...ผลบุญที่ส่งผลไปเกิดในสวรรค์แต่ละชั้น ...

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย พระวัดหัวเขา, 7 สิงหาคม 2009.

  1. พระวัดหัวเขา

    พระวัดหัวเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,562
    ค่าพลัง:
    +4,805
    ...ผลบุญที่ส่งผลไปเกิดในสวรรค์แต่ละชั้น ...


    [​IMG]


    ตามตำราในพระสูตรต่าง ๆ กล่าวว่า มนุษย์มีสมบัติมาก แต่เมื่อเทียบกับสมบัติในสวรรค์แล้วห่างไกลกันมาก แม้รูปร่างกายในมนุษย์ว่างามเลิศ แต่เมื่อเทียบกับเหล่าเทวดาแล้วห่างไกลเช่นกัน มนุษย์มีแก่ มีเจ็บ แต่เหล่าเทวดาไม่มี มีชาดกบทหนึ่งเล่าว่า...

    "เทวดาทั้งหลายย่อมไม่แก่ เทวดานั้นไม่มีเส้นเอ็นขึ้นตามร่างกาย ผิวพรรณเป็นทิพย์ มีทรัพย์มากและเพิ่มขึ้นทุกวัน"

    เราก็รู้อยู่ว่า พวกเทวดาทั้งหลายทำบุญไว้มาก จึงมีสิ่งที่มากกว่าและพิเศษกว่ามนุษย์ ไม่ว่าผิวพรรณ ทรัพย์สมบัติล้วนเป็นทิพย์ทั้งสิ้น ดังนั้น การเกิดเป็นเทวดาจัดว่ามีบุญมาก..

    ดังนั้น เราควรประพฤติปฏิบัติตามปฏิปทาที่ได้กล่าวมาในเบื้องต้น คือ การให้ทาน เช่น บริจาคทรัพย์ เพื่อสร้างถาวรวัตถุในพระศาสนา เพื่อสาธารณประโยชน์การให้ทานแก่ สมณะชีพราหมณ์ มีการถวายสังฆทาน เป็นต้น
    </O:p
    การรักษาศีล ๕ ศีล ๘ (หรือศีลอุโบสถ) การประพฤติปฏิบัติตนให้อยู่ในกุศลกรรมบท ๑๐ มี กายสุจริต ๓ วจีสุจริต ๔ มโนสุจริต ๓ และการเจริญภาวนา
    <O:p</O:p

    การที่จะเกิดเป็นเทวดาในแต่ละชั้นได้นั้น การทำทาน ศีล ภาวนา นี้เป็นหลักสำคัญ ส่งผลให้การเกิดในสวรรค์แตกต่างกันออกไป เช่น <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    บางคนเมื่ออยู่ในโลกทำทานมาก รักษาศีลได้ดี และทำการเจริญเมตตาภาวนาด้วยเขาย่อมเกิดในสวรรค์แน่นอน..และยังได้เป็นหัวหน้าในสวรรค์ชั้นนั้นด้วย<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    แต่ถ้าให้ทานมาก รักษาศีลได้ดี แต่ไม่ได้เจริญภาวนาเลย ก็ไปเกิดในสวรรค์เข่นกัน..แต่เกิดไปเป็นบริวารในสวรรค์ชั้นนั้น เป็นต้น<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    เทวดาหัวหน้าสวรรค์แต่ละชั้นนั้น ก็จะมีชื่อเรียกตามชื่อสวรรค์แต่ละชั้นไป เช่น ชั้นจาตุมหาราช ก็จะมีชื่อเรียกว่า "ท้าวจาตุมหาราช" ส่วนในชั้นอื่นๆก็จะมีชื่อเรียกตามชื่อ ของสวรรค์นั้นๆ ....

    นอกจากการทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นเหตุให้เกิดในสวรรค์ แล้ว การเกิดในสวรรค์นั้น ถ้าเราต้องการเกิดในชั้นใด ก็อธิษฐานให้ไปเกิดในชั้นนั้นๆได้ ในการอธิษฐานนั้น แต่ต้องเป็นผู้มีศีลเท่านั้น คนทุศีลจะไม่ได้ และต้องน้อมและอบรมจิตให้แน่นอนอยู่ในสิ่งที่อธิษฐานไว้ว่า ต้องการสวรรค์ชั้นใด...เพราะความตั้งใจขอผู้มีศีลนั้นเป็นไปด้วยความบริสุทธิ์ เช่น

    <O:p</O:p
    บางคนทำบุญให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนาแล้วตั้งใจอยากเกิดในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เขาย่อมได้เกิดในที่นั้น (ที่อยากเกิดชั้นดาวดึงส์นั้นเพราะเคยได้ยิน ได้ฟังว่าสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สวยงาม อายุก็ยืน บริวารก็มาก (ในความคิดในความจำได้หมายรู้ในเรื่องสวรรค์ชั้นดาวดึงส์) จึงอยากเกิดในชั้นดาวดึงส์ แล้วเขาย่อมได้เกิดในที่ๆหวัง ) <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    ดังนั้น จึงชี้ให้เห็นว่าทำบุญด้วยสิ่งใดไว้ ย่อมได้ในสิ่งนั้น คนจะเกิดในสวรรค์ชั้นนั้นๆได้ ก็เพราะทำบุญในสิ่งนั้น ๆไว้.....

    การเกิดใหม่ในสวรรค์นั้นย่อมมีกฎระเบียบ สำหรับผู้เกิดใหม่ว่า ใครเกิดมาอย่างไร ใครทำหน้าที่อะไร ไม่เหมือนมนุษย์ ชึ่งสามารถรู้ได้ว่าคนนี้เกิดก่อนคนนี้เกิดที่หลัง เพราะมนุษย์มีครรภ์เป็นที่เกิด แต่เทวดาไม่ต้องอาศัยครรภ์เป็นแดนเกิด จึงต้องมีกฎระเบียบสำหรับผู้เกิดในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น

    ในการให้ทานในแต่ละครั้งของบุคคลส่วนใหญ่ เมื่อให้ทานแล้วมักกล่าวคำอธิษฐานของเป็นนั้นเป็นนี้ พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า ได้ผลดังที่หวัง ...เช่น หวังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ ขอให้เกิดในสวรรค์ทั้ง ๖ ชั้น มี

    ชั้นจาตุมหาราช...ชั้นดาวดึงส์....ชั้นยามา....ชั้นดุสิต....ชั้นนิมมานรตี...ชั้นปรินิมมิตวสวัดตี..... นี้คือแดนเกิดของผู้ปฏิบัติ ที่อยู่ในทาน ..อยู่ในศีล...

    ในตอนนี้จะกล่าวถึงการให้ทาน ส่งผลต่อการเกิดในสวรรค์ชั้นต่าง ๆ ดังนี้...

    ๑. ให้ทานแล้วหวังผลว่า..เมื่อตายแล้วจะได้รับผลแห่งทานนั้น...เมื่อตายก็ไปเกิดในสวรรค์... ชั้นจาตุมหาราช

    ๒. ให้ทานแล้วไม่หวังผล..แต่มีความคิดว่า การให้ทานเป็นสิ่งที่ดีแล้วจึงให้ทานเมื่อตายแล้วก็ไปเกิดในสวรรค์....ชั้นดาวดึงส์

    ๓. ให้ทานแล้วไม่ได้คิดว่า การให้ทานเป็นการดี..แต่มีความคิดว่า..บิดามารดาปู่ย่าตายายท่านเคยทำมาดังนั้นเราก็ควรให้เพื่อรักษาประเพณีไม่ให้เสียประเพณี..แล้วจึงให้ทาน...เมื่อตายแล้วก็ไปเกิดในสวรรค์...ชั้นยามา

    ๔. ให้ทานโดยไม่ได้คิดถึงเรื่องของประเพณี หรือว่าบิดามารดาเคยพาทำมา..แต่คิดว่าเราหุงหากินเองได้..แต่สมณะพราหมณ์ไม่ได้หุงหากิน ดังนั้นเราควรให้ ถ้าไม่ให้ท่านจะได้อะไรจึงเป็นการไม่ควร...แล้วจึงให้ทาน..เมื่อตายไปแล้วก็เกิดในสวรรค์...ชั้นดุสิต

    ๕.ให้ทานโดยไม่ได้คิดว่า..สมณะไม่ได้หุงหากิน เราหุงหาได้แล้วจึงให้ไม่เลย..แต่กลับเป็นการให้โดยคิดว่าเราจะให้ทานเหมือนดังฤาษีทั้งหลายในปางก่อน..แล้วจึงให้ทาน..เมื่อตายไปแล้วก็เกิดในสวรรค์....ชั้นนิมมานรดี

    ๖. ให้ทานโดยไม่ได้คิดว่า เราจะให้ทานเหมือนฤาษีในปางก่อน..แต่กลับคิดว่า เมื่อให้ทานแล้วจิตใจดี มีความเลื่อมใส ปลื้มใจ สบายใจแล้วจึงให้ทาน...เมื่อตายไปแล้วก็ไปเกิดในสวรรค์..ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี

    นอกจากนี้ ยังมีการให้ทานโดยไม่ได้คิดว่า ให้ทานไปเพื่อความเสื่อมใส ปลื้มใจหรือดีใจไม่ แต่กลับให้เพราะให้เพื่อเป็นเครื่องปรุงแต่งจิต (คือทำให้จิตใจดี เบิกบานขึ้นดีขึ้น) เมื่อตายไปแล้วก็ไปเกิดในพรหมโลก (การจะเกิดในพรหมโลกนั้น ต้องมีการเจริญสมาธิด้วย มาขอกล่าวใน ณ. ที่นี้)

    พระพุทธเจ้ายังคงกล่าวอีกว่า "บางคนให้ทานพอประมาณ รักษาศีลพอประมาณ แต่ไม่เจริญสมาธิภาวนา เมื่อตายไปย่อมได้เกิดเป็นมนุษย์ชั้นดี ...

    พบกันใหม่ใน “ท่องสวรรค์” จะเล่าถึงลักษณะของสวรรค์ในแต่ละชั้น...การเสวยทิพยสมบัติ ตลอดจนอายุขัยของเทวดาในแต่ละชั้น ติดตามได้ที่..

    http://palungjit.org/threads/ท่องสวรรค์-ผลบุญที่ส่งผลไปเกิดในสวรรค์แต่ละชั้น-ตอน-๒.200400/

    ขอทุกท่านเจริญในธรรม..

    พระวัดหัวเขา<O:p</O:p
    </O:p
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 สิงหาคม 2009
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาครับ
    ผมมีข้อสงสัยขอกราบเรียนถามพระคุณเจ้า
    ที่มาของการจะไปเกิดในสวรรค์ชั้นต่างๆ ท่านได้ข้อมูลมาจากที่ใดครับ
    ที่ทราบมาอย่างสวรรค์ชั้นดุสิตผู้ที่จะเข้าชั้นนี้ได้ต้องเป็นพระโพธิสัตว์
    พุทธบิดา พุทธมารดา และพระอริยะเจ้าตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป
    ไม่ใช่ให้ทานอย่างเดียวก็เป็นเทวดาชั้นดุสิตได้อย่างท่านว่าไว้
    ช่วยกรุณาตอบให้ทราบด้วยจะเป็นพระคุณอย่างสูงครับ
     
  3. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    อืมผม เปนแต่ผุ้น้อยเท่านั้นครับแต่พอได้ยินได้ฟังมาบ้าง

    ผมฟังจากพระอาจารย์สมภพ โชติปัญโญ จ.สกลนคร

    สวรรค์ชั้นดุสิตนอกจากเหล่าพระโพธิสัตว์ก็ยังมีบริวารของท่านอีก

    อย่างถือศีลแปดหนึ่งวันหนึ่งคืนอานิสงส์ก้ส่งชั้นดุสิตได้
    ที่พิเศาอีกอย่างคือ เมื่อพระนิตยโพธิสัตว์จะมาตรัสรู้
    เทวดาผู้อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตก็จะลงมาเกิดพร้อมกับท่านด้วยครับ จึงไม่ได้มีเฉพาะพระโพธิสัตว์เท่านั้นครับ

    ผิดอย่างไรน้อมรับไว้แต่เพียงผู้เดียวครับ ส่วนที่ถูกต้องเป็นความดีของครูบาอาจรยืครับ
     
  4. นทีมีทอง

    นทีมีทอง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +48
    การให้ธรรมมะเป็นทาน ชนะการให้ทั้งปวง
     
  5. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุครับคุณณัฏกรณ์ ที่กรุณานำความรู้แปลกๆ ให้มาได้รับรู้ครับ
    ผมขอนำที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน(หลวงพ่อฤาษี วัดท่าซุง) ท่านกล่าวไว้ในหนังสือไตรภูมิมาให้อ่านกันครับ

    ชั้นดุสิตนี่มีอายุอยู่บนสวรรค์ชั้นนี้ ๔,๐๐๐ ปีทิพย์ แล้วก็ถ้าจะเทียบกับเมืองมนุษย์ก็ ๔๐๐ ปีของเราเป็น ๑ วันของเทวดาชั้นนี้ แต่ว่าเทวดาชั้นนี้มีบุญญาธิการพิเศษ ที่คนจะเข้ามาได้ท่านจำกัดจริงๆ เรื่องทานเรื่องศีลไม่ต้องพูดกัน ดีแน่ เรียกว่าท่านทำกันแน่แล้วก็ทำอย่างเครียด เครียดมาก เอาจริงเอาจังมาก เทวดาที่จะมาอยู่ชั้นนี้ได้มีอยู่ ๓ เหล่า คือ ๑ ท่านที่ปรารถนาพุทธภูมิ จะเป็นพระพุทธเจ้า บำเพ็ญบารมีขั้นปรมัตถบารมี จึงจะเข้ามาเป็นเทวดาในชั้นนี้ได้ หรือว่าคนที่เป็นพระพุทธบิดา พุทธมารดา ของพระพุทธเจ้าองค์ใดองค์หนึ่ง เมื่อตายจากมนุษย์แล้ว จึงมาเป็นเทวดาชั้นนี้ได้ หรือว่าคนธรรมดาแต่ว่าบำเพ็ญบารมีเป็นพระอริยเจ้า ตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป จึงจะมีโอกาสเข้ามาอยู่เป็นเทวดาชั้นนี้ได้ แต่ความจริงพระอริยเจ้านี่ ท่านอยู่เกือบทุกชั้น อย่างภุมเทวดา รุกขเทวดา จาตุมหาราช ดาวดึงส์ ยามา ดุสิต นิมมานรดี ปรนิมมิตวสวัสดี และพรหม มีพระอริยเจ้าเยอะ แต่นี่เรากล่าวกันเฉพาะว่า ถ้าจะเข้ามาอยู่ขั้นนี้ ตั้งใจจะมาอยู่ชั้นนี้ ต้องเป็นตั้งแต่พระโสดาบันขึ้นไป เรียกว่า เทวดาธรรมดาๆ ที่ทำบุญให้ทานรักษาศีลธรรมดาหรือได้ฌานสมาบัติ นอกจากพระโพธิสัตว์ และ พระพุทธบิดา พุทธมารดาแล้วไม่มีโอกาสจะเข้ามาได้ นี่เป็นเทวดามีชั้นจำกัดจริงๆ แล้วก็ชั้นนี้มีเทวดาสำคัญอยู่องค์หนึ่งที่พวกเราสนใจ พวกเราสนใจกันมากก็คือพระศรีอาริยเมตตรัย
     
  6. dhamaskidjai

    dhamaskidjai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2009
    โพสต์:
    1,855
    ค่าพลัง:
    +5,727
    --ขอนิพพานได้มั๊ย???---
     
  7. พระวัดหัวเขา

    พระวัดหัวเขา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    2,562
    ค่าพลัง:
    +4,805
    <><> ต้องขอสวัสดี และก็ขออนุโมทนาในคำถาม เรื่องการบังเกิดของบุคคลที่จะต้องไปบังเกิด ในสวรรค์ชั้นดุสิตนั้น มีความว่า.....

    <> เหตุที่ทำให้บุคคลเกิดในสวรรค์ได้นั้น ก็จะต้องขออ้างหลักฐานในพระสูตร 3 สูตร ที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ คือ ทานสูตร ปุญญกิริยาวัตถุสูตร และสังคีติสูตร นี้คือความชัดเจน และก็เป็นที่ยืนยัน ขอให้ท่านไปค้นหาอ่านดูก็แล้วกัน

    <>เพราะพระพุทธเจ้าได้ตรัสกล่าวไว้ในเรื่อง"ทานสูตร" ซึ่งบันทึกไว้ในคัมภีร์สัตตกนิบาต อังคุตตรนิกาย ข้อที่ 49 หน้า 60 เป็นบาลีสยามรัฐ เล่มที่23 ....

    <> หรือให้ท่านเข้าไปหาอ่านหนังสือ"อนุปุพพิกถาทีปนี" ก็ได้ หนังสือเล่มนี้ องค์หลวงพ่อเจ้าคุณธรรมเจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร เขียนพรรณนาได้ดีมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทาน เรื่องศีล เรื่องสวรรค์ เรื่องกามและโทษของกาม เรื่องการออกบวช เป็นต้น ..... ที่เราได้อ่านหนังสือนี้

    เพราะท่านหลวงพ่อเจ้าคุณธรรม ท่านนำไปถวายเจ้าอาวาสวัดต่างๆ ที่อยู่ทางใต้ทุกๆจังหวัด ดังนั้น เราจึงได้อ่านเมื่อประมาณปี 47-48 เมื่ออ่านแล้ว จึงมีความคิดเอามาเล่าสู่กันฟังในกระทู้ที่เขียนไป ในการเขียนกระทู้นี้ เราก็อ้างเอาคำบรรยายในหนังสือขอหลวงพ่อเจ้าคุณธรรม มาลงไว้ด้วยเพราะได้ใจความดี .......

    <>ในตอนท้ายก็ขอให้ท่านจงอ่านเรื่องสวรรค์แต่ละชั้นไปก่อนก็แล้วกัน .... ถ้าสงสัยก็เขียนถามมาได้ เรายิ่งดีรับใช้ และจะตอบให้ได้ทราบ

    <> ขอเจริญในธรรม....

    <><> พระวัดหัวเขา .... นาโพธิ์ ...
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 สิงหาคม 2009
  8. nangkeaw

    nangkeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    168
    ค่าพลัง:
    +396
    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ ผลบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำทั้งหลายขอให้ข้าพเจ้าได้ไปเกิดบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ
     
  9. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขอกราบขอบพระคุณเป็นอย่างสูงครับ
    ที่พระคุณเจ้าได้เมตตาให้รายละเอียดที่มาของคำถาม
    เผื่อท่านใดสนใจจะได้ไปอ่านเพิ่มเติมครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 9 สิงหาคม 2009
  10. หัสดี

    หัสดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +173
    อนุโมทนาสาธุครับพระคุณเจ้า ขออนุญาต
    เผยแผ่หนังสือเล่มนี้ครับ มีประโยชน์มากในเรื่องของทาน
    มีพระสูตรอยู่หลายๆสูตร นำมาศึกษาอ้างอิงคำสอนได้เป็นอย่างดีครับ

    <TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD><TD>ให้ทานเพื่ออะไร.pdf </TD></TR></TBODY></TABLE>


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. หัสดี

    หัสดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +173
    ขอร่วมตอบด้วยครับคุณชนะ สิริไพโรจน์

    ถ้าเคยได้อ่านประวัติของท่าน"ธัมมิกอุบาสก"
    ในตำราได้กล่าวไว้ว่าเป็นผู้ตั้งมั่นประกอบกรรมดีในทานการกุศลต่างๆ
    เป็นผู้เอาใจใส่ในการทำบุญมาก ถวายภัตต์แก่พระภิกษุสงฆ์แทบทุกชนิด

    ครั้นเมื่อป่วย ก่อนจะสิ้นใจก็ได้มีรถจากเทวโลกทั้ง 6 ชั้น
    มาเชื้อเชิญให้ไปอยู่ด้วยในสวรรค์ชั้นเหล่านั้นๆ

    และท่านก็ได้เหวี่ยงพวงมาลัยเลือกไปอยู่ที่สวรรค์ชั้นดุสิต
    เห็นได้ว่าผู้ประกอบกรรมดีโดยความตั้งมั่นในกองบุญกองกุศล
    ก็ย่อมเป็นที่รักของหมู่เหล่าเทวดาทั้งหลาย
    มีความบันเทิงทั้งในโลกนี้และโลกหน้า
    ถึงขนาดมีราชรถจากเทวโลกมาเชื้อเชิญให้ไปอยู่ด้วยในแต่ละชั้น

    แต่ตรงนี้ไม่ทราบว่าท่านธัมมิกอุบาสกในคราวนั้น
    ได้เป็นพระอริยบุคคลเบื้องต้นด้วยหรือป่าวไม่ทราบได้
     
  12. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณหัสดี และทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ เรื่องของท่านธัมมิกอุบาสก อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ...


    http://www.84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=25&i=11&p=11
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2009
  13. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    สวรรค์ชั้นดุสิต มีความกว้างใหญ่ไพศาลมาก มี ท้าวสันดุสิต ซึ่งบรรลุเป็นพระโสดาบันแล้ว เป็นผู้ปกครองภพ ที่ตั้งของสวรรค์ชั้นดุสิตอยู่สูงขึ้นไปจากยอดเขาสิเนรุ อยู่ในอากาศเหนือสวรรค์ชั้นยามา 42,000โยชน์ บนสวรรค์จะไม่มีดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ทำให้ไม่มีเงา ไม่มีมุมมืดบนสวรรค์ อยู่ได้ด้วยความสว่างจากวัตถุสิ่งของต่างๆ เช่น กายของเหล่าเทวดา วิมาน สวน สระ สิ่งแวดล้อมต่างๆมีแต่ความสว่าง จึงไม่ต้องอาศัยดวงอาทิตย์

    ลักษณะของสวรรค์ชั้นดุสิต จะไม่ได้กลมอย่างโลกมนุษย์ แต่จะกลมแบบราบ ถ้ามองจากสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป จะมองเห็นเป็นแสงสว่างนุ่มเนียนตา และถ้ามองจากสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป ก็จะเห็นแสงสว่างนุ่มเนียนตาของสวรรค์ชั้นนิมมานรดี หรือถ้ามองลงไปที่ดาวดึงส์ก็จะเห็นว่า มีขนาดเล็กนิดเดียว เพราะสวรรค์ชั้นดุสิตใหญ่กว่า

    โครงสร้างของสวรรค์ชั้นดุสิต มีวิมานของท้าวสันดุสิต เป็นศูนย์กลางของสวรรค์ชั้นนี้ แล้วแบ่งออกเป็น 4เขต วนโดยรอบวิมานของท้าวสันดุสิต ดังนี้...

    เขตที่1.เป็นที่อยู่ของพระอริยเจ้า คือ พระโสดาบัน พระสกิทาคามี ซึ่งอยู่ชั้นในสุด

    เขตที่2.เป็นที่อยู่ของนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์จากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วว่า จะได้เป็นพระพุทธเจ้าอย่างแน่นอน ซึ่งวงบุญพิเศษของผู้ที่มีมโนปณิธาน จะรื้อสัตว์ขนสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ให้หมดจนกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม ก็จะอยู่ในเขตนี้ด้วย

    เขตที่3.เป็นที่อยู่ของอนิยตโพธิสัตว์ คือ พระโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับพยากรณ์เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังต้องสร้างบารมีอีกมาก

    เขตที่4.เป็นที่อยู่ของผู้ที่ทำกุศลมาก และมีกำลังบุญมากพอที่จะได้อยู่สวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เป็นเขตทั่วไป นอกเหนือจาก 3เขตแรก
     
  14. Natthakorn

    Natthakorn เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 เมษายน 2008
    โพสต์:
    2,003
    ค่าพลัง:
    +7,078
    สวรรค์ชั้นดุสิต มีความพิเศษกว่าสวรรค์ชั้นอื่นอยู่หลายประการ หนึ่งในความพิเศษนั้นก็คือ เป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมาก และเหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีเป็นพระสาวก เพื่อตามพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคต

    แล้วทำไม พระบรมโพธิสัตว์หรือบัณฑิตทั้งหลาย จึงปรารถนาที่จะได้มาบังเกิดบนสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ ทั้งๆที่กำลังบุญของแต่ละท่านนั้นมากมาย ปรารถนาที่จะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ เหตุที่ท่านเลือกสวรรค์ชั้นนี้ มีข้อสังเกตอย่างน้อย 3ประการ คือ

    1.พระโพธิสัตว์สามารถจุติลงมาได้ตามใจปรารถนา หมายความว่าโดยปกติเทวดามีเหตุแห่งการจุติหลายประการ เช่น หมดบุญก็มี หมดอายุขัยก็มี จุติเพราะความโกรธก็มี แต่เหล่าพระบรมโพธิสัตว์ทั้งหลายในสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ เมื่อจะจุติลงมาสร้างบารมี หรือมาบังเกิดเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็จะนั่งทำสมาธิ อธิษฐานจิต สามารถดับวูบลงมาเกิดได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่อยู่เหนือกฎเกณฑ์ของชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ

    2.เนื่องจากสวรรค์ชั้นนี้ มีแต่บัณฑิต มีแต่พระบรมโพธิสัตว์ ล้วนแต่มีอัธยาศัยคล้ายคลึงกัน ที่จะฝึกฝนตนเองและช่วยสรรพสัตว์ไปสู่ฝั่งพระนิพพาน ไม่ประมาทในการดำรงชีวิตเหมือนชาวสวรรค์ชั้นอื่นๆ มักจะคบหาบัณฑิต พูดคุยสนทนาธรรมกันเพื่อความเบิกบานใจ และหมั่นไปฟังธรรมในวันพระ ซึ่งท่านท้าวสันดุสิตจะเป็นผู้อัญเชิญพระบรมโพธิสัตว์ ที่มีบุญบารมีมาก มาแสดงธรรมให้ฟัง

    3.ขนาดอายุทิพย์ของสวรรค์ชั้นดุสิตนี้ คือ 4,000ปีทิพย์ ซึ่งไม่มากเกินไปและไม่น้อยเกินไป พอเหมาะพอดีที่จะเสวยสุข เพราะท่านจะต้องลงมาสร้างบารมีต่อ ถ้ามีอายุขัยนานเกินไปจะทำให้เสียเวลา
    ที่มา
    http://www.dmc.tv/pages/guide/page10.html
     
  15. Komodo

    Komodo หัวหน้าศูนย์ประชาสัมพันธ์ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    11,610
    กระทู้เรื่องเด่น:
    145
    ค่าพลัง:
    +104,605
    ทำเป็นกระทู้แนะนำได้ 1 วัน มีคนมาแลกเปลี่ยนความรู้กันมากจริงๆ

    นับว่ากระทู้นี้มีประโยชน์มากๆครับ

    ผมรออ่านตอนต่อไปละกันครับ

    โมทนาครับ
     
  16. ผมยังเลวอยู่มาก

    ผมยังเลวอยู่มาก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    187
    ค่าพลัง:
    +539

    ขอโทษนะคับที่ขัดจังหวะ
    ท่าน ธัมมิกอุบาสก ท่านเป็นพระอริยเจ้าด้วยคับท่านถึงมีคุณสมบัติไปอยู่ชั้นดุสิตได้ และมีสิทธิที่จะเลือกที่จะไปอยู่ทุกๆชั้น

    โมทนา
     
  17. mint2546

    mint2546 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    265
    ค่าพลัง:
    +46
    ดีชั่วอยู่ที่ ตัวทำ
    สูงต่ำอยู่ที่ ทำตัว
    อนุโมทนาบุญ นะครับ
     
  18. นายชัชฌาณัฏฐ์

    นายชัชฌาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    438
    ค่าพลัง:
    +301
    ข้าพเจ้าขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะครับ ดีใจมากนะครับที่ได้อ่านกระทู้ดีดีอย่างนี้ มีความสุขมากนะครับ.
     
  19. ฮ้ง

    ฮ้ง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +107
    ขออนุโมธนาบุญเจ้าค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...