แจ้งปิดกระทู้ พระอาจารย์พรสิทธิ์ วัดสว่างอารมณ์

สุดยอด และขอบพระคุณครับพี่... หลวงปู่ทองดำ วัดท่าทอง เคยไปกราบท่านนานมาแล้ว...

อย่าลืมจัดหลวงปู่คำเป็งมาให้ผมด้วยนะ... แบบแรงๆๆ ที่พี่เคยเล่าให้ฟังนะ อิอิ

 

ของกระผมขอรับที่งานเสาร์ ๕ ครับ
เผื่อจะได้ทวงของขวัญวันเกิดย้อนหลังมั่ง อิอิอิ

 

เอางัยดีอิอิ ถ้ามาก็รีบมาเลยนะ ตาไก่ จะรอ ถ้าไม่มาจะฝากตากิตไปให้นะ

 

โอ้วววว สุดยอดเลยอ่ะ ไร้วาสนา...

 

เอานกสาริกา ก็สุดยอดแล้ว.... สุดยอดมากกกกก ขอบอก...

 

พี่กิตเป็นอะไรมากป่าวครับเนี่ย แต่มีของดีติดตัว ปลอดภัยอยู่แล้ว

 

ธรรมะอยู่ที่กายที่ใจของเรานี้เอง
เราอยู่กับธรรมะมาตั้งแต่เกิด แต่ใจเราไม่ยอมรับธรรมะ
ใจเราไม่ยอมรับความไม่เที่ยง ความเป็นทุกข์ ความไม่ใช่ตัวเรา
เราอยากได้สิ่งซึ่งไม่ใช่ความจริง อยากให้เที่ยง อยากให้สุข อยากบังคับให้ได้
เพราะฉะนั้นภาวนาแทบเป็นแทบตาย ธรรมะก็ไม่เข้ามาสู่ใจของเรา
เพราะใจของเราปฏิเสธธรรมะ
ไม่มีใครปฏิเสธธรรมะ เราปฏิเสธเองนะ
จิตใจของเรานี่ ถ้าไม่ไปยุ่งกับมันนะ
มันมีแนวโน้มที่จะเข้าถึงธรรมโดยตัวของมันได้นะ
ถ้าเราไม่ไปแทรกแซงมัน มีแนวโน้มที่จะดี
ในแง่ของสมถะ ตัวจิตเป็นประภัสสรอยู่แล้ว ผ่องใส
แต่มันถูกกิเลสมอมเมาเอา จิตใจก็เลยไม่สงบ ไม่สบาย นี่ในแง่สมถะนะ
ในแง่วิปัสสนานี่ ถ้าเราตามรู้กายตามรู้ใจไปเรื่อยๆ นะ
จะเห็นความจริงของเขา เราก็เข้าถึงธรรมะ ไม่ได้มีอะไรยากเลย เราชอบทำเกิน
มีครั้งนึงพระพุทธเจ้าอยู่ริมแม่น้ำคงคา กับพระกลุ่มใหญ่
แล้วท่านก็ชี้ให้พระดูท่อนไม้ลอยน้ำมา
ชี้บอก ภิกษุทั้งหลาย ท่อนไม้นี้ลอยอยู่ในแม่น้ำคงคา
ถ้าท่อนไม้นี้ไม่ติดฝั่งซ้ายไม่ติดฝั่งขวา
ไม่ไปเกยตื้น เกยตื้นอยู่ตามเกาะตามแก่งอะไรอย่างนี้
ไม่ติดฝั่งซ้าย ไม่ติดฝั่งขวา ไม่ไปเกยตื้น
ไม่ถูกคนหรืออมนุษย์จับเอาไว้
ไม่ถูกน้ำวนดูดจมลงไปหรือวนอยู่ที่เดิมไปไหนไม่ได้
ไม่ผุพังเน่าเสียก่อน
ท่อนไม้นี้ก็จะลอยไปสู่มหาสมุทร
จิตของเรานี้เหมือนกัน มีแนวโน้มที่จะไปสู่มหาสมุทรคือมรรคผลนิพพาน
ถ้าไม่ติดฝั่งซ้ายไม่ติดฝั่งขวา
ไม่ไปเกยตื้น
ไม่ถูกมนุษย์และอมนุษย์จับไว้
ไม่ถูกน้ำวนดูดไว้
ไม่เน่าในเสียก่อน
ถ้าจิตของเรามีคุณสมบัติอย่างนี้นะ
การจะบรรลุมรรคผลนิพพานมันจะเป็นไปเอง
มันจะเป็นไปเอง มันมีแนวโน้ม โน้มน้อมไปสู่มรรคผลนิพพานโดยตัวของมันเอง
เพราะฉะนั้นคนที่สกัดกั้นมันไว้ส่วนมากก็คือตัวเรานี่เอง
คำว่า ฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ก็คือการที่จิตของเราไปหลงติดอยู่ในสิ่งที่เป็นคู่ๆ
บางคนยึดในความดี เกลียดความชั่วรุนแรงนี่ติดนะ
บางคนยึดชั่วเกลียดดี ก็ติดอีกนะ
บางคนยึดสุขเกลียดทุกข์ ก็ติดอีก
ติดคู่ที่สำคัญมากเลย ก็คือติดในการเผลอไปกับติดในการเพ่งไว้
ติดในกามสุขัลลิกานุโยค คือจิตใจหลงตามกิเลสไป
เพลิดเพลินไปทางตา หู จมูก ลิ้น กาย
แล้วก็เพ่งเอาไว้ นั่งปฏิบัติเกือบทั้งหมดคือเพ่งอยู่นะ
เพราะฉะนั้นติดฝั่งอยู่นะ ไปไหนไม่ได้หรอก
นักเพ่งทั้งหลายก็ติดอยู่บนฝั่งข้างหนึ่งนั่นเอง
ท่านไม่ได้บอกนะ ว่าข้างซ้ายหรือข้างขวา
ท่านแค่ว่ามันมีสองฝั่งแล้วติดฝั่ง คือติดในธรรมที่มันเป็นคู่ๆ
เกยตื้น คือไปติดอยู่ในภพอะไรอย่างหนึ่งที่เราสร้างขึ้นมา
หลายคนภาวนาจนจิตว่าง โล่ง สว่างไสวนะ แล้วก็เพลิดเพลินพอใจอยู่ในภพอันนั้น
นี่เกยตื้นแล้ว ชาตินี้ไม่ไปไหนแล้ว
บางคนดูจิตดูใจนะ จิตใจว่างสว่างอยู่ข้างหน้าอย่างนี้
ที่หลวงพ่อพูดว่าจิตไม่ถึงฐาน ไม่ถึงฐาน คือจิตไปสร้างภพอันนึงอยู่ข้างนอก
แล้วจิตก็ไปเกาะนิ่งๆ อยู่ในภพอันนั้น นี่เกยตื้นแล้ว เดินปัญญาต่อไปไม่ได้
ถูกมนุษย์จับไว้ ก็คือติดหมู่คณะ ติดพรรคติดพวก
ไปไหนก็กะเตงกันไปเป็นกลุ่มเบ้อเร่อเลย
เมื่อก่อนอยู่วัดป่านะ มีรถทัวร์เข้าไปกันเยอะ
พอรถทัวร์เข้ามา คนในวัดจะคุยกันแล้ว โอ้ พวกอรหันต์ทัวร์มาอีกแล้ว
นี่พวกอรหันต์ทัวร์ เพราะชอบไปหาข่าวลือว่าวัดไหนมีพระอรหันต์นะ จัดทัวร์ไป
อรหันต์หนึ่งวัด สองวัด สามวัด นี่วันนี้ไหว้อรหันต์เจ็ดวัดแล้ว ชาตินี้ไม่ตกนรกแล้ว
นี่ติดหมู่ติดคณะนะ
บางคนก็ห่วงคนอื่น ห่วงคนอื่นไม่ห่วงตนเอง
ห่วงหมู่คณะ ห่วงพรรคพวก
เห็นพรรคพวกติดกรรมฐานพยายามไปแก้ ตัวเองเลยติดด้วย อย่างนี้ก็มีนะ
ถูกอมนุษย์จับไว้ อะไรคืออมนุษย์ ชื่อเสียง เกียรติยศทั้งหลาย
ภาวนาไปแล้วดัง เป็นอาจารย์ใหญ่ดัง ขี่หลังเสือลงไม่ได้แล้ว
ชาตินี้ก็เลยอยู่บนหลังเสือตลอดไป มีนะ ไม่ใช่ไม่มี
ถูกน้ำวนคืออะไร น้ำวนคือกามนะ
น้ำวนคือกาม
ถ้าภาวนาดูจิตดูใจเป็นจะเห็นเลย จิตของเราจะหมุนอยู่ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ตลอดเวลา
หมุนติ้วๆ เลยนะ
คือเดี๋ยวก็วิ่งหาอารมณ์ทางตา เดี๋ยวก็วิ่งหาอารมณ์ทางหู
เดี๋ยววิ่งหาอารมณ์ทางจมูก ไปดมกลิ่น
เดี๋ยวก็วิ่งหารสที่เพลิดเพลิน หาสัมผัสที่ถูกอกถูกใจ
นี่จิตจะหมุนติ้วๆ หาอารมณ์อยู่อย่างนี้ ไปไหนไม่รอดหรอก
ยังติดอยู่ในกาม คือถูกน้ำวนไว้
จิตเน่าใน คือพวกไม่มีศีลธรรม ก่อกรรมทำชั่ว
บางคนดูถูกศีลนะ เจริญปัญญาได้แล้ว ไม่ต้องถือศีล เข้าใจผิด
ไม่ถือศีลไม่ได้ ถ้าเราไม่ถือศีลนะ ปัญญาของเราจะเป็นปัญญาของมหาโจร
เพราะฉะนั้นเราต้องมีศีล ถ้าเราทุศีลเมื่อไหร่นะ ก็เน่าอยู่ข้างใน
เปลือกนอกดูสวยงาม แต่เน่าอยู่ข้างใน นี่บรรลุมรรคผลไม่ได้
เพราะฉะนั้นพวกเรานะ สำรวจตัวเอง
เราติดฝั่งซ้ายฝั่งขวาไหม
เราไปเกยตื้น คือเราไปติดอยู่ในภพใดภพหนึ่งที่เราสร้างขึ้นเองหรือเปล่า
เราพัวพันในหมู่คณะ ปล่อยวางไม่ได้ จะหอบกระเตงกระเตงกันไป
หรือเราติดในชื่อเสียง
บางคนไปพูดธรรมะแล้วสนุกนะ
นี่ ได้แสดงธรรมะแล้วสนุก เพลิดเพลิน มีความสุข ติดอยู่ในความสุข
นี่ถูกอมนุษย์จับไว้
หรือใจของเราวันๆ หมกมุ่นในกามไหม
หมกมุ่นอยู่ในกามไปไม่รอดหรอก
ใจของเรามีศีลมีธรรมไหม
สำรวจนะ ลองไปสำรวจตัวเองเป็นการบ้าน
ถ้าไม่มีสิ่งเหล่านี้แล้วนี่ ให้รู้กายแบบสบายๆ รู้จิตใจไปอย่างสบายๆ
ถึงวันนึงท่อนไม้นี้จะลอยไปถึงแม่น้ำ ถึงมหาสมุทรนะ
ออกจากแม่น้ำคงคา ถึงมหาสมุทร
ใจเราก็จะออกจากที่คับแคบไปสู่ที่กว้างไร้ขอบไร้เขต
จิตใจของเราแต่ละคนอยู่ในที่ขังนะ มีกรอบมีขัง มีจุดมีดวง มีกรอบขังอยู่แคบๆ
ถ้าภาวนาไปถึงช่วงนึงจะเห็นใจเราอยู่ในแคปซูล ใจเหมือนมีเปลือกหุ้มอยู่ ใจไม่มีอิสระ
วันใดที่เราออกสู่ทะเลได้ คือเข้าถึงธรรมแท้ๆ นะ ใจจะโล่งว่างเลยนะ
กว้างขวางไร้ขอบไร้เขต ไม่มีจุดไม่มีดวง ไม่มีที่ตั้ง
เพราะฉะนั้นใจไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมาเหมือนที่เคยเป็น
ใจอยู่ในที่ทุกสถานเลย เต็มไปหมดเลย
เพราะฉะนั้นอย่างเวลาพวกเราภาวนา
เรามีปัญหาติดขัดหรือเกิดอะไรขึ้นนะ
เราระลึกถึงพระพุทธเจ้านะ เราจะสัมผัสท่านได้ทันทีเลย
พระพุทธเจ้าไม่ได้อยู่อินเดีย คุณธรรมของท่านยังครอบโลกเต็มโลกอยู่อย่างนี้
ใจเรานึกถึงขึ้นมาจิตใจเราก็สงบ ตั้งมั่น มีความสุขขึ้นมาฉับพลันเลยนะ
หรือบางครั้งภาวนาติดขัด ไม่รู้จะทำยังไงดี
ครูบาอาจารย์ก็อยู่ไกล เราไหว้พระสวดมนต์ เราตามรู้ตามดูของเราไป
บางทีธรรมะจะถ่ายทอดออกจากใจของเราเอง
หรือบางคนมีภาพประกอบ บางคนมีเสียง
เห็นพระพุทธเจ้าไปบอกบ้าง
เลยคิดว่าพระพุทธเจ้ามาจริงๆ นะ
จริงๆ จิตนั่นเองมันถ่ายทอดธรรมะออกมา
จิตใจโน้มเอียงที่จะอยู่กับธรรมะ
เวลาติดขัดขึ้นมาจิตจะสอนธรรมะได้ เป็นเรื่องแปลกนะ
ค่อยๆ ดู ท้าให้พิสูจน์นะ ไม่ได้ชวนให้เชื่อ
ลองภาวนาดู เอาซีดี เอาหนังสือหลวงพ่อไป ไปฟังไปอ่าน
แจกให้ฟรีนะ ไปฟังไปอ่านแล้วค่อยๆ สังเกตจิตใจของเราไป

 

อ.ปุ้มครับ ผมจัดแผนเงิน ทอง นาค มาแล้ว แต่ว่าแผ่นเล็ก อ.จะได้ไม่เหนื่อย ขอความกรุณาท่านอ.จัดให้เต็มที่เลยขอรับ

 

ขอเชิญร่วมงาน
พิธีสืบดวงชะตาและอาบน้ำว่านยา
พระอาจารย์พรสิทธิ์วัดสว่างอารมณ์ เชียงใหม่

วันเสาร์ที่ 20 มีนาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งตรงกับ วันเสาร์ขึ้น๕ค่ำเดือน๕ ถือเป็นวันแรงและหาได้ยากยิ่ง
เพื่อหารายได้สบทบทุนการศึกษาและเป็นค่าอาหารกลางวันแก่เด็กนักเรียนโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์หมายกำหนดการมีดังนี้
1) พระอาจารย์พรสิทธิ์เริ่มพิธีการบูชาเครื่องกระยาบวช อันเชิญ บรมครู ครูบาอาจารย์พร้อมทั้งเทวดาทั้งหลายเวลาประมาณ 05.00 น. ในวันเสาร์ที่20มีนาคม
2) พระอาจารย์พรสิทธิ์เริ่มพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลหลังจากเสร็จพิธีการไหว้ครู
3) พระอาจารย์พรสิทธิ์เริ่มพิธีสืบชะตา,หนุนดวงชะตาหลังจากเสร็จพิธีปลุกเสกวัตถุมงคลผู้ที่จะเข้าร่วมพิธีสืบชะตาสิ่งที่จะต้องเตรียมไปคือ
- เสื้อของคนที่เป็นหัวหน้าครอบครัวหรือคนในบ้านก็ได้ห่อใส่ถุงไป1ตัว
- เทียนเล่มเล็กๆ(ที่เป็นห่อเหลืองๆก็ได้)จำนวนที่เกินอายุของเจ้าของเสื้อที่เอา ไปร่วมในพิธี 2 เล่ม (สมมุติเจ้าของเสื้อที่เอาไปร่วมพิธีอายุ38ก็เอาเทียนไปเกินสองเล่มคือ38+2=40 เทียน 40 เล่ม)
- หลังจากสืบชะตาให้กลับไปปล่อยนก ปล่อยปลา ฯลฯ ที่บ้าน เพื่อรับโชค
4) พระอาจารย์พรสิทธิ์เริ่มการสักยันต์,ลงทองให้แก่ลูกศิษย์และผู้มาร่วมงานค่าบูชาครู 159 บาทสักได้ 1 พระยันต์สำหรับผู้ที่ลงทองต้องเตรียมทองมาเองจำนวน 9 แผ่น
5) พระอาจารย์พรสิทธิ์เริ่มการอาบว่านยา-กินน้ำมันงา บ่อว่านจะมี 2 บ่อคือ
5.1)บ่อว่านยาอายุวัฒนะ รักษาโรค หนุนดวงชะตา,คลาดแคล้วคงกระพัน
5.2)บ่อว่านยาเมตตามหาเสน่ห์ ทำมาหากิน โชคลาภ
โดยเลือกอาบบ่อใดบ่อหนึ่งหรือจะอาบทั้งสองบ่อก็ได้แต่ต้องอาบบ่อที่เป็นอายุวัฒนะก่อนถึงจะอาบบ่อที่เป็นเมตตาได้
ค่าบูชาครูในการอาบน้ำว่าน 259 บาทประกอบด้วย
- ค่าบูชาครูอาบน้ำว่าน 159 บาท
- ค่าบูชาแหวน 100 บาท สมทบทุนการศึกษาและอาหารกลางวันนักเรียนโรงเรียนวัดสว่างอารมณ์
ผู้ที่ร่วมพิธีการอาบว่านยาจะต้องเตรียมไปคือ
- ผ้าขาวสำหรับนุ่งเวลาอาบว่านยาหรือท่านใดไม่สะดวกให้ใส่ชุดขาวก็ได้
- ดอกไม้ขาว หรือ ดอกบัว ก็ได้ 4 ดอก, ธูป 8 ดอก , เทียนขาว 8 เล่ม
6) ปล่อยโคมลอย สืบชะตา เสดาะเคราะห์ รับโชค เวลา 19.00 น.(ใบละ 35 บาท)
ในงานพระอาจารย์พรสิทธิ์ท่านได้เปิดให้บูชาผ้ายันต์จำโบชูชกรุ่นไหว้ครูเสาร์ห้ายาวประมาณหนึ่งเมตรราคา 999 บาทและมีวัตถุมงคลอีกหลาย
อย่างให้บูชา


หาเจอแล้วค๊าบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ

 

จัดตะกรุด สามกษัตรให้เลย...

 

รบกวนเพิ่มของผมอีก 1 ชุดได้หรือเปล่าครับ ขอโทษที่บอกช้าเพราะสับสนในชีวิตตัวเองเหลือเกิน ไปได้ ไปไม่ได้ ไปได้ ไปไม่ได้ แบบนี้แหละ

ถ้าไม่ได้ก็ไม่เป็นไรนะครับ ขอบคุณมากครับ

 

ผมบอกวิธีแก้ให้ครับ..นั้นคือขึ้นรถ สตาร์ท แล้วขับไปที่วัดสว่างอารมค์ครับ..พอพ้นเขาค้อ... ก็จะอยากไปที่วัดพระอาจารย์แล้วครับ อิอิ...มาให้ได้นะพี่ของดีมีน้อย...

 

ขอบพระคุณขอรับท่านอาจารย์

 

ตกลงจะมีใครไปงานเสาร์ ๕ อีกไหมหนอ รับได้ 2 ท่าน อย่าคิดนาน โอกาสอย่างนี้ นานๆมีทีเด้อ อิอิอิ

 

ขอบคุณครับที่ถามไถ่
ของดี...ก้อมีล๊อคเก็ตใหญ่ของพระอาจารย์ครับที่ติดตัวอยู่
เมื่อวานตอนเ็ย็น โดนรถตัดหน้ากระทันหัน
เลยรีบแตะเบรค คราวนี้ทั้งน้ำทั้งทรายก้อลื่นซิครับพี่น้อง
คนไปทางรถไปทาง ไม่มีแม้แต่แผลถลอกแต่ข้อเท้าดันพลิกบวมเลย
ไปหาหมอ หมอก้อให้พยาบาลสาวแสนสวยพาไปเอ็กซเรย์
บอกไม่แตกไม่หัก คงเส้นพลิกอย่างเดียว
ให้ยามากิน และสเปรย์มาฉีดแล้วนัดดูผลอีกครั้งวันพุธหน้า

แต่สุดท้าย...ดันลืมขอเบอร์พยาบาลสาวมาฝากศิษย์พี่ อิอิอิ

 

ศิษย์พี่ก้อลองโทรถามตาแอ๊ปดิ
ว่าหาซื้อแผ่นใหญ่ได้ที่ไหน

 

จะเคืองก็ตรงนี้หละครับ อิอิอิ

แผ่นเล็กก็ดีครับพกพาสะดวก ไว้มีโอกาสเจอแผนใหญ่ๆ จะขอท่านอ.จัดให้อีกทีครับ

 

รับทราบครับ

ดำเนินการให้เรียบร้อยครับ

 

ฝากกระทู้ด้วยครับ จาไปท่าพระจันทร์

จะรีบกลับให้ทันครับ เปิดเครื่องทิ้งไว้ครับ

 

อ้าาาาาาา

นะ

นึกว่าจะยังไม่รู้เรื่องอีก... โดนแน่