ถามเรื่อง กสิณดิน ครับ

ผมได้ฟังเทปเกี่ยวกับกสิณหลวงพ่อท่านบอกว่าให้ใช้ดินสีอรุณหรือดินแดงแต่อีกหม้วนนึ่งท่านบอกแค่ว่าให้เพ่งดินดิน ท่านบอกว่ามันไม่สำคัญ มันเป็นแค่เครื่องจูงใจให้จิตเป็นสมาธิ ปัญหาก็คือผมหาดินอย่างนั้นไม่ได้ครับ ผมอยู่ต่างประเทศ และอีกอย่างผมรู้สึกชอบกสิณดินมากๆดังนั้นผมจึงไม่ยอมเปลี่ยนศรัทธา ผมก็เลยไปตักดินจากหลังบ้านมาแล้วก็เอามาใช่ชามวงกลม แล้วก็เริ่มเพ่ง ไม่รู้ว่าผมทำถูกไหม บางทีผมก็กลัวว่ามาผิดทางจะเทดินทิ้ง แต่.. ผมนึกขึ้นได้บางท่านบอกว่ากสิณเป็นแค่กลอุบายให้จิตเป็นสมาธิ เพราะฉะนั้น.. จะผิดไหมครับที่ผมจะฝึกต่อไปโดยใช้ดินที่ผมมีอยู่? แล้วอย่างงี้จัดเป็นกสิณโทษไหมครับ? ขอบคุณครับ

 

สวัสดีคะ คุณที่สอบถามเรื่องกสินดิน
ดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ฝึก กสินดิน อยู่ขณะนี้ ดิฉันอยู่ประเทศไทย คุณอยู่ที่ไหนคะ
การฝึก กสินดิน ต้องใช้ดินสีเหลืองอรุณ ปั้นเป็นรูปวงกลมผิวหน้าดินเรียบไม่มีรอยตำหนิ เพราะถ้ามีรอยตำหนิหรือรูปร่างบิดเบี้ยวจะทำให้การจดจำรูปกสินที่ผิดเพี้ยนไป
หากว่าคุณต้องการดวงกสินดิน ติดต่อมาหาดิฉันได้คะ ที่

ปณิดา E-mail: pp_nong@hotmail.com

โทร. 083-2258541

ขออนุโมทนาบุญ คะ

 

ขอบคุณมากครับ ผมอยู่ ออสเตเลียครับ แต่ผมไม่รบกวนดีกว่าเพราะค่าส่งแพงมากและยุ่งยากผมคงจะต้องหากองอื่นฝึกไปก่อน ขอบคุณมากๆครับ ขอให้ได้ไปนิพพานในชาตินี้

 

ดินอย่างไรก้ได้ขอให้เป็
นวงกลมกว้างแบบ มาตรฐานแล้วกัน

 

กสินดิน ฝึกแล้วมีอานิสงค์ใดบ้างคะ?

 

หากได้มโนมยิทธิแล้ว สามารถฝึกกสิณครึ่งกำลังได้ทุกกองได้เลย

...กสิณดิน เอาดินก้อนไหนก็ได้ (เพราะจับภาพเป็นแล้ว)...

อารมณ์กสิณดินนี่สำคัญ..ความแข็ง ธาตุดิน แข็ง

 

ขอบคุณทุกคนมากๆเลยครับ

ส่วนที่คุณ kikinlala ถาม ตามตำราท่านบอกว่าสามารถทำให้ของอ่อนแข็งได้ เช่น น้ำ และ อากาศ อันนี้ตำราท่านบอกนะครับผมไม่กล้าพูดว่าผมบอกหรอกครับมันผิดเพราะผมยังไม่บรรลุ

 

หากได้มโนมยิทธิแล้ว สามารถฝึกกสิณครึ่งกำลังได้ทุกกองได้เลย

มโนเต็มหรือครึ่งหรอครับ กสินครึ่งกำลังคืออะไรหรอคับ

 

ก็จับนิมิตและอารมณ์ได้ครับ

แต่เสกไม่ได้จริงในโลกนี้ เพราะกำลังไม่ถึง ..แต่บนโลกทิพย์ทำได้

 

กสินดินจริง ๆ แล้ว ควรใช้ดินสีอรุณ (สำหรับคนที่จิตใจมีกำลังอ่อน)
ถ้ากำลังใจเข้ม จะใช้ดินปกติก็ได้ (ดินปลูกต้นไม้ทั่วไปหนะคับ)
อยุ่ที่ใจเรา ว่าตอนนี้เรากำลังฝึกกสินกองไหนอยู่ จริง ๆแล้วดินปกติที่ใช้ปลูกต้นไม้สีออกดำ ๆนะคับ สีดำนี่จัดเป็นกองสีของกสินสีเขียว
แต่ถ้ากำลังใจมั่นจริง ๆ ใจมันว่าเราฝึกกสินดิน ดินก็คือดิน ผลก้คือ คุฯกำลังฝึกกสินดินอยู่แค่นั้นเองคับ

ปล.มีทริกนิดนึงคับ ดินสีอรุณมันจะออกสีแดง ๆ แต่ถ้าคุณไม่มีสีดินสีอรุณจริง ๆ ก็ให้ไปหาสีที่มีสีเดียวกับสีดินสีอรุณมาทาสีดินดำก็ได้(เพื่อความสบายใจ) แต่เวลาฝึกก้ให้คิดว่านี่ละคือดินสีอรุณแล้วให้จำสีของดิน เวลาจำก็ ให้รู้สึกไปด้วยว่านี่ละคือดินนะอย่าดูหรือนึกอย่างเดียวให้ใช้ปัญญาไปด้วย การปฎิบัติจะเกิดผลไว

 

ผิดหรือไม่ก็ดูที่ผลสิคะ

ถ้าใช้แล้วมีสมาธิ ได้ผล ก็ใช้ค่ะ
แต่ถ้าใช้แล้ว มึนหัว เคร่ง เครียด ทึบๆ ทื่อๆ ก็เป็นกสิณโทษค่ะ
มีออกเยอะไปที่ทำตามหลักการเป๊ะๆ แล้วเพ่งมากเกิน เครียดจนเกิดกสิณโทษ


ถ้าคุณทำแล้วสุขสงบใจได้ จงทำต่อไป ดีแล้วค่ะ สาธุ...

 

อะไรบ้างคะที่ไม่มีดิน?


ในเมื่อสรรพสิ่ง คือ ดินน้ำลมไฟ ประกอบกันขึ้นมา
หน่อยเพ่งน้ำก็เห็นดินได้ เพ่งอากาศก็เห็นดินได้
เพ่งไฟก็เห็นดินได้อีก


แล้วอะไรละคะ ที่เราเรียกว่า "ดิน"?

 

1. อะไรบ้างคะที่ไม่มีดิน : น้ำ ลม หรือไฟ เป็นต้น ที่ไม่มีดิน ถ้าไม่ได้ต้องการศึกษาหรือแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก็อย่าส่งกระทู้เลยครับ ฝึกง่ายแต่สำเร็จเร็ว ดีกว่าฝึกยาก ๆ แล้วใช้เวลานานจึงสำเร็จนะครับ แบบที่คุณว่าจะใช้เวลานานมาก
2. ผิดหรือไม่ผิดที่จะดูดินอันเดิม ก็ให้ดูที่ผล : คำตอบนี้ก็ไม่ถูกต้องครับ ตอบเหมือนไม่เคยเพ่งกสิน คือผู้ถามต้องการทราบว่า ได้ทำถูกต้องแล้วหรือเปล่า คำตอบของคุณไม่ได้ให้คำตอบแล้วยังไม่ให้กำลังใจกับผู้ถามอีกด้วย
3. ถ้ากำลังใจเข้ม จะใช้ดินปลูกต้นไม้ก็ได้ : คำตอบนี้ก็ผิดครับ ดูตัวอย่างพระลูกชายนายช่างทอง ซึ่งพระพุทธเจ้าท่านเสกดอกบัวทองคำสีแดง ให้พระลูกชายนายช่างทองไปฝึก ทำไมพระบรมโลกนาถ ถึงไม่บอกให้ไปดูสีลูกชมพู่หรือสีผนังละครับหรือไม่ก็ไปเพ่งแดดแล้วนึกถึงสีแดง ในวัดมีส่วนที่เป็นสีแดงก็เยอะ ถ้าการเพ่งน้ำ แล้วให้นึกถึงดิน หรือถ้ากำลังใจเข้มแข็งแล้วจะเพ่งมะม่วงดิบก็จะสำเร็จกสินสีแดง คุณคงสำเร็จไปนานแล้วครับ มันเป็นไปไม่ได้ คำอธิบายของคุณมันแย้งกันเอง คือถ้าได้กสินแล้ว ก็จะเห็นอุงคหนิมิตได้อยู่แล้ว เวลาเห็นก็ไม่ได้สนใจภาพทางด้านหลัง แต่ที่ผู้ถามเค้าถามเพราะเค้ายังไม่ได้ ดังนั้นคำตอบของคุณไม่เป็นประโยชน์กับเค้าครับ
4. คนที่ฝึกสำเร็จ และยังเป็นมนุษย์ สามารถเสกได้ ทำได้ในทุกกสินที่หลวงพ่อท่านพูดครับ คำว่ากำลังไม่ถึง จริง ๆ ต้องพูดว่าเพราะไม่รู้ว่าสำเร็จแล้วทำอะไรได้ตะหาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้ามีคนบาดเจ็บแล้วต้องการเลือดกรุปบอมเบ-บลัด คนที่เสกได้จะต้องสำเร็จกสินอะไรบ้าง กองเดียวหรือว่าหลายอย่าง หลวงพ่อท่านบอกว่า ถ้าสำเร็จแล้วให้ไปเรียนกับพระครับ คือใช้การอธิฐานถามพระ ซึ่งเทวดาที่สำเร็จในสิ่งที่ถาม จะเป็นคนตอบ
5. กสินครึ่งกองไม่มีครับ พวกเดียวกับเทวทัต สมัยก่อนพระภาวนาพุทโธอ้างว่าท่านออกจากนิโรธสมาบัติครึ่งนึง ใครได้ตักบาตรจะได้บุญมาก ก็หลอกทั้งเพ เวลาบิณฑบาตรก็มองหน้าผู้หญิง ไม่มองที่บาตร
6. การฝึกกสิน ไม่ต้องขึ้นต้นด้วยอาณาปานุสติครับ ทำก็ได้ ไม่ทำก็ได้ เพราะจะฝึกกสิน ไม่ใช่อนุสติ อันที่จริง ถ้าได้อานาปานุสติ ก็จะระลึกถึงกสินที่เคยสำเร็จเมื่อชาติก่อนด้วย แต่จับลมหายใจยังยากกว่ากสินครับ (ตามวิสุทธิมรรคเริ่มที่กสิน)

ก่อนอื่น ให้ถามตัวเองว่า ต้องการฝึกกสินเพื่ออะไร เพื่อให้ได้ฤทธิ์ เล่นอะไรสนุก ๆ หรือว่าไม่ต้องการเกิดอีก
พระพุทธองค์เคยยกตัวอย่าง คนที่มีความเร็วมาก ขนาดว่าให้คนถือธนูยืนหันหลังหากันแล้วยิงลูกธนูไปทั้ง 4 ทิศ ถึงแม้คนที่เร็วมาก จะสามารถไปเก็บลูกธนูได้ทุกดอกก่อนที่มันจะตกดิน แต่พระพุทธองค์ก็แสดงให้เห็นว่า ยังช้ากว่าพญามัจจุราช และในมิลินทปัญหา ก็ได้แสดงไว้ว่า การรีบทำ จึงจะทำงานได้สำเร็จ ถ้ารอให้ข้าศึกบุกถึงประตูเมืองแล้วค่อยเริ่มปลูกข้าว มันก็ไม่ทันกิน ถ้ารอให้ใกล้ตายแล้วค่อยมาฝึกหรือแก่แล้วค่อยมาผึก มันก็สายเกินไป คนที่เด็กกว่าเรา ตายก่อนเราก็มีให้เห็นอยู่แล้ว

ก่อนการฝึกกสินในทุกครั้ง อย่างน้อย ให้ก็ให้สวดนะโม 3 จบ แล้วให้พิจารณาถึงความดึในศึล 5 ที่เราได้ปฏิบัตมาดีแล้วในวันนี้
1. ไม่คิดจะฆ่าสัตว์
2. ไม่ได้ขโมยของใคร MP3 หรือ Windows ปลอม หรือหนัง copy เหล่านี้ล้วนทำให้เราไม่สำเร็จ
3. ไม่ได้ผิดลูกเมียใคร ประเภทอยู่กันโดยผู้ใหญ่ไม่ได้ยินยอมถือว่าผิดข้อนี้
4. ไม่ได้โกหกใครเพื่อประโยชน์ของตนเอง (ถ้าต้องการคำอธิบายก็บอกครับ)
5. ไม่ได้ดื่มของมืนเมา เช่น ไวน์ เบียร์ เหล้านั้นห้ามอยู่แล้ว
และสุดท้าย ให้คิดไว้ว่า
ร่างกายนี้ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา เราต้องตายแน่ ๆ ตายเมื่อไหร่ขอไปนิพพาน

ถ้าเวลาน้อยก็ให้นึกถึงกสินได้เลย ไม่ต้องทำขั้นตอนที่กล่าวข้างต้น เช่น ทานข้าวอยู่ เข้าห้องน้ำ ช่วงพัก 10 นาที เป็นต้น

หัวใจของพระโสดาบันคือ
1. นับถือพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
2. ศึลบริสุทธิ์ (ไม่ต้อง 8 หรือ 10 หรือบวช สำคัญว่าถูกต้องตามเพศ)
3. นึกถึงความตายเป็นอารมณ์

พระที่มีศึล 227 บริสุทธิ์ย่อมสำเร็จได้เร็วกว่าเณรที่มีศึล 10 บริสุทธิ์และย่อมเร็วกว่าผู้ถือศึล 8 บริสุทธิ์ ตามลำดับ การนึกถึงศึล 5 ตลอดทั้งวันก็เป็นสมาธิแบบหนึ่ง คือ ศีลานุสติกรรมฐาน

การที่เริ่มต้นจากกสิน เพราะเป็นของหยาบ คือมีรูป มองเห็นง่าย อานาปานุสติยังยากกว่าเพราะเป็นของละเอียด พระพุทธโกษาจารย์ซึ่งเป็นผู้เขียนคำภีร์วิสุทธิมรรค ก็เริ่มต้นด้วยกสิณ และคนที่โกรธง่ายก็แนะนำให้ใช้ สีขาย เขียว แดง หรือเหลือง จะสำเร็จได้เร็ว คนในปัจจุบัน มีความโกรธกันอยู่มาก
แล้วรู้ได้ไงว่าสีไหนเหมาะ จริง ๆ แล้วไม่ต่างกัน แต่อาจลองวิธีนี้คือ
ให้เพ่งวันละสี แล้ววันที่ 5 ก็มาพิจารณาว่าเรานึกถึงสีไหนได้ชัดที่สุด หรือสีไหนทำให้เราไม่วอกแวก พอเลือกได้แล้วก็ต้องฝึกสีนั้นให้เต็มที่จนกว่าจะสำเร็จ ถ้าเห็นสึอื่นโผล่เข้ามาอีกก็อย่าไปถือเอา เพราะถ้าเราไปคิดว่าสีที่เห็นนั้นน่าจะดีกว่ามันก็จะไม่มีทางสำเร็จ ผมเคยเจอมาแล้วครับ เพ่งน้ำแล้วเห็นโล่ทองคำ พอไปเล่นสีเหลืองมันกลับจำไม่ได้ และภาพน้ำก็ไม่แจ่มใสเหมือนก่อน ถ้าตัดสินใจไม่ได้ให้ฝึกกสินสีขาว หรือไม่เช่นนั้นก็ให้ฝึกกสินแสง เพราะจะได้ตาทิพย์ พอสำเร็จแล้วก็เรียนกับเทวดาต่อเลย
ที่ผมไม่เริ่มกสินอื่นก่อนก็จะอธิบายให้ฟังครับ
1. เพ่งอากาศ ถึงแม้จะเจาะรูแล้วมองออกไป ก็เข้าใจยากว่าให้ดูอะไร บางทีก็มีสีต่างกัน ฟ้าอ่อน ฟ้าเข้ม หรือมีเมฆมาบัง สีคล้ำเป็นเมฆฝน ลอยไปลอยมาช้า ๆ ถ้าสำเร็จตาทิพย์แล้วก็อธิฐานให้กสิณสีขาวที่ทำอยู่หายไป และให้อุงคหนิมิตของอากาศปรากฏแทน จะง่ายกว่า
2. เพ่งดิน ก็คุยกันอยู่นี่ไงว่ามันสีแบบไหน อันที่จริงที่ใช้คำว่าอรุณ ก็หมายถึงโทนสีตั้งแต่เหลืองถึงส้มอ่อน แต่ถ้าเป็นพระอาทิตย์ตก จะเป็นส้มถึงแดง สมัยก่อนน้ำสะอาด ก็จะหาดินสีอรุณง่าย แต่ปัจจุบันน้ำสกปรก ก็เลยเห็นแต่สีออกเทา ๆ น้ำตาล ๆ ถ้าอยากรู้ให้ไปดูที่
http://share.psu.ac.th/file/sunaree.b/gold1.jpg
จะเป็นสีออกเหลือ ๆ อมน้ำตาล แต่ไม่เหมือนสีเหลือง ดูตรงที่ไม่มีทอง
3. เพ่งลม มันหารูปร่างได้ลำบาก ถ้าต้องการฝึก จะเอาริบบิ้นไปผูกกับพัดลมก็ได้ ให้ยาว ๆ หน่อย และเปิดลมต่ำสุด หรือไม่ก็เพ่งใบไม้ของต้นไม้ใหญ่ สังเกตเวลาใบไม้ไหว
4. เพ่งไฟ ต้องเสียเงินเยอะ เพราะต้องหาถังแบบที่ไว้เผากระดาษตรุษจีน แล้วเจาะรูมองสีของไฟ วิธีที่ง่ายกว่าคือ ถ้าที่บ้านมีคอนพิวเตอร์ ก็ให้สร้างวงกลมสีเหลืองอ่อนพื้นดำ จะเป็นสีของกสินไฟเลย สมัยก่อนไม่มีจอทีวี จึงไม่ได้พูดถึงวิธีนี้ การเพ่งเทียนผมไม่แนะนำครับ เพราะดวงเล็กแล้วส่ายไปมาบ่อยมาก
5. เพ่งน้ำ แล้วจะหาอะไรมารอง เพ่งทีไรก็จำได้ทั้งน้ำ กับสีของวัสดุที่รองน้ำ
วิธีที่ผมทำคือ ให้นึกถึงน้ำตก ตรงที่เป็นแผงน้ำติดกัน เหมือนม่านน้ำ ส่วนที่ใส ไม่ขุ่นขาว แล้วให้จำความใสของน้ำ หรือนึกถึงน้ำเต็มบาตรพระ

ข้อสำคัญของการฝึกกสิน คือ ต้องมีขอบ เพื่อจะได้จำรูปร่างได้ง่ายขึ้น ถ้าไปจ้องผนังสีขาวทั้งหมด มันจะสำเร็จได้ช้ามากกกก

ทำไมต้องศึลบริสุทธิ์ อันนี้พระนาคเสนให้คำอธิบายว่า เปรียบเหมือนเวลาที่จะมีการแสดงกายกรรม ถ้าแสดงบนพื้นไม่เรียบ ก็อาจเกิดผิดพลาดหรืออันตรายได้ แต่ถ้าพื้นเรียบเสมอกันดี เป็นปูน ไม่ใช่พื่อนทราย ก็แสดงได้ดี ท่านบอกว่า ศึลเป็นที่ตั้งของทุกอย่างในทางพุทธศาสนา
ถ้าเราสำเร็จกสินกองแรกแล้ว หลวงพ่อบอกว่าให้ฝึกให้ชำนาญ อย่ารีบเปลี่ยน เดี๋ยวจะกลายเป็นจับปลาสองมือ คำว่าชำนาญก็หมายถึงว่า สามารถเข้า ฌาณ 4 ได้ทันทีชั่วลัดนิ้วมือเดียว (หลวงพ่อบอกว่าแบบนั้นยังช้าไป)
ปัญหาที่ทำให้คนสำเร็จกันน้อยคือ เรื่องของความพร้อม ถ้านั้งแล้วร้อน สมาธิก็ไม่เกิด ถ้าตัวเหนียว ๆ ก็ทำให้รำคาญ หรือลูก ภรรยา หรือสามี ยังไม่นอน อันที่จริง ไม่จำเป็นว่าต้องอาบน้ำและแต่งตัวชุดขาว ถึงทำสมาธิได้ วิธีที่ผมใช้คือ หาซื้อลูกอมที่มีกล่องเป็นสีที่เราต้องการฝึก ขนาดพกไปมาได้ วางไว้บนโต๊ะที่เราทำงาน ถ้าอยู่บ้านก็ให้หาฟิวเจอร์บอร์ดสีน้ำตาลหรือเท่า แล้วเอากล่องคุกกี้มาทาบบนสติกเกอร์สีที่เราต้องการ ตัดให้ได้วงกลม แปะในระดับสายตา เท่านี้ก็ได้วัสดุสำหรับเพ่งแล้ว เคลื่อนย้ายสะดวก หาง่ายทำง่าย แต่ระวังลมแรงจะขยับไปมา ถ้าทำได้ดีกว่านี้ก็ไม่ว่ากัน

ตัวอย่างคำอธิฐานในกสินดินของผมนะครับ
ให้เข้าอุปจารสมาธิ (เห็นรูปกสินดินสึปกติ)
อธิฐานว่า ขอให้อากาศรอบกายของข้าพเจ้าแข็งเหมือนหิน และคุ้มครองข้าพเจ้าจากอันตรายต่าง ๆ
แล้วเข้าฌาณ 4 ของกสินดิน สีใสประกายพรึก
ออกมาอยู่ที่อุปจารสมาธิแล้วอธิฐานอีกครั้ง

สุวัฒน์ เลขวณิชกุล

 

กสิณดิน ผมว่าฝึกยากนะครับ
ดินสีนวล เนื้อดินละเอียดเรียบหายากครับ
จริงๆแล้ว เพ่งของแข็งก็ขึ้นชื่อว่าเพ่งดิน
แต่ว่ามันจับเป็นอารมณ์สมาธิมิได้ เกิดนิมิตมิได้
ดินสีอรุณนั้นดีสุดแล้ว ทำวงกลมเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1คืบ4นิ้วครับ
จะนิยมกันที่สุด

สาธุครับ เจริญในสมถะครับ
ไม่สนกสิณแสงบ้างเหรอครับพี่?

 

ไฟล์เสียงของหลวงพ่อฤาษีลิงดำ เรื่อง "กสิณ" มีหลายไฟล์ ครับ ในส่วนกสิณดิน หลวงพ่อฤาษีลิงดำเกริ่นเริ่มต้นถึงดินสีอรุณหรือดินขุยปู ครับ แต่เวลาปฏิบัติ หลวงพ่อ ฯ แนะว่าเราสามารถเพ่งดินตามพื้นดินได้ โดยถางหญ้าให้เรียบร้อย

หลวงพ่อ ฯ เตือนเสมอถึงกสิณโทษ ครับ

สำหรับการเพ่งดินตามพื้นดิน ผมเห็นว่าควรระวังเรื่องเศษหิน เศษกรวด ใบไม้ ใบหญ้า

เนื่องจากกสิณดินมีการจับยึดตัวกันสูงที่สุดในบรรดากสิณธาตุ (ได้แก่ น้ำ ไฟ และลม) ขณะเพ่ิงดิน อาจจะพิจารณาลักษณะเช่นนี้ของดินด้วยก็ได้ครับ นอกจากนี้สีของดินควรเป็นสีเดียวกันตลอด เพราะตอนท้ายสุดในขั้นปฏิภาคนิมิต (วัตถุที่เราเพ่ิงจะเป็นเพชรหรือแก้วคริสตัล) สีของดินจะไม่มีผล

ในไฟล์เสียงเรื่องกสิณของหลวงพ่อ ฯ ท่านกล่าวเพียงการฝึกกสิณสำหรับบุคคลที่มีอัชฌาสัยสุกขวิปัสสโก สำหรับบุคคลที่มีอัชฌาสัยฉฬภิญโญ หลวงพ่อ ฯ ให้ฝึกจนเป็นวสี แล้วอธิษฐานถึงฤทธิ์ (หลวงพ่อ ฯ ว่าเอาไว้ฝึกกันเล่นๆ ในโลกียวิสัย) ฤทธิ์ของกสิณดินคือทำให้ของแข็ง อ่อนตัวได้ หรือทำให้ของอ่อน แข็งตัวได้ หากควบกับกสิณสีเหลือง หลวงพ่อ ฯ บอกว่าสามารถทำให้เป็นทองคำได้ (แต่ไม่ควรทำโดยแสดงให้คนอื่นเห็น ฤทธิ์ของกสิณจะเสื่อม)

อนุโมทนาบุญ ครับ _/\_
ปล. ข้อมูลคลาดเคลื่อนประการใด ช่วยแจ้งผมด้วยนะครับ

 

กสิณ ไม่ยากหลอก....

 

ถ้าอยากได้กสิณเร็ว อย่าพึ่งไปเริ่มที่กสิณ ให้ขึ้นต้นด้วยอาณาปานสติให้ถึงสมาธิขั้นกลางทรงตัวดีก่อน แล้วค่อยไปที่กสิณ จากนั้นยกกสิณอะไรมาเพ่ง จะรู้สึกว่ามันไม่ยาก ลองทำดูคับ ให้เริ่มที่ อาณาปานสติก่อนครับ
ขอเป็นกำลังใจให้ครับ

 

ท่านที่สำเร็จกสิณไฟ

กสิณนี้น่าลองครับ

 

[ame=http://www.youtube.com/watch?v=JQO-2xTReQY&feature=player_embedded#]YouTube - พลังจิต 01[/ame]