พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ในห้อง 'งานบุญอื่นๆ' ตั้งกระทู้โดย sithiphong, 23 ธันวาคม 2005.

  1. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>นิทานสอนใจ : 'เพชร' ที่หาได้จากโคลนในถิ่นสลัม
    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>30 พฤษภาคม 2553 10:58 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เล่าโดย...ท่านพุทธทาสภิกขุ แห่งสวนโมกขพลาราม

    เรื่อง "เพชรที่หาได้จากโคลนในถิ่นสลัม" อาตมาต้องขอใช้คำอย่างนี้ เพราะไม่ทราบว่าจะใช้คำอย่างไรดี เรื่องนี้เล่าว่า อาจารย์แห่งหนึ่งนิกายเซ็น ชื่อ กูโด เป็นอาจารย์ของพระจักรพรรดิแห่งประเทศญี่ปุ่นในสมัยนั้น ท่านอาจารย์องค์นี้ชอบเที่ยวไปไหนคนเดียวโดดๆ อย่างนักบวชเร่ร่อนแบบปริพพาชก ไม่ค่อยได้อยู่กับวัดวาอาราม

    ครั้งหนึ่งท่านเดินทางไปยังตำบลอีโด เพื่อประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งของท่านที่จะมีแก่คนอื่น ท่านได้ผ่านตำบลๆ หนึ่ง เย็นวันนั้นฝนก็ตกลงมา ท่านจึงเปียกปอนไปหมด และร้องเท้าของท่านที่ใช้ เป็นรองเท้าทำด้วยฟาง เพราะนักบวชนิกายเซ็นใช้รองเท้าฟางถักทั้งนั้น เมื่อฝนตกตลอดวันรองเท้าก็ขาดยุ่ยไปหมด ท่านจึงเหลียวดูว่า จะมีอะไรที่ไหนจะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้บ้าง ก็พบกระท่อมน้อยๆ แห่งหนึ่งในถิ่นใกล้ๆ นั้น เห็นมีร้องเท้าฟางแขวนอยู่ด้วย จึงคิดจะไปซื้อสักคู่หนึ่งมาใส่เพื่อเดินทางต่อไป แต่หญิงเจ้าของบ้านเธอถวายให้เลยไม่ต้องซื้อ และเมื่อเห็นว่าเปียกปอนมาก ก็ขอนิมนต์ให้หยุดอยู่ก่อน เพราะฝนตกจนค่ำ ท่านก็เลยต้องพักอยู่ที่บ้านนั้น ด้วยคำขอของหญิงเจ้าของบ้าน

    หญิงเจ้าของบ้านเรียกเด็กๆ และญาติๆ มาสนทนาด้วย ท่านอาจารย์ได้สังเกตเห็นว่า สกุลนี้เป็นอยู่ด้วยความลำบาก ก็เลยขอร้องให้บอกตรงๆ โดยไม่ต้องเกรงใจว่าเรื่องมันเป็นอย่างไร หญิงเจ้าของบ้านก็บอกว่า

    "สามีของดิฉันเป็นนักการพนัน แล้วก็ดื่มจัด ถ้าเผอิญเขาชนะ เขาก็ดื่มมันจนไม่มีอะไรเหลือ ถ้าเขาแพ้ ก็ยืมเงินคนอื่นมาเล่นอีก เพิ่มหนี้สินให้มากยิ่งขึ้น เขาไม่เคยมาบ้านเลย เป็นวันเป็นคืน หรือหลายวันหลายคืนก็ยังมี ดิฉันไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี"

    ท่านอาจารย์กูโดก็บอกไปว่า ไม่ต้องหรอก ฉันจะช่วยทำ แล้วท่านก็กล่าวต่อว่า "นี่ฉันมีเงินมาบ้าง ช่วยซื้อเหล่าองุ่นมาให้เหยือกใหญ่ๆ แล้วก็อะไรๆ ที่ดีๆ ที่น่ากินเอาให้เพียงพอ จากนั้นเอามาวางที่นี่แล้วก็กลับไปทำงานตามเรื่องเถอะ ฉันจะนั่งอยู่ที่นี่ตรงหน้าที่บูชานี้ (หมายความว่าบ้านนี้มีหิ้งบูชา)"

    เมื่อชายคนนั้นกลับมาบ้าน เวลาดึก เขาก็เมา เขาก็พูดตามประสาคนเมา นี่คำนี้หมายความว่ายังไง Hey! Wife ก็ต้องแปลว่า เมียโว้ย มาบ้านแล้วโว้ย มีอะไรกินบ้างโว้ย ตัวหนังสือเขาเป็นอย่างนี้ ซึ่งมันก็เหมือนๆ กับในเมืองไทยเรา ลองคิดดูว่าคนๆ นี้จะเป็นอย่างไร ฉะนั้นท่านกูโดท่านอาจารย์ที่นั่งที่หน้าหิ้งพระก็ออกรับหน้า บอกว่า ฉันได้มีทุกอย่างสำหรับท่าน เผอิญฉันมาติดฝนอยู่ที่นี่ ภรรยาของท่านขอร้องให้ฉันพักค้างฝนที่นี่ตลอดคืนนี้ ฉันก็ควรมีส่วนตอบแทนท่านบ้าง ฉะนั้นขอให้ท่านบริโภคสิ่งเหล่านั้นตามชอบใจ

    ชายคนนั้นดีใจใหญ่ เพราะมีทั้งเหล้าองุ่น มีทั้งปลา มีทั้งอาหารต่างๆ เขาก็ดื่ม และรับประทานจนนอนหลับอยู่ข้างๆ เข่าของท่านอาจารย์กูโดที่นั่งสมาธิตลอดคืน ที่นี้พอตื่นขึ้นมาตอนเช้า ชายคนนั้นก็ลืมหมดไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เพราะเมื่อคืนนี้เขาเมาเต็มที่ และถามว่า ท่านเป็นใคร และจะไปค้างไหน ท่านอาจารย์ก็ตอบว่า อ๋อ! อาตมาคือกูโด แห่งนครกโยโต (Kyoto เกียวโต) กำลังจะไปธุระที่ตำบลอิโด

    ตามเรื่องที่ว่ามาแล้วเมื่อกี้ ถ้อยคำอย่างนี้มันประหลาดที่ว่า บางครั้งก็มีอิทธิพลมากมาย คือว่า ชายคนนั้นละอายจนที่จะรู้ว่าจะอยู่ตรงไหน จะแทรกแผ่นดินหนีไปที่ไหน ก็ทำไม่ไหว แทรกไปไม่ได้ มันละอายมากแล้วก็ขอโทษขอโพย ขอแล้วขออีกจนไม่รู้จะขออย่างไรต่ออาจารย์ของพระจักรพรรดิ ซึ่งจับพลัดจับผลูเข้ามาอยู่ที่บ้านเขา ท่านกูโดก็ยิ้มละไมอยู่เรื่อย และก็พูดขึ้นช้าๆ บอกว่า

    "ทุกอย่างในชีวิตนี้มันเปลี่ยนแปลงเรื่อย เป็นกระแสไหลเชี่ยวไปทีเดียว และทั้งชีวิตนี้มันก็สั้นเหลือเกินด้วย ถ้ายังเล่นการพนัน และดื่มอยู่ดังนี้ ก็หมดเวลาที่จะทำอะไรอื่นให้เกิดขึ้น หรือสำเร็จได้ นอกจากทำตัวเองให้เป็นทุกข์แล้ว ก็จะทำให้ครอบครัวพลอยตกนรกทั้งเป็นกันไปด้วย"

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=350 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=350>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>การพนันเป็นสิ่งผิดกฎหมาย (ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต) </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ความรู้สึกอันนี้ได้ประทับใจนายคนนั้น มีอาการเหมือนกับว่า ตื่นขึ้นมาในโลกอื่น เหมือนกับตื่นขึ้นมาจากความฝัน ในที่สุดก็พูดกับท่านอาจารย์ว่า ที่ท่านอาจารย์กล่าวนั้นมันถูกหมดเลย มันถูกอย่างยิ่ง ถ้าอย่างไรก็ขอให้กระผมได้สนองพระคุณอาจารย์ในคำสั่งสอนที่ประเสริฐนี้ เพราะฉะนั้นขอให้กระผมออกติดตามท่านอาจารย์ ไปส่งท่านอาจารย์ในการเดินทางนี้ สักระยะหนึ่ง ท่านอาจารย์กูโดก็บอกว่าตามใจ

    สองคนก็ออกเดินทางไปได้ประมาณสัก 3 ไมล์ ท่านอาจารย์ก็บอกว่า กลับเถอะ นายคนนี้ก็บอกขออีกสัก 5 ไมล์เถอะ คะยั้นคะยอขอไปอีก 5 ไมล์ แล้วก็ไปด้วยกันอีก พอครบ 5 ไมล์ อาจารย์คะยั้นคะยอให้กลับอีกว่า ถึงคราวที่จะต้องกลับแล้ว นายคนนั้นก็บอกว่าขออีกสัก 10 ไมล์เถอะ ในที่สุดก็ต้องยอม พอถึง 10 ไมล์ ท่านอาจารย์ก็คะยั้นคะยอให้กลับ เขาก็บอกว่า ขอตลอดชีวิตของผมเถอะ นี่เป็นอันว่า ไปกับท่านอาจารย์ไปเป็นนักบวชแห่งนิกายเซ็น ซึ่งต่อมาก็เป็นปรมาจารย์พุทธศาสนาแห่งนิกายเซ็นในญี่ปุ่น ซึ่งนิกายเซ็นทุกสาขาที่เหลืออยู่ในญี่ปุ่น ล้วนแต่เป็นลูกศิษย์ที่สืบมาจากอาจารย์องค์นี้องค์เดียว ท่านกลับตัวกลับใจชนิดที่เราเรียกกันว่า "เพชรที่พบจากโคลนในถิ่นสลัม"

    เป็นอย่างไรบ้างก็ลองคิดดู ในประเทศญี่ปุ่นนายกรัฐมนตรีบางคนก็มาจากเด็กที่ขายเต้าหู้ หาบเต้าหู้ขายจนมีสตางค์ จนไปเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ จากเป็นเด็กส่งหนังสือพิมพ์ ก็เป็นนักเขียนหนังสือพิมพ์น้อยๆ สั้นๆ และเขื่องขึ้นๆ จนเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์ที่มีชื่อเสียง และไปเป็นนายกรัฐมนตรีสมัยหนึ่งในที่สุด

    นี่เราจะบอกกับเด็กๆ ตาดำๆ ของเราว่า เขาจะทำตัวให้เป็นเหมือนกับ "เพชรที่พบในโคลนจากถิ่นสลัม" ได้อย่างไร โดยมากเขามักจะขายตนเองเสียถูกๆ จนเป็นเหตุให้เขาวกไปหาความสุขทางเนื้อทางหนังต่ำๆ เตี้ยๆ ไม่น่าดูนั้น ก็เพราะว่าเขาเป็นเด็กที่ไม่เคารพตัวเอง ท้อถอยต่อการที่จะคิดว่ามันจะเป็นได้มากอย่างนี้

    พระพุทธเจ้าท่านก็ยังตรัสว่า เกิดมาเป็นคนไม่ควรให้ตัวเอง "อัตตานัง นะ ทะเทยยะโปโส" แปลว่า เป็นลูกผู้ชาย เป็นบุรุษ ไม่ควรให้ซึ่งตน คำว่า "ให้ซึ่งตน" หมายความว่า ยกตนให้เสียแก่กิเลส หรือธรรมชาติฝ่ายต่ำ ไม่ได้คิดที่จะมีอะไรที่มั่นคง จริงจัง ข้อนี้เรียกว่า เราควรจะถือเป็นหลักจริยธรรมข้อหนึ่งด้วยเหมือนกัน


    ///////////////

    *** ทางทีมงาน Life and Family ขอขอบคุณ นิทานเรื่องสั้น: นิทานเซ็น มหรสพทางวิญญาณเพื่อจริยธรรม เล่าโดย...ท่านพุทธทาสภิกขุแห่งสวนโมกขพลาราม ณ หอประชุมคุรุสภา พุทธศักราช 2505 จัดพิมพ์โดย สำนักพิมพ์ ธรรมสภา
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  2. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>แนะ 3 สูตรทำลาย "ธาตุเครียด" คนสุข บ้านก็สุข
    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>29 พฤษภาคม 2553 15:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขอบคุณภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> แม้จะผ่านเหตุการณ์ความไม่สงบไปหลายวันแล้ว แต่เชื่อว่าภาพความรุนแรงเหล่านั้นยังคงฝังอยู่ภายใต้จิตสำนึกของประชาชนไม่ลืมเลือน โดยเฉพาะครอบครัวที่ติดตามข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนครอบครัวที่ได้รับผลกระทบโดยตรง

    ภาพที่ได้รับเหล่านั้น เปรียบเสมือนเป็น "ธาตุเครียด" ที่หากบ้านไหนได้รับ และไม่รู้จักวิธีจัดการ ธาตุเหล่านั้นอาจจะกัดกินสมอง และเข้าไปทำลายส่วนที่เป็นความจำดีๆ ได้ และหากปล่อยทิ้งไว้นาน การควบคุมอารมณ์จะอ่อนแอ สามารถถูกปลุก และกระตุ้นได้ง่าย เกิดเป็นความแตกหัก และความขัดแย้งในครอบครัวตามมา

    เนื่องในวันหยุดพักผ่อนนี้ "นพ.กฤษดา ศิรามพุช" ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์อายุรวัฒน์นานาชาติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเวชศาสตร์อายุรวัฒน์ ได้เผยเคล็ดในการล้างทุกข์ออกจากสมองว่า ต้องใช้เทคนิคลอกทีละชั้นแทนการหักดิบ โดยแนวอายุรวัฒน์นั้น มีอยู่ 3 ข้อหลักคือ การผ่อนชีวิต คิดให้สวย ช่วยด้วยสัมผัส

    สูตรแรก "การผ่อนชีวิต"

    สูตรนี้ เรียกว่า "สโลไลฟ์ (Slow life)" ซึ่งไม่ได้หมายความว่า ให้ขี้เกียจ แต่ต้องปรับตัวดังนี้

    1. นอนเร็วขึ้น อ่านหนังสือให้มากขึ้นเพื่อให้สมองได้พักจดจ่ออยู่นิ่ง เพราะถ้าว่างจัด สมองจะคิดว้าวุ่นไปจนเหนื่อย

    2. กินข้าวเป็นเวลา โดยจัดเวลาอาหารให้ท้อง และสมองให้ใกล้เวลาเดียวกัน แม้จะมีงานค้างอยู่แต่ขอให้หาเวลารับประทานให้ได้เป็นเวลาใกล้เคียงกันในแต่ละวันด้วย

    3. ทำกิจกรรมทีละอย่าง เช่น ถ้ากินข้าวก็กินอย่างเดียว อย่าดูทีวีหรืออ่านหนังสือ อาจมีคุยกันบ้างระหว่างรับประทานอาหาร เป็นการผ่อนสมองจากที่ต้องทำ "พหุงาน (Multitasking job)" พร้อมกันเวลาทำงาน

    สูตรสอง "คิดให้สวย"

    ให้คิดว่า "สมอง" เหมือน "คอมพิวเตอร์" ที่ยิ่งเก็บข้อมูลดีๆ ไว้มากก็จะยิ่งทำให้เครื่องสะอาดและทำงานคล่อง เก็บไว้จนล้นเลยยิ่งดี นอกจากนี้ ทุกขณะที่เป็นภาพสร้างความสุขให้หัวใจ ขอให้บันทึกเก็บไว้ เพราะยามใดที่หลับตา สมองจะเล่นภาพนั้นขึ้นมาโดยอัตโนมัติ เช่น เปิดหน้าต่างออกมองท้องฟ้ากว้างสีฟ้าสวยแล้วถ่ายภาพเก็บไว้ในหัว แหงนดูดารายามค่ำคืนแล้วจะรู้สึกสงบเย็นไม่เป็นตัวตนอัตตา

    "ขอให้รู้สึกว่า ทุกนาทีชีวิตเป็นความสวยงามที่ต้องซาบซึ้งให้มากที่สุด นั่งวาดภาพสวยๆ ด้วยตัวเอง ชอบภาพไหนให้นึกไว้ แล้ววาดออกมา ภาพข่าวใดที่น่ากลัวให้มองผ่านไปอย่าประทับในใจให้แน่นนัก ให้ตระหนักอยู่เสมอว่า ชีวิตสั้นมาก ขอให้ใช้สร้างสุขให้มากที่สุด"

    สูตรสาม "ช่วยด้วยสัมผัส"

    การถูกลูบไล้ให้ตรงจุดนั้น ช่วยปรุงให้เกิดความสบายขึ้นมาจากกายสู่ใจ ดังนั้นวิธีดูว่าใครนวดดีหรือไม่ ต้องนวดแล้วรู้สึกสบายออกมาจากใจนั่นแปลว่าใช่เลย โดยวิธีสัมผัสนั้นอาจเริ่มจากตัวเราทำเองก่อนดังนี้ คือ

    แช่น้ำอุ่นสักพักแล้วใช้ฟองน้ำ หรือผ้าขนหนูถูตัวสักครึ่งชั่วโมง เวลานอนให้เอาเท้าสองข้างถูกันไปมาจนกว่าจะหลับสนิท เอามือดันศีรษะแบบต้านแรงกันทีละข้าง ซ้าย ขวา หน้า และหลัง จุดน้ำมันหอมแบบ "สุคนธบำบัด" แล้วใช้น้ำมันหอมนั้นนวดตามจุดชีพจร ถ้าบำบัดเองไม่หายก็อาจลองหา "นักนวด" มานวดแบบผ่อนคลายให้ก็ช่วยได้ไม่น้อย

    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  3. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=headline vAlign=baseline align=left>บทเรียนในคืน "เวียนเทียน" ที่ทุกบ้านต้องระวัง!
    Life & Family - Manager Online
    </TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#cccccc height=1>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left>โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์</TD><TD class=date vAlign=baseline align=left>28 พฤษภาคม 2553 08:06 น.</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=center align=middle>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=4 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=left border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=240 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=240>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขอบคุณภาพจากคุณ andayant ในเว็บ shutterphoto.com</TD></TR></TBODY></TABLE></TD><TD width=5>[​IMG]</TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> เวียนมาบรรจบกันอีกวาระในวัน "วิสาขบูชา" วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาที่เช้าตรู่ของวันนี้ หลายครอบครัวต่างชวนกันตื่นขึ้นมาทำบุญตักบาตรทั้งหน้าบ้าน และที่วัด ในขณะที่เวลาพระอาทิตย์ลาลับขอบฟ้า พลาดไม่ได้ที่จะไปจุดเทียนเวียนวนรอบพระอุโบสถ ตั้งจิตรำลึกถึงคุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

    แต่ถึงกระนั้น การไปเวียนเทียนที่วัด นอกจากจะมีสติ และสมาธิในการเดินเวียนแล้ว ยังต้องระวังภัยที่จะเกิดขึ้นกับคนในครอบครัวตามมาด้วย ติดตามได้จากบทเรียนที่ทีมงาน Life & Family ได้เจอกับตัวเอง และถูกบอกเล่าจากเพื่อนๆ คนสนิทที่ไม่อยากให้เกิดขึ้นกับครอบครัวอื่นๆ จึงนำมาส่งต่อให้ทุกบ้านได้ระวังตัว และภัยในค่ำคืนวันพระใหญ่ที่จะถึงนี้กัน

    ระวัง...มันอยู่ข้างหลัง

    เหตุการณ์ที่จะพูดถึงนี้ น่าจะเคยเกิดขึ้นมาแล้วในบางครอบครัว เพราะเดินเวียนเทียนอยู่ดีๆ ก็มีธูป-เทียนของคนข้างหลังมาจี้หลังเข้าให้ ซึ่งถ้าจี้เข้าเสื้อไม่เท่าไร แต่ถ้าจี้เข้าเสื้อแล้วทะลุถึงผิวหนังล่ะก็ เป็นอันต้องร้องซี๊ดขึ้นมาแน่นอน

    ส่วนผู้หญิงที่มีผมยาว อาจจะไม่ถูกจี้เข้าเสื้อเพียงอย่างเดียว แต่จะถูกจี้เข้าที่เส้นผมก็เป็นได้ หรือบางคนถูกจี้ไม่รู้ตัว มารู้อีกที ก็ตอนกลับถึงบ้านแล้ว ดังนั้น ขณะเดินเวียนเทียน ขอแนะนำว่า ควรเดินตรงบริเวณรอบนอกหรือเวียนวงนอก หลีกเลี่ยงการเดินเวียนในกลุ่มคนที่เบียดเสียด หรืออัดแน่นจนเกินไป

    ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ ก่อนไปเวียนเทียน ผู้หญิงที่มีผมยาว ควรรวบผมให้เรียบร้อย เวลาเวียนเทียนควรมีสมาธิตั้งมั่นกับการเวียน ขณะเดียวกันยังต้องมีสติ และระวังคนเดินข้างหน้าด้วย ส่วนเด็กไม่ควรให้ถือธูป หรือเทียน เพราะอาจพลาดไปจี้คนข้างหน้าได้ แต่ถ้าเด็กไม่ยอมก็ไม่ควรที่จะจุดไฟให้เด็ก

    เมื่อ "โจร" มาจุดเทียนเวียนวน

    เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นบ่อยสำหรับวัดที่มีผู้มาเวียนเทียนจำนวนมาก ทางที่ดีไม่ควรพกกระเป๋าเงินมาด้วย ควรเก็บไว้ในรถ หรือพกเงินเท่าที่จำเป็นมาเท่านั้น และควรเก็บไว้อย่างมิดชิด รวมไปถึงโทรศัพท์มือถือด้วย ถ้ามีสายห้อยคอ ควรนำมาห้อย และเก็บใส่กระเป๋าเสื้อจะช่วยป้องกันได้มาก หรือถ้าไม่ห้อยสาย ก็ควรเก็บไว้อย่างมิดชิด หรืออาจจะถือไว้ในมือก็ได้

    รองเท้าหาย-ใส่ผิดคู่

    นอกจากทรัพย์สินที่มีค่าแล้ว "รองเท้า" ถือเป็นของที่ต้องระวังเช่นกัน โดยบางวัดจะให้ครอบครัว และคู่ที่มาเวียนเทียน ถอดรองเท้าก่อน ซึ่งอาจะมีจุดรับฝากไว้จุดใดจุดหนึ่ง แต่สำหรับบางวัดที่ไม่มี ไม่ควรถอดรองเท้าทิ้งไว้ไกล หรือถ้าจำเป็นต้องถอดให้ถอดรวมกันเป็นกลุ่ม และไม่ควรใส่รองเท้าราคาแพงไปวัด เพราะถ้าหายจะได้ไม่เสียดาย

    สำหรับวิธีการป้องกันรองเท้าหาย หรือใส่ผิดคู่นั้น เมื่อปีที่ผ่านมา ทีมงานเคยเห็นครอบครัวหนึ่งหิ้วถุงผ้ามาใส่รองเท้า ซึ่งแต่ละคนจะคล้องถุงผ้าไว้ที่แขน หรือถือสะพายไหล่เอาไว้ขณะเดินเวียนเทียน ความคิดนี้น่าสนใจทีเดียว ลองนำไปใช้กันดูนะครับ

    "ลูกหลง" ในคืนเวียนเทียน

    เรื่องเด็ก เป็นสิ่งที่พ่อแม่ต้องระวังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเด็กเล็ก การพาลูกเล็กวัยกำลังซนไปเวียนเทียน พ่อแม่ควรดูแลอย่างใกล้ชิด อย่าให้คลาดสายตา เพราะลูกอาจหลงไปกับกลุ่มคนที่มาร่วมเวียนเทียน หรือถ้าซ้ำร้ายไปกว่านั้น อาจถูกล่อลวงจากเหล่ามิจฉาชีพก็เป็นได้

    </TD></TR><TR><TD class=body vAlign=baseline align=left><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 align=center border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width=400 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top align=middle width=400>[​IMG] </TD></TR><TR><TD class=Image vAlign=baseline align=left>ขอบคุณภาพจากคุณ andayant ในเว็บ shutterphoto.com</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR><TR><TD vAlign=top align=middle height=5>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE> ทางที่ดี ก่อนไปเวียนเทียน พ่อแม่ควรสังเกตสิ่งรอบตัว และให้ชุดความรู้กับลูกก่อนว่า เมื่อลูกหลงจะต้องเดินไปรอพ่อแม่อยู่ที่จุดไหน หรือเดินไปหาใคร เช่น วัดบางแห่งจะมีจุดประชาสัมพันธ์ หรือมีมัคนายกคอยพูดบอกบุญผ่านเครื่องขยายเสียง ดังนั้นเมื่อลูกหลง และเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่กลุ่มดังกล่าว จะได้ประกาศหาตัวพ่อแม่มาพบได้ และที่สำคัญควรบอกลูกอยู่เสมอว่า ต้องไม่ไปไหนกับคนแปลกหน้าเด็ดขาด

    "โอ๊ยๆ" ในคืนเวียนเทียน

    อย่าเพิ่งคิดไปไกลนะครับ เพราะโอ๊ยๆ เป็นเสียงร้องที่หากใครถูกน้ำตาเทียนหยดใส่เท้า หรือมือเข้าแล้ว เป็นอันต้องร้องเป็นธรรมดา ดังนั้นวิธีการป้องกันน้ำตาเทียน ควรมีเครื่องป้องกันน้ำตาเทียนอย่าง "เชิงเทียน" ซึ่งนอกจากจะป้องกันน้ำตาเทียนหยดใส่มือ หรือเท้าแล้ว ยังไม่ทำให้พื้นวัดเปรอะเปื้อนไปด้วยหยดเทียนอีกด้วย โดยอาจจะใช้กระดาษแข็งตัดรองเทียนแล้วถือ หรือประดิษฐ์ขึ้นเองจากขวดเหลือใช้ก็ได้

    หากบ้านใดประดิษฐ์ไม่เป็น และไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไร สามารถเข้าไปดูเทคนิคการทำเชิงเทียนลดโลกร้อนเก๋ๆ ได้จากข่าว "เวียนเทียนปีนี้ มาทำ 'เชิงเทียนเก๋ๆ' กับลูกกันดีกว่า" เป็นเทคนิคง่ายๆ ที่ทีมงานเก็บมาฝากทุกบ้านไว้ทำกับลูกก่อนไปเวียนเทียนในคืนนี้กันครับ

    นี่เป็นเพียงบทเรียนเบื้องต้นที่ทุกบ้านต้องระวังในค่ำคืนเวียนเทียน ค่ำคืนในวันพระใหญ่ที่จะถึงนี้ อย่างไรก็ดี หลังจากเวียนเทียนกันเสร็จแล้ว ก่อนกลับบ้าน ชวนกันเก็บเศษขยะภายในบริเวณวัดกันสักหน่อยก็น่าจะเข้าท่า ถือซะว่าเป็นการชวนลูกให้มีส่วนร่วมในการทำความดีจากสิ่งเล็กๆ โดยไม่หวังสิ่งตอบแทนละกันครับ^_^

    ///////////////////

    ข้อมูลประกอบข่าว

    แต่เดิมการเวียนเทียนกำหนดไว้ 3 วัน คือ วันวิสาขบูชา วันอัฏฐมีบูชา และวันมาฆบูชา ต่อมาได้เพิ่มวันอาสาฬบูชาเข้ามาอีกวันหนึ่ง รวมเป็น 4 วัน สำหรับประเทศไทยได้รับพิธีการเวียนมาจากอินเดีย พร้อมกับพระพุทธศาสนา โดยปรากฏหลักฐานการแสดงความเคารพโดยการเวียนเทียนในพระไตรปิฎก ซึ่งใช้คำว่า เวียนประทักษิณาวัตร คือ เวียนขวา 3 รอบ เป็นเครื่องหมายถึงการแสดงออกซึ่งการเคารพบูชาต่อสิ่งนั้นๆ อย่างสูงสุด

    นอกจากนี้ ไทยได้รับคตินิยมนี้ และมาปรับประยุกต์ให้เข้ากับพื้นฐานทางวัฒนธรรมของไทย โดยนำมาใช้เป็นการแสดงความบูชาต่อพระรัตนตรัยมาตั้งแต่โบราณ ซึ่งมีหลักฐานปรากฏเป็น "ฐานประทักษิณ"

    สำหรับการกระทำพิธีเวียนเทียนในโบราณสถานทางศาสนา มีมาตั้งแต่สมัยทวารวดี รวมทั้งปรากฏข้อความในพงศาวดารว่า มีการกระทำพิธีเวียนเทียนในวันสำคัญทางศาสนา สืบมาจนถึงปัจจุบัน

    ส่วนการเวียนเทียนจะเวียน ทางขวา หรือ ทางซ้าย นั้น มีทั้งการเวียนขวาซึ่งเรียกว่า ทักษิณาวรรต หรือ ประทักษิณ และการเวียนซ้ายซึ่งเรียกว่า อุตราวรรต แต่เป็นคติความเชื่อแต่โบราณว่า ขวาเป็นมงคล ซ้ายเป็นอวมงคล ดังนั้นการเวียนซ้าย หรืออุตราวรรต นิยมใช้ในงานอวมงคล เช่น การนำโลงศพเวียนซ้ายรอบจิตการธาน อันเป็นการลาลับโลกนี้ไป
    </TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  4. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  5. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    <TABLE class=tborder border=0 cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%"><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 29 คน ( เป็นสมาชิก 2 คน และ บุคคลทั่วไป 27 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>psombat, sithiphong+ </TD></TR></TBODY></TABLE>

    สวัสดีครับพี่ แหวนสวยดีครับ :)
     
  6. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    โมทนาสาธุครับ...
     
  7. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

    อ่า แล้วดีป่าวครับ แรงป่าวครับ อิอิ

    ({)-------------------------
    .
     
  8. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    คิดว่าดีนะครับ แต่แรงหรือเปล่านี่...ต้องทดสอบที่นิ้วนางข้างขวาซัก 1 เดือนจึงจะบอกได้ครับผม ... ขอบคุณครับ :)
     
  9. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เหอๆๆๆๆ

    ของจริง "ต้อง" พิสูจน์ได้

    .
     
  10. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    <TABLE class=tborder cellSpacing=1 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=thead>ขณะนี้มีคนกำลังดูกระทู้นี้อยู่ : 17 คน ( เป็นสมาชิก 6 คน และ บุคคลทั่วไป 11 คน ) </TD><TD class=thead width="14%"><CENTER">[ แนะนำเรื่องเด่น ] </TD></TR><TR><TD class=alt1 width="100%" colSpan=2>sithiphong, chantasakuldecha+, dragonlord+, psombat+, sathitb, want_lun </TD></TR></TBODY></TABLE>

    อ่า น้องchantasakuldecha แล้วตกลงว่า พระบูชา เศรษฐีนวโกศ

    จะบูชาเพิ่มหรือเปล่าครับ อิอิ

    .
     
  11. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    รายนามวัดที่ถวายพระบรมสารีริกธาตุ
    สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า
    พระธาตุพระอรหันต์ พระบูชา พระพิมพ์วังหน้า-กรมท่า (draft)

    ประจำเดือน มกราคม-พฤษภาคม พ.ศ. 2553

    - ยอดถวายพระบรมฯ+พระพิมพ์ ~92 ชุด (~85 วัด,พระพิมพ์+ประวัติ ~1,761 องค์ หรือมากกว่า,>100 ผอบ+โถ)
    - วัน เดือน ปี สีจางๆคือ วันที่มอบ แต่ยังไม่รู้กำหนดการถวาย
    - ~ = ประมาณการจำนวนเป็นตัวเลข
    - #n = ถวายครั้งที่ n
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    [​IMG] [​IMG]

    เยี่ยมมากครับ

    พี่ใหญ่สั่งมาว่า เวลาที่ถวายพระพิมพ์(บรรจุในกล่องสเตนเลส) หากยังไม่มีที่บรรจุ (เช่น ในพระเจดีย์ , ฐานชุกชี ฯลฯ) ขอให้เก็บไว้ก่อน อย่านำไปฝากพระภิกษุไว้ จะเป็นภาระกับท่าน หากว่า เกิดเหตุพระภิกษุได้มรณภาพไปก่อนที่พระเจดีย์ หรือ พระพุทธรูปขนาดใหญ่ สร้างเสร็จ และไม่ได้บรรจุ โดยเก็บไว้ที่กุฎิท่าน จะเป็นการสร้างกรรมให้กับพระภิกษุได้

    โมทนาสาธุครับ


    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2010
  13. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    ได้ครับ
    กราบขอบพระคุณพี่ใหญ่ครับ
     
  14. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  15. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
  16. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    เรื่องงานกองทุนหาพระถวายวัด ที่จะไปช่วยกันล้างและบรรจุลงกล่องสเตนเลสในเดือนมิถุนายน 2553 นี้

    เรื่องของอาหาร ผมคงใช้วิธีเดิมก็คือ น่าจะเป็นผัดไทย กับ หอยทอด หน้าปากซอย สำหรับท่านที่มาร่วมงาน เครื่องดื่มผมจะซื้อไป ก็จะเป็นน้ำโพลาลิส , น้ำอัดลม , โอเลี้ยงและชาดำเย็น ส่วนค่าใช้จ่าย ผมจะเป็นผู้ที่ออกให้ครับ

    โมทนาสาธุครับ
     
  17. psombat

    psombat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2009
    โพสต์:
    1,334
    ค่าพลัง:
    +5,431
    เพิ่มเติมรูปวัดต่างๆที่ถวายในแม่ฮ่องสอนนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948
    ผมเองมีลูกแก้ว(กลุ่มองค์อภิญญาใหญ่ ประมาณ 6 - 7 องค์ เป็นผู้อธิษฐานจิต) ที่สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 (น่าจะเป็นของวังหลวงเป็นผู้สร้าง)

    ในความเห็นผม น่าจะเป็นลูกแก้วสาระพัดนึก (คงต้องตรวจสอบกับอีกครั้ง)

    ผมจะแจกให้สำหรับท่านที่มาร่วมในงานกิจกรรม กองทุนหาพระถวายวัด อย่างต่อเนื่องกันไป อย่างน้อย 4 ครั้ง โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2553 ผมจะมีทะเบียนให้ทุกๆท่านลงนามกัน ผมจะมอบให้ท่านละ 1 ลูก

    ผมขอมอบให้เป็นกรณีพิเศษ ในกรณีที่มาร่วมในงานเพียงครั้งเดียว ดังนี้
    ผมขอมอบให้ท่านละ 1 ลูก (หากมีผู้ที่ติดตามมา ผมมอบให้ท่านละ 1 ลูก เช่นกัน) ตามรายนามดังนี้
    1.คุณpsombat
    2.คุณพรสว่าง_2008
    3.คุณtawatd
    4.คุณjirautes
    5.คุณnarin96

    .
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 พฤษภาคม 2010
  19. chantasakuldecha

    chantasakuldecha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 เมษายน 2008
    โพสต์:
    991
    ค่าพลัง:
    +2,331
    ช่วงนี้ไม่สะดวกครับ ราคาไปไกลมากๆเลย x0,000บาท คิดแล้วหนาว
     
  20. sithiphong

    sithiphong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    45,445
    ค่าพลัง:
    +141,948

แชร์หน้านี้

Loading...