ช่วย ๒ ชีวิต ฆ่า ๒ ชีวิต

ปัจจุบัน สู่ อดีต
เมื่อวาน น้องผู้ชายคนนึง มาปรึกษา เรื่องทำแท้ง (งานเข้าแล้วไง) เค้าก็รู้ว่าเราไม่ให้ทำแน่ๆ เราก็โน้มน้าวแบบชักแม่น้ำทั่วโลก ให้ไหลมารวมที่ประเทศไทย จนในที่สุดเช้าวันนี้เค้าตัดสินจะไม่ทำร้ายเด็กในท้องของแฟนเก่า จะรับผิดชอบ แม้ว่าจะใช้ลูกเค้าหรือไม่ เราดีใจและปลื้มใจ ที่น้องผู้ชายคนนี้ เค้าเชื่อในสิ่งที่เราพูด วันนี้ได้ช่วยไว้ได้ อีก ๑ ชีวิต เมื่อคืนยอมรับว่าเครียดมาก ถึงจะไม่ใช่เรื่องตัวเอง



เมื่อ ๑ ปี ๑ เดือน ที่ผ่านมา เพื่อนผู้หญิงคนนึง มาปรึกษา เรื่อง ท้อง หาทางออกยังไงดี (งานเข้าแล้วไง) เค้าก็รู้ว่าเราไม่ให้ทำแน่ๆ เราโน้มน้าวเธอคนนี้ได้ ด้วยเหตุผล ต่างๆนานา ทางศาสนา และบาปกรรม เธอตัดสินใจที่จะเลี้ยงลูกคนนี้ ตามลำพังแบบไม่มีพ่ ปัญหา ผู้ชายไม่รับผิดชอบ ใดๆทั้งสิ้น บอกเลิกทันที แถมบอกด้วยว่า มีเมียที่บ้านแล้ว


ทางแม่ของผู้หญิงคนนี้ ก็บอกให้เอาออก เช่นกัน ด้วยเหตุผล หน้าตาทางสังคม ปัญหาที่ตามมาคือ ฝ่ายชาย พยายามจะดึงตัวไปทำแท้งให้ได้ เธอก็หนีแบบย้ายที่อยู่ไปเลย ฝ่ายแม่ของเธอก็พยายาม จะพาไปทำแท้งเช่นกัน เธอหาทางออก ด้วยการโกหก ทั้ง ๒ ฝ่ายว่า ทำแท้งไปแล้ว เพื่อให้เลิกพยายามพาเธอไปทำแท้ง เราก็ช่วยให้กำลังใจเธอ จนถึงวันที่คลอด ตอนนี้ หนูน้อย อายุ ๔ เดือนแล้ว เด็กผู้หญิง ปัจจุบันแม่ของเธอ ยอมรับในความน่ารักน่าชังของหนูน้อยมาก ทุกอย่างดีขึ้นตามที่เราแนะนำเธอ แม้จะไม่มีพ่อเด็กอะนะ



เมื่อกลางปี ๒๕๕๒ อรกำลังทำกรรมฐานอยู่ที่ห้องพักที่ฟาร์ม เดินจงกรม และลงนั่งสมาธิตามปกติ วันนั้นกำหนดลมหายใจ ที่ท้องได้แล้ว รู้แล้วว่าวันนี้ได้ถึงจุดสมาธิ สงบดี เรายังกำหนดลมหายใจที่ท้องไปเรื่อย ๆ ภาพสว่างขึ้น


มันสว่างมาก แต่ไม่รู้ว่าเป็นสถานที่แบบไหน เราเห็นกรอบรูปสีทอง ใหญ่ๆ กรอบลุยส์มีเด็กผู้หญิง ผู้ชาย ประมาณ ๕ ขวบ อยู่ในกรอบรูปนั้น แยกกัน เด็กหญิงอยู่กรอบรูปทางขวา เด็กชายอยู่กรอบรูปซ้าย กรอบรูปลอยมาใกล้ จนเห็นภาพชัด มาก แบบใกล้จนแทบมองไม่เห็นกรอบ


ในกรอบรูปมีการเคลื่อนไหว เด็กผู้หญิง ใส่ชุดกระโปรงสีชมพู เอามือซ้ายปิดตาตัวเอง แล้วมือขวาชี้ไปขวา เรามองตามมือน้อยๆ นั้น ก็เห็นเด็กผู้ชาย สูงไล่เลี่ยกัน เด็กผู้ชาย ใส่ชุดทหารน้อยๆ ผมหยิกฟู ผมสีน้ำตาลน่ารักมาก เค้าทำท่าทีแสนซน ใส่เรา แล้วชี้หน้าเรา


มีเสียงดังขึ้นมาว่า "อย่าลืมพวกเรานะ" ไม่มีน้ำเสียงอาฆาต หรือโกรธแค้นเลย เชิงขอร้องมากกว่า


เราก็นึกในใจว่า "เอ๊ะ .. นั่นลูกใคร เราทำอะไรกับเด็ก ๒ คนนี่ไว้" แล้วเราก็ระลึกกรรม ขึ้นมาเลย


เป็นเรื่องนานมากแล้ว ๘ ถึง ๑๐ ปีมาแล้ว



เด็กผู้หญิง เป็นลูกของเพื่อนผู้หญิงของเราคนนึง เค้าปรึกษาเรา ให้เราช่วยหาที่ทำแท้งให้ เราเป็นคนชี้เป้า ว่าทำที่ไหน" เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด


เด็กผู้ชาย เป็นลูกของน้องผู้ชายคนนึงที่สนิทกัน เค้าปรึกษาเรา ให้เราหาที่ทำแท้งให้ เราก็เป็นคนชี้เป้าหมาย พาไปอีก ตกเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด อีกแล้ว

ตัวเองเลว ค่อดๆ อะค่ะ ยอมรับเลย


นานแสนนานมาแล้ว ลืมสนิทเลย ทำกรรมฐาน ไม่เคยแผ่เมตตาให้วิญญานของเด็ก ๒ คนนี่เลย วิบากกรรมที่ได้รับก็มากมาย ตามความเลวที่ได้ทำไว้ โดยไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป

พอระลึกได้ วิบากกรรมต่างๆ ที่ทำให้ขึ้นสูงสุด แล้วตกลงต่ำสุดจากรวดเร็ว ให้ตั้งตัวไม่ทัน ให้เราช้ำใจ ทุกข์ใจ อย่างแสนสาหัส ตลอดเจ็ดปี แปดปี
โอ้........ เพราะกรรมนี้หรอกหรือนี้ เห็นหนอ เห็นหนอ




เรายอมรับในผลของกรรม ทันที แบบไม่มีข้อแม้ใด สมควรแล้วที่ต้องทุกข์ใจ ร้องไห้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า




เมื่อครบเวลาที่ทำกรรมฐานเสร็จ เราก็แผ่เมตตาออกไปให้วิญญานเด็ก ๒ คน จากวันนั้นจนถึงทุกวันนี้ก็จะแผ่เมตตาให้เด็ก ๒ คน และคิดว่าจะตลอดชีวิตนี้เลย



ออกกรรมฐานแล้ว โทรไปหา คนทั้ง ๒ คน ทันที ว่าลูกเค้าๆ ยังต้องการบุญกุศล อีกมากและต้องการให้ได้มากพอจะได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีกว่า เป็นวิญญาน สัมภเวสีแบบตอนนี้


ผลกรรมจากการทำแท้ง พระพุทธองค์ยังได้ตรัสอีกว่า ผู้ที่เคยทำแท้ง ขณะมีชีวิตจะได้รับผลกรรมสนองจากโรคร้าย ป่วยหนัก อายุสั้น การถูกขัดขวางไม่ให้พบความเจริญ ความฉิบหายมาสู่ตนอย่างหาสาเหตุไม่ได้

ครั้นจบชีวิตแล้วจิตวิญญาณต้องได้รับโทษทัณฑ์ที่แสนสาหัสในนรกภูมิเป็นเวลาอันยาวนานมิอาจประมาณได้ และยิ่งถ้าหากเด็กผู้ตายนั้นมีจิตอาฆาตพยาบาทด้วยแล้วยิ่งลำบากหนัก เพราะจิตอาฆาตนั้นจะเฝ้าจองเวรกันทุกลมหายใจเข้าออก ทำให้ชีวิตไม่เป็นสุขทุกข์ทรมานต้องพบกับความล้มเหลวอย่างไม่หน้าจะเป็นไปได้


หรือบางท่านพบแต่ความทุกข์ระทม ล้มละลายทั้งชีวิตการงานและชีวิตครอบครัวหาความสงบสุขได้ยาก ต้องชดใช้กรรมกันอย่างสาสม จนกว่าแรงกรรมนั้นจะได้ชำระกันจนหมดสิ้น หรือ จนกว่าเป็นที่เพียงพอของจิตวิญญาณนั้น ที่สุดยกให้เป็นอโหสิ



ดีใจที่ได้ช่วย ๒ ชีวิตให้ได้ลืมตาดูโลก และเสียใจ ที่ทำให้อีก ๒ ชีวิต ไม่ได้เกิดมา



แต่กรรมฐานสามารถทำให้กรรมเบาบางลงได้ อยากให้คนที่ทำแท้งไปแล้ว ตัดสินใจพลาดไปแล้ว ได้ช่วยกันเจริญกรรมฐานอย่างสม่ำเสมอ ใช้กรรม เอากุศลให้ วิญญานของเด็กด้วยนะค่ะ




มันมีเรื่องวาระกรรม เข้ามาด้วย ถึงเวลาของเด็ก ๒ คน ที่สามารถแสดงแรงกรรมของเค้าได้ เค้าก็มาบอก


อรอยากให้คิดว่า วิญญานเด็กไม่เคยคิดจะตามรังควาน ใครเลย ที่เค้าแค้นใจเพราะ พ่อแม่ ฆ่าเค้า แล้วพ่อแม่เองก็ไม่มีจิตสำนึก เสียใจ สำนึกในบาปเลย ไม่ทำบุญให้เค้า ไม่คิดจะทำกรรมฐานให้เค้าได้เก็บสะสมบุญกุศลให้ได้ไปเกิดใหม่

ความเศร้าใจ เสียใจ นานวันเข้า จึงเกิดเป็น ความแค้นใจ และอาฆาต


มันเป็นเหตุและเป็นผล กันน่ะค่ะ




ทั้ง สอง กรณี ทั้งสองคู่ จะตัดสินใจกันก่อนแล้วว่า ไม่เอาไว้ แล้วเค้าจะเอาออก ด้วยความรู้ว่าบาป แต่รักเพื่อนมากกว่า ตอนนั้นก็ไม่รู้จะไปหาที่ไหน ที่ปลอดภัย เพื่อนไม่ตาย ไม่อันตราย ก็สืบหาที่ที่เป็นโรงพยาบาล มีห้องผ่าตัด แต่ถูกต้อง และปลอดภัย


จริงๆแล้ว รัฐบาลมีโรงพยาบาล สำหรับตรงนี้อย่างลับๆ ก็อึ้งเหมือนกัน เพราะ หมอและพยาบาล ดูแลแบบ case ผ่าตัดเลย




เพราะเคยเลว ถึงได้เกรงกลัวต่อบาป ถึงได้ละทุกอย่าง อย่างตอนนี้ เวียนว่ายตายเกิด อาจไกลความเป็นจริง หลวงพ่อจรัญ ก็สอนว่า แค่เอาความดีเข้าตัว (ใช้กรรมคืน เจ้ากรรมนายเวร) ยังทำไม่ได้ ไหนเลยจะไปพูดถึงนิพพาน





ตอนนี้เลยมุ่งใช้กรรมอย่างเดียว เพราะ พิสูจน์ด้วยตนเองแล้วทุกอย่าง ถึงได้ไม่กล้าทำบาป ทำกรรมอีก

ปัจจัตตัง เวทิตัพโพ วิญญู หิ
เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน ^_^



ขอบพระคุณ วิญญานเด็กทั้ง ๒ คนที่เค้าเปิดโอกาส ให้อรได้ชดใช้กรรม ด้วยการทำกรรมฐาน


ผลกรรม ที่ต้องใช้กรรมวิญญานเด็ก อ่านได้ที่ นี้ค่ะ

http://palungjit.org/threads/ใช้กรรมวิญญานเด็ก-๒-คน.226769/

 

อนุโมทนาสาธุในคุณความดีที่น้องได้กระทำมาค่ะ เคยมีคนมาปรึกษาเรื่องช่วยให้พาไปทำแท้งเหมือนแต่พี่ยืนกรานเลย ไม่ค่ะ อุทาหารณ์อีกอย่างน่ะค่ะ ใครมายืมเิงินมากกว่า 2-3000 บาทก็ให้ถามไถ่ให้ดีๆ มีตัวอย่างเพื่อนพี่ค่ะ ให้ยืมด้วยความไม่รู้ แต่ไปทำมาเสร็จถึงมาบอก ทุกวันนี้ก็มีคนมาสารภาพบาปเรื่องทำแท้ง พี่ก็แนะนำให้ทำบุญ รักษาศีล และเข้ากรรมฐาน สงสารเด็กมากๆเลย

ขอให้น้องอรเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปน่ะค่ะ

 

อรก็ยอมรับผลของกรรมค่ะ เราผิด เราต้องรับผลของกรรม ไม่ปฏิเสธ ไม่อวดครวญ สมควรแล้ว

 

ขอขอบคุณบทความดี ๆ ที่คุณอรเขียนด้วยครับ

คอยสอนวิธีการทำความดีตลอดเลย

ขออนุโมทนา ด้วยครับ

 

ขอบคุณมากค่ะ อรมีกำลังใจปฏิบัติมากขึ้นเลยค่ะ

 

ขอบคุณข้อความดีๆที่คุณอรเขียนเป็นธรรมทานที่ดีมากเลยค่ะตามอ่านในหลายๆกระทู้ที่คุณอรเขียนดีมากเลยค่ะ ปัจจุบันนี้มีคนส่วนมากเห็นว่าการทำแท้งดีกว่าปล่อยให้เด็กเกิดมาในเวลาที่พ่อแม่ไม่พร้อมจะเลี้ยงดู น่าสงสารเด็กนะคะเขาอยากเกิดก็ไม่ได้เกิด อนุโมทนาบุญปฏิบัติพระกรรมฐานและเผยแพร่เป็นธรรมทานค่ะ

 

อรก็คนเลวกลับใจน่ะค่ะ ตอนนั้นอารมณ์ อะไรก็เพื่อเพื่อนก่อน
ดูแบบอรไว้จะได้ไม่ทำตามกันเนอะ

 

สาธุค่ะดิฉันก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ใช่คนดีมากมายแต่พยายามทำเลวให้น้อยที่สุด คุณอรเล่าเรื่องกรรมทำแท้งเป็นธรรมทานดีแล้วค่ะ กรรมมีจริงขึ้นอยู่ว่าช้าหรือเร็วที่กรรมนั้นจะส่งผล หลายๆคนที่ดิฉันรู้จักเล่าเรื่องที่เขาเคยทำแท้งเหมือนเป็นเรื่องปกติ บางคนทำแท้งหลายครั้งมากบางคนเล่าวิธีของการทำแท้งของตนเองและเพื่อนทั้งจากโรงพยาบาลและหมอเถื่อนฟังแล้วหดหู่ใจค่ะเพราะบางคนไม่สามารถที่จะมีลูกได้อีกเลยทั้งที่อายุยังน้อย บางครั้งดิฉันก็ถามว่าไม่เสียดายลูกเหรอถ้าเขาเกิดขึ้นมาอาจจะนำโชคมาให้ก็ได้ และไม่เคยเห็นด้วยกับคนที่เคยไปทำแท้ง แนะนำให้คนอื่นไปทำแท้ง เพราะหลายๆคนตอนนี้ชีวิตก็แย่มาก ขอให้เรื่องที่คุณอรเล่าทำให้ใครหลายๆคนเห็นเหตุและผลของกรรมทำแท้ง นำไปบอกต่อให้ผู้อื่นได้รู้ด้วยค่ะ

 

ขอบคุณ คุณkultida มากเลยนะค่ะ อรผิดจริงๆ ค่ะ ตอนนี้แรงกรรมก้อตามมาถึง กำลังส่งผลอยู่ค่ะ ที่ทำกรรมฐานเพราะ ช่วยอรได้มากเลยค่ะ ไม่งั้นอาจจะตายไปตามกรรมที่ควรจะเป็นแล้ว เดี๋ยวอรจะเล่าอีกทีนะค่ะ

 

แหะแหะ คงต้องผิดคนแน่เลยค่ะ อรไม่เคยไปน่ะค่ะ แต่ขอบคุณที่ใส่ใจ มากๆนะค่ะ ^_^

 

ขอบคุณค่ะจะรออ่านเรื่องราวดีๆที่คุณอรเขียนขอบอกว่าชอบมากๆเลยค่ะทุกเรื่องที่คุณอรเขียนมีประโยชน์ต่อผู้อื่นมาก

 

ขอบคุณมากค่ะ ปลื้มจังเลยค่ะ ตอนนี้เกาะโต๊ะเก้าอี้เต็มที่เลย ตัวลอยยยยยยยย อิอิ

 

ขอบคุณมากค่ะ กรรมยังส่งแรงกรรมอยู่ หากไม่ได้ กรรมฐานช่วยไว้ อรคงไม่ได้อยู่ดูแลพ่อแม่ แบบตอนนี้แล้ว

 

เรื่องที่ผิดไปแล้ว ก็อย่าไปนึกถึงอีก หมั่นสร้างบุญดีที่สุด อุทิศให้แก่ผู้ที่เราเคยทำผิดพลาดล่วงเกินไป ซึ่งอาจไม่ได้มีเฉพาะที่เรานึกได้

 

มันสืบเนื่องจากชาติที่แล้วหรือป่าว

ชาตินี้ผมเป็นผู้ชาย

เกิดมาไม่เคยคิดไม่ดี มีแต่ความเมตตาสงสาร ทุกสิ่งทุกอย่าง

ความรู้สึกกับสิ่งต่างๆ มีแต่ทนุถนอม

แต่ทำไม ผมแทบจจะไม่มีที่ยืน ไม่ว่าจะที่ไหนๆ

ในครอบครัว โรงเรียน ที่ทำงาน

สถานที่ต่างๆ ที่มีผู้คน ล้วนแล้วแต่ มีเหตุทำให้ผม จะถูกเบียดล้มลงไป ซ้ำแล้วซ้ำเล่า

ซ้ำแล้วก็ซ้ำอีก เป้นมานาน ตั้งแต่เด็ก

จนทุกวันนี้จะ 20 แล้ว ฐานะของตัวเองดีขึ้นบ้าง

แต่ถานะทางสังคม หรือ กลุ่มคนมากกว่า 1 มีแต่เหตุให้ผมไรที่ยืนหยัด แล้วล้มลง

อยู่เรื่อยๆ ตลอดการใช้ฃีวิตไม่มีความสุข มีแต่ความหมองเศร้า

วัดไอคิว ก็แล้ว อีคิว เอคิว ตามหลักวิทยาศาสตร์ ทุกอย่างผ่่าน

เกินมาตราฐาน แต่ทำไมชีวิตถึงต้องเจือแต่เรื่องหมองหม่น

คงต้องวัดกรรม บ้างแล้ว

ได้อ่านเรื่องนี้แล้วสะท้อนในอกเหลือเกิน

 

ขอบคุณน้อง ปาฏิหาริย์ ที่แวะมาอ่านเรื่องของพี่อร นะค่ะ

อยากแนะนำ เล็กน้อย สวดมนต์ทุกวัน (สวดตามแบบที่ถูกต้องและครบถ้วน ทุกคืน) เมื่อใจพร้อม จึงค่อยหัดปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐาน

จิตใจที่หม่นหมอง จะเปลี่ยนแปลงแน่นอน

เมื่อใดที่น้องรู้สึกว่า เราต้องใช้ความอดทนมากๆ นั่นคือ เรากำลังชดใช้กรรม เมื่อใช้หมด เวลาของบุญก็จะมาถึง

ความดี ต้องลงทุนความลำบาก ความเพียร สู้ๆนะค่ะ

พี่อรเป็นกำลังใจให้ ^_^

 

กรรมเก่า เราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ กรรมปัจจุบัน จะช่วยเราเอง

อรุโมธนา สาธุ คับ : )

 

กรรมเก่าไม่มีใคร สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่กรรมปัจจุบัน จะช่วยเราเอง : )