เมื่อหลวงพ่อชา ตอบปัญหาพระเซ็น ?

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธัชกร, 18 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. ธัชกร

    ธัชกร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    267
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,040
    [​IMG]



    วันหนึ่งมีนักบวช 3 รูป ท่าทางไม่ใช่คนไทย แต่งกายคล้ายซามูไร บอกลักษณะว่าน่าจะเป็นพระเซ็น พระผู้ต้อนรับได้ปฏิสันถารกับอาคันตุกะทั้งสามจนทราบว่าเขาต้องการถามธรรมะหลวงพ่อจึงได้เชิญเขาเข้าไปพบหลวงพ่อพร้อมกับนิมนต์พระฝรั่งรูปหนึ่งมาเป็นล่าม เมื่อเริ่มต้นปฏิสันถารก็ได้ความว่า

    เขาได้ท่องเที่ยวถามธรรมะจากพระผู้ใหญ่ทั้งที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันในขณะนั้นหลายรูปหลายองค์ด้วยกันมาแล้วเมื่อนักบวชทั้ง 3 ได้กราบคารวะและขออนุญาตถามปัญหาแก่หลวงพ่อ ท่านก็อนุญาตให้ถามได้ไม่ต้องเกรงใจ ให้ถือว่าเราต่างเป็นชาวพุทธด้วยกัน มีพระพุทธเจ้าเป็นพ่อ มีพระธรรมเป็นแม่ อย่าถือว่ามหายานหรือ เถรวาท ให้ถือว่าเป็นลูกพ่อแม่เดียวกันเมื่อพระอาคันตุกะทราบคำอนุญาตแล้วก็เริ่มตั้งคำถามว่า

    “ปฏิบัติไปทำไม ปฏิบัติเพื่ออะไร ทำไมจึงต้องปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วจะได้อะไร”

    หลวงพ่อตอบทันทีว่า “กินข้าวไปทำไม กินข้าวเพื่ออะไร ทำไมจึงต้องกินข้าว กินข้าวแล้วจะได้อะไร”

    ปรากฏว่าพระอาคันตุกะเกิดความซึ้งใจในทันที

    และบอกว่าได้พยายามหาคำตอบสั้นๆเช่นนี้มานานแล้ว ส่วนมากคำตอบที่ได้มักยาว หลวงพ่อฟังแล้วท่านก็เฉยๆไม่ตอบเพียงกล่าวต่อไปว่า”มีปัญหาอีกไหม”
    เขาจึงถามต่อไปว่า “คนไม่รู้ คือ ใคร”
    หลวงพ่อ “คนไม่รู้ คือ คนหลง”
    พระอาคันตุกะ “คนหลง คือ ใคร”
    หลวงพ่อ “คนหลง คือ คนไม่รู้ “

    พระอาคันตุกะถึงกับน้ำตาคลอ เพราะได้คำตอบที่กินใจมากพระอาคันตุกะหมดความสงสัย เมื่อเห็นพระอาคันตุกะเลิกถามท่านก็ปฏิสันถารอีกเล็กน้อยว่า

    ท่านเองท่านชอบการปฏิบัติแบบเซ็น แม้พระไทยบางองค์ก็ไปปฏิบัติที่อินเดีย ลังกา เกาหลี ไม่ว่าปฏิบัติที่ไหน ก็ถือว่าเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พระธรรมเป็นนามธรรมเดียวกัน พระทุกชาติมีกิเลสตัวเดียวกัน ธัมมะจึงเป็น เอโก ธัมโม ขออย่าให้เราติดใจสงสัยเกี่ยวกับรูปแบบ

    คัมภีร์ อาจารย์ เพราะสิ่งเหล่านั้นเป็นเปลือกนอก ที่ไหนๆก็มี คนแก่ คนเจ็บ คนตาย”

    จากหนังสือ สุดสายธรรม หน้า 24
     
  2. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
    [​IMG]
     
  3. สมณะเถื่อน

    สมณะเถื่อน Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +30
    เรื่องนี้ดีจริงๆ ช่วย ขยาย คำที่หลวงพ่อตอบ ให้ที่ได้ไหม?

    “กินข้าวไปทำไม กินข้าวเพื่ออะไร ทำไมจึงต้องกินข้าว กินข้าวแล้วจะได้อะไร”
     
  4. chakapong

    chakapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    497
    ค่าพลัง:
    +1,305
    กราบหลวงปู่ชาด้วยเศียรเกล้า
     
  5. SP6580

    SP6580 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    518
    ค่าพลัง:
    +1,550
    ร่วมสนุกกับคำถามด้วยว่า กินข้าวแล้วจะได้ความอิ่ม หายหิว เพราะเมื่อกายหิวจิตก็กระวนกระวาย เพราะทั้งสองอย่างยังต้องอยู่ร่วมกันจนตาย
     
  6. ขุนกำแหง

    ขุนกำแหง Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มกราคม 2010
    โพสต์:
    35
    ค่าพลัง:
    +71
    สุดยอดมากเลยครับ
     
  7. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    “ปฏิบัติไปทำไม ปฏิบัติเพื่ออะไร ทำไมจึงต้องปฏิบัติ ปฏิบัติแล้วจะได้อะไร
    เมื่อปัญญาขึ้นมาระดับสูญ ย่อมเห็นสิ่งไร้ค่า ไร้ทวิคตินิยม ทุกสิ่งย่อมเป็นไปตามสิ่งที่จะเป็นไป จะไขว่คว้าหาสิ่งใด ในเมื่อเป็นสิ่งเดียวกัน จะมีอะไรในเมื่อไม่มี เมื่อคิดว่าเข้าถึงแล้วจะทำต่อไปทำไมในเมื่อคิดว่าเข้าถึงแล้ว จะได้อะไรเมื่อเข้าถึงเพราะรู้ว่าไม่มีในสิ่งที่มีอยู่
    หลวงพ่อตอบทันทีว่า “กินข้าวไปทำไม กินข้าวเพื่ออะไร ทำไมจึงต้องกินข้าว กินข้าวแล้วจะได้อะไร”
    และบอกว่าได้พยายามหาคำตอบสั้นๆเช่นนี้มานานแล้ว ส่วนมากคำตอบที่ได้มักยาว หลวงพ่อฟังแล้วท่านก็เฉยๆไม่ตอบเพียงกล่าวต่อไปว่า”มีปัญหาอีกไหม”
    เขาจึงถามต่อไปว่า “คนไม่รู้ คือ ใคร”
    หลวงพ่อ “คนไม่รู้ คือ คนหลง”
    พระอาคันตุกะ “คนหลง คือ ใคร”
    หลวงพ่อ “คนหลง คือ คนไม่รู้ “
    สิ่งที่เราค้นหาอยู่ตรงหน้า แต่ไม่รู้ วิ่งไปทุกทิศ คำตอบคือคำถาม คนไม่รู้จึงมักถาม คนถามจึงมักหลง เมื่อหลงจึงไม่รู้ เมื่อไม่รู้จึงถาม
    คาดว่าเป็นเช่นนั้น
     
  8. 5th-Lotus

    5th-Lotus เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    354
    ค่าพลัง:
    +306
    The Last-Supper

    [​IMG]



    เดาเอา ตามประสา กูรู้ นะ งิงิ



    ว่า มันเป็น ตรรกกะ ทื่อ ๆ
    ที่ตรงไปตรงมา ตามสไตล์ ขวานผ่าซาก
    แบบ วิถีแห่งเซน อ่ะ


    ลพ. ชา ทั่นคงต้องการจะสื่อให้เห็นมั้งว่า
    การปฏิบัติ มันก็เหมือนกับ การกินข้าว นั่นแหล่ะ
    ประมาณว่า


    เราต้องกินข้าวประทังชีพ
    เพื่อ รักษา สมดุล แห่งชีวิต

    เฉกเช่น ที่เรา ปฏิบัติ ประทังจิต
    เพื่อ รักษา สมดุลแห่งใจ กระมัง





    อืม...ถ้า ใครใช้ความรู้สึกตอบคำถามนี้ ได้
    ก็จะเกิดซาโตริเองแหล่ะว่า


    ปล.

    ชอบ รูป ข้างบน จังเรยอ่ะ
    The Last-Supper
    อาหารมื้อสุดท้ายแห่งชีวิต



    เฮ้ออออ ไวน์แดง แทนหยาดพระโลหิต
    หนมปังแทน เนื้อหนังมังสา ของพระองค์


    โอ้มายก๊อดดดดด เมื่อ อาหารมื้อสุดท้ายของชีวิต สิ้นสุดลง
    หากยัง ปลง มิได้ มันก็ยัง มิใช่ อาหารมื้อสุดท้ายของจิต
    ประตูแห่ง นิพพาน ก็ยังคงถูกปิด สำหรับข้าพเจ้าตลอดกาลลลล


    อืม...เห็นแร้ว เกิด ซาโตริ ดีแฮะ
    อาเมน เอ๊ย อมิตตาพุทธ เหอ ....เหอ....
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2010
  9. แค่ร่างกาย

    แค่ร่างกาย Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +71
    เกือบร้องไห้แล้ว น้ำตาคลอละ
     

แชร์หน้านี้

Loading...