สังขารุเปกขาญาณและการเข้าพระนิพพาน

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 8 เมษายน 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [​IMG]



    เพราะมันยังมีอารมณ์หลงอารมณ์ที่ยังตัดให้ดูที่ใกล้จริงๆก็ต้องหาวิปัสสนาญาณสังขารุเปกขาญาณเมื่อเข้าถึงสังขารุเปกขาญาณจิตมันเริ่มสบายเพราะอะไรมันจะมาทางไหนเขาจะด่าเขาจะว่าเขาจะนินทามันรู้สึกว่าสบายไอ้ตัวธรรมมันรู้สึกแต่ว่าบางทีก็ธรรมดาบ้างลงท้ายมากๆมันก็ด่าบ้างใช่ไหมเพราะวา่จุดนี้ยังไม่ใชพ่ระอริยเจ้าการเข้าสังขารุเปกขาญาณนี่ยังไม่ถือว่าเป็นพระอริยเจ้าต้องเอาจิตเข้าไปจับสัจจานุโลมิกญาณพิจารณาวิปัสสนาอีก 8 ข้อถอยไปถอยมาถอยมาถอยไปเป็นปกติเมื่อจิตละเอียดเข้าสู่โคตรภูญาณ




    พออารมณ์จิตเข้าสู่โคตรภูญาณตอนนี้มีความเข้าใจในพระนิพพานจริงๆแต่บังเอิญเราได้ทิพจักขุญาณสองในวิชชาสามหรือห้าในอภิญญาหกสองในวิชชาสามหรือว่าห้าในอภิญญาหกก็ได้เมื่อจิตเข้าสู่โคตรภูญาณนี่เขาจะเห็นพระนิพพานนี่ทุกวันเห็นชัดเห็นได้จริงๆความสงสัยในพระนิพพานไม่มีเหลือจะรู้ด้วยตนเองพระนิพพานตอนนี้ยังไม่เป็นพระโสดาบันจนกระทั่งมีอารมณ์เข้มข้นจริงๆจิตทรงตัว จิตทรงตัวที่จะเป็นพระโสดาบันนี่ถ้าในด้านสองในวิชชาสามหรือห้าในอภิญญาหกที่จริงรู้สภาพของอทิสสมานกายไอ้กายที่อยู่ภายในของเราแล้วเรื่องจริงมันเป็นดวงมันเป็นดวงจิตจะมีความผ่องใสมากกว่าเมื่อขณะที่จับอยู่ในสังขารุเปกขาญาณอารมณ์จะแจ่มใสดวงจิตจะใสเป็นแก้วแจ่มใสมากกว่าฌานโลกีย์มีประกายเห็นปกติคือความผ่องใสของจิตนี่ถ้าจิตเราเข้าถึงพระโสดาบันกระแสเป็นประกายนี่มันเข้าไป 1 ใน 4 ของดวงจิตไอ้ประกายนี่มันลงตัวมันเข้าแล้วลงตัวมันไม่ถอยทำอย่างไรมันก็ไม่ถอยขึ้นชื่อว่าความชั่วเนื่องด้วยศีล 5 ประการการละเมิดจะผืนใจทำอย่างไรก็ทำไม่ได้มันทำไม่ลงอันนี้จริงๆเข้าถึงพระโสดาบันพอเข้าถึงพระโสดาบันสังขารุเปกขาญาณมันก็มีความเข้มความอดทนมันมีมาก



    สังขารุเปกขาญาณก็ถือว่าเฉยในขันธ์ 5 ขันธ์5 จะเป็นอย่างไรก็เป็นไปนี่ก็ต้องไล่เบี้ยพอถึงอรหันต์นี่เขาก็สบายแล้วนอนตีพุงใช่ไหมอรหันต์จะมีอะไรเป็นทุกข์ไม่มีอรหันต์นี่ทุกข์จากขันธ์ 5 ก็ไม่มีทุกข์จากอารมณ์ที่เข้ามาสัมผัสก็ไม่มีมันไม่มีทั้งหมดมันไม่มีอะไรเป็นทุกข์เลย ก็เมื่อภาวะที่จะเป็นทุกข์มันวางลงหมดแล้วเลิกทุกข์กันมีข้าวกินก็ไม่มีทุกข์ไม่มีข้าวกินก็ไม่ทุกข์หนาวก็ไม่ทุกข์ร้อนก็ไม่ทุกข์ป่วยไข้ไม่สบายก็ไม่ทุกข์ มันจะเกิดหรือมันจะตายไปตามเรื่องอย่าไปโทษแม้แต่ความตายของพระอรหันต์เข้าเขาบอกนี่แกอีก 3 วันตายแกยิ้มเผล่แล้วรู้สึกว่าโล่งอกใช่ไหมเพราะว่าขณะใดที่ยังทรงขันธ์ 5 อยู่กรรมที่เป็นอกุศลที่เราทำไว้ในชาติก่อนๆมันจะให้ผลได้คือมันดึงเราลงนรกไม่ได้แต่ทำให้เราป่วยได้ถ้าเราเคยทำปาณาติบาตมาถ้าหากว่าเราเคยลักขโมยเขาของ เรามีมันยังหายได้ เราเคยทำกาเมสุมิจฉาจารมาเศษของกรรมนี่มันยังให้ผลทำให้คนที่อยู่ไต้บังคับบัญชาดื้อด้านได้ ถ้าเราเคยโกหกมดเท็จเขามาวาจาที่กล่าวไปอาจจะไร้ผลได้
    เราเคยดื่มสุราเมรัยมาร่างกายเป็นโรคประสาทไม่ป่วยเป็นโรคจิตนะซิใช่ไหมโรคจิตเป็นไม่ได้มันเล่นได้แต่ร่างกายอย่างเดียว
    ใจมันเล่นไม่ได้



    ฉะนั้นหากว่าพระอรหันต์ถ้ารู้ว่าจะตายแกเป็นสุขแล้วสุขใจยืนยิ้มแกบอกสบายใช่ไหมมีอารมณ์ทุกอย่างเข้าถึงพระนิพพานจริงๆจะต้องทรงสังขารุเปกขาญาณเป็นอารมณ์เจ็บเขารู้ว่าเจ็บ พระอรหันต์นี่เขาไม่เกาะแต่จิตรู้เพราะร่างกายเจ็บก็รู้ว่าเจ็บ แล้วเจ็บเขาก็ทน เขาทนเพราะถือว่ามันเป็นธรรมดาของขันธ์ 5 ถ้าเจ็บขึ้นมาลุกขึ้นมารักษาหายก็หายไม่หายก็ตามใจถือซะว่าเวลาไม่ช้าไม่นานเท่าไหร่ขันธ์ 5 มันก็ดับถ้าดับเมื่อไรเราก็มีความสุขนี่เราทนทุกข์นิดหนึ่งคือไช้เศษของกรรม

    แต่คนถึงพระโสดาบันเขาจับสังขารุเปกขาญาณได้ทุกคนใช่ไหมก็ไปนั่งไล่เบี้ยสังขารุเปกขาญาณขันธ์ 5 มันจะเป็นอย่างไรก็ช่างมันเรื่องธรรมดาของมัน เรื่องธรรมดาของฉันอย่างนี้ใช่ไหมในสังขารุเปกขาญาณก็วางเฉยขันธ์ 5 ถือว่าธรรมดาของขันธ์ 5 มันมีสภาวะเช่นไรก็ปล่อยมันเป็นไปตามนั้นไม่ได้สนใจกะมัน ถือว่าขันธ์ 5 ไม่ใช่เราขันธ์ 5 เป็นเพียงร่างของกิเลสตัณหาอุปาทานสามสิ่งกิเลสตัณหาอุปาทานและอกุศลกรรมมันเป็นศัตรูของเรา บ้านของมันจะพังก็เชิญพังซิมันจับเรามาขังไว้ในเรือนจำคือร่างกาย ร่างกายมันจะพัง
    มันไม่ใช่เรา เราจึงมีความสุข



    ฉะนั้นพระอรหันต์ทั้งหมดจึงไม่กังวลกับขันธ์ 5 ขันธ์ 5 เป็นอย่างไรเราก็ช่างซะอย่าง พระพุทธเจ้าถูกเทวทัตกลึ้งหินถูกพระบาทห้อพระโลหิตท่านหมดชีวกโกมารภัจทำยามาใส่ให้พระพุทธเจ้าก็ยอมรักษาก็ยอมเพราะว่าในการที่เขารักษาให้น่ะมันเป็นบุญเป็นกุศลเป็นความดีของบุคคลที่รักษาตอนนี้เวลาเอายาแปะแผลแก่พระพุทธเจ้าแล้วแกก็ออกไปนอกเมืองออกนอกเมืองคุยกะเพื่อนเพลินไปพอตอนค่ำประตูเมืองปิด เวลาปิดประตูเมืองเขามีใช่ไหม แกเข้าไมได้แกนั่งนึกในใจบอกโอ้นี่ตายจริงเราเอายาไปปิดพระบาทพระพุทธเจ้าเวลานี้เวลามันก็เลยแล้วยามันจะเป็นโทษเวลาชั่วโมงผ่านมาถ้าต่อไปอีกเวลานี้มันเป็นเวลาที่ควรจะปลดยาออก ถ้ามิฉะนั้นแล้วความร้อนมันจะเกิดขึ้น
    แล้วยาตัวนี้มันจะเป็นพิษ แกทำอย่างไรเข้าเมืองก็เข้าไม่ได้ พระพุทธเจ้าเรียกพระอานนท์มาพระอานนท์อยู่ด้วยพระอานนท์ก็มาทูลถามทำไมพระพุทธเจ้าข้า นี่แกะยาออกทีเอายาออกเสียด้วย โกมารภัจลืมปลดเข้าใจว่ายามันจะเป็นพิษแก่ฉันเอาออกทีเถอะมันรู้สึกปวด
    นี่ทำให้ประสาทปวดอย่างนี้พระพุทธเจ้าท่านก็สัพพัญญู


    ถ้าให้โกมารภัจจะมารักษาร่างกายของพระพุทธเจ้าไม่ต้องวิตกทั้งหมดท่านไม่วิตกเราจะเห็นได้ว่าตอนที่พระพุทธเจ้าในวันมาฆบูชานี่นะที่พระองค์ทรงปลงสังขารที่ปาวาฬเจดีย์ว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอีก 3 เดือนเราจะนิพพานที่ระหว่างนางรังคู่ในเมืองกุสินาราก็ปลงอายุสังขาร ก็ปรากฏว่าร่างกายเริ่มมีโรคโรคเข้ามารบกวนซูบผอมผิวคล้ำท่านโกมารภัจตอนนั้นท่านยังอยู่ท่านเห็นว่าองค์สมเด็จพระบรมครูเป็นอย่างนั้นก็เข้าไปทูลถามว่าเป็นโรคอะไรพระเจ้าข้าแต่ว่าถ้าท่านรับยาของโกมารภัจฉันท่านจะเข้านิพพานไม่ได้เพราะคนนี้เก่งใช่ไหมเพราะท่านตัดสินใจไปนิพพานอีก 3 เดือนถามเท่าไรพระพุทธเจ้าก็ไม่ตอบในที่สุดท่านโกมารภัจทำยาขึ้นเม็ดหนึ่งถ้าพระพุทธเจ้าฉันยาเม็ดนี้จะรู้ได้ทันทีว่าพระพุทธเจ้าเป็นโรคอะไรแล้วเราจะทำยาเพียงเม็ดเดียวถวายพระพุทธเจ้าฉันท่านเก่งมากพอเอายานั้นไปถวายท่านท่านก็คว่ำมือท่านไม่หงายรับก็ไม่ตายซิใช่ไหมท่านก็ผลที่สุดท่านคว่ำมือท่านโกมารภัจก็เสียใจจะให้ใครกินก็ไม่สมควรเพราะเป็นยาถวายพระพุทธเจ้าทิ้งไว้จึงโยนไว้ในบ่อน้ำไอ้บ่อน้ำประเทศอินเดียวเขาขุดสึกมากน้ำมันฟูขึ้นมาปากบ่อเห็นเป็นของอัศจรรย์



    ต่อมาปรากฏว่าพระฏีกาจารย์เห็นโกมารภัจเอายาใส่ในน้ำพุ่งออกมาเลยบ่อชั่วลำตาลฮึเป็นธารน้ำมันยาวนี่พอไปเจอะท่านโกมารภัจเข้าไปถามท่านบอกธรรมดาท่านน้ำก็น้ำมันยาวได้ก็คล้ายๆมันฟุขึ้นมาเกือบจะพึงปากบ่อเห็นเป็นมหัศจรรย์แสดงว่าน้ำมีฤทธิ์มากหลังจากนั้นมาพระพุทธเจ้าก็ทรงป่วยตลอดเวลาแต่ทั้งๆที่พระองค์ป่วยพระองค์ไม่ยอมอยู่สุขวิหารเลยคำว่าอยู่สุขวิหาร ก็หมายความว่าพ้นจากการสอน
    นี่ไม่อย่างนั้นตามปกติท่านจะสอนเป็นเดือนสองเดือนท่านจะอยู่สุขวิหาร 15 วัน 15 วันนี้ไม่ให้ใครพบเลยพระอานนท์จะนั่งเฝ้าปากถ้ำอยู่กุฏิจริงๆไม่พบใครๆทั้งหมดแม้แต่พระราชาองค์ไหนจะมาก็พบไม่ได้เวลาระหว่างนั้น 3 เดือนท่านไม่ยอมหยุดใครจะมากลางวันใครจะมากลางคืนเทศน์สอนตะพึด แต่ตอนนั้นเลิกตรัสพระสูตรหมดพระสูตรท่านไม่สอนสอนเฉพาะศีล สมาธิ ปัญญาอย่างเดียวก็เป็นบั้นปลายชีวิตของพระองค์



    นี่เป็นอันว่าทรงทรมานร่างกายก็ซูบผอมขึ้นโกมารภัจก็หมดท่าจนกระทั่งถึงวันสุดท้ายวันรุ่งขึ้นถึงวันโกนถึงวันขึ้น 15 ค่ำก็จึงบอกกับพระอานนท์ว่าอานนท์บอกพระทั้งหมดว่าฉันคิดจะไปกุสิมารามหานครพระอานนท์ถามไปทำไมบอกฉันจะไปนิพพานที่นั่นพระอานนท์ก็ค้านบอกว่ากุสินารามหานครเป็นเมืองเล็กพระเจ้าค่ะควรจะนิพพานเมืองใหญ่อย่างราชคฤห์ ห์รือว่าเวสาลีพระพุทธเจ้าบอกว่าอานนท์
    กุสินารามหานครเดิมที่เป็นเมืองของพระเจ้าจักรพรรดินะสามารถปกครองเป็นเมืองที่เคยปกครองโลกมีมหาสมุทรทั้ง 4 เป็นขอบเขตเป็นอาณาจักรใหญ่ควรที่เราจะนิพพานที่นั่นพระอานนท์ไม่กล้าค้านเพราะว่าท่านทำอย่างไรท่านต้องไปแน่จึงได้เตรียมพระประกาศให้พระทั้งหลายทราบ



    พระพุทธเจ้าก็เสด็จพระพุทธดำเนินไม่ได้ขึ้นรถใช่ไหมเดินไปได้ 60 โยชน์บอกพระอานนท์พระอานนท์ปูสังฆาฏิตถาคตเหนื่อยมากเหลือเกินนี่ความจริงพระพุทธเจ้าคำว่าเหนื่อยนี่ไม่มีเพราะทรงมีพระทศพลญาณแต่วันนั้นเหนื่อยพระอานนท์ปูผ้าสังฆาฏิให้ท่านนั่งน้ำตาไหลสงสารพระพุทธเจ้าตั้งแต่อยู่ด้วยกันมาคำว่าเหนื่อยไม่ตรัสท่านไม่รู้จักคำว่าเหนื่อยเมื่อพักพอสมควรก็ทรงเสด็จพระพุทธดำเนินไปถึงบ้านนายจุนท์พอถึงบ้านนายจุนท์ วันนั้นนายจุนท์ก็เลี้ยงพระเป็นกรณีพิเศษฆ่าหมูอย่างเดียวไอ้หมูนี่มันเซ็งจริงๆไหว้เจ้าก็หมูแต่งงานก็หมูโกนจุกก็หมูบวชนาคก็หมูโอ้หมูทั้งนั้นแหละเออีตอนทำกับข้าวด้วยหมูนั่นเทวดาเอาน้ำทิพย์มาโปรยน้ำทิพย์นี่ถ้าธาตุไม่แข็งฉันไมได้ฉันได้แต่เฉพาะพระพุทธเจ้า พระพุทธเจ้าทรงทราบพอเขาเอาอาหารมาถวายก็บอกนายจุนท์อาหารที่ใช้เนื้อสุกรอ่อนถวายตถาคตแต่ผู้เดียวอย่าให้พระอื่นฉันให้พระอื่นฉันอย่างอื่นท่านรู้พระอื่นฉันแล้วตายหมดแต่ว่าธาตุของพระองค์ย่อยได้พระองค์ทรงฉัน ส่วนที่เหลือทั้งหมดสั่งให้ฝังทิ้งห้ามคนอื่นกินทั้งหมด พอเอาไปฝังแล้ววันนั้นเองก็ปรากฏว่าเป็นโรคขันธิกาพาธขันธิกาพาธก็คือถ่ายออกมาเป็นโลหิตสดๆใช่ไหมต่อมาเมื่อได้เวลาวันรุ่งขึ้นก็พาพระทั้งหมดไปที่ระหว่างนางรังทั้งคู่ไกลจากเมืองกุสินาราไปนิดหนึ่งประมาณไม่ถึงโยชน์ไปนอนในที่นั้นมีพระองค์หนึ่งที่มาถวายงานพัดแต่ไม่ใช่พระอานนท์ทีนี้เทวดาทั้งพรหมทั้งหมดก็มาประชุมพร้อมกันเราจะมองหน้าก็ไม่ถนัดแต่ความจริง
    เทวดามีตาทิพย์ก็ไม่น่าจะบ่นนะใช่ไหมไม่ใช้ตาทิพย์ให้เป็นประโยชน์พระพุทธเจ้าบอกว่านี้คุณขยับให้ปัดไปสักนิดหนึ่งนั่งถวายงานพัดมันบังหน้าฉันเวลาพูดท่านถามว่าขยับทำไมพรหมเขาบ่นว่าคุณน่ะบังหน้าฉันเขามองไม่ถนัดใช่ไหมแล้วท่านก็นอนพระถวายงานพัด



    ต่อมาก็มีปริพาชกคนสุดท้ายก็จะเข้ไปเฝ้าถามปัญหาพระพุทธเจ้าแกตั้งใจจะมานี่ถามปัญหาปัญหามี 3 ข้อที่มีเป็นภาระพอเข้าไปถึงพระอานนท์ก็ห้ามบอกนี่พระพุทธเจ้าทรงป่วยนะอย่าเข้าไปยุ่งกับท่านเลยพระพุทธเจ้าทรงได้ยินเข้าบอกอานนท์ปล่อยเข้ามาเถอะที่ตถาคตจะมานิพพานที่นี่เพราะต้องการจะโปรดลูกคนสุดท้องนั่นเอาเข้าแล้วแหมอ้างซะนานเลยแหมเมืองนี้เป็นเมืองของพระเจ้าจักรพกจักรพรรดิ์เป็นคนดีมาก่อนใช่ไหมแต่ว่าพราหมณ์คนนี้ปรากฏว่าเป็นคนที่มีบุคคลคนเดียวที่จะทรมานได้คือพระพุทธเจ้าเพราะคนนี้มีหลายแบบฟังเทศน์จากคนอื่นเป็นอรหันต์ได้ก็มีบางคนจะต้องฟังเฉพาะพระพุทธเจ้าเท่านั้นจึงจะเป็นพระอรหันต์ได้คือพราหมณ์คนนี้แกเป็นคนติดพุทธานุสสติกรรมฐานมาหลายอสงไขยกัปเมื่อติดพุทธานุสสติกรรมฐานมานี้คนอื่นเทศน์ฟังไม่รู้ต้องพระพุทธเจ้าเทศน์เอานิสัยของพระพุทธเจ้าประหารถึงเวลาท่านมาถามท่านก็ถามปัญหาปัญหาที่เป็นปุจฉาน่ะท่านบอกว่าพราหมณ์เวลามันมีน้อยนะ ฉันก็ใกล้จะตายลงแล้วอย่าถามปัญหาให้แก้เลยเอาส่วนที่เป็นประโยชน์ดีกว่าพราหมณ์ถามว่าอะไรบอกเอจงพิจารณาขันธ์ 5 ว่ามันไม่ใช่เราไม่ใช่ของเรานะเราไม่มีในขันธ์ 5 ขันธ์ 5 ไม่มีในเราจงวางภาระขันธ์ 5 เสียจึงจะมีความสุขพราหมณ์แกก็ไปนั่งภาวนาอยู่ชิดที่พระพุทธเจ้านั่งหรือนอนหรือวิ่งก็ไม่รู้ในนี้ไม่ได้บอกเป็นอันว่าใช้เวลาชั่วฉับพลันที่พระพุทธเจ้ายังไม่ทันจะนิพพานพราหมณ์คนนั้นสำเร็จอรหันต์ทันทีใช่ไหม



    หลังจากนั้นมาองค์สมเด็จพระทศพลก็เข้าสู่ฌานสมาบัติอันแรกก็เข้าปฐมฌานฌานที่ 1 ที่2 ที่ 3 ที่ 4 เนที่ 5 แล้วเช้าอรูปฌานที่ 6 ที่ 7 ที่ 8 ถอยจากที่ 8 ที่ 7 ที่ 6 ที่ 5 ที่ 3 ที่ 2 ที่ 1 ก็ว่าเรื่อยถอยไปถอยมาถอยมาถอยไปตามอารมณ์ไอ้จิตที่เข้าฌานนั้นมันไม่รู้เรื่องของขันธ์ 5 อันดับแรกต้องใช้จะต้องใช้ขันติเป็นกรณีพิเศษใช่ไหมควบคุมกำลังใจไอ้ขันธิกาพาธที่ถ่ายเป็นโลหิตสดๆนี่ลำไส้กระเพาะเป็นแผลหมดแล้วใช่ไหมเลือดมันออกมากดูว่าทุกขเวทนามันขนาดไหนองค์สมเด็จพระจอมไตรไม่เคยเครียดเมื่อใครต้องการธรรมพร้อมให้ตลอดเวลานั่งไม่ไหวก็นอนเทศน์ให้จิตเป็นสุข ต่อมาเมื่อเวลาเมื่อหมดกิจคือพราหมณ์องค์นี้เป็นอรหันต์แล้วองค์สมเด็จพระประทีปแก้วก็เข้าฌานตอนเข้าฌานที่จิตมันแยกจากขันธ์ 5 แล้วไอ้จิตนะมันแยกคือแยกประสาททั้งหมดเข้าฌานปั๊บฌานที่ 1 แยกมาหน่อยพอที่ 2 แยกไกลมานิดพอที่ 3 แยกไกลนิดพอที่ 4 จิตมันหลุดจากขันธ์ 5 คือจิตหลุดจากประสาท ประสาทจะมีอะไรที่ไม่รู้เลยคล้ายๆจิตนี่ไม่รู้เรื่องของประสาทเพราคนธรรมดาเรานี่ไม่เคยใช้อย่างสบายเวลาเข้าถึงฌาน 4 นี่หูจะไม่ได้ยินเสียงจิตจะมีความรู้สึกควรไอ้ยุงจะกินริ้นจะกัดไม่มีความรู้สึกมันหมดมันก็ตัดแยกหมดพอเข้าถึงฌานที่ 4 ยิ่งเข้าถึงอรูปฌานนี่ฌานใหญ่เลย 5 6 7 8 หรืออะไรนี่


    ตอนนั้นก็มีพระอยู่องค์หนึ่งคือพระอนุรุทธที่พระพุทธเจ้าทรงยกย่องว่าเป็นเลิศในด้านทิพจักขุญาณเข้าฌานตามพระพุทธเจ้ามีแค่องค์เดียวสมัยนั้นมีพระอรหันต์ที่ล้อมอยู่ที่นั่นสองแสนองค์เศษใช่ไหมแล้วเป็นพระอรหันต์ปฏิสัมภิทาญาณมากจริงๆปกิสัมภิทาญาณนี่ถือว่ารู้อะไรได้ดีกว่าอรหันต์อรหันต์มี 4 เหล่าคือสุกขวิปัสสโกเตวิชโชฉฬภิญโญปฏิสัมภิทัปปัตโตปฏิสัมภิทาญาณนี่มีความว่องไวในพลังของจิตมากแต่ไม่สามารถจะเข้าฌานตามพระพุทธเจ้าได้ต้องให้คนอื่นช่วยก็มีพระอนุรุทธองค์เดียวที่เป็นพระวิชชาสามแต่ว่าหนักในทิพจักขุญาณเข้าฌานได้พอนานพระอานนท์ก็ย่องสะกิดบอกนี่สมเด็จพระบรมครูเข้าฌานไปถึงไหนพอเข้าฌานมันก็เงียบไม่รู้สึกทุกขเวทนามันหมดไม่รู้สึกถ้าเข้าถึงฌาน 8 หรือฌาน 4 พระอนุรุทธก็บอกยังตอนนี้อยู่ฌาน 1 ตอนนี้อยู่ฌาน 4 ฌาน 3 ฌาน 4 ฌาน 8 ถอยมาฌาน 7 ฌาน 6 ฌาน 5 ฌาน 7ฌาน 3 ฌาน 2 ฌาน 1 เข้าไปถึงฌานปั๊บจิตถึงขยับที่ฌานขยับไปขยับไปขยับไปสลับมาสลับมาสลับไปเหมือนกะเดินเล่นถอยหน้าถอยหลังถอยหลังถอยหน้าไม่มีอะไรวิตกเพราะไม่รู้เรื่องของขันธ์ 5


    พอถึงได้เวลาจะนิพพานจริงๆจิตจะนิพพานจริงไม่ยกออกในอรูปฌานออกในรูปฌานพอถึงฌาน 4 เข้าจริงๆพระอนุรุทธรู้สึกพระอนุรุทธบอกพระอานนท์เวลานี้สมเด็จพระบรมครูมาพักอยู่ที่ฌาน 4 ในรูปฌานตอนพระอานนท์ถามว่าจะให้ทำอย่างไรต่อไปบอกเฉยๆเวลานี้รู้สึกรัศมีกายเปล่งใสมากพระวรกายนี่ใสความจริงตอนที่จะนิพพานท่านป่วยหนัก 3 เดือนร่างกายซูบซีดผอมแล้วดำพระอานนท์รู้เข้าไปถามท่านบอกว่าตถาคตวันจะนิพพานก่อนที่จะนิพพานระหว่างนางรังทั้งคู่จะนิพพานวันนั้นพระวรกายผ่องใสเป็นพิเศษพระเจ้าข้าพระองค์ได้ตรัสว่าอานันทะดูกรอานนท์กายของเราขันธ์ใดของเราจะสวยมีอยู่ 2 อย่างที่เปรียบเสมือนกันนั่งคือวันที่บรรลุอภิเษกสัมมาสัมโพธิญาณกับวันนิพพานเห็นไหมให้ระวังเป็นพระอรหันต์เผลอไปนะใช่ไหมนพพานผ่องใสไม่ช้าล่ะเสร็จถ้าตั้งท่าบอกไอ้ใจสบายนั่นรู้กูตายแน่อย่างน้อยพ้นจากบ้านนี้แล้วใช่ไหมคุณไอ้บ้านนี้เจ้าหนี้มากบ้านโน้นไม่มีเจ้าหนี้ไม่ทุกข์ใช่ไหมจิตดวงเดียวเจ้าหนี้นิพพานแล้วฮึมันจะทวงอย่างไรทวงอีวันนี้กูมีเท่าไหร่เอาไปแล้วล้มละลายก็เอาไปเถอะกูจะนิพพานอารมณ์มันจะเยือกเป็นนิจจิตใจก็ผ่องใสอีตอนนั้นตอนจิตที่มีอารมณ์ผ่องใสพระอนุรุทธบอกเวลานี้สมเด็จพระบรมครุมีกระแสจิตพระวรกายที่เย็นเยือกอทิสสมานกายแจ่มใสสว่างไสวเป็นพิเศษ



    พระอานนท์ก็ถามจะไปหรือยังแล้วท่านก็บอกยังยังไม่อยากถามอีกสักครู่หนึ่งท่านก็บอกอานนท์จะไปแล้วนะใช่ไหมเอากันที่จิตพอเคลื่อนออกพอจิตออกจากร่างไปสู่พระนิพพาน

    พระอนุรุทธจึงมีฏีกาบอกอานนท์ตายแล้วท่านตายแล้วบรรดาพระอรหันต์ทั้งหลายก็แสดงธรรมสังเวชให้พระพุทธเจ้าสำหรับพระที่เป็นปุถุชนก็โฮเลยสบายไม่เห็นผีมือใช่ไหมแงๆๆไปตามกันแล้วก็เป็นอันว่าเราก็เขาใจกันว่าอารมณ์ของบุคคลใดถ้าเข้าถึงสังขารุเปกขาญาณตั้งแต่ต้นจนปลายอารมณ์ของบุคคลนั้นจะไม่ห่วงขันธ์ 5 เป็นอันว่าเวลานี้สี่ทุ่มกว่าก็ขอลา




     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 23 เมษายน 2010
  2. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    สาธุ ขออนุโมทนาเป็นอย่างสูงครับ

    เว็บทางนิพพาน
    เว็บไซด์ เผยแพร่ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น<O:p</O:p
    ที่รวบรวมโดย พล.ต.ท.นพ.สมศักดิ์ สืบสงวน<O:p</O:p
    ขอเชิญทุกท่านเข้าไปอ่านได้ที่
    www.tangnipparn.com<O:p</O:p

    <O:p>ขอเชิญแวะเยี่ยมชมและโมทนาบุญเว็บศูนย์พุทธศรัทธา


    [​IMG]</O:p>
     
  3. oomsin2515

    oomsin2515 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    2,934
    ค่าพลัง:
    +3,393
    ขออนุโมทนาสาธุธรรม เป็นอย่างสูง ครับ






    ------------------------------------------------------------------------------------------------
    ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคท่อส่งน้ำถวาย วัดเขาชี หมู่ ๑๕ ต.บ้านกลาง อ.วังทอง จ.พิษณุโลก<O:p</O:p
    http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมเป็นเจ้าภาพบริจาคท่อส่งน้ำถวาย-วัดเขาชี-จ-พิษณุโลก.233681/
    <O:p</O:p
    <O:p</O:p
    http://www.watkhaochee.com/
     
  4. arrin123

    arrin123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อนุโมทนาเจ้าค่ะ

    _________________________

    สุขใดเหมือนแม้นการเกิดไม่มี

    จะไม่ละความเพียรถ้ายังไม่ถึงซึ่งนิพพาน
     
  5. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    อนุโมทนา สาธุ ๆ
    กับพระธรรมและท่านที่ได้นำมาเผยแพร่ด้วยครับ
     
  6. fullmoonsun

    fullmoonsun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +2,321
    Anumothana Sathu
     
  7. kylethai

    kylethai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +168
    รู้สึกว่ากายนี้มันช่างอึดอัดจังเลย อยู่กับวันไม่มีวันใดที่มันจะทำให้เราเป็นสุขเลย อนุโมทนาสาธุครับ
     
  8. sonthya

    sonthya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 เมษายน 2008
    โพสต์:
    1,489
    ค่าพลัง:
    +8,797
    [​IMG]
     
  9. deelek

    deelek เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    6,696
    ค่าพลัง:
    +16,254
    อนุโมทนา สาธุ ๆ
    พระนิพพาน เป็นที่บรมสุขอย่างยอดยิ่ง
    เป็นที่ประเสริฐอย่างสูงสุด
    และเป็นสุดยอดแห่งพระธรรมคำสั่งสอน
    ไปได้ด้วยจิต เพราะเป็นธรรมารมย์(คือ เป็นอารมย์)
    พระองค์สอนให้เรามีจิต มีเป้าหมาย เข้าสู่ "พระนิพพาน" กัน
    ว่าสิ่งเหล่านี้มีอยู่จริง คือ รูป จิต เจตสิก นิพพาน ท่านรับรองว่ามีอยู่จริง
    โดยฝึก ทาน ศิล สมาธิ วิปัสสนา กรรมฐาน ให้มาก ๆ และอย่างฉลาดรู้ทันธรรมชาติ คือ ตาเห็นรูป หูได้ยินเสียง จมูกได้กลิ่น ลิ้นลิ้มรส กายได้รับสัมผัส จิตใจได้รับความรุ้สึกนึกคิด มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับไป ๆ ตลอดเวลาอย่างรวดเร็ว จะรู้แจ้งเห็นจริง เกิดความเบื่อหน่าย ปล่อยวาง รูป-นาม ขันธ์ 5 ในสังขาร
    ว่ามันเป็นพระไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา
    คือ ทุกสรรพสิ่งไม่เที่ยงแท้แน่นอน(แปรปรวนเปลี่ยนแปลงเคลื่อนไหวไม่คงที่อยู่ตลอดเวลา)
    ทุกสรรพสิ่งเป็นทุกข์ (มีภัยอันตราย มีกามตัณหา อิจฉา ริษยา กลั่นแกล้ง รังแก โลภ โกรธ หลง ฯลฯ)
    ทุกสรรพสิ่งไม่มีตัวตนแท้จริง (ไม่มีใครเป็นเจ้าของอะไรได้จริง ๆ มันเกิดขึ้นแล้วก็ดับไปแทบทุกสิ่งอยู่ตลอดเวลา)
    พระนิพพาน เป็นของเที่ยง เป็นสุข และไม่มีใครเป็นเจ้าของ (ลองไปศึกษาเพิ่มเติมกันเอาอีก ตามครูอาจารย์ ตามตำรา และที่สำคัญคือ ปัญญาในการวินิจฉัยพิจารณาอย่างฉลาด อย่าให้เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา เลย)
    สาธุ ๆ
    นิพพานัง ปัจจโย โหตุ
    นิพพานัง ปรมัง สุญญัง
    นิพพานัง ปรมัง สุขขัง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 เมษายน 2010
  10. Sriaraya5

    Sriaraya5 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    3,079
    ค่าพลัง:
    +12,852
    พระองค์ดับเวทนาขันธ์ในภาวะจิตตื่น หรือวิถีจิตปกติของมนุษย์ ครบพร้อมทั้งสติและ สัมปชัญญะ ไม่ถูกภาวะอื่นใดที่มาครอบงําอําพราง ให้หลงใหลใดๆ ทั้งสิ้น เป็นภาวะแห่งตนเองอย่างบริบูรณ์ [SIZE=+0]
    เมื่อ [SIZE=+0]เวทนาขันธ์ [/SIZE][SIZE=+0]สุดท้ายแท้ๆ จริงๆ ได้ถูก[/SIZE]
    [SIZE=+0]ทําลายลงอย่างสนิท จึงเป็นผู้บริสุทธิ์ หมดสิ้นแล้ว ซึ่งสังขารธรรม และ หมดเชื้อหมดใยแล้ว ก็ไม่มีอะไรต้องเกิดอีกแล้วพระนิพพาน
    [/SIZE]
    [/SIZE]
     
  11. yommatood

    yommatood เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    624
    ค่าพลัง:
    +1,298
    อนุโมทนาสาธุ
    สุขใดจะเท่าเราหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดเป็นไม่มี
     
  12. ผู้เบิกบาน

    ผู้เบิกบาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    111
    ค่าพลัง:
    +463
    ขออนุโมทนาสาธุกับเนื้อหาพระพุทธประวัติการปฏิบัติธรรมในการเสด็จปรินิพพานขององค์สมเด่็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคะ. สาธุสาธุสาธุคะ
     
  13. EakChutidet

    EakChutidet เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    199
    ค่าพลัง:
    +856
    ข้าพเจ้าขอฝากรูปชีวิตนักสู้ตัวน้อยหัวใจสุดแกร่งไว้เพื่อเป็นกำลังใจแด่ทุกท่านด้วย ขอทุกท่านสู้ต่อไปอย่าได้อายเจ้าตัวนี้...ก็แล้วกัน
    บทสรุปสุดท้ายเราเป็นมนุษย์ก็อย่าได้ท้อกับการปฎิบัตเพื่อมรรคผลนิพพานก็แล้วกัน

    ขออนุโมทนา ขอความเจริญในธรรมจงบังเกิดแก่ทุกท่านทุกรูปทุกนาม หากการกระทำใดๆ ของข้าพเจ้าล่วงเกินท่านทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นวจีกรรม,มโนกรรม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมมา ณ ที่นี้

    ข้าพเจ้าขออุทิศส่วนบุญส่วนกุศลนี้ไปให้ทุกรูปทุกนามทั้ง 20 ชั้นพรหมโลก 6 ชั้น
    เทวะโลก มนุษย์โลก มารโลก ยมโลก อบายภูมิทั้ง 4 มี นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉาน
    และในหมื่นโลกธาตุกับอีกแสนจักรวาลพิภพ ทั้งที่เป็นมนุษย์ อมนุษย์ รูปวิญญาณ อรูปวิญญาณ
    และสรรพสัตว์ทั้งหลาย ทั้งที่เป็นมิตรและศัตรู ตลอดจนเจ้ากรรมนายเวรของข้าพเจ้า
    .........ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงเป็นสุขเป็นสุขเถิด อย่าได้มีเวรซึ่งกันและกันเลย
    อย่าได้เบียดเบียนซึ่งกันและกันเลย ขอให้ทุกรูปทุกนาม จงโมทนาในส่วนกุศลนี้
    พึงได้รับประโยชน์ความสุขเช่นเดียวกัน ข้าพเจ้าจะพึงได้รับ ณ กาลบัดนี้ด้วยเทอญ .........

    พร้อมกันนี้ ขออนุโมทนา บุญกุศลกับทุกท่านด้วยครับ
    _/l\_ สาธุ สาธุ สาธุ _/l\_
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 255489.jpg
      255489.jpg
      ขนาดไฟล์:
      68.3 KB
      เปิดดู:
      56
    • 255490.jpg
      255490.jpg
      ขนาดไฟล์:
      59.2 KB
      เปิดดู:
      58
    • 255491.jpg
      255491.jpg
      ขนาดไฟล์:
      79.5 KB
      เปิดดู:
      57
    • 255492.jpg
      255492.jpg
      ขนาดไฟล์:
      67.7 KB
      เปิดดู:
      56
    • 255493.jpg
      255493.jpg
      ขนาดไฟล์:
      41.5 KB
      เปิดดู:
      54
    • 255494.jpg
      255494.jpg
      ขนาดไฟล์:
      50.2 KB
      เปิดดู:
      52
    • 255495.jpg
      255495.jpg
      ขนาดไฟล์:
      72.1 KB
      เปิดดู:
      46
    • 255496.jpg
      255496.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.8 KB
      เปิดดู:
      51
    • 255497.jpg
      255497.jpg
      ขนาดไฟล์:
      60.7 KB
      เปิดดู:
      49
    • 255498.jpg
      255498.jpg
      ขนาดไฟล์:
      78.4 KB
      เปิดดู:
      55
    • 255499.jpg
      255499.jpg
      ขนาดไฟล์:
      62.9 KB
      เปิดดู:
      65
  14. Guide_Raito

    Guide_Raito เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    892
    ค่าพลัง:
    +2,990
    ตัดร่างกายได้ สุขใจเหลือเกิน
    _____________________________________________________________________________________________________________________________
    มีบุญมาฝากคับทางกลุ่มพระพุทธศาสนา ม. สงขลานครินทร์ ภูเก็ต ได้ จัดทำโครงการแจกสือ่ ธรรมะของสายหลวงพ่อฤาษีลิงดำคับ เพราะ ที่นี่มีเด็กหลายคนสนใจมาฝึกมโนมยิทธิและหันมาทำความดีกัน เนื่องด้วย สื่อ ธรรมะ ของหลวงพ่อ ครับทางชมรมเลยจัดโครงการแจกสือ่ธรรมะเป็นสาธารณะประโยชน์ แก่ โรงเรียน ห้องสมุดต่างๆเพื่อ ชักจูง คนให้เป็นสัมมาทิฐิและเป็นกำลังพระศาสนา สืบต่อไปครับ
    ขอให้ชาวเวปพลังจิตทุกท่าน เจริญขึ้นทั้งทางโลก และทางธรรม เข้าถึงธรรมขององค์สมเด็จฯ ได้โดยง่ายครับ
    [​IMG] [​IMG]
    เข้าชมรายละเอียดได้ที่http://palungjit.org/threads/ขอเชิญร่วมบุญ-โครงการธรรมทานกับนักศึกษามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์-ภูเก็ต-218421.html<O:p></O:p>


    ขอเชิญร่วมสร้าง ถนน สายบุญ พระพุทธบาทสี่รอย ซึ่งเป็นที่น่าสักการะ และศักดิ์สิทธิ์อย่างยิ่งด้วยพุทธานุภาพของพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ในกัปเจริญนี้

    http://palungjit.org/.105/เชิญร่วมทำบุญสร้างถนนสายบุญ.235467/
     
  15. มาพบพระ

    มาพบพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    643
    ค่าพลัง:
    +1,973
    มีข้อคิดดีๆให้ศึกษาครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...