พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

เรียน ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน

เนื่องในงานบุญของกองทุนหาพระถวายวัด ผมได้นำพระกริ่งปวเรศออกมาให้ทุกๆท่านได้ร่วมทำบุญอีกครั้ง โดย

ผมมีพระกริ่งปวเรศ(รุ่นนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ปี พ.ศ.2434) จำนวน 5 ชุด(ชุดละ 2 องค์) ผมมอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญ 5,000 บาท ผมมอบพระกริ่งปวเรศให้จำนวน 1 ชุด (1ชุดประกอบด้วย พระกริ่งปวเรศ (เนื้อสเตอริง ซิลเวอร์) 1 องค์ และ พระกริ่งปวเรศ (เนื้อนาค) 1 องค์ )


เริ่มต้นการจองและการโอนเงินร่วมทำบุญ วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2553 สิ้นสุด วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2553

ส่วนหมายเลขบัญชี ผมจะแจ้งให้ทราบทาง Email หลังจากที่ท่านได้จองชุดพระกริ่งปวเรศแล้ว

หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ

หมายเหตุ หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>เตือน “มือเท้าปาก” ส่อระบาดหนักปีนี้ 4 เดือนแรกป่วย 6 พัน - เด็กเสี่ยงสุด
Quality of Life - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>23 พฤษภาคม 2553 17:59 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE> สธ.เตือน “โรคมือเท้าปาก” ส่งสัญญาณไม่ได้ส่อระบาดหนัก เผย 4 เดือนแรกปีนี้ พบป่วยแล้ว 6,083 ราย ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ ภาคกลาง-ใต้ ป่วยสูงสุด สั่ง สสจ.เฝ้าระวังด่วน คุมเข้มร.ร.อนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก สวนสนุก ห้างเป็นพิเศษ

นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เปิดเผยว่า ในช่วงการเปิดภาคเรียนและสภาพอากาศกำลังเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ฤดูฝน โรคมือเท้าปาก (Hand foot mouth disease) จะพบมากในช่วงนี้ กลุ่มเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ ได้แก่ เด็กอนุบาล เด็กเล็ก เนื่องจากยังไม่มีภูมิต้านทานโรค ทั้งนี้ จากการเฝ้าระวังสถานการณ์โรครอบ 4 เดือนแรกในปี 2553 ตั้งแต่เดือน ม.ค.-เม.ย.ทั่วประเทศพบผู้ป่วยแล้ว 6,083 คน เกือบร้อยละ 90 เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 4 ขวบ ไม่มีผู้เสียชีวิต โดยในภาคกลางและภาคใต้ พบผู้ป่วยมากที่สุดในกลุ่มอายุ 1 ปี และ 3 ปี ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบมากในเด็กอายุ 2 ปี เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2552 ที่มีผู้ป่วยทั้งปีรวม 6,823 คน เสียชีวิต 3 คน ชี้ให้เห็นว่า สถานการณ์โรคมือเท้าปากในปีนี้มีสัญญาณอาจระบาดได้ อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ทั่วประเทศ เร่งประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ให้ความรู้ความเข้าใจประชาชนในการช่วยกันป้องกันโรค ดูแลลูกหลานไม่ให้ป่วย โดยเฉพาะโรงเรียนอนุบาล สถานรับเลี้ยงเด็ก ศูนย์เด็กเล็กที่ดูแลเด็กจำนวนมาก สวนสนุกตามห้างสรรพสินค้า ต้องขอความร่วมมือให้ระมัดระวังความสะอาดทั้งสถานที่ เครื่องใช้ และของเล่นเด็กเป็นพิเศษ

นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า โรคมือเท้าปาก เกิดจากเชื้อไวรัสที่มีชื่อว่า เอนเทอโรไวรัส (Enterovirus) เป็นไวรัสเจริญในลำไส้ พบได้บ่อยในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี รวมทั้งเด็กทารกแรกเกิดอายุไม่ถึง 1 เดือน เชื้อนี้ติดต่อได้ 3 ทาง ส่วนใหญ่เกิดจากการได้รับเชื้อเข้าสู่ปากโดยตรง ติดจากการสัมผัสของเล่นที่เปื้อนน้ำลาย น้ำมูก น้ำจากตุ่มพองและแผล หรืออุจจาระของผู้ป่วย และจากการไอจามรดกัน โดยเชื้อจะแพร่ง่ายในช่วงสัปดาห์แรกของการป่วย ทั้งนี้หลังติดเชื้อ 3-6 วัน จะมีไข้ต่ำๆ อ่อนเพลีย ต่อมาอีก 1-2 วัน มีอาการเจ็บปาก กลืนน้ำลายไม่ได้ มีตุ่มแดงขึ้นที่ลิ้น เหงือก และกระพุ้งแก้ม ทำให้เด็กไม่ยอมกินอาหาร และพบตุ่ม หรือผื่นนูนสีแดงมักไม่คันขึ้นที่ฝ่ามือ นิ้วมือ ฝ่าเท้า และอาจพบที่ก้น หัวเข่า ด้วย ตุ่มนี้จะกลายเป็นตุ่มพองใสและแตกออกเป็นแผลหลุมตื้นๆ โดยทั่วไปโรคมักไม่รุนแรง และไม่มีอาการแทรกซ้อน แต่ควรพาเด็กเล็กที่ป่วยไปพบแพทย์เพื่อรักษาตามอาการ อาการจะทุเลาและหายเป็นปกติได้ภายใน 7-10 วัน แต่มีเชื้อเอนเทอโรไวรัสบางชนิด เช่น ชนิด 71 อาจทำให้มีอาการรุนแรงได้ จึงควรดูแลเด็กใกล้ชิด หากพบมีไข้สูง ซึม หรือร้องโยเยมาก ไม่กินอาหารหรือไม่ดื่มนมเลย ต้องรีบพาไปโรงพยาบาลทันที เพราะอาจเกิดสมองอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หรือน้ำท่วมปอด ซึ่งจะทำให้เด็กเสียชีวิตได้

“โรคมือเท้าปากยังไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่ป้องกันได้โดยการรักษาสุขอนามัย ความสะอาดสถานที่ เครื่องใช้ต่างๆ ผู้ปกครองควรสอนลูกหลานและผู้ดูแลเด็ก ให้ล้างมือให้สะอาดด้วยน้ำและสบู่ ก่อนรับประทานอาหาร ภายหลังขับถ่ายและหลังเปลี่ยนผ้าอ้อม ตัดเล็บให้สั้นเพื่อไม่ให้เชื้อโรคสะสมในเล็บ หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของร่วมกัน เช่น ขวดนม แก้วน้ำ หลอดดูด ผ้าเช็ดหน้าและผ้าเช็ดมือ ปฏิบัติทั้งเด็กปกติและเด็กป่วยให้ติดเป็นนิสัย” อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

คำเตือน!!! อันตรายจากการใช้ Copy+Paste ระวังไว้ไม่เสียหลาย

การใช้คีย์ลัดบนแป้นคีย์บอร์ดของเราเป็นส่วนหนึ่งที่ ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการทำงานต่างๆของเราได้มาก
แต่ในบางกรณี ความสะดวกสบายเหล่านี้กลับต้องแลกมาด้วยความไม่ปลอดภ ัยเอาซะเลย

เพราะฉะนั้นผมขอแนะนำทุกๆท่านว่า อย่าใช้การ Copy & Paste กับข้อมูลที่มีความสำคัญ
เช่น หมายเลขบัตรเครดิต etc. เพราะการใช้ Ctrl+C หรือ Copy จะมีการเก็บค่าไว้ใน Clipboard ของ Windows
ซึ่งสามารถถูกอ่านผ่าน Web site ได้ด้วย Javascript + ASP

ลอง copy text อะไรก็ได้บนเครื่องแล้วเปิด URL ต่อไปนี้ดู



โค๊ด:
Retrieve Clipboard Text To A Web Page With Javascript - Make Sure You Do Not Allow Someone To Gather This Information, It Is An Exploit In Many Eyes

หากเว็บนี้แสดงข้อความบนคลิปบอร์ดที่เราก๊อปปี้ไว้ แสดงว่าคุณยังไม่ได้ป้องกันครับ


วิธีการป้องกันง่ายๆ คือ

1. เปิด Internet Explorer ขึ้นมา, ไปยังเมนู Tools -> Internet Options -> Security
2. Click ที่ปุ่ม Custom Level
3. เปิดไปที่ Tab ที่ชื่อว่า security แล้วตั้งค่าโดยกดปุ่ม Custom Level..., แล้วหาคำว่า “Allow Paste Operations via Script.” จากนั้นเลือกที่ Disable เพื่อป้องกันการถูกล้วงข้อมูลจากคลิปบอร์ดของท่าน


(เปิดเว็บนั้นๆ ด้วย FireFox และ Opera ไม่พบปัญหาดังกล่าวนะครับ แต่ IE โดนแน่ๆ ป้องกันไว้ดีกว่าต้องมาน้ำตาตกทีหลังนะครับ)




ที่มา : Zone-it

คำเตือน !!! อันตรายจากการใช้ Copy+Paste ระวังไว้ไม่เสียหลาย

 

โมทนาบุญกับพี่หนุ่มด้วยครับ ผมขอจอง 1ชุดถ้าไม่มีผู้ใดจองผมขอจองทั้งหมดเลยนะครับ :boo:

 

ผมขอจอง 1 ชุดครับ

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
เรียน ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน

เนื่องในงานบุญของกองทุนหาพระถวายวัด ผมได้นำพระกริ่งปวเรศออกมาให้ทุกๆท่านได้ร่วมทำบุญอีกครั้ง โดย

ผมมีพระกริ่งปวเรศ(รุ่นนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ปี พ.ศ.2434) จำนวน 5 ชุด(ชุดละ 2 องค์) ผมมอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญ 5,000 บาท ผมมอบพระกริ่งปวเรศให้จำนวน 1 ชุด (1ชุดประกอบด้วย พระกริ่งปวเรศ (เนื้อสเตอริง ซิลเวอร์) 1 องค์ และ พระกริ่งปวเรศ (เนื้อนาค) 1 องค์ )


เริ่มต้นการจองและการโอนเงินร่วมทำบุญ วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2553 สิ้นสุด วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2553

ส่วนหมายเลขบัญชี ผมจะแจ้งให้ทราบทาง Email หลังจากที่ท่านได้จองชุดพระกริ่งปวเรศแล้ว

หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ

หมายเหตุ หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้
</TD></TR></TBODY></TABLE>

โมทนาสาธุครับ

.

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong
เรียน ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน

เนื่องในงานบุญของกองทุนหาพระถวายวัด ผมได้นำพระกริ่งปวเรศออกมาให้ทุกๆท่านได้ร่วมทำบุญอีกครั้ง โดย

ผมมีพระกริ่งปวเรศ(รุ่นนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ปี พ.ศ.2434) จำนวน 5 ชุด(ชุดละ 2 องค์) ผมมอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญ 5,000 บาท ผมมอบพระกริ่งปวเรศให้จำนวน 1 ชุด (1ชุดประกอบด้วย พระกริ่งปวเรศ (เนื้อสเตอริง ซิลเวอร์) 1 องค์ และ พระกริ่งปวเรศ (เนื้อนาค) 1 องค์ )


เริ่มต้นการจองและการโอนเงินร่วมทำบุญ วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2553 สิ้นสุด วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2553

ส่วนหมายเลขบัญชี ผมจะแจ้งให้ทราบทาง Email หลังจากที่ท่านได้จองชุดพระกริ่งปวเรศแล้ว

หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ

หมายเหตุ หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้
</TD></TR></TBODY></TABLE>


--------------------------

คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->chantasakuldecha
โมทนาบุญกับพี่หนุ่มด้วยครับ ผมขอจอง 1ชุดถ้าไม่มีผู้ใดจองผมขอจองทั้งหมดเลยนะครับ:boo:

-------------------------------------

คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tawatd<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3332735", true); </SCRIPT>
ผมขอจอง 1 ชุดครับ

--------------------------------------

พี่ชนิดา จองในส่วนที่เหลือ 3 ชุดครับ

------------------------------------

พระกริ่งปวเรศ ที่ผมนำมาให้ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด จำนวน 5 ชุด ( ชุดละ 2 องค์) หมดแล้วครับ

ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

.

 

โมทนาสาธุกับทุกๆท่านครับ

ขอ share ความเห็นส่วนตัวกับพระกริ่งปวเรศองค์น้อยๆที่...
- ไม่บรรจุเม็ดกริ่ง
- เนื้อพระน่าจะเป็นนวโลหะกลับดำ
- มีรอยตะไบตกแต่ง
- ในบางองค์มีรอยจาร
- มองไม่ค่อยเห็นโค๊ด
- มีผลเด่นทางด้านเมตตา (จากประสบการณ์)
- น่าจะเป็นชุดที่สร้างโดยช่างสิบหมู่
- ส่วนชุดที่พี่หนุ่มนำออกมาให้บูชา สร้างในยุโรป เด่นด้านอำนาจ ทำน้ำมนต์ โภคทรัพย์ เมตตา (จากประสบการณ์-อีกแล้ว)

 

อ่า ลงรูปอีกแล้ว เดี่ยวมีทำปลอมอีกนะครับ

แค่นี้ก็มีปลอมกันเยอะแล้วครับ หุหุหุ

.

 

เรื่องของงานบุญ ของกองทุนหาพระถวายวัด

ผมจะทยอยแจกพระวังหน้า สำหรับท่านที่มาช่วยงาน หากท่านใดมาช่วยงานตั้งแต่เริ่มจนจบงาน ผมจะมีพระวังหน้าแจกให้กับทุกๆท่าน

งานจะเริ่มต้นประมาณ 10.00 น. จนจบงาน

ผมจะทยอยแจกในแต่ละรุ่น ในแต่ละครั้งที่มีงานครับ

ส่วนวันที่มีงาน ผมแจ้งให้ทุกๆท่านทราบทาง Email แล้วนะครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

โมทนาสาธุครับ

พี่หนุ่มน่าจะมีการลงทะเบียนไว้นะครับ จะได้มีโอกาสรู้จักท่านอื่นๆที่มีจิตศรัทธาอีกด้วย

 

ขอบคุณครับพี่ที่เตือน คือ...ผมอาจจะประมาทมือผีมากไปนิด เกรงจะทำไม่เหมือน

 

น้อมรับไว้ครับ

.

 

สงสัยว่า งานใหญ่ปลายปีนี้ จะมีผู้มาร่วมงานเยอะแน่ๆเลยครับ

คงต้องเตรียมงานกันให้ดีๆ

.

 

ผมได้ฟังพระเทศน์เกี่ยวกับโทษของการยึดติดในวัตถุมงคล ในใจก็คิดต่ออีกว่า..

...หากโลกของเราไม่มีความขัดแย้งกัน มีแต่คนดีในสังคม ทุกคนต่างแสวงหากุศลธรรม ขยันสร้างแต่คุณงามความดี ทำบุญต่อบุญให้บุญเจริญงอกงาม รู้ประกอบสัมมาอาชีพ ฯลฯ วัตถุมงคลชั้นเลิศคงไม่จำเป็นต้องแสวงหามาคุ้มตัวหรือสุดแท้แต่ใครจะปรารถนาด้านใด

ผมเองขอประกาศอีกครั้งว่า...ได้หยุดแสวงหาตั้งแต่พานพบพระพิมพ์วังหน้ามานานนนนแล้ว จึงทำให้สามารถมุ่งมั่นในทางเดียวไม่วอกแวกอีกแล้วเช่นกันครับผม

 

<TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 76 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 74 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, :::เพชร::: </TD></TR></TBODY></TABLE>

สวัสดีตอนบ่ายโมงนิดๆครับ

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ภาพวาดฝีพระหัตถ์ "ยึกยือ" แบบร่างจากน้ำพระราชหฤทัยของ "ในหลวงฯ" </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 พฤษภาคม 2553 12:03 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=480 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=480> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ใครเลยจะคิดว่าผืนดินที่ทำกินอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยเรือกสวนไร่นาที่เขียวขจี ดังคำว่า “ในน้ำมีปลาในนามีข้าว” บนพื้นที่โครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ ในเขต จ.สกลนคร และ นครพนม รวมไปถึงโครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน อ.ดงหลวง จ.มุกดาหารนั้น หากย้อนไปเมื่อ 20 -30ปีที่ผ่านมา พื้นดินบริเวณนี้ในหน้าแล้งกลับมีสภาพแห้งผาก แต่พอถึงฤดูฝนพื้นที่กลับโดนน้ำท่วมอย่างหนัก สร้างความเสียหายให้พื้นที่การเกษตร สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน ที่ซ้ำร้ายไปกว่านั้นพื้นที่ในเขต จ.มุกดาหารบางส่วนยังกลายเป็นพื่นที่สีแดง ที่มีพวกคอมมิวนิสต์ชุกชุม จนคนหนุ่มสาวต้องไปหาเช้ากินค่ำในเมืองหลวง ปล่อยให้ผู้เฒ่าผู้แก่ที่ไม่อาจละทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองได้ จำต้องใช้ชีวิตอย่างแร้นแค้นเพียงลำพัง

ครั้นเมื่อความทราบยังพระเนตรพระกรรณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ถึงความเดือดร้อนของประชาชน พระองค์จึงทรงมีพระราชดำริเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2535 ให้กรมชลประทานวางแผนและก่อสร้างโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ ซึ่งอยู่ในเขต 2 จังหวัดที่ประสบปัญหา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้กับราษฎร


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพฝีพระหัตถ์เค้าโครงพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันมีลักษณะคล้ายตัว “ยึกยือ” </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>โอกาสนี้ เพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ที่ทรงทุ่มเทพระวรกายอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ด้วยพระราชประสงค์ที่อยากจะเห็นพสกนิกรของพระองค์ทุกคนมีสภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น สำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) จึงจัดกิจกรรมสื่อมวลชนสัญจรโครงการ “สื่อศิลปิน รินน้ำใจ เพื่อในหลวง ครั้งที่ 1” ณ โครงการในเขตพื้นที่ จ.สกลนคร และมุกกดาหาร โดยมี เฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการ กปร. และ สุวัฒน์ เทพอารักษ์ รองเลขาธิการฯ พร้อมทีมงานให้การต้อนรับ

กิจกรรมแรก เริ่มที่การฟังบรรยายสรุปความเป็นมาของโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยมี พิทักษ์ ปักษานนท์ ผอ.สำนักงานก่อสร้างโครงการลุ่มน้ำก่ำ รับหน้าที่บรรยายว่า เดิมทีชาวบ้านบริเวณทั้งสองฝั่งลำน้ำก่ำ ประสบปัญหาเรื่องน้ำเป็นอย่างมาก ขาดแคลนน้ำใช้เพื่อการเกษตร และเพื่ออุปโภคบริโภค พื้นดินแห้งแล้งเพาะปลูกอะไรก็ไม่เป็นผล ทำให้ยากลำบากในการดำเนินชีวิตมาก

“ชาวบ้านที่เดือดร้อนจึงได้ยื่นฎีกาเพื่อทูลเกล้าฯ ขอความช่วยเหลือจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้ทรงช่วยแก้ปัญหาในเรื่องน้ำท่วมพื้นที่เพาะปลูก ในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำ เพื่อใช้ในการเกษตร ในฤดูแล้ง

เมื่อความทราบถึงใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท จึงทรงมีพระราชดำริ ให้กรมชลประทานวางโครงกาาร และก่อสร้างโครงการขึ้น เพื่อช่วยเหลือปัญหาความเดือดร้อนให้กับราษฎร” ผอ.พิทักษ์ บรรยาย

แต่ที่นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้แก่ชาวบ้านในพื้นที่ คือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงวาดภาพฝีพระหัตถ์เค้าโครงพัฒนาลุ่มน้ำก่ำอันมีลักษณะคล้ายตัว “ยึกยือ” ขณะที่ประทับอยู่บนเครื่องบินพระที่นั่ง โดยส่วนหัวของภาพนั้นคือ หนองหาน ส่วนลำตัวคือ น้ำก่ำ พระราชทานให้กับกรมชลประทานนำไปดำเนินการสร้าง และช่วยบรรเทาปัญหาให้กับประชาชนในพื้นที่ต่อไป


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>เฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ผอ.พิทักษ์ กล่าวต่อว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงห่วงใยคุณภาพชีวิตของชาวบ้านในโครงการฯ มาโดยตลอด และพระราชทานพระราชดำริมาช่วยในการพัฒนาโครงการนี้อยู่เสมอ

กระทั่งทุกวันนี้ขณะที่พระองค์ประทับรักษาพระวรกายอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ทุกครั้งที่พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะทำงานเข้าเฝ้าฯ ก็มักจะทรงถามถึงความคืบหน้าของโครงการและความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่ด้วยความเป็นห่วงว่า “ประชาชนเป็นอย่างไรบ้าง”



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=233 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=233> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>พิทักษ์ ปักษานนท์</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=233 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=233> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>รอยยิ้มของเกษตรโครงการพัฒนาลุ่มน้ำก่ำ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=233 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=233> </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>**ชีวิตฟ้าหลังฝนของชาว “มุกดาหาร”

อีกหนึ่งพื้นที่ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวคือ โครงการพัฒนาพื้นที่ลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตั้งอยู่ที่บ้าน ศรีถาวรพนา อ.ดงหลวง จ.มุกดาหาร

สำหรับพื้นที่นี้ พระองค์ทรงมีความห่วงใยความเป็นอยู่ของราษฎรเป็นอย่างมาก เพราะอยู่ในพื้นที่สีแดง ได้รับผลกระทบจากกลุ่มคอมมิวนิสต์ผู้ก่อการร้ายอย่างหนัก อีกทั้งสภาพภูมิประเทศเป็นแอ่งน้ำในหุบเขา มีเทือกเขาล้อมรอบทางทิศเหนือ ทิศตะวันตก และทิศใต้ สภาพทั่วไปจึงเต็มไปด้วยป่าและภูเขาทำให้ชาวบ้านต้องเข้าไปลุกล้ำพื้นทีป่าเป็นจำนวนมาก จนเกิดภาวะป่าไม้เสื่อมโทรม

เฉลิมเกียรติ แสนวิเศษ เลขาธิการ กปร.บอกว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริกับ ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ซึ่งเป็นเลขาธิการ กปร.ในขณะนั้น ว่า ให้พิจารณาวางโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน ในลักษณะการพัฒนาพื้นที่แบบเบ็ดเสร็จ ประสานส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง มาดำเนินการร่วมกัน โดยให้เร่งรัดก่อสร้าง อ่างเก็บน้ำในพื้นที่บริเวณนี้ และเจาะอุโมงค์เพื่อผันน้ำมาเติมให้กับอ่างเก็บน้ำลำพะยัง รวมทั้งส่งเสริมให้มีการพัฒนาอาชีพของราษฎร และส่งเสริมศิลปาชีพด้วย

“ในขณะนั้นได้มีการพัฒนาแหล่งน้ำ ก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ 7 แห่ง และได้ฟื้นฟูป่าไม้บริเวณต้นน้ำและเหนืออ่างเก็บน้ำประมาณ 5,000 ไร่ เพื่อให้ประชานได้เรียนรู้ที่จะอยู่กับป่าไม้ และที่ขาดไม่ได้คือ ได้ส่งเสริมและพัฒนาอาชีพให้กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง ทั้งด้านการเกษตร และการฝึกทักษะในการพัฒนาฝีมือแรงงาน เช่น การฝึกอบรมทอผ้า ฝึกอบรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ผ้าไหม เป็นต้น”

ทุกวันนี้ บนพื้นที่แห่งน้ำพระราชหฤทัยอันกว้างใหญ่ไพศาล เต็มไปด้วยความเขียวขจีของป่าไม้พืชพรรณธรรมชาตินานาพันธุ์ ที่มีคุณประโยชน์มากมาย ผลผลิตของโครงการเริ่มผลิดอกออกผลอย่างเป็นรูปธรรม ชาวบ้านในพื้นที่ไม่เพียงแต่จะคลายความทุกข์เศร้าและความแร้นแค้น แต่ยังนำความรู้ที่ได้รับไปต่อยอดสร้างสัมมาชีพให้กับตัวเอง ถึงแม้จะไม่ได้ร่ำรวยมหาศาล แต่พวกเขาก็มีความสุขแบบพออยู่พอกิน ภายใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว


</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>อ่างเก็บน้ำที่อยู่ในโครงการ</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5></TD></TR></TBODY></TABLE>ลิขิต นามโพธิชัย ปราชญ์ชาวบ้าน ที่อาศัยอยู่ในบ้านปากช่อง จ.มุกดาหาร หนึ่งในสมาชิกที่ได้อยู่ในโครงการพัฒนาลุ่มน้ำห้วยบางทรายตอนบน บอกว่า ก่อนหน้าที่น้ำพระราชหฤทัยจะมาถึงครอบครัวของตนต้องย้ายบ้านหนีภัยจากผู้ก่อการร้ายมาไม่ต่ำว่า 5-6 ครั้ง แต่เมื่อโครงการฯ นี้เข้ามา ทุกคนไม่ต้องหนีออกจากพื้นที่ สามารถทำการเพาะปลูกได้อย่างสบาย ซึ่งแม้ว่าได้ผลตอบแทนในปริมาณที่ไม่มากนัก แต่ทุกคนก็มีความสุข เรพาะได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

“ผมรู้สึกโชคดีมากที่ได้เกิดมาอยู่ใต้พระบรมโพธิสมภารของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พ่อหลวงที่ทรงห่วงใยความเป็นอยู่ของพสกนิกรมาโดยตลอดพระองค์ไม่เคยทอดทิ้งพวกเราเลย”

ขณะที่ ป้าสำริด เกษตรที่อาศัยอยู่นี้ กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า ครั้งแรกที่ทราบข่าวว่ามีโครงการพระราชดำริมาถึง เธอและชาวบ้านทุกคนดีใจมาก เพราะจากที่ไม่เคยมีน้ำเพื่อเพาะปลูกได้เลย แต่หลังจากที่โครงการนี้เข้ามาถึง ภายใน 1 ปีก็สามารถปลูกข้าวได้ถึง 3 ครั้ง ทำให้มีชีวิตที่ดีขึ้น

“เป็นความโชคดีของคนไทยทุกคนที่เรามีพ่อหลวงคอยห่วงใยในความเป็นอยู่ของพวกเรา ในโลกใบนี้คงไม่มีพ่อคนไหนที่ทำงานหนักเหมือนกับพระองค์ท่านอีกแล้ว ขอให้พระองค์ท่านทรงมีสุขภาพพลานานัยแข็งแรง เป็นร่มโพธ์ร่มไทรของพสกนิกรชาวไทยตลอดไป”

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งแห่งน้ำพระราชหฤทัย ที่ส่งผลให้หลายชีวิตพบกับความสุขอันยั่งยืนอย่างแท้จริง



</TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=right border=0><TBODY><TR><TD width=5></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350> </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>สุวัฒน์ เทพอารักษ์ รองเลขาธิการฯ (กลาง) ถ่ายภาพคู่กับคณะ “สื่อศิลปิน”</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>

 

สวัสดีครับ ป่วยมา 3 วันแล้ว เป็นไข้หวัด ปวดเมื่อยตามตัว ไอทั้งวัน

 

เวลา "ไอ" นี่แบบว่า "ไอเลิฟยู" ป่าวครับ อิอิ

.

 

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ขุดตำนาน "ทริปเปิลแชมป์" ไม่มีวันตาย
Sport - Manager Online
</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>24 พฤษภาคม 2553 17:36 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=bottom align=left height=12></TD></TR><TR><TD bgColor=#cccccc><TABLE cellSpacing=1 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle bgColor=#ffffff><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=160><TABLE cellSpacing=4 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=middle>คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>แมนฯยู กับปาฎิหาริย์ปี 99</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>แชมป์ยุโรปครั้งแรกและครั้งเดียว</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>โยฮัน ครัฟฟ์ นักเตะเทวดาของ ฮอลแลนด์</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle></TD></TR><TR><TD vAlign=baseline align=middle>ลิเวอร์พูล บอลถ้วยล้วนๆ</TD></TR></TBODY></TABLE>
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle width=165 height=1></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=4 background=/images/linedot_vert3.gif></TD><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=7 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>"เดอะ ซัน" (THE SUN) แท็บลอยด์ชื่อดังของอังกฤษ จัดอันดับ 10 ทริปเปิลแชมป์ในตำนานมาให้ชมกัน หลังจาก อินเตอร์ มิลาน รูดม่านฤดูกาล 2009-10 ด้วยตำแหน่งแชมป์ สคูเด็ตโต, โคปปา อิตาเลีย และ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก

1.บาร์เซโลนา ปี 2009 - ฤดูกาลอันน่าอัศจรรย์ของยอดทีมแคว้นคาตาลัน กลายเป็นทีมแรกของ สเปน ที่คว้าทริปเปิลแชมป์ภายใต้การนำทัพของ เป๊ป กวาดิโอลา ไม่ว่าจะเป็น ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก อัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-0, ลา ลีกา สเปน เฆี่ยนหนี รีล มาดริด จนไม่เห็นฝุ่น และ โคปา เดล เรย์ ถล่ม แอธเลติก บิลเบา 4-1

2.แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปี 1999 - ทริปเปิลแชมป์ของ "ผีแดง" ที่มาพร้อมกับปาฎิหาริย์ในศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ยิง 2 ประตูช่วยท้ายเกมแซงชนะ บาเยิร์น มิวนิค ส่วนอีก 2 ถ้วยไม่เหลือบ่ากว่าแรงทั้ง พรีเมียร์ชิป และ เอฟเอ คัพ ที่อัด นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-0

3.อินเตอร์ มิลาน ปี 2010 - ไม่มีใครคาดคิดว่า อินเตอร์ จะคืนความยิ่งใหญ่ด้วยตำแหน่งทริปเปิลแชมป์ภายในปีเดียวทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเคยโดน อาร์เซนอล และ ลิเวอร์พูล ไล่อัดเป็นว่าเล่น ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จก็คือ โชเซ มูรินโญ ที่ยั่วยวนจน รีล มาดริด ต้องกระชากไปคุมทัพ

4.อาแจ๊กซ์ อัมสเตอร์ดัม ปี 1972 - มนต์เสน่ห์โททัลฟุตบอลของ โยฮัน ครัฟฟ์ และผองเพื่อนพา อาแจ๊กซ์ คว้าทริปเปิลแชมป์ทั้งบอลลีกและถ้วยในประเทศรวมถึง ยูโรเปียน คัพ ทุกอย่างน่าเกิดขึ้นก่อนหน้านั้น 1 ปี แต่ทว่าดันไปเสียแชมป์พรีเมียร์ดัตช์ให้กับ เฟเยนูร์ด

5.กลาสโกว์ เซลติก ปี 1967 - "ม้าลายขาวเขียว" กลายเป็นทีมจาก บริติช ที่คว้าแชมป์ ยูโรเปียน คัพ ภายใต้การคุมทัพของ จ็อค สตีน และ บิลลี แม็คนีลล์ กัปตันทีม ด้วยการเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ในนัดชิงที่ ลิสบอน แต่ปัจจุบัน เซลติก ไม่ได้ใกล้เคียงกับความสำเร็จระดับยุโรปอีกเลย

6.พีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ปี 1988 - อีกหนึ่งสโมสร ฮอลแลนด์ ที่สร้างชื่อในเวทียุโรป ภายใต้การคุมทัพของ กุส ฮิดดิงค์ ที่ยังสั่งสมชื่อเสียงมาจนกระทั่งทุกวันนี้ ตอนนั้นขุมกำลังของทีมก็มี โรนัลด์ คูมัน ,เอริค แกเร็ทส์, โซเรน เลอร์บี และ วิม เคิฟท์

7.ลิเวอร์พูล ปี 1984 - ไม่มีอะไรน่าแปลกใจสำหรับผลงานของ ลิเวอร์พูล ในอดีตที่ครองความยิ่งใหญ่ทั้งใน อังกฤษ และยุโรป ปีนั้นคว้าแชมป์ลีกสูงสุด, ลีกคัพ และ ยูโรเปียน คัพ งานหนักหนาสาหัสที่สุดคงเป็นถ้วยยุโรปที่ต้องเชือดเฉือนกับ โรมา เสมอกัน 1-1 ก่อนชนะจุดโทษ

8.อัล อาลี ปี 2005 และ 2006 - สุดยอดสโมสรของ อียิปต์ ที่มีแฟนบอลมากที่สุดในแถบ แอฟริกา ราว 50 ล้านคน คว้าแชมป์ อียิปต์ ลีก, อียิปต์ ซอคเกอร์คัพ และ ซีเอเอฟ แชมเปียนส์ ลีก ภายใต้การคุมทัพของ มานูเอล โชเซ ชาวโปรตุเกส

9.ลิเวอร์พูล ปี 2001 - แม้จะไม่สามารถคว้าแชมป์ พรีเมียร์ชิป รวมถึงถูกแฟนบอลตั้งฉายาเหยียดหยามต่างๆ นาๆ แต่ว่า เชราร์ อุลลิเยร์ ก็พาทีมคว้า 3 แชมป์ โดยต้องเล่นมาราธอนถึง 63 เกม ไม่ว่าจะเป็น เอฟเอ คัพ ที่ต้องขอบคุณสองประตูของ ไมเคิล โอเวน ในช่วง 10 นาที, ยูฟา คัพ อัด อลาเบส จากประตูของ มาร์คุส บับเบิล, สตีเวน เจอร์ราร์ด, แกรี แม็คอัลลิสเตอร์ และ ร็อบบี ฟาวเลอร์ ตบท้ายด้วยท้าย ลีกคัพ

10.ไอเอฟเค โกเตเบิร์ก ปี 1982 - ก่อนจะเอาชื่อมาทิ้งด้วยการฟาดเลขา สมาคมฟุตบอลอังกฤษ สเวน โกรัน อิริคส์สัน ถือเป็นกุนซือมากฝีมือพา โกเตเบิร์ก คว้าแชมป์ลีก, สวีดิช คัพ และ ยูฟา คัพ ด้วยการถล่ม ฮัมบูร์ก 4-0
</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>