ปรึกษาปัญหาสารพัดโรค ด้วยหลักการแพทย์แผนไทย / วิธีฝึกและใช้พลัง(ปราณยาม)ในการรักษาโรค

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย suwi, 25 มกราคม 2008.

  1. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    นวดราชสำนัก ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าใช้ภายในวัง
    ปกติจะใช้แต่นิ้วมือเท่านั้นในการนวด มีพิธีรีตรองเยอะ
    ก็ใช้นวดให้เจ้านายนิ ขืนสุ่มสี่สุ่มห้า อาจหลังขาดหรือหัวกุดได้
    และก็คนที่จะใช้เพียงนิ้วมืออย่างเดียวรักษาโรคได้นะ ฝีมือต้องเจ็ง มิฉะนั้นจะรักษาโรคไม่ได้
    ก็มือ นิ้วมือนะน้ำหนักกด สู้เข่าสู้ศอกไม่ได้ อยู่แล้ว
    แต่นวดาชสำนัก นิ้วมือที่ใช้ จะแม่นจุดมาก จับเบาๆก็สะท้านแล้ว ซึ่งพวกเชลยศักดิ์สู้ไม่ได้(ก็เขามีวิชาเฉพาะนี่)

    นวดเชลยศักดิ์ นั้น ชาวบ้านชาวช่องใช้กันทั่วไป การนวด จะใช้ทั้งมื่อเท้าเข่าศอก ทุกรูปแบบ
    ขอให้คนไข้ดีขึ้นเป็นใช้หมด ไม่ว่าจะใช้ฝ่าตีนเหยียบย่ำ
    บางทีเหยียบกันตั้งแต่ฝาตีนยันหัวและใบหน้า

    เปิดหาดูในกูเกิลนะในรายละเอียด

    วิชานวดราชสำนักมาตรฐาน ในปัจจุบัน ที่เรียนกันมี ๑๕๐ ช.ม. ๓๐๐ ชั่วโมง (มีเศษของชั่วโมงอยู่ด้วยจำไม่ได้ ว่าใช่ ๓๒๕ ช.ม. หรือไม่)
    และ เรียนกันสูงสุดในปัจจุบันคือ ๘๐๐ ชั่วโมง
    และมีอบรมต่อให้พวก ๘๐๐ ชั่วโมงเป็นครั้งคราว

    วิชานวดที่สุวิใช้ก็เป็นวิชานวดราชสำนักเช่นกัน
    สุวิเรียนจบจากกระทรวงสาธารณะสุข ถ้าเทียบชั่วโมวแล้วได้เพียง สามร้อยกว่าชั่วโมงเอง

    หลักจากนั้นก็มีผู้มาถ่ายทอด การนวดพิศดารให้
    ทุกจุดการนวด ล้วนใช้เพียง ฝ่ามือ นิ้วมือ ทุกจุดการนวดเป็นเช่นเดียวกับ นวดราชสำนักพื้นฐานทั้งสิ้น
    เพียงแต่ท่าทาง แปรเปลี่ยนไปสุดพิศดาร ไม่ยืดติดในรูปแบบใดๆ
    แปรเปลี่ยนตามรูปแบบฤๅษีดัดตนที่ปรากฎอยู่ที่วัดโพธิ์

    และผลการนวดรักษาด้วยวิชานวดราชสำนักพิศดารนี้ ยิ่งพิศดารสุดบรรยาย
    ปวดคอ นวดเข่า ก็หาย
    ปวดหลังปวดเอว นวดที่แขนก็หาย
    ปวดเข่า นวดแขนก็หายเช่นกัน
    แล้วยังมีราคาคุยอีก ท่านว่า กูเอาตามองๆดูมันก็หายแล้ว ไม่เห็นต้องเมื่อยไปนวดมันให้เสียเวลา
    เออแนะมียั่งงี้ด้วย

    ถามว่าสุวิทำได้หรือไม่
    แหะๆ.. พอได้จะ (แต่ไม่เชี่ยวชาญนัก)
    ขืนตอบว่าทำไม่ได้ ก็เสียชื่อ

    หมอ อินเทวดา นะซิ ท่านเป็นเจ้าของวิชานี้นะ
     
  2. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ชื่อของหมออินเทวดา ได้ปรากฎขึ้นในที่นี้แล้ว
    ลองเซอร์ทดูในกูเกิล
    ตายละวา มีตั้งหลายท่าน แต่ต่างยุกต์ต่างสมัยกัน ท่านที่เป็นเจ้าของวิชานวด อันเลิศล้ำพิศดาร ที่ได้ตกทอดสู่ สุวิ เป็นใครกัน

    สงสัยต้องนำมาเล่าสู่กันฟังแล้ว

    ผู้ที่เรียนนวดราชสำนักมา ยิ่งเรียนมากชั่วโมง ก็จะยิ่งสงสัย
    สงสัยกันว่า ท่านหมออินเทวดาเป็นเจ้าตำรับวิชานวดนี้
    ท่านมีสมยานามต่อท้ายว่า "เทวดา"
    คำว่าเทวดา นั่นหมายถึง ฝีมือนวดที่ไม่ธรรมดา
    มันจะต้องเป็นประเภท จับปุบ นวดปับ อาการต่างๆก็จะหายได้โดยเร็ว ทันตาเห็น
    แต่นี่ นวดกันเป็นชั่วโมง เพียงค่อยยังชั่ว นวดตั้งหลายครั้งถึงหาย

    ถ้าเป็นจริง แสดงว่าวิชาที่รียนกันมีส่วนที่ขาดหาย
    หรือไม่ก็ เป็นเรื่องอุปโหลก ราคาคุย

    วันนี้สุวิรู้แล้วว่า วิชาที่เรียนกัน มีส่วนที่ขาดหาย
    เจ้าของตำรา ได้เผาทิ้งไปสมัย รัชกาลที่หก
    มีฉบับคัดลอก ตกทอดสู่ปัจจุบันอยู่บ้าง แต่ไม่สมบูรณ์

    เอ้าท่านทั้งหายเชิญสดับ..
     
  3. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    เรื่องที่จะเล่านี้ เป็นเรื่องเล่า แบบปากต่อปาก ผ่านมาหลายสมัย
    ย่อมมีการตีไข่ใส่สี ตามจริตของผู้เล่าอยู่บ้างไม่มากก็น้อย

    สุวิเป็นเพียงผู้ได้ฟังในชั้นหลัง ได้บันทึกไว้ ตามที่รู้ที่เห็นที่เข้าใจ
    อาจมีบางส่วนที่แทรกความคิดเห็นส่วนตนเข้าไปด้วย

    ที่บันทึกไว้ก็ด้วย ไม่อยาก ให้เรื่องเล่าเหล่านี้ศูนย์หายไป และถูกตีไข่ใส่สีมากยิ่งขึ้นจนกลายเป็นนิยายปะรำปะราไป

    (รอก่อนนะต้องไปเพชรบูรณ์แล้ว เดี๋ยวกลับมาเล่าต่อ)
     
  4. curio

    curio เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    428
    ค่าพลัง:
    +2,048
    จะมาบอกว่ายาของอาจารย์สุดยอดเลยครับ ผมเจ็บคอเป็นหวัด ได้กินยาแก้แพ้เบอร์3 ควบกับ ยาปลูกเตโชไปได้สองวัน วันนี้อาการดีขึ้นแยะเลยครับ
    ต้องขอขอบพระคุณ อ.สุวิที่ให้ยาเด็ดๆ
    แต่มีอาการตื่นเช้ามาปวดหลังบริเวณไตทั้ง2ข้าง ไม่ทราบเกิดจากอะไรครับ
     
  5. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ขาดกระสายยา น้ำต้มตะไคร้ (ระบุไว้ที่ซองยาแล้ว)
    หรือใช้ชาตะไคร้ก็ได้ กินแทนน้ำทั้งวัน

    อาการนี้จะเป็นในบางคนเท่านั้น
     
  6. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    ประวัติ หมออิน เทวดา

    หมออิน เทวดา
    มีเรื่องเล่ากล่าวขานกันว่า
    ในสมัยรัชกาลที่สอง แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ฯ มีของดีเกิดขึ้นในแผ่นดินสยามอยู่สามประการ
    และกล่าวเป็นวลี เป็นที่รู้ไปทั่ว เป็นที่เชิดหน้าชูตาแห่งแผ่นดินสยาม คือ <O:p</O:p
    “หมอเก่ง พระดี ดนตรีดัง”

    1. หมอเก่ง ท่านหมายถึง ท่านราชครูอิน หรือที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกท่านว่า หมออิน เทวดา
    กล่าวกันว่าแม้ผู้ที่สิ้นชีพ แม้กายเย็นแล้ว แต่ภายในยังอุ่นอยู่ (ใช้นิ้วแหย่ในช่องทวาร ) ท่านก็สามารถยื้อชีวิตกับพระยามัจจุราช ให้กลับมีชีวิตได้<O:p</O:p

    2. พระดี ท่านหมายถึง ขรัวโต หรือที่ชาวสยามจวบจนปัจจุบันรู้จักท่านในนาม หลวงพ่อโต พรหมรังสี วัดระฆัง
    ซึ่งมีผู้ค้นคว้าประวัติบันทึกไว้ให้ชนรุ่นหลังได้เรียนรู้ เรียบร้อยแล้วหลายสำนวน<O:p</O:p

    3. ดนตรีดัง ท่านหมายถึงจางวางขาว นักดนตรีเอก แห่งสยามประเทศ
    ประวัติของท่านค่อนข้างมืดมน และไม่ใช่จุดมุ่งหมายแห่งบันทึกนี้ จึงขอละไว้ให้ผู้ที่รักการดนตรีค้นคว้า
    มีเรื่องเล่าบางกระแสว่า ท่านเป็นศิษย์ร่วมสำนักกับหมออินและขรัวโต
    และเป็นผู้ริเริ่มใช้ดนตรีประกอบกับท่าทางการลีลาของฤๅษีดัดตนร่วมกับหมออิน และนี่คือจุดเริ่มต้นแห่ง ดนตรีบำบัดของไทย<O:p</O:p
     
  7. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หมออิน เทวดา ๒.<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    มีเรื่องเล่ากันว่า ทั้งตัวหมออิน และขรัวโต ต่างเป็นพี่น้องร่วมบิดาเดียวกัน<O:p</O:p
    เป็นบุตรนอกเศวตฉัตร ก่อนขึ้นครองราชย์ของรัชกาลที่หนึ่ง และเมื่อ ร.1 ขึ้นครองราชย์แล้ว<O:p</O:p
    ท่านอินได้ถูกกำหนดให้เป็นผู้รวบรวมคัมภีร์แพทย์และวิชาการทั้งหลายที่กระสานซ่านเซ็นอันเนื่องจากสงคราม ตั้งแต่สมัยอยุธยา<O:p</O:p
    ให้ศึกษา และจารึกไว้ที่ วัดโพธิ์ฯภายใต้การแนะนำของพระป่าท่านหนึ่งเล่ากันว่าพระป่าท่านนี้คือพระครูเทพโลกอุดร<O:p</O:p
    ซึ่งทุกคนเชื่อว่าพระรูปนี้ จวบปัจจุบันยังมีชีวิตอยู่
    <O:p</O:p

    ท่านอิน ขรัวโต และเชื้อราชวงศ์สองท่าน (ต่อมาคือวังหน้า ไม่ทราบรัชสมัย , และกรมพระยานุชิตชิโนรส)<O:p</O:p
    ล้วนเป็นผู้ที่ได้รับการแนะนำฝึกสอนจากพระป่ารูปนี้<O:p</O:p
    ท่านอินได้ศึกษาวิชาแพทย์ทั้งปวง จนช่ำชอง วิชาเอกของท่านคือการนวดและการใช้ยาง่ายๆ (เช่นยาน้ำมะพร้าว) ประกอบการรักษาหลังการนวด<O:p</O:p
    กล่าวกันว่า การนวดและยาของท่านรักษาได้ทุกโรค และท้ายสุดเล่ากันว่าเพียงท่านใช้สายตามองโรคร้ายก็หายได้<O:p</O:p
    ในสมัยรัชกาลที่สอง ชื่อเสียงของท่าน โด่งดัง เลื่องลือได้รับความเคารพนับถือในความเป็นหมอเทวดา
    และท้ายสุดทุกคนเรียกท่านว่าหมออินเทวดา"<O:p</O:p
     
  8. Jzaaa12

    Jzaaa12 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +161
    น่าสนใจครับ
     
  9. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หมออินเทวดา ๓.

    ในสมัยรัชกาลที่ สาม วิชานวดของหมออิน ได้ถูกคัดเลือกจารึกลงในหินอ่อน วัดโพธิ์ฯ
    และได้คัดเลือกท่าฤๅษีดัดตน 14 ท่า ทำเป็นรูปปั้นหล่อด้วยดีบุก
    ภายหลังหล่อท่าคู่ เพิ่มอีก 2 ท่า ใช้ประกอบคู่กับวิชานวดที่ท่านได้จารึกไว้
    และในสมัยนั้น วังหน้าพระราชวังบวรฯ ก็ได้สร้างพระเครื่องขึ้นชุดหนึ่ง มี 5 พิมพ์ ทำพิธี อธิฐานจิต โดยพระป่าท่านนั้นและได้เก็บบรรจุไว้ในวังหน้า
    ปัจจุบันพระชุดนี้ ทั้ง 5 พิมพ์ ส่วนหนึ่ง(จำนวนมาก)ได้กระจายเช้าสู่ตลาดพระเครื่อง และตกอยู่กับชนทั่วไป พระเครื่องทั้ง 5 พิมพ์ มี <O:p</O:p
    <O:p</O:p

    1. รูปพระสงฆ์ ยืนมือประสานด้านหน้า เรียกปางจงกรม<O:p</O:p
    2. รูปพระสงฆ์ ยืนถือไม้เท้า อยู่ในท่าเดิน เรียก ปางธุดงค์ (ดูคล้ายพระสิมวลี)<O:p</O:p
    3. พระปิดตา
    4. พระนางพญา<O:p</O:p
    5. พระสังข์กระจาย<O:p</O:p
     
  10. tezch

    tezch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +195
    ตัวจริง เสียงจริง รู้จริงครับ
     
  11. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หมออินเทวดา ๔.

    เล่ากันว่า หมออิน มีบุตรชายสามคน
    คนโตนาม คุณพ่วง (พวง) คนรองนาม คุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>เพิ่ม คนสุด ท้องชื่อ คุณชิต
    กล่าวกันว่าคุณเพิ่มเสียชีวิตแต่ยังเยาว์ ไม่ทราบสาเหตุ
    ส่วนคุณพ่วงมีภรรยานามว่า “สไบ (สบาย)”
    คุณพ่วง เป็นผู้ได้รับการถ่ายทอดและเป็นผู้บันทึกวิชาของหมออินไว้ แยกเป็น 7 คัมภีร์ แต่ท่านกลับไม่แตกฉานในวิชา
    ผิดกับแม่สไบ ผู้เป็นสะใภ้ เรียนรู้แตกฉาน ใน 6 คัมภีร์แรก
    ส่วนคัมภีร์เล่มที่ 7 เป็นวิชานวด ที่ใช้ความพิศวาสรันจวน และอำนาจแห่งดำกฤษฎา กระตุ้นเลือดลมในการรักษา
    ท่านเป็นสตรี จึงไม่ได้ศึกษาคัมภีร์เล่มนี้ เพียงดูผ่านตาไว้เท่านั้น<O:p</O:p

    ในสมัยนั้น(น่าจะอยู่ สมัย ร.4 -ร.5 ) มีแขกขาวท่านหนึ่งนามว่า xxxxx ได้ขอเรียนวิชาในคัมภีร์เล่มที่ 7 นี้
    และขอคัมภีร์ไปศึกษา และไม่ได้ส่งกลับคืน (คัมภีร์ฉบับจริงอาจจะอยู่ในตะวันออกกลาง หรืออาจถูกเผาทิ้ง )

    และมีหมอนวดท่านหนึ่งในราชสำนักขอศึกษาวิชาชุดนี้ และคัดลอกคัมภีร์ไว้
    ต่อมาท่านผู้นี้รับราชการมีชื่อเสียงในการนวดแบบแปลกประหลาดนี้
    รัชกาลที่ 5 เรียกท่านว่า หมอลามก (ต่อมาท่านเรียกใหม่ว่า ขุน ลามะกะ, หลวงลามก์เดชะ)
    และท้ายสุดได้รับแต่งตั้งเป็นพระยา มีพระราชทินนามว่า พระยาลามก์เดชะ
    และคัมภีร์ฉบับคัดลอกนี้ยังคงอยู่ ตกทอดถึงลูกหลานในปัจจุบัน ลุงประเทือง อธิxxxx เป็นผู้ครอบครองและเก็บรักษาไว้<O:p</O:p
     
  12. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หมออินเทวดา ๕.

    และในสมัยที่ใกล้เคียงกัน
    คุณชิตซึ่งแต่เดิมไม่ค่อยจะใส่ใจกับวิชานวดเท่าใดนัก
    อาศัยเห็นการนวดของบิดาและพี่ชาย พี่สะใภ้ อยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน และเริ่มเห็นประโยชน์
    ท่านจึงขอคัมภีร์เล่มที่ 1 ไปศึกษา และก็ไม่ได้ส่งคืน (แม่สไบจึงเหลือคัมภีร์ในครอบครองเพียง 5 เล่ม คือเล่มที่ 2-6)

    และคุณชิตก็ได้เข้ารับราชการ และมีส่วนในการจารึกวิชาแพทย์ในคัมภีร์ฉบับหลวง
    กล่าวกันว่าวิชานวดที่ปรากฏอยู่ในคัมภีร์ฉบับหลวง เป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์หมออินเทวดา เล่มที่ 1

    ในสมัยนั้นคุณชิตมีชื่อเสียงมากมีศิษย์รับถ่ายทอดวิชามากมาย ที่มีชื่อเสียงปรากฏ คือ อาจารย์ <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>ณรงค์สักข์ บุญรัตนหิรัญ
    และถ่ายทอดถึงศิษย์ปัจจุบันที่มีชื่อเสียงปรากฏคือ อาจารย์ มนัส รัชตะถาวร และอาจารย์อภิชาต ลิมติยะโยธิน ฯลฯ

    และการนวดของท่านในสายนี้ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ปัจจุบันรู้จักในนาม
    "นวดราชสำนัก"<O:p</O:p
     
  13. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หมออินเทวดา ๖.

    ในสมัยต่อมา(ราวปลายรัชกาลที่ 5 ต่อที่ 6)
    เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในเรื่องการแพทย์
    คุณสไบจึงนำคัมภีร์ที่เหลือ ออกเดินทางลงใต้ผ่านไปทางเขาวังราชบุรี (ปัจจุบันเป็นวัดเขาวังราชบุรี)

    ในบันทึกของท่านได้กล่าวว่าติดตามเสือ(จริงๆ) ลงใต้ ถึงพระตำหนักบนเขาวัง
    และกล่าวว่าเป็นที่เคยพำนักมาก่อน ได้กล่าวถึง พระพุทธรูปหินทรายสีชมพู(แดงเรื่อๆ)ว่าเคยกราบขอพรอยู่เป็นนิจ

    และท่านก็เดินทางผ่านไปเรื่อยๆจนถึงอำเภอหาดใหญ่ในปัจจุบัน
    และได้พบชายหนุ่มผู้หนึ่งไถนาอยู่ ไถๆหยุดๆ
    จึงไต่ถามดู รู้ว่าหนุ่มผู้นั้น เป็นไข้จับสั่น ไม่ค่อยมีแรง

    แม่สไบ จึงใช้วิชานวดรักษาให้และได้พักอาศัยอยู่กับหนุ่มผู้นั้น ในฐานะมารดาผู้ให้ชีวิตใหม่ ตราบสิ้นอายุไข

    และนางได้ถ่ายทอดวิชานวดอันพิสดารให้แก่หนุ่มผู้นั้น พร้อมคัมภีร์ทั้ง 5 เล่มและบันทึกพ่วงท้ายของแม่สไบ
    แต่ด้วยเป็นชาวนาไม่รู้หนังสือจึงไม่อาจศึกษาวิชาในคัมภีร์และเรื่องราวต่างๆได้

    แต่ความรู้ที่ท่านได้รับถ่ายทอดจากแม่สไบด้วยปากเปล่าก็เพียงพอ ทำให้หนุ่มผู้นี้ก้าวสู่ความเป็นหมอที่มีชื่อเสียงแห่งเมืองสงขลา<O:p</O:p
     
  14. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หมออินเทวดา ๗.

    กาลต่อมามีเด็กน้อยผู้หนึ่งได้พบกับบุรุษผู้นี้
    ด้วยความต้องชะตา และความอยากรู้ อยากเห็นด้วยดูเป็นเรื่องน่าสนุกของเด็กน้อย อายุเพียง 10 กว่าขวบ
    ท่านจึงสอนพื้นฐานให้แก่เด็กน้อยเรื่อยมาจนเป็นหนุ่ม และก่อนที่ท่านจะสิ้นบุญ จึงมอบคัมภีร์และบันทึกต่างๆมอบให้
    และว่า ข้าไม่เคยอ่านเพราะไม่ได้เรียนหนังสือ เอ็งเอาไปดู อาจจะรู้อะไรๆเพิ่มขึ้น

    แต่เมื่อเปิดอ่าน กลับพบเป็นภาษโบราณอ่านไม่ออก (ภายหลังมีผู้เคยเห็นเล่าว่า เป็นภาษา ล้านนาโบราณ)
    จึงได้ให้เพื่อนที่เรียนทางอักษรศาสตร์แปลให้ นานพอควรจึงได้มา
    ถึงกระนั้นก็ยังอ่านลำบากด้วยเป็นสำนวนโบราณ ต้องแปลไทย เป็นไทยอีกครั้ง จึงได้รู้ความทั้งหมด

    และในคัมภีร์เล่มที่ 6 ได้กล่าวเกริ่นถึงคัมภีร์เล่มที่ 7 ไว้ ว่าถ้าจะเป็นสุดยอดแห่งการนวดต้องเรียนเล่มที่ 7 เพิ่ม

    และท้ายบันทึก กล่าวไว้ว่าเมื่ออ่านจบรู้เรื่องแล้ว คัมภีร์ จะเปิดอ่านอีกไม่ได้ ให้เผาทิ้งเสีย
    และขณะเผาให้หมั่นเขย่าอ่าง(ภาชนะ)ที่ใช้เผาคัมภีร์ วิชชาที่เรียนจะพัฒนาเพิ่มขึ้นเองเป็นร้อยเท่าพันทวี

    และเมื่อได้อ่านบันทึกทั้งหมดแล้วความจริงก็เป็นไปตามที่คัมภีร์ว่าไว้ ตัวคัมภีร์ (มีปกคัมภีร์เป็นไม้) ก็เปิดดูอีกไม่ได้
    และฉบับแปลที่คัดลอกไว้เป็นกระดาษ ก็ติดกันเป็นปึก เปิดไม่ออก ท้ายสุดจึงต้องเผาทิ้ง
    และพบเศษไม้ที่เผาไม่ไหม้จำนวนหนึ่งและรูปเคารพองค์หนึ่ง (เรียก “พิฆเนศคลาน”) ซึ่งท่านใช้เป็นเครื่องรางประจำตัว ถึงทุกวันนี้<O:p</O:p

    และด้วยคำสั่ง ต้องเผาตำราทิ้งนี้เองจึงอาจเป็นต้นเหตุให้เรื่องของหมออินเทวดาไม่ปรากฏ
    เหลือแต่เพียงเรื่องเล่าประดุจดังนิยายประรำประรา ให้ลูกหลานได้รู้

    บันทึกฉบับนี้เขียนแยกออกจากวิชาการ เพื่อคงเรื่องเล่าไว้ให้ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด
    ไม่ต้องการให้เรื่องราวทั้งหมดเพี้ยนไปเรื่อยๆตามจำนวนครั้งที่เล่าสู่กันฟัง

    แต่เรื่องเล่าที่บันทึกไว้เหล่านี้ น่าจะมีผิดเพี้ยนไปบ้าง
    ขอให้ท่านผู้รู้ ผู้ที่มีโอกาสค้นคว้าศึกษา ตรวจสอบทางโบราณคดี
    โปรดได้ตรวจสอบความถูกต้อง และบันทึกใหม่ให้ชนรุ่นหลังได้รู้จักบรรพบุรุษอันล้ำเลิศของเรา<O:p</O:p
     
  15. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หมออินเทวดา ๘.

    หมายเหตุ
    ทั้งหมดเป็นเรื่องเล่า ได้ฟังจากหลายปาก และหลายครั้ง
    แต่ละครั้งที่ฟังเรื่องก็ยังผิดเพี้ยนไปบ้างในรายละเอียด
    ได้ใช้ความรู้ที่มีอยู่ประติดประต่อเรื่องทั้งหมดด้วยใจ
    และได้บันทึกไว้ ด้วยไม่ต้องการให้เรื่อง ราวทั้งหมดผิดเพี้ยนไปมากขึ้นตามจำนวนครั้งที่เล่าสืบต่อกันแบบปากต่อปาก
    อย่างไรก็ดี เรื่องที่บันทึกนี้ ก็น่าจะมีความผิดเพี้ยน และความเข้าใจผิดของตัวข้าฯ ผู้บันทึกรวมอยู่ด้วย
    และเรื่องเล่าเหล่านี้ ข้าฯ ไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะตรวจสอบความถูกต้องทางโบราณคดีได้ สิ่งที่น่าสังเกตที่ข้าฯขอชี้นำไว้มีดังนี้
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    1. เรื่องช่วงเวลา

    ในการเล่าแต่ละครั้งไม่สามารถระบุช่วงเวลาได้ชัดเจน เช่น<O:p</O:p
    ช่วงอายุของหมออินฯ เรื่องเล่าว่าอยู่ในช่วงเวลาของ ร.1 - ร.2
    ในหนังสือประวัติของ อาจารย์ณรงค์ศักดิ์ กลับว่าเป็นคนในสมัย ร. 5 เป็นบิดาของ คุณ ชิต
    น่าจะเป็นไปได้ว่า หมออินท่านมีอายุยืน มีช่วงอายุตั้งแต่สมัย ร. 1 – ร. 5<O:p</O:p

    เรื่องการสร้างพระ(เครื่อง)ของพระราชวังบวรฯ โดยพระป่า มีบันทึกเล่าไว้ ในวงการพระเครื่อง (หาต้นฉบับตรวจสอบไม่ได้)
    ไม่แน่ใจว่าเป็นในสมัยไหนแน่ระหว่าง วังหน้า ของ ร.3 หรือของ ร. 4 พระชุดนี้เด่นในพุทธคุณด้าน คงประพันชาตรีสูงมาก
    ว่ากันว่าเตรียมไว้ให้ ทหารกล้าตายวังหน้า เพื่อปฏิบัติภารกิจสำคัญ
     
  16. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หมออินเทวดา ๙.

    2. ในหนังสือประวัติของ อาจารย์ณรงค์ศักดิ์กล่าวถึงคุณ <?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>ชิต ว่าเป็นต้นสกุล “เดชพันธ์”
    แต่ตามเรื่องเล่ากล่าวว่า สกุลดั่งเดิมของท่านคือ “เดชาพันธ์”(สระ“อา” หายไปตัวหนึ่ง )
    อาจเป็นไปได้ว่า
    คุณ ชิต เป็นต้นตะกูล เดชพันธุ์
    และคุณพ่วง เป็นต้นตะกูล เดชาพันธุ์<O:p</O:p

    3. มีผู้เล่าว่าในสมัย ร.4 - ร.5 บ้านของหมออิน อยู่ใกล้กับ เสาชิงช้า และวัดสุทัศน์ฯ และกล่าวกันว่า มีวิชาของหมออิน จารึกไว้ในวัดสุทัศน์ <O:p</O:p

    4. ดูตามเรื่องเล่า ตัวหมออินน่าจะมีฐานันดรศักดิ์
    แต่อาจเป็นไปได้ว่า ตอนที่ท่านออกรักษาชาวบ้านท่านใช้ชื่ออื่น (ใช้ชื่อ อิน)
    ซึ่งไม่ใช่ชื่อตามฐานันดร เช่นเดียวกับ “กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์” ที่ปลอมตัวเป็นหมอออกไปรักษาชาวบ้าน และใช้ชื่อใหม่ว่า“หมอพร”<O:p</O:p

    5. ตัวคุณสไบเองก็น่าจะมี ฐานันดรประวัติเช่นกัน
    ด้วยบันทึกของตัวคุณสไบเองกล่าวถึงเคยอาศัยอยู่ที่พระราชวัง “เขาวังราชบุรี” มาก่อนช่วงหนึ่ง(หรืออาจเป็นเพียงชาววังผู้หนึ่ง)<O:p</O:p

    6. จารึก วิชานวดที่วัด xxxxx (จำชื่อวัดไม่ได้) ที่จังหวัดสงขลา
    เคยเห็นผ่านตา (หาเอกสารไม่ได้) มีส่วนคล้ายจารึกที่วัดโพธิ์ ฯ
    อาจเป็นไปได้ว่า คุณสไบเป็นต้นคิด ชวนผู้คนบันทึกไว้<O:p</O:p

    7. แขกขาวที่มาขอเรียนวิชาในคัมภีร์เล่มที่ 7 น่าจะหาชื่อเสียงเรียงนาม และประเทศที่มาได้
    ด้วย สมัย ร. 4 – ร. 5 มีชาวต่างประเทศเข้ามามากก็จริงแต่ส่วนมากจะเป็นพวกมาจาก อเมริกา และยุโรป
    ที่เป็นแขกขาว ที่มีชื่อเสียงน่าจะมีไม่มาก<O:p</O:p

    8. เรื่องของพระยาลามก์เดชะ มีอยู่จริง
    ลูกหลานของท่านยังคงเก็บรักษาคัมภีร์ไว้
    และท่าน ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนที่แท้จริง ขออนุญาตได้เพียงชื่อเท่านั้น

    9. มีเรื่องเล่าอีกกระแสหนึ่งว่า
    แต่เดิมพระยาลามก์เดชะรู้จักกับครอบครัวของคุณสไบมาก่อน (ท่านอาจเป็นศิษย์คนหนึ่งของหมออิน)
    หลังจากเข้ารับราชการเป็นหมอนวด
    ท่านได้มาขอคัมภีร์เล่มที่เจ็ดไปศึกษาเพื่อถวายงาน จนได้โปรดแต่งตั้งเป็นพระยา และท่านได้คัดลอกคัมภีร์ไว้
    ในช่วงนั้นท่านได้ถ่ายทอดความรู้นี้ให้แขกขาวผู้หนึ่ง พร้อมทั้งคัดลอกคัมภีร์ให้ไปด้วย
    ท่านราชครูอินทราบเรื่องจึงได้มานำคัมภีร์ฉบับจริงคืน และหายสาบสูญไป
    บ้างก็ว่าท่านนำไปคืนให้คุณ<st1:personName w:st="on" ProductID="สไบ ก่อนเดินทางลงใต้">สไบ ก่อนเดินทางลงใต้</st1:personName>(เรื่องเล่ากระแสนี้ น่าเชื่อถือมากกว่า)<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
  17. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    หมออินเทวดา ๑๐.

    10. วิชาในคัมภีร์ทั้งเจ็ดเล่มครอบคลุมความรู้ดังนี้
    (เรื่องเล่าไม่ได้บอกชื่อคัมภีร์ไว้ เพียงแต่กล่าวถึงวิชาที่บันทึกไว้เคร่าๆเท่านั้น และค่อนข้างสับสน)<O:p</O:p

    เล่มที่ 1 ความรู้เกี่ยวกับจุดนวดและท่าทาง (ปัจจุบันคือ นวดราชสำนัก)<O:p</O:p

    เล่มที่ 2 ความรู้เกี่ยวกับพลังและการฝึกฤๅษีดัดตน<O:p</O:p

    เล่มที่ 3 ความรู้เกี่ยวกับเส้นสิบพิสดาร และการนวดบนเส้นสิบ(นวดสุมนา) <O:p</O:p

    เล่มที่ 4 ความรู้เกี่ยวกับ การจัดเส้นเอ็นและกระดูก การนวดพิสดารเล่ม 1 <O:p</O:p
    (รวมความรู้นเล่มที่ 1, 2, 3 เข้าด้วยกัน) แยกเป็นสองส่วน<O:p</O:p

    4.1 การนวดพิสดาร บนกล้ามเนื้อและเส้นเอ็น<O:p</O:p
    4.2การจัดกระดูก, การต่อกระดูกและการเคลื่อนย้ายกระดูกและเส้นเอ็น<O:p</O:p

    เล่มที่ 5 ความรู้เกี่ยวกับ การใช้อำนาจจิตในการรักษาโรค<O:p</O:p

    เล่มที่ 6 ความรู้ทั่วไป การตรวจโรค โหราศาสตร์ อุปเท่ห์ของวิชา ตำรายา บันทึก เรื่องราวต่างๆ ฯลฯ<O:p</O:p

    เล่มที่ 7 ความรู้การนวดพิสดารเล่ม 2 (ลามกศาสตร์)<O:p</O:p
    <O:p</O:p

    -การเรียงลำดับวิชา ข้าฯ ผู้บันทึกเรียงลำดับเอง ตามที่ได้ฟังและจำมา ซึ่งอาจไม่ถูกต้อง<O:p</O:p
    -การนวดบนเส้นสิบ (การนวดด้วยลมปราณ) ข้าฯตั้งชื่อเองว่า “นวดสุมนา” <O:p</O:p
    -วิชา จัดและต่อ กระดูก ท่านเรียกวิชากระดูกเหล็ก<O:p</O:p
    -เส้นสิบ ท่านเรียก เส้นวิญญาณ(ซึ่งจะมีเฉพาะในคนเป็น ส่วนคนตายเส้นนี้จะหายไป)
    <O:p</O:p

    ข้า สุวินันท์ ผู้บันทึก
    7 เมษายน 2548<O:p</O:p

    <O:p</O:p
     
  18. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543
    จบแล้วจ้า

    คัมภีร์ทั้งหมด สุวิยังเรียนไม่จบซักกะเล่ม
    โดดไปโดดมาตรงนี้มั่งตรงโน้นบ้าง (โดนเคาะตาตุ่มนะ ถึงโดด)
     
  19. tezch

    tezch เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    101
    ค่าพลัง:
    +195
    จารึก วิชานวดที่วัด xxxxx (จำชื่อวัดไม่ได้) ที่จังหวัดสงขลา
    เคยเห็นผ่านตา (หาเอกสารไม่ได้) มีส่วนคล้ายจารึกที่วัดโพธิ์ ฯ
    อาจเป็นไปได้ว่า คุณสไบเป็นต้นคิด ชวนผู้คนบันทึกไว้<O:p</O:p


    ชื่อวัดมัชฌิมาวาส (วัดกลาง) จังหวัดสงขลาใช่ไหมครับ
     
  20. suwi

    suwi เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    2,652
    ค่าพลัง:
    +18,543

    ถูกต้องนะคร๊าบ

    ใครมีภาพเอาขึ้นให้ดูหน่อยดี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...