การเปิดตาที่สาม

เป็นสัญลักษณ์ของต่างดาว ผู้ฝึกพลังจักรวาลน่าจะบอกได้นะครับ

 

มะใช่หรอก เป็นสัญลักษณ์ทั่วๆ ไป ไม่ใช่พลังจักรวาล หรือต่างดาว เพราะเสียงที่พูดในหัว มันก็โทรจิต ก็ถามไปเลยว่า ใครคุยกะเรา นี่แหละนะ ถ้ามีหูทิพย์อีกอย่าง ไม่ต้องนอนหลับมันทั้งคืนเลย น่ารำคาญที่สุด อย่าไปอยากได้มันเลยนะ เก็บแรงไว้นั่งวิปัสสนาดีกว่า อย่าไปลงสมถะเลย เปิดช่องให้จิตมารแทรกได้ง่ายๆ

อันนี้ความเห็นอัสดงนะครับ ใครเห็นไม่ตรงกันก็อย่ามาว่านะ อัสดงรู้แค่นี้แหละ เพิ่มเติมอะไรก็บอกด้วยนะครับ

 

หืมมมม ไม่บ้าหรอกค่

ผู้ปฎิบัติไม่ได้บ้า มีแต่หลง หรือเปล่า 555+

นุ๋ก่ม่ค่อยรุ้ แต่พอเรารุ้เห็นอะไรไปบอกคัยเค้า เค้าก็ว่าเราบ้าแบบนี้หละค่ อาจารย์นุ๋ ท่านเคยบอกว่า

ไม่ต้องไปพูด ไปเร่าให้ใคร ให้เรารับรู้ เห็นหนอๆ อย่าไปยึดติดมัน

เพราะงั้นเก็บไว้เล่าไว้ถามครูบาอาจารย์ หรือผู้รู้ หรือในบอร์ดนี้ดีที่สุดค่ะ

http://palungjit.org/threads/รับตอบข้อสงสัยในการเจริญพระกรรมฐาน.161084/

กระทู้นี่เค้าปรึกษาปัญหากรรมฐานนะค่ะ ลองเข้าไปศึกษาดู สัญลักษณ์นั้น อาจมีคัยพยายามสื่อสารพี่อยุ่ก่ได้..

^^ ลองไปถามหาจากผู้รู้ดูนะค่ะ

 

นานๆทีได้เข้ามาครับ... มือใหม่ มากครับ ผิดพลาดประการใดขออภัยครับ..

ยินดีที่ได้รู้จักทุกท่าน.. ฝากตัวด้วยครับท่านอาจารย์ทุกท่าน

**ผมลืมบอกไปตอนนี้รู้สึก ออกร้อน ที่ตามากมาย ไม่รู้เพราะเป็นเพราะฝึกผิดวิธีหรือ เพราะจ้องหน้าคอมนาน... - -"

 

ถ้าผมแกล้งเนียนทำเป็นมองไม่เห็นคงไม่บาปนะคับ 55555
ผมเพิ่งมาใหม่ มีเวลาอ่านไม่มากขอโทษด้วยนะคับ อยากได้วิธีปฏิบัตินะคับ ไม่ว่ากานน้า:''( อยากทำเป็นนะคับ

 

ถ้าผมแกล้งเนียนทำเป็นมองไม่เห็นคงไม่บาปนะคับ 55555
ผมเพิ่งมาใหม่ มีเวลาอ่านไม่มากขอโทษด้วยนะคับ อยากได้วิธีปฏิบัตินะคับ ไม่ว่ากานน้า:''( อยากทำเป็นนะคับ ผมคงบาปหนา เพราะงั้นเดาให้ผมด้วยนะคับ อนุโมทนาด้วยคับ

 

งึกๆงักๆ มันเป็นงึกๆงักๆ ไม่มีคนตอบให้ผมเลย:'''(
จั้งซี่มันต้องขุดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แล้วก็ขุด

 

ผมรบกวนถามครับ เมื่อเช้านี้เองผมตื่นเช้าแล้วไม่มีอะไรทำเลยทำสมาธิ แล้วมีอาการดังนี้
- ทำสมาธิไปสักระยะก็ เหมือนวูบไป แล้วก็มีอาการ หูอื่อ.. ปวดหัวอย่างแรงที่ขมับข้างซ้ายเหมือนมีอะไรกำลังเจาะเข้าไป ผมก็คิดว่าตัวเองหลับ แต่ก็ไม่ใช่เพราะ ยังรู้สึกตัวอยู่ แล้วก็ยัง ท่องพุทธโทๆๆ อยู่ ผมจึงตัดสินใจว่าจะลุกไปหายากิน ความรู้สึกลุกออกไปแล้ว(และอาการปวดหัวหายไปแต่ยังหูอื่ออยู่) แต่กลับมองไม่เห็นอะไรเลย แต่รู้สึกว่ามีเราอีกคนยังนอนอยู่ตรงที่นอน ผมตกใจและไม่รู้จะทำยังไง ผมจึงนึกว่าลงกลับไปนอนแบบเดิม.. ปรากฏว่า ผมนอนทับอีกคนลงไป แล้วก็เริ่มรู้สึกว่าตัวเราแยกออกอยู่ อธิบายไงดีละเหมือนกับประกบไม่สนิทนะครับ..ผมเองก็อธิบายไม่ถูก ขยับแขนขาความรู้สึกนะขยับได้นะครับ แต่แขนกับขากับไม่กระดิก ผมก็ยิ่งตกใจ กลัวมาก เลยกลับมาจับลมหายใจอีกครั้ง.. พอไปสักพัก ก็เริ่มรู้สึกปวดหัวอีกรอบ ผมก็จับลมต่อ แล้วก็ค่อยเริ่มมีความรู้สึกทางกายมากขึ้น คือเริ่ม รู้สึกลมจากพัดลมที่เปิด เริ่มได้ยินเสียงคนข้างห้อง แล้วอาการก็เริ่มคลายออกเริ่มขยับแขนได้... ผมเลยออกจากสมาธิ นี้คือเหตุการณ์ทั้งหมด
- วิธีการทำสมาธิ ก่อนเกิดอาการ
คือพอผมได้อ่านบอร์ดนี้ ผมก็เลยลองทำตามวิธีของคุณมังกรบูรพาหรืออะไรสักอย่างนี้และครับ(ถ้าผมจำชื่อผิดก็ขออภัยครับ) ที่เค้าบอกว่าลองหายใจเข้าแล้วให้เอาลมหายใจไปชนที่จุดตรงหน้าผากนะครับ ผมเลยลองเอาวิธีนี้ไปทำดู ซึ่งเมื่อก่อนนี้ผมจะใช้วิธีฝึกตามที่คุณพ่อพาทำคือ ให้ผมมองหาลูกแก้วแล้วมองดูจนลูกแก้วนั้นเปลี่ยนเป็นสีขาวใส.. แต่ผมไม่เคยเห็นสักที พอดีเจอวิธีที่คุณมังกรฯ บอกผมเลยลองเปลี่ยนบ้างเผื่อจะเป็นอีกแนวทาง
- ผมจึงรบกวนถามคุนสามตาหรือทุกท่านเพราะทุกคนประสบการณ์เยอะกว่าผม ผมจึงอยากขอคำแนะนำด้วยครับ
- คำถามคือ อาการดังกล่าวนั้นมีอันตรายไหมครับ คือ ตัวผมรู้สึกว่ากลัวมากครับ
- ผมทำอะไรผิดไปหรือปล่าวครับรบกวนแนะนำด้วยครับ และขอแนวที่ถูกต้องด้วยครับ
- แล้วลูกแก้วที่พ่อผมบอกผมนี้.. คืออะไรครับ แล้วแบบว่าจะรู้ได้ยังไงว่าผมมีอยู่จริง ได้ยินแต่คุณพ่อบอกว่าผมกับพี่มี ถ้ารู้จักทำสมาธิจะดี แต่ผมก็มองหาไม่เจอสักที ผมควรทำยังไงดีครับ
- สุดท้ายครับ ทุกครั้งที่ผมทำสมาธิผมจะรู้สึกว่า มีอะไรไม่รู้เต้นตุบๆ อยู่บางทีก็ขา บางทีก็บริเวณหน้าอก ตอนแรกคิดว่าหัวใจ แต่มันอยู่ตำกว่าตำแหน่งหัวใจนะครับ บางทีก็รู้สึกว่าเต้นไปพร้อมหัวใจ บางครั้งรู้สึกว่ามันเต้นแรงมากจนผม จับลมทำสมาธิไม่ได้

** ขออภัยที่ถามซะมากเลย แต่ผมสงสัย+กลัว และกังวลมากครับจึงรบกวนด้วยครับ ขอบคุณครับ

 

อยากไปพบอาจารย์ค่ะ หวังว่าคงมีโอกาส

 

ไม่น่ากลัว
นั่งสมาธิให้ถึงอุเบกขาแล้วก็ท่องคาถาเปิดตาที่สาม
ระหว่างหน้าผากมันจะรู้สึกตึ่บๆเล็กน้อยระหว่างสมาธิแล้วก็หาย
ผลก็คือทำให้เซ้นส์ของเรา(การรับรู้ทางจิต)ไวขึ้นกว่าเดิมนิดนึง
แต่ตาเนื้อที่มองกลุ่มแสงหมอกที่อยู่ตรงหน้า รู้สึกว่าไม่ค่อยแตกต่างจากเดิม

กลุ่มแสงหมอกนี่คิดว่าถ้ามันจ้ามากขึ้นก็ต่อเมื่อ ให้สมาธิคงอุเบกขาแล้วก็ปล่อยวาง
วางที่นี่ให้วางภาระทางใจทั้งหมด
ภาวนาว่ากายเป็นกองทุกข์ เกิดมาเป็นทุกข์...มีจุดมุ่งหมายคือนิพพาน
กลุ่มหมอกแสงมันจะจ้าขึ้นมาเอง(ของผมอ่ะนะ ของคนอื่นผมจะไม่ทราบ อาจเกิดไม่เหมือนกัน)
ถ้าไม่มีกลุ่มหมอกแสงก็ไม่ต้องไป"อยาก"ให้มันมี
มีหรือไม่มีไม่ใช่ประเด็น ประเด็นอยู่ที่วางภาระทางใจลงได้หมดหรือเปล่า
ถ้าไปยึดมันจะก้าวหน้าลำบาก ความก้าวหน้าคือความปล่อยวาง ถ้าปล่อยวางได้แสดงว่าก้าวหน้า

แล้วก็สิ่งของที่อยู่ภายนอกร่างกาย(นาฬิกา กระเป๋าสตางค์ พระเครื่อง ตุ้มหู แหวน สร้อย)
เก็บใส่ตู้ล็อคให้เรียบร้อย เพื่อตัดไม่ให้จิตมากังวลกับสิ่งของที่อยู่ในร่างกาย
ใจมันภาวนาก็จริง แต่จิตในส่วนเบื้องลึกมันยังกังวลกับของพวกนี้อยู่(ต้องระวัง)

แล้วก็อยู่คนเดียวในห้องเงียบๆ ลงกลอนให้สนิท
จะได้ไม่ต้องไปกังวลว่าคนรอบข้างจะมาอะไรกับเรา

 

อยากสอบถามอาจารย์คับ
เคยไปพบอาจารย์มาแล้วเมื่อปลายปีก่อน
อาจารย์ก็กรุณาดูเทพที่คุ้มครองร่างสังขารให้
อยากทราบเหือนกันคับ
ว่าเวลาสวดมนต์ที่บ้าน
มักจะมีอาการแปลก ๆ
จะมีเสียงผู้ชายสำเนียงใต้
มาช่วยสวดมนต์ด้วยบ่อยมาก
ยิ่งชินบัญชรด้วยแล้ว
ดูเค้าจะชอบเอามาก ๆ เลยคับ
พอสวดเสร็จก็นั่งสมาธิต่อ
จะมีอาการชาที่ปาก
แล้วก็หน่วง ๆ ที่หว่างคิ้ว
เต้นตุ๊บ ๆ เลยคับ
เป็นแบบนี้แทบทุกครั้ง
ถ้ามเปิดตาที่สามแล้ว
ผมจะเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็นกันใช่มั้ยคับ
บอกตรง ๆ ว่า...กลัวคับ
ถ้าเปิดแล้วมีวิธีไม่เห็นสิ่งพวกนี้มั้ยคับ
กลัวจริง ๆ คับอาจารย์
ขอคำแนะนำด้วยคับ
ขอบคุณคับ

 

ตอบแทนอาจารย์เลยแล้วกันครับ การที่ได้ยินเสียงคนมาช่วยสวดนั้นคือขณะทีเราจิตนิ่ง
หรือจิตเริมเข้าสมาธิพอจิตถึงอุปจารก็จะเห็นในอีกมิติครับ ก็จะมีเทวดามาร่วมก็จะเ็ห็น
หรือได้ยิน เป็นเรื่องปรกติครับ

แล้วอาการ์ืที่เกิดในขณะนั่งสมาธิเท่าที่ตามดูจิตคุณคือร่างกายกำลังปรับสมดุลย์
เนื่องจากในการสวดมนต์นั้นด้วยคุณ เป็นคนสวดมนต์นาน หลายบท สวดเสร็จแล้ว
ก็มานั่งสมาธิต่อ ร่างกายจึงเกิดอาการ พละไม่พอหรือกำลังตก ร่างกายจึงปรับสมดุลย์
ทั้งจิตและกายจึงมีอาการดังกล่าว ถ้าอยากได้ตาที่สามต้องตัดโมหะจริตอีกนิดครับ
แล้วก็พยายามอย่ารับปากใครง่ายๆเพราะบางที่ทำไม่ได้หรือลืมก็กลายเป็นมุสาครับ

ถ้าวันไหนสวดมนต์เยอะก็นั่งสมาธิไม่ต้องนานครับ
แต่ถ้าวันไหนอยากนั่งนานๆก็สวดให้น้อยลงหน่อยครับ

ยินดีในบุญครับ

 

พวกติดขัดกรรมฐาน/กสิณ เชิญทางนี้ครับ

เมื่อเช้านี้ อัสดงมีโอกาสสนทนาธรรมกับพระอาจารย์ติ๊ก Tik So Ken (ท่านอาจารย์อุทัย ฌานุตตโม) วัดป่าห้วยลาด อ.ภูเรือ จ.เลย เนื่องจากท่านมาจำพรรษาที่ สวนทิพย์ นนทบุรี ในขณะนี้

ท่านเป็นพระนักกรรมฐาน ท่านช่วยแก้ปัญหาให้อัสดง ปัญหาที่ติดขัดมาร่วม 4 เดือนครับ นอกจากนี้ท่านยังเชี่ยวชาญเรื่อง กสิณ อีกด้วย

หากเพื่อนๆ สนใจ เชิญเลยนะครับ โทร.ไปที่สวนทิพย์ 025833748 เพื่อสอบถามได้ครับว่า ท่านอาจารย์ว่างหรือไม่ เพราะท่านมาเพียงระยะสั้นๆ ท่านมีเมตตาสูงมากครับ อีกทั้งยังทราบอารมณ์ของกรรมฐานแต่ละขั้นด้วยครับ

อิ อิ อัสดงโชคดีที่มีแต่พระอาจารย์มาอธิบายธรรม และสอนธรรม ก็เลยเอาความโชคดีมาบอกเพื่อนๆ ด้วยครับ<!-- google_ad_section_end -->

ป.ล. 1.ท่านพี่วิษณุมาปรากฏตัวที ท่านมังกรก็ดีใจ แวะมาแซว เห็นมิตรภาพที่มีให้กันแล้วน่ารักดีครับ ไม่ไปฝึกกับพี่เขาเลยล่ะครับ
2. ชมรมสมาธิหมุนของคุณสันโดษ คุณLikely คุณLamb of god คุณป๋าปี๋ปู้ คุณโอซารัน คุณราคุเรียวซาย คุณติงติง เชิญไปพบวิธีหมุนให้ถูกทางด้วยนะครับ อัสดงขอเรียนเชิญ
<O




Watpahuaylad

ประวัติโดยสังเขปของท่านพระอาจารย์อุทัย ฌานุตโม
ท่านพระอาจารย์อุทัย หรือที่ศิษย์นิยมเรียกท่านว่า “พระอาจารย์ติ๊ก” เกิดเมื่อวันอังคารที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2494 ที่ ต.ธาตุเชิงชุม อ.เมือง จ.สกลนคร บิดาชื่อ นายหล้า มารดาชื่อ นางเสน นามสกุล บุญเรืองจักร
อุปสมบทเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2516 ที่วัดหินหมากเป้ง อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย โดยมี พระราชนิโรธรังสีคัมภีรปัญญาวิศิษฏ์ (หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี) เป็นพระอุปัชฌาย์ พระสุธรรมคณาจารย์ (หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูวินัยธรบัวพา ปัญญาภาโส เป็นพระอนุสาวนาจารย์
ด้านพระปริยัติธรรมจบนักธรรมเอก ที่สำนักเรียนวัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย ส่วนด้านปฏิบัติได้อยู่ศึกษากับหลวงปู่เทสก์ตั้งแต่อุปสมบท จนกระทั่งองค์หลวงปู่มรณภาพ และได้รับความไว้วางใจจากคณะศิษย์ให้เป็นประธานจัดงานพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี
ปี พ.ศ. 2537 ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหินหมากเป้ง และลาออกในเวลาต่อมา ได้ใช้เวลาหลังจากนั้นออกเผยแผ่ธรรม และสร้างวัดต่างๆ เช่น วัดถ้ำผาป่อง จ.มุกดาหาร วัดป่าเชิงเลน บางกอกน้อย กรุงเทพฯ วัดป่าห้วยลาด จ.เลย เป็นต้น
พ.ศ. 2545 สร้างวัดป่าเทสรังสี รัฐเวอร์จิเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
พ.ศ. 2550 เป็นประธานโครงการบรรพชาอุปสมบท เพื่อถวายพระราชกุศล แด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช

 

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำคับ
ปกติผมก็นั่งสมาธิได้ไม่นานเท่าไหร่
เต็มที่ไม่เกิน 5 นาที
แต่เคยนะคับที่นั่งเกิน 10 นาทีไปล้ว
มันจะรู้สึกเหมือนจิตดิ่งลงไป
รู้สึกอิ่มจนไม่อยากออกจากสมาธิเลย
แต่ถ้าเมื่อไหร่ไม่เกิน 5 นาที ก็ไม่ต้องหวังผลคับ
อยากออกจากสมาธิอย่างเดียวสิหน่ะ
ส่วนเรื่องการลดโมหะจริต
ตอนนี้ดีขึ้นกว่าเดิมแล้วนะคับ
เมื่อก่อนจะแรงกว่านี้มากมาย
ส่วนอีกเรื่องแล้วละก็
พยายามอย่างมากเลยคับ
เพราะบทเรียนที่ผมได้รับ
เรื่องสัจจะกับองค์เทพ
มันทำให้ผมเข็ดขยาดอีกนานเลยเชียว

 

แล้วกลิ่นหอมเย็นแบบแปลกๆที่ติดอยู่ปลายจมูก
จะสดชื่นก็ไม่ใช่ จะหดหู่ก็ไม่เชิง
พอไปดมตรงจุดอื่นแล้วไม่มี
นี่มันเป็นของลวงหรือว่าอะไรครับ ใครเป็นมั่ง!?

 

เหมือนมีพลังออกมาจากห้องนี้ จนทำให้ระหว่างคิ้วกระตุก

สวัสดีครับ อ. และ เพื่อนสมาชิกทุกท่าน ตอนนี้ฝึกสมาธิ และ สวดมนต์บ่อยขึ้นหลังจากเข้ามาอ่านกระทู้ การเปิดตาที่สาม ครับ สำหรับผมเองคงต้องฝึกอีกมาก สะสมการนั่งสมาธิให้ได้ประมาณ 120 ชั่วโมง แล้วจะไปขอคำแนะนำที่บูธครับ


---------------------------------------------------------------------
ตนเป็นที่เพิ่งแห่งตน

 

คือว่าผมเพิ่งเข้ามาเห็นเวปนี้เป็นครั้งแรกหน่ะครับ
แล้วพอดีว่าวันนี้อยู่ดีๆก็นึกถึงเรื่องตาที่สามคับ แล้วก็เลยลองหารายละเอียดดูคับ
อยากจะรู้ว่า จะฝึกเปิดตาที่สามได้อย่างไรบ้างครับ แล้วต้องทำยังไงบ้าง ช่วยตอบผมหน่อยนะคับ

ถ้าจะบอกว่าไม่รู้อะไรดลใจก็ได้มั้งครับ แต่พอดีอยากเห็นลูก(กุมาร) แล้วก็เลยนึกถึงตาที่สามขึ้นมา แล้วเท่าที่อ่านดูข้อดี-ข้อเสียแล้ว ผมก็คิดว่า ผมอยากเอาไว้ช่วยคนที่ช่วยได้ แล้วก็จะได้ช่วยสัมพเวสี หรือ เจ้ากรรมนายเวรที่มาขอส่วนบุญด้วยหน่ะคับ ฝากผู้รู้ตอบด้วยนะครับ ทาง pm ก็ได้นะคับ ผมรออยู่คับ

 

ขอบคุณมากสำหรับคำชวนค่ะ ^-^

หากโอกาสพามาหา คงจะได้มาเจอกัน

 

หายเมา หายปวดหัวแล้วหรือครับ เทคแคร์นะครับคุณไล้

 

อยากเปิดตาที่ 3ได้ เหมือนกันครับ เอาไว้ดูว่าตอนผมสัพเพ แผ่บุญตามทางที่ผม ผ่านไป-มา เขาจะได้กันหรือเปล่าว แล้วถ้าได้เห็นภพภูมิ ผมจะได้กลัวนรกมากขึ้น เพราะตอนนี้กิเสศผมเยอะจริงๆ (รู้แล้วแต่ยังละไม่ค่อยได้เลย)
แต่แค่นั่งสมาธิยังจิตวอกแวกง่ายๆ ถ้ามีวาสนาจะไปหาอาจารย์ ขอคำชี้แนะครับผม