สแกนอดีต..แก้กรรม..ทำ (ไม่) ได้?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย Sun smile, 2 ตุลาคม 2009.

  1. Sun smile

    Sun smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +366

    <TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD height=5></TD></TR><TR><TD align=left>สแกนอดีต..แก้กรรม..ทำ (ไม่) ได้?



    </TD></TR><TR><TD class=style5 align=left>สมัยที่กรรมเอาไปทำอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะสแกน แก้ หรือ ตัดให้หายทิ้งไป เคยถามตัวเองหรือไม่ ว่าเราก็กำลังอยู่กับอะไร เชื่อในสิ่งไหน ใช่หรือลวง
    “ในชีวิตนี้คุณคิดว่าเรามีเวลาอยู่กันคนละกี่ปี ไม่ถึงร้อย ครึ่งหนึ่งทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ครึ่งหนึ่งติดละครน้ำเน่า ครึ่งหนึ่งอิจฉาริษยา ครึ่งหนึ่งก็ไปเล่นการเมือง และอีกครึ่งหนึ่งก็คุ้มดีคุ้มร้าย เล่นคุณไสยฯ แล้วคุณจะเหลือช่วงชีวิตดีๆ สักกี่ปี คุณคิดตัวเองว่ามีเวลาบ้าได้นานขนาดนั้นเชียวหรือ” มาทำอะไรที่เป็น “ประโยชน์สูง และประหยัดสุด” ,“อย่ามัวแต่ไปตีอก ชกตัว กอดรัด อยู่กับสิ่งที่มันจบไปแล้วเลย”
    เหล่านี้คือคำท้าทาย คำถาม และคำชี้ชวน จากท่าน พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ผู้ก่อตั้งสถาบันวิมุตยาลัย, พระอาจารย์คึกฤทธิ์ โสถฺถิผโล เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง และ แม่ชีศันสนีย์ เสถียรสุต ผู้ก่อตั้งสาวิกา สิกขาลัย จากวงสนทนาธรรมเรื่อง รู้เช่น เห็นชาติ รู้แจ้งเห็นจริง ซึ่งจัดขึ้นที่เสถียรธรรมสถาน เพื่อไขข้อข้องใจเรื่องเกี่ยวกับ กรรมเก่า กรรมใหม่ ให้ทุกคนรู้เรื่องกรรมให้ถูกต้องแล้วจะได้กลับมามีชีวิตในปัจจุบันที่เป็นอิสระ ไม่ถูกพันธนาการจากความทุกข์ในอดีตอีกต่อไป
    1. รู้เช่น เห็นชาติ แม่ชีศันสนีย์ อธิบายว่า “รู้เช่น” ก็คือรู้ ว่าทุกสิ่งมันเป็นเช่นนั้นเอง ทุกอย่างไม่มีอะไรที่เที่ยงแท้ "เห็นชาติ" ก็คือเห็นชาติของความทุกข์จากการยึดมั่นในอัตตาของเรา ส่วน “รู้แจ้ง” หมายถึง การเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามกฎของไตรลักษณ์ คือ เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา (เกิดขึ้น ตั้งอยู่และดับไป) และ "เห็นจริง" คือ เห็นการเกิด-ดับ อารมณ์ต่างๆ อันเป็นเหตุแห่งทุกข์นั่นเอง
    2. รู้แจ้ง ให้เห็นจริง
    แม่ชีศันสนีย์ อธิบายว่า “ความเชื่อเรื่องความบังเอิญ นั้นไม่ใช่พระพุทธศาสนาเลย พระพุทธองค์ท่านสอนแต่ว่า ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะเหตุมีเหตุปัจจัย แต่ใครที่มีปัจจุบันขณะที่รู้ทันการกระทบอย่างไม่เผลอ ไม่เพลิน ก็จะรู้ว่าอิสรภาพในกฎแห่งกรรมมีอยู่ แต่ท่านบอกว่าต้องระวังอีกอย่างคือ "ความดีกับของดีมันก็คนละเรื่องนะ รู้ว่าทำดีก็ดีแล้ว ไม่ใช่ทำดีแล้วต้องได้ของดีด้วย ใครที่คิดอย่างนั้น...งมงายนะ” ท่านแม่ชีฯ บอก
    ท่าน ว.วชิรเมธี เพิ่มเติมว่า "ถ้าเราจะสอน ต้องสอนเพื่อกระตุ้นจริยธรรมในหัวใจคน ให้หันมาทำความดีหลีกหนีความชั่ว แต่ทุกวันนี้ต้องบอกว่า "เป็นกรรม" ของกฎแห่งกรรม เพราะมันถูกใช้เพื่อต่อยอดสู่กรรมพาณิชย์ ทำกำไรจากคนที่ถูกข่มขู่ว่ามีกรรมหนักทั้งหลาย
    "พวกที่มีกรรมหนักทั้งหลาย ชาติที่แล้วฆ่าเขามาชาตินี้ลำบากอายุไม่ถึง ๗๐ นะแก้กรรมซะ ค่าแก้กรรมก็สัก ๓,๐๐๐ มีไหม" ท่านเล่าให้ฟังแบบขำๆ "ทุกวันนี้ไม่ใช่กรรมของพระพุทธเจ้าแล้วมันเป็นกรรมพาณิชย์ เราจะต้องถอดถอนเรื่องนี้ออกไป"
    3. ตัดกรรมได้ด้วยมรรคมีองค์ ๘
    ท่าน ว.วชิรเมธี บอกว่า “กรรม ตามแนวพุทธ ไม่ใช่เฉพาะแค่กรรมเก่าและไม่ใช่กรรมใหม่ล้วนๆ แต่ให้ความสำคัญทั้งกรรมเก่า กรรมปัจจุบัน และกรรมที่จะเกิดในอนาคต และชีวิตของเรานั้นก็อยู่ในกาลทั้ง ๓ นี้ตลอดเวลานั่นแหละ"
    แม่ชีศันสนีย์ ก็บอกอีกว่า “อดีตเป็นสิ่งที่เราปฏิเสธไม่ได้ แต่เราตั้งรับอดีตได้ที่ปัจจุบัน”
    "ทำปัจจุบันกรรมให้ดี เพื่ออนาคตเราไม่ต้องแก้ตัวอีก ไม่ต้องโทษนั่น โทษนี่ ตรงนี้สำคัญ ไม่ว่าอดีตคุณจะทำกรรมอะไรมา แต่กรรมปัจจุบันนี่แหละจะพาให้คุณรอด"
    อีกคำถามยอดฮิต "ผีมีจริงไหม"
    ภพเรานั้นก็ไม่ได้อยู่อย่างเดี่ยวๆ ยังมีอีกหลายภพภูมิ เหมือนโลกของเรายังมีหมู หมา กา ไก่ ที่ก็ไม่เหมือนเรา แต่เราไม่เห็นกลัวเลย ไม่เห็นเอาธูปไปจุดหน้าไก่ สาธุ! อย่าหลอกลูกเลย...
    แล้วเราก็ไม่แปลกใจเวลาเจอคลื่นวิทยุ คลื่นโทรทัศน์ธรรมชาติ ซึ่งก็มองไม่เห็น จับต้องไม่ได้ ส่วนผีจะว่าไปก็ตายเหมือนกัน ฉะนั้น "มันก็ผี เราก็ผี จะไปกลัวอะไร"
    4. ใช้ลมหายใจเป็นเครื่องมือ
    "แค่กลับมาอยู่กับปัจจุบันขณะ ตระหนักรู้ ทุกครั้งที่คิด ทุกกิจที่ทำ ทุกคำที่พูด และทุกครั้งที่เคลื่อนไหว ทำแค่นี้เราก็จะเป็นคนใหม่อยู่ทุกขณะจิต แก้กรรมได้แล้ว เรียกว่าประโยชน์สูง ประหยัดสุด"
    "ฝึกตามดูรู้เท่าทันกาย คือลมหายใจ เวทนาคือความรู้สึก จิตคือความคิด และธรรมก็คือสภาวธรรมที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป...
    ใครมาฝึกแล้วรู้ของพวกนี้ อาตมากล้าการันตีได้ว่า ไม่เกิน ๗ วันคุณจะเปลี่ยนเป็นคนใหม่ การที่คุณเปลี่ยนเป็นคนใหม่ กลายเป็นคนที่มีสติมากขึ้น เป็นอันว่าคุณตัดกรรมได้แล้ว ไม่ต้องใช้เงินใช้ทองอะไร ใช้ต้นทุนต่ำที่สุดเลย ใช้กายกับใจของเราเท่านั้นเป็นเครื่องมือ" ท่านประกาศอย่างมั่นใจ ด้วยรอยยิ้มเมตตา


    </TD></TR><TR><TD align=right><TABLE border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=right><FORM method=post name=vote_id8423 action=article.php?id=8423><TBODY><TR><TD width="70%"></TD><TD></TD><TD align=middle><TD></TD><TD class=style3 align=middle></TD></TR></FORM></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE>แหล่งที่มา
    กรุงเทพธุรกิจ
     
  2. Sun smile

    Sun smile เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2009
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +366
    ในชีวิตนี้คุณคิดว่าเรามีเวลาอยู่กันคนละกี่ปี ไม่ถึงร้อย ครึ่งหนึ่งทะเลาะกับเพื่อนบ้าน ครึ่งหนึ่งติดละครน้ำเน่า ครึ่งหนึ่งอิจฉาริษยา ครึ่งหนึ่งก็ไปเล่นการเมือง และอีกครึ่งหนึ่งก็คุ้มดีคุ้มร้าย เล่นคุณไสยฯ แล้วคุณจะเหลือช่วงชีวิตดีๆ สักกี่ปี

    สาธุ สาธุ สาธุ แล้วจากนี้ไปข้าพเจ้าจะเหลือเวลาคิดดี ทำดี พูดดี อีกสักกี่วินาที กี่นาที
    กี่ชั่วโมง หรืออีกกี่วัน กับดวงจิตที่ลื่นไหลควบคุมได้ยากจริง
     
  3. ธรรมะ12

    ธรรมะ12 สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    14
    ค่าพลัง:
    +2
    อนุโมทนา. ..
    ได้ไปฟัง เหมือนกัน ตอนที่ พันเตคึกฤทธิ์ พูดว่า ประโยชน์สูง ประหยัดสุด ฮาดี
    แล้วก็ถูกต้อง ประทับใจตั้งแต่แรกเห็นเลย
     
  4. อิ่มผลบุญ

    อิ่มผลบุญ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    27
    ค่าพลัง:
    +42
    เห็นด้วยกับคำว่า ลบล้างอดีตไม่ได้

    ปัจจุบันตั้งมั่นในความดีกันดีกว่าค่ะ

    อนุโมทนา สาธุนะคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...