เรื่องราวที่คนทั่วๆไปไม่ค่อยรู้

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย Aunyasit, 26 สิงหาคม 2005.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. ตรีมูรติ

    ตรีมูรติ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +1
    เรียนคุณ ปราณยาม

    เรื่องนี้มาจากประสบการณ์จริงล้วนๆครับ ผมนำเอาจากที่ครูบาอาจารย์ท่านเล่าให้ฟัง ตั้งแต่ ปี 2540 ถึง 2544 ครับ ยังมีเรื่องที่ท่านเทศน์ไว้ในวาระต่างๆอีกมาก ส่วนใหญ่อยู่ในเทป ยังไม่ค่อยมีเวลาถอดเทปครับ เอาไว้ว่างแล้วจะถอดเทปมาให้อ่านกันครับ

    (b-oneeye) ตามคำตอบที่ให้กับคุณ ปราณยาม ตอบว่า "เรื่องนี้มาจากประสบการณ์จริงล้วน ๆ ครับ แต่ไม่ทราบว่าเป็นประสบการณ์ของผู้เขียนหรือไม่ แต่ข้อความถัดมา ก็ค้านกับว่ามาจากประสบการณ์ เพราะว่าฟังมาจากครูบาอาจารย์เล่าให้ฟัง แล้วครูบาอาจารย์ของคุณนั้นฟังมาจากใครเล่าให้ฟังอีก ก็สรุปได้ว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องเล่า แต่ไม่ได้เป็นประสบการณ์ของตนเอง
     
  2. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณ ตรีมูรติ

    ที่นำมาให้รับรู้กันนั้นเป็นประสบการณ์ของครูบาอาจารย์ของผม ท่านไม่ได้ฟังใครมาหรอกครับท่านปฏิบัติเอาเอง ส่วนประสบการณ์ของผมนั้นก็มีเล่าอยู่ในหลายวาระเช่นกัน บางครั้งการที่ครูบาอาจารย์ท่านจะเล่าอะไรให้ฟังนี่ เราต้องเอาประสบการณ์หรือผลการปฏิบัติของเราไปถามท่านเพื่อการยืนยัน จะได้ไม่หลงเข้าพงเข้าป่าไป เมื่อท่านตอบให้แล้วก็มักจะเล่าเรื่องโน้นเรื่องนี้ที่เกี่ยวข้องให้ฟังเพิ่มเติม อย่างเราไปถามครูบาอาจารย์ในสิ่งที่ตัวเองเห็นภายในซึ่งเกี่ยวข้องกับตัวละครในเรื่องเรื่องรามเกียรติ์ ท่านก็จะเล่าเรื่องรามเกียรติ์ขยายความไปจากที่ถามเป็นต้น หรือหากขับรถไปในบางเขต ไปสัมผัสพวกจิตวิญญาณประเภทต่างๆเข้า เมื่อเจอครูบาอาจารย์ก็ต้องถามเพื่อยืนยันหรือหาคำอธิบายเกี่ยวกับสิ่งที่ไปประสบมา บางครั้งหากปัจจุบันทันด่วนไม่รู้จะถามใคร ก็จะถามสิ่งที่มาสัมผัสนั่นแหละว่าเป็นใคร ต้องการอะไร เป็นต้น หากมีโอกาสก็จะถามครูบาอาจารย์เพิ่มเติมความรู้ในสิ่งที่ประสบมา ก็เท่านั้นเอง
     
  3. Peng+

    Peng+ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +119
    ระยะหลังเห็นคุณอัญญาสิทธิ์กล่าวถึง หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่ หลวงปู่เทพโลกอุดร แล้วสับสนว่าใครเป็นใครบ้าง อยากให้ช่วยลำดับ โครงสร้างสายธรรมให้หน่อยจะได้ไหม เป็นแผนภูมิจะดีมากเลยครับ หากไม่สะดวกในการให้ข้อมูลบนนี้ ช่วยส่งให้ทาง PM หรือเมล์ peng@mapit.co.th ได้

    หรือถ้ามีเรื่องที่น่าสนใจทางโลกวิญญาณแล้วไม่สามารถเปิดเผยได้ แต่บอกเป็นการส่วนตัวได้ ผมอยากรับฟังนะครับ ส่งให้ด้วยนะครับ
     
  4. eutayan

    eutayan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    71
    ค่าพลัง:
    +166
    "อีกรูปหนึ่งเป็นลูกศิษย์หลวงปู่ทองทิพย์ ชื่อหลวงพ่อราม วัดวังเงิน อ. คีรีมาศ จ.สุโขทัย องค์นี้ญาณรู้แจ่มใส มีตาทิพย์อย่างละเอียด ท่านปฏิบัติจนตาบอดแล้วหลวงปู่ทองทิพย์ท่านอธิษฐานให้ตาใหม่แก่หลวงพ่อราม เอาเป็นว่าท่านได้ตาเพชรก็แล้วกันครับ ท่านเคยปฏิบัติอยู่กับพระครูโลกอุดร ที่ถ้ำวัวแดง ถ้าไปหาท่านก็ลองถามท่านดูว่าลูกศิษย์หลวงพ่อทองทิพย์ที่อธิษฐานค้ำอายุหลวงพ่อรามไว้นั้นเป็นใคร ทำบารมีแบบไหน "

    ข้อความนี้ขอยืนยันอีกครั้ง เพราะเราไปนมัสการท่านหลายครั้ง ครั้งหลังสุดอธิษฐานถามท่านเรื่องการฉันอาหารซึ่งเราจะไปถวายเพลท่านและพระลูกวัด ท่านเปิดเครื่องขยายเสียงรอรับ พอเรากับเพื่อนก้าวขึ้นบันไดได้สิบกว่าขั้น ท่านก็พูดกับโยมที่รอถวายอาหารบนศาลา ว่าใจเย็น ๆ นะ รออีกคณะหนึ่งกำลังขึ้นมา อาหารที่เตรียมไปเป็นข้าวกล่อง ใส่ถุงมองไกล ๆ ไม่เห็นหรอกว่าอะไรเป็นอะไร แต่ท่านรู้ พักหลัง ๆ ท่านเริ่มเล่าอะไรดี ๆ ให้ฟังทีละอย่าง ๆ แล้วล่ะ เราแอบถามท่านแล้วเรื่องชื่อเสียงเลียงนามครูบาอาจารย์ แต่ท่านไม่บอกหรอก ได้แต่ยิ้มตอบเฉย ๆ เลี่ยงไปแบบว่าให้เราค้นหาเองนะ
     
  5. tamsak

    tamsak ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2004
    โพสต์:
    7,857
    กระทู้เรื่องเด่น:
    22
    ค่าพลัง:
    +161,171

    ผมนำคำอธิบายของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ) ที่ท่านกล่าวถึงคำภาวนาว่า "นะ มะ พะ ทะ" มาให้อ่านกัน เพื่อเป็นความรู้ครับ

    นะมะพะทะ เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน

    ผู้ถาม

    หลวงพ่อครับ อย่างคำภาวานาว่า "นะมะพะทะ" เป็นพุทธานุสติกรรมฐานหรือครับ "นะมะพะทะ"แปลว่าอย่างไรครับ?


    หลวงพ่อ

    นะมะ" แปลว่า นมัสการ "พะทะ" แปลว่า พระพุทธเจ้า "นะมะพะทะ" แปลว่า ฺไหว้พระพุทธเจ้า เรื่องจริงนะ "นะมะพะทะ" ที่แปลว่า ธาตุ 4 คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ เขาไม่ได้ ภาวนา เขาพิจารณานะ คำว่า "นะมะพะทะ" ที่ท่านมาบอกจริงๆ บอกว่าไม่ใช่ธาตุ 4 เป็นการนมัสการพระพุทธเจ้า เป็นพุทธานุสสติกรรมฐาน



    จากหนังสือหลวงพ่อตอบปัญหาธรรม ฉบับพิเศษ เล่ม10
    http://www.palungjit.org/board/showthread.php?p=7197

    .
    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2006
  6. ยอดยาหยี

    ยอดยาหยี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    576
    ค่าพลัง:
    +2,697
    เก่งจัง รู้รายละเอียดเยอะจัง
     
  7. Peng+

    Peng+ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +119
    ขอถามคุณอัญญาสิทธิ์อีกครับว่า

    ทราบหรือครูอาจารย์เคยบอกไหมว่า วิธีการดูพระอรหันต์นี่ดูยังไง
    ถ้าเราต้องการทดสอบจะเป็นบาปไหม
     
  8. ศิษย์น้อย

    ศิษย์น้อย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    427
    ค่าพลัง:
    +3,047
    ลูกหลานหลวงพ่อโปรดรับโอวาท แล้วทรงอารมณ์กรรมฐานต่อไป

    [​IMG]

    โอวาทของพระเดชพระคุณพระราชพรหมยานเถระ
    วัดท่าซุง จ.อุทัยธานี


    ".....ลูกทุกคนของพ่อเป็นคนดี อยู่ในโอวาทขององค์สมเด็จพระชินสีห์บรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ฉะนั้นลูกทุกคนจึงเป็นที่รักของพ่อ ใครเขาจะเกลียด ใครเขาจะชังลูก เป็นเรื่องของเขา แต่ว่าพ่อรักลูกทุกคนเสมอกัน ต้องการอย่างเดียว คือ จำนำทางให้ลูกพ้นทุกข์ เข้าไปหาแดนความสุข ที่ไม่มีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ไม่มีความหนักใจแม้แต่นิดเดียว นั้นคือ พระนิพพาน "

    (หมายเหตุ ถ้าจำไม่ผิด น่าจะเป็นเทศน์ตอน "ฤาษีสอนลูกใต้ร่มไทรงาม")


    ขอเราท่านทั้งหลายที่เป็นลูกหลานหลวงพ่อ จงน้อมรับโอวาทนี้แล้วทรงอารมณ์พระกรรมฐานของพวกเราต่อไป...... เพื่อพระนิพพาน ซึ่งหลวงพ่อรอพวกเราอยู่...

    หากหลงติดบ่วงของผู้อื่น.. จะเสียเวลายิ่ง..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 สิงหาคม 2006
  9. ศิษย์หลวงพ่อ

    ศิษย์หลวงพ่อ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    93
    ค่าพลัง:
    +366
    โมทนาด้วยคุณศิษย์น้อย หลวงพ่อของพวกเราประเสริฐที่สุดแล้ว คนที่ยังคิดไม่ได้ยังมีอีกเยอะครับ ลองคิดดูเอาก็แล้วกันนะครับว่าจะเชื่อพระ หรือเชื่อฆารวาส ฟังกันมากอ่านกันมากก็เฟือมากครับ ขอให้เจริญในธรรมครับคุณศิษย์น้อย
     
  10. วิปจิตัญญู

    วิปจิตัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +850
    ขอขอบพระคุณ คุณAunyasit ที่ชี้แนะเพิ่มเติม ครับ

    ผมน้อมรับพุทธโอวาทของ องค์หลวงพ่อฤาษีท่านเสมอมา ท่านจะเป็น ภูมิไหน ไม่สำคัญ ท่านต้องการเห็น ลูกหลานของท่านได้ดี และไปนิพพาน ....เราก็ทำตามที่ท่านต้องการ ให้ท่าน ภูมิใจ ดีมั้ยครับ
     
  11. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณ tbdorakiez072

    ระบบที่ผมฝึกกันนั้น ไม่อาศัยการใช้รูปนิมิตครับ ครูบาอาจารย์ท่านคงจะกลัวว่าจะโดนมารหลอกจากภาพต่างๆได้ง่าย ท่านเลยให้ปฏิบัติเข้าสู่ภพภูมิของศีลธรรมคือเมื่อถอดกายทิพย์ออกไปก็จะเจอภพภูมิของศีลธรรมภายในแล้วก็ศึกษาจากสิ่งที่ไปรู้เห็นมา ภพภูมิก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับภูมิธรรมระดับต่างๆเช่นกันครับ เหนือสิ่งอื่นใดก็คือการปฏิบัติให้เกิดบุญญฤทธิ์จากการปฏิบัติทาน ศีล ภาวนา รวมทั้งให้เกิดผลออกมาภายนอกได้

    ถ้าถามว่าการรู้เห็นจะเหมือนกันไม๊ อันนี้ตอบได้เป็นทำนองเดียวกันกับที่คนหลายๆคนไปในที่เดียวกัน สิ่งที่ทุกคนเห็นนั้นมี(ขอใช้คำว่าจำนวนสิ่งต่างๆ)เท่ากันและเหมือนกัน แต่ผู้ที่ไปรู้เห็นมาแต่ละคนนั้นมีสภาวะรับรู้หรือจดจำที่แตกต่างกันมา เมื่อมาอธิบายก็อาจจะอนุมานได้ว่าเป้นสิ่งเดียวกันหรือสถานที่เดียวกัน ง่ายๆคุณลองนึกถึงบ้านของตัวเอง แล้วให้พี่หรือน้องของตัวเองนึกถึงบ้านด้วย แล้วอธิบายออกมาหรือวาดภาพออกมา ซึ่งอาจจะแตกต่างกันในบางแง่มุม แต่เมื่อคุยกันไปคุยกันมา ก็จะรู้ว่าเป็นบ้านเดียวกัน

    หรือเปรียบเทียบได้กับคน 2 คนไปกรุงเทพฯด้วยกัน แล้วมาเล่าให้คนอื่นฟัง ซึ่งผู้ฟังอาจจะพอเข้าใจได้ว่าทั้งสองคนไปกรุงเทพฯมา แม้แต่สถานที่ ที่เดียวกันเมื่อสองคนนำมาเล่าก็อาจจะบอกเล่าออกมาได้ไม่เหมือนกัน ถ้าผู้ฟังไปกรุงเทพฯมาก่อนก็พอจะเข้าใจได้ว่าสองคนนี้ไปกรุงเทพฯมา แต่ถ้าผู้ฟังไม่เคยไปกรุงเทพฯมาก่อนก็จบเลยเหมือนกันเพราะอธิบายยังไงผู้ฟังก็ไม่สามารถเห็นภาพที่แท้จริงของกรุงเทพฯได้

    เรื่องของศีลธรรมภายในก็ทำนองเดียวกันครับ แม้ปฏิบัติมาด้วยกัน ใช้วิธีเดียวอาจารย์เดียวกัน ก็มิใช่ว่าจะเห็นสิ่งเดียวกันซะทั้งหมด เพราะบุญกุศล วาสนาบารมีของแต่ละคนย่อมแตกต่างกัน แม้จะปฏิบัติแบบเดียวกันก็ยากที่จะไปรู้เห็นได้เหมือนกันเป๊ะ จิตใครละเอียดกว่าหรือบริสุทธิ์กว่าก็ย่อมรู้เห็นได้ดีกว่าและถูกต้องกว่า อันนี้เป็นเรื่องธรรมดา
     
  12. วิปจิตัญญู

    วิปจิตัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +850
    เป็นสิ่งที่กำลังจะถามอยู่พอดีครับ (i)
    คุณ Aunyasit ฝึกแนวไหนมา สายไหนมาพอจะบอกได้มั้ยครับ
    ฝึก จากมหาสติปัฏฐาน มารึป่าวครับ

    จริงๆ วิชา มโนยิทธิ แบบหลวงพ่อฤาษี เป็น วิธี ที่ ทำให้ เห็นได้ง่ายครับ ทำให้คนเชื่อในคำสอนมากยิ่งขึ้น เชื่อ เรื่อง นรก สวรค์ และ เคารพในองค์ศาสดาและพระอริยสงค์เจ้าที่ละสังขารไปแล้ว มากขึ้น ถ้าปฏิบัติกันจริงๆ จะใช้เวลานานมากกว่าจะได้ เพราะ มโนยิทธิ เป็น อภิญญา

    ถึงมิตรธรรม ที่รัก ศิษย์พี่ ศิษย์น้อง สาย หลวงพ่อฤาษี หลวงพ่อปาน ทุกท่าน

    จะสายไหน วิธี ไหน ผมก็เล็งเห็นแล้ว ว่า พวกท่านที่เข้ามาตอบในกระทู้ ทำไปก็เพื่อ ความดี บริสุทธ์ใจกันทุกคน ผมเห็น ถึงความกตัญญู ของพวกท่าน ที่ รักพ่อฤาษี ของเรา ปกป้องท่าน ครูบาอาจารย์ของพวกเรา ผมเองและ เหล่าสรรพสัตว์ทั้งหลายที่หลุดพ้น ไปก็ดี ที่เกิดดวงตาเห็นธรรมก็ดี ก็คิดเคารพ และ กตัญญู ต่อท่านกันทุกคน

    เพียงแต่จะแสดงออกอย่างไร แค่นั้นเอง ผู้ใดเห็นธรรม ผู้นั้น เห็น เราตถาคต เห็น(พุทธโอวาท ) ครูบาอาจารย์ ก็ โมทนา กับ ความดีที่เราทำอยู่

    ขอให้สงบใจเอาไว้ คิดถึงธรรมปิติที่ได้ ตอนเริ่มฝึกกันใหม่ๆ รวบรวมกำลังใจใหม่ ทรงณานในพรหมวิหาร 4 ให้เกิด แล้ว ดับอารมณ์ โกรธ อารมณ์ อวิชชา ข้อความ ที่ผ่านมา อ่านแล้วก็ผ่านไป จิตจับ แต่ของดี เราจะทำ ตัวเป็นเครื่องกรองไปใยที่จะจับ แต่ของเสีย จงทำตัวให้เป็น น้ำ ครึ่งแก้ว รับสิ่งที่ดีๆเข้ามาในชีวิตเสมอ

    ธรรมใดที่หลวงพ่อฤาษีท่านสอนเรามา เราก็น้อม รับมาปฏิบัติกันต่อไป ธรรมใดจาก ครูบาอาจารย์ท่านอื่น จะเป็น ฆราวาสก็ดี จะเป็น สมณเพศก็ดี ถ้าธรรมนั้น บริสุทธิ์ดี เป็นประโยชน์แก่เรา เราก็น้อมรับมา ปฏิบัติดู เมื่อเกิดผลก็ดี ไม่เกิดผลก็ดี เราก็ ยุฒิในธรรมนั้นทั้งคู่ เข้าใจมั้ยครับ ( ยุฒิในธรรมนั้นทั้งคู่ = เกิดผล เราก็ ยุติ เพราะ ปฏิบัติ จนเกิดผล หมดความสงสัย ไม่เกิดผลก็ ยุติ และ วางเฉยเสีย )

    พรหมวิหาร 4 โดย เฉพาะ อุเบกขา หลวงพ่อท่านก็สอน
    ธรรมต่างๆ จาก กรรมฐาน ทั้ง 40 กอง วิปัสสนา ทั้ง 9 ท่านก็สอน คุณธรรมใน ศาสนา ไม่ว่าจะ พรหมวิหาร4 สังโยชน์10 กรรมบท10 จริยา15 ฯลฯ ท่านสอนไว้หมด แต่ น้อยคนที่จะหยั่งลงไปถึง พอได้ มโนยิทธิ กับ ณาน8 ก็นึกว่า ตัวเอง ไปรู้ไปเห็นมา แล้ว เห็น เกิด แก่ เจ็บ ตายมา แล้ว จริงๆ ตรงนั้นเป็น แก่น ยังมีข้อปลีกย่อยอีกมาก และ สำคัญมากที่ พระพุทธเจ้า เตือน เรื่อง ความประมาท ก่อนท่านจะ ทรง เสด็จ ปรินิพพาน

    รู้มั้ย กันมั้ย ว่าโดน สอบอารมณ์กัน มานานแล้ว ไม่รู้ตัว ก็ กลับไปทบทวน พรหม วิหาร 4 ข้อ อุเบกขา กันใหม่นะครับ

    หลวงพ่อฤาษีท่าน ดลใจให้มาบอก
     
  13. วิปจิตัญญู

    วิปจิตัญญู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    87
    ค่าพลัง:
    +850
    เรื่อง พระครูโลกเทพอุดร ผมเคยใช้ วิชา มโนยินธิ ไปกราบท่านมา แต่ไม่รู้ ว่าเป็น ดินแดนอะไร ผมเห็นเป็น ฟ้า สุดลูกหู ลูกตา ท่านเป็นพระอรหันที่ อยู่มาตั้งแต่สมัยพุทธกาลหรอครับ

    ฐานบารมี ของคุณAunyasit ถ้าวันนึงผมมีโอกาส ผมยินดี จะร่วมสร้างต่อยอดอย่างยิ่งครับ พอมีรายละเอียดมั้ยครับ และ ขอ โมทนา ในความดีของ คุณ Aunyasit ด้วยนะครับ

    ใจจริง มี 1 คำถามอยากถามนะครับ แต่ขอเก็บไว้ เพียรปฎิบัติธรรม ต่อไป วันนึง ผมอาจจะเข้าใจอะไรมากขึ้น ว่าคุณ Aunyasit ตั้งกระทู้นี้ เพราะ อะไร เพื่อใคร และ มีอะไร ทำให้มาตั้ง :)

    ขออนุโมทนา กับทุกข้อความ ในกระทู้นี้และความดีของของทุกท่านครับ
     
  14. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณ sahadham

    เรื่องของหลวงปู่ใหญ่ พระครูเทพโลกอุดรนั้น ในรายละเอียดเกี่ยวกับโครงสร้างความสัมพันธ์ต่างๆนั้น ผมขออนุญาตไปดูสถานที่ ที่นึงที่หลวงปู่เณรคำน้อยท่านชวนผมไปดูก่อนนะครับ เพราะที่นั่นมีการทำโครงสร้างไว้อย่างชัดเจน ถ้าผมจำไม่ผิดสถานที่นั้น น่าจะอยู่ในถ้ำลี้ลับแห่งใดแห่งหนึ่ง คงจะไปในช่วงพรรษานี้แหละ เพราะผมมีแผนจะไปภาวนาอยู่กับท่านในช่วงสั้นๆ เมื่อเวลาลงตัวก็จะนิมนต์ท่านไป ถ้ำที่มีร่างของเจ้าเหล่าคำ อดีตผู้มีบุญญฤทธิ์คนหนึ่งของราชวางศ์ลาว ท่านบอกว่าท่านเคยไปดูมาแล้ว ในช่วงเวลาเดียวกันก็จะไปถ้ำสถานที่ ที่มีโครงสร้างระบบของโลกอุดรอยู่ ช่วงนี้ก็เริ่มศึกษาเข้าไปในข่ายของท้าวเตียงคำ ท้าวทองดำ และท้าวคำปุ่น ซึ่งเป็นผู้มีบุญญฤทธิ์องค์สำคัญๆของประเทศลาวในอดีต ผมมั่นใจว่าในยุคนี้ท่านเหล่านั้นได้มาเกิดทำบารมีอยู่ที่ใดที่หนึ่งครับ ก็กะว่าไปหาหลวงปู่เณรคำน้อยครั้งต่อไปจะต้องถามท่านเรื่องของ 3 ท้าวนี้

    สำหรับเรื่องของการดูพระอรหันต์นั้น ครูบาอาจารย์ของผมท่านไม่เคยสอนวิธีดูครับ สิ่งที่ท่านบอกเมื่อถามถึงเรื่องของพระอรหันต์ในประเทศไทยในยุคปัจจุบันก็คือ พระอรหันต์แบบที่มีอยู่ในสมัยพุทธกาลนั้นหมดไปตั้งแต่ พ.ศ. 500 กว่าๆ แล้ว พ.ศ. 600 นี่พระอรหันต์แบบที่เป็นตัวแบบคนนี้ไม่มีแล้ว เพราะผู้ที่มีวาสนาบารมีเขาไม่ลงมาเกิด ท่านบอกว่าพระศรีฯบารมี 80 อสงไขย ยังต้องรอกาลเวลาเพื่อนำเหล่าอรหันตสาวกเข้าพระนิพพาน พระนิพพานนั้นแต่ละยุคแต่สมัย พระพุทธเจ้าท่านจะต้องเป็นผู้นำทางเข้าไป ซึ่งแต่ละพระองค์ก็จะมีบริวารจำกัด เมื่อถึงระยะเวลาหนึ่งแล้วพระนิพพานก็จะปิดลง ไม่มีใครจะเข้าไปได้ด้วยตัวเอง จนกว่าจะมีพระพุทธเจ้าองค์ต่อไปมาเปิดทางและนำพาพระอรหันตสาวกเข้าไป

    แต่ปัจจุบันนี้พระอรหันต์นั้นท่านก็มีอยู่ แต่ไม่ใช่กายเนื้อแบบนี้ ท่านอยู่ลี้ลับ เมื่อถึงเวลาหนึ่งพวกตัวจะได้เห็นว่าพระอรหันต์แท้ๆนั้นท่านเป็นกันอย่างไร แล้วถึงเวลานั้นพวกตัวจะได้คุยกับเทวดาตัวเป็นๆแบบคนนี่แหละ ท่านบอกว่าในยุคพวกตัวนี่แหละไม่เกิน พ.ศ. 2560 แล้วท่านพูดปี พ.ศ.อีกครั้งจำได้ว่าปี พ.ศ.2552(ท่านปรารภเรื่องนี้ไว้เมื่อปลายปี 2542)

    ที่จริงเรื่องแบบนี้ผมไม่อยากเล่าเลย เพราะจะก่อให้เกิดความคิดที่ขัดแย้งกันมาก หากคนบางจำพวกวางจิตวางใจไม่เป็นก็จะเกิดเวรเกิดกรรมกับเขาเปล่าๆ แต่ผมถือว่าผมนำเอาทุกคำพูดของครูบาอาจารย์มาบอกกล่าว หากใครคิดจะขัดแย้งก็ถือว่าเป็นการขัดแย้งกับครูบาอาจารย์ของผมเองก็แล้วกัน เพราะผมนั้นไม่กล้าพอที่จะไปขัดแย้งกับผู้ที่ทำบารมีมา 80 อสงไขยเต็ม รวมทั้งมีสัญญลักษณ์ของมหาบุรุษเต็มฝ่ามือฝ่าเท้า สำหรับผู้ที่มีปรมัตถ์ติดตัวมาแบบนี้ผมกลัวกรรมจริงๆครับ

    ผมเข้าใจว่าน่าจะมีพระปฏิบัติในสายหลวงพ่อฤษีลิงดำที่สามารถเข้าถึงได้ว่าหลวงปู่ทองทิพย์นั้นบารมีท่านเป็นตามที่ผมกล่าวจริงหรือเปล่า ลองไปสอบถามดูนะ เพราะหลักความเชื่อตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนนั้นผู้ที่มีบารมีมากกว่าย่อมเข้าถึงและเข้าใจได้ดีกว่าผู้ที่มีบารมีน้อยกว่า

    ซึ่งเมื่อผมศึกษาไปๆ ก็พอเข้าใจได้ว่าพระอรหันต์ที่ครูบาอาจารย์หลายรูปท่านกล่าวถึงกันในยุคปัจจุบันนั้นท่านน่าจะเป็นพระอรหันต์ประเภทผ่านภูมิอรหันต์ คือมีบารมีถึงเป็นพระอรหันต์ได้แต่ท่านยังไม่เป็นพระอรหันต์หรือหลายๆท่านก็ไม่ปรารถนาที่จะเป็นพระอรหันต์เพราะท่านปรารถนาสูงกว่านั้นเช่นพระปัจจเจกและพุทธภูมิเป้นต้น หากมองในเรื่องของบารมีการเป็นพระอรหันต์ท่านเหล่านั้นเป็นได้แน่ๆหรือหากจะพูดให้เกียรติ์ท่านเหล่านั้นก็น่าจะใช้คำว่า "พระอรหันต์ก็น่าจะได้" ซึ่งก็ไม่ได้ขัดแย้งกันกับสิ่งที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ เนื่องจาก "นัยยะของคำว่าพระอรหันต์นั้นอาจจะแตกต่างกัน"

    อย่างที่ผมเคยเห็นภายในของครูบาอาจารย์หลายรูป ที่ภายในท่านเป็นทองคำทั้งองค์แล้ว แต่ถ้ายึดหลักตามที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวไว้ก็ยังไม่ใช่พระอรหันต์ตามนัยยะที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าวถึงเพราะท่านเป็นพระสงฆ์ในยุคปัจจุบัน ซึ่งผมเองก็ไม่มีปัญญาที่จะไปรู้ได้ว่าพระสงฆ์รูปนั้นเป็นพระอรหันต์หรือไม่เป็น ทางเดียวที่ผมทำได้คือถามครูบาอาจารย์ท่านเพราะท่านรู้มากกว่า

    ยังไงก็ต้อง ขออภัยลูกศิษย์สายหลวงพ่อฤษีลิงดำเป็นอย่างยิ่งด้วยครับ ที่ได้นำเรื่องราวเหล่านี้มาเปิดเผย อาจจะทำให้วางจิตวางใจกันลำบาก ทั้งนี้และทั้งนั้นไม่ได้มีเจตนาที่จะดิสเครดิตหลวงพ่อฤาลิงดำแต่อย่างใด เพราะผมเองก็นับถือท่านในฐานะพระอริยบุคคลท่านหนึ่ง จะระดับไหนผมไม่ได้สนใจเพราะพระอริยะบุคคลก็ถือว่าสุดๆแล้ว ทางเดียวที่เราจะทำได้ก็คือช่วยกันประพฤติปฏิบัติให้ความจริงปรากฏเพราะความจริงก็ต้องเป็นความจริงอยู่ดี

    หากครูบาอาจารย์ท่านสอนมาแบบไหนในเบื้องต้นเหล่าสานุศิษย์ก็ต้องเชื่อตามแบบนั้นก่อน จนกว่าเราจะประพฤติปฏิบัติไปประจักษ์ได้ด้วยตัวเอง ดังนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ลูกศิษย์สองอาจารย์จะเห็นไม่ตรงกันเนื่องจากครูบาอาจารย์ท่านสอนมาต่างกัน ส่วนในความเห็นที่ไม่ตรงกันนั้นก็สามารถทำให้เกิดปัญญาก็ได้หรืออาจจะก่อให้เกิดปัญหาก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลครับ


    คุณ eutayan

    อนุโมทนาด้วยนะครับที่ได้มีโอกาสพบเจอเนื้อนาบุญใหญ่ ท่านบอกผมว่าท่านรับพุทธทำนายเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะเป็นองค์ที่เท่าไหร่นั้นท่านไม่ได้กล่าวถึง แต่ท่านบอกว่าถ้าเทียบบารมีกับหลวงปู่ทองทิพย์แล้ว หลวงพ่อรามเป็นได้แค่ลูกเณรเท่านั้น ท่านบอกว่าหลวงปู่ทองทิพย์นั้นสูงสุดแล้ว
    ไปครั้งสุดท้ายท่านบอกว่าสร้างเจดีย์พระศรีสุขโขเสร็จแล้วท่านจะกลับข้างบนแล้ว แต่มีศรัทธาญาติโยมเขามาถวายให้ทำรั้วรอบวังเงินด้วย ผมก็บอกกับท่านว่านั่นไงต้องอยู่ต่อก่อนหลวงพ่อ รอก่อนหลวงพ่ออย่าเพิ่งไป รอผมสร้างวัดหลวงปู่ทองทิพย์เสร็จก่อนแล้วผมก็จะไปเหมือนกัน ก็หัวเราะกันใหญ่ท่านบอกว่าผู้ที่ท่านรู้แล้วท่านไม่อยากอยู่แล้ว หากไปหาท่านก็อย่าลืมขอพรท่านนะครับ ท่านนั้นปากพระร่วง ปากท่านศักดิ์สิทธิ์มาก ก็ท่านก็เป็นพระร่วงองค์หนึ่งแหละครับ
    ผมก็กะว่าเมื่อกลับจากภาคเหนือแล้วจะหาทางไปหาท่านสักวันนึง ไปกราบเรียนท่านเรื่องที่จะสร้างพระพุทธเจ้า 5 พระองค์ ไปให้ท่านอาราธนาอธิษฐานจิตให้และจะนำของบางอย่างไปให้ท่านบรรจุเจดีย์ครับ

    คุณ tamsak
    หากหลวงพ่อฤษีลิงดำท่านให้นิยาม "นะ มะ พะ ทะ" แก่ลูกหลานของท่านไว้ตามนั้น ท่านก็คงจะมีวัตถุประสงค์ของท่าน แต่ที่หลวงปู่ทองทิพย์ท่านให้ผมไว้นั้นมันครอบคลุมหลายอย่างครับ
     
  15. Aunyasit

    Aunyasit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 สิงหาคม 2005
    โพสต์:
    1,312
    ค่าพลัง:
    +13,053
    คุณ วิปจิตัญญู

    อนุโมทนาในกุศลจิตครับ สำหรับเรื่องที่จะร่วมสร้างต่อยอดฐานบารมีนั้น ถึงเวลาแล้วจะแจ้งให้ทราบครับ

    ถ้าจะใช้มโนมยิทธิไปสอบถาม ให้สอบถามอีกสองท่านคือ หลวงปู่ใหญ่(หลวงปู่ทองทิพย์) กับพ่อพระอินทร์ ผมมั่นใจว่าทั้งสองท่านจะให้คำตอบเดียวกันครับ
    สำหรับสาเหตุและที่มาของการเข้ามาตั้งกระทู้นั้น ตอบได้แต่เพียงว่า เป็นการทำเพื่อผู้อื่นทั้งนั้นและไม่ได้ทำเพื่อตัวเองอย่างแน่นอนครับ ส่วนใครจะอยู่เบื้องหลังหรือไม่ อย่างไร ขอไม่เปิดเผยในตอนนี้นะครับ หากใครจะว่ากล่าวอย่างไรก็จะอุเบกขาไป ก็ถือว่าเขาไม่ผิดเนื่องจากเขาไม่รู้ แต่เมื่อเป็นหน้าที่เราก็ต้องทำละครับ

    ขอให้เจริญในธรรมและสามารถเข้าใจในสิ่งที่สงสัยอยู่ได้โดยไวครับ
     
  16. Supernova

    Supernova เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    230
    ค่าพลัง:
    +2,488
    ถึง คุณ Aunyasit

    สิ่งที่ผมอยากจะกล่าวคือ สิ่งที่คุณ Aunyasit กล่าวไว้ว่าพระองค์ใดไปเกิดเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริยเมตไตร บางท่านได้บรรลุเข้านิพพานท่านไม่ได้มาเกิดแล้ว สิ่งที่คุณกล่าวอาจสร้างความเข้าใจผิดต่อผู้อื่นๆได้นะครับ ผมนะเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อฤาษี แต่เคารพพระภิกษุที่ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ และปฏิบัติตรงทั้งหมด แต่สิ่งที่คุณ Aunyasit ได้กล่าวว่านานเหมือนกัน(ช่วงแรกๆ) ผมอยากให้คุณ ลบออกไปด้วยก็จะดีนะครับ หรือมีการแก้ไขอย่างอื่นๆ เป็นการปลอดภัยกับตัวคุณเอง และผู้อื่นๆที่อ่านแล้วอาจจะเกิดการเข้าใจผิดได้ การทำให้ผู้อื่นเข้าใจผิดเกี่ยวกับ พระรัตนตรัย (พระพุทธ พระธรรม และ พระสงฆ์) เท่ากับเป็นการปรามาสเลยนะครับ มีโอกาสลงอบายภูมิเลยนะครับ ผมเห็นคุณ Aunyasit ก็เป็นผู้ที่ใฝ่ในธรรมะ ไม่อยากให้คุณก้าวพลาดนะครับ
     
  17. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
    เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ
    เช่น บอกหลวงปู่แหวน จะมาเกิดเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริย์
    จะมาได้อย่างไรอีก หลวงปู่ท่านเป็นพระอรหันต์อยู่ที่พระนิพพานแล้ว
    อัฐิท่านกลายเป็นพระธาตุ
    http://www.relicsofbuddha.com/marahun/page8-2-19.htm

    บอกหลวงพ่อฤาษี จะมาเกิดเป็นอัครสาวกของพระศรีอาริย์
    จะมาได้อย่างไรอีก ท่านเป็นพระอรหันต์อยู่ที่พระนิพพานแล้ว
    สังขารของท่าน พระธาตุขึ้นเต็มไปหมด ชานหมากก็กลายเป็นพระธาตุ
    http://www.relicsofbuddha.com/marahun/page8-2-35.htm

    แถมมีบอกหลวงปู่มั่น เป็นพระมหาโพธิสัตว์จะมาตรัสรู้ในอนาคตวงศ์
    จะมาได้อย่างไรอีก หลวงปู่ท่านบอกเองว่า ท่านลาพุทธภูมิเด็ดขาดแล้ว
    ท่านเป็นพระอรหันต์ อัฐิกลายเป็นพระธาตุหมด
    อยู่ที่พระนิพพานแล้วเช่นเดียวกับ พระลูกศิษย์สายของท่านอีกหลายๆองค์
    ( ที่อัฐิเป็นพระธาตุแทบทั้งนั้น ) ต่างก็ยอมรับนับถือในคุณธรรมของหลวงปู่มั่นอาจารย์ของท่านว่าได้บรรลุธรรมขั้นสูงสุด จบกิจพระศาสนาแล้ว
    http://www.relicsofbuddha.com/marahun/page8-2-01.htm
     
  18. The Shadow

    The Shadow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    557
    ค่าพลัง:
    +1,732
    เอาเป็นว่าไม่ขอขัดแย้งกับใครแล้วกันครับ

    แต่ว่ารู้มาไม่เหมือนกันก็เท่านั้น

    1.พระอรหันต์มีอยู่ในปัจจุบัน แน่นอน ถ้าไม่มีจริงก็ขัดกับพุทธวจนะ และผมเชื่อว่ามีมากด้วย

    2.พระศรีอารย์ ท่านมาเกิดแล้วและ น่าจะเป็นเด็กอยู่

    ที่เขียนเนี่ย ตามความรู้น่ะ ไม่ยืนยันว่าความรู้ผมถูกหรือผิด แล้วก้ไม่ได้ปรับความรู้ของคนอื่นที่ไม่ตรงกันว่าผิดด้วยเช่นกัน เพราะผมก็ไม่ยืนยันความเห็นผม

    ที่เขียนได้เนี่ยเพราะมีคนเคยเขียนแล้วในบอร์ดนี้ ผมจึงเพียงแค่ยืนยันเท่านั้นครับ
     
  19. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997
    1. พระอรหันต์ที่ยังทรงขันธ์ 5 ในยุคปัจจุบัน มีอยู่อย่างแน่นอน มีมากด้วย
    ธรรมของพระพุทธเจ้าเป็นอกาลิโก ไม่จำกัดกาลเวลา
    ตราบใดที่ยังมีท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบตามพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
    ตราบนั้นโลกนี้ก็ไม่มีเว้นว่างจากพระอรหันต์เลย
    และ พระพุทธเจ้าได้ทรงพยากรณ์ศาสนาของพระองค์ไว้ว่า
    พันปีแรก จะมากไปด้วยพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณ
    พันปีที่สอง มากไปด้วยพระอรหันต์อภิญญา 6
    พันปีที่สาม มากไปด้วยพระอรหันต์วิชชา 3
    พันปีที่สี่ มากไปด้วยพระอรหันต์สุกขวิปัสสโก
    พันปี่ที่ห้า มากไปด้วยพระอนาคามี แต่พระอรหันต์ประเภทต่างๆ ก็ยังมีอยู่

    2. พระศรีอาริย์ท่านไม่ได้ลงมาเกิด
    องค์ที่มาเกิดแล้ว เป็นเด็กอยู่ น่าจะเป็นพระมหาโพธิสัตว์องค์สำคัญองค์หนึ่งมีบารมีมาก
    แต่ไม่ใช่พระศรีอาริย์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2006
  20. kasin84000

    kasin84000 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    175
    ค่าพลัง:
    +997

    ขั้นต้น
    ดูที่คำสอนของท่านว่า ขัดแย้ง , เปลี่ยนแปลง
    หรือ บิดเบือน จากที่พระพุทธเจ้าทรงสอนหรือไม่
    คำสอนของท่านเป็นไปในแนวทางเดียวกับที่พระพุทธเจ้าทรงสอนหรือไม่
    คำสอนของท่านสรุปที่การตัดกิเลสเพื่อมรรคผล มุ่งตรงพระนิพพานหรือไม่
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 สิงหาคม 2006
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...