พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กองทุนหาพระถวายวัด
    การที่จะอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ไปถวายตามวัดต่างๆนั้น ต้องใช้หลักการในการพิจารณาเบื้องต้น คือ

    การต้องไปแจ้งความประสงค์กับเจ้าอาวาสวัดนั้นๆก่อน

    ต่อมาก็คือ

    1.ต้องดูว่า วัดที่เราจะไปถวายนั้น ต้องมีที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ที่เหมาะ ที่สมควร

    2.พระภิกษุหรือวัดที่เราจะไปถวาย พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ต้องไม่มีการปรามาสโดยเด็ดขาด

    3.ท่านผู้ที่ถวาย จะเป็นตัวแทนของคณะกองทุนหาพระถวายวัด ในการถวาย พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ

    4.ท่านผู้ที่ถวาย ต้องบอกรายละเอียดเบื้องต้นของ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ได้

    การถวายพระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ จะมีอยู่ 2 กรณีก็คือ

    1.การถวายเพื่อบรรจุตามพระเจดีย์ หรือ ฐานพระพุทธรูป หรืออื่นๆ
    2.การถวายพระภิกษุ เพื่อไว้มอบให้กับผู้ที่ไปทำบุญที่วัดนั้นๆ หรือเป็นการแจกฟรีกับผู้ที่ไปทำบุญที่วัดนั้นๆ การถวายในข้อนี้ ควรมีเอกสาร(พิมพ์รายละเอียดของของพระพิมพ์ที่จะถวายด้วย)

    สิ่งต่างๆที่ผมได้บอกไปนั้น เพื่อป้องกันในการที่เราจะไปสร้างกรรมให้กับพระภิกษุ ที่อยู่ที่วัดนั้นๆ กรรมที่พระภิกษุกระทำ จะมากกว่ากรรมที่บุคคลธรรมดากระทำ มากกว่าเยอะเลย

    โมทนาสาธุครับ
    http://palungjit.org/threads/พ�...2445.1875/

    -----------------------------------------------------



    ยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมี
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    วันพรุ่งนี้ ถึงเวลาที่ต้องมานั่งคัดแยกพิมพ์ที่อยู่ในชุด 2408 (ฝีพระหัตถ์พระปิ่นเกล้า) (ที่เนื้อองค์พระผสมพระธาตุ , น้ำประสาน)

    ซึ่งปกติพิมพ์2408 (ฝีพระหัตถ์พระปิ่นเกล้า) ในชุดนี้ จะมี 8 พิมพ์ และยังมีพระสมเด็จ , พระรอด , ซุ้มกอ , นางพญา และ ผงสุพรรณ

    ชุดนี้ เนื้อหาของพระชุดนี้ ผมยอมรับว่า สวยมากครับ

    ผมคิดว่า จะนำไปแจกสำหรับท่านที่ไปในงานบุญของกองทุนหาพระถวายวัดสำหรับเดือนมิถุนายน 2553 (ครั้งแรก) นี้ ผมจะแจกท่านละ 1 องค์

    ส่วนงานบุญของกองทุนหาพระถวายวัดสำหรับเดือนมิถุนายน 2553 (ครั้งที่สอง) ผมจะหาพิมพ์อื่นมามอบให้ครับ

    แต่สำหรับท่านที่อยู่ไกล เช่น คุณพรสว่าง_2008 , คุณtawatd , คุณpsombat , คุณณฑนน เป็นต้น ผมตั้งใจจะเตรียมชุด 2408 มามอบให้ทั้งชุด เนื่องจากว่า ทุกๆท่านที่ผมเอ่ยนามมานี้ เป็นผู้ที่ตั้งใจมากกว่าท่านอื่นๆที่อยู่ในกรุงเทพฯ หรือ ปริมณฑล เพราะต้องเดินทางไกล ต้องมีกำลังใจที่มากครับ


    .
     
  3. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    บอกได้คำเดียวว่า "สุดยอด" ใครทำคนนั้นได้ครับ
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    พิมพ์ที่อยู่ในชุด 2408 (ฝีพระหัตถ์พระปิ่นเกล้า) (ที่เนื้อองค์พระผสมพระธาตุ , น้ำประสาน)

    หากท่านใดที่จะเก็บไว้บูชาเป็นชุด ผมจะจัดเตรียมมอบให้สำหรับผู้ที่ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด ชุดละ 2,000 บาท

    แต่จะจำนวนกี่ชุดนั้น ผมจะมาแจ้งให้ทราบกันอีกครั้ง และต้องมารับเอง ผมไม่ส่งทางไปรษณีย์โดยเด็ดขาดครับ

    .
     
  5. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โมทนาสาธุ สาธุครับ
     
  6. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    กองทุนหาพระถวายวัด
    การที่จะอัญเชิญ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน , พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ไปถวายตามวัดต่างๆนั้น ต้องใช้หลักการในการพิจารณาเบื้องต้น คือ

    การต้องไปแจ้งความประสงค์กับเจ้าอาวาสวัดนั้นๆก่อน

    ต่อมาก็คือ

    1.ต้องดูว่า วัดที่เราจะไปถวายนั้น ต้องมีที่ประดิษฐาน พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ที่เหมาะ ที่สมควร

    2.พระภิกษุหรือวัดที่เราจะไปถวาย พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ต้องไม่มีการปรามาสโดยเด็ดขาด

    3.ท่านผู้ที่ถวาย จะเป็นตัวแทนของคณะกองทุนหาพระถวายวัด ในการถวาย พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ

    4.ท่านผู้ที่ถวาย ต้องบอกรายละเอียดเบื้องต้นของ พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม กกุสันโธ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม โกนาคมน ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม พระพุทธกัสสปะ ,พระบรมสารีริกธาตุ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระนาม สมณโคดม , พระบรมสารีริกธาตุ พระปัจเจกพุทธเจ้า , พระธาตุพระอรหันต์ , พระบูชาต่างๆ หรือ พระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ ได้

    การถวายพระวังหน้าพิมพ์ต่างๆ จะมีอยู่ 2 กรณีก็คือ

    1.การถวายเพื่อบรรจุตามพระเจดีย์ หรือ ฐานพระพุทธรูป หรืออื่นๆ
    2.การถวายพระภิกษุ เพื่อไว้มอบให้กับผู้ที่ไปทำบุญที่วัดนั้นๆ หรือเป็นการแจกฟรีกับผู้ที่ไปทำบุญที่วัดนั้นๆ การถวายในข้อนี้ ควรมีเอกสาร(พิมพ์รายละเอียดของของพระพิมพ์ที่จะถวายด้วย)

    สิ่งต่างๆที่ผมได้บอกไปนั้น เพื่อป้องกันในการที่เราจะไปสร้างกรรมให้กับพระภิกษุ ที่อยู่ที่วัดนั้นๆ กรรมที่พระภิกษุกระทำ จะมากกว่ากรรมที่บุคคลธรรมดากระทำ มากกว่าเยอะเลย

    โมทนาสาธุครับ
    http://palungjit.org/threads/พ�...2445.1875/

    -----------------------------------------------------



    ยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมี
    </TD></TR></TBODY></TABLE>



    .


    เรื่องนี้ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า ต้องพิสูจน์เอง ด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่า ดีหรือไม่ อย่างไร

    ที่สำคัญ ผมจะบอกว่า ผมเชื่อว่า เบื้องบน และ องค์พยามัจจุราชเจ้า ท่านรับรู้ , กำหนดเรื่องต่างๆ และ โมทนาบุญกับทุกๆท่าน

    ส่วนเรื่องของการปฎิบัติสมถะหรือวิปัสนา นั่นเป็นเรื่องที่สามารถแยกออกจากเรื่องของงานบุญกองทุนหาพระถวายวัดได้ เป็นคนละส่วนกัน

    การทำบุญในทุกๆเรื่อง ผมเห็นว่า ต้องทำบุญในหลายรูปแบบ บุญในแต่ละเรื่องก็ไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน และสิ่งที่สำคัญเหมือนเดิมก็คือ

    ยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมี

    .

    .
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    เรียน ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , ท่านสมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และ ท่านสมาชิกคณะพระวังหน้า ทุกๆท่าน

    เนื่องในงานบุญของกองทุนหาพระถวายวัด ผมได้นำพระกริ่งปวเรศออกมาให้ทุกๆท่านได้ร่วมทำบุญอีกครั้ง โดย

    ผมมีพระกริ่งปวเรศ(รุ่นนำเข้าพระราชพิธีพุทธาภิเษกหลวง ปี พ.ศ.2434) จำนวน 5 ชุด(ชุดละ 2 องค์) ผมมอบให้กับท่านที่ร่วมทำบุญ 5,000 บาท ผมมอบพระกริ่งปวเรศให้จำนวน 1 ชุด (1ชุดประกอบด้วย พระกริ่งปวเรศ (เนื้อสเตอริง ซิลเวอร์) 1 องค์ และ พระกริ่งปวเรศ (เนื้อนาค) 1 องค์ )


    เริ่มต้นการจองและการโอนเงินร่วมทำบุญ วันอาทิตย์ที่ 23 พฤษภาคม 2553 สิ้นสุด วันพุธที่ 30 มิถุนายน 2553

    ส่วนหมายเลขบัญชี ผมจะแจ้งให้ทราบทาง Email หลังจากที่ท่านได้จองชุดพระกริ่งปวเรศแล้ว

    หมายเหตุ 1 ผมไม่ถ่ายรูปพระพิมพ์ลงในเว็บครับ

    หมายเหตุ 2 หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชา เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไปครับ

    หมายเหตุ หากท่านที่มีประสงค์จะร่วมทำบุญ แต่ไม่มั่นใจว่า พระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ผมจะมอบให้เพื่อเป็นพุทธานุสติและเพื่อบูชานั้น เป็นพระพิมพ์(พระเครื่อง)ที่ไม่แท้หรือไม่เป็นที่นิยมของวงการพระเครื่องไทย(การซื้อ-ขาย) ก็ไม่ต้องร่วมทำบุญและรับพระพิมพ์(พระเครื่อง)ไป และเป็นพระพิมพ์ที่ไม่สามารถที่จะนำไปซื้อ-ขายในวงการพระเครื่องของเมืองไทยได้

    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    --------------------------

    คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->chantasakuldecha
    โมทนาบุญกับพี่หนุ่มด้วยครับ ผมขอจอง 1ชุดถ้าไม่มีผู้ใดจองผมขอจองทั้งหมดเลยนะครับ:boo:

    -------------------------------------

    คุณ<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->tawatd<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_3332735", true); </SCRIPT>
    ผมขอจอง 1 ชุดครับ

    --------------------------------------

    พี่ชนิดา จองในส่วนที่เหลือ 3 ชุดครับ

    ------------------------------------

    พระกริ่งปวเรศ ที่ผมนำมาให้ร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด จำนวน 5 ชุด ( ชุดละ 2 องค์) หมดแล้วครับ

    ขอโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

    .
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    ----------------------------------
    ----------------------------------

    พี่ชนิดาได้โอนเงินจำนวน 15,000 บาท เพื่อร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด และรับพระกริ่งปวเรศ จำนวน 3 ชุด เรียบร้อยแล้ว

    มาโมทนาบุญกับคณะพี่ชนิดากันครับ

    .
     
  8. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เมื่อวานนี้ น้อง<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->chantasakuldecha ได้นำเงินจำนวน 5,000 บาท มาให้กับผม เพื่อร่วมทำบุญกับกองทุนหาพระถวายวัด และรับพระกริ่งปวเรศ จำนวน 1 ชุด เรียบร้อยแล้ว

    มาโมทนาบุญกับน้อง<!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->chantasakuldechaกันครับ
     
  9. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    อุ๊ย ๆ กระโดดดี ๆ นะ ระวังตก!


    [​IMG] [​IMG]


    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
    ขอขอบคุณภาพประกอบโดย Barcroft Media จาก dailymail.co.uk

    เชื่อว่าหลายคนที่เห็นภาพนี้คงต้องบอกว่า ทึ่ง! อึ้ง! เสียว! แน่นอน ถ้าเห็นแว้บแรกคงจะคิดว่า หนุ่มน้อยคนนี้กำลังกระโดข้ามไปอีกฟากหนึ่ง และหวั่น ๆ เค้าจะหล่นลงไปในรอยแยกชัวร์ แต่ที่ไหนได้ นี่เป็นเพียงแค่ภาพ 3 มิติบนถนน ที่อยู่ใจกลางแหล่งช้อปปิ้งมอลล์ขนาดใหญ่ของจีนเท่านั้นค่ะ โดยผู้ที่สร้างภาพศิลปะ 3 มิติบนถนนนี้เป็นฝีมือของจิตรกรชาวอเมริกันที่มีนามกรว่า เคิร์ต เวนเนอร์

    เคิร์ต เวนเนอร์ ได้สร้างงานศิลปะสุดเจ๋งชิ้นนี้ให้กับสวนสนุกและศูนย์แสดงวัฒนธรรมทางอุตสาหกรรมไหอัน ใจกลางเมืองเจียงซู ประเทศจีน ซึ่ง เคิร์ต ได้สร้างงานศิลปะแนวสามมิติบนถนนแบบนี้ในอีกหลาย ๆ ที่ของมุมโลก เชื่อว่าหลาย ๆ คน คงทึ่งกับฝีมือเขาอย่างแน่นอน

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    คปภ.เปิดสายด่วนพิเศษ 1186 แจ้งเหตุเดือดร้อนจากประกันภัย

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>

    นางจันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย เปิดเผยว่า ตามที่ สำนักงาน คปภ. ได้หารือกับภาคธุรกิจประกันภัยเพื่อหาแนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ความไม่สงบจากการชุมนุมบริเวณพื้นที่ราชประสงค์ที่ผ่านมานั้น

    สำนักงาน คปภ. ได้มอบหมายให้สมาคมประกันวินาศภัย และบริษัทประกันวินาศภัย ดำเนินการสำรวจความเสียหายเบื้องต้นโดยเร่งด่วน เน้นกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้มีการทำประกันอัคคีภัย และประกันความเสี่ยงภัยทรัพย์สิน (IAR) ที่มีทุนประกันภัยไม่เกิน 5 ล้านบาท ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 3 มิถุนายน 2553 เพื่อเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรายย่อยที่ได้รับความเดือดร้อนก่อนเป็นลำดับแรก และจะสรุปรวบรวมความเสียหายทั้งหมด ภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2553 ทั้งนี้ ผู้เอาประกันภัยรายใดที่ไม่ได้ซื้อความคุ้มครองสำหรับภัยก่อการร้าย บริษัทประกันภัยจะพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ตามภาวะความเดือดร้อน ตามสถานภาพของผู้เอาประกันภัยเป็นราย ๆ ไป

    นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. เปิดให้บริการสายด่วนพิเศษ 1186 เพื่อเป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือ แก่ผู้เอาประกันภัยที่ได้รับความเดือดร้อนจากเหตุการณ์ดังกล่าว

    เลขาธิการ คปภ. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับภัยรายใหญ่ที่มีการประกันภัยต่อ เช่น บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) นั้น ขณะนี้ผู้สำรวจภัยจากต่างประเทศได้เข้าสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว เพื่อจะได้นำไปประเมินการจ่ายค่าสินไหมทดแทนต่อไป


    Matichon Online: ˹ѧ
     
  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    รู้ก่อนลดกับความเชื่อผิดๆ เรื่องควบคุมน้ำหนัก


    หนึ่งในปัญหาหนักอกของหนุ่มสาว เห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องน้ำหนักตัวและรูปร่างที่เกินพิกัด พยามยามลดทุกวิถีทางที่ใครว่าดีก็ยังไม่ได้หุ่นเพรียวสวยมาครอง แล้วรู้หรือไม่ว่าบางทีอาจมาจากความเชื่อผิด ๆ ในการควบคุมน้ำหนักก็ได้ เช่น อดข้าว งดของจุบจิบ งดแป้ง ขับเหงื่อ หรือโทษกรรมพันธุ์ว่าเป็นสาเหตุความอ้วน

    ภก.ดร.พงศกรพัฒน์ อรุโณทยานันท์ ผู้จัดการฝ่ายฝึกอบรมผลิตภัณฑ์และอาวียองซ์ อะคาเดมี แนะนำวิธีควบคุมน้ำหนักที่ถูกต้องว่า ต้องไม่อด กินครบทุกมื้อ แต่ควรเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์ ครบทุกหมู่ ไม่ควรงดอาหารพวกแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรต เนื่องจากคาร์โบไฮเดรตจำเป็นต่อกระบวนการเผาผลาญไขมันในร่างกายเมื่อคุณออกกำลังกาย และยังช่วยให้พลังงานสำหรับกิจกรรมในแต่ละวัน โดยเน้นอาหารมื้อเช้ามากที่สุด เพราะร่างกายต้องการใช้พลังงาน และหลีกเลี่ยงอาหารพลังงานสูงที่ไม่มีประโยชน์ในระหว่างวัน แต่เลือกเป็นชนิดที่ให้พลังงานต่ำและมีเส้นใยสูง เช่น ข้าวกล้อง ขนมปังโฮลวีท ถั่ว ลูกเดือย ผักสด ผลไม้ ควรลดและหลีกเลี่ยง อาหารพวกแป้งแปรรูป เช่น ขนมปังขาว เค้ก ขนมหวานที่มีแป้งเป็นส่วนผสม

    อีกทั้งความบ่อยของการกิน หรือการกินจุบจิบนั้นก็ไม่ได้ทำให้อ้วน แต่อยู่ที่อาหารที่กิน ให้สังเกตได้ว่านักโภชนาการมักแนะนำคนที่ลดน้ำหนักแบ่งอาหารออกเป็นห้ามื้อเล็ก ๆ โดยระหว่างมื้อในช่วงสายหรือบ่ายแก่ ๆ เลือกทาน แอปเปิ้ล ฝรั่ง ชมพู่ แครอท หรือ ถั่วลิสงต้ม ทานเป็นของจุบจิบรองท้อง เพื่อมื้ออาหารเย็นจะได้ไม่รับประทานมากจนเกินพอดี

    สำหรับอันตรายที่มาจากความเชื่อผิด ๆ คือ การขับเหงื่อให้ออกมาก ๆ วิธีนี้แม้จะลดน้ำหนักได้ แต่น้ำหนักที่สูญเสียไปคือน้ำในร่างกาย ซึ่งมีความจำเป็นในกระบวนการเผาผลาญไขมัน อีกทั้งอาจทำให้เป็นลมหรือหมดสติได้ แนะนำว่า ควรดื่มน้ำให้ได้วันละ 2-3 ลิตร หรือหากเสียเหงื่อมากควรดื่มน้ำเปล่าชดเชยเข้าไป ซึ่งในช่วงลดน้ำหนักไม่ควรดื่มน้ำผลไม้ น้ำหวาน หรือ เครื่องดื่มเกลือแร่ เพราะมีน้ำตาลสูง

    ส่วนความเชื่อที่ว่าความอ้วนมาจากกกรมพันธุ์ จึงไม่มีวันที่จะลดน้ำหนักได้ก็นั้นไม่เป็นความจริง เพราะความอ้วนนั้นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการบริโภคและการใช้ชีวิตประจำวัน
    ปิดท้ายด้วยโครงการเพื่อการกุศล “อาวียองซ์ สลิมม์ แชริตี้ เทิร์น แฟท ทู ฟู้ด” ชวนคนรักสุขภาพลดน้ำหนักภายใต้แนวคิด ลดส่วนเกินเพื่อให้...น้องผู้ยากไร้ ได้เติมเต็มส่วนที่ขาด โดยทุก 1 กิโลกรัมของน้ำหนักที่ลดได้จะเปลี่ยนเป็นข้าวสารเพื่อเด็กๆ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน เข้าร่วมโครงการได้แล้ววันนี้ที่อาวียองซ์ช็อปทุกสาขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร.0-2554-2655
    dailyshopaholic@gamil.com

    Daily News Online > โทรโข่ง > หน้า Daily In Trend > รู้ก่อนลดกับความเชื่อผิดๆ เรื่องควบคุมน้ำหนัก

    .

    .
     
  13. jirautes

    jirautes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +575
    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ sithiphong [​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    เรื่องนี้ท่านสมาชิกกองทุนหาพระถวายวัด , สมาชิกชมรมรักษ์พระวังหน้า และคณะพระวังหน้า ต้องพิสูจน์เอง ด้วยตัวเอง แล้วจะรู้ว่า ดีหรือไม่ อย่างไร

    ที่สำคัญ ผมจะบอกว่า ผมเชื่อว่า เบื้องบน และ องค์พยามัจจุราชเจ้า ท่านรับรู้ , กำหนดเรื่องต่างๆ และ โมทนาบุญกับทุกๆท่าน

    ส่วนเรื่องของการปฎิบัติสมถะหรือวิปัสนา นั่นเป็นเรื่องที่สามารถแยกออกจากเรื่องของงานบุญกองทุนหาพระถวายวัดได้ เป็นคนละส่วนกัน

    การทำบุญในทุกๆเรื่อง ผมเห็นว่า ต้องทำบุญในหลายรูปแบบ บุญในแต่ละเรื่องก็ไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน และสิ่งที่สำคัญเหมือนเดิมก็คือ

    ยิ่งทำยิ่งได้ ยิ่งให้ยิ่งมี
    โมทนาสาธุ สาธุครับ<!-- google_ad_section_end -->
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 111 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 110 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 121 คน ( เป็นสมาชิก 1 คน และ บุคคลทั่วไป 120 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีตอนค่ำครับ

    ยินดีที่หลายๆท่านอยู่บ้าน

    ผมยังทำงานไม่เสร็จเรียบร้อยเลย ยังอยู่กันอีกหลายท่านในที่ทำงานครับ

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 27 พฤษภาคม 2010
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    อ่า ยังไม่ได้กลับบ้านเลย ฮือๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

    หิววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

    .
     
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>ระวัง! “แชมพู-ครีมนวด” เสื่อมสภาพ เชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อน
    Quality of Life - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>27 พฤษภาคม 2553 12:18 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยผลตรวจวิเคราะห์ “แชมพู-ครีมนวดผม-ผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม” ผิดมาตรฐาน พบปนเปื้อนแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค 30 ตัวอย่าง จาก 119 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 25 ระบุหากใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวอาจทำให้ติดเชื้อและผิวหนังอักเสบได้แนะก่อนซื้อควรสังเกตฉลากภาษาไทยที่มีข้อความตามที่กฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=300 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=300>[​IMG] </TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> นพ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ใช้ทำความสะอาดหรือบำรุงเส้นผม ประเภทแชมพู ครีมนวดผมผลิตภัณฑ์โลชั่นและซีรัมบำรุงเส้นผมโดยทั่วไปมีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักถึงร้อยละ 70-80 และมีส่วนประกอบอื่นๆ ตามวัตถุประสงค์การใช้งาน เช่น แชมพูจะมีสารชำระล้างถึงร้อยละ 12-25 สำหรับครีมนวดผม โลชั่น ซีรัมบำรุงเส้นผมจะมีส่วนประกอบพื้นฐานคล้ายคลึงกับแชมพู แต่ครีมนวดผมโลชั่น และซีรัมบำรุงผมจะไม่มีสารชำระล้างในปริมาณมากแต่มีสารอื่นเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความชุ่มชื่นและอ่อนนุ่มให้กับเส้นผมทำให้หวีง่ายหรือมีน้ำมันที่ใช้หล่อลื่นเส้นผม เป็นต้น

    นพ.จักรธรรม กล่าวต่อว่า การที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบหลักหรือมีปริมาณ water activity (aw) สูงทำให้จุลินทรีย์สามารถเจริญได้ดี และผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่มีการบรรจุในภาชนะที่มีปริมาณมากจึงมีความเสี่ยงสูงที่ทำให้จุลินทรีย์เจริญเติบโตและเพิ่มจำนวนระหว่างการใช้งานได้ซึ่งตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข (ฉบับที่ 40) พ.ศ.2548 ได้กำหนดให้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีจำนวนแบคทีเรียยีสต์และราที่เจริญโดยใช้อากาศ ต้องน้อยกว่า 1,000 โคโลนี/กรัม หรือ500โคโลนี/กรัม กรณีที่เป็นเครื่องสำอางสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปีและต้องไม่พบเชื้อจุลินทรีย์ที่ก่อให้เกิดโรค ได้แก่ Pseudomdnas aeruginosa ,Staphylococcus aureus , Candida albicansและกรณีที่เป็นเครื่องสำอางผสมสมุนไพรจะต้องไม่พบ Clostridium spp.

    อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวอีกว่า กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กระทรวงสาธารณสุขได้มีการเฝ้าระวังและตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์สุขภาพเพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคซึ่งได้มีการเก็บตัวอย่างผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางจำนวน 119 ตัวอย่าง พบว่ามีผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานจำนวน 30 ตัวอย่าง คิดเป็นร้อยละ 25จำแนกเป็นแชมพูจำนวน17 ตัวอย่าง จาก 74 ตัวอย่าง ครีมนวดผมจำนวน 8 ตัวอย่างจาก 22 ตัวอย่าง และผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม 5 ตัวอย่าง จาก 23 ตัวอย่าง ทั้งนี้ เนื่องจากมีปริมาณการปนเปื้อนของแบคทีเรีย ยีสต์และราสูงเกินกำหนด คืออยู่ในช่วง 1,200 ถึง 63,000,000 โคโลนีต่อกรัมในจำนวนนี้ยังพบการปนเปื้อนร่วมของ Pseudomonas aeruginosa ในแชมพูและผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผมชนิดละ 1 ตัวอย่าง Clostridium perfringens ในผลิตภัณฑ์บำรุงเส้นผม 1 ตัวอย่าง

    นางหรรษา ไชยวานิช ผู้อำนวยการสำนักเครื่องสำอางและวัตถุอันตรายกล่าวเพิ่มเติมว่า ผลิตภัณฑ์ที่มีการปนเปื้อนแบคทีเรียหรือเชื้อจุลินทรีย์ดังกล่าว จะทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อมสภาพเร็ว เช่นมีลักษณะเหลวผิดปกติ สีเปลี่ยน มีกลิ่นเหม็น ฯลฯ หากนำผลิตภัณฑ์ดังกล่าวไปใช้อาจทำให้เชื้อจุลินทรีย์เข้าสู่ร่างกายผ่านทางผิวหนังที่อักเสบเป็นสิว แผล ซึ่งทำให้ผู้บริโภคเกิดการติดเชื้อได้ ทั้งนี้หน่วยงานราชการได้เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์ เครื่องสำอางทั้งที่ผลิตในประเทศและนำเข้าจากต่างประเทศ โดยมีการเก็บตัวอย่างส่งตรวจวิเคราะห์คุณภาพอย่างสม่ำเสมอ แต่เพื่อความปลอดภัยของผู้บริโภคก่อนซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง ควรเลือกซื้อเครื่องสำอางที่มีฉลากภาษาไทยและมีข้อความตามที่กฎหมายกำหนดอย่างครบถ้วน ได้แก่ ชื่อและประเภทสารที่ใช้เป็นส่วนผสม วิธีใช้ ชื่อและสถานที่ตั้งผู้ผลิตหรือผู้นำเข้าครั้งที่ผลิต เดือนปีที่ผลิต ปริมาณสุทธิ และควรซื้อจากร้านค้าที่เชื่อถือได้มีหลักแหล่งแน่นอน รวมทั้งมีหลักฐานการซื้อขายที่ระบุที่ตั้งผู้ขายอย่างชัดเจน
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  17. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>สธ.บุกโกดัง อาหารเสริม ยา เครื่องสำอาง อ้างสรรพคุณเกินจริง
    Quality of Life - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 พฤษภาคม 2553 00:26 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left> “จุรินทร์” บุกโกดังแหล่งใหญ่ขายอาหารเสริม ยา และเครื่องสำอาง ผ่านโทรศัพท์-ทีวีไดเรค พบผิดกฎหมาย 42 รายการ อ้างสรรพคุณเกินจริง ลดอ้วน-รักษาสารพัดโรค จับปรับ 1 แสน

    วันนี้ (27 พ.ค.) นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นายแพทย์ พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และ พล.ต.ต.จตุรงค์ ภุมรินทร์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ผบก.ปคบ.) นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นโกดังเก็บสินค้า ซึ่งตั้งอยู่ที่บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เทคโนโลยี จำกัด เลขที่ 5 ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กทม.

    นายจุรินทร์ กล่าวว่า การดำเนินการครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายกระทรวงสาธารณสุขที่ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองผู้บริโภค ในเรื่องอาหาร ยา เครื่องสำอาง และเครื่องมือแพทย์ ที่ผ่านมา อย.ร่วมกับ บก.ปคบ.ได้ร่วมดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด วันนี้ได้ดำเนินคดีกับศูนย์จำหน่ายสินค้าทางโทรศัพท์ ที่จัดส่งสินค้าทางไปรษณีย์ เท่าที่ตรวจสอบเป็นคอลเซ็นเตอร์หมายเลข 1577 ซึ่งมีการโฆษณาผ่านทีวีไดเรค เป็นศูนย์ใหญ่แห่งหนึ่งที่จำหน่ายสินค้าในลักษณะดังกล่าว เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีสินค้าที่ผิดกฎหมาย 42 รายการ เป็นอาหารเสริม 22 รายการ ยา 1 รายการ และเครื่องสำอาง 19 รายการ

    นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า ความผิดที่พบได้แก่ 1.ผิดที่ฉลากสินค้า เช่น ไม่มีภาษาไทยกำกับ ที่อยู่ไม่ตรงกับที่ได้แจ้ง อย.ไว้ ที่สำคัญมีการอวดอ้างสรรพคุณเกินจริงในฉลาก 2.การโฆษณา ส่วนมากอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เช่น ลดความอ้วน สุขภาพ เพิ่มความสวยงาม ต้านอนุมูลอิสระ ที่สำคัญคืออวดอ้างว่ารักษาโรคได้ เช่น มะเร็ง เบาหวาน โรคหัวใจ เป็นต้น ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ขั้นตอนต่อไปจะแยกสินค้าที่ผิดกฎหมายออกมา เพื่อดำเนินคดี เข้าข่ายการกระทำที่มีผลกระทบต่อผู้บริโภค ส่วนสินค้าที่ไม่ผิดกฎหมายก็สามารถดำเนินการต่อไปได้ ขณะนี้ต้องยอมรับว่าผู้บริโภคจำนวนมากหลงเชื่อสินค้าที่มีการโฆษณาอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ซึ่งส่วนใหญ่สินค้ามีราคาแพง ทำให้เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ บางชนิดรับประทานแล้วอาจเกิดโทษต่อร่างกายอีกด้วย

    “ผมได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ อย.และตำรวจ แยกสินค้าที่ผิดกฎหมาย แถลงให้ประชาชนทราบว่าเป็นยี่ห้อสินค้าที่ผิดกฎหมาย เชื่อว่าในอนาคตถ้ายังมีความพยายามที่จะฝ่าฝืน อาจมีการเปลี่ยนแปลงฉลาก อาจเปลี่ยนยี่ห้อก็เป็นหน้าที่กระทรวงสาธารณสุขและตำรวจจะต้องดำเนินการต่อไป เป็นการคุ้มครองผู้บริโภค” นายจุรินทร์ กล่าว

    ทั้งนี้ การดำเนินคดีในวันนี้ มีการแจ้งข้อหาดังนี้ 1.จำหน่ายอาหารโดยแสดงฉลากไม่ถูกต้อง โทษปรับไม่เกิน 30,000 บาท 2.แสดงฉลากอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต โทษปรับไม่เกิน 5,000 บาท 3.แสดงฉลากเครื่องสำอางไม่ถูกต้อง โทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 20,000 บาท และ4.ห้ามโฆษณาขายยาโดยวิถีแถมพก และจำหน่ายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หากประชาชนพบเห็นสื่อโฆษณาหรือแหล่งจำหน่ายผลิตภัณฑ์สุขภาพอวดอ้างสรรพคุณเกินจริง ขอให้แจ้งสายด่วน อย. โทร 1556 หรือ 1556@fda.moph.go.th หรือตู้ ปณ.1556 ปณฝ.กระทรวงสาธารณสุข จ.นนทบุรี 11004 หรือที่ บก.ปคบ.ตู้ ปณ.459 ปณศ.สามเสนใน พญาไท กทม.10400 เพื่อ อย.และ บก.ปคบ.ตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ดีเดย์ 1 ก.ย. โทรใน - นอกเครือข่ายราคาเดียว

    http://hilight.kapook.com/view/49033

    [​IMG]



    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

    กทช.ยืนยันมติเดิม ให้โทรนอก-ในเครือข่ายจ่ายราคาเดียวกัน เริ่ม 1 ก.ย.53 นี้ ด้าน กทช.ยันทำไปตามข้อกฎหมาย ชี้หากราคาต่างกันเหมือนเดิม ผู้ให้บริการรายใหญ่จะได้เปรียบ

    จากกรณีที่คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กทช. มีมติให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกเครือข่าย ยกเลิกการออกโปรโมชั่นโทรในเครือข่าย (ออน เน็ต) หรือนอกเครือข่าย (ออฟ เน็ต) ในราคาที่แตกต่างกัน จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมาในกลุ่มผู้ใช้โทรศัพท์ เพราะเกรงว่าจะต้องเสียค่าโทรศัพท์ราคาสูงขึ้นนั้น

    ล่าสุดบอร์ด กทช. ได้มีการประชุมถึงเรื่องนี้อีกครั้งเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคมที่ผ่านมา และได้ยืนยันมติเดิม โดยให้ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ กำหนดค่าบริการโทรศัพท์ในเครือข่าย (ออน เน็ต) และโทรศัพท์นอกเครือข่าย (ออฟ เน็ต) ในอัตราค่าบริการเท่ากัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน พ.ศ.2553 และไม่มีผลบังคับย้อนหลัง

    โดยนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ รักษาการเลขาธิการ กทช. เปิดเผยว่า ระหว่างนี้จนถึง 31 สิงหาคม พ.ศ. 2553 ผู้ประกอบการยังสามารถใช้โปรโมชั่นที่ขายไปก่อนหน้านี้ได้ แต่หลังจากนั้น จะไม่สามารถขายในราคาโปรโมชั่นเดิมต่อไปอีก สำหรับกรณีที่ผู้ประกอบการทำโปรโมชั่นไปถึงปลายปี 2553 ก็ให้ยกเลิกมาสิ้นสุดที่สิ้นเดือนสิงหาคมเท่านั้น

    สำหรับเหตุผลที่ต้องบังคับให้โทรในเครือข่าย และนอกเครือข่ายมีราคาเท่ากันนั้น ก็เพื่อรองรับการเปิดให้บริการคงสิทธิเลขหมาย (Number portability) ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 กันยายนนี้ หากราคาไม่เท่ากัน จะทำให้ลูกค้าเกิดความสับสน เพราะต้องมีการปรับย้ายโครงข่ายกันมากมาย ส่วนจะกำหนดอัตราค่าโทรศัพท์เท่าไหร่นั้น ให้ผู้ประกอบการตกลงราคากันเอง แต่ส่วนใหญ่ตกลงไว้ที่ 1 บาท

    ทั้งนี้ กทช. มองว่า หากยังคงใช้ข้อกำหนดเดิม คือให้ราคาโทรในเครือข่าย แตกต่างจากนอกเครือข่าย จะทำให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ได้เปรียบผู้ประกอบการรายเล็ก เพราะผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีจำนวนลูกค้ามากกว่า และมีเครือข่ายมากกว่า จะทำโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้าที่ใช้บริการโทรศัพท์ในเครือข่ายมากกว่า ส่วนรายเล็กจะสามารถไม่สามารถทำโปรโมชั่นลักษณะดังกล่าวได้ เพราะลูกค้าและเครือข่ายมีน้อยกว่ามาก

    อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก ไทยรัฐ
    [​IMG]
     
  19. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    กะพ้อ-ขนมต้ม ดัชนีชี้สุขชุมชน

    คอลัมน์ สดจากเยาวชน

    ตูปะ นิระมะ

    ˹ѧ

    กะพ้อ-ขนมต้ม ดัชนีชี้สุขชุมชน

    คอลัมน์ สดจากเยาวชน

    ตูปะ นิระมะ

    http://www.khaosod.co.th/view_news....ionid=TURNeE1RPT0=&day=TWpBeE1DMHdOUzB5T0E9PQ==

    <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>คิดถึงขนมต้มหรือเรียกสั้นๆ ว่า "ต้ม" ครั้งใด ความรู้สึกจะเหมือนถูกห้อมล้อมด้วยความสุขสนุกสนาน

    เพราะเมื่อใดที่ได้ทำ ได้เห็น ได้กิน ย่อมเป็นวันแห่งการพบปะกันพร้อมหน้าในครอบครัวและความครึกครื้นในชุมชนหมู่บ้าน

    เนื่องจากมักจะทำขนมต้มกันในงานบุญประ เพณีต่างๆ ได้แก่ งานบุญเดือนสิบ งานชักพระ งานบวช วันเข้าพรรษา และวันออกพรรษา

    คนใต้คุ้นเคยกับขนมต้ม ขนมรูปสาม เหลี่ยมห่อพันด้วยใบกะพ้ออย่างแน่นหนา ข้างในเป็นข้าวเหนียวนุ่มๆ

    "ขนมต้มเป็นสัญลักษณ์ของความรักใคร่กลมเกลียวกัน" เพราะการทำขนมต้องช่วยกันหลายแรง ทั้งคนไปตัดใบกะพ้อ คนแช่ข้าวเหนียว ห่อข้าวเหนียว แล้วยังต้องช่วยกันต้ม ช่วยกันดูแล หลายขั้นตอนหลายบ้านจึงใช้วิธีช่วยกันทำ

    อาจจะฝากกันไปตัดใบกะพ้อ ใครมีมะพร้าว มีน้ำตาล ก็ระดมกัน และนั่งห่อนั่งมัดต้ม พูดคุยสนทนาถึงวันงาน และการเตรียมการด้านอื่นๆ กระชับความสัมพันธ์กันในระดับชาวบ้านโดยไม่ต้องรอให้ใครมากระชับให้

    กะพ้อ หรือที่คนใต้เรียกสั้นๆ ว่า ต้นพ้อ เป็นพืชตระกูลปาล์มชนิดหนึ่ง (Licuala paludosa Griff.) มักอยู่เป็นพุ่มเป็นกอ ใบสวยมาก คือชูขึ้นมาเป็นก้านยาวๆ แล้วใบก็แผ่ออกเป็นแฉกๆ เส้นๆ มองเผินๆ คล้ายฝ่ามือหรือพัด มักขึ้นตามไร่นาเรือกสวนของชาวบ้าน และในป่าพรุ ซึ่งเป็นป่าพิเศษทางภาคใต้

    ใบอ่อนของต้นกะพ้อ นอกจากจะใช้ห่อขนมต้ม ยังนำไปทำงานประดิษฐ์ได้ เช่น งานจักสานพัดใบกะพ้อ รวมไปถึงใบกะพ้อที่แก่จัดๆ นำไปทำหลังคาแทนการมุงด้วยใบจาก <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=right border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    ยอดอ่อนของต้นกะพ้อยังนำไปประกอบอาหารได้ เช่น ทำแกงเลียง แกงส้ม และต้มจิ้มกับน้ำพริก

    กะพ้อเป็นพืชชนิดหนึ่งในจำนวนพืชอันหลากหลายของป่าพรุและเรือนสวนไร่นาของคนปักษ์ใต้ เป็นเพียงหนึ่งตัวอย่างท่ามกลางพืชผักพื้นบ้านที่ยังคงอุดมสมบูรณ์

    ในขณะเดียวกันหลายพื้นที่ที่ถูกคุกคามโดยสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันก็ทำให้ความหลากหลายที่กินได้ค่อยๆ ลดลงอย่างน่าใจหาย

    ทีมงานทุ่งแสงตะวันมีโอกาสแวะไปเยี่ยมเพื่อนมิตรที่ปัตตานี ปรากฏว่าในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี กำลังมีงาน ตูปะ ตาแป แตออ สะตอดอง ซึ่งเป็นงานฉลองข้าวใหม่หัวใจสันติภาพ ซึ่งจัดขึ้นทุกปี เป็นงานพบปะกันของผู้คนมากหน้าในกลุ่มเครือข่ายป่าชุมชนและเกษตรกรพึ่งตนเอง มาพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่องต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ทรัพยากรชุมชนการเกษตร มีทั้งคนไทยพุทธมุสลิมหลากหลาย

    จึงทราบว่าตูปะ ตาแป แตออ สะตอดอง มีความหมายว่า ขนมต้ม ข้าวหมาก น้ำชา สะตอดอง ในงานมีขนมต้มห่อด้วยใบกะพ้อมากันเป็นพวงๆ แล้วยังมีตาแปหรือข้าวหมากห่อด้วยใบโพทะเลและใบยางพาราให้ละลานตาอีกด้วย

    ผศ.นุกูล รัตนดากุล แห่งคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มอ.ปัตตานี บอกว่าพืชพรรณนานาชนิดที่มีอยู่ในท้องถิ่น ล้วนมีคุณค่าความหมาย และสะท้อนมิติชีวิตของชาวบ้านที่อยู่อาศัยและพึ่งพาธรรมชาติมานาน เกิดการพัฒนาเป็นภูมิปัญญาที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต ใบกะพ้อ โพทะเล หรือแม้กระทั่งใบยางพารา เป็นเพียงแค่ตัวอย่างของการนำทรัพยากรในชุมชนมาปรับใช้ <TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD>[​IMG]
    </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สิ่งที่น่ากังวลคือเมื่อวิถีเศรษฐกิจเปลี่ยนไป ป่าชุมชน ป่าพรุ และพื้นที่ที่เคยมีพืชพรรณธรรมชาติ พื้นที่ป่าละเมาะสาธารณะที่เคยใช้ร่วมกัน ก็กลายเป็นพื้นที่ถูกบุกรุก มีเจ้าของ ถูกจับจอง และกลายเป็นพืชเชิงเดี่ยวแบบสวนยางพาราหรือสวนปาล์มน้ำมัน แหล่งสรรพอาหารสมุนไพรที่คนยากจนคนทั่วไปในชุมชนสามารถพึ่งพาได้ก็จะค่อยๆ ลดน้อยลง ขนมต้มหรือพืชพรรณอื่นๆ อาจจะกลายเป็นอดีตอันลางเลือนของอนาคตไปก็ได้

    การลดลงของต้นไม้ท้องถิ่น ทำให้รายการทุ่งแสงตะวันคิดถึงเรื่องราวที่จะสะท้อนคุณค่าความงามและความหมายของพืชเหล่านั้น และในที่สุดเราก็พบชุมชนหมู่บ้านและเด็กๆ ที่จะบอกเล่าเรื่องราวความสัมพันธ์ระหว่างคนกับต้นกะพ้อ ที่บ้านในไร่ ต.ท่ามะเดื่อ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง

    ในแสงแดดสวยลม พัดอ่อนๆ เด็กๆ และคุณป้าคุณน้า ตั้งวงเตรียมทำขนมจากใบกะพ้อ

    เริ่มต้นด้วยการริดหนามออกแล้วเลือกเฉพาะใบอ่อนๆ ตัดเล็มปลายใบให้เรียบ ร้อย บางคนตัดแยกเป็นใบๆ บางคนก็จะห่อขนมให้ติดกันเป็นพวง ผึ่งแดดไว้ 2-3 วัน จะห่อได้ดีที่สุด

    เด็กๆ บ้านในไร่ น้องโปเต้ ด.ญ.เนตรนภา มาสุข กับ น้องออม ด.ญ. สุนิสา ปฏิสุวรรณ ช่วยกันเล่าว่า "นอก จากเราเอายอดใบพ้อมาห่อขนมต้มแล้ว ลูกของต้นพ้อยังมีสรรพคุณทางยา ด้วยค่ะ คือเป็นยาระบาย ลูกสุกๆ เป็นอาหารของนกนานาชนิด ใบแก่ๆ ก็นำมาสานเสื่อได้ บางที่ใช้ลำต้นทำรั้วบ้าน และสะพานก็มีค่ะ"

    คุณน้าคุณป้าผัดข้าวเหนียวกับกะทิเพื่อใช้ทำขนมต้ม จากนั้นต้องรอให้ข้าวเหนียวกะทิเย็นลงสักพักก่อนจะลงมือห่อข้าวเหนียว

    เด็กๆ วิ่งเล่นเลียบเคียงรอว่าเมื่อไหร่จะได้ลองห่อข้าวต้มดูสักที พวกหนูอยากเรียนรู้อีกหน่อยโตขึ้นจะได้ทำเป็น คุณป้าคุณน้าจะได้พักให้คนรุ่นหลังทำแทน

    คนใต้เรียกการห่อข้าวเหนียวนี้ว่า การทำต้ม หรือ แทงต้ม ดูๆ ไปแล้วคิดว่าที่เรียกแทงต้ม เพราะต้องนำก้านกะพ้อสอดแทงกันไปมากว่าจะเป็นรูปขนมสามเหลี่ยมที่สวยงามน่าประหลาดใจ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นตอก เชือก ไม้กลัด ฯลฯ

    จากนั้นก็นำไปนึ่งให้สุกเป็นอันเสร็จ ถ้าจะให้อร่อยหอมอยู่ทนทานไม่บูดเสียง่าย ก็นำไปย่างไฟอีกครั้งหนึ่ง ภูมิปัญญาคนไทยพื้นบ้านมีเรื่องราวให้เรียนรู้มากมายไม่รู้จบจริงๆ

    ใบหน้าอันไร้เดียงสาของเด็กๆ ก้มลงเพ่งที่มือน้อยๆ ของตนกำลังขะมักเขม้นฝึกห่อฝึกแทงต้มทำให้เราตระหนักว่า การช่วยกันเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับทรัพยากรที่เหมือนไร้ค่า แต่แท้จริงแล้วทรงคุณค่าและสะท้อนมิติเกี่ยวกับทรัพยากรท้องถิ่นและผู้คนในชุมชนนั้นเป็นสิ่งจำเป็นจริงๆ

    หากต้องการรับรู้เรื่องราวการแทงต้มอันน่าอัศจรรย์ใจ และความสัมพันธ์ระหว่างพืชธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอย่าง "พ้อ" ติดตามทุ่งแสงตะวัน ตอน ต้มพุงแตก เช้าวันเสาร์ที่ 29 พ.ค. เวลา 06.25 น. ช่อง 3 www.payai.com
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    บุกจับโรงงาน"น้ำปลาปลอม"มีสารกันปูดสูงเกินกว่ากำหนด

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    Matichon Online: ˹ѧ

    บุกจับโรงงาน"น้ำปลาปลอม"มีสารกันปูดสูงเกินกว่ากำหนด

    <STYLE> P { margin: 0px; } </STYLE>
    http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1274945244&grpid=&catid=04

    นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวเมื่อวันที่ 27 พ.ค.ถึงการจับกุมโรงงานผลิตน้ำปลาปลอม ว่า สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ได้รับการร้องเรียนเรื่องโรงงานผลิตน้ำปลาไม่ได้คุณภาพ ซึ่งพบมากในเขตภาคกลาง โดยเป็นแหล่งใหญ่ที่กระจายน้ำปลาไปยังจังหวัดใกล้เคียง จึงได้แจ้งให้สำนักงานปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ไปสอบสวนจับกุมผู้กระทำผิดมาดำเนินคดี จากการตรวจสอบพบว่า โรงงานผลิตน้ำปลาที่มีการร้องเรียน คือ โรงงานน้ำปลาบุญเทือง ตั้งอยู่เลขที่ 39/1 หมู่ 4 ต.อินทร์บุรี อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี ซึ่งเป็นโรงงานขนาดใหญ่ผลิต 3 ยี่ห้อ ได้แก่ ตรา 3 แมงดา ตราดีเด่น และตราปลาไส้ตันคู่ระยอง เบื้องต้นพบเป็นน้ำปลาผสม ไม่ได้มาตรฐาน โดยมีค่าไนโตรเจนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 4 กรัมต่อลิตร แต่กลับพบเพียง 0.7 กรัมต่อลิตร เข้าข่ายอาหารปลอม และยังพบมีสารกันปูดเกินค่ามาตรฐาน 1,000 มิลลิกรัมต่อลิตร แต่กลับพบสูงถึง 3,400-4,000 มิลลิกรัมต่อลิตร

    นายจุรินทร์ กล่าวอีกว่า หากผู้บริโภครับประทานเป็นเวลานาน จะทำให้เกิดสารตกค้าง ส่งผลต่อไต อย่างไรก็ตาม ได้สั่งการให้มีการส่งตัวอย่างน้ำปลาตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อหาเชื้อจุลินทรีย์ปนเปื้อน และได้มีการยึดผงสีขาวที่ใช่ในกระบวนการผลิต ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นผงปรุงรสตรวจสอบเพิ่ม เนื่องจากเกรงเป็นสารอันตราย นอกจากนี้ ยังได้อายัดเครื่องจักรจำนวน 32 แรงม้า และน้ำปลา ขวดเปล่า และจากการตรวจสอบข้อมูลของโรงงานพบว่า มีการกระทำผิดกระบวนการผลิตซ้ำซากไม่ได้มาตรฐาน แม้จะได้รับการตักเตือนถึง 8 ครั้ง โดยมูลค่าของกลางที่ยึดได้รวม 7 ล้านบาท

    "สำหรับบทลงโทษ ได้แก่ 1. ผลิตอาหารโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 2. สถานที่ผลิตไม่ผ่านหลักเกณฑ์ GMP มีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท และ3. หากผลตรวจพบเชื่อจุลินทรีย์และสิ่งปนเปื้อน จะได้รับโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท และหากพบผลตรวจตกเรื่องคุณค่าทางอาหาร เข้าข่ายอาหารปลอมได้รับโทษจำคุก ตั้งแต่ 6 เดือน -10 ปี และปรับ 5,000 บาท -100,000 บาท" รัฐมนตรี สธ. กล่าว

    ด้านนพ.พิพัฒน์ ยิ่งเสรี เลขาธิการ อย. กล่าวว่า โรงงานดังกล่าวมีการผลิตน้ำปลา และจำหน่ายน้ำปลาส่วนใหญ่ในพื้นที่จ.พระนครศรีอยุธยา ในราคาถูกกับผู้ค้า เพียงขวดละ 2 บาท ทำให้มีคนนิยมซื้อ เพราะราคาถูก ทางที่ดีที่สุด ประชาชนไม่ควรบริโภคน้ำปลาที่มีราคาถูกมากเกินไป เพราะอาจเป็นข้อที่ไม่ได้คุณภาพ แต่ควรเลือกซื้อน้ำปลาที่ได้มาตรฐาน โดยเลือกจากยี่ห้อที่ได้รับความนิยมในท้องตลาด มีสีที่ไม่เข้มจนเกินไป ไม่มีตะกอนที่ขวด และในอนาคตเตรียมนำรายซื้อผลิตภัณฑ์ที่ได้รับมาตรฐานและผ่านการรับรองขึ้นเว็บไซด์ของ อย. เพื่อแจ้งให้ผู้บริโภคทราบ
     

แชร์หน้านี้

Loading...