ชาดกเรื่องการผิดศีลข้อสาม

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย KK1234, 14 มิถุนายน 2009.

  1. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    มานพหนุ่มช่างทอง

    กาลต่อมาพระโพธิสัตว์ได้เกิดเป็นบุตรของช่างทองและเป็นมานพหนุ่มช่างทองมีรูปสิริเลิศงดงาม ในเมืองแห่งนั้นมีฝีมือในการทำทองนั้นยอดเยี่ยม ชื่อเสียงในการทำทองขจรไปไกล เพราะความมีฝีมือนี้เองได้มีเศรษฐีของเมืองมาทำการว่าจ้างให้ทำทองรูปพรรณให้บุตรสาวที่จะเข้างานวิวาห์มงคล เมื่อเห็นรูปร่างของหนุ่มช่างทองก็เกิดลังเลแต่ไม่สามารถหาช่างทองที่ฝีมือดีกว่านี้ได้อีกเลย จึงกล่าวกับหนุ่มช่างทองว่าถ้าท่านเห็นมือ และเท้าของบุตรสาวของเราอย่างเดียวท่านสามารถทำทองได้สวยสดงดงามหรือไม่? หนุ่มช่างทองก็บอกว่าทำได้ เหตุผลของท่านเศรษฐีทำแบบนี้เพราะบุตรสาวเป็นหญิงที่สวยสดงดงาม เมื่อเห็นหน้าตากันจะทำให้ทั้งสองเกิดหวั่นไหวมีปัญหาในการแต่งงานของลูกสาวกับบุตรชายของเพื่อนเศรษฐีที่มั้นหมายไว้แล้วเป็นการตัดไฟเสียต้นลม

    เมื่อถึงวันที่หนุ่มช่างทองทำการตรวจวัดมือและเท้าของบุตรสาวเศรษฐี ที่บ้านของเศรษฐี ท่านเศรษฐีได้ทำฉากกั่นให้บุตรสาวยืนเฉพาะมือและเท้าออกมาเท่านั้นแต่บุตรสาวเกิดความสงสัยว่าทำไม่บิดาจึงทำอย่างนี้ในขณะที่หนุ่มช่างทองกำลังตรวจวัดอยู่ บุตรสาวเศรษฐี ก็แอบดูตามช่องที่มองเห็นได้เมื่อเห็นรูปร่างหนุ่มช่างทองเกิดหลงรักทันที จึงทำการเขียนอักษรนัดแนะหนุ่มช่างทองทันที่ ว่าในค่ำคืนนี้นัดเจอกันที่ส่วนหลังบ้านที่เป็นต้นไม้ใหญ่ฝ่ายหนุ่มช่างทองเมื่อเสร็จภารกิจ ก็กลับไปยังเรือนของตน ทำงานทำทองตลอด

    เมื่อตกค่ำก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปตามนัด ที่กาญจนวดีกุมารีบุตรสาวเศรษฐีได้เขียนอกษรไว้แต่มานพหนุ่มช่างทองมาถึงต้นไม้ใหญ่ก่อน นั่งรออยู่ เพราะทำงานมาทั้งวันเมื่อเจอบรรยากาศร่มรื่นจึงเผลอหลับไปเมื่อนางกาญจนวดีกุมารีมาถึงก็เห็นหนุ่มช่างทองหลับไปแล้วซึ่งในสมัยนั้นมีการถือกันว่า ถ้าผู้ใดนอนหลับอยู่ห้ามปลุกขึ้นมาเพราะจะเป็นบาปนางจึงนั่งรอเป็นเวลาพักใหญ่ เห็นว่าไม่ตื่น จึงว่าขันใส่ดอกไม้ไว้แล้วเขียนอักษรไว้ว่า นางได้มาแล้วแต่ท่านหลับอยู่ จึงว่างขันดอกไม้ไว้ให้ทราบและในราตรีต่อไปขอนัดเจอที่เดิม แล้วจากไป เมื่อหนุ่มช่างทองตื่นขึ้นมาเห็นขันดอกไม้จึงรู้ว่านางได้มาแล้วและได้อ่านข้อความที่นางเขียนไว้

    ตกค่ำวันต่อมาหนุ่มช่างทองก็ออกไปตามนัดเหมือนเดิมก็ไปถึงต้นไม้ใหญ่ก่อนอีก ด้วยความอ่อนแรงจากการงานจึงเผลอหลับไปอีกนางกาญจนวดีกุมารีเมื่อมาถึงก็เห็นหลับเหมือนเดิม จึงเขียนอักษรนัดแนะเหมือนเดิมหนุ่มช่างทองเมื่อตื่นขึ้นมาก็พบอักษรที่นัดแนะก็ให้นึกโกรธตนเองที่เผลอหลับมาสองวันแล้ว

    พอตกค่ำวันที่ 3 ครั้งนี้หนุ่มช่างทองพยายามเตือนตนเองอย่างเต็มที่ไม่ให้เผลอหลับแต่ต้านไว้ไม่อยู่เลยเผลอหลับไปอีก เมือกาญจนวดีกุมารี มาเห็น ก็คิดว่าบุญไม่ต้องกันที่จะได้อยู่ร่วมกัน เพราะตนจะเข้างานวิวาห็นางจึงวางขันดอกไม้ไว้อย่างเดียว ให้รู้ว่านางได้มาตามนัดแล้วแต่ครั้งนี้ไม่ได้เขียนอักษนัดแนะประการใด เมื่อหนุ่มช่างทองตื่นขึ้นมาก็โกรธตนเองที่เผลอหลับจึงกลับบ้านด้วยความผิดหวังที่จะดูหน้าและรูปร่างเพียงสักครั้ง

    แล้วนางกาญจนวดีกุมารี ก็เข้าวิวาห์กับบุตรชายเศษรฐี ตามกำหนดการฝ่ายหนุ่มช่างทองก็คล่ำครวญถึงนางกาญจนวดีว่าสมควรจะอยู่ร่วมภิรมณ์กับตนและควรเป็นของเรา เพราะหญิงก็มีใจกับตน จึงคิดหาอุบายได้ทำเครื่องทองที่ดีเลิศขึ้นมาชุดหนึ่ง แล้วนำไปถวาย มหาอุปราชมหาอุปราชทรงพอพระทัย จึงทรงถามหนุ่มช่างทองว่ามีประสงค์อันใดที่นำเครื่องทองอันดีเลิศมาถวาย หนุ่มช่างทองจึงบอกจุดประสงค์มหาอุปราชจึงรับปากและจะออกอุบายช่วยเหลือหลังจากนั้นก็ให้หนุ่มช่างทองแต่ตัวเป็นสตรี ปลอมเป็นน้องหญิงของมหาอุปราชแล้วทรงกระบวนช้างผ่านไปยังบ้านเศรษฐีแล้วตรัสบอกกับท่านเศษรฐีว่าจะเอาน้องหญิงมาฝาก ที่บ้านเศรษฐี เพราะออกไปปราบข้าศึกที่ชายแดนและห็นว่าท่านได้สร้างเรือนใหม่ ที่พอจะฝากน้องหญิงได้

    แล้วมหาอุปราชถามอีกว่า "เรือนนั้นเป็นเรื่อนของใครของใครหรือ? "
    เศรษฐีจึงตอบว่า "เป็นเรือนของบุตรสาวที่พึ่งแต่งงาน"

    มหาอุปราชกล่าว "อย่างนั้นก็ดีสิ ! จะได้ให้น้องหญิงพักอยู่ที่นั้นและจะได้ให้บุตรสาวของท่านอยู่เป็นเพื่อนของน้องหญิงให้นางงดการอยู่ร่วมกับสามีชั่วคราวห้ามผู้ชายแม้กระทั้งสามีของบุตรสาวท่านเข้าไปในส่วนของชั้นเรือนที่น้องหญิงพักอยู่โดยมีบุตรสาวของท่านอยู่เป็นเพื่อน แล้วเราจะกลับมารับหนึ่งหญิงในภายหลัง"

    เศรษฐีด้วยความเกรงในอำนาจของอุปราชและเห็นว่าท่านอุปราชทรงห่วงใยน้องหญิงคนนี้มากจึงรับทำตามที่มหาอุปราชกำชับด้วยความเต็มใจ

    หลังจากนั้นหนุ่มช่างทองได้อยู่ร่วมกับนางกาญจนวดี เป็นเวลา 3 เดือนโดยไม่มีใครรู้เรื่องเลย จนมหาอุปราชมารับกลับไป

    ด้วยผลกรรมที่พระโพธิสัตว์ผิดลูกผิดเมียของผู้อื่นเมื่อสิ้นอายุขัยของตกนรกทันที่เวียนเกิดตายระหว่างอบายภูมิ(ภพต่ำ)เป็นเวลานาน แล้วเกิดเป็นกระเทยและเป็นผู้หญิงเป็นพันชาติ รวมเวลา ถึง 14 มหากัป

    เมื่อทำกรรมหนักเพียงชีวิตเดียวก็ตกลงในภพภูมิที่ต่ำจะทำ ให้สร้างบุญกุศลนั้นยาก เพราะใจจะตกต่ำไปด้วยย่อมกระทำกรรมเล็กๆ น้อยๆ ไปเรี่อยกว่าจะหลุดพ้นมาได้ก็ใช้เวลาหลายมหากัปนับประสาอะไรกับผู้ที่ไม่ ปรารถนาสร้างบารมี(อย่างใดอย่างหนึ่งในพุทธศาสนา)จะวนเวียนอยู่โดยไม่รู้ทิศ รู้ทางเป็นเวลานานนับแสนแสนอสงไขย จนประมาณไม่ได้

     
  2. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    เจ้าหญิงสุมิตตาเทวี (หรือพระนางวิสุทธาเทวี ในหนังสือพระพุทธเจ้าเคยเกิดเป็นผู้หญิง ของ อ.บารมี)

    จากกรรมที่พระโพธิสัตว์ทำผิดศีลกาเมมิจฉา แล้วตกนรก เป็นเวลานานแสนนานหลังจากนั้น ถือกำเนิดเป็น ลา เป็นโค เป็นคนพิการ เป็นตาบอด เป็นคนหูหนวกเป็นกระเทย และเป็นสตรี อย่างละ 500 ชาติ เป็นการชี้ให้เห็นว่าเป็นมนุษย์ผิดศีลอย่างเด็ดขาด ด้วยอำนาจแห่ง โทสะ และราคะ อย่างรุนแรงและติดต่อกันเป็นเวลานาน เป็นเดือน หลังจากนั้นไม่ได้สร้างบุญกุศลกรรมที่ประกอบด้วยศรัทธาอย่างแรงกล้าต่อ ผู้บริสุทธิ์ด้วยศีลพรตหรือต่อธรรมที่กำหนดให้รักษาศีล 5 อย่างศรัทธา ในภายหลังบาปที่ทำไปแล้วนั้นมีกำลังรุนแรง ให้เป็นชนกกรรมคือจะส่งผลทันที่เมื่อได้ตายไปจากภพปัจจุบัน สัตว์ใดที่ทำบาปอย่างรุนแรงเมื่อตกลงเบื้องต่ำอบายภูมิ จะหลุดออกจากอบายภูมิโดยเร็วพลันนั้นอยากยิ่ง

    มากล่าวถึงพระโพธิสัตว์เสวยเศษกรรมชาติสุดท้าย ด้วยมีบุญเก่าหนุนนำจึงเกิดเป็นสตรีในวงค์กษัตริย์ ทรงพระนามว่าเจ้าฟ้าหญิงสุมิตตาราชกุมารีเป็นธิดาของพระเจ้าสุปปบุตรมหาราช และในกัปนั้นเป็นสารกัป เพราะมีพระพุทธเจ้าเสด็จมาอุบัติ เพียงพระองค์เดียว ทรงพระนามว่าพระปุราณทีปังกรพุทธเจ้า พระองค์เป็นราชบุตรของพระเจ้าสุปปบุตรมหาราชแต่ต่างมารกับเจ้าหญีงสุมิตตาเทวี และพระพุทธเจ้ามีฐานะเป็นพี่ชายของพระนางเมื่อพระปุราณทีปังกรพุทธเจ้าบังเกิดขึ้น พระทรงทำให้พระธรรมปรากฏขึ้นทำให้สรรพสัตว์ทั้งหลายต่างได้รับรสพระธรรมนั้น จำนวนมากมายเหลือคณานับ บังเกิดพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นรัตนตรัย กระจรไปทั่วสากลจักรวาล

    กล่าวถึงพระนางสุมีตตาเทวี ด้วยความศรัทธาเชื่อมั่นในพระเชษรฐาเป็นทุนเดิมเมื่อพระเชษรฐา ตรัสรู้เป็นพระบุราณทีปังกรพุทธเจ้าความศรัทธาย่อมมีมาขึ้นเป็นทวีคุณ

    วันหนึ่งเวลาใกล้คำพระนางยืนอยู่บนปราสาทมองลงมาเบื้องล่างก็เห็นพระภิกษุรูปหนึ่งมาบิณฑบาต อยู่ที่หน้าราชวังของพระนาง จึงคิดในพระทัยว่า "พระคุณเจ้ามาบิณฑบาตอะไรหนอ ถึงได้มาใกล้ค่ำ"จึงทรงสั่งให้บุรุษรับใช้ไปถามพระภิกษุ พระภิกษุรูปนั้นบอกว่า จะมาบิณฑบาตน้ำมันเมื่อพระนางทรงทราบ จึงได้อาราธนาพระผู้เป็นเจ้าขึ้นมา ณ อาสนะ อันสมควรแล้วพระนางทรงดำรัสถามว่า "พระผู้เป็นเจ้า มีความประสงค์น้ำมันไปเพื่อทำอะไร?" พระผู้เป็นเจ้าตอบว่า

    " อาตมา บิณฑบาตน้ำมันเป็นอันมากเพื่อจุดประทีปมากมาย ทำการสักการะบุชาแด่พระปุราณทีปังกรพุทธเจ้า จนสิ้นราตียันรุ่งสางพร้อมทั้งมีเหล่าพระอริยะสงฆ์มาประชุมพร้อมกัน อาตมารับทำภารกิจนี้เสมอมา"พระนางสุมิตตาเทวีได้รับทราบดังนั้นมีศรัทธาเป็นอันมาก ก็ดำริในพระทัยว่า "พระเชษฐาของเรา ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าทรงทำประโยชน์อย่างใหญ่หลวงต่อมวลสรรพสัตว์ทั้งหลายในกาลเบื้องหน้าขอให้เราได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าเพื่ออนุเคราะห์แก่สัตว์โลกเหมือนพระองค์"

    หลังจากนั้นพระนางทรงเอาน้ำมันถวายพระคุณเจ้า จนเต็มบาตรพร้อมทั้งกล่าววาจาปณิธานว่า

    "ด้วยอนิสงส์ผลทานนี้ขอจงเป็นปัจจัยให้ความปรารถนาของข้าพเจ้าจงสำเร็จผลตามที่ปรารถนาและขอให้พระคุณเจ้าจงมีจิตช่วย กราบทูล พระองค์ด้วยว่า พระน้องนาง ของพระพุทธองค์ซึ่งมีนามว่า สุมิตตากุมารี มีความศรัทธาเป็นยิ่งนักขอกราบแทบพระบาท พระพุทธองค์และขอตั้งความปารถนาว่า ด้วยผลบุญนี้จง เป็นปัจจัยในอนาคตให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่ง และขอให้มีพระนามว่าสิทธัตถะเหมือนด้วยชื่อเหมือนพันธุ์ผักกาดนี้ด้วยเถิด"

    หลังจากนั้นพระนางก็ส่งพระคุณเจ้ากลับไป
    ผ่ายพระคุณเจ้า ครั้งนี้ได้น้ำมันมากกว่าทุกวันที่แล้วมาจึงจุดประทีปได้สว่างไสว มากกว่าทุกวันครั้นแล้วก็เข้าไปกราบทูลสมเด็จสัมมาพระพุทธเจ้าว่า

    " ข้าแต่พระผู้มีพระภาคคืนนี้ข้าพระองค์ได้จุดประทีปบูชาได้มากกว่าคืนก่อนๆด้วยน้ำมันพันธุ์ผักกาดอันพระน้องนางสุมิตตาเทวีของพระองค์ถวายมาและพระนางกล่าววาจาอธิษฐานว่า พระนางมีความศรัทธาเป็นยิ่งนักขอกราบแทบพระบาทพระพุทธองค์ และขอตั้งความปารถนา ด้วยผลบุญนี้จง เป็นปัจจัยในอนาคตให้ได้ตรัสเป็นพระพุทธเจ้าสักพระองค์หนึ่ง และขอให้มีพระนามว่าสิทธัตถะเหมือนด้วยชื่อนำมันพันธุ์ผักกาดนี้ด้วยเถิดข้าพระองค์จึงขอโอกาสกราบทูลถามต่อพระองค์ว่าความปารถนาของพระน้องนางจะสำเร็จหรือไม่ พระเจ้าข้า ?"

    พระพุทธองค์เมื่อได้สดับฟัง จึงตรัสว่า " พระน้องนาง ยังเป็นสตรีเพศอยู่จึงยังไม่สมควรรับลัทธยาเทศพยากรณ์"

    พระคุณเจ้าจึงทูลถามต่อ "ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้าก็พระน้องนางของพระองค์จักไม่มีโอกาสได้สำเร็จพระพุทธภูมิเลยหรือ พระเจ้าข้า"

    พระพุทธองค์จึงทรงพิจารณาดูในอดีตภาคของพระน้องนาง ก็ทรงทราบว่าพระน้องนางสุมิตตาเทวี ได้เคยปรารถนาพุทธภูมิไว้นานนักหนา เมือต้นอสงไขยตั้งแต่เป็นมานพแบกมารดาว่ายข้ามมหาสมุทร และมีทรงพิจารณาดูไปในอนาคต ก็ทรงทราบว่าพระน้องนาง อาจสำเร็จซึงพุทธภูมิตามความปรารถนา พระพุทธองค์จึงทรงตรัสว่า


    "กาลข้างหน้า นับจากนี้ไป 16 อสงไขยกับอีกแสนกัป จักมีพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งทรงพระนามว่าทีปังกรซึ่งมีนามเสมอกับเรานี้ อุบัติขึ้นในโลกแล้วพระน้องนางจะได้รับลัทธยาเทศพยากรณ์ในสำนักของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์
    นั้น"

    เมื่อพระคุณเจ้าได้รับฟังคำตรัสของพระพุทธองค์ก็กราบทูลลา หลังจากนั้นก็ได้ไปยังปราสาท ของพระนางสุมิตตาเทวี แล้วบอกข้อความแก่พระนางตามที่พระพุทธเจ้าทรงตรัสทุกประการ นำความปีติแก่พระนางเป็นอย่างยิ่งจึงกล่าวปวารณา ให้พระคุณเจ้า จงมารับน้ำมันในสำนักของพระนางทุกวัน

    ในวันถัดมาพระนางสุมิตตาราชกุมารีก็จัดแจงอาหารอย่างประณีตเป็นอันมาพร้อมทั้งเครื่องสักการะบูชาถวายบิณฑบาตแก่หมู่พระภิกษุสงฆ์มีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน ด้วยความเลื่อมใสเป็นอย่างยิ่งและพระนางทรงเบื่อหน่ายเพศสตรีเป็นกำลัง ครั้นสิ้นอายุขัยก็ได้เสวยทิพยสมบัติในดุสิตเทวโลก
     
  3. จักร

    จักร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    94
    ค่าพลัง:
    +432
    เป็นความรู้ที่ดีมากครับ เตือนสติให้คนเราละอาย และเกรงกลัวต่อบาป
     
  4. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
  5. ปัญจ์ธน

    ปัญจ์ธน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +855
    อนุโมทนาครับ

    ทุกวันนี้มีคนละเมิดศีลข้อ 3 กันมากโดยไม่กลัวบาปกรรม ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคม
    บางคนยังมีผู้นิยมยกย่องอีก อนาถใจ !



    ธรรมะไม่กลับมา โลกาวินาศ
     
  6. nutt2522

    nutt2522 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    106
    ค่าพลัง:
    +70
    อนุโมทนาด้วยค่ะ เชื่อเรื่องนี้สนิทใจเพราะตัวเองก็ำกำลังรับกรรมนั้นอยู่ค่ะ
     
  7. กัษณ

    กัษณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +61
    ไม่แน่นะ ถ้าชาตินี้บาปส่งผลคนที่ผิดศีลข้อที่ 3 อาจจะทำให้ลูก-หลานได้เพศไม่บริสุทธิ์ เป็นกะเทย เป็นทอมเป็นดี้ เมื่ออายุมากขึ้น จะสังเกตุว่าสังคมทุกวันนี้ มีกะเทย ทอม-ดี้กันมากขึ้น นี้คือผลการผิดศีลข้อ 3
     
  8. J.Sayamol

    J.Sayamol เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 เมษายน 2008
    โพสต์:
    6,190
    ค่าพลัง:
    +21,530
    [​IMG]

    จะรักษาศีลข้อ 3 ให้บริสุทธิ์ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 กรกฎาคม 2009
  9. dangcarry

    dangcarry เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2005
    โพสต์:
    1,396
    ค่าพลัง:
    +4,306
  10. humanbeing

    humanbeing เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    632
    ค่าพลัง:
    +214
    ขอบคุณมากค่ะ ดีจริงๆ คนสมัยนี้ ส่วนใหญ่ควรได้อ่านเรื่องนี้กัน (เพราะชอบทำผิดศีลข้อนี้กันมากเหลือเกิน)
     
  11. เวฬุวัล

    เวฬุวัล เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,843
    ค่าพลัง:
    +505
    มนุษย์หนอมนุษย์ ทำไมถึงไม่รู้จักรักษาศีลกันบ้าง

    โลกทุกวันนี้ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ อยู่แล้ว


    อนุโมทนาสาธุกับสาระดีๆที่นำมาฝากกันนะคะ
     
  12. beer_ems

    beer_ems สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +10
    น่ากลัวจริงๆครับ
    ขึ้นชื่อว่ากิเลส ไม่สมควรเข้าไปยุ่งเกี่ยวใดๆ
    ต่อไปต้องเตือนใจเตือนสติตัวเอง
    อย่าไปหลงทำผิดอีก
     
  13. CharnK

    CharnK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    444
    ค่าพลัง:
    +1,453
    คนที่เคยทำผิดแล้ว ยังสามารถปรับปรุงตัว จนเป็นโลกนาถได้
     
  14. บุญทรงพระเครื่อง

    บุญทรงพระเครื่อง ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    17,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2
    ค่าพลัง:
    +27,814
  15. zeroguidekung

    zeroguidekung สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +6
    ขอขอบคุณครับ

    ผมอาจผิดพลาดไปบ้งแต่มาข้อแก้ตัวใหม่แล้วครับ....
     
  16. nanodent

    nanodent เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,730
    ค่าพลัง:
    +943
    เตือนสติสำหรับคนที่คิดจะทำ...อะไรไม่ดีไม่งามลงไป
     
  17. ปลายพู่กัน

    ปลายพู่กัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    180
    ค่าพลัง:
    +558
    [​IMG] ขอร่วมอนุโมทนาสาธุการบุญด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ<!-- google_ad_section_end -->
     
  18. chartz

    chartz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    92
    ค่าพลัง:
    +223
    ขอบคุณมากๆครับ

    อ่านแล้วไม่กล้าทำบาปเลย
     
  19. เทพออระฤทธิ์

    เทพออระฤทธิ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    4,573
    กระทู้เรื่องเด่น:
    4
    ค่าพลัง:
    +22,048
    ได้ใจครับโมทนา
     
  20. KK1234

    KK1234 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    2,401
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +10,515
    (ความคิดของ) ผมกลับคิดอีกแบบน่ะครับ

    เด็กคนนั้นอาจเป็นของจริง หรือ เป็นแค่อยาก แต่ ก็เป็นความอยากที่พาไปทำดี ต่างๆนาๆ นั่นแหละที่ได้ประโยชน์สำหรับบุคคลนั้นๆ ไม่เช่นนั้น พระพุทธองค์ ตอนท่านเปิดสามโลกลงมาจากสวรรค์ แล้วสรรพสัตว์ล้วนปรารถนาพุทธภูมิ ก็มีโทษซิ ครับ พระพุทธองค์ ด้วยพุทธญาณ ท่านรู้ในทุกมิติ ของจิตหรือบุคคลแต่ละบุคคล การที่ท่านทำแบบนั้น แสดง ว่า การจุดประกายการปรารถนาพุทธภูมิ แม้เป็นกิเลส เป็นคุณมีประโยชน์กับสรรพสัตว์ (ผมคิดคนเดียวน่ะครับ) คือ ความอยากอันนี้จะพาจิตวิญญาณนั้นๆ ทำความดีอย่างไม่สิ้นสุด (ส่วนการจะไปให้ถึง หรือ ไปได้ แค่ไหนก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง)

    อีกประการหนึ่ง คือ เราไม่ได้มี ญาณหยั่งรู้แบบพระพุทธเจ้า เราไม่อาจประเมินได้ ว่า ใคร อะไร อย่างไร แม้ แต่ หมู หมา กา ไก่ สัตว์เดรัจฉานบางท่าน หรือ ผู้ที่ลำบากยากจน บางท่าน อาจมีบุญบารมีมากมายมหาศาล การกระทำแบบหนึ่งๆ (เช่น การประกาศนั้นๆ) (สำหรับผม) อย่างน้อย ก็ เท่ กว่า การกระทำชั่วเยอะ บางท่าน ดูภายนอก ก็เฉยๆ แต่เมื่อได้พูดคุยด้วยนานๆ โอ้โห เขาเอาโครงสร้างจิตใจเราออกมาคุยได้แบบละเอียด บางท่าน ก็มีความรู้พิเศษ สามารถนำหมู่คณะทำบุญได้ใหญ่ๆ คุยๆไป ก็ยังดูเหมือนว่า กิเลสแรง
    แต่ครูบาอาจารย์ที่เป็นที่รับรองได้ รับรองว่า ฆราวาสท่านนี้ ได้รับพยากรณ์แล้ว ไอ้รูปแบบภายนอก ที่ผม (เคย) คิด ว่า พระโพธิสัตว์ขั้นต้น ขั้นกลาง ต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้ ผม ก็ เลยวาง ไว้ก่อน เอาเป็นว่า ใครปรารถนาในความดี ปรารถนาที่จะทำดีให้ยิ่งๆขึ้นไป ก็จะส่งเสริมกัน แบบนี้จะดีกว่ามั๊ย แทนที่จะบอกว่า เฮ้ยไอ้ที่คุณคิด หรือ พูดออกมาน่ะ มันเป็นกิเลส สำหรับผม อย่างน้อย เขาก็อยากดี ก็ดีกว่าอยากทำไม่ดีหรือไปทำชั่วน่ะ

    แต่ก็นั่นแหละน่ะครับ ก็เป็นอีกความเห็นหนึ่งที่คิดต่างก็หล่ะกัน ผิด หรือ ถูก อาจไม่ใช่ประเด็นที่ควรนำมาคิด แต่ ที่ คิด แล้วได้ประโยชน์ คือ การทำแบบนั้นๆ มัน เกิด ประโยชน์ หรือ ไม่ และ เกิด ความ เจริญ กับบุคคลนั้นๆ หรือ ไม่ และที่เราคิดๆกันอยู่ มันเกิดประโยชน์ เกิด ความ เจริญ กับเราหรือ ไม่.........

    ขอขมาในพระรัตนตรัยไว้ ณ ที่นี้ครับ
    ผิดพลาดล่วงเกิน ขออภัยขอขมาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...