นรกและสวรรค์อยู่ที่ไหนครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย pokemonni03, 8 พฤษภาคม 2010.

  1. pokemonni03

    pokemonni03 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +161
    ผมขอถาม นรกนั้นอยู่ใต้ดินที่ลึกมากและสวรรค์อยู่บนฟ้า ณ ที่แห่งหนึ่ง ตามความเชื่อของใครหลายๆคนรึปล่าวครับผม
     
  2. สมใจ แสงทอง

    สมใจ แสงทอง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    90
    ค่าพลัง:
    +213
    ตอบให้สำหรับผมแล้ว คิดว่า นรกหรือสวรรค์ก็คือกิเลส อยากได้ดีก็ทำดี อยากได้ชั่วก็ทำชั่ว แล้วแต่เราจะทำ อยากไปไหนก็แล้วแต่ท่าน แต่ขอให้นึกคิดดี ๆ ๆ แต่ถ้าท่านเลือกท่านต้องพบกับคำว่าเวียนไหว้ตายเกิด
     
  3. BEST2822

    BEST2822 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +64
    ฝึกปฏิบัตร มโนยิทธิ อาจจะพิสูจเรื่องนี้ด้วยตัวท่านเองได้ครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 พฤษภาคม 2010
  4. Nothing Eternal

    Nothing Eternal เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    117
    ค่าพลัง:
    +654
    ใต้ดินที่ลึกมากๆ ของ โลกวัตถุ ไม่มีนรก ฉันใด

    บนท้องฟ้าที่สูงมากๆ ของ โลกวัตถุ ก็ไม่มีสวรรค์ ฉันนั้น

    โลกทางวัตถุ มีมิติ เพียง 3 มิติ (กว้าง ยาว ลึก) เท่านั้น

    แต่ในทางจักรวาลวิทยา มีมิติ อยู่ถึง 10 มิติ (หาอ่านเพิ่มได้ ในทฤษฎีควันตัม)


    ดังนั้น จึงไม่สามารถนำ "ตรรกะทางโลก" ไปอธิบายการมีอยู่ของบางสิ่งในจักรวาลได้
    เพราะเป็น "ตรรกะชั้นหยาบ" ตามหลักการง่ายๆ ว่า 3 น้อยกว่า 10


    ทั้งนรก และ สวรรค์ เป็นภพภูมิต่างหากที่ซ้อนกันอยู่เป็นชั้นๆ ซึ่งพระพุทธศาสนา
    ได้แจกแจงไว้ละเอียดถึง ๓๑ ภูมิ แต่ละภูมิเชื่อมถึงกันด้วย ตรรกะทางจิตวิญญาณ
    ทุกคนสามารถพิสูจน์การมีอยู่ของสิ่งเหล่านี้ได้ ด้วยการอบรมจิตให้มีคุณภาพ


    มโนมยิทธิ ก็เป็นทางหนึ่งที่จะทำให้ท่านสิ้นสงสัย ตามที่ท่านข้างบนได้กล่าวไว้แล้วครับ
     
  5. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,681
    ค่าพลัง:
    +51,931
    *** สวรรค์ไม่ได้เป็นอย่างที่คิด ****

    นรก สวรรค์ อยู่บนโลก
    เราก็เห็นอยู่ทุกข์วัน แต่ไม่ได้พิจารณาเรื่องนิสัย การกระทำ ผลการกระทำกันเอง
    เช่น
    สวรรค์สีชมพู ช่วงเกิดเป็นหมูเสพสุขทั้งชีวิต
    เปรต ก็คือต้นตาล
    เป็นต้น

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  6. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    นรก สวรรค์ มี 3 ประเภท

    1 สัมผัสได้ด้วยทางกาย เป็นรูปธรรมชัดเจน

    มีที่อยู่หลับนอนใหญ่โต เหมือนอยู่ สวรรค์
    มีที่อยู่ในคุกในตาราง เหมือน อยู่ใน นรก

    มีร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ เหมือน เทวบุตร เทวดา
    มีร่างกายพิการ เป็นโรคร้าย เหมือน เป็นสัตว์นรก

    มีอาหารการกินดี เหมือนกินของจากสวรรค์
    ต้องเก็บอาหารในถังขยะ เหมือน อยู่ใน นรก

    เป็นต้น

    2 สวรรค์ ใน อก นรก ในใจ

    อันนี้อยู่ที่การแบกรับสภาวะ เฉพาะตน เช่น

    สิ้นปี บริษัท ประกาศ โบนัส 10เดือน ใจพองโต

    สิ้นปี บริษัท ปิดตัว หนี จ่ายเงินเดือน

    3 นรก สวรรค์ ที่เป็น นรกภูมิ กับ แดนสวรรค์ตั้งแต่ชั้น1-6

    อันนี้มีจิต ต้องปฏิบัติ ให้ถึงแก่นจะได้ ไปท่องเที่ยวก่อน เจอของจริง

    เป็นแดน ละเอียด กว่า จิต ปกติ จะสัมผัส ถ้าอยากรู้


    อย่างมั่วแต่ถาม กรุณา ลงมือปฏิบัติ
     
  7. O๐.AnGle.๐O

    O๐.AnGle.๐O เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    974
    ค่าพลัง:
    +861
    สมัยก่อนคิดกันว่าอยู่บนฟ้ากับใต้ดิน

    จนวันนึงเทคโนโลยีล้ำสมัย มียานอวกาศ เครื่องบิน บินขึ้นไปไม่มีสวรรค์

    จนวันนึง มีเครื่องขุดเจาะน้ำมัน มีเครื่องเจาะลงไปใต้ดิน ลงไปก็ไม่มีนรก

    จนกลายเป็นทุกวันนี้ บอกว่า นรก สวรรค์ อยู่อีกโลก นึง

    555+ ฮาสุดยิด
     
  8. ดอนdon

    ดอนdon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,580
    ค่าพลัง:
    +3,291
    เรื่องพระอุปวาณเถระ
    [๑๓๐] สมัยนั้น ท่านพระอุปวาณะยืนถวายงานพัดพระผู้มีพระภาค เฉพาะพระพักตร์
    ครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคทรงขับท่านพระอุปวาณะว่า ดูกรภิกษุ เธอจงหลีกไป อย่ายืนตรงหน้าเรา ท่านพระอานนท์ได้มีความดำริว่า ท่านอุปวาณะ รูปนี้เป็นอุปัฏฐากอยู่ใกล้ชิดพระผู้มีพระภาคมาช้านาน ก็และเมื่อเป็นเช่นนั้น ใน กาลครั้งสุดท้าย พระผู้มีพระภาคทรงขับท่านอุปวาณะว่า ดูกรภิกษุ เธอจงหลีกไป อย่ายืนตรงหน้าเรา ดังนี้ อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรหนอเป็นปัจจัย ให้พระผู้มี พระภาคทรงขับท่านอุปวาณะว่า ดูกรภิกษุ เธอจงหลีกไป อย่ายืนตรงหน้าเรา ลำดับนั้น ท่านพระอานนท์ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ท่านอุปวาณะรูปนี้ เป็นอุปัฏฐากอยู่ใกล้ชิดพระผู้มีพระภาคมาช้านาน ก็แลเมื่อ เป็นเช่นนั้น ในกาลครั้งสุดท้าย พระผู้มีพระภาคยังทรงขับท่านอุปวาณะว่า ดูกร ภิกษุ เธอจงหลีกไป อย่ายืนตรงหน้าเรา ดังนี้ อะไรหนอเป็นเหตุ อะไรหนอ เป็นปัจจัย ให้พระผู้มีพระภาคทรงขับท่านอุปวาณะว่า ดูกรภิกษุ เธอจงหลีกไป อย่ายืนตรงหน้าเรา ฯ พระผู้มีพระภาคตรัสตอบว่า ดูกรอานนท์ เทวดาในหมื่นโลกธาตุมา ประชุมกันโดยมาก เพื่อจะเห็นตถาคต เมืองกุสินารา สาลวัน อันเป็นที่แวะพัก แห่งพวกเจ้ามัลละเพียงเท่าใด โดยรอบถึง ๑๒ โยชน์ ตลอดที่เพียงเท่านี้ จะหา ประเทศแม้มาตรว่าเป็นที่จรดลงแห่งปลายขนทราย อันเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ไม่ถูก ต้องแล้วมิได้มี พวกเทวดายกโทษอยู่ว่า พวกเรามาแต่ที่ไกลเพื่อจะเห็นพระตถาคต พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จอุบัติในโลก ในบางครั้งบางคราว ใน ปัจฉิมยามแห่งราตรีในวันนี้แหละ พระตถาคตจักปรินิพพาน ก็ภิกษุผู้มีศักดิ์ใหญ่ รูปนี้ ยืนบังอยู่เบื้องพระพักตร์พระผู้มีพระภาค พวกเราไม่ได้เห็นพระตถาคตใน กาลเป็นครั้งสุดท้าย ฯ
    อ. ข้าแต่องค์ผู้เจริญ ก็พวกเทวดาเป็นอย่างไร กระทำไว้ในใจ เป็น ไฉน ฯ
    มีอยู่ อานนท์ เทวดาบางพวกสำคัญอากาศว่าเป็นแผ่นดิน สยายผม ประคองแขน ทั้งสองคร่ำครวญอยู่ ล้มลงกลิ้งเกลือกไปมา ดุจมีเท้าอันขาดแล้ว รำพันว่า พระผู้มีพระภาคจะเสด็จปรินิพพานเสียเร็วนัก พระสุคตจะเสด็จปรินิพานเสียเร็วนัก พระองค์ผู้มีพระจักษุใน โลก จักอันตรธานเสียเร็วนัก ดังนี้ เทวดาบางพวกสำคัญแผ่นดินว่าเป็นแผ่นดิน สยายผมประคองแขนทั้งสองคร่ำครวญอยู่ ล้มลงกลิ้งเกลือกไปมา ดุจมีเท้าอันขาด แล้ว รำพันว่า พระผู้มีพระภาคจักเสด็จปรินิพพานเสียเร็วนัก พระสุคตจักเสด็จ ปรินิพพานเสียเร็วนัก พระองค์ผู้มีพระจักษุในโลก จักอันตรธานเสียเร็วนัก ดังนี้ ส่วนเทวดาพวกที่ปราศจากราคะแล้ว มีสติสัมปชัญญะ อดกลั้นโดยธรรมสังเวช ว่า สังขารทั้งหลายไม่เที่ยง เพราะฉะนั้น เหล่าสัตว์จะพึงได้ในสังขารนี้แต่ที่ไหน ฯ
     
  9. sorakran2007

    sorakran2007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2009
    โพสต์:
    281
    ค่าพลัง:
    +945
    คุณคิดไปเองคนเดียวละสิ
     
  10. brotherpray

    brotherpray เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +177
    ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ

    มันคือตัวเรานี่เอง(อารมณ์ของตัวเรา)

    เคยมีคำกล่าวว่า สวรรค์อยู่ในอก นรกอยู่ในใจ
    ไม่ว่าผู้กล่าวจะหมายถึงสิ่งใดก็ตาม
    เป็นคำธรรมดาๆ แต่ก็ถูกต้องที่สุด

    ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า ทุกอย่าง สรรพสิ่งทั้งสากลนี้มีเพียง "จิตวิญญาณ"
    จิตวิญญาณ มีสติสัมปชัญญะ (สติสัมปชัญญะ หมายถึงการรับรู้)
    โลก สรรพสิ่ง ภูมิภพ ทั้งหลายไม่ได้มีอยู่จริง สถิตอยู่ ณ ที่ใด ที่หนึ่ง
    รวมทั้งโลกที่เราอาศัย อยู่ หรือจักรวาลที่เราเห็น
    แต่เกิดจากการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะของจิตวิญญาณ และรับรู้ว่ามันคือสิ่งนั้น

    จิตวิญญาณสร้างร่างกายของเธอ รวมทั้งสภาพแวดล้อมทั้งหมดที่เธอเห็น

    เมื่อเธอมีร่างกายเนื้อหนังในแบบมนุษย์ เธอรับรู้สิ่งต่างๆด้วยประสาททั้งหก
    รูป รส กลิ่น เสียง สัมผัส ความรู้สึกนึกคิด

    เราทุกคนเคยฝัน
    อาจฝันร้ายและอาจฝันดี บางคนมีความกลุ้มใจ ทุกข์ คืนนั้นเขาอาจจะฝันร้าย

    เมื่อเธอตาย นอนหลับ เป็นต้น ประสาทสัมผัส ทั้งห้าของเธอ จะถูกปิดสวิตช์ลง
    แต่สติสัมปชัญญะของเธอยังมีอยู่ เธอจะเผชิญจิตวิญญาณของตัวเธอเอง
    ที่ชัดเจน ที่ประกอบไปด้วยอารมณ์จิตนาการและความรู้สึกนึกคิด
    อารมณ์ โกรธ เกลียด กลัว อาจจะกลายเป็น.........
    อารมณ์ เมตตา ปราณี อาจจะกลายเป็น...........

    เธออาจจะเห็นเงื่อนงำ ว่าทำไม คนดี มีเมตตา ถึง เกิดเป็นเทวดา
    ทำไมคนทีีมีอารมณ์เกลี้ยวกราด ชิงชัง ถึงเกิดเป็น เดรัจฉาน

    จิตวิญญาณไม่เคยตกนรกหรือสถิตอยู่ในสวรรค์ ชั่วกัปกัลย์ จิตวิญญาณจะตระหนักได้ในที่สุด

    จิตวิญญาณสร้างทุกสิ่งทุกอย่าง สร้างโลก ตัวเธอ
    นรกสวรรค์ ตามทุกสิ่งที่มันเป็น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2010
  11. pkawatr9

    pkawatr9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    112
    ค่าพลัง:
    +210
    อนุโมทนาครับ... ตอนนี้กำลังจะไปเที่ยวสวรรค์ประเภทที่3อยู่ครับ.. ใครจะไปบ้างกำลังหาทางขึ้นอยู่ครับ..:cool:
     
  12. 3355abc

    3355abc Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    15
    ค่าพลัง:
    +39
    โดยปกติทั่วไปเราเข้าใจกันว่านรกและสวรรค์อยู่ห่างไกลเรามาก แต่ในความเป็นจริงแล้วนรกและสวรรค์อยู่ใกล้เราจนแทบติดตัวและติดตามเราไปตลอดเวลา เราทุกคนเลือกเกิดไม่ได้แต่พวกเราเลือกที่จะเป็นได้ เลือกที่จะทำความดีและมีความสุขกับการกระทำของตนเอง นั่นแหละคือสวรรค์ที่เกิดกับตัวเราเองและคนรอบข้าง หรือเราจะเลือกทำในสิ่งที่สังคมว่าเลวและเราเกิดทุกข์ทั้งกายและใจนั่นแหละคือนรกได้เกิดกับตัวคุณแล้ว จึงสรุปได้ว่าทำดีแล้วถึงไม่มีใครเห็นอย่างน้อยตัวเราเองรู้และมีความสุขแต่ทำความชั่วถึงไม่มีคนอื่นรู้เราก็ทุกข์อยู่ในใจเราเอง
     
  13. vergo shaka

    vergo shaka เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    539
    ค่าพลัง:
    +835
    มิติ ที่4 ......
     
  14. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    เชื่อไว้เถอะครับไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร จะได้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต

    สวรรค์นรก เป็นสิ่งที่ ต้องอาศัยความตายพิสูจน์ และหากเซิสหาดูก็คงทราบว่า มีผู้ไปพบไปเห็นมาแล้วมากมาย แต่ถ้าท่านเป็นคนหัวแข็งไม่เชื่อใครง่าย ตายเมื่อไหร่ท่านย่อมได้เห็นแน่นอน แต่ไม่ใช่เห็นอย่างเดียว ยังได้ไปอาศัยด้วย เพียงแต่ว่าท่านจะไปอาศัยที่ไหนอยู่ ระหว่างนรกกับสวรรค์ อ๋ออาจเป็นบ้านหลังเก่าก็ได้ เพราะคนที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ อ.พร รัตนสุวรรณ เคยบอกไว้ว่าจะเป็นพวกวิญญาณเร่ร่อนจะกว่าจะเชื่อเรื่องนรกสวรรค์

    เชื่อไว้เถอะครับไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร จะได้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต:boo::boo::boo::boo::boo::boo::boo:
     
  15. Peak_14

    Peak_14 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    271
    ค่าพลัง:
    +465
    แต่ก่อนก็เคยคิดแบบ จขกท. นั่นแหล่ะ สำหรับผมตอนนี้ คิดว่าสวรรค์คือดินแดนที่คนอยากจะไปกันเพื่อมีความสุขซึ่งเกิดจากจากความรัก โลภ หลง .....ส่วนนรกคือดินแดนที่ไม่มีคนอยากไปกันมีแต่ความทุกข์ซึ่งเกิดจากความรักโลภ โกรธ หลง ทุกสิ่งล้วนมัวเมา โสมม ไม่ยั่งยืนและวนเวียน ไม่ต่างกับชีวิตคนเรามีทั้งสุขและทุกข์บนเปกันไปขึ้นตามความคิดของเรา....แล้วถ้าเราไม่มีความรักโลภ โกรธ หลง อยู่เลยล่ะแล้วเราจะไปอยู่ดินแดนใดหนอ
     
  16. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    ตอบให้ครับ

    สังโยชน์ 10 ที่ต้องละให้ได้ก่อนเข้าสู่แดนพระนิพพาน ก็ขยายความมาจาก ความรักโลภ โกรธ หลง นี่ล่ะครับ
    ส่วนแดนพระนิพพานตามความเข้าใจของกระผมก็คือ การดับไม่เหลือ ครับ แต่ยังคงอาศัยอยู่ในคำศัพท์ที่ผมคิดเองนะครับ "จิตตะพุทธะสากลจักรวาล"ครับ
    กลับคืนสู่ธรรมชาติอยู่ใน ดิน ใน ต้นไม้ ในสายลม ในสายน้ำ ในอากาศ และไม่รับรู้สิ่งใดๆ จึงเป็นเหตุให้ไม่เกิดทุกข์ครับ:cool:
     
  17. kueya

    kueya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2005
    โพสต์:
    80
    ค่าพลัง:
    +363
    สัมผัสได้ด้วยอาทิสมานกายหรือกายละเอียดเท่านั้น
     
  18. Tiger Dear's

    Tiger Dear's MY HOMEWORK

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2009
    โพสต์:
    842
    ค่าพลัง:
    +301
    สัมผัสได้ด้วยจิตครับไม่ใช่อาทิสมานกาย

    สัมผัสได้ด้วยจิตครับไม่ใช่อาทิสมานกาย ความจริงก็ความหมายเดียวกับแต่ผู้มิได้ศึกษาจะเข้าใจว่าถอดจิตไปเฝ้าพระพุทธเจ้าได้:cool:
    จะมาถกกันต่อก็ดีนะครับจะได้กระจ่างแจ้งแก่เจ้าของกระทู้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 พฤษภาคม 2010

แชร์หน้านี้

Loading...