OOนโม โพธิสัตวา / พระกษิติครรภมหาโพธิสัตว์OO

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย ?????????, 2 มกราคม 2010.

แท็ก:
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    ประสบการณ์ สดๆร้อนๆค่ะ

    ในขณะ ที่ฟังเพลงสวดสรรเสริญ ก็รู้สึกง่วงนอน เคลิ้มหลับค่ะ ทั้งๆที่เพิ่งตื่นนอน หลังจากนั้นอีกวันก็เกิดระลึกถึงชาติเก่า ที่เราเคยมี กรรมผูกพันธ์ กับน้อง คนที่อยู่ด้วย ณ ปัจจุบัน (เป็นรูมเมทกัน) ก็เลยได้ไปขออโหสิกรรมกับน้องเค้าน่ะค่ะ :cool:
     
  2. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    OOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOOO

    อนุโมทนาครับ

    หลากหลายอุบาย และ วิธีการ ที่ท่านจะใช้ให้เหมาะกับแต่ละชีวิต

    ขอเพียงแต่ละชีวิต ปูทางเบื้องต้น ด้วยศรัทธาต่อพระรัตนตรัยไว้ก่อน
     
  3. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    [MUSIC]http://www.amitabha-gallery.org/chantDZ_stream1.m3u[/MUSIC]
     
  4. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    ถ้าได้ธรรมกายแล้ว

    ให้วางจิตที่กลางของกลางยามสวดมนต์หรือพระนามท่าน

    อาจจะได้ทราบว่า บารมีและธาตุธรรมของท่านละเอียด มากมาย
    แผ่ไพศาล เพียงใด
     
  5. walaphako

    walaphako ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    1,165
    ค่าพลัง:
    +1,599
    รับทราบค่ะ
     
  6. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2010
  7. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    [​IMG]
     
  8. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    ถาม: คนที่มีบาปกรรม มีวิธี ไถ่บาปบ้างไหม?


    ตอบ:

    มนุษย์หาใช่เทวดา ใครเลยไม่เคยทำบาปคนที่สามารถขมากรรม (ชั่นหุ่ย) หรือสารภาพบาปทั้งหมดที่ได้ทำโดยไม่ตั้งใจ แล้วกลับตัวกลับใจใหม่ เทวดาย่อมจะคุ้มครอง
    การขมากรรมสามารถไถ่บาปได้
    แต่ถ้าขมากรรมโดยไม่ได้กลับตัวใหม่ ก็ยังเท่ากับศูนย์อยู่ดี

    จะต้องกลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่ จึงจะได้รับผลแห่งการขมากรรม

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มกราคม 2010
  9. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    [​IMG]

    ขอให้ชาวโลกมีเหตุผล ......อย่าเลี่ยงบาลีว่า

    ที่ฉันฆ่าเขาตาย เพราะชาติก่อนเขาเป็นหนี้เวรฉัน โบราณว่า “เวรควรยุติไม่ควรก่อ” ถึงแม้มีหนี้เวรต่อกัน หากสามารถไม่จองเวรจักเป็นมหากุศลยิ่ง
     
  10. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    พระพุทธะมหาโพธิสัตว์


    หมายเหตุก่อนอ่าน
    เนื้อหาข้อความเหล่านี้เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน และไม่รับรองความถูกต้อง บุคคลมีสิทธิอันชอบธรรมตามกฏหมายที่จะเชื่อสิ่งใดก็ได้ และจะไม่เชื่อสิ่งใดก็ได้ ตามสิทธิมนุษยชนในระบอบประชาธิปไตย การเผยแพร่ทั้งหมดนี้ เกี่ยวข้องกับศาสนา แต่ไม่ใช่เป็นการบิดเบือน เพราะไม่ได้กล่าวว่ามาจากพระไตรปิฏก หรือถูกต้องตามตำราใดแต่อย่างใด เป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคลที่ใครจะเชื่อตามหรือไม่ก็ได้ หากพิจารณาเห็นว่าไม่มีแก่นสารก็ไม่จำเป็นต้องเชื่อ และไม่จำเป็นต้องลบล้างความเชื่อผู้อื่นที่ได้รับสิทธิ์ชอบธรรมตามกฏหมายรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน


    หน้าที่ของพระมหาโพธิสัตว์ คือ การจรรโลงไว้ซึ่ง พระพุทธศาสนา ดั่งนี้พระมหาโพธิสัตว์ทุกพระองค์จะสวมมงกุฏที่มีรูปพระพุทธเจ้าและพระผู้โปรดสัตว์อยู่บนสวรรค์ พระมหาโพธิสัตว์ทั้งหลายล้วนเป็นปรปักษ์ต่อมารร้าย เช่น พระกษิติครรภ์ ในชาติที่เป็นพระถังซำจั๋ง ท่านจะเจอมารรุมทำร้ายมากมาย ในความจริงก็คือ ท่านหลบหนีออกนอกเมืองเพื่อไปอัญเชิญพระไตรปิฏกจึงถูกประกาศจับ พวกที่อยากได้ตัวท่านไปเอาเงิน จึงรุมจับท่าน ท่านก็ปลอมตัวหนีไปเรื่อย (นิรมานกาย) แต่ท่านมีความสามารถในการเจรจาต่อรองที่สุดในสามภพ แม้นแต่พยายมยังต้องยอมผ่อนปรนให้ท่าน (พระมหากษัตริย์ไทยพระองค์หนึ่งในอดีตและ...ก็ทรงมีความสามารถนี้เช่นกัน) ด้วยมหาปณิธานที่ใครๆ ล้วนได้ยินแล้วยังต้องหลั่งน้ำตาให้ด้วยความปลาบปลื้ม นั่นคือ ท่านเป็นผู้เดียวที่ไม่ยอมเข้านิพพาน เพื่อรื้อสรรพสัตว์ออกจากนรก (สรรพสัตว์บางตนทำเลวมาก จนไม่มีทางได้พบพระพุทธเจ้า เมื่อเกิดมาในดินแดนไร้พระศาสนาก็ทำเลว ตกนรกหนักซ้ำๆ อย่างนี้ก็มี มีกรรมสารพัดแบบที่ไม่มีใครช่วยได้นอกจากท่านเท่านั้น)

    หน้าที่ที่สองของเหล่าพระมหาโพธิสัตว์คือ เป็นพี่เลี้ยง เป็นต้นแบบเพื่อให้พระโพธิสัตว์ต่างๆ ได้เรียนรู้ในชาติต่างๆ ที่ลงมาจุติสะสมบุญบารมี ซึ่งก็แน่นอนว่าจะได้เจอกันทั้งพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ และองค์ถัดๆ ไป เพราะต่างสะสมบุญมามาก จึงได้เจอกันแต่ผู้มีบุญระดับใกล้กัน จึงไม่แปลกที่คนดีมักเจอกันแล้วช่วยเหลือกันคุ้นเคยกันทันที และคนเลวก็ไหลไปรวมกันด้วยประการฉะนี้ ดังนี้ พระมหาโพธิสัตว์จึงมีลักษณะและฌาณอันเป็นเอกลักษณ์ ที่พระโพธิสัตว์ยังอาจไม่มี เช่น มหากรุณาฌาณ อันเป็นหนึ่งในหกฌาณที่จะพบเฉพาะพระพุทธเจ้า (ไม่นับรวมพระมหาโพธิสัตว์) ที่พบชัดเจนคือ พระอวโลกิเตศวร เหล่าพระโพธิสัตว์หากได้พบท่าน จะได้รับการถ่ายทอดฌาณนี้ ความสำคัญของฌาณนี้ คือ จะกระตุ้นความเมตตากรุณาได้เองโดยธรรมชาติ และทำให้การสะสมบุญเป็นไปถูกทาง เพราะบางชาติยังไม่บรรลุธรรม และเกิดมายากจนจนไม่ได้เรียนหนังสือ บางชาติเกิดเป็นสัตว์ หากได้ฌาณนี้ติดตัว จะสามารถสละตนเพื่อผู้อื่นได้เองโดยไม่ต้องมีคนสอน (จึงเรียกว่าฌาณ) การสะสมบุญก็จะเร็วขึ้น


    ( ยังมีต่อ... )
     
  11. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    พุทธวิสัยแห่งพระมหาโพธิสัตว์



    พระอวโลกิเตศวรกวนอิม (เมตตาไร้ประมาณ)
    ทรงเป็นต้นแบบแห่งความเมตตาทั้งภายนอกภายในสมบูรณ์แบบทุกประการ ท่านทรงเป็นต้นแบบของพระพุทธเจ้าและพระมหาโพธิสัตว์ทั้งมวล ให้เดินตามได้โดยไม่หลงทาง จากศรัทธาสู่เมตตา จากเมตตาสู่วิริยะ และจากวิริยะสู่ปัญญา ท่านสอนสรรพสัตว์ด้วยความใจเย็นน้ำเสียงเรียบนิ่ง สอนง่ายๆ อย่างช้าๆ ทั้งยังให้พลังความกล้าหาญแก่เรา ให้กำลังใจเราตลอด หากได้เจอท่านบนโลกมนุษย์ให้ทำตัวเป็นคนหัวอ่อนเปิดใจรับง่ายๆ ท่านจะสอนอย่างใจดีที่สุด และมองเราเหมือนเป็นลูกหลานเสมอ ใครผิดพลาดท่านก็ให้อภัยมองพวกเราเหมือนเป็นเด็กๆ เสมอ ท่านจะช่วยพยุงเราตลอด แต่เมื่อถึงคราวที่เราจะต้องเดินเอง ท่านจะขึงขัง เพื่อเป็นแบบให้เราดู ว่าเราต้องเดินเองแล้ว แต่ท่านจะ ?เพ่งมอง? ดูเราตลอดเวลา

    พระมัญชูศรีโพธิสัตว์ (ปัญญาไร้ประมาณ)
    ทรงเป็นต้นแบบแห่งสัพพัญญูและปัญญาบารมี ผู้มีความเฉลียวฉลาดที่สุดในสามภพจบจักรวาล (ไม่นับรวมพระพุทธะที่ไม่เสด็จลงมาโปรดสัตว์บนโลกมนุษย์) ท่านจะใช้ความอยากรู้อยากเห็น เช่น อาจจะใช้ธรรมะแปลกๆ ว่าถูกหรือผิดเป็นเครื่องหลอกล่อ ซึ่งหากจะได้พระธรรมจากท่านต้องกล้าเสี่ยงลองผิดจริงๆ และต้องใช้ปัญญาอย่างยิ่งยวด และเมื่อได้พระธรรมมาแล้วจะงงมาก ว่าได้มาได้ยังไง โดยไม่รู้เลยว่ามหาอุบายนั้นซ่อนอะไรไว้ จึงได้รู้ได้ บางทีพระธรรมเหมือนไม่ใช่พระธรรม แต่พอสนใจมากจริงๆ กลับกลายเป็นเครื่องเตือนช่วยให้ระลึกชาติได้เองก็มี ท่านมีพระธรรมที่พิสดารจนคนที่คิดว่าฉลาดและแน่จริง ต้องเตรียมใจให้พร้อม เพราะจะ ?หน้าแตก? ได้เสมอ เป็นท่านเดียวที่ไม่มีใครกล้าว่าตนเก่งเหนือได้ แต่ยิ่งเรียนยิ่งสนุก เพราะเหมือนพระธรรมไม่มีที่สิ้นสุด เพราะท่านล่วงรู้หมดในหมื่นโลกธาตุ

    พระวัชรปราณีโพธิสัตว์ (วิริยะไร้ประมาณ)
    ท่านจะทรงความเมตตาปราณี ด้วยการกระทำอย่างชัดแจ้ง อาจจะคลุกคลีกับงานการกุศลต่างๆ เป็นต้น ในขณะเดียวกันก็บรรลุธรรมสอนคนได้เหนือพระอรหันต์ทั่วไป ลักษณะของท่านเวลาสอนธรรมจะดุมากยิ่งกว่าเสือ ผู้เรียนต้องตั้งสติตลอด เพราะท่านจะตรวจละเอียดเห็นผิดนิดเดียว ท่านกล่าวรุนแรงทันที เพื่อให้เราไปได้เร็ว หากเรามีความอดทนพอ และฮึดสู้พอ การศึกษาธรรมจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมาก อย่างที่ไม่มีใครสามารถสอนได้แบบนี้ ซึ่งแม้นพระศรีอาริยเมตไตรย์จะสอนธรรมแบบง่ายๆ แต่เวลาพัฒนาแต่ละขั้นจะมีขีดจำกัด พระศรีอาริยเมตไตรย์จึงเหมาะสอนคนทั่วไป ในขณะที่พระวัชรปราณี สอนได้ถึงพระมหาโพธิสัตว์ทีเดียว ใครชอบเรียนและลัดโหดซาดิสก์ แล้วพัฒนารวดเร็วสะใจ ต้องตามหาพระวัชรปราณี หรือกำหนดจิตศรัทธาระลึกชื่อท่านให้ตลอดไป เมื่อไปเกิดก็อาจได้เจอท่าน

    พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ (เสียสละไร้ประมาณ)
    ท่านจะสอนได้อย่างเป็นกลางมาก เป็นลักษณะเฉพาะที่แปลกและหายากยิ่ง ท่านคือ ต้นแบบฑูต เป็นบิดาแห่งวิชาการฑูตแห่งจักรวาลนี้ ท่านสามารถเจรจาต่อรองเพื่อปรับเปลี่ยนกฏระเบียบต่างๆ ได้หมด ตั้งแต่นรกชั้นล่างยันสวรรค์ชั้นบน (แต่ปกติท่านจะไม่โปรดบนสวรรค์มากนัก เพราะมีท่านอื่นอยู่แล้ว)

    พระกษิติครรภ์ เลือกทำเพราะหากท่านไม่ทำก็ไม่มีใครทำ ท่านจะตั้งสัตย์อธิษฐานตลอดเสมอก่อนตัดสินใจสำคัญๆ เช่น ใครมาบอกเรื่องพระพุทธเจ้าท่านจะยกเมืองให้เลย เป็นต้น (ชาติที่เป็นพระสังขจักร) พระกษิติครรภ์มีจิตที่บริสุทธิ์ยิ่ง ดูเหลือนท่านจะไม่คิดอะไรเลย คิดแต่จะช่วยคนที่ทุกข์ยากที่สุดเท่านั้น

    ดังนี้จะเห็นพระหัตถ์ซ้ายท่านถือแก้ว ใสบริสุทธิ์เหมือนจิตใจของท่าน ที่มีแต่ความเมตตาล้วนๆ ไม่เจือปนอะไรเลย ในชาติที่ท่านดำรงชาติเป็นพระถังซำจั๋ง ท่านก็ไม่รู้ไม่คิดอะไรทั้งสิ้น มีแต่กล้าหาญเดินทางผ่านทะเลทรายเสี่ยงตายไปถึงประเทศอินเดียเพื่ออัญเชิญพระไตรปิฏกมายังประเทศจีน ทั้งยังแปลคัมภีร์จนตาบอดสนิท

    พระศรีอาริยเมตไตรย์ (กล้าหาญเด็ดเดี่ยวไร้ประมาณ)
    ความเด็ดเดี่ยวกล้าหาญจนเกินไป ทำให้เหล่าทวยเทพเป็นห่วงว่าท่านจะทิ้งความปรารถนาเพื่อให้พระกษิติครรภ์ไปก่อน หรือยอมตายได้

    เหล่าทวยเทพจึงจุติลงมาช่วยท่านในชาตินี้ ซึ่งนิสัยนี้ เกิดขึ้นบ่อยๆ ตั้งแต่ท่านดำรงชาติเป็นพญากบ ถูกฉมวกเสียบขณะฟังธรรม ท่านก็ไม่ยอมหนี ยอมตายคาฉมวกเพื่อฟังพระธรรมที่ล้ำค่านั้น ในชาติที่ดำรงชาติเป็นพระสังขจักรท่านก็คลานไปเพื่อหาพระธรรม จนเลือดหลั่งไหล เหลือเพียงหน้าอกท่านก็ใช้หน้าอกคลานไปเพื่อหาพระธรรม เมื่อได้ฟังธรรม ท่านก็ตัดเศียรถวายบูชาพระธรรมทันที

    นอกจากนี้ ท่านยังนิยมทำให้ความปรารถนาผู้อื่นได้สมหวัง ท่านนิยมใช้บุญบารมีเสริมให้ท่านอื่นที่อยากสร้างบารมีได้ทำบุญได้เร็วขึ้น เหล่าทวยเทพที่ตั้งจิตจะสะสมบุญก็ลงมาช่วยท่านมากมายเป็นกองทัพ เพราะลักษณะนิสัยของท่านนี่เอง ท่านไม่ถือตัว และชอบแสร้งลองใจคน จำแลงกายเป็นพระอ้วนเพื่อไม่ให้คนยึดติดบ้าง ท่านจะไม่นิยมคนที่ไปหาท่านเพราะความโลภเงิน เห็นท่านเป็นพระให้ลาภ ท่านจะไม่ให้เลย แต่คนที่สนใจพระธรรมจริงๆ แล้วยอมช่วยคนที่ไม่น่าช่วย (ท่านอาจจำแลงกายมา) ท่านก็จะบันดาลความร่ำรวยให้ได้ คนจีนจึงถือว่าท่านเป็นพระแห่งโชคลาภ (เพราะสะสมบุญบารมีไว้มากไปไม่รู้จักใช้) ทั้งๆ ที่จริง ท่านเป็นพระที่มีพระธรรมแสนง่ายดาย คนกลับไม่สนใจธรรมท่านนัก ท่านจึงไม่นิยมอภิญญาและอิทธิฤทธิ์อย่างยิ่ง (แม้นว่ามีก็ตาม) ท่านเป็นคนรักอิสระไม่ยึดติดใดๆ ทั้งปวง เป็นเพื่อนที่แสนดี นิยมสนทนาธรรมมาก เสียสละให้ผู้อื่นได้ทันทีที่ถูกใจ ใครได้เป็นเพื่อนถือว่ามีบุญมาก คนที่คุยกับท่านจะคิดว่าท่านคุยเก่งและคุยกับท่านได้โดยไม่เบื่อเลย เพราะแท้แล้วท่านเป็นนักฟังชั้นเลิศ และให้เกียร์ติแม้นคนที่ต่ำต้อยกว่า แม้นให้ธรรมท่านเพียงเล็กน้อย ท่านก็ถือว่าเป็นสิ่งล้ำค่าสำหรับท่านทีเดียว

    ( ยังมีต่อ )
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2010
  12. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    [​IMG]
     
  13. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    พระมหาโพธิสัตว์จะกำหนดสิ่งต่างๆ ก่อนจะจุติเสมอ แม้นท่านจะมีบุญบารมีมาก แต่บางทีท่านจะเลือกเอามาแค่ ?พอใช้? เพื่อให้พระโพธิสัตว์ท่านอื่นๆ ได้ใช้ความสามารถเต็มที่ เป็นต้น ดังนี้

    ไม่แปลกว่าทำไม เจอท่านที่จุติมาแล้วบนโลก บางทีท่านจึงรู้เท่าที่ควรรู้ (ความลับสวรรค์บางทีท่านไม่บอกและท่านตั้งจิตไม่นำบารมีมาด้วยเวลาจุติ) โดยเฉพาะในชาตินี้ ที่มีพระโพธิสัตว์ต่างๆ ลงมาจุติมากมาย ท่านจะเป็นเพียงแนวหลังเท่านั้น เพื่อดูพวกพระมหาโพธิสัตว์ที่ถึงเวลาจะต้องเดินเอง

    อย่างไรก็ตามเมื่อถึงเวลาอันควรท่านเหล่านั้นจะเสด็จมาป้วนๆ เปี้ยนๆ ใกล้เราเอง หากเราสนใจและสังเกตุดีๆ และมีความศรัทธาท่านจริงๆ แม้นไม่สอนตรงๆ ท่านก็จะทิ้งพระธรรมเอาไว้ให้เป็นต้น

    นอกจากนี้ บางคราวท่านจะทรงต่อรองกับเบื้องบน เพื่อขอช่วยสัตว์โลก เช่น ขอทนทุกข์เป็นคนจนยากเพื่อลดทอนความทุกข์ยากของคน บางท่านขอให้ตนป่วยเป็นโรคร้ายก็มี บางท่านขอให้ตนติดคุกบ้างก็มี ฯลฯ เพื่อลดทอนบาปกรรมบนโลกมนุษย์ ทั้งนี้ เพราะเหล่าพระมหาโพธิสัตว์อยู่เหนือกฏบางประการ ซึ่งท่านจะประมาณตนเองว่าจะใช้บารมีเท่าใด รับกรรมได้เท่าไร และฝืนเหนือกฏนั้นได้เท่าไร ในบรรดาผู้ที่อยู่เหนือกฏธรรมชาติ (แต่เขาเหล่านี้จะไม่ฝืนหรือขัดแย้งธรรมชาติเพื่อตัวเองเลย) ในแดนพุทธเกษตรสุขาวดีนี้ บางท่านแม้นไม่ใช่พระมหาโพธิสัตว์ แต่ก็สามารถกำหนดเกิดได้เอง และจะบรรลุธรรมถึงอรหันต์ จึงไม่ถูกกระแสพัดพาให้เกิดใหม่ จะควบคุมการเกิดเองได้ด้วยเหตุนี้ ท่านเหล่านี้จะต้องกำหนดก่อนจุติว่าจะจุติที่ใด เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตนอยู่ในกระแสกิเลส บางท่านจะเลือกที่ห่างไกลความชั่วร้าย และห่มเหลืองโดยเร็ว เพราะบารมียังไม่มากนัก ส่วนท่านที่ยิ่งเกิดห่างไกลพระศาสนาและไม่ห่มเหลืองมักมีบารมีกล้าแกร่ง จึงจะสามารถกลับมาเดินสู่กระแสหลุดพ้นได้ นอกจากนี้บางท่านก็ไปเกิดในถิ่นไร้พระศาสนา เพื่อฝึกฝนการ ?ตรัสรู้? เอง เพราะหากเกิดมาเจอพระพุทธศาสนาทุกชาติก็จะไม่ได้ฝึกการค้นพระธรรมเอง ทำให้พระโพธิสัตว์หรือพระมหาโพธิสัตว์บางพระองค์ที่จุติลงมาสร้างพระศาสนาอื่นไว้แต่ยังไม่ใช่พุทธศาสนาก็มี ด้วยเพราะบารมียังไม่ถึงกาลเวลาแห่งการเป็นพระพุทธเจ้า ดังนี้ พระศาสดาในศาสนาต่างๆ และพระศาสนานั้น จึงหมายรวมอยู่ในพระพุทธศาสนาด้วยประการฉะนี้
     
  14. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    [​IMG]



    พระกษิติครรภ์ ผู้เรียกได้ว่าเป็นมหาปณิธาน

    หากได้ซึมซับปณิธานจากท่าน อธิษฐานบารมีจะครบบริบูรณ์ อธิษฐานบารมีนี้สำคัญมาก เพราะทุกท่านก่อนจุติจะตั้งจิตอธิษฐานไว้ หรือแม้นแต่จุติมาแล้ว จะทำการใดก็ตั้งอธิษฐานก่อนเสมอ เช่น หากตัดกามกิเลสไม่ได้แล้ว ตนจะไม่ห่มเหลือง (ทั้งๆ ที่ใจอยากบวชมาก) เพื่อเป็นการตั้งโจทย์ให้ตนบำเพ็ญบารมีนี่เอง ดังนี้ อธิษฐานบารมีสำคัญมาก เพราะเมื่อเรามาเกิดแล้ว เราจะลืมสัญญาต่างๆ อธิษฐานจิตพวกนี้ถ้าฝึกมาดี จะระลึกได้ง่ายกว่า ส่งผลให้เกิดบุปเพสันนิวาสนุสติญาณ (ระลึกชาติ) ได้เร็วยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นในการเรียกอภิญญาและความสามารถอื่นๆ ในอดีตชาติมาใช้อีกด้วย จึงเห็นได้ว่า การบำเพ็ญบารมีสิบทัศนี้ มีความสำคัญและเหตุผล มิได้กล่าวให้ดูสวยหรู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มกราคม 2010
  15. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    กับทีมงานเจ้าหน้าที่จากยมโลก( ในรูปแบบกายสังขารละเอียดแบบจีน )



    [​IMG]
     
  16. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    [​IMG]


    คุกเข่าลงกราบพระกษิติครรภโพธิสัตต์ผู้ซึ่งมีมหาปณิธาณอันยิ่งใหญ่

    ด้วยเหตุแห่งความกตัญญูต่อมารดา จึงได้ตั้งปณิธาณจะออกโปรดเหล่าเวไนยสัตว์
    หากแม้นเวไนยสัตว์ยังโปรดได้ไม่หมดสิ้น จะไม่ขอปรารถนาจะสำเร็จ
    แม้นนรกยังคงไม่ว่างลง ขอสาบานว่าจะไม่ขอเข้าสู่พระนิพพาน


    แสงสว่างไสวสะเทือนฟ้าดิน พระมหากรุณายังคงเจิดจรัสจนถึงวันนี้

    ไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย อีกทั้งไม่ยอมหยุดและพัก

    โปรดเวไนยสัตว์ครั้งแล้วครั้งเล่า ก็ยังคงโปรดอยู่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

    ช่วยเหล่าเวไนยสัตว์ให้พ้นจากความทุกข์ ไม่เคยหยุดพักชั่วกาล

    โปรดให้พ้นจากความโง่งมครั้งแล้วครั้งเล่า ช่วยขจัดภัยพิบัติอย่างไม่ลดละ

    ช่วยฉุดขึ้นจากความหลงใหล ทั้งเก้าโลกต่างน้อมเคารพ

    สาธุ!ท่านทรงเป็นแสงสว่างในความมืดสลัว

    สาธุ!พระกษิติครรภมหาโพธิสัตต์ ท่านทรงเป็นเรือแห่งความเมตตาในทะเลทุกข์
     
  17. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    [​IMG]
     
  18. ชอลิ้วเฮียง

    ชอลิ้วเฮียง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +738
    [​IMG]
     
  19. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    การดูพุทธภูมิของแท้หรือเทียมนั้นง่ายมาก


    เพราะของแท้กับเทียมนี้ ภายนอกดูเหมือนกันมากแกะไม่ออกก็จริง แต่ภายในต่างกันราวฟ้ากันดิน

    หากทะลุเกราะเปลือกนอกออกได้ทั้งหมด ไม่ดูว่าห่มเหลืองหรือไม่, พูดดีหรือไม่, ทำบุญเยอะหรือไม่, ฯลฯ ดูทะลุเข้าไปในใจเลย

    ก็จะเห็นว่าพุทธภูมิของจริงหรือเปล่า เพราะพุทธภูมิของแท้ มีความเมตตาเสียสละชัดเจน และมีความมุ่งมั่นตรงต่อนิพพานอย่างไม่ออกนอกลู่นอกทาง การดูเทียบบารมีก็ไม่ยากเย็น ว่าใครจะไปก่อนใคร ก็พอมองออกได้ ก็ตรวจจากบารมีทั้งสิบทัศ ใครได้ครบก่อนก็พอเดาได้แล้วว่าไปได้ก่อน โดยปกติแล้วจิตที่มีความเมตตาจะถึงก่อนเสมอ เป็นสิ่งที่นำทางให้พุทธภูมิสะสมบุญในแต่ละชาติเพื่อคนอื่นได้แท้จริง หากความเมตตาน้อยลงแล้วก็ช้าลง บารมีตัวอื่นๆ จะมาเองหากจิตตั้งอยู่ที่ความเมตตาไร้ประมาณ แต่ละชาติจะไม่หลงทางและสะสมบุญได้มากมาย ชาติไหนทำเลวก็ไม่นับว่าได้บารมี ต้องเริ่มต้นใหม่ มาเกิดใหม่ ชาติไหนทำผิดมาก ก็ลงนรกได้เหมือนกัน ไม่มีใครหนีได้

    การได้บารมีเต็มทัศ ต้องเต็มใจสละจริงๆ แบบที่ทำครึ่งไว้ครึ่งก็ไม่เต็มเสียที พูดง่ายๆ ต้องตัดใจ ?ทิ้งเลย? โดยเฉพาะก่อนวันพิพากษานี้ ยังไงๆ ก็ไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว การงานบ้านช่องครอบครัวพ่อแม่ ต้องพรากจากกันมีเสียหายตายบ้างมากมายเป็นธรรมดา ใครที่ตัดใจทิ้งได้เพื่อช่วยผองชนได้ก่อน พุทธภูมิคนนั้นก็ได้เป็นพระพุทธเจ้าเร็วขึ้น

    ดังนี้ ไม่จำเป็นว่าต้องรอชาติต่อๆ ไป เอาชาตินี้ให้ครบสิบทัศเลยก็ยังได้ หากตั้งใจจะทำจริง แต่มักทำไม่ได้หรอกเพราะใจไม่แข็งพอ อันเนื่องจากบำเพ็ญบารมีชาติก่อนๆ มาน้อย ใจมันเลยไม่แข็งเพราะเหตุนี้ เช่นนี้

    เมื่อถึงวันพิพากษา แม้นไม่เสียสละก็เสียสูญอยู่ดี

    ถ้าคิดว่าเป็นพุทธภูมิจริง ก็ควรใช้โอกาสนี้สละเลยเพื่อมวลชน โดยการอธิษฐานจิต ยกสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว, ทรัพย์สิน ให้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม (ระบุชื่อท่านด้วย) เพื่อเป็นบุญสานต่อพระพุทธศาสนาให้ยืนยาวนานก็ได้เช่นกัน




    [​IMG]
     
  20. ?????????

    ????????? เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2009
    โพสต์:
    464
    ค่าพลัง:
    +5,893
    [​IMG]
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...