อารมณ์กำหนัด

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย tamsak, 20 มกราคม 2010.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171
    ถาม : บางคนเขาบอกว่าขณะที่กำลังเสพกาม สามารถควบอานาปานสติไปด้วยครับ

    ตอบ : เรื่องปกติ..ถ้าคล่องตัวจริงๆ ก็ทำได้

    ถาม : เวลาที่ตั้งใจจะรักษาศีลแปดทุกครั้ง มักจะโดนกิเลสตีหนักมากๆ โดนตัวกำหนัดเล่นงาน พอเราหลงตามไป สำเร็จตามมันแล้ว ก็ทรงฌานทันทีเลยครับ ทำไมเป็นแบบนั้นครับ ทั้งๆ ที่เราก็เพิ่งหลงคล้อยตามกิเลส แต่พอสมใจอยาก มันกลับลงฌาน นิ่งปุ๊บเลย?

    ตอบ : อย่างนี้เขาจึงได้เรียกว่า โลกียะ ยังข้องอยู่ด้วยโลก แต่ให้สังเกตไว้ว่า จะได้แค่ตอนนั้น หลังจากนั้นพอเลิกแล้ว ลองเข้าสมาธิครั้งใหม่ จะเข้ายากมาก เพราะในช่วงนั้นเหมือนคุณกำลังทุ่มเทกำลัง เอาเป็นเอาตายกับใครสักคน กำลังทั้งหมดจะรวมตัวของมันอยู่

    ถาม : บางทีก็มาคิดว่า ทำไมทำให้เป็นฌานได้?

    ตอบ : จะทำให้หลงด้วย หลงคิดว่าทำอย่างนี้แล้วเข้าท่า ในส่วนของความดีก็มีส่วนของความดี ในส่วนของความไม่ดีก็มีส่วนของความไม่ดี จะปนกันไม่ได้ เราต้องแยกแยะ ถ้าเราสามารถทรงฌานได้ก็เป็นอานิสงส์ในส่วนของสมาธิ แต่ในขณะเดียวกัน เวลาที่เราเกลือกกลั้วกับกามฉันทะ ก็เป็นนิวรณ์เต็มๆ คุณเอาไปปนกันไม่ได้ คนละประเด็นกัน เพียงแต่ว่ามันมาไล่ๆ กัน

    ถาม : อ้าว..แล้วถ้าเกิดคนทำติดใจ เขาก็เลือกทำอย่างนี้เพื่อทรงฌานตลอด ?

    ตอบ : ก็บอกแล้ว ถึงเวลาอาจจะหลงติดด้วย ด้วยการเข้าใจผิด คิดว่าทำอย่างนั้นแล้วจะดี คราวนี้ก็เป็นมิจฉาสมาธิเต็ม ๆ ตายเมื่อไรก็เป็นมหิทธิกาเปรตหรืออสุรกาย

    ถาม : อ้าว..แล้วการทรงสมาธิ ไม่ส่งให้เขาเป็นพรหมหรือครับ ?

    ตอบ : นั่นเป็นมิจฉาสมาธิ

    ถาม : นึกไปนึกมา บางทีตอนทำๆ อยู่ เราก็ทรงฌานอยู่

    ตอบ : ไม่ได้บอกว่าทรงฌานไม่ได้นี่

    ถาม : พยายามต้านเต็มที่ครับ มันควบทุกลมฌานเลย แต่มันก็ยังทำต่ออยู่

    ตอบ : แสดงว่ารู้ตัว แต่อยาก..

    ถาม : กะจะให้มันหยุด แต่มันก็ไม่พาเรากลับ สุดท้ายพาเราตกเหว ก็เลยมาสงสัยไปว่า เอ..ถ้าอย่างนี้เราอุปาทานไปเองหรือเปล่าว่าเราเข้าฌาน ?

    ตอบ : ถ้ากำลังมีมากพอ จะต้องหยุดได้

    ถาม : อีกรูปแบบหนึ่งของมาร

    ตอบ : อ๋อ...ไม่ใช่อีกรูปแบบหนึ่ง แต่เป็นรูปแบบปกติเลย เพราะเขามาในข้อสอบ ๔ แนว รัก โลภ โกรธ หลง เพียงแต่ว่าแตกแขนงออกไปเป็นหมื่น เป็นแสน เป็นล้าน ก็แล้วแต่เขา

    ถาม : อารมณ์อย่างนี้ ถ้าทรงฌานจนชิน เผลอหลุดไปนี่ มันคนละเรื่องกันเลย

    ตอบ : ไม่ต้องเสียเวลามานึกหรอก ตอนนั้นฟุ้งจนเอาไม่อยู่..!

    ถาม : แล้วอารมณ์กำหนัดที่ปะทุได้ เป็นเพราะอะไรครับ ?

    ตอบ : ใจยังปรุงอยู่

    ถาม : ก็แสดงว่าอุปาทานต้องแล่นก่อน

    ตอบ : เป็นเรื่องปกติ ถ้าใจเลิกปรุง มันก็เฉาสนิท

    ถาม : ถ้าอย่างนั้นจะระงับกำหนัด ก็ต้องไประงับอุปาทานให้ได้ก่อน ?

    ตอบ : เกินขั้น ถ้าถึงขั้นระงับอุปาทานได้ ไปเกินขั้นเยอะ

    ถาม : ตามปกติคนที่ทรงฌานสมาบัติ อุปาทานจะไม่ค่อยแล่นใช่ไหมครับ ?

    ตอบ : เป็นการปรุงอุปาทานไปอีกด้านหนึ่ง ไปในทางดี

    ถาม : ก็เหมือนลากไปอีกทาง

    ตอบ : คืออุปาทานนั้น ปรุงไปในเรื่องของสมาธิ..สมาบัติแทน ถ้าเรารู้ไม่เท่าทันก็จะไปติดตรงนั้นแทน

    ถาม : ก็กลายเป็นรูปฌานราคะไป

    ตอบ : อย่าลืม...แม้แต่ฌานสมาบัติก็เป็นการปรุงแต่งของใจ เพียงแต่การปรุงแต่งนี้สร้างคุณให้แก่เรา เพื่อใช้ในการตัดกิเลส แต่ส่วนใหญ่แล้วพวกเรากลับใช้ผิด ก็คือ พอปรุงแต่งจนกระทั่งสมาธิทรงตัว เราคลายออกมาแล้วไม่ได้พิจารณาวิปัสสนาญาณ พอกำลังคลายออกมาแล้ว เราไปฟุ้งซ่านในรัก โลภ โกรธ หลง ก็เลยฟุ้งซ่านอย่างเป็นหลักเป็นฐาน เป็นการเป็นงานกว่าเดิมอีก เพราะได้กำลังของสมาธิไป จนกระทั่งบางคนเขาบอกว่า อยากรู้ว่าตนเองมีกิเลสมากเท่าไรให้ไปฝึกสมาธิ

    พวกทำๆ ทิ้งๆ มักจะเจออย่างนี้แหละ พอเริ่มฝึกสมาธิ มันจะเริ่มโผล่มากวนเรา ก็เลยจะรู้ว่ากิเลสหน้าตาเป็นอย่างไร แต่ถ้าหากว่าเราทำอย่างต่อเนื่อง กิเลสก็เกิดได้ยาก ความผ่องใสของจิตจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ จิตใจผ่องใสมากเท่าไร ตัวปัญญาก็เกิดมากขึ้นเท่านั้น ก็จะเห็นช่องทาง เห็นวิธีการที่จะจัดการกับกิเลสของตัวเอง ท้ายสุด คือรู้ทุกอย่าง แต่ไม่ยุ่งกับมันเสียอย่าง หมดเรื่องกันไปเลย

    ไม่ได้ไปฆ่ามันให้ตาย ไม่ได้ไปขายมันให้ขาดหรอก มันเป็นสมบัติของร่างกาย ตราบใดที่มีร่างกาย ก็ยังมีรัก โลภ โกรธ หลงเป็นธรรมดา เพียงแต่ว่าเขาเลิกยุ่งกับมันเท่านั้นเอง มันบอกว่าสวย..เราก็ไม่สน มันบอกว่าไม่สวย..เราก็ไม่สน รับข้อมูลไว้เฉยๆ ในเมื่อได้ข้อมูลมา เราไม่ save ถึงเวลาปิดเครื่องมันก็เปล่าๆ my document ก็เลยโล่ง

    ถาม : ไม่ต้องไป delete มัน

    ตอบ : ไม่ต้องเสียเวลาไป delete เพราะเราไม่ได้ save

    ถาม : แล้วตอนเวลาที่เราบังคับจิตทำกรรมฐาน ?

    ตอบ : นั่นเป็นการปรุงเหมือนกัน เราใช้สัญญาสร้างปัญญาให้เกิด ตอนแรกก็ต้องจำ แล้วเอามาทวนเรื่อยๆ พอเกิดความแตกฉานแล้ว ใจยอมรับขึ้นมาก็จะเป็นปัญญา ถ้าตราบใดยังไม่เข้าใจ ยังไม่ยอมรับ ก็ยังไม่ใช่ปัญญาที่แท้จริง จะเป็นได้แค่สุตมยปัญญาหรือจินตมยปัญญาเท่านั้น


    <TABLE class=alt1 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE>


    พระครูธรรมธรเล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    ถาม-ตอบ ช่วงเย็น ณ บ้านอนุสาวรีย์
    วันเสาร์ที่ ๒ มกราคม ๒๕๕๓



    ที่มา : http://www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=1527



    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 มกราคม 2010
  2. godman

    godman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    1,006
    ค่าพลัง:
    +2,254
    เป็นปกติ ละกามราคะ ละได้ก็ต้องอริยบุคคลขั้นอนาคามีโน่นเลย ต้องปลงแล้วล่ะครับ
     
  3. ญ.ผู้หญิง

    ญ.ผู้หญิง ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,419
    ค่าพลัง:
    +26,932
    โมทนาสาธุ

    ดูวันที่ในบทความแล้วสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อต้นปีนี่เอง..... ๕๕๕
     
  4. wee1965

    wee1965 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2009
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +114
    อนุโมทนาค่ะ เป็นพวกที่ท่านบอกว่า ทำๆทิ้งๆเพราะข้ออ้างเรื่องงานและภาระ แล้วก็เป็นอย่างนั้นจริงแหละค่ะ พอช่วงไหนสะดวกปฏิบัติเริ่มต่อเนื่อง ต้องมีเรื่องมาทดสอบอารมณ์ ตลอดโดยเฉพาะความโกรธ โกรธง่ายจัง ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
     
  5. นายเก๋อ

    นายเก๋อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +202
    อนุโมทนาด้วยครับ..ตอนนี้ก็กำลังต่อสู้กับกิเลสเรื่องกำหนัดอยู่เลยครับ..
     
  6. Guide_Raito

    Guide_Raito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +2,990
    มีบุญมาฝากคับทางกลุ่มพระพุทธศาสนา ม. สงขลานครินทร์ ภูเก็ต ได้ จัดทำโครงการแจกสือ่ ธรรมะของสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำคับ เพราะ ที่นี่มีเด็กหลายคนสนใจมาฝึกมโนมยิทธิและหันมาทำความดีกัน เนื่องด้วย สื่อ ธรรมะ ของหลวงพ่อ ครับทางชมรมเลยจัดโครงการแจกสือ่ธรรมะเป็นสาธารณะประโยชน์ แก่ โรงเรียน ห้องสมุดต่างๆเพื่อ ชักจูง คนให้เป็นสัมมาทิฐิและเป็นกำลังพระศาสนา สืบต่อไปครับ
    ขอให้ชาวเวปพลังจิตทุกท่าน เจริญขึ้นทั้งทางโลก และทางธรรม เข้าถึงธรรมขององค์สมเด็จฯ ได้โดยง่ายครับ
    [​IMG] [​IMG]
    เข้าชมรายละเอียดได้ที่http://palungjit.org/forums/ขอเชิญร่วมบุญ-โครงการธรรมทานกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์-ภูเก็ต-[.109/FONT]218421.html<O:p></O:p>
    <O:p</O:p
     
  7. pimrapat

    pimrapat Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    32
    ค่าพลัง:
    +97
    เรื่องของความกำหนัดเรื่องของกามราคะระงับมาได้ประมาณ 3 ปี ก็เริ่มจากศีล 8 พอออกจากศีล 8 ก็ลดลงไป 2 แต่เรื่องของการกินระงับยากจัง กับเรื่องอารมณ์โกรธก็ต้องพยายามเพราะเรายังอยู่ในสังคม ก็ต้องพยายามตั้งสติตัวเองไม่ให้หลงไปกับสภาวะต่าง ๆ ยังไงก็ขอขอบคุณและอนุโมทนากับข้อความที่นำมาลงนะคะ จะได้พัฒนาตนเองไปเรื่อย ๆ
     
  8. Ponthakorn

    Ponthakorn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    29
    ค่าพลัง:
    +12
    อนุโมทนาครับ

    เป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติทุกท่านในการละนิวรณ์ 5 นะครับ
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...