ร่วมแจมประวัติและพระเครื่อง สุดยอดพุทธคุณสายใต้ครับ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย cornell, 7 พฤศจิกายน 2009.

  1. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    นำรูป รูปหล่อลอยองค์รุ่นแรกหลวงพ่อดำ วัดตุยง ก้นอุดผง(นิยม) มาให้ชมกันครับ
    ปล....พระองค์นี้เป็นพระของพรรคพวกที่สนิทกันในกลุ่มครับ มิได้เป็นของผมแต่อย่างใด หากแต่นำมาเพื่อเผยแพร่แด่ชาวพลังจิต จึงขออณุญาติเจ้าของภาพ(พรรคพวกผมเอง)มา ณ ที่นี้ครับ
    ....องค์นี้พิเศษเสียด้วยครับ มีคราบแป้งเจิมจากหลวงพ่อมาเดิมเลยครับ

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กุมภาพันธ์ 2010
  2. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    เท่าที่รวบรวมข้อมูลได้ รูปหล่อลอยองค์รุ่นแรก หลวงพ่อดำ วัดตุยง มีด้วยกันดังนี้.....
    1.เนื้อทองคำ แต่ไม่ทราบว่าก้นรูปหล่อเป็นอย่างไรนะครับ
    2เนื้อเงิน ก้นจะตันไม่มีอุด
    3.เนื้อนวะก้นอุดผงสีเหลือง***
    4.เนื้อทองแดงก้นอุดผงสีขาว***
    5เนื้อนวะก้นอุดทองแดงมีกริ่ง
    ผิดถูกอย่างไรทุกท่านช่วยแก้ไขและเพิ่มเติมด้วยได้นะครับ
     
  3. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    สวัสดียามเช้าครับ วันนี้จะนำข้อมูลมาเพิ่มเติมให้อีกนะครับ ตามที่ขอมา..........
     
  4. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    เหรียฐดีเหรียญดัง เมตตาแห่งเมืองคอน ที่จะแนะนำอีกเหรียญครับ....
    พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง เหรียญโกหว่า บล็อกวงเดือน ที่ปัจจุบันราคาไต่ระดับขึ้นตลอด(แต่ยังไม่แตะหมื่นครับ)....ด้วยพุทธคุณเมตตาที่ร่ำรือและประสบการณ์ ผนวกกับศิลปที่สวยงามแห่งเหรียญนี้...จึงทำให้แรงไม่หยุดชุดไม่อยู่ เพื่อนๆพี่ๆท่านใด พบเจอก็เก็บกันไว้ใช้กันนะครับ เพราะผมว่าราคาขึ้นไประดับเหรียญอ.นำอย่างแน่นอนครับ เก็บก่อนแพงย่อมดีกว่า แพงแล้วเก็บมานั่งช้ำใจตอนหลังว่าแต่ก่อนทำไมไม่เก็บครับ.....
    ....เหรียญนี้ผมเพิ่งได้มาครับ สภาพใช้แต่ยังสวย หน้าท่านยังชัดเจน แท้ดูง่าย ส่วนตัวผมเก็บทั้งสวยและหย่อนสวยครับ ขอองค์พระกับยันต์อย่าเลือนลางเป็นใช้ได้ครับ......
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  5. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    เหรียญพ่อท่านคลิ้ง วัถลุงทอง รุ่นทูลเกล้า เป็นอีกหนึ่งเหรียญราคาเบาที่น่าสะสมอีกหนึ่งเหรียญครับ ว่ากันว่าเหรียญนี้เป็นเพียงรุ่นเดียวที่พ่อท่านดำริจัดสร้างครับ ราคานั้นยังเบาอยู่มาก.....
    ...เหรียญนี้เป็นเหรียญที่ผมได้มานานเเล้ว รมดำมิดเลยครับ เรียกว่าสวยปิ๊งทีเดียวครับ พบเจอเก็บไว้ใช้ก็คุ้มสุดคุ้มครับผม......
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  6. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,321
    ค่าพลัง:
    +13,243
    ขอบคุณครับที่นำเรื่องราวของหลวงพ่อดำ วัดตุยง มาให้อ่านประดับความรู้ครับ ดีมากๆเลย
    เสียดายที่ผมมีเหรียญท่านอยู่เหรียญเดียว
     
  7. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    รูปหล่อราคายังพอเก็บได้ครับ ให้เลือกก้นอุดผงเหลืองครับ ส่วนเนื้อเงินประมาณครึ่งหมื่นกว่าๆน่าจะพอพบเจอครับผม....
    ปล...เหรียญรุ่นแรกนั้นหาแท้ๆยากมาก แต่ถ้าหาได้สุดยอดเลยครับ
     
  8. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    กลับมาทางสงขลาอีกรอบ ที่เพิ่งได้มาอีกองค์ครับ ปิดตาสายเมตตามหาเสน่ อันโด่งดังอีกองค์เเห่งสงขลาครับ.....

    <TABLE cellSpacing=2 cellPadding=2 width=830 align=center border=0><TBODY><TR><TD class=tx_4 vAlign=top align=left>พระปิดตาหลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ จ.สงขลา
    </TD></TR><TR style="FONT-SIZE: 12pt; FONT-FAMILY: Times New Roman"><TD class=tx_4 vAlign=top align=left>พระปิดตาหลวงพ่อกล่อม วัดหูแร่ จ.สงขลา เป็นพระปิดตาที่ขึ้นชื่ออีกสำนักหนึ่งของภาคใต้ ซึ่งใช่ว่าจะมีแต่คนไทยทางภาคใต้เท่านั้นที่นิยมเล่นหากันแต่คนจีนในประเทศมาเลเซีย และประเทศสิงคโปร์ก็ให้ความนิยมกันแพร่หลาย และเข้ามากว้านเช่ากลับทีละหลายองศ์ จนทำให้ทุกวันนี้แม้แต่พื้นที่ใน จ. สงขลา ก็ยังหาของไม่ค่อยได้ วางตามแผงเจ้าของตีราคาองศ์ละหลายๆพันบาท ตีราคาแบบไม่ง้อลูกค้าเสียด้วยปกติพระปิดตาสายใต้มักจะมีคุณวิเศษโดดเด่นไปทางคงกะพันกับมหาอุด แต่สำหรับพระปิดตาสำนักนี้กลับมีคุณวิเศษเด่นไปทางโชคลาภ จนมีนามฉายาเรียกกันมานานแล้วว่า “พระปิดตาเงินล้านแห่งแดนทักษิณ” หลวงพ่อกล่อมท่านสร้างพระปิดตารุ่นนี้เมื่อปี พ.ศ. 2515 มวลสารที่นำมาสร้างนอกจากผงวิเศษแล้ว ก็ยังมีเกสรดอกไม้และว่านอีกหลายชนิดเช่น ว่านเสน่ห์จันทร์ ว่านสาวหลง ว่านดอกทอง ว่านลูกไก่ทอง ว่านช้างประสมโขลง ว่านนางกวัก ว่านหลงรัง ว่านขุนแผน ว่านมหาลาภ ฯลฯ นอกจากนี้หลวงพ่อกล่อมยังให้ลูกศิษย์ไปขอผงเถ้าถ่านจากการเผาแบ็งค์ของธนาคารมาผสมอีกด้วย เพื่อเป็นการถือเคล็ดทางโชคลาภและโภคทรัพย์ พระปิดตารุ่นนี้เมื่อกดพิมพ์ได้เท่ากับเนื้อหามวลสารที่มีแล้วก็ได้พระปิดตาประมาณ 1000 องศ์ ท่านก็ปลุกเสกแบบบินเดี่ยวโดยท่านลำพังผู้เดียว จากนั้นก็แจกให้ชาวบ้านไปใช้กันคนละองศ์ แรกๆ ยังไม่ค่อยมีใครสนใจกันเท่าไหร่ แต่พอพระมีประสบการณ์มากขึ้น จึงมีคนมาขอพระปิดตากันจนหมดจากวัดไม่เหลือแม้แต่องศ์เดียว พระปิดตารุ่นนี้นอกจากจะดีทางโชคลาภและโภคทรัพย์แล้ว ทางเมตตามหานิยม ก็เยี่ยมสุดเหมือนกัน ตอนแรกเลยนั้นมีหนุ่มคนหนึ่งเอาพระปิดตาไปขูดผงใส่อาหารให้ผู้หญิงกิน ผู้หญิงเกิดหลงจนได้อยู่เป็นสามี-ภรรยากัน พอหนุ่มคนอื่นๆรู้ข่าวก็ทำตามบ้าง และสำเร็จผลกันหลายคน แต่มีบางคนเมื่อได้ผู้หญิงเป็นภรรยาแล้ว กลับทิ้งๆ ขว้างๆ เสียกลางคัน พ่อแม่ฝ่ายหญิงจึงเอาเรื่องนี้ไปฟ้องเล่าให้หลวงพ่อกล่อมฟังพอทราบท่านจึงสั่งไม่ให้ใครทำอีก ถ้าทำแล้วต้องรับเลี้ยงตลอดจนตายไปกันข้างใดข้างหนึ่ง ห้ามทิ้งกลางคันเด็ดขาด ถ้าผิดจากที่สั่งท่านแช่งเอาไว้ ว่าทำอะไรก็ไม่เจริญขึ้นหลังจากนั้นจึงไม่ค่อยมีใครแอบขูดผงพระปิดตาใส่อาหารให้ผู้หญิงกินอีก เพราะกลัวว่าหากเกิดเบื่อแล้วทิ้งๆ ขว้างๆ จะทำกินไม่ขึ้นเหมือนท่านแช่งไว้ พระปิดตาสำนักนี้เลยมีสร้อยห้อยท้ายเรียกกันว่า… ขูดผงต้องรับเลี้ยง </TD></TR></TBODY></TABLE>
    [​IMG][​IMG]

    หาไม่ง่ายนักครับ หากช่วงก่อนๆนั้นยังพอพบเจอครับ นับว่าเป็นพระปิดตาที่เด่นทางโชคลาภมหาเสน่ ที่ราคากับพุทธคุณนั้นต่างกันลิบลับ ราคาหลักพันแต่พุทธคุณไปไกลแล้วครับ ของดีราคาถูกพบเจอเก็บกันนะครับ...
    ....องค์นี้ฟอร์มสวย ล่ำดีครับ แต่องค์จริงเล็กพกพาสะดวก เพิ่งได้มาหมาดๆเลยมาแนะนำชาวพลังจิตกันครับ ราคานั้นยังจัดว่าถูกกว่าพระใหม่ๆสมัยนี้เสียอีกครับ
     
  9. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    คิดว่าจะห้อยพ่อกล่อมคู่กับองค์นี้ดูครับ( ที่ติดคอไม่เคยถอดซักวัน )....เป็นความเชื่อเเละความมั่นใจส่วนตัวครับ ที่มีองค์นี้เเล้ว ทำอะไรลุล่วงเสมอครับ...
    แม่นางกวักเนื้อว่าน หลังยันต์ หลวงพ่อปลอด วัดหัวป่า......
    ...เป็นมหาโชคลาภและเเคล้วคลาด ที่ผมใช้เเล้วเกิดผลโดยส่วนตัวครับ ส่วนตัวผมประสบการณ์ทุกองค์ที่อยู่ในครอบครองครับ จึงเชื่อเเละใช้ติดตัวไม่เคยห่างครับ....พี่น้องลองหามากติดตัวกันนะครับ.....

    [​IMG]
     
  10. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    ยังมีอีกหลายชิ้นที่อยากแนะนำครับ ทั้งที่ราคายังถูกกว่าพระใหม่อีกครับ.....และประสบการณ์กันมามากครับ
    เป็นอีกทางเลือกครับสำหรับนักสะสม ที่จะมองหาพระสักองค์ที่พุทธคุณสูง ราคาเล่นหาได้ง่ายครับ.....จะนำมาแนะนำเรื่อยๆครับผม
     
  11. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ปิดตาสวยมากค่ะ
     
  12. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    ขอบคุณครับคุณน้ำ องค์นี้ก็เป็นปิดตาอีกองค์แห่งเมืองใต้ที่ ว่ากันว่าคือหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลแดนทักษิณครับ.....ราคาไม่สูงแต่หายากครับ เมตตาโชคลาภดีสุดๆครับ
     
  13. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    morningวันไกล้ๆปลายเดือนครับชาวพลังจิต เงินเดือนไกล้ออกแล้ว...ขอให้มีความสุขกันถ้วนหน้าครับ
    ....วันนี้เดี๋ยวจะอัพข้อมูลเพิ่มให้อีกครับ
     
  14. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD>พระปิดตา
    [​IMG]

    พระปิดตาอาจารย์นำ วัดดอนศาลา

    <?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p>"พระปิดตา"อายุเก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย...ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่าสร้างขึ้นในสมัยใด</O:p>
    <O:p>บางท่านเคยพบว่า พระปิดตางบน้ำอ้อยขนาดใหญ่เนื้อดินเผา อยู่ในกรุเมืองกำแพงเพชร แต่ว่ามีน้อยองค์และหายาก
    บางท่านว่าพระปิดตาพิชัย กรุคลองตะเคียน...กรุวัดประดู่ทรงธรรม...จังหวัดพระนครศรีอยุธยา สร้างด้วยเนื้อดินผสมผงใบลานเผา น่าจะมีอายุเก่าที่สุดเพราะสืบได้ว่าสร้างใน สมัยกรุงศรีอยุธยายุคปลาย และมีให้เล่นหากันพอสมควร
    หรือบางท่านว่าอาจจะเป็น พระปิดตาท้ายย่าน จากกรุวัดท้ายย่าน จังหวัดชัยนาท เป็นพระปิดตาที่สร้างมาจากเนื้อแร่ดินพลวงผสมชิน ผู้รู้ว่าสร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยาเช่นกัน

    พระพุทธประติมาหินจำหลัก
    ในตำรากล่าวว่าในสมัยพุทธศตวรรษที่7 ศาสนาพุทธ ได้แพร่หลายเข้าไปใน ประเทศกรีก นายช่างจำหลักหินผู้มีฝีมือชาวกรีก ซึ่งเคยจำหลักเทพเจ้าต่างๆ จึงได้จำหลักรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้าขึ้นครั้งแรกด้วยหินอ่อนสีขาว ซึ่งมีมากในประเทศกรีก...ต่อมานายช่างชาวอินเดียแห่งแคว้นคันธาระ ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือของประเทศอินเดีย ได้ไปขอถ่ายทอดฝีมือ จำหลักรูปองคืพระศาสดา ด้วยหินชนวนสีเทา มีความงดงามไม่แพ้กัน จึงเป็นพระพุทธรูปสลักหินครั้งแรกของประเทศอินเดีย ซึ่งพุทธศตวรรษที่7 เช่นกันเรียกว่า ศิลปะคันธาระ และพระพุทธรูปยุคนี้ เมื่อเข้ามาถึงประเทศไทย เราเรียกว่า พระพุทธรูปสมัยทวารวดี

    พระพุทธรูปมีครั้งแรกในสมัยพุทธกาล
    ท่านผู้รู้กล่าวว่าความจริงแล้ว พระพุทธรูปได้สร้างขึ้น ครั้งแรกในสมัยพุทธกาล...สร้างด้วยไม้แก่นจันทน์ ครั้งนั้นพุทธองค์จะเสด็จไปยังสวรรค์ดาวดึงส์ เพื่อไปโปรดพุทธมารดา...
    พระมหากษัตริย์ที่ครองชมพูทวีป อยู่ในครั้งนั้นชื่อ พระเจ้าพิมพิสาร หรือพระองค์ใดไม่แน่ชัด ได้ทูลขออนุญาตสลักไม้แก่นจันทน์เป็นรูปพระพุทธองค์ไว้เพื่อสักการบูชา ในระหว่างที่พระพุทธองค์ไม่อยู่...พระองค์ทรงอนุญาต

    พระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์แสดงปาฏิหาริย์
    ในตำรามีพระพุทธรูป อยู่ปางหนึ่ง คือปางห้ามแก่นจันทน์ หรือเรียกเต็มๆว่า ปางห้ามพระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์ เมื่อสมเด็จพระพุทธองค์ เสด็จกลับจากดาวดึงส์ แล้ว ก็คงเสด็จไปยังที่พำนักของพระองค์ แต่เดิมซึ่งบัดนั้นมี พระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์ ประดิษฐานอยู่ พระพุทธรูปไม้แก่นจันทน์ ได้แสดงปาฏิหาริย์ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวได้คล้ายจะหลีกทางให้ พระพุทธเจ้า
    พระพุทธองค์ จึงได้ยืนและยกพระหัตถ์ซ้าย ขึ้นหงายฝ่ามือแบไปเบื้องหน้าเสมอพระอุระ...เป็นกิริยาห้ามไว้ ต่อมาประชาชนผู้ศรัทธาได้สร้างพระพุทธรูปปางนี้ไว้บูชาเพื่อความเป็นสิริมงคลเรื่อยมาจนถึงปัจจุบัน
    ส่วนพระมหากัจจายนะ หรือ พระสังกัจจายน์ นิยมสร้างไว้เคารพบูชาในยุคหลังๆ และเปลี่ยนมาเป็นพระปิดตา...พระมหาอุตม์

    พระปิดตาหินอ่อน

    มีพระปิดตาของพระเกจิอาจารย์รูปหนึ่งอยู่ที่จังหวัดนครปฐม สร้างไว้แปลกกว่าพระเกจิอาจารย์องค์อื่นๆคือสร้างด้วยหินอ่อน หรือชาวบ้านเรียกกว่าหินสบู่ มีหลายขนาดและหลายพิมพ์ทรงนั่นก็คือ
    พระปิดตาหลวงปู่จ้อย วัดบางช้างเหนือ หลวงปู่จ้อยท่านอายุยืนยาวถึง 80ปี (พ.ศ.2360-2440) ท่านได้สร้างวัตถุมงคลที่เป็นเอกลักษณ์ของวัดบางช้างเหนือ ไว้มากมาย โดยเฉพาะวัตถุมงคลที่ทำจาก ไม้ไผ่ ไม้รวก รากไม้ไผ่ รากไม้รวก หรือพระปิดตาที่แกะจากหินสบู่ หินอ่อน ท่านจะให้ศิษยืแกะเป็นองค์พระปิดตารูปลักษณะต่างๆ ทรงชะลูดบ้าง ต้อบ้าง หน้าเดียวบ้าง 2หน้าบ้าง มีมือ 2คู่ 3คู่ก็มี ขนาดพอดีแขวนคอ และพกติดตัว จากนั้นท่านก็นำมาจารยันต์มหาอุด แล้วจึงนำไปใส่ไว้ในบาตรรวมกัน ฤกษ์งามยามดี ท่านจะปลุกเสกให้มีอาการ 32 กระโดดออกจากบาตรมาเป็นใช้ได้

    </O:p>

    <O:p>พระปิดตาเป็นพระเครื่องอีกรูปแบบหนึ่ง ที่คนนิยมกันมากในระยะหลัง เนื่องด้วยรูปแบบและกรรมวิธีการสร้าง พระปิดตา ในสมัยก่อนแรกๆจะไม่ค่อยมีคนสนใจเนื่องจาก มีความเชื่อกันมาก่อน เช่น มีพระปิดตาในบ้านแล้วคลอดลูกยากบ้าง มี พระปิดตา แล้วค้าขายของยาก ซึ่งเป็นความเข้าใจผิด</O:p>

    พระเครื่องประเภทหนึ่งที่นิยมกันมาก ด้วยพุทธลักษณะขององค์พระที่แตกต่างทั้งกรรมวิธีการสร้าง รวมทั้งมีพุทธศิลปะ เป็นเอกลักษณ์แตกต่าง จากพระเครื่อง ประเภทอื่นๆ จนกลายเป็น ความโดดเด่น และได้รับความนิยม อย่างสูงยิ่ง ในหมู่พุทธศาสนิกชน โดยเฉพาะ วงการพระเครื่อง ซึ่งรู้จักกัน ในนาม "พระปิดตา" <O:p></O:p>
    พุทธลักษณะของพระปิดตา เป็นรูปองค์พระ ที่ค่อนข้างอวบอ้วน ยกพระหัตถ์ ขึ้นปิดพระพักตร์ บางสำนัก ก็จะทำเป็นรูปมือ เพิ่มอีก ๒ ข้าง เอื้อมไปปิดทวารด้านล่าง (วงการเรียก "โยงก้น") อีกด้วย <O:p></O:p>
    ประวัติการสร้างพระปิดตาในประเทศไทยนั้น เริ่มต้นในยุคอยุธยาตอนปลาย จากหลักฐานที่พบพระปิดตายุคแรกเป็นเนื้อโลหะ ได้แก่ พระปิดตากรุวัดท้ายย่าน อ.สรรคบุรี จ.ชัยนาท <O:p></O:p>
    ต่อมาจึงมีการสร้างพระปิดตาเนื้อผงคลุกรักและพระปิดตาอื่นๆ เช่น พระปิดตาหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี <O:p></O:p>
    การสร้างพระปิดตา เริ่มได้รับความนิยมแพร่หลายตั้งแต่ตอนต้นยุครัตนโกสินทร์เรื่อยมา มีพระเกจิอาจารย์หลายสำนักพากันจัดสร้างพระปิดตาขึ้นและได้รับความนิยมไปทั่ว เช่น พระปิดตาวัดพลับ (วัดราชสิทธาราม) พระปิดตาวัดหนัง พระปิดตาวัดทอง พระปิดตาหลวงปู่ศุข พระปิดตาแร่บางไผ่ และ พระปิดตาหลวงปู่ยิ้ม เป็นต้น <O:p></O:p>
    จากข้อมูลดังกล่าวอาจได้ข้อสรุปในเบื้องต้นว่า พระปิดตาทั้งหมดเป็นพระปิดตาคณาจารย์ ซึ่งหมายถึงพระเกจิอาจารย์ผู้ทรงวิทยาคุณเป็นผู้จัดสร้าง ไม่ใช่เป็นพระกรุที่สร้างโดยเจ้าพระยามหากษัตริย์ แม้แต่กรณีพระปิดตาท้ายย่านก็น่าจะจัดอยู่ในลักษณะเดียวกัน และไม่มีการสร้างก่อนสมัยอยุธยาตอนปลาย <O:p></O:p>
    ลักษณะเด่นของพระปิดตานั้นนับเป็นพระเครื่องที่แสดงถึง "นัย" หรือ "ปริศนาธรรม" แห่งงานพุทธศิลปะอย่างโดดเด่น ยากจะหาพระเครื่องประเภทใดเทียบเทียมได้ <O:p></O:p>
    ความหมายเบื้องต้นแห่งการปิดตาก็คือ การปิด "ทวาร" หรือทางเข้าทางออกแห่งอาสวะกิเลสทั้งหลาย <O:p></O:p>
    ซึ่งเราชื่อกันว่าร่างกายของมนุษย์ (หรือสัตว์) มี "ทวาร" หมายถึง ประตูแห่งการเข้าออก ๙ ทาง ได้แก่ ตา ๒ จมูก ๒ หู ๒ ปาก ๑ รวมทั้ง ช่องทางขับถ่ายด้านหน้าและ ด้านหลังอีก ๒ รวมเป็น ทวารทั้ง ๙

    การปิดกั้นทวารทั้ง ๙ เป็นปริศนาธรรมที่กั้นกิเลสจากภายนอกไม่ให้เข้ามาสู่ภายใน เพื่อจุดหมายแห่งการปฏิบัติกรรมฐาน ซึ่งโบราณาจารย์ที่สร้างพระปิดตา (หรือปิดทวาร) ในอดีตจะเป็นพระภิกษุที่ขึ้นชื่อลือเลื่องทางวิปัสสนาธุระทั้งสิ้น <O:p></O:p>
    แต่การสร้างรูปจำลองในลักษณะนี้ ค่อนข้างยากต่อการออกแบบ ส่วนใหญ่จึงพบการแสดงความหมายให้เห็นเพียงการปิดพระพักตร์ ซึ่งรวมถึงการปิดปากเท่านั้น <O:p></O:p>
    หากมองในแง่ความสำคัญทางการเมืองการปกครองจะพบว่า อำนาจของภิกษุสงฆ์ไม่ได้จำกัดอยู่ใน "พุทธจักร" อย่างเดียว หากแต่ยังก้าวไปถึง "อาณาจักร" อีกด้วย ตัวอย่างของบทบาทดังกล่าวจะเห็นได้ชัดในกรณี ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) วัดระฆัง ธนบุรี ที่สามารถเดินเข้าไปถาม เจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ ผู้สำเร็จราชการแผ่นดิน ถึงข่าวลือเรื่องการยึดอำนาจกลับจาก ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๕ และขอคำยืนยันว่าจะไม่เกิดเหตุดังกล่าว <O:p></O:p>
    หรือแม้แต่การที่ท่านเจ้าประคุณสมเด็จฯ จุดไต้ตอนกลางวันเข้าไปเตือนพระสติ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ล้วนแล้วแต่แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ "พุทธจักร" ที่มีต่อ "อาณาจักร" อย่างเด่นชัด <O:p></O:p>
    เป็นที่น่าสังเกตว่า พระเกจิอาจารย์ที่สร้างพระปิดตาในระยะแรกๆ จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับราชสำนักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง อาทิ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) หลวงปู่ศุข หลวงปู่เอี่ยม หลวงปู่ทับ เป็นต้น <O:p></O:p>
    ดังนั้น "พระปิดตา" อาจถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของการประกาศตนไม่ยุ่งเกี่ยวกับ "อาณาจักร" เพื่อมิให้เกิดการถูกนำไปอ้างอิงหรือใช้เป็นเครื่อง "ชี้นำ" ในชะตาของบ้านเมือง <O:p></O:p>
    ในระยะเวลาต่อมา คติการสร้างพระปิดตาหรือปิดทวารเกี่ยวเนื่องกันเรื่อยมา มีการจำลองเป็นพระอ้วนพุงพลุ้ย ซึ่งได้ต้นเค้าจากเรื่องราวของ พระสังกัจจายนะ หรือ พระภควัมบดี อัครสาวกองค์สำคัญของพระพุทธองค์ <O:p></O:p>
    พระภควัมบดี หรือ พระมหาสังกัจจายน์ นั้น ไม่ใช่รูปสมมติแทนองค์สมเด็จพระสัมมาพุทธเจ้า <O:p></O:p>
    คำว่า "ภควัมบดี" หรือ "ภควัมปติ" แปลว่า "ผู้มีความงามละม้ายเหมือนพระผู้มีพระภาคเจ้า" อันเป็นอีกนามหนึ่งของพระมหาสังกัจจายนะ หนึ่งในพระสาวกผู้ทรงเอกทัคคะ (เป็นเลิศ) ๘๐ รูป ของพระพุทธองค์ <O:p></O:p>
    พระมหาสังกัจจายนะ เกิดในวรรณะพราหมณ์ ณ กรุงอุชเชนี มีผิวกายประหนึ่งทองคำมาตั้งแต่กำเนิด จึงได้นามว่า "กาญจน" และได้อุปสมบทโดยเป็นเอหิภิกขุอุปสัมปทา (พระพุทธเจ้าทำการบวชให้) <O:p></O:p>
    พระมหาสังกัจจายนะท่านมีความเป็นเลิศทางการย่อพระธรรมคัมภีร์ให้สั้นลง และอธิบายความหมายให้ผู้ฟังเข้าใจได้อย่างละเอียดแจ่มแจ้ง <O:p></O:p>
    นอกจากนี้ท่านยังมีรูปร่างและผิวกายงดงามมาก จนได้ชื่อว่า "พระภควัมปติ" อันมีความหมายว่า "ผู้มีความงามละม้ายเหมือนพระผู้มีพระภาคเจ้า" <O:p></O:p>
    ความงดงามแห่งรูปกายนี้เองก่อให้เกิดความหลงใหลคลั่งไคล้จากฝูงชนทั้งชายหญิงจนเกิดเรื่องพิพาทกันไม่รู้จักหมดจักสิ้น ทำให้พระมหาสังกัจจายนะเกิดสลดสังเวชในใจพิเคราะห์ดูว่าการมีรูปกายงดงาม ก่อให้เกิดทุกข์มากมาย ท่านจึงตั้งสมาธิอธิษฐานเปลี่ยนสรีระรูปร่างกลายเป็นร่างต่ำเตี้ย พระอุทรพลุ้ย ศีรษะใหญ่ ขาสั้น อันเป็นลักษณะของ "พระสังกัจจายน์" ที่เห็นในปัจจุบัน <O:p></O:p>
    แม้จะอธิษฐานเปลี่ยนสรีระแล้ว ผลแห่งกุศลในอดีตชาติยังส่งให้พระสังกัจจายน์เป็นที่รักใคร่นิยมยินดี มีแต่ผู้ให้ลาภสักการะสรรเสริญตลอดมามิมีขาด <O:p></O:p>
    ด้วยความนิยมในพุทธสาวกองค์นี้ โบราณาจารย์จึงได้จำลองลักษณะแห่งพระภควัมบดีในรูปพระเครื่องศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่น โดยแสดงความหมายที่สำคัญของพระภควัมปติ อันเป็นผู้มีความละม้ายเหมือนพระผู้มีพระภาคเจ้าในหลายลักษณะ อาทิ <O:p></O:p>
    - พระสังกัจจายน์ อันเป็นที่รักใคร่นิยมยินดีเปี่ยมไปด้วยลาภสักการะสรรเสริญ <O:p></O:p>
    - พระปิดตาทวารทั้ง ๙ อัน เป็นการปิดกั้นอาสวะกิเลสแห่งทวารเข้าออกทั้ง ๙ ของร่างกาย <O:p></O:p>
    - พระปิดตามหาอุด อันเป็นการป้องกันสรรพภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง <O:p></O:p>
    ในกระบวนพระปิดตาของคณาจารย์แต่โบราณนั้น มีที่ขึ้นชื่อลือเลื่องหลายสำนักด้วยกัน วัสดุมวลสารที่นำมาประกอบเป็นองค์พระมีทั้งเนื้อชินตะกั่ว เนื้อผงคลุกรัก เนื้อผงใบลาน เนื้อผงมวลสาร เนื้อสัมฤทธิ์ เนื้อเมฆพัด เนื้อเมฆสิทธิ์ เป็นต้น<O:p></O:p>
    - พระปิดตามหาอุดหรือพระปิดทวารทั้ง 9 กันดูบ้าง ความเป็นจริงพระปิดตา ที่มีมือคู่เดียวยกขึ้นมาปิดที่ใบหน้า และพระปิดทวารทั้ง 9 นั้นก็หมายถึงพระภควัมปติหรือพระภควัมบดี เช่นเดียวกัน และพระมหาสังกัจจายน์ ก็คือพระอรหันต์องค์เดียวกันนั่นเองครับ

    ตามประวัติว่ากันว่าพระมหาสังกัจจายน์นั้นมีรูปร่างงดงาม และได้รับคำชมจากพระบรมศาสดาว่า พระมหาสังกัจจายน์นั้นเป็นเอตทัคคะ และฉลาดล้ำเลิศในการอธิบายความแห่งคำที่ย่อได้อย่างพิสดาร ด้วยความฉลาดล้ำเลิศของพระมหาสังกัจจายน์นั่นเอง<O:p></O:p>

    พระมหาสังกัจจายน์ ท่านเป็นผู้ที่มีผิวพรรณวรรณะงดงาม ตามพระบาลีว่า สุวณฺโณจวณฺณํ คือมีผิวเหลืองดังทองคำ เป็นที่เสน่ห์นิยม มิว่าท่านจะไปในสถานที่แห่งใด เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายต่างก็พากันสรรเสริญว่า ท่านคือ พระบรมศาสดาเสด็จมาแล้ว
    เพราะเหตุที่ท่านมีรูปโฉมละม้ายเหมือนพระศาสดานั่นเอง ท่านจึงได้รับสมญานามอีกชื่อหนึ่งว่า “พระภควัมปติ” ซึ่งมีความหมายทำนองว่า ผู้มีความงามละม้ายเหมือน พระผู้มีพระภาคเจ้านั่นเอง<O:p></O:p>

    เมื่อเหตุการณ์เป็นไปดังนี้ ท่านจึงมาคิดว่า การที่เทพยดาและมนุษย์ทั้งหลายพากันสรรเสริญท่านดังนี้ เป็นการไม่สมควรอย่างยิ่ง สุดท้ายท่านจึงกระทำด้วยอิทธิฤทธิ์ เนรมิตกายให้เตี้ยลงจึงดูท้องพลุ้ย ไม่เป็นที่น่าดู เทพยดาและมนุษย์จะได้ไม่เกิดความเข้าใจผิดอีกต่อไป<O:p></O:p>
    ส่วนที่มีการทำ รูปเคารพเป็นรูปปิดทวารทั้ง 9 นั้น ก็คือมือคู่หนึ่งปิดหน้า คือปิดตา 2 ข้างปิดจมูก 2 ปิดปาก 1 และมีมืออีกคู่หนึ่งมาปิดที่หู 2 ข้าง ส่วนอีกมือคู่หนึ่งนั้นปิดที่ทวารทั้ง 2 รวมเป็นปิดทวารทั้งเก้า คือเป็นอุปเท่ห์หมายถึง ตอนที่พระภควัมปติท่านกำลังเข้านิโรธสมบัติ ทวารทั้งเก้าก็จะปิดสนิท ไม่ยินดียินร้ายกับกิเลสทั้งหลาย หมายถึงดับสนิท อาสวะกิเลสต่างๆ ไม่อาจที่จะเข้ามาแผ้วพานได้เลย
    จากมูลเหตุนี้เอง คณาจารย์ต่างๆ ท่านจึงสร้างรูปเคารพ เป็นรูปพระปิดตา (คือมีมือคู่เดียวมาปิดที่หน้า) บ้างเป็นรูปพระปิดทวารทั้งเก้าบ้าง และโดยส่วนใหญ่ถ้าเป็นพระปิดตาก็จะปลุกเสกให้เด่นไปทางเมตตามหานิยม โชคลาภโภคทรัพย์
    แต่ถ้าเป็นพระปิดทวารทั้ง 9 ก็จะปลุกเสกให้เด่นไปทางอยู่ยงคงกระพันชาตรีและแคล้วคลาด พระปิดทวารทั้งเก้านั้นในสมัยโบราณ ถ้าบ้านไหนมีคนจะคลอดลูก ถึงกับต้องนำพระปิดทวารทั้งเก้าออกไปนอกบ้านเสียก่อน เชื่อกันว่าจะไม่สามารถคลอดลูกได้ก็มี ซึ่งเป็นความเชื่อกันในสมัยโบราณ
    พระปิดทวารทั้งเก้านั้นมีคติการสร้างมาตั้งแต่ครั้งไหน ยังไม่มีการสืบค้นไปถึงได้ มีพระปิดทวารทั้งเก้าเก่าๆ ที่ยังไม่มีใครทราบว่าเป็นของพระอาจารย์ท่านใดสร้าง แต่มีเนื้อหาความเก่าและได้รับตกทอดกันมานานแล้ว ก็มักจะเรียกกันว่าพระปิดทวารฯ เขมร ส่วนมากที่พบมักจะเป็นเนื้อโลหะ ประเภทสัมฤทธิ์ หรือโลหะผสม ออกจะเป็นทองเหลืองบ้าง เนื้อกลับดำบ้าง


    จนถึงปัจจุบันนี้ก็ยังไม่มีใครสามารถสืบค้นถึงที่มาได้ แม้แต่ในประเทศกัมพูชาเองก็ยังไม่แน่ว่าจะมีหรือสืบค้นเรื่องราวได้หรือ เปล่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าศึกษาค้นคว้าดู พระปิดทวารฯ เขมรตามที่เขาเรียกกันนั้นของแท้ๆ จะมีเนื้อหาความเก่าแก่อย่างชัดเจน ทั้งศิลปะก็เป็นแบบเก่า เท่าที่พบจะเป็นพระลักษณะปั้นหุ่นเทียนเป็นองค์ๆ จะไม่มีองค์ใดซ้ำกันเลย
    "พระปิดตาเนื้อโลหะ"ที่เก่าที่สุดและพอที่จะมี หลักฐานสืบค้นได้ก็คือพระปิดตาของกรุวัดท้ายย่าน ชัยนาท อายุราวสมัยกรุงศรีอยุธยา และพระปิดตาเนื้อดิน คือพระปิดตาพิชัย สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลายทางใต้ก็มีพระปิดตานครศรีธรรมราชเป็นต้น ส่วนพระปิดทวารฯ เนื้อโลหะเท่าที่สืบค้นได้ว่าเป็นของพระอาจารย์ท่านใด


    ตำราการสร้างพระภควัมบดี
    สิทธิการิยะ... ตำรา"พระครูเทพ" แห่งกรุงศรีอยุธยา สมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราชเกจิอาจารย์ได้ศึกษาสืบต่อกันมานับว่าเป็นของ วิเศษ ที่จะหาอะไรมาเปรียบได้ ฆราวาสก็ดี สมณะก็ดี ถ้าได้ทำตามตำราดังกล่าวนี้ จะทำให้มียศฐาบรรดาศักดิ์ เป็นใหญ่กว่าคนทั้งหลาย

    ท่าน ที่เคยทำมาแล้วก็จะได้เป็นใหญ่เป็นโตโดยทั่วกัน ถ้าผู้ใดต้องการให้ชีวิตตน มีความสุขความเจริญก้าวหน้า บังเกิดสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลแก่ตน ทั้งปกป้อง คุ้มครองภยันตรายต่างๆ แก่ครอบครัว ตลอดจนวงศาคณาญาติ ให้ได้รับความสงบสุข ในโลกนี้ และโลกหน้า ขอให้ปฏิบัติตามตำรานี้


    ท่านว่า...ให้ขุดเอารากรักซ้อนมาตากแดดให้แห้งแล้วจ้างช่างฝีมือแกะ เป็นรูป พระภควัมบดี(พระปิดตา) สูงประมาณนิ้วครึ่งหรือหนึ่งนิ้ว แล้วเจาะใต้ฐานพระให้กลวง เพื่อบรรจุสิ่งต่อไปนี้ คือ
    ๑.ยอดรัก๒. ยอดสวาสดิ์ ๓. ยอดกาหลง อย่างละ ๓ ยอด
    ทั้ง๓ อย่างนี้ เอามาผสมกัน บดให้ละเอียด แล้วเอากระดาษว่าว (กระดาษข่อย) ห่อ พระธาตุพระฉิมพลี และพระธาตุพระสารีบุตร บรรจุรวมกับผง ใส่บรรจุใต้ฐานพระ แล้วเอาชันโรง (ขี้สูด) ปิดฐานพระให้แน่น เพื่อมิให้สิ่งที่บรรจุเข้าไป หลุดออกมาได้
    เมื่อเวลาจะทำต้องหาฤกษ์ ถ้าได้วันเสาร์ ๕ ยิ่งดี เมื่อได้ฤกษ์แล้ว ให้ทำพิธียกครู มีดอกไม้รูปเทียน บายศรี เงินบูชาครู และเครื่องสักการบูชา และมีเครื่องสังเวยเทพยดาด้วย คือ
    ๑.หัวหมูพร้อมด้วยเท้าและหาง ๑ ตัว ๒.เป็ดตุ๋น หรือย่าง พร้อมด้วยเครื่องใน ๑ ตัว ๓.ไก่ต้ม หรือย่าง พร้อมด้วยเครื่องใน ๑ ตัว ๔.ปูทะเลต้ม ๑ จาน ๕.กุ้งทะเลต้ม ๑ จาน ๖.ปลาซ่อนแป๊ะซะ ๑ ตัว พร้อมน้ำจิ้ม ๑ ถ้วย
    นอกจากนี้มีผลไม้อีก๕ อย่าง คือ ๑.ส้ม ๒.มังคุด ๓.องุ่น ๔.เงาะ ๕.แอปเปิ้ล
    และ ขนมหวานอีก๕ อย่าง มีถั่วคั่ว งาคั่ว นม เนย ฯลฯ เครื่องกระยาบวช เอาแหวน เงิน แหวนทอง ใส่ยอดบายศรี มีเทียนเงิน เทียนทอง จุดบูชา ๓ วัน นำไปไว้บน หิ้งพระ หรือโต๊ะหมู่บูชา แล้วทำการบูชาทุกเช้าค่ำ
    หากผู้ใดทำได้อย่างนี้จะล้ำเลิศประเสริฐนัก ปราศจากอันตรายทั้งปวง จะมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆ ขึ้นไป
    .........ถ้าเป็นทหารและไปในสนามรบ ให้เอาพระห่อผ้าใส่หัวไว้ จะแคล้วคลาดปลอดภัย แม้ ปืนจะยิงมาปานห่าฝน ก็มิถูกตัวเราเลย ถ้าหากมีศัตรู ให้เขียนชื่อศัตรูลง ในกระดาษ แล้วเอาพระนั้นทับไว้ ศัตรูนั้นจะทำอันตรายเรามิได้เลย
    ถ้าต้องโทษถึงตายหรือถูกยึดทรัพย์ ให้เอาพระมาสรง น้ำ แล้วเอาน้ำนั้นมากิน มาอาบ โทษร้ายจะหายสูญสิ้นแล ถ้าโทษถูกเฆี่ยนตี ให้ระลึกถึงพระแล้วจุดธูปเทียนถวายพระ
    บริกรรมภาวนา๓ คาบ จะไม่ถูกเฆี่ยนเลย ถ้าจำเป็นต้องถูกเฆี่ยน ให้กลั้นใจ หยิบเอาดินใส่กระหม่อม ถึงถูกตีก็ไม่เจ็บ
    ถ้า ต้องการป้องกันโจรผู้ร้ายให้จุดธูปเทียนถวายพระ แล้วอธิษฐานจิตให้ปลอดภัย ให้ทำเป็นประจำทุกวัน ภัย ๓ ประการ คือ โจรภัย อัคคีภัย อุทกภัย จะไม่เกิด ขึ้น
    หากผู้ใดได้ทำตามตำรานี้แล้วผู้นั้นจะมีชีวิตที่ ราบรื่น มีความสุขความเจริญ ก้าวหน้าในหน้าที่การงาน ถ้าผู้ใดไม่เชื่อ เสมือนเกิดมาไม่พบพระพุทธเจ้า ไม่พบพระพุทธศาสนา ผู้เป็นคนดีมีศีลธรรมจึง จะรักษาได้ คนพาลรักษาไม่ได้
    (ถ้าหากจะเพิ่มความเข้มขลังยิ่งขึ้น ให้นำองค์พระ ปิดตานี้เข้าพิธีพุทธาภิเษก หรือขอบารมีพระเกจิอาจารย์ปลุกเสกเดี่ยวให้ ก็จะเป็นการเพิ่มอานุภาพพุทธคุณขึ้นอีกทางหนึ่ง)
    ตำรานี้เกจิโบราณาจารย์ศึกษาสืบต่อกันมาจากวัดประดู่ทรงธรรม สมัยกรุงศรีอยุธยา...มาจนถึงทุกวันนี้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 กุมภาพันธ์ 2010
  15. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    คราวก่อนนั้นผมได้นำเสนอปิดตาของพระอาจารย์เจ็ก วัดเขาแดงตะวันตก ในพิมพ์สอดเข่า(กุมารในครรภ์),พิมพ์ฐานเขียง ซึ่งพิมพ์เหล่านี้เป็นพิมพ์มหาอุตย์ของพระอาจารย์เจ็ก ...............
    .....วันนี้นำเสนออีกพิมพ์มาตรฐานของอ.เจ็ก ครับ
    พิมพ์ มหาลาภ หรือ ที่ชาวบ้านเรียกแบบคุ้นหูคือ มือจิ้งจก
    .....นับเป็นพิมพ์มาตรฐานพิมพ์หนึ่งที่เล่นหาง่าย และมีประวัติการสร้างที่ชัดเจน แต่จะค่อนข้างพบเจอน้อยกว่าพิมพ์อื่นๆ......
    ....องค์นี้ เป็นเนื้อทองผสม ขนาดเล็กกระทัดรัด หลังยันต์( โดยปกติจะพบเจอแต่ไม่มียันต์ ).....ฟอร์มสวยกำลังพอดีครับ ราคาเล่นหานั้นยังไม่แพงมาก จึงเป็นอีกทางหนึ่งสำหรับนักสะสมที่นิยมปิดตามหาลาภที่สามารถสะสมได้ ดดยยังสะบายกระเป๋าอยู่ครับ......
    .....พบเจอพิมพ์นี้ อย่าปล่อยให้หลุดมือ เพราะไม่ค่อยมีให้เห็นครับ และ ประวัติชัดเจน
    วัตถุมงคลพระอาจารย์เจ็ก นั้น ว่ากันว่าเด่นทางโภคทรัพย์ที่ประสบการณ์ไม่แพ้หลายท่านเลยครับ..........
    [​IMG][​IMG]
     
  16. kiati_sak

    kiati_sak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    7,321
    ค่าพลัง:
    +13,243
    เหรียญพ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง หลัง ภปร ของผมครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • PIC_0096.JPG
      PIC_0096.JPG
      ขนาดไฟล์:
      125.4 KB
      เปิดดู:
      184
    • PIC_0097.JPG
      PIC_0097.JPG
      ขนาดไฟล์:
      126.5 KB
      เปิดดู:
      206
  17. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    [​IMG][​IMG]<!-- google_ad_section_end -->

    ชอบอีกแระ ถูกใจเรยพิมพ์ทรงแบบนี้
     
  18. เตมินทร์

    เตมินทร์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มกราคม 2008
    โพสต์:
    288
    ค่าพลัง:
    +302
    สวัสดีครับ คุณน้าเจ้าของกระทู้วันนี้ผมเอาพระ ที่ใช้อยู่เป็นประจำมาให้ชมกันครับมีบางองค์ไม่ได้ลงภาพไว้จะทะยอยเอามาเรื่อยๆน่ะครับ

    1.เหรียญพระอาจารย์นำ ลาแตก พ.ศ.2519
    2.ปิดตาตะพาบมหาลาภพระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ พ.ศ. 2483
    3.รูปหล่อรุ่นแรกพ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ เนื้อ นวะ พ.ศ. 2527
    4.เหรียญรุ่นแรกพระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ พ.ศ. 2546
    5.พระปิดตามหายันต์พระอาจารย์เอียด วัดดอนศาลา พ.ศ. 2483
    6.ลีลาเกราะเพชรพ่อท่านหมุน วัดเขาแดงตะวันออก รุ่นแรก พ.ศ. 2484
    7.ขุนแผนอินโดจีนรุ่นแรกหลวงพ่อเต๋ คงทอง วัดสามง่าม พ.ศ. 2484 (นอกสาย)
    8.หลวงพ่อทวดพิมพ์พินัยกรรม หน้ากรรมการ วัดช้างไห้ พ.ศ. 2506
    9.งบน้ำอ้อยหลวงพ่อเนียม วัดน้อย พ.ศ. ไม่ทราบแต่ว่าเก่ามาก (นอกสาย)
    10.เหล็กหลบพ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ ไม่ทราบแน่ชัดน่าจะประมาณ พ.ศ.2528
    11.พระนาคปรก วัดพระธาตุ นครศรี พ.ศ. 2497
    12.นางกวักพ่อท่านเขียว วัดหรงบล พ.ศ. 2510
    13.ลูกอมเทียนชัยพ่อท่านเขียว วัดหรงบล
    14.ลูกอมเทียนปั้นพ่อท่านคล้าย วัดราไวย์(ท่านมาปั้นที่ วัดนี้เมื่อปี พ.ศ.2500)
    15.สายเอวพ่อท่านเขียว วัดหรงบล
    16.ตะกรุด 7ดอก พระอาจารย์ปาล วัดเขาอ้อ
    17.สายเอวที่สุดยอดแห่งเมืองนครศรีธรรมราช สายเอวพระครูสุนทร วัดดินดอน อ.ลานสกา
    18.ผ้ายันต์ฝ่ามือฝ่าเท้า พ่อท่านจันทร์ วัดทุ่งเฟื้อ
    19.พระปิดตาสังฆหวานรพระอาจารย์ชำนาญ วัดโคกหล่อ ตรัง
    20.เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง เนื้อนาค 2511 (วัดบ้านเกิด)
    21.ตะกรุด 108 ดอก พ่อท่านเอื้อม วัดบางเนียน นครศรีธรรมราช
    22.ตะกรุดโทน พระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ กะปง พังงา
    23.พระสังฆจายน์พ่อท่านคลิ้ง วัดถลุงทอง นครศรีธรรมราช
    พระทั้งหมดนี้จะเป็นเซ็ทที่ผลัดเปลี่ยนเวียนหมุนแขวนน่ะครับ คงแขวนทีเดียวไม่ไหวเพราะชอบแควนไม่เกิน 3 องค์ครับ รูปวันหลังจะมาอัพต่อให้เสร็จน่ะครับ
    ขอบคุณมากๆครับ ติชมกันได้น่ะครับผม
    ป.ล. ขุนแผนพ่อเต๋ /ปิดตามหายันต์/เหรียญหลวงพ่อแช่มเนื้อนาค/นางกวักพ่อเขียว /หล่อรุ่นแรกพ่อท่านจันทร์เนื้อนวะ และเหล็กหลบ ผ้ายันต์ฝ่ามือฝ่าเท้า...
    เหล่า นี้ขอยืมรูปพี่ๆในเว็ปมาน่ะครับ ส่วนของผมเองถ่ายเมื่อไรจาเอามาให้ชมครับส่วนองค์อื่นๆที่ไม่ได้ กล่าวเป็นรูปพระของผมที่ได้ถ่ายเอาไว้เอง ยังไงก็ขอให้มีความสุขเฮงๆกันถ้วนหน้าน่ะครับ พี่ๆ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 มีนาคม 2010
  19. cornell

    cornell เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    1,079
    ค่าพลัง:
    +880
    ขอบคุณคุณเตมินด้วยครับที่ร่วมเเจม ของหายากสวยๆทั้งเพ.......ชุดใหญ่เลย....ชอบตะพาบจัง
     
  20. น้ำดี1

    น้ำดี1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    13,402
    ค่าพลัง:
    +43,432
    ตะกรุดโทน พระอาจารย์หรีด วัดป่าโมกข์ กะปง พังงา

    แบ่งได้ป่าวค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...