ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย(เขากะลา)(ปิดกระทู้)

กระผมกราบขอขมากรรม ต่อพระรัตนตรัย ที่พึ่งอันสูงสุด ของข้าพเจ้า ด้วยโดยขาดสติสัมปชัญญะกำกับ ก็ดี ข้าพเจ้าขอตั้งจิต..กราบขออภัยโทษและขอขมากรรมต่อองค์พระรัตนตรัย และองค์สมเด็จพระพุทธเจ้าทั้งหลาย ณ ที่แห่งนี้ ด้วยความสำนึก และพร้อมที่จะแก้ไขในสิ่งผิด เพื่อเดินให้ถูกมรรคาแห่งสายพุทธธรรม ต่อไป และขอตั้งสัจจะวาจาว่า จากนี้สืบไปจะขอเจริญสติและปฏิบัติในทางสายธรรมแห่งพุทธ ด้วยกาย วาจาและใจ จนกว่าข้าพเจ้าจะเข้าถึงซึ่งพระนิพพาน ด้วยเทอญ

 

เมื่อวานนี้ 5 พ.ย. 52 พบวัตถุลึกลับ
เหมือนรูปที่คุณคณานันท์เคยถ่ายไว้ได้
มันมีหางยาวเหมือนหมายเลข 1 ส่วนหัวชัดๆ เหมือนหมายเลข 2
พุ่งอยู่นาน มองดูจนลับขอบฟ้า การพุ๋งไม่มีเลี้ยว โค้งไปตามโลก
เวลาประมาณ 5 โมงครึ่ง ท้องฟ้าออกเทาๆ คล้ายรูปนี้แหละ
UFO ใช่ป๊ะ ใครรู้มั่ง


คนานันถ่าย1.jpg

 

รูปสามมิติ คนไทยเก่งมากที่ทำได้อย่างฝรั่งเขา เคยเห็นมาแล้ว ครับ สวยดีนะ ขอชมสุดยอด น่าจะมาทำแถว ๆ แหล่งท่องเที่ยวใกล้ ๆ เช่น พัทยามั่งนะ เดินทางใกล้ดีออก

 

<TABLE class=tborder id=post2583937 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid"> วันนี้, 05:11 PM </TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right> #449 </TD></TR><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->ไอย<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2583937", true); </SCRIPT>
สมาชิก

วันที่สมัคร: Dec 2007
ข้อความ: 836
Groans: 2
Groaned at 38 Times in 22 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 9,093
ได้รับอนุโมทนา 16,072 ครั้ง ใน 1,249 โพส
พลังการให้คะแนน: 254


</TD><TD class=alt1 id=td_post_2583937 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->ถูกต้องแล้วค่ะ ลูกทั้งสองคนเป็นลูกของไอยเอง แต่เรื่องนี้
มีที่มาที่ไปค่ะ เนื่องจากเดิมทีโครงการนี้ ทางแม่ชีบุญช่วย
(ขณะนี้ได้ลาสิกขาบทแล้ว) ได้มาปรึกษากับจารนีโม่
เนื่องด้วยแม่ชีมีเหตุจำเป็นต้องไปบวชชี แต่เป็นห่วงลูก ๆ
ของแม่ชีว่าจะไม่มีใครส่งเสียเลี้ยงดู จารโม่จึงได้มาปรึกษา
กับไอยและจารแพท ซึ่งจารแพทรับปากว่าจะช่วยเป็น
การส่วนตัว ส่วนไอยก็รับปากว่าจะช่วย และเป็นคนจัดการ
บอกข่าวคราวเรื่องนี้ไปกับพรรคพวกเพื่อนฝูงให้เข้ามาช่วย
ดูแลจัดการซึ่งหลาย ๆ คนก็แสดงเจตจำนงค์ ซึ่งเป็นการบอก
กล่าวกันภายใน ไม่ได้แจ้งลงหน้าเวป ซึ่งโครงการแรกนั้น
มีหลาย ๆ คน มีความจำเป็นขอถอนตัว ไม่สามารถโอนเงิน
ให้โครงการได้ ทำให้ยอดเงินไม่ตรงตามเป้าหมาย<O</O
ที่จะให้ลูกแม่ชีบุญช่วย ซึ่งไอยได้นำเงินส่วนตัวออกมา
support ตรงนี้ โดยไม่ได้แจ้งให้ใคร ๆ ทราบ
ซึ่งทำให้โครงการแรก บัญชีต้องติดลบ จึงได้เริ่มทำ
โครงการที่สอง เนื่องจากแม่ชียังอยู่ในเข้าพรรษา
จึงต้องทำโครงการต่อเนื่องออกไป
<O</O
ทางจารนีโม่จึงแจ้งรายละเอียดลงหน้าเวป ซึ่งในเรื่องการดูแล<O</O
บัญชีต่าง ๆ นั้น ไอยไม่ได้มีความประสงค์จะเข้ามาดูแลเลย<O</O
แต่ทุก ๆ คนต่างมีมติให้ไอยเป็นคนดูแลจัดการ และมีอำนาจ<O</O
ในการตัดสินใจในโครงการนี้ทั้งหมด ซึ่งเรื่องนี้ผู้ที่อยู่ใน<O</O
โครงการรุ่นที่ 1 ทราบดีทั้งหมด ว่าจริงหรือไม่
เนื่องจากพอมีโครงการรุ่นที่ 2 เกิดขึ้นนั้น ทางอาจารย์<O< font O<>
นีโม่เห็นว่า ไอยเป็นผู้ support โครงการนี้มาตั้งแต่แรก<O< font O<>
รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ของสถานธรรม ไอยก็ได้ใช้เงิน<O< font O<>
ส่วนตัวออกให้ทั้งสิ้น ซึ่งเรื่องนี้มีอาจารย์นีโม่เป็นผู้ทราบ<O< font O<>
แต่เพียงผู้เดียว ซึ่งหลาย ๆ คนทราบแต่เพียงว่า<O< font O<>
ไอยออกมาทำหน้าที่นี้ให้กับสถานธรรม 100 % โดย<O< font O<>
ไม่ได้ทราบเลยว่า ไอยเองก็มีหน้าที่การงาน มีรายได้<O< font O<>
ที่เกิดจากการทำงาน ร่วมกับน้องชาย คือคุณใหญ่<O< font O<>
เนื่องจากไอยต้องการปฏิบัติธรรม และช่วยสถานธรรม<O< font O<>
อย่างเต็มตัว จึงได้ขอสละหน้าที่การงาน และรายได้<O< font O<>
ทั้งหมด ให้กับน้อง ๆ ไอย เป็นคนดูแลและจัดการ<O< font O<>
โดยให้ทุก ๆ คนรับปากว่า จะช่วยดูแลไอย เรื่องค่าน้ำ<O< font O<>
ค่าไฟ เพื่อให้ไอยได้ปฏิบัติธรรมได้อย่างเต็มที่ <O< font O<>
ซึ่งทำให้อาจารย์นีโม่เห็นว่า ไอยก็ที่จะสละความสุข<O< font O<>
ส่วนตัว กล้าสละทรัพย์สินเงินทอง ทรัพย์สมบัติ<O< font O<>
ทั้งหมด เพื่อความเจริญในทางธรรม และยอมสละ<O< font O<>
รายได้ส่วนใหญ่ของตนเอง มาดูแลเรื่องค่าใช้จ่าย<O< font O<>
ให้กับสถานธรรม ซึ่งยอดเงินตัวเลขต่าง ๆ เหล่านี้<O< font O<>
ไอยมีหลักฐานทางการเงินทุกอย่าง ว่ารายได้ของไอย<O< font O<>
[B]แทบทั้งหมด นอกจากให้กับลูก ๆ ไอยแล้ว มาเป็น[/B]<O< font O<>
[COLOR=blue][B]ปัจจัยให้กับสถานธรรมทั้งสิ้น [/B][/COLOR]<O< font O<>
[COLOR=#ff00ff][FONT=Verdana]ซึ่งเรื่องนี้ ไอยไม่ประสงค์ออกนาม และไม่ได้ออกหน้าแต่อย่างใด[/FONT]
[/COLOR]<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O< p O<>[FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=#ff00ff]ซึ่งทำให้อาจารย์นีโม่เห็นว่า ในเมื่อไอยเองยอม[/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta]สละรายได้[/COLOR][/SIZE][/FONT]</O<><O< p O<>
[SIZE=4][COLOR=magenta][B]ให้สถานธรรม อย่างน้อยก็ควรให้ลูก ๆ [/B][/COLOR][/SIZE][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ของไอย[/B][/COLOR][/SIZE]
[SIZE=4][COLOR=magenta][B]อยู่ในโครงการพ่อแม่บุญธรรม [/B][/COLOR][/SIZE][SIZE=4][COLOR=magenta][B]เนื่องจากไอย[/B][/COLOR][/SIZE][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ออกมา[/B][/COLOR][/SIZE]
[SIZE=4][COLOR=magenta][B]ปฏิบัติธรรม เฉกเช่นเดียวกัน[/B][/COLOR][/SIZE][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ซี่งรายได้ที่ไอย[/B][/COLOR][/SIZE][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ได้ให้กับ[/B][/COLOR][/SIZE]
[SIZE=4][COLOR=magenta][B]สถานธรรมนี้ มากกว่าที่ลูกของ[/B][/COLOR][/SIZE][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ไอยเข้าโครงการ [/B][/COLOR][/SIZE]
[SIZE=4][COLOR=magenta][B]เป็นคนละ 1,000 บาท หลายเท่านัก+[/B][/COLOR][/SIZE]
<O< font O<>
[FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]พูดง่าย ๆ ในภาษานักธุรกิจ คือ อัฐิยาย ซื้อขนมยาย[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]<O< font O<>
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]แต่ถ้าพูดในทางสายบุญกันแล้ว ไอยไม่ได้คิดเช่นนั้นเลย[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma]<O< font O<>[/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ซึ่งเรื่องลูกไอยเข้าโครงการนี้นั้น ไอยไม่ขอยอมรับตั้งแต่แรกแล้ว[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]<O< font O<>
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]เนื่องจากทางครอบครัวไอยเอง สามารถเลี้ยงดูลูกของไอย[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ได้[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]โดยไม่จำเป็นต้องมาให้ทุนอะไรหรอก แต่จารโม่บอกว่า[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma]<O< font O<>[/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ทุกคนต้องเท่ากัน เพราะโครงการนี้ ไม่ได้ทำเพื่อบุคคลใด[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma]<O< font O<>[/FONT]

[FONT=Tahoma][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]บุคคลหนึ่ง หรือกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือครอบครัวใด ครอบครัวหนึ่ง[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
<O< p O<>[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ในเมื่ออีกฝ่ายปฏิบัติธรรมในทางธรรม และอีกฝ่ายปฏิบัติในทางโลก[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]<O< font O<>

[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ทุกคนต้องได้รับเท่าเทียมกันทุก ๆ คน ซึ่งเรื่องนี้ไอยเองก็ยังนึก[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]<O< p O<> </O<>
<O< p O<>[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=magenta][B]ขอบคุณในความเมตตาและความยุติธรรม อย่างไม่มีพวกฉัน [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]<O< font O<>
[FONT=Verdana][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=magenta][B]พวกเธอของจารโม่ แต่อย่างใดทั้งสิ้น [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]</O<>[/FONT]</O<></O<>[/FONT]</O<>[/FONT]</O<>[/FONT]</O<></O<>[/FONT][/FONT]</O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<>
<O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<><O< p O<><O< font O<><O< font O<><O< font O<>[FONT=Tahoma][FONT=Tahoma]<O< font O<><O< font O<>[FONT=Tahoma]<O< font O<>[FONT=Tahoma]<O< p O<>[FONT=Tahoma]<O< font O<><O< p O<>[FONT=Tahoma]<O< font O<>[B][SIZE=4][FONT=Verdana][COLOR=#006400]สำหรับเรื่องบัญชีโครงการพ่อแม่บุญธรรมนั้น ไอยได้แจ้ง
รายละเอียด[/COLOR][/FONT][/SIZE][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen]รวมทั้งหลักฐานทางการเงินที่ชัดเจน[/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen] แน่นอน [/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][/B]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]และยินดีเปิดเผย[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ทุก ๆ ข้อมูลให้ทราบ ซึ่งเรื่องนี้ในที่ประชุม[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ก็รับทราบกันหมดทุก ๆ คน[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]และปราศจากข้อโต้แย้งใด ๆ ทั้งสิ้น[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]

[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ในเรื่องการทำบุญบริจาคต่าง ๆ ไอยได้ทำเป็นการส่วนตัว และ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma]<O</O[/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ไม่ประสงค์ออกนามมานานแล้ว ก่อนที่จะมาทำงานให้กับ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]สถานธรรม[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ซึ่งเรื่องนี้ หลาย ๆ คนในเวปพลังจิต[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ก็ทราบดี [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]รวมทั้งบริจาคให้กับ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]วัดวาอารามต่าง ๆ โดยไม่ได้ป่าว[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ประกาศบอกใครทั้งสิ้น [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]

[FONT=Tahoma]<O</O[/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ทั้งนี้ทั้งนั้น ไอยมีเพือนมีกัลยณมิตรทุกสาย ทุกกลุ่ม ที่อยู่[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ในสายธรรมะ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]และสายพลังแทบทั้งนั้น และเมื่อถึงเวลา[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]อันสมควรที่จะออกมา[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ปฏิบัติธรรมด้วยตัวเอง [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]โดยมีธรรมะ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ของพระพุทธองค์ท่านเป็นแนวทางนั้น[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ไอยก็ศึกษาและ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ปฏิบัติ โดยมีครูบาอาจารย์และกัลยณมิตรให้คำแนะนำ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]<O</O[/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ปรึกษามาโดยตลอด ซี่งไอยไม่ได้ยึดติดกับกลุ่มใด บุคคลใด[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]รวมทั้ง[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]อาจารย์นีโม่เอง [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]

[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ดังนั้น ไอยปฏิบัติธรรม ศึกษาธรรม โดยอยู่ในแนวทาง[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ปฏิบัติ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ของพระพุทธองค์แต่เพียงผู้เดียว เพราะฉะนั้น การตัดสินใจ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]<O</O[/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]เลือกทางเดินของตนเองในทางธรรม ไอยไม่ได้ถูกครอบงำ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT]
[FONT=Tahoma][FONT=Verdana][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ของบุคคลใด[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/FONT][FONT=Tahoma][COLOR=darkgreen][SIZE=4][B][FONT=Verdana]กลุ่มใด หรือสำนักใด ทั้งสิ้น [/FONT][/B][/SIZE][/COLOR][/FONT][FONT=Tahoma][COLOR=darkgreen][SIZE=4][B][FONT=Verdana]แต่เป็นทางเดิน[/FONT][/B][/SIZE][/COLOR][/FONT]
[FONT=Tahoma][COLOR=darkgreen][SIZE=4][B][FONT=Verdana]ที่ไอยยึดและปฏิบัติ[/FONT]อันถูกต้อง[/B][/SIZE][/COLOR][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ตรงตามพระสัทธรรมเท่านั้น[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]

[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]แต่ในเมื่อหลาย ๆ คนมีข้อสงสัยในทาง อันก่อให้เกิด[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ประเด็น[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ที่พูดเกินความเป็นจริง ไอยก็ยินดีเปิดเผยข้อมูลเท็จจริงทั้งหมด[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ ไอยได้เปิดเผยกับ พี่ ๆ น้อง ๆ ทุกคน [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ที่พุทธรรมสถาน[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ธนบุรีรมย์ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]รวมทั้ง[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]พยานหลักฐานทางการเงินและ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]พยานหลักฐานทางบุคคล [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ที่มีที่มาที่ไปอย่างชัดเจน แน่นอน ซึ่งทุก ๆ คน [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ปราศจาก[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ข้อกังขาใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ไอยเลือกที่จะปฏิบัติใน[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]สาย[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ธรรมะที่เป็นแก่นแท้ ของจริง [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ตามแนวทางของ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]พระพุทธองค์ [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]

[U][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]เพราะฉะนั้น[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ข้อขัดแย้งใด ๆ ที่เกิดขึ้น [/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]เพราะต่างคน[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/U]
[U][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ต่างเดินคนละแนวทาง ก็อย่าได้[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]พยายามให้[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ไอยเข้าไป[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/U]
[U][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]เกี่ยวข้องด้วย เพราะไอยก็มีเส้นทางเดินเป็นของ[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B]ตัวเอง[/B][/COLOR][/SIZE][/FONT][/U]
[FONT=Tahoma][SIZE=4][COLOR=darkgreen][B][U]เฉกเช่นเดียวกัน [/U][/B][/COLOR][/SIZE][/FONT]
</O<>[/FONT]</O<></O<>[/FONT]</O<>[/FONT]</O<>[/FONT]</O<></O<>[/FONT][/FONT]</O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<></O<>
</TD></TR></TBODY></TABLE>

 

อะไรที่มันเกี่ยวข้องกับสาธารณะชน เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์โดยส่วนรวม เราทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องช่วยกันดูแล รักษา ตรวจสอบและปกป้อง ดังนั้นถ้าพวกเราไม่ทำหรือไม่คิดที่จะทำ เราจะรอให้ใครเป็นผู้กระทำ รอรัฐบาล หรือรอกระทรวงไหน??
พวกเรานี่แหละที่ต้องทำ

 

ไปอ่านเจอมาว่าเค้าจะสร้างที่จังหวัดนครสวรรค์

Pasaan Memorial/ Museum
Design Team: Fars Studio
Location: Nakom-Sawan, Thailand
Status: Competition 1st Prize
Cost: 200 Million Baht













http://travelwithfrankgehry.blogspot.com/2009/11/pasaan-memorial-museum-by-fars-studio.html

 

ไม่ค่อยสบายใจครับ ต้องขออนุญาตมาพูดคุยกันในฐานะผู้ที่มีสติได้เห็นทุกข์เห็นภัยในวัฎสงสาร และก็ได้พยายามขวนขวาย ตะเกียกตะกายเพื่อหาทางที่จะออกจากทุกข์เหมือนกับเพื่อนๆ พี่ๆ ทั้งหลาย ทั้งที่ได้สมัครเป็นสมาชิกมีโอกาสได้แสดงความคิดเห็นพูดคุยจนเป็นที่รู้จักกัน และที่ไม่ได้สมัครสมาชิกแต่ก็ได้มีโอกาสได้เข้ามาอ่าน ได้ศึกษาข้อความต่างๆ ในกระทู้แห่งนี้ซึ่งเป็นกระทู้เล็กๆ ในเว็บไซด์พลังจิต แต่ที่สำคัญคือเว็บนี้เป็นเว็บพุทธศาสนาโดยตรง

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าในการปฏิบัติธรรมในทางพุทธศาสนา หากนับเฉพาะแค่เพียงในประเทศไทยก็จะพบว่ามีแนวทางปฏิบัติของแต่ละครูบาอาจารย์ที่แตกต่างกันไป หลากหลายเส้นทางในการที่จะนำพาพุทธบริษัททั้งหลายที่ปฏิบัติแล้วเห็นว่าถูกกับจริตของตนเองให้ก้าวดำเนินไป แต่จุดหมายปลายทางของทุกๆ แนวทางของการปฏิบัตินั้น ต่างก็ตั้งหลักปักชัยไว้ที่มรรคที่ผล มีพระนิพพานเป็นที่สุดด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้น เรา ซึ่งกล้าพูดกันอย่างเต็มปากเต็มคำว่าเป็น “ผู้ปฏิบัติธรรม” เหมือนกัน จะปฏิบัติมาก ปฏิบัติน้อย จะปฏิบัติตรงทาง ทางตรง ทางโค้ง ทางตัน หรือแม้แต่ผิดทาง เราก็ไม่ควรเพ่งโทษ หรือตำหนิติเตียนกันให้เกิดเป็นการก้าวล่วงที่จะเป็นเหตุให้เกิดสิ่งที่ตรงกันข้ามกับคำว่า “ความสามัคคี” ถ้าสิ่งดังกล่าวเหล่านี้เกิดขึ้นในหมู่ภิกษุสงฆ์ ถึงขั้นที่จะต้องแบ่งเป็นฝักเป็นฝ่ายกันแล้วละก็ นั่นหมายถึงคำคำหนึ่งในภาษาบาลีที่ให้คำจำกัดความว่า “สังฆเภท” เลยทีเดียว ซึ่งไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลยถ้าหากจะพูดถึงเรื่องของกรรม<O

ต้องขอกราบเรียนย้ำเพื่อโปรดทราบอีกครั้งหนึ่งครับว่า ข้อความทั้งหมดในกระทู้ “ข้อความจาก กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา)” นี้ (ไม่นับรวมข้อความที่พูดคุยกัน) เป็นกระทู้ที่ “แจ้งเพื่อทราบ”เท่านั้น มิได้มีเจตนาที่จะแจ้งเพื่อให้เชื่อ หรือแจ้งเพื่อไม่ให้เชื่อแต่ประการใด และ “กลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา)” ก็ตั้งขึ้นมาเพื่อประสานงานเพื่อการเตือนภัย เพื่อการทำงานที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติใหญ่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเกิดขึ้นจริงหรือเท็จอย่างไรหรือไม่ ผมเอง และเพื่อนๆ ทุกๆ ท่านก็คงจะยังมีความเชื่อที่ก้ำกึ่งกันอยู่เช่นเดียวกัน อันนี้ก็แล้วแต่วิจารณญาณ หรือความเชื่อของแต่ละท่าน แต่ว่าผู้ที่อยู่ในกลุ่มฯ นี้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ตั้งแต่ต้นในสมัยเริ่มแรกเมื่อกว่าสิบปีก่อนนั้น และยังดำเนินการอยู่อย่างต่อเนื่องมาจนถึงทุกวันนี้ ต่างก็มีความเชื่อเช่นนั้น ก็น่าสนใจนะครับว่าอะไรที่เป็นเครื่องยืนยันในการที่ทำให้คนกลุ่มนี้เชื่อเช่นนี้ในสมัยนั้น จนถึงขั้นมีรายการวัดใจยอมละทิ้งหน้าที่การงานออกไปฝึกกันแบบอดๆ อยากๆ แถมไม่ใช่ระยะเวลาแค่เดือนสองเดือน ผมถึงเคยกล่าวชักชวนเพื่อนๆ ที่เพิ่งได้เข้ามาทำความรู้จักกับกลุ่มฯ นี้ ได้ลองกลับไปศึกษาที่มากันก่อนในหน้าต้นๆ ของกระทู้นี้ เพื่ออย่างน้อยจะได้เข้าใจว่ามีขั้นมีตอนกันมาอย่างไร ตั้งแต่มนุษย์ต่างดาวเริ่มติดต่อสื่อสารมา จนถึงมีการเตรียมการฝึกบุคลากรที่เป็นส่วนหนึ่งที่จะต้องทำงานในอนาคต และที่สำคัญที่อยากจะเรียนเน้นให้ทราบคือ “ฝึกอะไร”<O</O

การฝึกในสมัยนั้นก็ไม่ต่างจากการปฏิบัติธรรมโดยทั่วๆ ไป แต่สิ่งที่แปลกขึ้นมาในโลกใบนี้ และได้รับการบอกกล่าวว่าไม่เคยมี ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ก็คือการฝึกโดยมนุษย์ต่างดาว และมีWave หรือคลื่นที่สามารถเข้ามาแทรกแซงในขันธ์ทั้งห้าของผู้รับการฝึกได้ ซึ่งรายละเอียดของการฝึกผมเองได้เคยกล่าวไว้แล้ว คงจะไม่กล่าวซ้ำอีก ดังนั้นเพื่อนๆ จึงไม่สามารถที่จะเอาการฝึก การปฏิบัติดังกล่าวนี้ ไปเทียบเคียง หรือไต่ถามจากครูบาอาจารย์ที่ไหนในโลกนี้ได้เลย แต่อยากจะเรียนให้ทราบว่านี่คือรูปธรรมที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดในการที่จะให้ความช่วยเหลือมนุษย์โลก หากว่าภัยพิบัติที่กล่าวขานกันนั้นมันเกิดขึ้นกับโลกเราจริงๆ <O

การที่ต้องมีWaveเข้ามาในขันธ์ห้าของผู้ที่จะต้องทำงานเพื่อให้ความช่วยเหลือเกี่ยวกับเรื่องภัยพิบัตินั้น เราๆ ท่านๆ ลองนึกภาพดูว่า หากเกิดภัยพิบัติใหญ่ๆ ขึ้นจริง จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไฟฟ้าไม่มีแน่นอน การติดต่อสื่อสารก็ถูกตัดขาด ใครมีโทรศัพท์มือถือก็เอาไว้แค่ดูเวลา และเล่นเกมส์ฆ่าเวลาได้จนกว่าแบตฯ จะหมด การจราจรก็อาจไม่เหลือแม้แต่ถนน และเรื่องแย่ๆ อื่นๆ อีกมากมายที่เรายังคิดไม่ออก แต่ที่สำคัญคือการยังมีชีวิตอยู่ เพียงเท่านี้เพื่อนๆ ก็คงจะจินตนาการออกว่าทำไมWaveถึงมีความจำเป็น ขอยกตัวอย่างเอาแค่เฉพาะWaveความคิดก็แล้วกัน ถ้าในสถานการณ์อย่างนั้นมีคลื่นความคิดเข้ามาว่าควรจะต้องไปทางนั้น ทำอย่างนี้ ใช้อุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวต่างๆ ที่ติดตั้งไว้ไปดำเนินการอย่างนั้น ทำงานอย่างนี้ ดังนี้เป็นต้น<O

แต่ ณ ปัจจุบัน รวมระยะเวลาย้อนหลังไปจนถึงช่วงเวลาที่เริ่มมีการฝึกบุคคลกันนั้น เป็นช่วงเวลาที่ยังไม่ถึงเวลาที่บุคคลที่กล่าวกันว่าเป็นคนระบบ (ไม่มีการแยกรุ่น) จะต้องไปทำงานเพื่อให้การช่วยเหลือในเรื่องภัยพิบัติจริง จึงยังเป็นช่วงเวลาของการฝึกอยู่ ฝึกอะไร ก็ฝึกปล่อยวางขันธ์ห้า ฝึกปล่อยวางตัวตน เพื่อจะได้เป็นประโยชน์ตน และเป็นรางวัลให้กับงานที่จะต้องทำในอนาคต ฝึกการรับคลื่น ฝึกการใช้อุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาว ก็เพื่อจะได้คุ้นเคย และเป็นตัวอย่าง รวมถึงเป็นเครื่องยืนยันให้กับบุคคลที่เป็นคนระบบด้วยกันถึงความมีอยู่จริงของWave และอุปกรณ์ของมนุษย์ต่างดาวที่กล่าวถึง <O

พระพุทธองค์ทรงเคยตรัสย้ำไว้แล้วว่า ขันธ์ทั้งห้าของเรานั้นมันไม่ใช่ของเรา มันไม่มีเราในขันธ์ห้า ขันธ์ห้าไม่มีในเรา มันเป็นอนิจจัง ทุกข์ขัง และอนัตตาในที่สุด ดังนั้นการที่จะมีWave เข้ามาเพื่อการทำการฝึกในช่วงเวลาที่ยังไม่มีเหตุการณ์ภัยพิบัติอะไรๆ เกิดขึ้นนี้ จึงไม่ควรกลัวว่าจะไม่เป็นตัวเราของเรา หรือไม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะหากคิดเช่นนั้น ก็คงจะผิดตั้งแต่เริ่มคิดแล้ว เปรียบเสมือนคนที่มีน้ำเข้าหู ก็มีคนแนะนำให้เอาน้ำหยอดเข้าไปในหูข้างนั้นอีก แล้วก็ให้ตะแคงหูเอียงให้น้ำไหลกลับออกมา น้ำที่หยอดเข้าไปใหม่ก็จะไปรวมตัวกับน้ำที่อยู่ในหูแล้วก็ไหลออกมาทั้งหมด ฉันใดก็ฉันนั้น ในเมื่อเราอยู่กับขันธ์ทั้งห้าของเราจนสนิทสนมกลมเกลียวเป็นอันหนึ่งอันเดียวคือเป็นเราไปแล้ว วันดีคืนดีมีอุปกรณ์HI-TECH มาแยกให้เราเห็นอย่างเด่นชัดขึ้นในแต่ละขันธ์ ให้พิจารณาเห็นว่ามันไม่ใช่ของเราง่ายขึ้น ก็น่าจะถือเป็นสิ่งที่ดี แต่จะอย่างไรก็ตามยังไม่มีอุปกรณ์ใดมากดปุ่มให้ใครบรรลุธรรมได้ นอกเสียจากการต้องใช้ปัญญาไตร่ตรองของคนนั้นๆ เองทั้งสิ้น และผลของการปฏิบัติคนๆ นั้นก็คงต้องได้ทราบด้วยตนเองอยู่ดี<O

และสิ่งที่หลายท่านยังอาจจะไม่ทราบมาก่อนเกี่ยวกับธรรมเนียมปฏิบัติของกลุ่มเขากะลา(ยุคแรก)ก็คือการขอขมากรรมซึ่งกันและกัน ดังนั้นผมจึงขอถือโอกาสนี้ ทั้งในฐานะส่วนตัว และในฐานะตัวแทน(ชั่วคราว) ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา) หากกายกรรมใด วจีกรรมใด หรือแม้แต่มโนกรรมใด หากได้กระทำล่วงเกินต่อท่านหนึ่งท่านใด หรือหลายท่าน ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ทั้งที่เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ผมและกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา) ขอกราบขอขมากรรมต่อท่านทั้งหลาย ขอคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งหมดทั้งมวลที่เว็บพลังจิตแห่งนี้มีการกล่าวพระนามถึง หรือกล่าวนามถึง ขอได้โปรดเสด็จมาเป็นพยานและโปรดอำนวยอวยชัยให้ท่านทั้งหลายมีความเจริญในธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในเร็ววัน ได้มรรคผลนิพพานอย่างเร็วไวด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ<O

 

ขออนุโมทนากับข้อความดังกล่าวข้างต้นของอาจารย์ no.9 ทุกประการครับ

และขออนุญาต นำคำกล่าวขอขมากรรม ตามธรรมเนียมปฏิบัติของกลุ่มฯ มาใช้ด้วยคนนะครับ

หากกายกรรมใด วจีกรรมใด หรือแม้แต่มโนกรรมใด ของข้าพเจ้า นายMOUNTAIN หากได้กระทำล่วงเกินต่อท่านหนึ่งท่านใด หรือหลายท่าน ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ทั้งที่เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ข้าพเจ้า ขอกราบขอขมากรรมต่อท่านทั้งหลาย ขอคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งหมดทั้งมวลที่เว็บพลังจิตแห่งนี้มีการกล่าว พระนามถึง หรือกล่าวนามถึง ขอได้โปรดเสด็จมาเป็นพยานและโปรดอำนวยอวยชัยให้ท่านทั้งหลายมีความเจริญใน ธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในเร็ววัน ได้มรรคผลนิพพานอย่างเร็วไวด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ<o></o>

 

ขอให้ทุกท่าน ดำเนินไปในหนทางแห่งสันติสุข
มีความเจริญก้าวหน้าในทางธรรม ยิ่งๆขึ้นไป

ท่านใดมีภาระหน้าที่ใดที่จะต้องกระทำ
ขอได้โปรดดำเนินการไปตามแนวทางของท่าน
เพื่อประโยชน์ตน และประโยชน์ท่าน พร้อมๆกันไป นะครับ

 

ขอร่วมอนุโมทนากับข้อความดังกล่าวข้างต้นของอาจารย์ no.9 และขอร่วมขอขมากรรมตามธรรมเนียมปฎิบัติ ของกลุ่มประสานงานเพื่อการเตือนภัย (เขากะลา) ด้วยคนครับ

 

ขออนุโมทนา กับ NO.9 ที่ ทำให้เรา เข้าใจ
แบบละเอียดอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่อ่านครบ 2 รอบแล้วทั้งหมด

 

ขออนุโมทนากับข้อความดังกล่าวข้างต้นของอาจารย์ no.9 ทุกประการครับ

และขออนุญาต นำคำกล่าวขอขมากรรม ตามธรรมเนียมปฏิบัติของกลุ่มฯ มาใช้ด้วยอีกคนนะครับ

หากกายกรรมใด วจีกรรมใด หรือแม้แต่มโนกรรมใด ของข้าพเจ้า นายสุขสมบูรณ์ (A.41) หากได้กระทำล่วงเกินต่อท่านหนึ่งท่านใด หรือหลายท่าน ทั้งต่อหน้าก็ดี ลับหลังก็ดี ทั้งที่เจตนาก็ดี ไม่เจตนาก็ดี ข้าพเจ้า ขอกราบขอขมากรรมต่อท่านทั้งหลาย ขอคุณพระศรีรัตนตรัย และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายทั้งหมดทั้งมวลที่เว็บพลังจิตแห่งนี้มีการกล่าว พระนามถึง หรือกล่าวนามถึง ขอได้โปรดเสด็จมาเป็นพยานและโปรดอำนวยอวยชัยให้ท่านทั้งหลายมีความเจริญใน ธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป กระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้ในเร็ววัน ได้มรรคผลนิพพานอย่างเร็วไวด้วยเทอญ สาธุ สาธุ สาธุ<O></O><!-- google_ad_section_end -->

 

จริงๆแล้ว เริ่มต้นทางกลุ่มฯ ก็ไม่มีอะไร อยู่แล้วครับ ที่เกิดขึ้นมา ถือว่าเป็นฉากที่ระบบ นำพามา ให้เป็นตัวอย่างของชีวิต ที่ หาสาระแก่นสาร เอาแน่อะไรไม่ได้เลย
เป็นไปตามหลักของไตรลักษณ์ อย่างเห็นได้ชัด เหตุการณ์ที่ผ่านมา หากเราสามารถพิจารณา รู้กระทบ รู้กระทำ อะไรเป็นเหตุ อะไรเป็นผล เราก็จะมีความเข้าใจว่า เพราะเป็นอย่างนี้ จึงเกิดอย่างนั้น ทุกข์ เกิด เพราะอะไร ดับ ด้วยอะไร

หากเราอยู่ในสถานการณ์ที่ กำลังก่อเกิดทุกข์มากขึ้นๆ เราก็ต้องทำให้ทุกข์นั้น น้อยลง อย่าไปฝืน เพราะขันธ์ห้ามันหล่อหลอมมาอย่างนั้น มีสิ่งมากระทบให้ทุกข์ มันก็ต้องทุกข์ จะไปห้ามได้อย่างไร ข้อสำคัญ เราอย่ากระโจนลงไปทุกข์กับขันธ์ ห้า ก็แล้วกัน ปล่อยมันเล่น ปล่อยมันแสดง ของมันไป เดี๋ยวมันก็เบื่อเอง เพราะไม่มีเพื่อนร่วมเล่นกับมัน ขันธ์ห้า บทจะร้าย ก็ร้ายสุดๆ บทจะดี ก็ดีใจหาย มันเป็นธรรมชาติที่ถูกผูกกับเงื่อนไขกรรม ของมันมาอย่างนั้นเอง

เมื่อเข้าใจแล้ว ก็ไม่มีอะไรยุ่งยากซับซ้อนครับ

ขออนุโมทนากับทุกชีวิตและจิตวิญญาณ ที่กำลัง ไต่ระดับ สู่จุดหมายปลายทางแห่งการหลุดพ้น ออกจากกองทุกข์ ทั้งหลาย ได้โดยสิ้นเชิง

 

ในที่สุดเขากะลา ก็กลับมาเป็น เขากะลา เหมือนเดิมที่อยู่กับความเป็นธรรมชาติ
ที่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติทั้งสิ้น ไม่ต้องมี จิตใดๆ ของขันธ์ใดๆมาช่วยปรุงแต่ง
ให้เป็นอย่างนั้น ให้เป็นอย่างนี้

จิตมนุษย์ที่ยังไม่มีความหลุดพ้นก็ยังคงปรุงแต่งกันไป อยากทำนั่น อยากทำนี่
ตามที่กิเลสบัญชา เมื่อเกิดภาวะตัณหา ก็บัญชาตามอำนาจเงิน เมื่อมีความไม่พอใจความมี ตัวเรา ก็เกิดขึ้น เปลี่ยนไปตามสภาวะทางอารมณ์ที่นึกคิดปรุงแต่งให้เป็นเช่นนั้นให้เป็นเช่นนี้

นี่คือละครฉากหนึ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ตามหลักไตรลักษณ์ล้วนๆ ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ให้ท่านๆได้พิจารณากัน และยังเป็นธรรมโอสถให้ทุกๆท่านได้บริโภคทางปัญญาด้วยกันทุกท่านเทอญ

 

<TABLE class=tborder id=post2586077 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR vAlign=top><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid" width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->NANA JITTANG<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_2586077", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Nov 2009
ข้อความ: 4
Groans: 4
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 2
ได้รับอนุโมทนา 7 ครั้ง ใน 3 โพส
พลังการให้คะแนน: 0



</TD><TD class=alt1 id=td_post_2586077 style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid"><!-- google_ad_section_start -->
ในที่สุดเขากะลา ก็กลับมาเป็น เขากะลา เหมือนเดิมที่อยู่กับความเป็นธรรมชาติ
ที่เกิดขึ้นอย่างธรรมชาติทั้งสิ้น ไม่ต้องมี จิตใดๆของขันธ์ใดๆมาช่วยปรุงแต่ง
ให้เป็นอย่างนั้น ให้เป็นอย่างนี้

จิตมนุษย์ที่ยังไม่มีความหลุดพ้นก็ยังคงปรุงแต่งกันไป อยากทำนั่น อยากทำนี่
ตามที่กิเลสบัญชา เมื่อเกิดภาวะตัณหา ก็บัญชาตามอำนาจเงิน เมื่อมีความไม่พอใจความมี ตัวเรา ก็เกิดขึ้น เปลี่ยนไปตามสภาวะทางอารมณ์ที่นึกคิดปรุงแต่งให้เป็นเช่นนั้นให้เป็นเช่นนี้

นี่คือละครฉากหนึ่งที่เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ตามหลักไตรลักษณ์ล้วนๆ ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ให้ท่านๆได้พิจารณากัน และยังเป็นธรรมโอสถให้ทุกๆท่านได้บริโภคทางปัญญาด้วยกันทุกท่านเทอญ<!-- google_ad_section_end -->

(ถูกต้องครับ):boo:​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

ผมเอาคุณป้ามองตนมาส่งครับ...

<table id="post2581392" class="tborder" align="center" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="0"><tbody><tr><td class="thead" style="border-style: solid none solid solid; border-color: rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 1px 0px 1px 1px; font-weight: normal;"> 05-11-2009, 10:13 PM </td> <td class="thead" style="border-style: solid solid solid none; border-color: rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 1px 1px 1px 0px; font-weight: normal;" align="right"> #396 </td> </tr> <tr valign="top"> <td class="alt2" style="border-style: none solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px;" width="175"> <!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->มองตน<!-- google_ad_section_end --> <script type="text/javascript"> vbmenu_register("postmenu_2581392", true); </script>
สมาชิก

วันที่สมัคร: May 2009
ข้อความ: 42
Groans: 0
Groaned at 0 Times in 0 Posts
ได้ให้อนุโมทนา: 306
ได้รับอนุโมทนา 782 ครั้ง ใน 42 โพส
พลังการให้คะแนน: 0


</td> <td class="alt1" id="td_post_2581392" style="border-right: 1px solid rgb(255, 255, 255);"> <!-- google_ad_section_start -->ใช้จิตที่ละเอียดพิจารณาก็จะรู้ว่า อะไรจริง อะไรเท็จ
จริง คือ เท็จ เท็จ คือ จริง........ของจริงนิ่งเป็นใบ้ ใครก็รู้
แต่ของไม่จริงนี่ซิ.........โฆษณาโอ้อวดสารพัด

อนิจจา......คนนอกศาสนาพุทธ มาสอนธรรมมะของพระพุทธองค์<!-- google_ad_section_end -->
</td> </tr> <tr> <td class="alt2" style="border-style: none solid solid; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255); border-width: 0px 1px 1px;"> <script type="text/javascript"> vbrep_register("2581392")</script> </td> <td class="alt1" style="border-style: none solid solid none; border-color: -moz-use-text-color rgb(255, 255, 255) rgb(255, 255, 255) -moz-use-text-color; border-width: 0px 1px 1px 0px;" align="right"> </td> </tr> </tbody></table> <table class="tborder" align="center" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"><thead> <tr> <td class="tcat"> สมาชิก 3 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ มองตน ในข้อความที่เขียนด้านบน </td> </tr> </thead> <tbody id="collapseobj_post_thanks_2581392" style=""> <tr> <td class="alt1"> <table class="tborder" align="center" width="100%" border="0" cellpadding="6" cellspacing="1"> <tbody><tr valign="top"> <td class="alt1"> Na Boon (เมื่อวานนี้), ydad89 (05-11-2009), อมตะนิพพาน (05-11-2009)
</td> </tr> <tr> <td class="alt2"> <center> [ อานิสงค์การอนุโมทนา ] </center></td></tr></tbody></table>
</td></tr></tbody></table>

 

สวัสดีครับ เพื่อนๆพี่ทุกๆคน

ผมห่างหายไปนาน นานนับเดือน ผมคิดถึงเพื่อนๆพี่ทุกคนที่เคยมีเมตตาต่อผม ผมยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนแปลง
แต่พอผมถอยออกไปอย่างเงียบๆ มีคน PM มาหาผมหลายสิบคน สอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น ว่ามันคืออะไรกันแน่
ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
มีคนสงสัยว่าขัดแย้งในเรื่องเรื่องพ่อแม่บุญธรรมหรือเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนใดใด หรือไม่ ผมตอบว่า มันไม่เกี่ยวกัน
เลยแม้แต่น้อย หรือแม้แต่การอยากเด่นอยากดัง ก็ไม่เกี่ยว อยากเป็นเจ้าสำนักก็ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจในการออกจากลุ่มของผม
แต่การตัดสินใจปิดสถานธรรมที่เขากะลา นครสวรรค์ และสถานธรรมอื่นๆ เช่น ที่ธนบุรีรมย์ มันเป็นการตัดสินใจของคุณธนวรรณDigital ด้วยตัวเอง
เพียงแต่เหตุการณ์มันบังเอิญสอบรับกันกับผม และเราก็ได้คุยกันในรายข้อมูลละเอียดที่ต่างคนต่างก็ไม่เคยได้รับรู้กันมาก่อน

แต่ มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายในชีวิตผมในหลายปีนี้
มันมหัศจรรย์เกินที่จะบรรยายออกมาเป็นคำพูด มันล้ำลึกเกินกว่าที่ใครๆจะคาดถึง
ผมคิดว่ามันเป็นประสบการณ์ทางจิต ที่ควรจะเปิดเผยให้กับทุกคนได้รับรู้รับฟัง

 

ผมพยายามออกไปอย่างบัวไม่ให้น้ำช้ำไม่ให้ขุ่น เรื่องราวบางเรื่องผมสงวนเฉพาะพี่ๆเพื่อนๆที่เข้าไปในวังวนแห่งจิตขั้นลึกเท่านั้น
แต่ก็ไม่มีใครฟังผม ..... แต่ก็ไม่เป็นไร
เมื่อผมถูกโจมตีต่อว่ามาที่กระทู้ผมอย่างโกรธแค้น ด้วยความที่ต้องการที่จะทำลายจากคนที่อีกฉากหนึ่งบอกว่าเป็นผู้ปฎิบัติธรรม
ผมก็รู้สึกว่าการที่เราอยู่นิ่งเฉย ไม่ออกมาเปิดเผยความจริง มันจะช่วยให้อะไรดีขึ้นหรือเปล่า......
เปล่าเลย...มันก็ยังเหมือนเดิม
เรื่องราวของเขากะลา 2 มันเป็นเรื่องราวที่มาจากตัวผมเองทั้งสิ้น
เรื่องของการถ่ายทอดพระญาณบารมี พระญาณรักษา ระหัสและข้อความจากจักรวาล
พิธีการขอขมากรรม ต่อเจ้ากรรมนายเวร การเชื่อระบบจากจักรวาล
ก็มาจากข้อมูลของผมที่ถ่ายทอดมา ไม่มีใครทำให้ผม และไม่ใช่"ระบบของเขากะลา" อย่างที่ทุกคนเข้าใจ

ผมเป็นผู้เริ่มเปิดฉากทุกๆฉากมาตลอดสองปีนี้ และผมจะปิดทุกฉากลงด้วยตัวผมเอง..............
ที่ทำไม่ได้ต้องการแยกตัวออกมาดัง เพราะผมไม่เคยต้องการสิ่งเหล่านี้ เมื่อผมบอกเล่าทุกอย่างจบลง(อาจจะใช้เวลา)
ทุกคนจะเข้าเหตุผลทุกๆอย่าง ด้วยสติและปัญญาธรรมดาๆ ไม่ต้องคิดให้มันยุ่งยากซับซ้อน

 

คาถาผูกจิต
มีหลายคนบอกว่าให้ผมอยู่เฉยๆ นิ่งๆทุกอย่างจะสงบลงไปเอง ต่างคนต่างทำไปตามเรื่องราวของตนเอง ไม่เกี่ยวข้องกัน
ผมเองก็เห็นด้วย แต่เมื่อพิจารณาดูอีกที ถึงผลลัพท์ของมัน มันร้ายแรงเกินกว่าที่พวกเราจะคาดคิด โดยเฉพาะมันได้เกิดกับเพื่อนๆพี่ของเรา
และพวกเขาเหล่านั้นยังหลับไหลไม่ยอมตื่น เพราะไม่มีกุญแจไขระหัสค่ายกลทางจิตวิญญาณที่พวกเขาถูกคุมขังเอาไว้อย่างรอบด้าน
ตอนนี้กุญแจไขความลับของวิชาเมืองลับแลทุกๆดอกอยู่ในมือผมแล้ว
ผมได้ช่วยเหลือหลายคนในการนำกุจแจแห่งสติและปัญญา ไขความคิดขอพวกเขาออกมาจากวังวนอันนี้
ตัวผมเอง คุณธนวรรณ คุณแดนเดือนเดียว คนที่เคยตกอยู่ในวงวนแห่งมิจฉาทิฐิ ด้วยการตั้งจิตเอาไว้ผิด มีมนสิการผิด
การเข้าใจในชีวิต โลกและจักรวาลด้วยมุมมองที่ผิด แม้นความเชื่อที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ แต่เราก็ยอมเชื่อโดยขาดสติพิจารณาไปอย่างง่ายดาย
โดยที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน มันราวต้องมนต์สะกดที่ลึกลับซับซ้อน มันมีกลไกทางความคิดที่แยบยล มันทำงานโดยใช้จิตหลอกจิต
มันราวกับว่าเราได้เดินไปในโลกอีกโลกหนึ่ง ทั้งๆที่เรากับกำลังเดินไปบนโลกใบนี้แท้ๆ
จิตใจมันถูกผูกมัดด้วย"อาคม" "คาถา" ที่เป็นคำเฉพาะของระบบ ที่พวกเราพูดกันอย่างพร่ำเพรื่อ แต่เมื่อกล่าวถึงคำๆนั้น
จิตของเราก็ตกลงไปสู่การผูดมัดเสียแล้ว
มันคือยาสั่ง มันคือขนมหวานที่มียาพิษแฝงเอาไว้ข้างใน รอวันสุกงอม และพร้อมที่จะรับฟังคำสั่งทุกเมื่อ แม้ว่าจะไปตายก็ตาม
เมื่อ ผมให้กุญแจพวกเขาทุกๆดอก พอพวกเขาไขประตูแห่งจิตวิญญาณออกมาได้
ทุกคนร้องขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ว่ามันคือ "แมททริกซ์ " จิตใจของเรามันได้ตกลงไปสู่ความดำมืดแห่งจิตวิญญาณ มันขาดสติในทุกๆอิริยาบท
มันได้ชักจูงจิตให้ไปผูกมัดกับสิ่งๆหนึ่ง ที่เราไม่รู้จัก และเราก็เชื่อว่าตัวเราไม่มีตัวตน และความสำนึกรู้ของเรามันได้พลันหายไปสิ้น มันทำให้เราขาดสติความระลึกในตัวตนของเรา
มันทำลายความรับผิดชอบทางศีลธรรมขั้นพื้นฐานของเรา มันทำจิตสำนึกที่ควรมีที่ควรเป็น หลายคนละทิ้งความรับผิดชอบต่อชีวิตครอบครัว หน้าที่การงาน
ความกตัญญูกตเวทิตา ต่อบุพการี ต่อครูอาจารย์ ทำให้เจาไม่เคร่งต่อศีล วินัย และขาดสติที่ตั้งมั่น
มันได้ทำลายไตรสิกขา ตั้งแต่ศีล สมาธิ จนถึงทำลายสัมมาปัญญา ทุกๆคนยอมรับว่าน่ากลัว มันแนบเนียนมาก

 

ความรู้แจ้งดัวยสัมมาปัญญา
ผมเคยปฎิบัติตามแนวสติปัฐฐานสี่มานานนับสิบปี เคยปฎิธรรมสมาธิจากครูบาอาจารย์สายหลวงปู่ดุลย์ วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ บ้านเกิดของผม
ผมศึกษาอภิธรรมจากอภิธรรมมูลนิธิสมัยท่านอาจารย์ใหญ่ยังมีชีวิตอยู่ จนผมพอจะรู้จักวิถีแห่งจิต เจตสิก ลักษณะอารมณ์แห่งจิต การเสวยอารมณ์ของจิตแต่ละประเภท
กำหนดแยกแยะรูปและนาม บัญญัติต่างๆ ตามแนวอภิธรรม
ผมเคยปฎิบัติได้ฌาณมาก่อน แต่เมื่อผมปฎิบัตืฃิตามแนวเขากะลา ฌาณมันหายไป มันไม่ลงองค์ฌาณมันได้แค่วิตกแลัววิจารแล้วกลับมาที่เดิม มันเป็นแบบนี้ทุกครั้งนานนับปี
จน หลังๆมานี้ ประมาณ 6เดือน ที่ผมพยามยามจะรวบรวมสมาธิจิต กำหนดใหม่เอาแบบเดิม ละทิ้งทฤษฎีระบบให้หมด และฌาณผมก็กลับมาเหมือนเดิม
6 เดือนมานี้ผมครุ่นคิดถึงแนวปฏิบัติ และสภาวะจิตที่มันได้เกิดขึ้นมาแปลกๆก่อนหน้านนี้ สลับไปมา จนรวบรวมกุญแจไขประตูจิตที่ละดอกๆ จนหลุดออกมาได้ด้วยตัวเอง
จนได้คร่ำเคร่งศึกษาจิต มาตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา พร้อมกันนั้นก็ได้ทำการสอบอารมณ์ของคนที่อยู่รอบๆตัว มาโดยตลอด และวัดผล วัดสภาวะจิตของตน ทดสอบอารมณ์ตนเอง
ถึงแม้นบางครั้งผมได้มีเจตนาล่วงศีล เพื่อทดสอบจิตใจของตนเองบางอย่าง และมันก็ล่วงศีลได้อย่างไม่สะทกสะท้าน อย่างไม่รู้สึกผิดชอบชั่วดีใดใด อ้อมันเป็นอย่างนี้เอง
จิตใจที่มีนิ่ง ราวกับว่ามันสงบ แต่มันเหมือนมีหมอกควันครอบงำอยู่ ไม่ไม่ได้สงบจริงๆ มันมีอนุสัยนอนเนื่องอยู่เหมือนเดิม อาจจะมากว่าเดิม แต่เรามองไม่เห็น...............
ผมมีจิตสัมผัสพิเศษมากกว่าคนอื่นๆ ผมมองเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น ผมรู้ในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ แต่ผมจะไม่พูดในที่นี้เพราะดูเหมือนว่าจะยอตนเองเกินไป ผมจะเล่าในฐานะคนธรรมดาๆ
เพื่อใชัสัมผัสธรรมดาๆ บอกเล่าให้ทุกคนเข้าใจ.........................