยู่ตรงข้ามกันสุดขั้ว

สำหรับผมคิดว่า ภัยพิบัตินั้นมีโอกาสเกิดมากขึ้นได้ในอนาคต เพียงแต่จะร้ายแรงแค่ไหน เหมือนคำทำนายหรือไม่ก็ต้องนำมาพิจารณากันอีกที ที่สำคัญคือหากเกิดภัยพิบัติขึ้น ไม่ว่าจะเล็กน้อยหรือร้ายแรงก็มีโอกาสทำให้เกิดการสูญเสียในด้านต่างๆขึ้นได้หากไม่เตรียมความพร้อมใดๆเลย เช่นหากเกิดน้ำท่วมกรุงเทพขึ้นจริง ไม่ต้องสูงเท่าเสาไฟฟ้าเหมือนในคำทำนาย เอาแค่สูงเท่าหัวเข่านานนับเดือน แค่นี้ความเสียหายก็เกิดขึ้นมากมายแล้ว เพราะสภาพความเป็นอยู่ของกรุงเทพในเวลานี้แตกต่างจากเมื่อ 10-20 ปีก่อนมาก เราไม่สามารถอาศัยอยู่ในกรุงเทพที่มีน้ำท่วมขังสูงเท่าหัวเข่านานนับเดือนได้แน่ๆ แต่หากเราไม่ตระหนักถึงสิ่งเหล่านี้เลย เมื่อมันเกิดขึ้น สภาพที่เปลี่ยนไปเพียงเล็กน้อยเท่านี้ (เมื่อเทียบกับคำทำนายที่มี) ก็อาจเป็นเรื่องใหญ่โตมากมายสำหรับหลายๆคนจนคาดไม่ถึงเลยก็เป็นได้

การเตรียมการในปัจจุบันของผมก็คือ ผมทำการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอให้ร่างกายแข็งแรง ให้เคยชินกับการใช้งานหนักจากสภาพร่างกายของตนเองให้มากที่สุดมากกว่าการใช้เครื่องทุ่นแรง และผลพลอยได้จากการออกกำลังกายคือ การมีจิตใจที่แจ่มใส ความวิตกกังวลลดลง มองโลกแง่ดีมากขึ้น วิธีการเตรียมการง่ายๆเช่นนี้ได้ทั้งสุขภาพกายใจและไม่เสียสตางค์ ใครจะลองนำไปปฏิบัติดูได้เลยครับ ทำควบคู่กับการปฏิบัติธรรมอย่างที่หลายๆท่านในที่นี้ปฏิบัติอยู่แล้วด้วยก็จะดียิ่งขึ้น

 

ขอบคุณท่าน NASA มากครับ ที่ตั้งกระทู้นี้ ทีแรกผมกำลังจะตั้งกระทู้แนวนี้พอดีเลยครับ

เพราะต้องการให้คนเตรียมตัวได้ทัน ดีกว่าไม่รู้อะไรเลย มัวแต่ทำตัวเหมือน กบในกะลา
ดูอย่างเหตุสึนามิ 2547 สิครับ ผมถามเพื่อนๆหน่อยว่า ถ้าคนรู้ตัวล่วงหน้าซัก 3 ปี จะมีคนตายมากเท่านี้มั้ยครับ

มัวแต่ทำตัวเหมือน กบในกะลาไม่ยอมรับความจริงแบบน้อง "สันโดษ" แล้วยังไปเที่ยวชวนชาวบ้าน
ให้เค้าประมาทตามตัวเองอีก วันๆน้อง "สันโดษ" ดีแต่มานั่งปลอบใจตัวเองว่า ภัยพิบัติมันคงไม่เกิดหรอกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ไม่รู้ว่าน้อง เค้าทำไปเพื่ออะไร จิตใจน้องเค้า บอบบาง มากครับ กลัวตายจนต้องสร้างกระทู้หาเพื่อนที่กลัวเหมือนตัวเอง

ผมสลดใจกับน้อง "สันโดษ" เค้าจริงๆครับ คนเรานี่มันเหมือนบัว 4 เหล่าจริงๆครับ คงสอนอะไรน้องเค้ามากไม่ได้
เพราะปััญญาน้องเค้ามีเท่านี้ คนสติปัญญาใกล้เคียงกัน ก็มักไปรวมหัวอยู่ในห้องเดียวกัน เป็นธรรมดาครับ

ขอบคุณ NASA มากครับที่ทำห้องนี้

ใครที่ชอบห้องนี้ช่วยกัน อนุโมทนากับคุณ NASA ให้เยอะๆเลยครับ

 

แหมผมเองก็ไม่สามารถพูดได้หรอกว่าไม่กลัวตาย แต่หากจะตายก็ยอมรับในผลแล้วสงบใจมากกว่าพูดได้เท่านี้

แต่อยากตอบกระทู้นี้ขออนุญาติเลยละกันครับเพราะเห็นด้วยในการเตรียมความพร้อมทั้งทางกายและทางจิตใจหรือทางจิตวิญญาณ ในเรื่องทั้งสองประเด็นจริงๆมีการบอกกล่าวล่วงหน้าโดยสมาชิกอาวุโสของกลุ่มไปนานหลายปีแล้วล่ะครับ แต่มีการมาเตือนย้ำก็ดีครับ แต่คงไม่ต้องถึงขนาดทุ่มเงินหมดตัวเพื่อการนี้หรอก หากท่านไม่ต้องการลงทุนขนาดช่วยคนอื่นเยอะๆ แต่ถ้าคิดแบบหลังนี่ผมก็โมทนาครับแต่อย่าให้คนรอบตัวเดือดร้อนมากก็แล้วกันเนอะ เตรียมพร้อมทั้งภัยพิบัติจากธรรมชาติ อารมณ์แล้วอย่าเผื่อเหลือไว้สู้ภัยพิบัติทางเศรษฐกิจที่กำลังถาโถมด้วยล่ะ ยึดแนวสายกลางพอเพียงไว้เป็นอย่างน้อย

ที่อยากเสริมอีกนิดคือเรื่องไลฟ์แจคเกทหรือเสื้อชูชีพ แนะนำให้ลองเทสว่ารองรับน้ำหนักตัวได้กี่กิโลครับเพราะมันมีหลายแบบเดี๋ยวเอาไปใช้จริงใช้การไม่ได้จะยุ่ง อีกอย่างให้ฝึกสวมแบบไวที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อสถานการณ์จริงจะได้ใส่ทัน เพราะถ้าใส่มั่วๆไม่ถูกต้องบางทีมันก็ไม่ได้ช่วยอะไรอ่ะครับ ถ้ามีเงินเหลือซื้อไลฟ์บอยหรือห่วงยางมาไว้ก็ดีนะมีประโยชน์เช่นกันแต่อย่าลืมทดสอบน้ำหนักก่อน ถ้างบน้อยหน่อยเอามะพร้าวห้าวมาเจาะน้ำออกแล้วอุดดีๆมัดรวมกันก็ใช้ได้

ส่วนเชือกก็เหมือนกันอย่าซื้อมั่วๆนะครับตรวจสอบให้ดีว่าสามารถรองรับน้ำหนักได้กี่กิโล
ถ้ามีเงินมากหน่อยก็ซื้อแบบเชือกใช้ไต่หน้าผาหรือรวยจัดก็เชือกแบบใช้ในทะเลก็ได้แต่แพงมากนะขอบอกแต่ทนสุดในโลกแล้ว ถ้าไม่มีเงินมาก็ซื้อแบบธรรมดาที่นิ่มๆมาหลายๆเส้นนำมาถักหากมีเวลาหรือขี้เกียจเอามามัดพันกันแล้วผูกเงื่อนไว้ใช้พร้อมทีละสองเส้นก็ได้ ลองเสิชวิธีในกูเกิลไปก่อนนะครับ

เรื่องแพยาง อย่าไปซื้อแบบใช้เล่นน้ำในสระมานะครับ มันคุณภาพต่ำหากเจอคลื่นลมแรงๆเจออะไรกระแทกหน่อยตายยกลำได้ ถ้ามีเงินแนะนำซื้อเรือไฟเบอร์กลาส,เรือไม้แบบไม่ใช่ท้องแบนนะ แบบท้องแบนใช้ในกรณีน้ำท่วมขังเท่านั้นถ้าคลื่นแรงๆก็พลิกคว่ำง่ายมาก
หรือไม่มีเงินก็ทำแพจากไม้ไผ่ปลอดภัยกว่าครับ ถ้ารวยสุดๆซื้อไลฟ์ราฟ ก็พอราคาผมไม่แน่ใจแต่แพงเอาการแต่ถ้าเซฟสุดๆต้องไลฟ์โบทแต่แพงเว่อเกินไม่ต้องกล่าวถึงดีกว่า

ถ้าท่านมีกำลังทรัพย์อยู่บ้าง ยิ่งมีรถยนต์ ผมแนะนำอีกนิดให้ซื้อ gps แบบพกพาได้ซักเครื่องนึง จริงอยู่หากเกิดแผ่นดินไหวถนนเสียหาย มันไม่มีประโยชน์ในการนำทางตามถนน แต่อย่างน้อยมันใช้บอกพิกัดเราและจุดหมายปลายทางรวมทั้งบริเวณที่มีสิ่งก่อสร้างเยอะๆที่ถล่มลงมาได้ครับมีประโยชน์อย่างยิ่ง ยกเว้นว่าดาวเทียมจะเสียพร้อมกันทั้งโลกแบบนั้นก็ไม่ค่อยมีค่าอะไรนอกจากเป็นแผนที่แบบดิจิตอลแค่นั้น

นอกนั้นก็เรื่องยาลองเชครายการยาที่ต้องใช้และยาที่จำเป็นต่างๆดูลองไปเชคได้จากเว็บของกลุ่มครับ พลังจิตพิชิตภัยพิบัติ - PalungjitRescueDisaster
ถ้าเกิดน้ำท่วมเยอะๆมีคลื่นแรงๆแนะนำให้หายาแก้ sea sickness หรือแก้เมาคลื่นพกไว้ด้วยนะครับ อย่าทำเป็นเล่นเพราะเป็นสาเหตุการตายในทะเลมาบ่อยครั้งแล้ว

อีกเรื่องที่อยากแนะนำในกรณีขั้วแม่เหล็กโลกพลิกตัว เข็มทิศมันพึ่งไม่ค่อยได้นะเช็คดีๆล่ะเดี๋ยวจะหลงทางกับ อยากฝากเรื่องฉนวนกันไฟฟ้าด้วย เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นธันเดอร์สตอร์มจะเยอะระวังฟ้าผ่าเอาได้ง่ายๆ (ปัจจุบันก็ง่ายอยู่แล้ว)

 

อันนี้ น่าสน ใจ

 

ต้องมีแท่งจุดไฟด้วยครับ ไฟเป็นส่วนประกอบในการดำรงชีวิตครับ

ใช้จุดไฟ ได้ตลอดชีพ ไม่ต้องใช้พลังงาน ใช้ได้นาน 2,000 ครั้ง ที่อยากจะจุด เปียกน้ำก็ไม่เป็นไรครับ

​

 

เอาเป็นว่า

น้ำท่วมโลก จนไม่มีเกาะให้อยู่ ตายดีกว่าครับ อย่าอยู่เลย อยู่ให้ทรมาน ครับ

ลอยคอทั้งวัน ให้ปูกับกุ้ง มาหนีบขา แทะ ขา ไม่เอาหรอกครับ (ประสบการณ์จริง จากเพื่อนที่เรือล่มกลางทะเล ข้ามคืน)

 

สำหรับผู้ที่รอดจากภัยพิบัติ ในช่วงแรก เตรียมรับมือในรอบสอง

- โรคระบาด แม้แต่โรคง่ายๆ ก็ตายได้ เพราะขาดยา ขาดโรงพยายาล

- อดอยาก ขาดแคลนอาหาร

- สารพิษ ที่กระจายลงสู่บรรยากาศ และ แหล่งน้ำ

- ไม่มีกฎหมาย ไร้ระเบียบ การแย่งชิง ปล้นฆ่า

.... จะเห็นได้ว่า ผู้ที่รอดจักต้องฝ่าอุปสรรคมากมาย เพื่อ.สร้างสังคมขึ้นมาใหม่

ที่สำคัญคือองค์ความรู้ต่างๆ เพื่อเป็นปัจจัยในการเริ่มต้นอย่างราดเร็ว

 

กลัวจนไม่ว่างจะมาเตรียม
เพราะสุดท้าย ทุกอย่างได้เตรียมให้เราแล้ว^-^
คริ คริ

 

ตายหมด อืม! ดีเหมือนกันไม่ต้องจัดงานศพ

 

เกิดตายกันมาหลายล้านชาติแล้ว บ้างก็ตายเป็น บ้างก็ตายเก่ง บ้างก็ตายชำนาญ ทบทวนวิธีตายของแต่ละท่านตามแต่ละ handycap ไว้เสมอๆ พระฯท่านสอนให้ซ้อมตายไว้ทุกสะโตรกหายใจนะ

 

..เข้ามาอ่านครับ...

..สำหรับผม...ยังไม่ได้เตรียมการอะไรเลย...เพราะ ปัจจัย และ เวลามีจำกัด คือ ทำได้ แค่เพียงครั้งเดียว ดังนั้น จะ ทำอะไร หาก ไม่มั่นใจ ก็ จะยังไม่ทำ...

...เท่าที่ติดตาม อ่านในเวปต่างประเทศ มีหลายครอบครัวเขาทำกันไปเยอะ แล้ว...เขา ไม่มุ่งหวัง ให้ รัฐบาล หรือ ใคร มาช่วย..พอทำเสร็จ เขา ก็ โพสต์ มาตรการเตรียมการในสิ่ง ที่เขาทำ ด้วยหวังว่า จะ เป็นประโยชน์ ต่อ เพื่อนร่วมโลก... ทำให้ ผม ต่อยอดความรู้ได้ตรงนี้....

...แต่ จะ ทำหรือ ไม่ทำอะไร...ทุกอย่างควร จะ สมบรูณ์ ก่อน ที่ทุกคนจะ ทราบว่า จะเกิด เหตุการณ์จริง ๆ ประมาณ ๖ - ๘ เดือน(หากว่าทุกอย่างเป็นความจริง) เพราะ ตอนนั้น ทุกคนรู้ เศรษฐกิจ จะล่มสลาย...หากคิดว่า อยากจะทำอะไร ก็ สายเกินไปเสียแล้ว...

..ติดตามความเป็นไป ของ เศรษฐกิจ โลกให้ดี พวก ที่มีเงินถุงเงินถัง ทั้งหลายน่ะ..นกรู้กันทั้งนั้น...ถึง เวลา ก็ บินจาก ไป ทิ้ง ให้ คนจนๆ รับ เคราะห์ ตามเคย...พวกนี้หลายคน ไปสร้าง เซฟเฮ้าส์ กันไว้เยอะแล้ว...ไม่ใช่ กลุ่มคน ที่ไม่มีความรู้ และ ไม่สนใจ อะไร เลย ม่ายอย่างนั้น จะ มี กะตังค์ กันมากมายได้ อย่างไร...

..ในความเห็นส่วนตัว...ซึ่งแน่นอน อาจจะผิดก็ ได้...ถาวรวัตถุ ทั้งหลาย ล้วนสุ่มเสี่ยงต่อการถูกทำลาย ....จะลงทุนทำอะไร ก็คิดให้ดี ร้ายที่สุด...แม้กระทั่ง บ้านใด ที่ สายไฟฟ้า ไปถึง ที่นั่น จะ ถูกทำลาย...ตรงนี้ ไม่ขอขยายความ.. ให้ เก็บไปคิดเอง เป็นปริศนา...เพราะขณะนี้ ยัง ไม่แน่ใจว่า จะ เป็นไปตามนี้หรือ ไม่....

..เรื่อง การเตรียมใจ เตรียมตัวตาย นั้น ทุก คนในเวป ที่สนใจ เรื่องนี้ เขา ก็ เตรียมกันอยู่...แต่ปลา หาก ยัง ไม่ตาย มัน ก็ ต้อง ว่ายน้ำ...จะให้ อยู่เฉยๆอย่างไรได้...ก็ ปลา ยังมีกิเลส อยู่ นี่นา...

...การแลกเปลี่ยนข่าวสาร...เพื่อหาข้อมูล หรือ ข้อยุติ ของปัญหา..จึงเป็นสิ่งที่ดี ที่สุด และ ไม่ควร เชื่อถือข้อมูล ที่ สอบทานไม่ได้ ดัง นั้น ข้อมูลทางวิทยาศาตร์ ผนวก กับ ข้อมูล ทาง พลังจิต จึง น่าจะเชื่อถือได้ มากกว่า...ทุกอย่าง ต้อง มีเหตุมีผลต่อกัน จึงจะหาคำตอบได้...

 

รอเวลา

 

ผมว่าพกถ่านไฟฉาย ติดตัวไว้ก็ดีนะครับ เพื่อถ่านหมดไม่มีขายนะ

 

อีกกระแสหนึ่งนะครับ

เป็นกระแสจากทางต่างประเทศ ในกระทู้ที่ผมแปลให้อ่านอยู่
ในห้องวิทยาศาสตร์ทางจิตนี้แหละ

ผมจะบอกว่า..ที่คุยกัน เตรียมการกันอยู่นี่ ทั้งหมดทั้งสิ้น
ล้วนเปล่าประโยชน์ (อันนี้พูดตามเนื้อหาของแหล่งข้อมูลที่ผมกำลังอ้างถึงอยู่หนะนะครับ)

เพราะว่ามันจะร้าย และแรงกว่าที่ท่านคิดไว้ว่ามันจะเกิดแค่กิ๊กๆก็อกๆนี้มากนักหนา

ไม่มีตรงไหนเลยที่มันจะปลอดภัย อ้อ..มีอยู่นะ เดี๋ยวลองอ่านข้างล่างนี้ดูครับ
............................................

ที่มา : http://palungjit.org/threads/การเตร...และข้อมูลอื่นๆจากสาธารณรัฐเช็ก.193101/page-16

....จิตสำนึกของมนุษย์ที่แสดงออกมาทุกวันนี้ ในรูปของกระแสความคิดที่มนุษย์แผ่กระจายออกมารอบๆตัวเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
ได้ส่งผลกระทบต่อโลกจนเข้าขั้นอันตรายแล้ว โลกจะได้รับผลกระทบจากทุกๆสิ่งที่มนุษย์โลกแผ่กระจายออกมารอบๆตัวเอง

เราได้อธิบายแล้วว่าสนามแรงขนาดจิ๋วทั้งหลายที่อยู่ภายในอะตอม มีความไวเป็นอย่างมาก และเราก็ได้บอกพวกท่านไปแล้วว่า
สนามแรงเหล่านี้พวกมันสามารถรับและเก็บแรงกระตุ้นจากกระแสความคิดได้ เพราะว่ากระแสความคิดเองมันก็คือ
“สนามพลังงานแม่เหล็กไฟฟ้า” ชนิดหนึ่งด้วยเหมือนกัน
<O</O
มีหลายสิ่งหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับมนุษย์อยู่ โดยที่ตัวมนุษย์เองไม่ได้ตระหนักรู้เลย และกระแสความคิดทั้งหมดที่มนุษย์
แผ่ออกมารอบๆตัวเอง ได้ถูกดูดซับและเก็บบันทึกไว้โดยสิ่งต่างๆที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น รวมถึงสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆตัวมนุษย์ด้วย
<O</O
ดังนั้น เราจึงจะต้องทำให้โลกเอียง (Tilt the Earth) เพื่อที่จะกำจัดทุกๆสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาโดยกระแสความคิดของมนุษย์ออกไป
ให้หมดสิ้น และรวมถึงเพื่อกำจัดทุกๆสิ่งที่ได้รับผลกระทบจากจิตสำนึกในด้านลบของมนุษย์มาเป็นเวลานานแล้ว ออกไปให้หมดอีกด้วย

มิเช่นนั้นแล้ว เวลาที่พวกท่านกลับลงมายังโลกอีกครั้งหนึ่ง หลังจากกระบวนการชำระโลกเสร็จสิ้นลงแล้ว
พวกท่านอาจจะยังต้องกลับมาเจอกับอิทธิพลเดิมๆ ที่จะถ่ายทอดกลับไปสู่พวกท่านอีกครั้ง แล้วพวกท่านก็จะเก็บบันทึกมันไว้
ในจิตสำนึกอีก แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก
<O</O
เพราะฉะนั้น กระบวนการชำระโลกโดยการทำให้โลกเอียงในครั้งนี้ มันไม่ใช่เพียงแค่เพื่อชำระชั้นบรรยากาศเท่านั้น
แต่มันจะเป็นการชำระพื้นผิวโลกใหม่ทั้งหมด
<O</O
ตรงไหนที่ตอนนี้ยังเป็นแผ่นดินอยู่ มันจะกลายเป็นมหาสมุทร ตรงไหนที่เคยเป็นมหาสมุทร มันจะกลายเป็นแผ่นดิน...

.....................................
นี่ไง วิถีอนุตรธรรม ถึงได้บอกว่าถ้าไปหลบภัยอยู่ในสถานปฏิบัติธรรมถึงจะปลอดภัย

และชาวพุทธหลายคนถึงบอกว่า วัดวาอาราม สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และสถานที่สำคัญทางศาสนาต่างๆ
จึงเป็นที่ๆปลอดภัยกว่าที่อื่นๆ เพราะว่าที่เหล่านี้ เป็นที่ๆมีพลังทางด้านบวก จากจิตสำนึกอันดีงาม
ของผู้คนที่หลั่งไหลกันไปทำบุญ ไปสวดมนต์ ไหว้พระ และนั่งสมาธิ ปฏิบัติธรรมอยู่กันเป็นประจำ


.........................................

 

ในความคิดของแองจี้นะคะ แองจี้ว่าปี 2012 (พ.ศ. 2555) อาจจะยังไม่เกิดอะไรที่รุนแรงก็ได้ค่ะ
โดยภัยพิบัติล้างโลกน่าจะเกิดในปี 2017 (พ.ศ. 2560) มากกว่าค่ะ
เพราะพี่เกษมบอกมาว่า พ.ศ ที่เราใช้ปัจจุบันเร็วเกินจริงไป 48 ปี (2552 - 48 = 2504)

เรื่องนี้มีรายละเอียดมาก โปรดอ่านได้ที่
http://palungjit.org/threads/อยากถา...จริงๆคือเท่าไร-พี่เกษมช่วยตอบหน่อยค่ะ.198252/

สรุปสั้นๆ โดยถือเอาพุทธทำนายจากศิลาจารึกเป็นหลัก ที่มีบางตอนได้กล่าวไว้ดังนี้

เมื่อศาสนาของอาตมาล่วงมาได้
- ๒๕๐๗ (ปีมะโรง) คนเปลี่ยนสภาพเดินเป็นคลาน
- ล่วงได้ ๒๕๐๘ (ปีมะเส็ง) ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล
- ล่วงได้ ๒๕๑๒ (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด ๗ วัน ๗ คืน โลกดิ่งสู่ความหายนะ

ในปีนี้เป็นปี พ.ศ. 2552 (ปีฉลู) ถ้าเรานับตามความเป็นจริง คือลดจำนวนปีลงมา 48 ปี ก็จะเป็นปี พ.ศ.2504 (ปีฉลู)
เมื่อนำมาเทียบกับปี พ.ศ. ในพุทธทำนายก็จะได้ปีนักษัตร ที่ตรงกับปีนักษัตรในพุทธทำนายพอดี

เช่นในพุทธทำนายได้กล่าวเอาไว้ว่า ปี พ.ศ.2512 (ปีระกา) เมืองมนุษย์จะมืด 7 วัน 7 คืน เมื่อเราเอาปี พ.ศ.2560
มาลดจำนวนปีลง 48 ปี ก็จะได้เป็นปี พ.ศ.2512 ซึ่งตรงกับปีระกาในพุทธทำนายอย่างไม่มีผิดเพี้ยน
โดยเหตุการณ์จะเริ่มก่อตัวในปี 2012 (พ.ศ. 2555 - 48 = 2507) และไปถึงจุดสิ้นสุดในปี 2017 (พ.ศ. 2560 - 48 = 2512)

ขอบคุณข้อมูล พี่เกษม

 

การเตรียมการต่างๆเตรียมไว้ก็ดีกว่าไม่เตรียมเพราะภาวะวิกฤติอาจจะได้ใช้ประโยชน์จากมัน
แต่ไม่ควรไปเน้นการเตรียมการทางด้านวัตถุ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมการทางจิตและใจของตัวเราเอง

สงบคือจิตใส จิตสว่างไสวคือปัญญา มรณานุสสติทุกลมหายใจเข้าออก แต่มีสติก่อนจะดับขันท์ จึงเป็นทางที่ปลอดภัยที่สุดที่ไม่ต้องหลงเข้าไปรอตรวจเช็คประวัติในเขตแดนนรกภูมิ คือไปตั้งหลักรอที่สุคคติภูมิก่อนแล้วจะทำอะไรต่อค่อยว่ากันทีหลัง

แต่หากจิตใสและสว่างจ้ามากพอสิ่งศักดิ์สิทธิ์จะมาบอกให้ไปหลบยังที่ที่ปลอดภัยได้
ปัญหาจิตใสและสว่างจะฝึกกันอย่างไรก็ไปลองหาๆกันดู ขอเน้นว่าอย่าไปเชื่อมั่นการป้องกันทางด้านวัตถุเลยครับ การป้องกันภัยทางด้านจิตใจตรงเป้ากว่าเยอะครับ

ส่วนปีพ.ศ.ไหนจะเกิดก็ปล่อยมันไปเถอะครับ มันจะเกิดเมื่อไหร่ก็ไม่น่ากลัวเลยถ้าใจเราพร้อมตายอยู่แล้ว

 

ถึงเวลาตายก้อต้องตาย จะอยู่ไปใยเล่า....
อยู่เพื่อเห็นความอเน็จอนาจของสิ่งที่จะเกิดขึ้นบนโลกทำไม
อยู่เพื่อทรมานสังขารตัวเองอยู่หรือ
แม้ว่าจะเหลือเราเป็นมนุษย์ที่เหลืออยู่บนซากโลกใบนี้..แต่ใครเล่าจะยิ้มได้ ว่าเราคือผู้ชนะ
ขอยอมดับดิ้นไปพร้อมกับชะตากรรมกับคนหมู่มากบนโลกใบนี้ดีกว่า เป็นผู้รอดชีวิต