ผมจะเป็นพระที่ดี ตอนที่ 1 บวช

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย darkforever, 27 มีนาคม 2010.

  1. darkforever

    darkforever Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    12
    ค่าพลัง:
    +73
    มาจาก MTHAI ครับ ...พอดีมีคนบอกให้แวะมาโพสท์ที่นี่ด้วย
    ===============================
    ผมจะเป็นพระที่ดี
    ===============================
    <O:p</O:p- บทความนี้ผมตั้งใจเขียนขึ้นมาเพื่อบอกเล่าประสบการณ์อันมีค่าของผมตลอดช่วงการบวช 30กว่าวันของผม อยากให้ผู้ที่คิดจะบวชและคนที่สนใจได้เข้ามาอ่าน เผื่อว่าจะได้รับความรู้ความเข้าใจ<O:p
    ในการบวชไปบ้างซักนิดซักหน่อยก็ยังดี
    - บทความชุดนี้มีหลายตอนนะครับ จะทยอยเขียนและค่อยๆ ทยอยเอามาลงเรื่อยๆนะครับ
    - ข้อมูลที่นำมาเขียน.. ผมได้มาจากการอ่านหนังสือบ้าง จำมาบ้าง ฟังเทศน์จากครูบาอาจารย์บ้าง <O:p
    ทั้งนี้ด้วยความรู้แบบงูๆปลาๆของผม จึงอาจมีตกหล่นไปบ้าง.....ไม่ครบถ้วนบ้างอย่างไรขอให้ผู้อ่านชี้แนะด้วยครับ
    - ผมเขียนบทความนี้ด้วยเจตนาที่หวังดีจริงๆ ไม่ได้คิดจะอวดอ้างตัวแต่อย่างใด<O:p
    <O:p
    ====================================================================
    บทนำ<O:p</O:p
    ‘ผม’นั่งพับเพียบตัวตรง สายตาทอดออกไปยังฝูงชนอันเนืองแน่นเบื้องหน้าด้วยท่าทีสงบนิ่ง สำรวม ....ผู้คนเหล่านี้ ส่วนใหญ่แล้วล้วนแต่จะเป็นผู้มีคุณซึ่ง‘ผม’เคยยกมือไหว้มาแล้วทั้งนั้น
    ณ ตอนนี้ พวกเขากำลังอยู่เบื้องหน้าผม ....และพร้อมใจกันก้มลงกราบผม.....!!
    ......... ‘ผม’รู้สึกตื้นตันใจอย่างบอกไม่ถูก
    .....ธารสายตาอันฉายประกายแววแห่งศรัทธาในผ้าเหลืองอันศักดิ์สิทธิ์ มือทุกคู่ที่ประนมแนบอกราวกับช่อปทุมที่พร้อมใจกันยกขึ้นบูชาพระรัตนตรัย และใจทุกดวงที่ตั้งมั่นพร้อมจะอนุโมทนาในผลบุญกุศล.............ทำเอา‘ผม’ขนลุกวาบขึ้นมา
    <O:p
    ...ณ ตอนนั้นเอง ความคิดหนึ่งก็ได้ผุดขึ้น และ แปรเปลี่ยนเป็นปณิธานอันแรงกล้า<O:p</O:p
    <O:p
    “ ‘ผม’....จะเป็นพระที่ดี ”

    ===============================
    <O:p</O:pหากจะพูดถึงการบวชแล้ว ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะนึกไปถึงการโกนหัวใส่ชุดขาว แห่นาคเข้าวัด ..อาจมีขบวนแห่ตะลุ่งตุ้งแช่บ้างตามฐานะ แล้วเข้าไปในอุโบสถให้พระสงฆ์ห่มผ้าเหลืองให้ (ก่อนเข้าอาจมีการให้ญาติๆมารุมมะตุ้มช่วยกันอุ้ม(บอดี้เซิร์ฟ)นาคข้ามธรณีประตู เชื่อว่าได้บุญแรง )....เท่านั้นก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธี............ ถึงตอนนี้ คุณ(ในฐานะพระใหม่)ก็อาจจะอิ่มเอมใจในบุญที่ได้รับ และปลื้มอกปลื้มใจที่ได้ทำความดีทดแทนคุณบุพการี ....พ่อแม่ญาติโยม ทุกคนก็ได้บุญเรียบร้อยแล้ว .......กลับบ้านได้ ที่เหลือก็แค่รอให้ถึงวันสึกเท่านั้น (......บางคนนั่งนับวันรอให้ถึงวันนั้นเร็วๆด้วยซ้ำ)<O:p
    <O:p
    ..หากคุณคิดแบบนั้น .........คุณกำลังคิดผิดนะครับพี่น้อง
    ถึงตอนนี้คุณอาจจะเถียงผมว่า ‘ เฮ้ยยย......ถ้าบวชแล้วไม่ได้บุญแล้ว จะบวชทำไส้ติ่งอะไรวะ (...แสรด!!) ’
    <O:p
    …..ครับ.....ใจเย็นไว้ก่อนพี่น้อง แล้วค่อยๆฟังผมอธิบายไป<O:p
    <O:p
    อันดับแรก.... เรามาทำความเข้าใจความหมายของคำว่า บวช กันก่อน ดีมั้ยครับ
    <O:p
    บวช ... แปลว่า การเว้นหมดจากความเป็นชาวบ้าน นั่นคือการเว้นจากการกินและความเป็นอยู่เพื่อสนองกิเลสทั้งหลาย อ๊ะๆ ตรงนี้อย่าเพิ่งเข้าใจผิด....คือ ไม่ได้หมายความพระจะเกิดกิเลสไม่ได้นะครับ พระก็คือคนธรรมดาน่ะแหละครับ มี โลภ โกรธ หลง เหมือนกัน ....แต่ทีนี้พอกิเลสมันเกิดขึ้นมาแล้ว พระจะต้องรู้ทัน ไม่หลงไปกับสิ่งเหล่านั้นจนขาดสติก็พอ เช่น ....พอเห็นโยมถวายพิซซ่าของโปรด ก็อย่าหลงเพลินไปกับรสของมันจนลืมตัว แต่ต้องฉันอย่างรู้เท่าทันกิเลสว่า พอพิซซ่าสัมผัสกระทบ(ผัสสะ)กับลิ้น(อายตนะ) ทำให้เกิดความอร่อย (สุขเวทนา) พอหมดแล้วก็เกิดวิภวตัณหา ไม่อยากให้มันหมดอีก ก็ต้องตามรู้ไปเรื่อยๆ.......อย่างนี้ไม่ผิดครับ<O:p</O:p
    <O:p
    แต่ทีนี้พระใหม่บางรูปอาจเกิดอาการไขว้เขวบ้าง เมื่อเห็นพระบางรูปยังสูบบุหรี่บ้างล่ะ ดูหนัง ดูละครบ้างล่ะ ..เอ้อ...จะว่าไปก็พอจะอ้าง (แบบเอาสีข้างเข้าถู)ว่าไม่ผิดศีล (ทั้งที่นั่นมันกิเลสตัวบักเอ้กเลยนะนั่น) แต่เราก็อย่าเพิ่งหลงไปทำตามนะครับ ...ตรงนี้ผมอยากให้ถืออุเบกขา(วางตัวเป็นกลาง)ไว้ครับ คือใครเค้าจะทำยังไงก็ช่าง แต่เราทำตัวเองให้ดีที่สุดเป็นพอ ....ถือซะว่า เอาไว้ดูกิเลสตัวเองไปแล้วกัน (อันนี้ไว้ผมจะเล่าเพิ่มเติมในตอนต่อๆไป) <O:p</O:p
    <O:p
    เอาล่ะทีนี้ผมก็จะกลับมาว่ากันถึงประเด็นที่ผมทิ้งท้ายเอาไว้ในตอนต้น….
    <O:p
    .....เคยคุ้นๆกับบาลีประโยคนี้กันบ้างมั้ยครับ

    “ .....อะนุตตะรัง ปุญญักเขตตัง โลกัสสาติ ” *<O:p</O:p
    .........
    <O:p
    ครับ ....อะไรนะครับ.......ไม่เคยได้ยินเหรอครับ...... = =” (ขอโทษครับ....ผมมันไม่ดีเอง T T)
    (* จริงๆมันเป็นช่วงท้ายของบทสวดสังฆานุสติ (สวดสรรเสริญคุณพระสงฆ์)น่ะครับ เชื่อว่าผู้อ่านที่เคยสวดมนตร์หรือไปวัด คงจะพอท่องกันได้)
    <O:p
    ....ถ้างั้น ยังไงก็น่าจะต้องเคยได้ยินประโยคนี้กันบ้างสิน่า
    ‘พระสงฆ์ คือ เนื้อนาบุญของโลก’
    นั่นแน่.....ทีนี้ร้องอ๋อขึ้นมากันเลยล่ะสิ (..เอ่อ..ใครยังไม่อ๋ออีก.....ก็ช่วยๆกันทำเป็นอ๋อหน่อยเฮอะ = =” ช่วยกันทำมาหากินน๊อยย... ผมไหว้ละ - / \ - )<O:p
    <O:p
    เนื้อนาบุญของโลก ..มันแปลว่าอะไรหว่า หมายถึง มีเนื้อนวล ผิวพรรณผ่องใส รึเปล่าหว่า (สารภาพว่าตอนเด็กๆผมคิดแบบนี้จริงๆ T T <....ลองนึกภาพพระมีผิวกายนวลเป็นประกายปิ๊งๆ > )
    <O:p
    เอ้าเลิกเล่นๆ ...(จริงๆสมควรเลิกนานแล้วล่ะ) .... เนื้อนาบุญก็คือ ผืนนาที่เอาไว้เพาะปลูกเมล็ดบุญยังไงล่ะครับ ....โดยเมล็ดบุญก็คือ ทาน ศรัทธา ที่ญาติโยมได้ถวายแก่พระ เป็นเสมือนการฝากให้ไว้กับพระเพื่อให้ท่านได้เอาไว้ใช้ในการทำคุณ<?xml:namespace prefix = st1 ns = "urn:schemas-microsoft-com[​IMG]</st1:personName>ความดี ทำกุศลต่อไป
    <O:p
    จำได้มั้ยครับ ที่ผมกล่าวเอาไว้ในตอนแรก
    “ ธารสายตาอันฉายประกายแววแห่งศรัทธาในผ้าเหลืองอันศักดิ์สิทธิ์ มือทุกคู่ที่ประนมแนบอกราวกับช่อปทุมที่พร้อมใจกันยกขึ้นบูชาพระรัตนตรัย และใจทุกดวงที่ตั้งมั่นพร้อมจะอนุโมทนาในผลบุญกุศล”
    .....ใน ตอนนั้น ญาติโยมทุกคน ผู้เปรียบดังเกษตรกรผู้ปลูกบุญ กำลังพร้อมใจกันหว่านเมล็ดลงบนผืนนา ‘ผ้าเหลือง’ผม จากนั้นทุกคนก็จะเฝ้ารอคอยให้เมล็ดบุญนั้นค่อยๆเติบโตเป็นต้นบุญให้พวกเขาได้เก็บเกี่ยว ...........และหน้าที่ของผมในฐานะ ‘เนื้อนาบุญ’ ในฐานะของพระสงฆ์ จึงเริ่มต้นตั้งแต่ตรงนั้น<O:p
    <O:p
    …ถึงตรงนี้ คุณคงพอเข้าใจขึ้นมาบ้างรึยังล่ะครับว่า บุญของญาติโยมนั้น ...ไม่ได้เกิดจากการมางานบวชเรา ...ไม่ได้เกิดจากการรำหน้านาค ...ไม่ได้เกิดจากการอุ้มนาคให้ก้าวพ้นธรณีประตู ...ไม่ได้เกิดจากการเอาปัจจัยใส่ย่ามพระใหม่ ...<O:p</O:p
    <O:p
    .........บุญของญาติโยมนั้น เกิดจากทุกสิ่งที่คุณทำ …ในทุกการกระทำ ของ ‘คุณ’ ในฐานะ ‘เนื้อนาบุญของโลก’
    .....เมล็ดบุญเล็กๆที่เหล่าญาติโยมพร้อมใจกันหว่านในวันนี้ จะกลายเป็นต้นบุญที่สูงใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขาออกดอกออกผลได้มากเพียงไรก็ขึ้นอยู่กับ ‘คุณ’
    (มีครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งว่าไว้ ฆราวาสทำบุญเท่ากำมือได้บุญเท่าขี้เล็บ ส่วนพระสงฆ์ทำบุญเท่าขี้เล็บได้บุญเท่ากำมือ ....หรืออะไรประมาณนี้แหละ)<O:p
    แต่ก็อย่าเพิ่งกระหยิ่มใจไปนะครับ.........หากคุณทำสิ่งที่เป็นอกุศล <O:p
    บาปก็ตกแก่พวกเขาเป็นทวีคูณเช่นกัน (....เป็นพระ บาปหนักซะด้วยสิ)<O:p
    <O:p
    ก็คงถูกอย่างที่สไปเดอร์แมนว่าครับ
    “ภาระหน้าที่อันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง”<O:p
    <O:p
    รู้อย่างนี้แล้ว .....คุณจะอยู่วัด กินนอนไปวันๆ โดดทำวัตรเช้า ชิ่งทำวัตรเย็น แวบไปสูบบุหรี่บ้าง แอบดูหนังฟังเพลงจากมือถือบ้าง รอวันที่จะได้สึก .....ก็แล้วแต่ศรัทธาแล้วกันเน้อ <O:p</O:p
    <O:p
    =========================
    สักแต่ว่าบวช ...บวชตามประเพณี ...บวชไป‘ทำไม?’
    .....มีโอกาสบวชทั้งที.......บวชให้มันได้ ‘อะไร’
    <O:p
    ……….…..ดีกว่ามั้ยครับ ??
    <O:p
    ........................
    <ซงย้ง>
    <O:p
    ปล. สำหรับคนที่ตั้งใจจะบวช ผมอยากให้คุณกลับไปอ่าน บทนำอีกครั้ง
    แล้วเปลี่ยนจากคำว่า ‘ผม’ เป็น ‘คุณ’

    อนุโมทนา<O:p</O:p
    <O:p</O:p
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 14 เมษายน 2010
  2. suthipongnuy

    suthipongnuy ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    661
    ค่าพลัง:
    +1,428
    อนุโมทนาสาธุด้วยครับ

    จากที่ได้บวชเมื่อพรรษาที่ผ่านมา3เดือน สดๆร้อนๆ (แต่ตอนนี้เริ่มเย็นแล้ว อิอิ) ตอนแรกแบกความรู้ไปเต็มที่ กะจะทำให้สุดๆไปเลย แต่เมื่อเข้าไปแล้ว ความรู้ที่ได้ยินได้ฟังได้อ่านมา มันเป็นแค่เศษธุลีเท่านั้น เพราะมันยังมีอะไร อีกมามายที่ไม่มีในตำรา ถ้าอยากรู้ ต้องปฏิบัติ ต้องทำเอาเอง และประสบการณ์ที่ได้กลับมา ถือเป็นประโยชน์กับตัวผมที่ใช้ถึงวันตายก็ไม่หมด ก็อยากให้ชายไทยทุกคนก่อนบวช ควรศึกษาให้ดีว่าบวชเพื่ออะไร ทำไม เพื่อใคร จะได้เข้าใจชีวิตตัวเองดีขึ้นครับ
     
  3. tong5959

    tong5959 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    2,056
    ค่าพลัง:
    +6,082
    [​IMG]
     
  4. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,481
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,013
    เียี่ยมครับ เขียนได้น่าสนใจเเละน่าติดตามมากครับ มีสาระสอดเเทรกเยอะมากๆ เจริญในธรรมครับ
     
  5. จาริกบุญ

    จาริกบุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +228
    สาธุ สาธุ สาธุ ตอนนี้คิอยากบวชแต่ติดที่ลูกคนเดียว มีหนี้สิน เลยต้องรอ
     
  6. arrin123

    arrin123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อนุโมทนาค่ะ^ ^~

    ถึงชาตินี้ข้าพเจ้าจะเกิดมาเป็นหญิงไม่สามารถบวชเรียนได้อย่างชาย เนื่องจากภิกษุณีไม่มี จึงไม่สามารถบวชได้เช่นชาย แต่ข้าพเจ้าก็จะตั้งใจทำความเพียรเพื่อปล่อยวางจากอาสวกิเลสต่อไป

    _______________________________________

    สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี

    จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน
     

แชร์หน้านี้

Loading...