แจกฟรี ชาเซียงดา สำหรับบำบัดอาการผู้ป่วยโรคเบาหวาน 2,000 คน ทั่วประเทศ

รายงานผลผู้ที่ทดลองทาน

• - คุณเกรียงศักดิ์ (เฮียบ๊วย) ประธานซุ้มรวยน้ำใจ
  สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย

เฮียบ๊วย ป่วยเป็นโรคเบาหวาน ตั้งแต่อายุ 30 กว่า จนปัจจุบัน
อายุได้ 60 กว่าปีแล้วทุกวันนี้ต้องฉีดอินซูลินทุกวัน ทานชามาได้
อาทิตย์หนึ่งแล้ว รู้สึกร่างกายแข็งแรงน้ำตาลลดลง ตอนนี้สั่งซื้อ
ไว้ทานเป็นประจำทุกวันแล้วค่ะ

 

ความรู้ทั่วไปเรื่องเบาหวาน


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=VLiTbb6MaEU"]YouTube- Diabetes Mellitus[/ame]


โรคเบาหวานคืออะไร

อาหารที่รับประทานเข้าไปส่วนใหญ่จะเปลี่ยนจะเปลี่ยน
เป็นน้ำตาลกลูโคสในกระแสเลือดเพื่อใช้เป็นพลังงาน
เซลล์ในตับอ่อนชื่อเบต้าเซลล์ เป็นตัวสร้างอินซูลิน
อินซูลินเป็นตัวนำน้ำตาลกลูโคสเข้าเซลล์เพื่อใช้
เป็นพลังงาน

โรคเบาหวานเป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับน้ำตาลในเลือด
สูงกว่าปกติ เกิดเนื่องจากการขาดฮอร์โมนอินซูลิน
หรือประสิทธิภาพของอินซูลินลดลงเนื่องจาก
ภาวะดื้อต่ออินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดสูงขึ้น
อยู่เป็นเวลานาน อินซูลินเป็นฮอร์โมนสำคัญตัวหนึ่ง
ของร่างกาย สร้างและหลั่งจากเบต้าเซลล์
ของตับอ่อน ทำหน้าที่เป็นตัวพาน้ำตาลกลูโคส
เข้าสู่เนื้อเยื่อต่างๆของร่างกาย เพื่อเผาผลาญ
เป็นพลังงานในการดำเนินชีวิต ถ้าขาดอินซูลิน
หรือการออกฤทธิ์ไม่ดี ร่างกายจะใช้น้ำตาลไม่ได้
จึงทำให้น้ำตาลในเลือดสูงมีอาการต่างๆ ของ
โรคเบาหวาน นอกจากมีความผิดปกติของ
การเผาผลาญอาหารคาร์โบไฮเดรตแล้ว
ยังมีความผิดปกติอื่น เช่น มีการสลายของ
สารไขมันและโปรตีนร่วมด้วย

 

ผู้ป่วยเบาหวานทั้งชนิดพึ่งอินซูลิน (type 1)
และไม่พึ่งอินซูล (type 2)


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=V1LjRi8Nvv4"]YouTube - Diabetes, Type 1, Type 2, Glucose, Insulin[/ame]


[ame="http://www.youtube.com/watch?v=nBJN7DH83HA"]YouTube - What is Type 2 Diabetes?[/ame]

 

อนุโมทนาสาธุด้วยค่ะ
น่าดีใจแทนคนไทยนะคะ ที่จะได้มีชา ๆ ดี ดื่มกัน
ขอฝากตัวเป็นลูกค้าขาประจำด้วยนะคะ
จะซื้อไปฝากพ่อแม่พี่น้องที่บ้านด้วยค่ะ (เป็นกันทั้งบ้าน)
ซองนึงคงดื่มได้เป็นเดือน ๆ แน่

 

เมื่อวันก่อน ส่งเรื่องชาเซียงดาให้เพื่อนอ่าน
ปรากฎว่าสนใจกันมาก บางคนก็ขอชาตัวอย่าง
บางคนก็สั่งซื้อเลย เพราะว่าไม่ค่อยแพงเท่าไหร่
คิดแล้วก็ตกซองละบาทเอง
ตอนนี้ยอดสั่งชา ก็เยอะพอสมควรเหมือนกันค่ะ
ยังไงทาง Truethailove ก็เตรียมชาไว้เยอะ ๆ ด้วยนะคะ

 

ใครที่ดื่มชาไปแล้ว แล้วร่างกายปรับสภาพยังไง
ก็มาบอกกันบ้างนะคะ แชร์ประสบการณ์กัน

 

ขอบคุณคะ คุณ Pasika ที่นำมาบอกว่ามีคนสนใจ
อย่างที่บอกว่าในเวปนี้ขออนุญาติประชาสัมพันธ์
เรื่องการแจกชาเซียงดาฟรีเท่านั้นค่ะ
ถ้าผู้สนใจจริงเรื่องการสั่งซื้อ หรือนำไปจำหน่าย
ให้สอบถามไปที่ True Thai Love โดยตรงดีกว่านะค่ะ

ด้วยความขอบคุณ / True Thai Love

 

ขออนุโมทนาในกุศลจิต กุศลกรรมของท่านทั้งหลายด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ สาธุ

 

<TABLE class=border_c style="BORDER-RIGHT: #cccccc 1px dotted; BORDER-TOP: #cccccc 1px dotted; BORDER-LEFT: #cccccc 1px dotted; BORDER-BOTTOM: #cccccc 1px dotted" cellSpacing=0 cellPadding=2 width="95%" align=center border=0><TBODY><TR><TD align=left>ขอทราบรายละเอียดของชาเซียงดา

มากกว่านี้ค่ะเช่น 1 กล่องมีทั้งหมดกี่ซอง

ขอบคุณค่ะ



(คัดลอกจาก Email)
</TD></TR><TR><TD class=border-R-L vAlign=center align=right height=20>

​

</TD><TD vAlign=center align=left bgColor=#ffffff></TD></TR><TR><TD class=border-R-L vAlign=center align=right height=20>ผู้ตอบ :

</TD><TD vAlign=center align=left>Noi </TD></TR></TBODY></TABLE>

 

ยินดีที่สนใจสอบถามรายละเอียดมานะค่ะ


ชาเซียงดา จะเป็นชาที่ทำมาจากผักเซียงดา

วิธีการทำ ก็เหมือนกับการทำชาเขียว

นั่นแหละค่ะ.



สรรพคุณที่ได้ ตัวเด่น ๆ เลย คือ

สามารถลดน้ำตาลลงได้ จากคนที่เป็น

โรคเบาหวาน น้ำตาลในเลือดสูง

พอทานชาเซียงดา ปรากฏว่าน้ำตาลลดลง

แทบเป็นปกติ ซึ่งการรับประทานชาเซียงดา

เพื่อบำบัดโรคเบาหวานนั้น จะต้องบอกให้

แพทย์ทราบด้วยว่า ทานชาเซียงดา

ซึ่งในวงการแพทย์เป็นที่ทราบกันดีว่า

ชาเซียงดามีสรรพคุณในการทำให้น้ำตาลลดลง

ไม่แนะนำนะค่ะว่าทานแต่ชาเซียงดา

เพียงอย่างเดียว และไม่ทานยาตาม

คำสั่งแพทย์ เพราะคนที่เป็นโรคเบาหวานนั้น

มักมีโรคแทรกซ้อนอื่น ๆ ตามมาเสมอ

แนะนำว่าอย่างไรก็ต้องไปพบแพทย์และ

ทานยาตามที่หมอสั่งด้วยนะค่ะ



ส่วนสรรพคุณตัวอื่น ๆ ขอพูดได้เลยว่า

แทบจะเป็นชาครอบจักรวาล ถ้าเป็นผู้หญิง

ด้วยกันคงจะเข้าใจได้ง่าย เกี่ยวกับระบบ

ภายในร่างกาย ปกติดิฉันจะปวดท้องเวลา

มีประจำเดือน และเลือดออกมาจะมีสีคล้ำ

ซึ่งก็คือเลือดเสียนั่นเอง แต่พอได้ทาน

ชาเซียงดาทุกวัน พอวันนั้นของเดือน

อาการปวดท้องน้อยลง เหลือแค่ปวดหน่วง

(พึ่งทานได้ 1 เดือน) และประจำเดือนที่

ร่างกายขับออกมานั้นเป็นสีเหมือนกับ

สีเลือดปกติเลยค่ะ ซึ่งตอนแรก

ก็ตกใจเหมือนกันว่า ร่างกายเราผิดปกติ

หรือเปล่า แต่ก็ไม่เป็นอะไรค่ะ



รวมทั้งช่วยในเรื่องของการลดความอ้วนด้วย

หลังจากทานชาเข้าไป รู้สึกเลยว่าสัดส่วน

กระชับขึ้น เฟิร์มขึ้น จากที่เคยรู้สึกว่า

อ้วนอึดอัด กลับรู้สึกถึงความกระชับ

กระเชง ตัวเบาขึ้นนะค่ะ



จากที่ได้ฟังจากคนที่ทานแล้ว หลาย ๆ คน

ก็บรรยายสรรพคุณไปแตกต่างกัน

ขึ้นอยู่กับคนนั้นมีความบกพร่อง

ในร่างกายแบบใดนะค่ะ ซึ่งมีผลสำรวจ

ออกมาแล้วว่า จากแบบทดสอบจำนวน

10,000 คนเมื่อได้ทานชาเซียงดาไปแล้ว

ไม่มีสักคนที่บอกว่า ไม่ส่งผลในทางไม่ดีเลย

ซึ่งเรื่องนี้คุณสัจจา confirm มาค่ะ



ถ้าสนใจ ลองนำชาเซียงดาที่แจกฟรี

ไปทดลองทานก่อนได้นะค่ะ



ชาเซียงดา 1 ซอง

มี 12 ถุง 1 ถุง / น้ำ 1 ลิตร

(ชาเซียงดา ถ้าอยู่ในซองฟอยล์และไม่เปิดออกมา
ระยะเวลาการเก็บ อยู่ได้ 2 ปี)

 

อนุโมทนาด้วยครับ แม่ผมก็เป็นเบาหวานอยู่ครับ
ยังไงจะลองศึกษาดูครับ

 

นำไปลองทานดูก่อนก็ได้ค่ะ ตอนแรกที่นำมาทาน ก็กล้า ๆ กลัว ๆ เหมือนกัน
กลัวจะเป็นอันตราย ถามแล้วถามอีกกับคุณสัจจาอยู่หลาย ๆ รอบ
ซึ่งคุณสัจจาก็ยืนยันตลอดมาว่า ของผมมี อย. เรียบร้อยนะครับ
ทำมา 3 ปีกว่าแล้ว ถึงได้ตัดสินใจลองทานดู แก้วแรกที่ทานลงไป
ไม่ถึง 5 นาที ก็เกิดอาการเลยค่ะ มีความรู้สึกว่า ร่างกายเกิดอาการ
เปลี่ยนแปลง มีความรู้สึกอะไรบางอย่างกำลังไหลเวียนอยู่ในร่างกาย
พอทานได้สักพัก เกิดอาการง่วงเลยค่ะ ทั้ง ๆ ที่เป็นตอนสาย ๆ
พึ่งจะตื่นได้สักพักใหญ่ ๆ แต่พอทานชาเข้าไปง่วงมาก จนตาแทบปิด
เลยตัดสินใจไปนอน ตื่นมาอีกทีก็เป็นช่วงบ่าย ๆ ไปแล้ว
ก็เลยโทรไปถามรายละเอียดกับคุณสัจจาว่า

ทำไมตอนแรกที่ทานชาแล้วเกิดอาการแปลก ๆ เหมือนมีอะไร
ไหลเวียนภายในร่างกาย เป็นการที่ร่างกายกำลังปรับสภาพใช่หรือไม่
(ด้วยความที่เคยทานอาหารเสริมมาเยอะ เลยค่อนข้างเข้าใจ
แต่ถามเพื่อความแน่ใจอีกทีนะค่ะ) คุณสัจจาบอกว่า เป็นอาการ
ที่ร่างกายกำลังเข้าไปปรับสภาวะให้เกิดความสมดุลในร่างกาย
คือเข้าไปเสริมสร้างความบกพร่องต่าง ๆ ในร่างกายนะครับ
จึงถามอีกว่า เอ ทำไมทานชาเซียงดาแล้วง่วงมาก พยายามฝืน
ตัวเองไม่ให้นอน แต่ก็ทนไม่ไหว คุณสัจจาก็บอกว่า เป็นเพราะ
พี่พักผ่อนน้อน นอนไม่ค่อยเพียงพอ เมื่อทานชาเข้าไป จึงทำให้
เกิดอาการง่วงนอน เพื่อที่ร่างกายจะได้พักผ่อนอย่างไรละครับ

 

ก็เลยถามคุณสัจจาว่า อ้าว ท่าเป็นแบบนั้น ทุกคนที่ทานชาเข้าไป
ก็จะหลับกันหมดนะซิค่ะ คุณสัจจาบอกว่า ไม่เป็นกันทุกคนหรอกครับ
ที่พี่ทานแล้วง่วงก็เพราะไม่ค่อยได้พักผ่อน แต่ถ้าคนที่ทานชาเข้าไป
รู้สึกกระฉับกระเฉง แปลว่า น้ำตาลในเลือดสูง

ชาเซียงดา เมื่อทานเข้าไปจะไปปรับสภาพและเสริมสร้างสุขภาพ
ของผู้ที่ทานให้ดีขึ้น โดยไม่เป็นอันตราย เพราะชาเซียงดา ก็คือ
ผักเซียงดา ซึ่งได้ผ่านการวิจัยค้นคว้าจากหลายสถาบันแล้วว่า
ชาเซียงดา สามารถบำบัดอาการโรคเบาหวานได้

อย่างที่เล่ามานะค่ะ ชาเซียงดานี้ ทางเราทุกคน โดยเฉพาะดิฉันเอง
จะต้องทดสอบ และทานชาเซียงดาก่อน ที่จะนำมาเผยแพร่
ซึ่งดิฉันและอาสาสมัครหลายคน ทดสอบโดยการทานชามานับเดือน
ซึ่งปรากฏผลว่า ไม่เกิดปฏิกิริยาในทางลบกับร่างกายเลย รวมทั้ง
อาสาสมัครทุกคน ซึ่งแต่ละคน เมื่อได้ทานชาเซียงดาไปแล้ว
ต่างเรียกร้องเป็นเสียงเดียวว่า ดี ทานแล้ว ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง
ในทางทีดีขึ้นมาก สุขภาพดีกว่าแต่ก่อน ซึ่งแต่ละคนที่ดิฉันให้นำ
ไปทดลองทาน จะไม่รู้จักกันเลย เพราะฉะนั้น จึงไม่ใช่เป็นการสมยอม
มาเล่าเรื่องในทางที่ดี ๆ อย่างแน่นอน

 

ซึ่งอาสาสมัครท่านหนึ่ง ก็คือคุณเกรียงศักดิ์ (เฮียบ๊วย)
ประธานซุ้มรวยน้ำใจ สมาคมแต้จิ๋วแห่งประเทศไทย
และเป็นเจ้าของโรงหมู (คลองเตย) ที่เป็นที่รู้จักกันนับสิบ ๆ ปี

เฮียบ๊วย ทำแต่งาน ต้องอยู่คุมคนงาน จึงทำงานในช่วงกลางคืน
เสียเป็นส่วนใหญ่ และทานน้ำอัดลมเป็นประจำ เรียกว่าทานแทนน้ำ
เลยก็ได้ค่ะ เฮียบ๊วยเป็นโรคเบาหวานมาตั้งแต่อายุ 30 กว่า ซึ่ง
ในครอบครัว ก็เป็นเบาหวานกันแทบทุกคน ท่านเป็นเบาหวานชนิดว่า
ทุกวันนี้ต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำทุก ๆ วัน เฮียบ๊วยรักษามาหลายขนาน
ยาไหนดี แพงแค่ไหน ก็หามารักษาตัวเอง ตลอดชีวิตที่ผ่านมา
หมดเงินหมดทองไปกับเรื่องยาเยอะมาก หลังจากที่ได้รับชาเซียงดามา
ก็นำไปให้เฮียบ๊วยได้ทาน หลังจากนั้นอาทิตย์หนึ่ง ท่านก็โทรมาค่ะ
ว่าอยากได้ไว้ทาน จะติดต่อได้อย่างไร ก็เลยถามว่า ทานแล้วเป็น
อย่างไรบ้าง ท่านก็บอกว่า ทานแล้วดี รู้สึกร่างกายแข็งแรงดีขึ้นมาก
น้ำตาลก็ลดลง อยากเอาไว้ทานเป็นประจำ เพราะปกติตัวท่านก็
ทานชาทั่ว ๆ ไปเป็นประจำอยู่แล้ว เฮียบ๊วยบอกว่า ทานชาเซียงดา
แล้วคุ้มมาก น้ำตาลก็ลดลง สุขภาพดีขึ้น แถมกำชับด้วยว่า
ถ้าทานหมดเมื่อไหร่ให้นำไปให้ด้วย จะทานเป็นประจำทุกวันเลย
ขอบอกนะค่ะว่า เฮียบ๊วยนะเซียนแห่งการทานยาแก้โรคเบาหวาน
เลยค่ะ ที่ไหนใครเขาว่าดี ไม่ว่าถูกหรือแพง ท่านลองมาหมด
ทุกตัวแล้ว บางตัวยาเป็นแสน ๆ จากเมืองจีน ท่านก็กล้าซื้อมาทาน
เพราะฉะนั้น พอได้ทานชาเซียงดาแล้ว ท่านถึงได้ติดใจ เดี่ยวนี้
ทานเป็นประจำทุกวันเลยนะค่ะ

 

มีผู้สอบถามมาว่า ได้ทานชาเซียงดาไปแล้ว เกิดอาการถ่ายท้อง
เลยตกใจ ถามว่าเป็นอันตรายหรือเปล่า

อ๋อ เป็นเรื่องปกติค่ะ เพราะถ้าย้อนไปดูสรรพคุณใน
ตอนต้นที่ลงไว้หน้าแรก จะบรรยายว่า ชาเซียงดา

- ช่วยในการขับถ่าย และแก้อาการท้องผูก


เพราะฉะนั้น ไม่ต้องตกใจนะค่ะ เพราะดิฉันเอง
เมื่อได้ทานชาเซียงดา ตื่นเช้ามา ก็เริ่มต้นเข้าห้องน้ำเลยค่ะ
โดยปกติเมื่อก่อนนี้ ตัวเองเป็นคนที่ถ่ายยากมาก
แต่พอทานชาเซียงดาเข้าไป เดี๋ยวนี้ทุกวันเลยค่ะ
บางทีทั้งเช้าและเย็น วันแรก ๆ ที่ทาน เรียกว่า
แทบหมดไส้หมดพุง เพราะชาเซียงดากำลังทำงาน
โดยทำการขับถ่ายสารพิษ หรือล้างสารเคมีที่เป็นพิษ
อันมีอยู่ในกระบวนการภายในร่างกาย ที่เราได้รับมาจาก
การทานอาหาร หรือ จากสภาพแวดล้อมภายนอก
ที่เราเผชิญ พูดง่าย ๆ ก็คือ ทำให้ขบวนการภายใน
ร่างกายสะอาดขึ้นดีขึ้นนั่นเอง ซึ่งวิธีนี้ ถ้าคนที่ดูแล
ตัวเองในเรื่องการทานอาหารแบบธรรมชาติจะทราบดีค่ะ
เมื่อก่อนดิฉันจะใช้วิธี การทานน้ำมะนาว ในตอนเช้า
ก่อนทานอาหารมื้อแรก เพื่อล้างสารพิษในร่างกาย
แต่พอทานชาเซียงดา ก็ให้สรรพคุณเหมือนกันเลยค่ะ
เพราะฉะนั้น ถ้าทานเข้าไปแล้ว ร่างการมีปฏิกิริยาอย่างไร
ก็โทรมาสอบถามได้นะค่ะ จะได้อธิบายให้ฟัง

แต่จริง ๆ แล้ว ชาเซียงดากำลังทำงาน ปรับสภาวะสมดุล
ให้กับร่างกายอยู่นะค่ะ

 

และมีคนถามต่อมาอีกว่า ทานชาเซียงดา ไม่หมด เอาถุงชาใส่ถ้วย
แล้วนำไปแช่ในตู้เย็น พออยากทานค่อยนำมาเติมน้ำร้อน จะได้มั้ย

ตอบ ไม่แนะนำเลยนะค่ะวิธีนี้ ชาเซียงดา 1 ซองเล็ก สามารถชงกับ
น้ำร้อนได้ 1 ลิตร ถ้าเสียดายของ ทานไม่หมด ขอแนะนำว่า
ให้ชงใส่น้ำร้อนเต็ม 1 ลิตร และปล่อยให้เย็น กรอกใส่ขวด
นำไปแช่เย็นเสียจะดีกว่าใช้วิธีข้างต้น หรือไม่ก็ซื้อกาชงชามา
แล้วค่อยเติมน้ำร้อนเสียจะดีกว่า แถว ๆ เยาวราช ขายอันละ
ร้อยกว่าบาทเองค่ะ

 

หากจะถามถึง ความเหมาะสมในการใช้สมุนไพรเพื่อช่วย
เสริมสุขภาพ อาจเลือกผักที่มีสรรพคุณทางยาร่วมด้วย

เช่น ผู้สูงอายุที่เป็นโรคเบาหวาน ก็จะมีสมุนไพร มีผักพื้นบ้าน
ที่เป็นทั้งอาหารและยาสมุนไพรหลายชนิด ที่สามารถนำมา
รับประทานเป็นอาหาร หรือนำมาใช้ทางยา และแต่ละชนิด
มีผลการทดลองแตกต่างกัน ดังตัวอย่างดังต่อไปนี้ คือ

ผักเซียงดา เป็นผักพื้นเมือง นำเอาส่วนยอดมาแกงใส่ปลาแห้ง
เป็นอาหารพื้นบ้านที่รู้จักกันดี หรืออาจนำมาประยุกต์ปรุงแบบ
ง่ายๆ โดยนำมาผัดน้ำมันหอย

ผักเชียงดาเป็นผักที่มีผลการทดลองในสุนัข กระต่ายและหนู
ที่ทำให้เป็นเบาหวาน พบว่าการได้รับผักเชียงดาทำให้มี
ปริมาณอินซูลินและเบต้าเซลเพิ่มขึ้น


ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยนิวส์

Update:20-01-53
อัพเดทเนื้อหาโดย: กิตติยา ธนกาลมารวย​

 

เลือกชาให้ถูกใจ

<SCRIPT language=JavaScript src="http://campus.sanook.com/global_js/global_function.js"></SCRIPT>มีสิ่งหนึ่งที่ชาร้อนหอมกรุ่นเหมือนกันกับไวน์ นั่นก็คือมันมีหลากหลายชนิด
ให้เลือกจนคุณอาจนึกไม่ออกว่าควรจะเลือกอะไรดี

ความหลากหลายของชาขึ้นอยู่กับความแตกต่างของดินและแหล่งเพาะปลูก
เหมือนที่รสชาติของไวน์ขึ้นอยู่กับความแตกต่างขององุ่นแต่ละสายพันธุ์
และดินที่ปลูกในแต่ละแหล่ง

ที่ชามีสายพันธุ์ที่หลากหลายถึง ๑,๕๐๐ ชนิด ซึ่งให้รสที่แตกต่างกันไป
แต่โดยรวมแล้ว ชาอาจแบ่งได้เป็น ๕ ประเภท ซึ่งให้กลิ่นและรสแตกต่างกัน
การเลือกของคุณจึงขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการอะไรจากชามากกว่า

ชาดำ นี่ เป็นชาที่คนดื่มกันมากที่สุด มันผลิตจากใบชาที่ถูกเก็บและหมักบ่ม
ก่อนจะเอาไปตากแห้ง ชาดำมีทั้งที่มาจากอินเดีย จีน ศรีลังกา และแอฟริกา
และส่วนใหญ่ถูกนำมาผสมใหม่เพื่อให้ได้กลิ่น รส และความเข้มข้น
แตกต่างกันไป อย่างเช่น

- ดาร์จีลิ่ง ปลูกบนพื้นที่เชิงเขาหิมาลัย ให้รสอ่อนเบา สดชื่น ที่เจือ
รสเปรี้ยวฝาดเล็กน้อย

- อัสสัม มาจากอินเดียตอนเหนือ มีกลิ่นและรสเข้มข้น เหมาะเป็น
ชาสำหรับดื่มยามเช้า

- ซีลอน ให้กลิ่นและรสที่สดใส

- เอิร์ลเกรย์ เป็นชาดำที่ผสมกับน้ำมันเบอร์การม็อตเล็กน้อย เพื่อให้
รสอมเปรี้ยวและสดชื่นขึ้น

 

ชาอูหลง เป็น ชาที่มีการบ่มน้อยกว่าชาดำ รสชาติสุขุม ส่วนใหญ่มาจาก
ประเทศจีนและไต้หวัน บางครั้งมีการอบด้วยกลิ่นกุหลาบหรือมะลิ
อูหลงมีคาเฟอีนน้อยกว่าชาดำ และมากกว่าชาเขียวเล็กน้อย

ชาเขียว เป็นชาเก่า แก่ที่สุดในกระบวนชาทั้งหลาย เนื่องจากมีบันทึก
การผลิตที่ย้อนหลังไปได้อย่างน้อย ๕,๐๐๐ ปี เป็นชาที่ไม่มีการหมักบ่ม
ทำให้มีรสอ่อนจางกว่าชาอื่น

ชาขาว เป็นชาที่ผ่านกระบวนการน้อยที่สุดในกระบวนชาทั้งหลาย ทำจาก
ยอดใบชาอ่อนที่เก็บก่อนพระอาทิตย์ขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ผลิ กลิ่นและรส
บางเบามาก จนเกือบจะเจือหวานเล็กน้อย และมีคาเฟอีนน้อยที่สุดใน
กระบวนชาทั้งหลาย

ชาสมุนไพร เรา มักเรียกว่า ชา แต่จริงๆ แล้วไม่มีส่วนผสมของ
ใบชาเลย แต่เป็นส่วนผสมของสมุนไพรดอกไม้ หรือใบไม้แห้งหลายชนิด
ทำให้มักมีสรรพคุณในการเยียวยาด้วย เช่น ช่วยย่อยทำให้นอนหลับสบาย
เป็นต้น และปราศจากคาเฟอีน

 

ชงชาให้อร่อย
- เทน้ำร้อนลงในกาน้ำชาเล็กน้อย เพื่อให้มันอุ่นขึ้นก่อนใช้ใส่ชา

- ชาดำ ใช้น้ำที่เดือดปุดๆ เทลงบนใบชาทันที คนเล็กน้อยและทิ้งเอาไว้
ถึงห้านาทีตามความชอบ

- ชาเขียว ควรปล่อยให้น้อที่เดือดพล่านเย็นลงสักครู่ก่อนเทลงบนใบชา
ชาเขียวญี่ปุ่นควรทิ้งไว้ใช้เวลาหนึ่งหรือสองนาที ขณะที่ชาเขียวจากจีน
ต้องใช้เวลาสามถึงสี่นาที

- ชาขาว ไม่ควรใช้น้ำเดือดเช่นกัน และควรทิ้งไว้ตั้งแต่ ๓ ถึง ๑๐ นาที
ขึ้นกับประเภทของชา

คุณสามารถชงใบชาขาวราคาแพงซ้ำได้ถึงสองสามครั้ง แค่แช่ใบชาทิ้งไว้
ให้นานขึ้นในแต่ละครั้ง

- ชาดำเหมาะแก่การเติมนมมากกว่าชาชนิดอื่น เพราะนมจะทำให้รสของ
ชาดำละมุนละไมขึ้น ซึ่งบางคนนิยมเติมนมลงไปก่อนรินชาหรือไม่ก็
หลังจากนั้น แต่การเติมนมทีหลังจะทำให้คุณได้ปริมาณนมที่เหมาะสม
กับความเข้มของชามากกว่า แต่นมอาจทำลายรสชาติของชาเขียวและ
ชาขาวที่รสอ่อนเบากว่าได้

ขอบคุณข้อมูลจาก นิตยาสาร Lisa