งานนิโรธกรรมขั้นอุกฤษฎิ์ ของครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย MayBuddhaBlessYou, 3 พฤศจิกายน 2009.

  1. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    สงสัยจะไม่ได้ไปซะแล้วครับ อาตาย รอแม่มาจากกรุงเทพ รอดูพี่ก่อน ว่าจะให้ไปรึไม่ (พี่น่ะ หมายถึง พี่ทางบ้านผมครับ ไม่ใช่พี่เจน)
     
  2. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    หายไปเลยสำหรับพี่เจน ไม่รู้ไปจาริกแถวไหน ลืมกันซะแล้ว
     
  3. acspclubs

    acspclubs เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    178
    ค่าพลัง:
    +579
    อนุโมทนา ครับ

    ท่านปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ^^

    แต่ขอถามหน่อยครับ ไม่เป็นการรบกวนท่านหรอครับ

    ระหว่างที่ท่านปฏิบัติมีงาน อะไรซักอย่างข้างนอก

    มีลูกศิษย์มาเต็มไปหมดเลย

    สงสัยหงะ ผมทราบว่าตอนท่านครูบาศรีวิไชย เวลาจะปฏิบัติ

    ท่านจะไปที่ป่า ที่เขา ไม่มีคนรบกวน มีแค่ลูกศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น

    ที่จะไปดูแล ท่านอ่ะ

    ขอบคุณล่วงหน้าำสำหรับคำตอบครับ
     
  4. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    อนุโมทนา สาธุท่านก็พูดไม่ได้หรอกครับ ว่ารำคาญ เราก็เกรงใจท่านเหมือนกันครับ แต่คนเราก็อยากทำบุญกับพระที่ดี ก็เลยเยอะแยะ
     
  5. Nongnuj

    Nongnuj สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +22
    อนุโมทนา สาธุค่ะ

    อ่านไปก็ปลื้มไปกับเจ้าของกระทู้ด้วยค่ะ
     
  6. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    ก่อนที่ท่านจะออกมาโปรดญาติโยมได้นั่น พระทุกรูปที่เป็นสายกรรมฐานท่านก็เข้าป่ากันทุกรูปค่ะ ครูบาเจ้าท่านก็มีปลีกวิเวกของท่านได้ค่ะ ถึงแม้แต่จะวุ่นวายอย่างไรท่านก็ปฏิบัติของท่านได้ตลอดเวลา คุณ Hygena หายใจอยู่ใช่ไหมค่ะ ถ้าหายใจได้ก็ปฏิบัติได้ ไม่จำป็นต้องเข้าป่าเขาลำเนาไพรหรอกค่ะ ท่านก็เคยเปรยๆ ว่าท่านจะเข้าป่าเหมือนกัน ที่ท่านออกมา และผู้คนแวดล้อมเพราะทุกคนต่างไปขอให้ท่านช่วย เพราะเค้าศรัทธาท่าน แล้วอีกอย่างท่านก็เมตตาโปรดทุกคนด้วยค่ะ ท่านคงพูดว่ารำคาญเหมือนน้องดอนไม่ได้ค่ะ เพราะท่านมีแต่ให้ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 กันยายน 2010
  7. khomeraya

    khomeraya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +21,369
    ตอบได้ดีครับ พระนักปฏิบัตินั้น ไม่ใช่ว่าท่านจะสงเคราะห์คนไม่ได้ การสงเคราะห์คนของท่านนั้น เพราะท่านทราบว่าเป็นกิจที่ท่านจะต้องทำ ประกอบกับความเมตตากรุณาของท่านด้วย หากท่านต้องการหลีกลี้หนีผู้คน ท่านก็คงจะเข้าไปอยู่ในป่าในเขา ชนิดที่คนธรรมดาสามัญก็ไม่สามารถหาเจอได้ อย่างกรณีครูบาบุญชุ่มก็ดี ครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าก็ดี ครูบาอริยชาติก็ดี ท่านบำเพ็ญบารมีในฐานะพุทธภูมิ ซึ่งปกติก็ต้องสงเคราะห์คนอยู่แล้ว

    คราวนี้ก็อยู่ที่คนที่จะไปเจอ ว่าไปพบเพราะกิจอันใด ถ้าไปพบเพราะต้องการทำบุญ ไปสนทนาธรรม ไปปฏิบัติธรรม อย่างนี้ยังนับว่ามีกิจอันควรพบ แต่ถ้าหากไปขอหวย หรือไปถึงก็ไปนินทาคนโน้นคนนี้ให้ท่านฟัง ทำนองปรับทุกข์ อย่างนี้ก็ไม่เป็นการสมควร

    อีกประการหนึ่ง การที่เราจะพบกับพระสุปฏิปันโน ได้สร้างบุญสร้างกุศล ได้ฟังธรรม ได้ปฏิบัติธรรม เกิดความเลื่อมใสศรัทธาแม้เพียงได้ยินชื่อ นั่นก็เนื่องจาก "มีวาสนาต่อกัน" เพราะฉะนั้นไม่ใช่คนทุกคนจะไปพบได้ บางคนไปแล้วไปอีกก็ยังไม่เจอ หรือมีอันคลาดกันอยู่เสมอ

    ครั้งหนึ่ง ผมเคยไปกราบหลวงพ่อสายทอง วัดป่าห้วยกุ่ม จ.ชัยภูมิ มีรถคันหน้าไปถึงก่อนผม ผมตามมาติดๆ ปรากฎว่าประตูวัดปิดครับ มีเพียงหลวงตาแก่ๆ รูปหนึ่งกวาดลานวัดอยู่ ปรากฎว่ารถคันนั้นพอเห็นประตูวัดปิด ก็กลับเลยครับ ไม่ลงไปถามด้วยซ้ำ แล้วก็ปรากฎว่าหลวงตาที่กำลังกวาดลานวัดอยู่นั่นแหละ คือหลวงพ่อสายทอง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 เมษายน 2010
  8. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    ลองถอดจากคำกริยา
    ๑. ทำไมจึงไม่ร้องขอก =

    ๒. ทำไมจึงไม่ออก

    ๓. ทำไมจึงรก

    ๔. ทำไมไม่กินหญ้า

    ๕. ทำไมจึงไม่ปล่อย

    ๖. ทำไมจึงเจ็บ

    ๗. ทำไมจึงไม่สุก

    ๘. ทำไมจึงไม่ลุก

    ๙. ทำไมจึงเปียก

    ๑๐. ทำไมจึงตกมาก

    ๑๑. ทำไมจึงร้อง

    ๑๒. ทำไมจึงไล่กิน

    คราวหน้าจะลองแปลจากบนลงล่าง
     
  9. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    บอกบุญค่ะ

    ขอประชาสัมพันธ์ให้ญาติธรรมทุกท่านทราบว่า บัดนี้ครูบาท่านได้รับการถวายที่ดินจำนวน 7 ไร่ จากโยมแม่กิม ซึ่งเป็นคุณแม่ของคุณฝน (ภรรยาคุณโจ อำเภอคง จังหวัดนครราชสีมา) เพื่อให้ครูบาท่านจัดสร้างเป็นลานปฏิบัติธรรม โดยมีชื่ออย่างเป็นทางการว่า "ลานธรรมอรหันตาหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ" ตั้งอยู่ที่หมู่ 9 บ้านหนองหญ้าขาว ต.หนองบัว อ.คง จ.นครราชสีมา" โดยมีญาติธรรมได้ร่วมอนุโมทนาบุญเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา

    แต่เนื่องด้วยที่ดินผืนดังกล่าวอยู่ห่างจากถนนใหญ่และเสาไฟหลักของการไฟฟ้าฯ จึงมีความจำเป็นในเบื้องต้นที่จะต้องทำการดึงไฟจากเสาหลักเข้ามายังลานธรรมฯ เพื่อให้การปฏิบัติศาสนกิจต่าง ๆ เป็นไปด้วยความสะดวกนั้น

    ผมได้รับการประสานจากคุณโจทราบว่า เบื้องต้นจำเป็นต้องมีการปักเสาไฟฟ้าและเดินสายไฟเพิ่มเติมจากเสาไฟหลักมายังลานธรรมฯ จึงได้เปิดกระทู้นี้ขึ้นเพื่อให้สานุศิษย์ผู้ใจบุญและเหล่าเทวดาทั้งหลายได้ร่วมบุญ ร่วมกุศล และร่วมสร้างบารมีครั้งยิ่งใหญ่กับครูบาท่าน โดยขณะนี้มีรายการบุญใหญ่ดังต่อไปนี้

    1. เสาไฟฟ้า 10 ต้น ๆ ละ 3,500 บาท
    2. สายไฟฟ้า 2 ม้วน ๆ ละ 6,400 บาท

    ทั้งนี้ลานธรรมฯ ดังกล่าวนี้จะได้ใช้เป็นสถานปฏิบัติธรรมแก่สาธุชนทั่วไป โดยในวันวิสาขบูชาที่จะถึงนี้ ครูบาท่านก็กำหนดให้มีการเวียนเทียน ณ สถานที่แห่งนี้ด้วยครับ รายละเอียดอ่านได้จากลิ้งค์นี้ครับ

    สาธุชนคนใจบุญที่ประสงค์จะร่วมสร้างบารมีกับครูบาในครั้งนี้ สามารถร่วมบุญโดยเป็นเจ้าภาพแต่ละรายการ (เช่น เสาไฟฟ้า 1 ต้น) หรือร่วมบุญตามกำลังศรัทธาได้เช่นกัน โดยขอให้โอนปัจจัยร่วมบุญตามรายละเอียดด้านล่างนี้

    บัญชีสร้างลานธรรมหน่อแก้วฟ้าโพธิญาณ

    ชื่อบัญชี : นายมังกร ทุมพร, พระเจษฎา ใจลา, นายมณฑล พจน์พรวัฒนา
    ธนาคาร : กรุงศรีอยุธยา
    สาขา : ถนนบางขุนเทียน
    ประเภท : ออมทรัพย์
    เลขที่ : 345-1-81641-8

    ** โอนแล้ว Fax สำเนาเงินฝากที่ 02-805-5308 และโทรแจ้งที่ 081-822-2500

    หากญาติธรรมท่านใดต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อได้คุณโจที่ 086-874-2440 ครับ
     
  10. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    อานิสงส์ในการต่อไฟฟ้าเข้าวัด/สถานปฏิบัติธรรม


    ส่งผลให้เป็นผู้ที่ไม่เศร้าหมอง ทางเดินของชีวิตจะสว่างไสว ไม่มีทางตัน คิดนึกที่จะแก้ปัญหาได้ง่ายมีทางออกเสมอ จิตใจจะสว่างไสว สุขภาพร่างกายก็แข็งแรงตามไปด้วย ไม่ว่าเราจะไปตกทุกข์ได้ยากที่ไหน ก็จะมีสิ่งที่ช่วยเราให้มีทางออก พ้นจากความทุกข์ตรงนั้นได้ พ้นจากเคราะห์กรรม ตรงนั้นได้ เหมือนดั่งที่ไฟฟ้า ทำให้วัด สว่างไสว และยังมีประโยชน์อื่นๆอีกมากมาย และเกิดชาติไหนก็จะมีสายตาดี ไม่มีความบกพร่องในการมองเห็นเลย เมื่อละจากโลกนี้ไปแล้วก็จะมีวิมานที่สว่างไสวยิ่งนัก

    แก้กรรมสำหรับผู้ที่ มีความเศร้าหมองในจิตใจ พบทางตันในชีวิต และพวกที่มีความบกพร่องในการมองเห็น
     
  11. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    พระธรรมเทศนาขององค์พระครูบาเจ้าแก้วฟ้า ก่อนนิโรธกรรมครั้งที่ 6

    [​IMG]

    พระธรรมเทศนาขององค์พระครูบาเจ้าแก้วฟ้าก่อนนิโรธกรรมครั้งที่6


    ขอความนอบน้อมจงบังเกิดเกิดแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอความนอบน้อมจงบังเกิดแด่เกิดแด่พระธรรมคำสั่งสอนของพะองค์ชินวรพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ขอความนอบน้อมคงมีเกิดแด่พระอริยะสงฆ์เจ้าผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบผู้กำจัดกิเลส ขอความเคารพขอโอกาสท่านพระอาจารย์ปรีชา จารุวรรณโณ ตลอดถึงครูบาอินทร์ ตลอดถึงพระอาจารย์ที่กระผมให้ความเคารพนับถือเป็นอย่างยิ่ง ขอความสุขสวัสดีจงบังเกิดมีแก่ญาติธรรมญาติโยมลูกศิษย์ลูกหาทั้งหลายที่ได้เดินทางมาถวายผ้าไตรจีวรณ์ ตลอดถึงบริขารบริวารทั้งหลายทั้งปวง เหล่านี้และจตุปัจจัย พร้อมกับปัจจัยสี่ ด้วยเจตนาอันบริสุทธ์ น้อมนำมาถวายให้อาตมาภาพองค์พระครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าได้ใช้ตามกิจของสงฆ์ เพื่อที่จะปฏิบัติการเข้าอยู่กรรมในวันนี้ ซึ่งเป็นการถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา จริยบูชา มาตะปิตุบูชา บูชาคุณธรรมต่างๆ ของพระรัตนตรัย ตลอดถึงเทพเทวาต่างๆ ที่อาตมาภาพเกล้ากระผมเองให้ความเคารพนับถือ ก็เป็นหน้าที่ที่กระผมและอาตมาภาพสมควรที่จะปฏิบัติ เพื่อสัจจะบารมี ขันติบารมี และอยู่ในบารมี 30 ทัศด้วย ทุกสิ่งทุกอย่าง บริบูรณ์พร้อมที่จะปฏิบัติการเข้ากรรมอยู่กรรมของเกล้ากระผมและอาตมาภาพนั้นจะต้องอยู่จนครบ 9 ครั้ง ในชีวิตนี้
     
  12. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    ความหมายของการเข้ากรรม และนิโรธกรรม

    [​IMG]

    ความหมายของการเข้ากรรม และนิโรธกรรม


    ในครั้งนี้จะเป็นการเข้ากรรมปฏิบัติกรรมฐานครั้งที่ 6 ของการอยู่กรรม หรือที่ลูกศิษย์ทั้งหลายเรียกว่า การปฏิบัตินิโรธกรรม การนิโรธกรรมนี้จะคล้ายเคียงกันแต่ว่าจะต่างกันเพียงเล็กน้อย ไปหาความหมายก็พอที่จะเข้าใจเอง แต่การปฏิบัตินิโรธกรรมที่ลูกศิษย์ลูกหาเรียกกันนี้ เป็นการปฏิบัติหลักอายาตนะภายในภายนอก กับอายาตนะชั่วคราวเพื่อดับกิเลสส่วนหยาบและส่วนละเอียดที่มีอยู่ให้เบาบางลงให้มากที่สุดด้วยการ โดยเอาธาตุกายขันธ์ของตัวเองเป็นหลักที่จะพิจารณากายธาตุขันธ์ ด้วยทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ด้วยอริยะสัจสี่ เพื่อให้เกิดดวงตาเห็นธรรมโดยทั่วกันตลอด ด้วยจิตใจอันบริสุทธ์ ด้วยจิตใจของตัวเอง โดยพิจารณากายพิจารณาจิตให้บริบูรณ์พร้อม หรือเรียกว่า การอยู่กรรม นิโรธ หมายถึงการดับทุกข์ กรรมคือการกระทำ อย่างด้วยที่สุดคือดับอายาตนะภายในภายนอกชั่วคราว ไม่มีทุกข์ ทำอย่างไรไม่มีทุกข์ ลดทุกข์ลงก็จะมีแต่ความสุข ความสุขเกิดจากอะไร ความสุขเกิดจากการปฏิบัติธรรม ธรรมคืออะไร ธรรมคือรู้ รู้อะไร รู้จิตรู้ตน รู้อะไร รู้อารมณ์ตัวเอง รู้ตื่น เบิกบาน รู้พุทธ พุทธหมายถึงรู้ตื่น เบิกบาน ถ้าบุคคลใดผู้ใดมีพุทธอยู่ในใจ บุคคลนั้นจะมีความสุข สามารถปล่อยวางจะไม่ยึดมั่นถือมั่น มีว่าบางครั้งบางช่วงจะปรากฏขึ้นมา แต่เราก็รู้เท่าทันนั้น เรียกว่ารู้เท่าทัน ซึ่งทั้งหมดทั้งนั้น เรียกว่านิโรธกรรม นิโรธกรรทคือการดับทุกข์โดยสิ้นเชิงในขณะนั้นๆ แต่นอกจากนั้นไม่ใช่ว่าเราไม่รู้เท่าทัน ไม่ใช่ไม่ดับทุกข์แต่เราก็ต้องรู้อย่างสม่ำเสมอ รู้จิตของตัวเอง ตลอดถึงอารมณ์ใดที่กระทบเข้ามาในจิต เรารู้เท่าทันแล้วกำจัดอารมณ์นั้น อย่ายินดียินร้ายกับมัน เรียกว่ารู้เท่าทันอย่างสม่ำเสมอ รู้ว่าอารมณ์น้อยกระทบเข้ามา ก็รู้เท่าทันว่านี่คืออารมณ์ร้อน รู้แล้วปล่อยวางลงทำใจให้บริสุทธิ์ผ่องใส อารมณ์เย็นกระทบเข้ามาก็พึงรู้ว่านี่คืออารมณ์เย็น รู้เสร็จก็ปล่อยวางลง อย่านำเข้ามาในจิต คิดแล้วเปลืองสมอง อารมณ์ใดสิ่งใดเข้ามากระทบ สิ่งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่เข้ามากระทบเฉยๆ เราไม่รับไม่น้อมเข้ามาในจิต นี่คือการปฏิบัติถูกต้อง


    สำหรับการประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน แต่อาตมาภาพและเกล้ากระผมเองจะปฏิบัติเพื่อ ให้เห็นเป็นรูปธรรมให้ญาติธรรมญาติโยมลูกศิษย์ลูกหา ได้เห็นว่าการปฏิบัติการเข้ากรรมนั้น หรือการเข้าอยู่กรรมนั้นเป็นการบำเพ็ญเพียรทางจิต ไม่ใช่เป็นการบำเพ็ญทุกขระกิริยา หรือการทรมานตนซึ่งเป็นคนละแนวทางกัน แต่การปฏิบัติอย่างนี้คือการรักษาสัจจะ การรักษาความเพียรและการสร้างบารมีอย่างหนึ่ง เพื่อให้ญาติโยมได้รู้ได้เห็นว่าปฏิบัติจริง รู้จริง ทำจริง
     
  13. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    องค์พระครูบาเจ้าฯ เอ่ยถึงพระอรหันต์สาวกในสมัยพุทธกาลที่ปฏิบัตินิโรธกรรม

    [​IMG]

    องค์พระครูบาเจ้าฯ เอ่ยถึงพระอรหันต์สาวกในสมัยพุทธกาลที่ปฏิบัตินิโรธกรรม


    เพราะสมัยอดีตการพระพุทธองค์ยังทรงพระชนม์อยู่ ก็มีพระอรหันต์และพระเถระเจ้าหลายองค์ที่กระทำการเข้ากรรมหรือการเข้านิโรธกรรมนี้โดยเฉพาะพระสารีบุตร และพระโมคคัลลานะ ตลอดถึงพระมหากัสสปะ ก็เป็นแบบที่ดีของการเข้ากรรมหรือการนิโรธสมาบัติ ที่ไม่ใช่มีกิเลสก็ทำหรือใครนึกอยากจะทำก็ทำ ถ้าไม่มีธรรมเก่าหรือถ้าไม่มีบุญเก่าในอดีตชาติสั่งสมไว้ บุคคลผู้นั้นไม่สามารถที่จะเข้ากรรมขั้นอุกฤษฏ์ได้เลยแม้แต่นิดเดียว เพราะฉะนั้นอยู่ที่บุญบารมีเก่าด้วยและตลอดถึงพลังศรัทธาว่าจะทำจริงหรือไม่ ด้วยสัจจะบารมี หลายท่านอาจจะสงสัยและไม่คลายความสงสัย บางท่านก็พูดออกมาเลยว่าไม่จริงหรอกไม่เชื่อว่าทำได้จริง อวดเก่งอวดดี จริงๆ แล้วอาตมาภาพไม่เคยที่จะอวดเก่งอวดดี ว่าเกล้ากระผมหรืออาตมาภาพปฏิบัติเก่งกว่าใคร เพียงแต่เราต้องทำเราต้องปฏิบัติเองด้วยเป็นหน้าที่ของเราชาวพุทธ เราเป็นพระสาวกของพระอนุตระสัมมาสัมโพธิญาณ เพื่อเป็นแบบอย่างดีของการประพฤตพรหมจรรย์ ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ตามรอยพระอรหันต์และพระเถระเจ้าทั้งหลายในอดีต นี่คือการดับทุกข์ประเภทหนึ่ง การที่ดับทุกข์ประเภทนี้นั้นอยู่ที่คุณธรรมของเราด้วยว่า สัจจะบารมีเรามีมากน้อยเพียงไร
     
  14. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    องค์พระครูบาเจ้าแก้วฟ้าพูดถึงข้อปฏิบัติที่ต้องทำในการเข้านิโรธกรรมขั้นอุกฤษฏ์

    [​IMG]

    องค์พระครูบาเจ้าแก้วฟ้าพูดถึงข้อปฏิบัติที่ต้องทำในการเข้านิโรธกรรมขั้นอุกฤษฏ์


    เมื่อเช้านี้ลูกศิษย์ก็นำป้ายมาถวาย ถามว่าป้ายนั้นเป็นป้ายอย่างไร ก็เป็นป้ายอธิบายให้ญาติโยมเข้าใจว่าการบำเพ็ญแบบนี้ไม่ใช่ง่าย ไม่ใช่ว่ายากเกินไปหรือง่ายเกินไป อยากทำก็ทำ ไม่แน่จริง ไม่ใช่การหลอกลวงใคร การปฏิบัติการเข้ากรรมขั้นอุกฤษฏ์นั้น ต้องบริบูรณ์ด้วยเหตุผล 9 ประการ ต้องอยู่ในหลัก 9 คือ


    ข้อที่ 1 ตั้งสัจจะว่า ใน 7 วันนี้จักบ่อฉันอาหารสักอัน ด้วยการเคี้ยว การกลืนหรือวิธีการต่างๆ ที่ทำให้อิ่ม


    ข้อที่ 2 ใน 7 วันนี้จักบ่อฉันน้ำสักอัน ด้วยวิธีการมดก็ตามที่ทำให้อิ่ม


    ข้อ 3 จักบ่อถ่ายอุจจาระ จักบ่อถ่ายหนัก ด้วยวิธีการใดทั้งปวง


    ข้อ 4 จักบ่อเบา ด้วยวิธีการใดทั้งปวง


    ข้อ 5 จักบ่อลุกจากอาสนะที่นั่ง โดยกำหนดขอบเขตที่นั่ง


    ข้อ 6 จักบ่อหลับทั้งกลางวันและกลางคืน ด้วยสัจจะบารมีนี้


    ข้อ 7 จักบ่อพูดจาหรือสื่อสารกับบุคคลใด ด้วยวิธีการทั้งปวง


    ข้อ 8 จักอยู่สันโดษอยู่ลำพังบนแพกลางน้ำ ปฏิบัติกรรมฐานแบบสมัยพุทธกาลและ


    ข้อ 9 ปฏิบัติกรรมฐานอยู่ในสมาธิภาวนาอยู่เสมอ มิออกจากสมาธิภาวนาแม้แต่นิดเดียว
     
  15. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    การปฏิบัติเข้านิโรธกรรมขั้นอุกฤษฏ์ คือการสร้างบารมี 30 ทัศ

    [​IMG]

    การปฏิบัติเข้านิโรธกรรมขั้นอุกฤษฏ์ คือการสร้างบารมี 30 ทัศ


    นี่คือการกำหนดขึ้นมา 9 เข้าเพื่อรักษาสัจจะบารมีและขันติบารมี ตลอดถึงบารมี 30 ทัศ ที่บริบูรณ์พร้อม อาตมายกมาแค่ 2 ข้อ ก็เชื่อมั่นว่าการปฏิบัติธรรมในวันต่อๆ ไปที่วัดโนนสง่าศรัทธาธรรม ก็ด้วยความเมตตาของพระอาจารย์ปรีชา จารุวรรณโณ ท่านก็จะแสดงธรรมเรื่องบารมี 10 ทัศ บารมี 30 ทัศ ให้ทราบว่าอาตมาภาพครูบาเจ้าแก้วฟ้าได้อยู่กรรมนี้ เกี่ยวข้องกับบารมี 10 ทัศอย่างไร ซึ่งครั้งหนึ่งนั้นท่านแสดงธรรมด้วยความปิติทราบซึ้งใจต่ออาตมาภาพตอนที่อาตมาภาพปฏิบัติกรรมฐานที่จังหวัดพังงา ท่านแสดงธรรมในหัวข้อนี้ได้ดีมาก อย่างนั้นถ้าญาติโยมผู้ใดสนใจอยากฟังว่ามันเกี่ยวเนื่องอย่างไรกับบารมี 10 ทัศ บารมี 30 ทัศ ให้ไปฟังว่า การปฏิบัติอยู่กรรมของอาตมาภาพนั้นเป็นอย่างไร เพราะฉะนั้นแล้วเป็นหน้าที่ ที่ต้องทำ
     
  16. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    ข้อปฏิบัติที่องค์พระครูบาเจ้าฯ ต้องปฏิบัติเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการเข้านิโรธกรร

    [​IMG]

    ข้อปฏิบัติที่องค์พระครูบาเจ้าฯ ต้องปฏิบัติเพื่อเตรียมพร้อมก่อนการเข้านิโรธกรรม

    ก่อนจะเข้ากรรมฐานขั้นอุกฤษฏ์นี้ ต้องทำอย่างไร ญาติโยมอาจจะถามและสงสัย ก็ต้อง 3 วันก่อนที่จะเข้า ต้องฉันท์ภัตตาหารให้น้อยลง ฉันท์จริงๆ ต้อง 1 มื้อเท่านั้น อาหารต้องรสไม่จัด พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานน้ำให้เต็มที่ และงดรับแขก ที่จริงเป็นอย่างนั้น นอกจากนั้นต้องบริหารจิตอยู่เสมอ ปฏิบัติกรรมฐานอยู่เสมอ ไม่ให้สภาพจิตใจไม่ดี ไม่ให้อารมณ์อื่นเข้ามากระทบ รักษาใจที่ดีที่งามไว้ ทรงกรรมฐานอยู่เสมอ รู้เท่าทันมีสติอยู่เสมอ

    นอกจากนั้นก่อนเข้ากรรมเพียง 1 วัน ต้องฉันท์ภัตตาหารให้เบาบางลงและน้อยลง ฉันท์น้ำปกติ งดฉันท์น้ำอัดลมและน้ำปานะชนิดอื่น นอกจากนั้นก่อนจะเข้ากรรมก่อน 1 ชั่วโมงนั้นต้องสรงน้ำให้สะอาด และทำธุรกิจส่วนตัวให้เสร็จทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นถ่ายอุจจาระ ถ่ายปัสสาวะ สรงน้ำ ทำพิจารณาจิต พิจารณากายให้ดี สวดมนต์ ตลอดจนปลงอาบัติให้ศีลบริบูรณ์พร้อม ให้บริบูรณ์พอ แล้วอธิษฐานจิตยกขันธ์ครูบาอาจารย์ อธิษฐานจิตชุมนุมเทวดา แล้วอัญเชิญพระแม่ธรณีมาเป็นสักขีพยาน ระบึกถึงคุณพระรัตนตรัย พร้อมกับครูบาอาจารย์เจ้าทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นครูบาเจ้ามหาป่า พร้อมทั้งครูบาเจ้าศรีวิชัย เทพเทวาต่างๆ พร้อมทั้งฤาษีทั้งหลายมาเป็นสักขีพยานเสริมบารมีให้การที่จะตั้งสัจจะอธิษฐานในการเข้ากรรม ในครั้งนี้ให้ทราบโดยทั่วกัน โดยตั้งสัจจะบารมีตามที่บอกไว้คือ ใน 7 วันนั้น โดยการตั้งกรรมฐาน 9 ข้ออย่างที่บอก และก่อนที่จะเข้าแพในวินาทีนั้น ขออภัยก็ต้องถ่ายปัสสาวะ 1 ครั้ง และมาฉันท์น้ำผึ้งบริสุทธ์ 1 ช้อนโต๊ะและน้ำเปล่า 1 ช้อนโต๊ะ เพื่อรักษากายธาตุขันธ์ ให้บริบูรณ์ไม่มีบกพร่อง ไม่ให้อ่อนกำลังแล้วอธิษฐานจิตเข้าไปภายในวินาทีนั้น


    ในวันนี้เวลาประมาณ 2ทุ่ม 38 นาที จะเป็นการอธิษฐานจิตเข้าแพ ให้ญาติธรรมญาติโยมจำไว้ เป็นเวลาที่อธิษฐานจิตเข้านั่งแพและปิดแพ พระสงฆ์ก็สวดเจริญพระพุทธมนต์ พร้อมทั้งปิดกระต๊อบด้วยสายสิญจณ์จำนวน 9 เส้น หรือ 9 คู่ เพื่อผูกเพื่อกันการครหานินทา หรือไม่ให้ครูบาออกมาอย่างนี้ เพราะการปฏิบัติดรปฏิบัติชอบย่อมมีมารเป็นปกติ ตางเหนือบอกว่าพระเจ้าอยู่ตี้ไหน มารเกิดตี้นั่น เป็นปกติ
     
  17. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    องค์พระครูบาเจ้าฯ พูดถึงเรื่องมาร

    [​IMG]

    องค์พระครูบาเจ้าฯ พูดถึงเรื่องมาร

    การเข้ากรรมครั้งนี้มารก็มาเยอะ เทพเทวาก็มาเยอะ ผู้มีบุญก็มาเยอะ พวกใจบาปก็มาเยอะ ภูตผีปีศาจก็มาเยอะ เพราะฉะนั้นแล้วอยู่ที่กุศลผลบุญบุญ อยู่ที่ใจ มารต้องมาเยอะแน่นอน มีการลังเลสงสัย เราปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแทบตาย บอกว่าเราไม่ดี แอบกิน แอบเยี่ยว แอบฉี่แอบถ่าย แอบสารพัด ก็เลยไม่อยากอธิบายแล้วแต่จิตแต่ใจ ครูบาอธิษฐานจิตแล้ว ก็แล้วเสร็จไม่อธิบายอีก ใครจะลังเลสงสัยก็เชิญลังเลสงสัยต่อไป ไม่ใช่หน้าที่ของครูบาต้องอธิบาย ใครจะศรัทธาก็ศรัทธา ก็เลยให้ลูกศิษย์ทำป้ายไว้


    อาตมาภาพครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้าปฏิบัติธรรมกรรมฐานมาปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาเพื่อความหลุดพ้น เพื่อได้ปัญญา ไม่ได้ปฏิบัติธรรมเพื่อความเลื่อมใสศรัทธาของบุคคลใด หากบุคคลใดจะเลื่อมใสศรัทธาก็อนุโมทนา หากบุคคลใดไม่เลื่อมใสศรัทธาก็ไม่เป็นไร พระสงฆ์มี 2 แสนกว่ารูปในเมืองไทยเลือกที่จะนับถือและศรัทธาได้เลยตามสบาย ไม่เกี่ยวข้องกับอาตมาภาพ อาตมาก็เป็นอย่างนี้ ปฏิบัติอย่างนี้ ไม่ขอสนใจใคร ใครจะว่าดีก็ดี ใครจะว่าไม่ดีก็แล้วแต่ เวรกรรมมีจริง คนเราทั้งหลายมีกรรมเป็นกำเนิด มีกรรมเป็นเผ่าพันธ์ มีกรรมเป็นที่พึ่งพาอาศัย บุคคลใดได้ทำกรรมใดไว้ด้วยกาย วาจา ใจ บุคคลนั้นย่อมได้รับผลกรรมนั้น ไม่เว้นแม้แต่บุคคลเดียว


    นี่คือคำสัจจะวาจาของอาตมาภาพครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า เทพเทวาท่านเป็นสักขีพยานท่านรู้ดี ว่าอาตมาปฏิบัติอย่างไร แม้ว่าถ้าอาตมาปฏิบัติไม่ดีอย่างไร เทพเทวาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายที่มาเป็นสักขีพยาน อาตมาก็จะพินาศฉิบหายต่างๆ นา ๆ แต่อาตมาภาพปฏิบัติดีปฏิบัติชอบและถ้าบุคคลใดยังคิดไม่ดี ก็ไม่ใช่หน้าที่ของอาตมาแต่เป็นหน้าที่ของกรรม และเทพเทวาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายก็ย่อมรู้ ก็เป็นหน้าที่ของเทพเทวดานั้น เค้าสาปแช่งก็เป็นหน้าที่ของเค้าของท่าน อาตมาภาพก็ไม่สามารถไปขอได้ว่าไม่ต้องไปสาปแช่งเขา เป็นหน้าที่ของเทพเทวดาที่คุมครองตัวของอาตมาภาพครูบาเจ้าหน่อแก้วฟ้า การเข้ากรรมครั้งนี้ 9 ข้อ คือสัจจะบารมีที่แท้จริง ใครจะว่าอย่างไรไม่สนใจ
     
  18. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    องค์พระครูบ้าเจ้าฯ ปฏิบัติเพื่อสร้างบารมี ตามรอยพระพุทธองค์

    [​IMG]

    องค์พระครูบ้าเจ้าฯ ปฏิบัติเพื่อสร้างบารมี ตามรอยพระพุทธองค์

    ทุกวันนี้ถือสัจจะวาจาถือข้อคิดอยู่ข้อหนึ่งว่า จงระวังหูตัวเองดีกวาเที่ยวปิดปากบุคคลอื่น ไม่เคยขอไม่เคยร้องขอให้บุคคลใดมานับถือ ใครจะนับถือก็นับถือ ไม่ใช่ขอเถอะนะมานับถือฉันนะ ไม่เคย ไม่เคยเปรียบเทียบกับบุคคลใดว่าอาตมาเก่งกว่าคนอื่น อาตมาพยายามทำอย่างนี้ให้ดีที่สุด เดินตามรอยพระพุทธองค์ และพระอรหันต์สาวกทั้งหลาย ทำคุณธรรม สร้างบารมีให้เต็มเปี่ยม ไม่เบียดเบียนบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ไม่เบียดเบียนตัวเอง ไม่เบียดเบียนผู้อื่น สร้างคุณงามความดี ไม่ผิดวินัยผิดธรรม นั่นแหล่ะคุณธรรมที่ต้องสั่งสมต่อไป นั่นแหล่ะคือสิ่งที่อาตมาภาพต้องปฏิบัติตามที่ลมหายใจและชีวิตนี้ยังอยู่ ขอแจ้งให้ญาติธรรมญาติโยมให้เข้าใจดังนี้ เป็นนานาสาระธรรมสั้นๆ ว่า ทำไมต้องปฏิบัติการเข้ากรรมฐานนี้ ด้วยสัจจะบารมีในอดีตที่ผ่านมา ขอปฏิบัติ 9 ครั้งในชีวิต ซึ่งครั้งนี้ก็เป็นครั้งที่ 6 ส่วนครั้งที่ 7 นั้น ยังไม่แน่ใจ ถามผู้รู้ว่าวันมาฆบูชาตรงกับวันไหนแน่ ก็จะปฎิบัติ 7 วัน 7 คืน ที่วัดสุลาลัย แม้ว่ากายธาตุขันธ์จะเป็นอย่างไร ก็ขอบูชาเป็นคุณธรรมคุณงามความ
     
  19. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    องค์พระครูบาเจ้า ฯ ท่านพูดถึงเรื่องการลังเลสงสัย

    [​IMG]

    องค์พระครูบาเจ้า ฯ ท่านพูดถึงเรื่องการลังเลสงสัย


    หลายท่านอาจจะถามว่าเข้าไปอยู่ได้อย่างไร ไม่จริง ไม่เชื่อ ก็ไม่ต้องเชื่อและไม่ต้องไป ไม่ต้องกังวล ทำบุญแล้วเสียดายปัจจัยก็เอาคืนไปทุกบาททุกสตางค์ อาตมาเป็นคนตรง เป็นคนตรงจริงๆ ถ้าลังเลสงสัยไม่ต้องไปให้เห็น และไม่ต้องไปร่วมด้วยความเกรงใจ ทำได้เท่าที่ทำ ก็จะขออนุโมทนา เทพเทวาก็อนุโมทนา ถ้าติดใจสงสัยไม่ต้องไป พระสงฆ์มีมากมายชอบที่ไหนก็ไปเถอะ และไม่ผูกมัดกันเพราะครูบาเป็นภิกขระแห่งจิต ฉายาแห่งจิตของอาตมาคือ อิสระจิตโตจิโต เมฆีตะขิตะโร อิสระแห่งจิต ไม่ยึดมั่นไม่ถือมั่น คนไหนคิดดีก็อนุโมทนา จะจนจะรวยไม่เกี่ยว คนไหนศรัทธามีบุญบารมีจริงดูดวงตาก็รู้แล้ว ผู้ใดที่หมดความลังเลสงสัย บุคคลผู้นั้นคือลูกศิษย์ของอาตามทั้งในอดีตชาติและชาตินี้ บุคคลที่ยังลังเลสงสัยอยู่อยู่ ย่อมอยู่ในการพิจารณาว่าบุคคลผู้นั้นสมควรที่จะโปรดหรือไม่ เปรียบได้ดังบัว 4 เหล่า


    การลังเลสงสัยญาติโยมขออธิบายนิดหนึ่ง บางคนบอก 7 วัน ไม่กินได้อย่างไร ไม่ถ่ายได้อย่างไร ไม่จริงหรอเพราะคนเราทั่วไปขาดน้ำอยู่ไม่ได้ ครูบามีธรรมอยู่ข้อหนึ่งมาเปรียบเทียบให้ฟังว่า มันจะแรงไปนิดหนึ่งขออนุญาตขอพูด เป็นสัจจะจริงๆ ที่ต้องพูด อย่าเอาความเลวทรามความชั่วของตนเอง มาตัดสินว่าบุคคลอื่น ชั่วช้าเลวทรามต่ำช้าเหมือนตัวเองที่คิดอยู่ เพราะฉะนั้นบารมีคนเรามันต่างกัน คนเราไม่ได้ชั่วอย่างที่คิดไม่ได้ดีอย่างที่คิด ตัวเองเลวแล้วไม่ต้องเอาตัวเองไปเปรียบว่าบุคคลอื่นเลวตาม ตัวเองชั่วช้าต่ำทรามไม่ต้องเอาความคิดที่ชั่วช้าต่ำทรามไปตัดสินว่าผู้อื่นเลวทรามต่ำช้าเหมือนตัวเอง คนเรากิเลสต่างกัน บารมีต่างกัน การที่เข้าไปอยู่ 7 วันได้อย่างไร ก็อยู่ที่ความเพียรสัจจะบารมีและขันติบารมีด้วย
     
  20. MayBuddhaBlessYou

    MayBuddhaBlessYou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    2,419
    ค่าพลัง:
    +9,538
    การกำหนดลมหายใจดีๆ นั่นคืออาหาร คือกรรมฐาน

    [​IMG]

    การกำหนดลมหายใจดีๆ นั่นคืออาหาร คือกรรมฐาน


    ก่อนเข้าก็บอกแล้วงัยว่าไม่ฉันท์อะไร ถ่ายทั้งหมดออก เป็นการรักษากายธาตุขันธ์ บริหารรักษาจิตอยู่สม่ำเสมอ บุคคลที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบผู้เป็นนักปฏิบัติธรรมจะไม่ลังเลสงสัยเลยแม้แต่นิดเดียว เพราะรู้อยู่ว่าการบำเพ็ญจิตนั้นเป็นอย่างไร ถ้าจิตใจเราดี กำหนดลมหายใจดีๆ นั่นแหล่ะอาหาร การพิจารณาอาหารแบ่งอาหารเป็นกี่ประเภท ผัสสะหานัง ข้อนี้คือการกรรมฐานของครูบา ผัสสะคือการกำหนดลมหายใจเข้าออก นี่คือกรรมฐาน ไม่ต้องเป็นอาหารเนื้อ อาหารข้าว หรืออาหารน้ำ ไม่จำเป็นต้องขับถ่ายหนักหรือเบา เพราะว่าผัสสะหาร เป็นลมหายใจเข้าไปก็เป็นลมหายใจออกมา นักปฏิบัติธรรมกรรมฐานชั้นสูงรู้ดี แต่ผู้ที่ไม่ปฏิบัติธรรมแม้แต่นิดเดียว ย่อมไม่รู้เพราะขาดปัญญา และนี่พยายามทำปัญญาตัวเองให้พัฒนา


    การเข้าไปภายในได้อย่างไร ก็เราพิจารณากายจิตมันไม่ใช่ของเรา พิจารณากรรมฐานเอา เรื่องของการใช้วิปัสสนาเข้าไป เป็นเรื่องการรู้ทุกขณะจิตว่าอะไรเป็นอะไร ใช้จิตแยกนามตามกาละ โดยทั่วไปเขาเรียกว่าแยกกายทิพย์ ก็ไม่ใช่สม่ำเสมอ แต่ก็แยกไปบ้าง ถ้าเอากายทิพย์ออกไปบ่อยๆ เท่ากับไม่แน่จริง ไม่สู้กับกายธาตุขันธ์ตอนมันเกิด มันปวดนั่นปวดนี่ ต้องรู้มัน นั่งอยู่ก็รู้ว่ามันปวด ปวดหนอ นี่คือการนั่งปฏิบัติกรรมฐานของอาตมา ถ้าคนที่บำเพ็ญจิตดีๆ จะรู้ว่ามันอิ่มอยู่เสมอ
     

แชร์หน้านี้

Loading...